ความคิดเห็นที่ 1 7 จากคุณ : ไม่มีสมาชิกชื่อนี้ - [ 5 ม.ค. 50 01:01:45 ]

ความคิดเห็นที่ 2 โอ ... มาปูเสื่อรอเลย จากคุณ : เดอะไรท์ - [ 5 ม.ค. 50 01:14:54 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ทำไมคุณไม่เริ่มก่อนหล่ะ เราลดให้แค่เลข 1-12 จากคุณ : DangDame - [ 5 ม.ค. 50 02:02:02 ]

ความคิดเห็นที่ 4 โกหกตอนคำถามไหนก็ได้รึเปล่าครับ จากคุณ : Acquiesce - [ 5 ม.ค. 50 02:48:02 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ยอม ! จากคุณ : เซียนแห่งmath - [ 5 ม.ค. 50 02:59:18 ]

ความคิดเห็นที่ 6 กรรม เรียนมา แต่นึกไม่ออกแฮะ วิชานี้โคตรเกลียดเลย จากคุณ : คุณเต่า - [ 5 ม.ค. 50 04:05:42 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คำตอบคือ13 ^ ^ มั่วนะ ^^' จากคุณ : sherlet - [ 5 ม.ค. 50 04:50:36 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คุณจะใช้กลยุทธ์ใดรับมือผมดี ตอบ: จับทรมาน จากคุณ : =Por= - [ 5 ม.ค. 50 04:52:32 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อ้าว แล้วใครจะมาเฉลยให้ผมละเนี่ย จากคุณ : TAMJAIJR - [ 5 ม.ค. 50 05:07:23 ]

ความคิดเห็นที่ 10 #4 ใช่ครับ หรือไม่โกหกเลยก็ได้ จากคุณ : ศล - [ 5 ม.ค. 50 07:10:21 ]

ความคิดเห็นที่ 11 โอ้ว ยากมากกกกกกกกกก ไม่มีไอเดียเลย ปล.2 เสื่อว่างไหมค่ะ นั่งรอด้วยคน จากคุณ : primjang - [ 5 ม.ค. 50 08:42:26 ]

ความคิดเห็นที่ 12 1. เลขคู่ใช่หรือไม่ 2. เลขคี่ใช่หรือไม่ จากคุณ : Dr.slump - [ 5 ม.ค. 50 10:16:33 ]

ความคิดเห็นที่ 13 3.เป็นเลขตัวเดียวใช่หรือไม่ จากคุณ : โสดสนิท...ติดกับคานมานานปี - [ 5 ม.ค. 50 10:54:43 ]

ความคิดเห็นที่ 14 คิดมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว หัวแทบระเบิด ผมคิดว่าในกรณีเลวร้ายสุดมีโอกาสทายถูกแค่ 25% นะ จากคุณ : redistuO - [ 5 ม.ค. 50 11:09:52 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ....ผมถามทีละครึ่งอ่ะ แต่ถ้าโกหกก็ตัวใครตัวมัน จากคุณ : bootsarin (bootsarin) - [ 5 ม.ค. 50 11:36:09 ]

ความคิดเห็นที่ 16 โห...แล้วคำตอบโกหกด้วยได้ไหมค่ะ... ถ้าได้ก็...ยอมดีกว่า... แต่ตอนนี้ขอถาม... 1.มากกว่า8ไหมค่ะ 2.ถ้ามากกว่าเป็นเลขกี่หลัก 3.ถ้าน้อยกว่าใช่ 4 ไหมค่ะ 4.ถ้าเลขสองหลักน้อยหรือมากกว่า 13 ค่ะ 5.ถ้าไม่ใช่ 4 ....ต้องบวกลบเท่าไหร่ถึงจะเป็นคำตอบ 6.จาก 13 ต้องบวกลบเท่าไหร่ถึงจะเป็นคำตอบ 7.ที่ถามมาขอไหนโกหก... .... ขอตอบ.....9 .....ค่ะอิอิ จากคุณ : บาร์บี้girl - [ 5 ม.ค. 50 11:44:34 A:203.144.229.20 X: TicketID:109907 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ถามอย่างละ2ที ยกเว้นคำถามสุดท้าย ถ้า6ครั้งแรกไม่โกหกครั้งสุดท้าย ่1- <8.5หรือไม่ 2- <8.5หรือไม่         |         |---------------------------| ตอบเหมือนกันยังไม่โกหก    ไม่เหมือนก็โกหกไปแล้ว 3- <4.5หรือไม่                       3- <4.5หรือไม่ 4- <4.5หรือไม่่                       4- <12.5หรือไม่ อะไรก็ว่าไป         |         |---------------------------|                     ตอบเหมือนกันยังไม่โกหก    ไม่เหมือนก็โกหกไปแล้ว 5- <2.5หรือไม่่                       5- <2.5หรือไม่ 6- <2.5หรือไม่่                       6- <6.5หรือไม่ อะไรก็ว่าไป         |         |---------------------------| ตอบเหมือนกันยังไม่โกหก    ไม่เหมือนก็โกหกไปแล้ว 7- <1.5หรือไม่                       7- <1.5หรือไม่ คำตอบนี้โกหก                          คำตอบนี้จริง แก้อีกทีกลัวไม่รู้เรื่อง แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 50 12:11:35 แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 50 12:05:18 จากคุณ : ปลาสองน้ำ - [ 5 ม.ค. 50 11:57:53 ]

ความคิดเห็นที่ 18 #16 คำถามข้อ 7 มันไม่ใช่คำถามใช่/ไม่ นะครับ อย่าง rep. 17 น่าจะได้ (ไม่มีประโยชน์ที่จะใช้ึคำถามว่า โกหกหรือไม่ เพราะคำตอบของคำถามนั้นก็อาจโกหกได้) จากคุณ : QuaOs - [ 5 ม.ค. 50 12:06:02 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อืมมม...  เลขที่คิดเอาไว้..... ...โกหก..หรือไม่..????? จากคุณ : Off Way (นอกลู่นอกทาง) - [ 5 ม.ค. 50 12:10:11 ]

ความคิดเห็นที่ 20 รู้สึกของผมจะใช้ไม่ได้นะ #17 ลืมนึกไปว่าถ้าโกหกคำถามที่5หรือ6 ข้อ7เลยไม่รู้จะถามไรเลย แป่ววว จากคุณ : ปลาสองน้ำ - [ 5 ม.ค. 50 12:22:01 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ไม่เคยรู้เรื่อง information theory แต่มาลองเสนอ idea ให้ดูกัน สมมุติ ให้เลือก แค่ เลข 1 กับ 2 พระเจ้าขอให้โกหก แค่หนเดียว คาดว่าคำตอบ คงจะเป็นแค่ ใช่ กับ ไม่เท่านั้น ต้องถามกี่ครั้ง จึงจะได้คำตอบที่มั่นใจ ใช่ 1 มั้ย ใช่ ใช่ 2 มั้ย ไม่ใช่ งั้น 1 ใช่มั้ย ใช่ จะเห็น ว่า ถ้า เลข ในใจเป็น หนึ่ง อันนี้ไม่โกหกเลย เลขในใจเป็น 2 ก็ไม่ได้ เพราะคำโกหกจะเกิน 1ครั้ง ใช่ 1 มั้ย ใช่ ใช่ 2 มั้ย ไม่ใช่ งั้น 1 ใช่มั้ย ไม่ใช่ จะเห็น ว่า ถ้า เลข ในใจเป็น หนึ่ง อันนี้โกหก ครั้งสุดท้าย 1 หน เลขในใจจะเป็น 2 ไม่ได้ เพราะ โกหกจะเกิน ใช่ 1 มั้ย ใช่ ใช่ 2 มั้ย ใช่ งั้น 1 ใช่มั้ย ใช่ จะเห็น ว่า ถ้า เลข ในใจเป็น หนึ่ง อันนี้โกหก คำถามที่สอง หนึ่งหน แต่ถ้า เลขในใจเป็น 2 ละ จะเห็นว่าไม่ได้ เพราะโกหกที่คำถามแรกไปแล้ว จะมาโกหกอีกที่คำถามสามไม่ได้ ใช่ 1 มั้ย ไม่ใช่ ใช่ 2 มั้ย ไม่ใช่ งั้น 1 ใช่มั้ย ใช่ จะเห็น ว่า ถ้า เลข ในใจเป็น หนึ่ง อันนี้โกหก คำถามแรกหนึ่งหน เลขในใจเป็น สอง จะไม่ได้เพราะ จะโกหก 2 ครั้ง ใช่ 1 มั้ย ไม่ใช่ ใช่ 2 มั้ย ไม่ใช่ งั้น 1 ใช่มั้ย ไม่ใช่ จะเห็น ว่า ถ้า เลข ในใจเป็น หนึ่ง อันนี้โกหก คำถามแรกหน กับคำถามสามอีกหน ซึ่งจะเกิน ถ้าเลนในใจเป็นสอง ก็จะลงตัว ตั้งไว้ก่อน..ให้คนอื่นๆดุว่าจะไปได้ไหมแนวๆนี้ นี่แค่สองตัวนะ จากคุณ : เอ - [ 5 ม.ค. 50 12:36:08 A:61.90.160.166 X: TicketID:076240 ]

ความคิดเห็นที่ 22 โห...#17 สุดยอด จากคุณ : จินหยง - [ 5 ม.ค. 50 12:43:04 ]

ความคิดเห็นที่ 23 #17 "สมมติว่าพระเจ้ายอมให้ผมโกหกได้มากที่สุด 1 ครั้ง" แล้วถ้าเป็นน้อยที่สุดละครับ จากคุณ : ทะเลคราม (blueocynia) - [ 5 ม.ค. 50 13:41:43 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เรียนมา แต่นึกไม่ออกเลย แย่จัง จากคุณ : Corrs - [ 5 ม.ค. 50 15:30:22 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ครั้งที่ คำถาม ไม่โกหก โกหกข้อ 1 โกหกข้อ 2 โกหกข้อ 3 1          เลขคู่??          y           n          y          y 2          เลขคี่??          n           n          y           n 3          เลขคู่??          y           y          y          n n ข้อ 1 = y y ข้อ 2 = n n ข้อ 3 = y แสดงว่าคำตอบเป็นเลขคู่ แต่ถ้าคำตอบเป็นเลขคี่ก็จะสลับคำตอบกัน จากนั้นก็แบ่งครึ่งคำตอบไปเรื่อย ๆ จนครบครับ แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 50 16:21:28 แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 50 16:19:34 จากคุณ : aenonymouz - [ 5 ม.ค. 50 16:17:56 ]

ความคิดเห็นที่ 26 1. เลขคี่ใช่มั้ย 2. เป็นเลขที่มีค่าน้อยกว่าครึ่งนึงของเลขทั้งหมดใช่มั้ย 3. ข้อ 1 ถึง 2 มีโกหกใช่มั้ย 4. ข้อ 3 โกหกใช่มั้ย 5. ข้อ 3 ถึง 4 มีโกหกใช่มั้ย 6. ข้อ 1 ถึง ข้อ 5 พูดจริงใช่มั้ย 7. ข้อ 6 โกหกใช่มั้ย ว่าแล้วก็งงทั้งคนตอบ คนถาม เอิ้กๆๆๆๆ จากคุณ : ลองดู - [ 5 ม.ค. 50 17:04:29 A:125.25.197.84 X: TicketID:124790 ]

ความคิดเห็นที่ 27 อิอิ..จริงด้วย... งั้นข้อ7 ขอเปลี่ยนเป็นถามว่า.... ตัวเลขที่คิดไว้บวกด้วย...2ได้เท่าไหร่.... .... อิอิ... จากคุณ : บาร์บี้girl - [ 5 ม.ค. 50 17:27:07 A:203.144.229.20 X: TicketID:109907 ]

ความคิดเห็นที่ 28 มาขอต่อจาก #21 จะเห็นว่าต้องถามสามคำถามเพื่อให้ได้คำตอบว่าจะเป็นหนึ่งหรือสอง ทีนี้เราก็นำหลักนี้มาใช้กับโจทย์ โดยการถามแบ่งครึ่งไปเช่นดียวกับการถามปกติเพียงสี่ครั้ง แต่เราจะถาม สามคำถามแบบนี้ เช่นน้อยกว่า 8.5 ใช่ไหม มากกว่า 8.5 ใช่ไหม และน้อยกว่า 8.5 ใช่ไหม ก็จะได้คำตอบ แต่ด้วยวิธีนี้ถ้ากรณีแย่ สุดคือพูดแต่ความจริงทุกที เราก็ต้องถาม สิบสองครั้ง จากคุณ : เอ - [ 5 ม.ค. 50 17:51:03 A:unknown X:unknown, 202.28.62.245 TicketID:076240 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ผมตอบไปใน #1 แล้วว่า 7 คำถามก็เพียงพอ เมื่อคืนง่วงนอนเลยไม่ได้บอกวิธีคิด แต่ เดี๋ยวการบ้านเสร็จจะมาโพสต์ครับ จากคุณ : ไม่มีสมาชิกชื่อนี้ - [ 5 ม.ค. 50 19:17:26 ]

ความคิดเห็นที่ 30 #1 7 อะไรครับ (โจทย์บอกอยู่แล้วว่าให้ถาม 7 ครั้ง) #2 ^_^ #3 ^_^ #4 ใช่ครับ #5 ไม่ให้ยอมครับ #6 ผมไม่เคยเรียนวิชานี้ แต่คิดว่ามันคงเกี่ยว #7 คำถามไม่ได้ต้องการคำตอบเป็นตัวเลขอะครับ #8 555+ น่าสนใจ #9 ^_^ #10 อ้าว ผมมาโพสต์ไว้แล้วเมื่อเช้านี่ #11 น่าสงสัยแฮะ นั่งทำไรกัน 2 คนบนเสื่อ #12 แล้วไง? สมมติว่าผมตอบ "ใช่" "ใช่" #13 เลขตัวเดียวหมายความว่าอะไรครับ "สิบห้า" ใช่เลขตัวเดียวในความหมายรึเปล่า? #14 สามารถตั้งคำถามเพื่อ decode คำตอบได้ครับ และได้รับคำตอบที่ถูกต้อง 100% #15 นั่นแหละครับ ทำให้โจทย์ข้อนี้ยากกว่าปกติ นี๊ดนึง #16 ข้อ 2 5 6 7 ไม่ใช่คำถามใช่หรือไม่ ครับ #17 กรณีสมมติ  (ผมนึกเลข 9) ในวงเล็บคือสิ่งที่ผมรู้ แต่คุณไม่รู้ 1. ใช่ (ผมโกหก) 2. ไม่ใช่ (ผมพูดจริง) คำตอบไม่เหมือนกัน แน่นอนว่าโกหก 1 ครั้ง แต่โกหกว่า "ใช่" หรือ "ไม่ใช่" ละครับ ต่อ 3. ไม่ใช่ 4. ไม่ใช่ รู้แล้วว่ามากกว่า 4.5 แต่ยังไม่รู้ว่าจะน้อยกว่า 8.5 หรือไม่!!! ตอนนี้ข้อมูลที่เป็นไปได้คือ 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 มีทั้งสิ้น 12 ตัว แน่นอนว่าผมโกหกอีกไม่ได้ แต่ 12 ตัวนี้ กรณีเลวร้ายที่สุดคือใช้ 4 คำถามครับ รวมเป็น 8 คำถาม หมายความว่าเกิดกรณีรั่วขึ้นครับ #18 เห็นด้วย #19 ไม่เข้าใจครับ #20 ผมยกตัวอย่างให้ดูกรณีโกหกคำถามแรกเลยครับ ลองจับผิดดูหน่อยว่าผมหักล้างสำเร็จไหม #21 ผมก็ไม่เคยรู้เรื่อง information theory ครับ ขอสรุปตรรกะของคุณเอ ใช่ 1 มั้ย คำตอบมี 2 แบบ ก. ใช่ ข. ไม่ใช่ ใช่ 2 มั้ย คำตอบมี 2 แบบ ค. ใช่ ง. ไม่ใช่ ใช่ 1 มั้ย คำตอบมี 2 แบบ จ. ใช่ ฉ. ไม่ใช่ รูปแบบคำตอบ กคจ กคฉ กงจ กงฉ ขคจ ขคฉ ขงจ ขงฉ 8 แบบ กคจ คำตอบคือ 1 กคฉ คำตอบคือ 2 กงจ คำตอบคือ 1 กงฉ คำตอบคือ 1 ขคจ คำตอบคือ 2 ขคฉ คำตอบคือ 2 ขงจ คำตอบคือ 1 ขงฉ คำตอบคือ 2 โดยตรรกะนี้สรุปได้ว่า คุณเอใช้ 3 คำถามถอดรหัสข้อมูล 2 ตัวออกมาได้เสมอ น่าสนใจครับ #22 ^_^ #23 ^_^ #24 คิดใหม่เลยครับ #25 ไม่เข้าใจที่เขียนครับ #26 ^_^ #27 ก็ยังไม่ใช่คำถามใช่หรือไม่อยู่ดีครับ #28 เห็นด้วยว่าวิธีนี้ไม่ได้ผลเมื่อโจทย์บังคับที่ 7 คำถาม #29 ครับ 7 คำถามพอ (โจทย์ก็บอกไว้แล้วนี่) จากคุณ : ศล - [ 5 ม.ค. 50 20:54:07 ]

ความคิดเห็นที่ 31 แทนเลขที่นึกไว้ด้วย เลขฐาน 2 จะได้เลขโดด 4 ตัวสมมติให้เป็น ABCD (A, B, C, D จะเป็นได้แค่ 0 กับ 1) คำถามที่ 1 : A เป็นจำนวนคู่หรือไม่ คำถามที่ 2 : B เป็นจำนวนคู่หรือไม่ คำถามที่ 3 : C เป็นจำนวนคู่หรือไม่ คำถามที่ 4 : D เป็นจำนวนคู่หรือไม่ คำถามที่ 5 : A+B+C     เป็นจำนวนคู่หรือไม่ คำถามที่ 6 :     B+C+D เป็นจำนวนคู่หรือไม่ คำถามที่ 7 : A+B    +D เป็นจำนวนคู่หรือไม่ สมมติว่าคำตอบที่ได้จากคำถามที่ 1-4 เป็นข้อมูลจริง พิจารณาคำตอบของคำถามที่ 5, 6, 7 ถ้ามีคำตอบขัดแย้งไม่เกินหนึ่งข้อ แสดงว่า คำตอบข้อ 1-4 เป็นจริงทุกข้อ ถ้าคำตอบที่ 5 และ 7 ขัดแย้ง แสดงว่า คำตอบข้อ 1 เป็นเท็จ ถ้าคำตอบที่ 5, 6 และ 7 ขัดแย้ง แสดงว่า คำตอบข้อ 2 เป็นเท็จ ถ้าคำตอบที่ 5 และ 6 ขัดแย้ง แสดงว่า คำตอบข้อ 3 เป็นเท็จ ถ้าคำตอบที่ 6 และ 7 ขัดแย้ง แสดงว่า คำตอบข้อ 4 เป็นเท็จ เราจะทราบค่าของ A, B, C, D ก็จะตอบได้ว่าเลขที่นึกไว้คืออะไร ปล. ขอบคุณคุณเอ #45 ที่ช่วยเตือนครับ ^^ แก้จากเลขฐาน 16 เป็นเลขฐาน 2 แล้วครับ แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 50 23:17:09 จากคุณ : Duke! - [ 5 ม.ค. 50 21:05:52 ]

ความคิดเห็นที่ 32 #31 น่าประทับใจมากครับ ^_^ จากคุณ : ศล - [ 5 ม.ค. 50 21:46:03 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ถ้าตอบใช่ ใช่ ก็แสดงว่าโกหกไปแล้ว ก็เหลือ 5 คำถามที่โกหกไม่ได้ จากคุณ : คห12 (Dr.slump) - [ 5 ม.ค. 50 21:48:26 ]

ความคิดเห็นที่ 34 อืม ... สงสัยผมจะเบลอ -*- ผมคิดไปถึง bit string  ตามเคย มองว่า ใช่ คือ 1 ไม่ใช่ คือ 0 ให้ n เป็นจำนวนคำถาม ลองพิจารณา กรณีที่ n = 4 ให้ 1 แทน 0001  ถ้าไม่โกหก รูปแบบคำตอบจะเป็น 0001 ถ้าโกหก รูปแบบคำตอบจะเป็น 1001 , 0101 , 0011 , 0000 2 แทน 0010 ถ้าไม่โกหก รูปแบบคำตอบจะเป็น 0010 ถ้าโกหก รูปแบบคำตอบจะเป็น 1010 , 0110 , 0001 , 0011 คือ ถ้ามีการโกหกที่คำถามใด ก็เท่ากับ เปลี่ยน 0 --> 1  หรือ 1 --> 0 และ พบว่า bit string ที่ถูกต้องทั้ง 16 แบบ เมื่อโกหกแล้วสามารถเกิด bit string อีกตัวละ n แบบ รวมกับ bit string ที่ถูกต้อง 16 แบบ ได้ 16n+16 <= 2^n    ** คิดแบบโจทย์ก่อน คือ คำถามใช่/ไม่ n คำถามให้รูปแบบคำตอบ 2^n แบบ แล้วก็แก้หา n ออกมาได้ 7  ;p (ที่คุณศลบอกไว้แล้ว) เอ่อ ด้านบนนี้ถ้าอ่านแล้วงง ฝากคุณศลอธิบายด้วยนะครับ เพราะผมเองอธิบายไม่ค่อยเก่ง แล้วไม่รู้ว่าพิสูจน์ถูกรึเปล่า กลยุทธ์ ที่ใช้ถามพระเจ้า - ตอบคำถามซะที สังเกต bit string ที่มีการโกหก สมมติผมให้ 1 แทนด้วย 0000000 4 แทนด้วย 0000100 จะพบว่า เมื่อมีการโกหกเกิดขึ้นที่ คำถามที่5  = bitที่5 ทำให้ 0000100 กลายเป็น 0000000 ซึ่งจะเกิดการทำลายธรรมชาติ (สันสน ;p) และกรณีอื่นๆอีก ลองสังเกตดู ผมให้ 1 - 0000000 2 - 1110000 3 - 1001100 4 - 0111100 5 - 0101010 6 - 1011010 7 - 1100110 8 - 0010110 9 - 1101001 10 - 0011001 11 - 0100101 12 - 1010101 13 - 1000011 14 - 0110011 15 - 0001111 16 - 1111111 รูปแบบคำถามทั้ง 7 ที่ผมตั้งคือ ให้ x แทนเลขที่คุณเลือกไว้ในใจ แล้ว x เป็นสมาชิกของ set ต่อไปนี้ใช่หรือไม่ คำถามที่ / set 1  {2,3,6,7,9,12,13,16} 2  {2,4,5,7,9,11,14,16} 3  {2,4,6,8,10,12,14,16} 4  {3,4,5,6,9,10,15,16} 5  {3,4,7,8,11,12,15,16} 6  {5,6,7,8,13,14,15,16} 7  {9,10,11,12,13,14,15,16} มาลองเล่นดูนะ สมมติให้คุณศลเป็นพระเจ้า คุณศลแอบเลือกเลข 15 ไว้ในใจ รูปแบบคำตอบที่ผมได้จากคำถามทั้ง 7 ข้อ คือ ไม่ใช่/ไม่ใช่/ไม่ใช่/ไม่ใช่/ใช่/ใช่/ใช่ เขียนเป็น bit string ได้ 0000111 เอาไปเทียบกับชุดตัวเลขที่ผมตั้งไว้ด้านบน พบว่าใกล้เคียงกับชุดนี้ที่สุด คือ 0001111 นั่นก็คือ 15 นั่นเอง เทียบกันดีๆ 0000111 กับ 0001111 ยังรู้อีกแน่ะ ว่าพระเจ้าศล แอบโกหกมนุษย์ชาวหว้ากอในข้อ 4 อิอิ ชุดตัวเลขอาจไม่ใช่แบบที่ผมสร้างก็ได้นะครับ ถ้าอยากมันส์ ลองสร้างขึ้นอีกซักแบบดู จริงๆแล้วผมไปค้นสมุดทดเมื่อตอนม.4 เจอ เลยได้รูปแบบทั้ง 16 ชุด ที่เขียนเอาไว้แล้ว จำได้ว่ากำลังเรียนชีวะ(ที่ผมไม่ชอบเลย) ทั้งคาบผมนั่งเขียนไอ้ set พวกนี้นี่แหละ ^^' ปล.1 information theory อันนี้ไม่เคยเรียน / แต่อาจจะได้เรียน -*- จะมึนแค่ไหนหนอ ปล.2 ลองคิดต่อนะครับ ว่า ถ้าพระเจ้าสามารถโกหกได้ อย่างมาก 2 ครั้ง เราจะต้องใช้คำถามอย่างน้อยที่สุด กี่คำถาม ? จากคุณ : ไม่มีสมาชิกชื่อนี้ - [ 5 ม.ค. 50 21:58:46 ]

ความคิดเห็นที่ 35 #33 นั่นแหละ คำถามคือแล้วไงต่อ? ถ้าตอบว่า ไม่ใช่ ใช่ หรือ ใช่ ไม่ใช่ ก็หมดไปแล้ว 2 คำถามโดยลดตัวเลือกลงได้แค่ครึ่งเดียว คือผมแค่ยกตัวอย่างนะครับ ^ ^ #34 น่าสนใจมาก ขอทำความเข้าใจแป๊ปนะครับ ยังคิดตามไม่ทัน ^ ^ จากคุณ : ศล - [ 5 ม.ค. 50 22:23:13 ]

ความคิดเห็นที่ 36 #34 สรุปคือคุณไม่มีฯ คำนวณคำถามที่ใช้น้อยที่สุดมาก่อน เพื่อกำหนดเป็นจำนวนบิตของสัญลักษณ์ที่ใช้แทนเลข 1-16 ในกรณีนี้คือ 7 จากนั้นสร้างสัญลักษณ์ขนาด 7 บิตแทนตัวเลข 1-16 โดยให้แต่ละสัญลักษณ์แตกต่างจากสัญลักษณ์อื่นอย่างน้อย 3 บิต (ร้ายกาจๆ การแตกต่างอย่างน้อย 3 บิตรับมือเผื่อผมโกหกได้ 1 ครั้ง) แล้วมาสร้างเซ็ตของคำถามที่สอดคล้องกับสัญลักษณ์ประจำแต่ละหมายเลขทีหลัง (ดังนั้นสามารถสร้างเซ็ตคำถามได้มากแบบ แต่ละแบบก็อาศัยตารางสัญลักษณ์คนละชุดกัน) โดย concept ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด คิดว่าคำตอบของคุณไม่มีฯ ไม่มีรูรั่วนะครับ และอธิบายได้ประทับใจมาก สรุปตอนนี้เราก็ได้ 2 วิธีคือ #31 กับ #34 ขอแสดงความชื่นชม จากคุณ : ศล - [ 5 ม.ค. 50 23:00:07 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ตอนนี้คิดได้น้อยสุด 5 คำถาม มากสุด 9 คำถามอ่า T-T จากคุณ : cherishy (cherishy) - [ 5 ม.ค. 50 23:07:26 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เปลี่ยนใหม่ๆ น้อยสุด 5 มากสุด 8 ให้เฉลยเลยมั้ยอ่ะ จากคุณ : cherishy (cherishy) - [ 6 ม.ค. 50 00:00:18 ]

ความคิดเห็นที่ 39 #37 #38 น้อยสุดก็ถามแค่ครั้งเดียว มีโอกาสตอบถูก 1/16 มากสุดจากการเฉลยของ #31 และ #34 ก็คือ 7 มีโอกาสตอบถูก 100% ครับ จากคุณ : ศล - [ 6 ม.ค. 50 06:46:54 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ถามแบบนี้ได้มั้ยครับ 1ถามว่าคุณตั้งใจจะโกหกในคำถามข้อที่สองของผมใช่หรือไม่ และผมก็รอคำตอบของคุณก่อน เมื่อได้คำตอบว่าใช่หรือไม่จากคุณแล้ว ผมก็จะถามว่า 2   1+1=2  ใช่หรือไม่   หรือถามว่า   1+1= 3 ใช่หรือไม่ สองคำถามแรกจะบังคับให้คุณโกหกออกมาอย่างแน่นอน เหลือให้ถามอีกห้าข้อ ผมคงทายถูกได้นะผมว่า ช่วยชี้แนะด้วยนะครับว่ามีจุดไม่ถูกต้องตรงไหนหรือเปล่าแล้วผมเล่นนอกกติกาไปหรือเปล่า ลองร่วมสนุกเล่นๆดูครับ เพิ่มเติมข้อความ ลองเช็คดูเองอีกทีแล้ว วิธีข้างบนใช้ไม่ได้ครับ แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 50 12:47:43 จากคุณ : อะไรคือสิ่งหายาก แต่ไม่มีค่า - [ 6 ม.ค. 50 12:38:43 ]

ความคิดเห็นที่ 41 คือว่า 5 ครั้งนี่ก็ 100% ครับ 6 ครั้งนี่ก็ 100% ครับ 7 ครั้งนี่ก็ 100% ครับ 8 ครั้งนี่ก็ 100% ครับ จากคุณ : cherishy (cherishy) - [ 6 ม.ค. 50 15:53:50 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เข้าใจ#34 แต่ไม่เข้าใจ#31อ่ะ ตอบคุณศลนะครับ จาก#17 ถ้าโกหกข้อ1กับ2ผมก็ถามคำถามข้อ3เหมือนข้อ2ใหม่อ่ะครับ แล้วก็ค่อยๆย่อยลงไปครับ ถ้าโกหกข้อ3กับ4ผมก็ถามคำถามข้อ5เหมือนข้อ4ใหมเช่นกัน ที่เขียนว่าอะไรก็แล้วแต่คือแบบว่ามันไม่ยากแล้วอ่ะ แต่ถ้าโกหกข้อ5กับ6นี่ไม่ทันครับมีโอกาสตอบถูกอย่างมากแค่50เปอเซน จากคุณ : ปลาสองน้ำ - [ 6 ม.ค. 50 19:59:08 ]

ความคิดเห็นที่ 43 #40 1. ผิดตรงที่เอาผลจากอนาคตมาถาม ผมตอบไม่ได้ 2. ผมอาจจะตอบใช่ หรือตอบไม่ใช่ ก็ได้ครับทั้ง 2 คำถาม ขึ้นอยู่กับว่าอยากโกหก หรือไม่อยากโกหก #41 ถ้าพิสูจน์ตามที่อ้างได้ ผมยกแผ่นซิมโฟนี่ทั้ง 9 บทของเบโทเฟ่น อำนวยเพลงโดยแฮร์แบร์ต ฟอน การายาน ของแท้ ให้ครบชุดเลยครับ เพราะตามการพิสูจน์ของ #34 เขาแสดงให้เห็นว่าคำถามน้อยที่สุดที่ยืนยันคำตอบได้ 100% คือ 7 คำถาม ถ้าน้อยกว่า 7 คำถาม ตามการพิสูจน์ของเขาเป็นไปไม่ได้ที่จะหาคำตอบได้ 100% #42 นั่นแหละครับ ผมแค่ยกตัวอย่างสมมติเพื่อชี้ว่าคำตอบที่แสดงใน #17 ไม่สมบูรณ์ ผมไม่ได้บอกว่าผิดครับ แต่ถ้าคุณพบเจอที่ผิด ก็ถือว่าดีเยี่ยมครับ โดยความคิดผม ผมคิดว่า #31 เป็นการตั้งคำถามที่สวยงามกว่า #34 ใช้การคำนวณอย่างเดียวไม่ต้องอาศัยตาราง แต่ก็ดีเยี่ยมทั้งคู่ จากคุณ : ศล - [ 6 ม.ค. 50 21:08:04 ]

ความคิดเห็นที่ 44 โอเคครับ พิสูจน์ยังไงดีอ่ะ คือผมไม่ได้คิดออกมาเป็นแบบสมการสูตรเลขอะไรนะครับ จากคุณ : cherishy (cherishy) - [ 6 ม.ค. 50 22:14:02 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เ้อ้อ..ดูโจทย์ไม่เข้าใจนี่เอง..แต่ถามแค่เจ็ดครั้งนี่สุดยอดจริงๆ นับว่าได้เรียนรู้. คิดๆต่อจากที่คิดไว้ เปรียบกับที่คิดๆไว้ต้องถามสามคำถามถึงจะรับมือการโกหกหนึ่งครั้ง น่าจะเหมือนกับการต้องเพิ่มข้อมูลไปอีกสามบิต จึงกลายเป็นการถามเจ็ดครั้ง อย่างนี้ใช้ได้หรือไม่ เพราะอย่างนั้น ถ้าจะรับมือโกหกได้สองครั้งน่าจะต้องถามเพิ่มเป้นสิบคำถามหรือไม่ แล้ว#31 แปลงเป็นเลขฐาน16 แบบไหน หรือจะัแปลงเป็น เลขฐานสอง ที่มี 0 กับ1 จากคุณ : เอ - [ 6 ม.ค. 50 23:01:07 A:unknown X:unknown, 202.28.62.245 TicketID:076240 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เข้ามาอ่าน เกือบอ้วกค่ะT.T จากคุณ : สายฝนกับร่มสีแดง - [ 7 ม.ค. 50 02:29:38 ]

ความคิดเห็นที่ 47 #44 พิสูจน์ยังไงก็ได้ครับ ^_^ #45 เขาคงแค่เขียนผิดนะครับ เพราะวงเล็บบอกเอาไว้อีกทีว่ามีเฉพาะ 1 กับ 0 #46 ^_^ จากคุณ : ศล - [ 7 ม.ค. 50 08:17:14 ]

ความคิดเห็นที่ 48 งั้นเอากรณีที่จะได้น้อยที่สุดเท่ากับ 5 ครั้ง แล้วเป็น 100% ก่อนนะครับ คำถามที่ 1 ถามว่า คุณจะไม่โกหกคำตอบในคำถามข้อ 2 ถึง 5 ใช่หรือไม่ ถ้าคุณตอบใช่ คำถามที่ 2 ก็จะเป็น เป็นเลขคู่ใช่หรือไม่ คำถามที่ 3 มากว่า 8 ใช่หรือไม่ คำถามที่ 4 มากว่า... ใช่หรือไม่ คำถามที่ 5 ใช่ .....หรือไม่ แต่ถ้าข้อ 1 คุณตอบไม่ใช่ ก็จะกลายเป็นต้องใช้คำถามทั้งหมด 6 หรือ 7 หรือ 8 ขชึ้นอยู่กับคำตอบของคุณ งงป่าวอ่า จากคุณ : cherishy (cherishy) - [ 7 ม.ค. 50 14:24:37 ]

ความคิดเห็นที่ 49 #48 คำถามแรก ถามถึงอนาคต ผมตอบอนาคตไม่ได้นะครับว่าอนาคตจะเป็นยังไง สมมติผมตอบข้อแรกว่า ใช่ แล้วรู้ได้ยังไงครับว่า ผมไม่โกหกในคำตอบของข้อแรก หรือถ้าผมตอบว่า ไม่ใช่ รู้ได้ยังไงครับว่าไม่โกหก แสดงว่า 5 คำถามใช้ไม่ได้ผลแล้ว ถ้าคุณเปลี่ยนโดยรวมข้อที่ถามด้วย เช่น "โกหกข้อนี้ใช่มั้ย" ถ้าตอบว่า "ใช่" แล้วผมโกหก แสดงว่า คำตอบจริงๆคือ "ไม่ใช่" ถ้าคำตอบจริงๆคือไม่ใช่ แล้วผมจะโกหกได้ยังไง เกิด paradox ขึ้นมา หรือถ้าผมตอบว่า "ใช่" โดยที่ผมไม่โกหก ถ้าผมไม่โกหกแล้วผมจะตอบว่า "ใช่" ทำไม การถามคำถาม ใช่ หรือ ไม่ใช่ คนตอบๆตามข้อมูลที่มี ไม่ใช่การคาดเดาคำตอบที่อาจจะมี ยังไม่ให้ Herbert von Karajan นะครับ ^_^ จากคุณ : ศล - [ 7 ม.ค. 50 16:20:48 ]

ความคิดเห็นที่ 50 #48 การคิดความน่าจะเป็นที่ได้คำตอบ 100% ของคุณ คิดผิดนะครับ ถ้าไม่พิจารณาว่าคำตอบของคุณใน #48 ถูกหรือผิด แต่ดูเฉพาะโอกาสตอบถูก 100% โดยใช้ 5 คำถาม และสมมติว่าคำถามของคุณสามารถตอบได้จริง สมมติว่า คำถามที่ 1 ถ้าตอบ ก. ถามต่ออีก 4 คำถาม รวมเป็น 5 คำถาม ก็จะพบคำตอบที่ถูก 100% ถ้าตอบ ข. ถามต่อจนรวมเป็น 6 หรือ 7 หรือ 8 คำถาม (ตามคำอ้างของคุณ) ก็จะพบคำตอบถูกต้อง 100% ถ้าโอกาสตอบ ก. เท่ากับโอกาสตอบ ข. คือ 50% โอกาสที่คุณจะใช้แค่ 5 คำถามแล้วพบคำตอบที่ถูก 100% คือ 50% หรือ 1/2 ครับ และถ้าโอกาสที่จะถามต่อจนรวมเป็น 6 หรือ 7 หรือ 8 คำถามมีค่าเท่ากัน นั่นก็คือ โอกาสตอบถูกโดยใช้ 5 คำถามคือ 1/2 ใช้ 6 คำถามคือ 1/6 ใช้ 7 คำถามคือ 1/6 ใช้ 8 คำถามคือ 1/6 เพราะฉะนั้นวิธีถามของคุณใช้คำถามน้อยที่สุดเพื่อให้ได้คำตอบ 100% คือ 8 คำถามครับ จากคุณ : ศล - [ 7 ม.ค. 50 16:43:12 ]

ความคิดเห็นที่ 51 คือถ้าคุณตอบข้อแรกว่าใช่ ก็หมายความว่าคำถามข้อที่ 2 ถึง 5 คุณจะโกหกไม่ได้ไงครับ เพราะถ้าคุณโกหกในข้อ 2 ถึง 5 ข้อใดซักข้อหนึ่ง เท่ากับว่าคำตอบข้อ 1 ของคุณจะกลายเป็นโกหกไปด้วยเท่ากับว่าคุณจะโกหก 2 ครั้ง ส่วนถ้าคุณโกหกว่าใช่ในข้อ 1 นั่นก็หมายความว่าในข้อ 2 ถึง 5 คุณก็ต้องโกหกอีกครั้งเพื่อให้คำตอบว่าใช่ในข้อที่ 1 ของคุณเป็นการโกหก แต่นั่นเท่ากับว่าคุณต้องโกหก 2 ครั้ง งงมั้ยเนี่ย 5555 แต่ที่คุณบอกมาว่า ถามถึงอนาคตไม่ได้ ถ้าอย่างงั้นวิธีของผมก็ใช้ไม่ได้แล้วหละ พอดีผมไม่เคยเรียนเลขมาด้วย เลยใวธีคิดแบบนั้นไม่เป้นอ่ะครับ แหะๆ จากคุณ : cherishy (cherishy) - [ 7 ม.ค. 50 19:08:19 ]

ความคิดเห็นที่ 52 เห็น 4 บิต กับ 7 คำถาม แถมโกหกได้ครั้งเดียวแล้ว นึกถึง Hamming Code เลยอ้ะ จากคุณ : หมากรุกจีน (หมากรุกจีน) - [ 7 ม.ค. 50 21:49:55 ]

ความคิดเห็นที่ 53 นับถือพี่ๆ ทุกความเห็นเลยครับ รวมถึงพี่ จขกท. ด้วยครับ จากคุณ : ห้องน้ำอยู่ทางนู้น---------->> - [ 8 ม.ค. 50 14:41:50 ]

ความคิดเห็นที่ 54 จาก#34 ถ้าพระเจ้าสามารถโกหกได้ อย่างมาก 2 ครั้ง เราจะต้องใช้คำถามอย่างน้อยที่สุด กี่คำถาม ? อ่านๆดู hamming code correct error ได้ 1 bit ตรวจได้ 2 bits เท่านั้น เลยอยากรู้คำตอบข้างบน จากคุณ : เอ - [ 8 ม.ค. 50 16:11:31 A:61.90.160.166 X: TicketID:076240 ]

ความคิดเห็นที่ 55 #54 ถ้าให้โกหกได้ 2 ครั้ง และมีค่าให้คุณเลือกไว้ตอนแรกได้ 2 ค่า (1-2) ผมจะต้องถาม 5 คำถาม (ถามซ้ำๆ กัน 5 ครั้งก็ได้แล้ว) ถ้ามีให้เลือก 18 ค่า (เช่น 1-18) ผมต้องถาม 10 คำถาม ส่วนวิธีถามยังไม่รู้ :D ------------------------- จำนวนคำตอบทั้งหมด = 2n เมื่อ n = จำนวนคำถามที่ผมถาม จำนวนวิธีโกหก = C(n,0) + C(n,1) + ... + C(n,m) m= จำนวนครั้งที่คุณสามารถโกหก และ C(a,b) = a!/(b!(a-b)!) จำนวนค่าที่ให้คุณเลือกไว้ ฃ จำนวนคำตอบทั้งหมด / จำนวนวิธีโกหก = 2n / ( C(n,0) + C(n,1) + ... + C(n,m) ) จากคุณ : ikkyu - [ 9 ม.ค. 50 19:40:39 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ผมจะตรวจสอบคำโกหกด้วยสามคำถามแรก ก็คือ... คำถามที่ 1. มีเลข 1 ถึง 8 ใช่หรือไม่ คำถามที่ 2. มีเลข 5 ถึง 12 ใช่หรือไม่ คำถามที่ 3. มีเลข 9 ถึง 16 ใช่หรือไม่ ถ้ามีการโกหกในข้อใดข้อนึงในจำนวนสามข้อนี้ จะรู้ได้ในทันที แล้วยังทราบอีกตั้งหากว่ามีเลขที่น่าจะเป็นเหลือเพียงชุดละ 4 ตัวเท่านั้นพอที่จะเอาไปถามต่อในข้อต่อไปครับ...? อธิบายแบบเป็นสมการไม่เป็นครับ เพื่อนๆ ต้องลองดู แล้วจะรู้ว่าโจทย์มีการจำกัดตัวเลขไปในตัวด้วย ปล. ถ้าสมมติสามข้อแรกไม่มีการโกหกเลย ข้อถัดไปก็ไม่ยากในการจับผิดโกหกอยู่ดีครับ จากคุณ : อธติ23 (อธติ23) - [ 9 ม.ค. 50 21:27:47 ]

ความคิดเห็นที่ 57 กฎของคำถามนี้ก็คือ คำถามที่ 1 กับคำถามที่ 3 จะต้องไม่เหมือนกัน 100 % ถ้าเหมือนกันแสดงว่ามีการโกหกเกิดขึ้นแล้ว ต้องให้ดูคำถามที่ 2 ประกอบ ยกตัวอย่างสมมติว่าตอบใช่ทั้งหมด 3 ข้อ คำถามที่ 1 หากโกหก คำตอบที่ถูกต้องก็คือ 9 - 12 คำถามที่ 2 ไม่สามารถโกหกได้เพราะคำถามที่ 1 หรือคำถามที่ 3  ได้มีการโกหกไปแล้ว คำถามที่ 3 หากโกหก คำตอบที่ถูกต้องก็คือ 5 - 8 คำถามที่ 4 จึงค่อยตรวจสอบคำถามที่มีการโกหกคือ 1 กับ 3 แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 50 22:29:57 จากคุณ : อธติ23 - [ 9 ม.ค. 50 21:44:14 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ^ ^ #๕๖    สมมุติว่าคำถามที่ 1-3 ได้ผลตามนั้นจริงๆนะ    ๔ คำถามกับตัวเลข ๔ ตัวนี่แหละที่หาได้ยากที่สุด (อาจหาไม่ได้เลยนะ ;)    หายาก(หาไม่ได้)ในกรณีที่ยังไม่ได้โกหกนะจ๊ะ    ข้าพเจ้าไม่เห็นด้วยตาม ปล. นะ ;);) จากคุณ : pinkFloyd.ads - [ 9 ม.ค. 50 21:45:28 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ^ ^ ^ มาใตร่ตรองดูอีกทีรู้สึกจะจริงดังว่าแหะ T_T ถ้าไปโกหกข้อ 4 เมื่อไหร่ ก็หินแล้ว ใครพอจะมีวิธีต่อยอดความคิดผมไปได้บ้างมั้ยเนี้ย จากคุณ : อธติ23 - [ 9 ม.ค. 50 22:40:13 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ^ ^ จริงๆต้องบอกว่าต่อยอดข้าพเจ้านะ ฮะฮะ ;) คือไอ้แบบที่ #๕๖ กับ #๕๗ ทำน่ะ ข้าพเจ้าทำมานานตั้งหลายปีแล้วมันไม่ได้ ... จนมาเจอเรื่อง encoder กับการหา bit ที่ผิดปรกติเนี่ยแหละ ;) (สมัยก่อน ข้าพเจ้าใช้ตัวเลขแค่ ๑-๑๒ ในการถามเพื่อหา ๔ ตัวที่เหลือจาก ๑-๑๖ ภายใน ๓ คำถาม แต่ไม่มีทางถาม ๔ คำถามเพื่อรู้ ๑ ใน ๔ นั้น ถ้าโกหกได้ ๑ ครั้ง ;) จากคุณ : pinkFloyd.ads - [ 9 ม.ค. 50 22:55:55 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ^ ^ ไม่มีทาง ยังไงก็เชื่อว่ามันต้องมีหนทางมากกว่านี้อีกแน่ โฮะ โฮะ โฮะ :P แล้วจะคิดให้ดู ด้วยหนทางของคนที่ตกคณิตศาสตร์ จากคุณ : อธติ23 (อธติ23) - [ 10 ม.ค. 50 01:23:21 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ^ ^ #๖๑    การจะทำอะไรให้สำเร็จ    - มีศรัทธาว่ามันทำได้    - มีความพยายาม    - มีเวลา    เราเริ่มเชื่อแล้วว่าท่านต้องทำได้แน่นอน    เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่เจอบุคคลเช่นท่าน, ชื่นชมและนับถือ ;);) จากคุณ : pinkFloyd.ads - [ 10 ม.ค. 50 05:56:59 ]