ความคิดเห็นที่ 1 อันดับที่ 10 พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar) ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน การก่อสร้างหอพลังงานแสงอาทิตย์ (solar tower) ขนาดยักษ์ของออสเตรเลีย จะเริ่มขึ้นในปี 2006 หอแห่งนี้มีความสูง 3,280 ฟุต แวดล้อมด้วยอาคารเรือนกระจก (greenhouse) ขนาดใหญ่ที่จะผลิตอากาศร้อนเพื่อขับกังหันที่ตั้งอยู่โดยรอบฐาน จากประมาณการณ์หอแห่งนี้จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้า 200 MW เพียงพอที่จะจ่ายให้กับบ้านเรือนได้ 200,000 หลัง พลังงานแสงอาทิตย์ไม่ต้องใช้เชื้อเพลิง ทำให้ไม่มีมลภาวะ แสงอาทิตย์ที่รับไว้ได้สามารถนำมาใช้ในรูปของความร้อน หรือเปลี่ยนเป็นไฟฟ้าโดยใช้เซลล์แสงอาทิตย์ (solar cell) หรือ photovoltaic cell โดยใช้กระจกที่ทำหน้าที่ติดตามการเคลื่อนที่ของดวงอาทิตย์ที่เรียกว่า heliostats นักวิทยาศาสตร์ได้พัฒนาวิธีการในการใช้พลังงานแสงอาทิตย์แทนการใช้เครื่องยนต์ที่เผาไหม้ด้วยเชื้อเพลิงที่เป็นแก๊ส ในการให้ความร้อนเพื่อผลิตแก๊สไฮโดรเจนที่อยู่ในถัง เพื่อทำให้เกิดการขยายตัวไปขับ pistons ของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า จากคุณ : นาซ่าโพส - [ 8 ม.ค. 50 19:29:36 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อันดับ 9 ถ่านหิน ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงที่ผลักดันการปฏิวัติอุตสาหกรรม และมีบทบาทในการตอบสนองต่อความต้องการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้นของโลก ตั้งแต่นั้นมา ความก้าวหน้าของการใช้ถ่านหินสูงขึ้นมาก เนื่องจากมีสำรองอยู่ในปริมาณมาก ด้วยอัตราการใช้ในปัจจุบันนี้ ถ่านหินจะเพียงพอที่จะใช้เป็นเชื้อเพลิงไปได้อีก 200-300 ปี การที่ถ่านหินมีอยู่ปริมาณมาก จึงทำให้ราคาถูก แต่การเผาไหม้ของถ่านหินก็ทำให้มีการปล่อยสารเจือปนออกมาสู่บรรยากาศ เช่น ซัลเฟอร์และไนโตรเจน ซึ่งเป็นสาเหตุของฝนกรด เมื่อรวมกับไอน้ำในอากาศ การเผาไหม้ของถ่านหินยังทำให้เกิดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ปริมาณมาก ซึ่งนักวิทยาศาสตร์จำนวนมากเชื่อว่าเป็นสาเหตุของของภาวะโลกร้อน (global warming) ทำให้มีความพยายามที่จะหาหนทางใหม่ที่จะทำให้ถ่านหินเผาไหม้ได้อย่างสะอาดมากขึ้น และนำส่วนที่เหลือของถ่านหินมาใช้ประโยชน์ ซึ่งแต่เดิมเป็นสิ่งที่ไม่มีประโยชน์จากการทำเหมืองถ่านหิน จากคุณ : นาซ่าโพส - [ 8 ม.ค. 50 19:30:31 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อันดับ 8 พลังงานลม เพื่อพัฒนาหลักการทำงานของกังหันลมขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง นักวิทยาศาสตร์มีแนวคิดที่จะสร้างโรงไฟฟ้าบนท้องฟ้า โดยใช้กังหันลมลอยฟ้า ที่ความสูง 15,000 ฟุต ยานแบบนี้จะลอยตัวอยู่ด้วยใบพัด 4 ชุด กับกังหันอีก 2 ชุด ซึ่งจะผลิตไฟฟ้าส่งลงมาบนพื้นดินด้วยสายเคเบิ้ล ปัจจุบันมีการใช้พลังงานลมผลิตไฟฟ้าประมาณ 0.1% ของความต้องการใช้ไฟฟ้าทั่วโลก แต่คาดว่าสัดส่วนนี้จะสูงขึ้น เนื่องจากพลังงานลมถือว่าเป็นพลังงานที่สะอาดที่สุดชนิดหนึ่ง สามารถผลิตไฟฟ้าได้ตลอดเวลาที่มีลมพัด ปัญหาหลักของการใช้พลังงานลม คือ ลมไม่ได้พัดตลอดเวลาและไม่สามารถเชื่อมั่นได้ว่าจะผลิตได้ด้วยปริมาณคงที่ นอกจากนั้นฟาร์มพลังงานลม (wind farm) ทำให้เกิดผลกระทบต่อสภาพอากาศในบริเวณที่ตั้ง ซึ่งยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดนัก นักวิทยาศาสตร์หวังว่าจะสร้างกังหันลม (windmill) ลอยฟ้า เพื่อแก้ปัญหานี้ และที่ความสูงมากขึ้น จะทำให้ได้กระแสลมที่พัดแรงกว่าและมีกระแสลมที่ต่อเนื่องมากกว่า แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 50 19:39:26 จากคุณ : นาซ่าโพส - [ 8 ม.ค. 50 19:31:10 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อันดับ 7 ปิโตรเลียม บางคนเรียกเชื้อเพลิงชนิดนี้ว่า ทองคำสีดำ (black gold) มีหลายประเทศที่พึ่งพารายได้จากน้ำมัน มีสงครามที่ต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงเชื้อเพลิงชนิดนี้ เหตุผลหนึ่งที่ปิโตรเลียมหรือน้ำมันดิบมีค่ามาก เนื่องจากมันสามารถเปลี่ยนรูปเป็นผลิตภัณฑ์ได้หลายชนิด ตั้งแต่น้ำมันเชื้อเพลิง (kerosene) ไปจนถึงพลาสติกและยางมะตอย ขณะที่อนาคตของแหล่งพลังงานชนิดนี้ยังเป็นประเด็นร้อนที่ยังถกกันอยู่ ค่าประมาณของปริมาณสำรองปิโตรเลียมบนโลกยังไม่แน่นอน นักวิทยาศาสตร์บางส่วนคาดว่า ปริมาณสำรองของปิโตรเลียมจะถึงจุดสูงสุดและจะลดลงอย่างรวดเร็วหลังจากปี 2005 ขณะที่บางส่วนเชื่อว่า ยังมีแหล่งสำรองแห่งใหม่ที่จะได้รับการค้นพบ ซึ่งจะทำให้เพียงพอต่อความต้องการใช้พลังงานของโลกไปได้อีกหลายสิบปี ปิโตรเลียมคล้ายกับถ่านหินและแก๊สธรรมชาติตรงที่มีราคาถูกเมื่อเปรียบเทียบกับเชื้อเพลิงทางเลือก แต่การนำมาใช้ก็ทำให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมสูง การใช้น้ำมันทำให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์ปริมาณมาก นอกจากนั้น การรั่วไหลของน้ำมันก็ทำให้เกิดปัญหาต่อระบบนิเวศ และเป็นการยากมากที่จะทำความสะอาด จากคุณ : นาซ่าโพส - [ 8 ม.ค. 50 19:32:13 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อันดับ 6 ชีวมวล พลังงานชีวมวล (biomass) หรือ biofuel มีการปลดปล่อยพลังงานทางเคมีที่เก็บไว้ในสารอินทรีย์ เช่น ไม้ พืชผลทางการเกษตร และของเสียจากสัตว์เลี้ยง วัสดุเหล่านี้สามารถเผาไหม้และให้ความร้อนหรือหมักแล้วกลั่นเชื้อเพลิงออกมาในรูปของแอลกอฮอล์ เช่น เอทธานอล แต่เชื้อเพลิงชีวมวลไม่เหมือนเชื้อเพลิงชนิดอื่น เนื่องจากไม่ใช่พลังงานสะอาด การเผาไหม้ของสารอินทรีย์ทำให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนมาก แต่ปัญหานี้อาจแก้ไขได้ โดยการลดคาร์บอนไดออกไซด์ด้วยการปลูกต้นไม้โตเร็วและหญ้าที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงด้วยนั้นให้มากขึ้น นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการทดลอง ใช้แบคทีเรียในการย่อยสลายสารอินทรีย์ เพื่อผลิตไฮโดรเจนสำหรับใช้เป็นเซลล์เชื้อเพลิงได้เช่นกัน มีกระบวนการใช้พลังงานทางเลือกที่ตรงข้ามกับ biofuel เรียกว่า thermal conversion หรือ TCP โดยผู้ที่เสนอเรื่องนี้อ้างว่า TCP สามารถเปลี่ยนสารอินทรีย์ทุกชนิดให้เป็นปิโตรเลียมคุณภาพสูง และมีผลพลอยได้เป็นน้ำออกมา แต่ยังคงต้องดูกันต่อไปว่าบริษัท Changing World Technologies ซึ่งจดสิทธิบัตรกระบวนการนี้ จะสามารถผลิตน้ำมันได้เพียงพอที่จะใช้เป็นพลังงานทางเลือกได้หรือไม่ จากคุณ : นาซ่าโพส - [ 8 ม.ค. 50 19:32:59 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อันดับ 5 การผลิตไฟฟ้าด้วยพลังน้ำ น้ำสามารถนำมาใช้ผลิตไฟฟ้าได้ ไม่ว่าจะเป็นน้ำตก การไหล กระแสน้ำขึ้นน้ำลง หรือกระแสน้ำใต้มหาสมุทร ปัจจุบันมีการใช้พลังน้ำผลิตไฟฟ้าประมาณ 20% ของการใช้ไฟฟ้าทั่วโลก เดิมมีความเชื่อกันว่าพลังงานน้ำเป็นแหล่งพลังงานธรรมชาติที่มีอยู่มหาศาล ไม่ต้องใช้เชื้อเพลิงและไม่ทำให้เกิดมลภาวะ จนมีการศึกษาเมื่อไม่นานมานี้ ที่แสดงให้เห็นว่า การผลิตไฟฟ้าจากเขื่อนสามารถทำให้เกิดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์และแก๊สมีเทน จากการหมักของซากพืชที่จมอยู่ใต้น้ำ ในบางกรณีแก๊สที่ปล่อยออกมานี้ใกล้เคียงกับแก๊สจากโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ข้อเสียอื่นของเขื่อน คือ การทำให้ประชาชนต้องย้ายที่อยู่อาศัย เนื่องจากน้ำท่วม ในกรณีของเขื่อน Three Gorges Dams Project ของจีน ซึ่งเป็นเขื่อนขนาดใหญ่ที่สุดในโลกและจะเสร็จสมบูรณ์ในปี 2009 นั้น ประชาชนจะต้องย้ายที่อยู่อาศัยจำนวน 1.9 ล้านคน ขณะที่แหล่งโบราณคดีหลายแห่งต้องสูญเสียไปจากการถูกน้ำท่วม จากคุณ : นาซ่าโพส - [ 8 ม.ค. 50 19:33:44 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อันดับ 4 การเปลี่ยนพลังงานความร้อนของมหาสมุทร (Ocean Thermal Energy Conversion, OTEC) มหาสมุทรมีพื้นที่ 70% ของพื้นผิวโลก และน้ำก็เป็นตัวกักเก็บพลังงานแสงอาทิตย์อย่างหนึ่งในธรรมชาติ OTEC เป็นการใช้ประโยชน์จากความแตกต่างของอุณหภูมิ ระหว่างผิวน้ำด้านบนที่ได้รับความร้อนจากดวงอาทิตย์ กับน้ำเย็นจัดที่ความลึกด้านล่าง มาใช้ในการผลิตไฟฟ้า โรงไฟฟ้า OTEC โดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 3 ประเภท - แบบระบบปิด (closed cycle) ใช้ของเหลวที่มีจุดเดือดต่ำ เช่น แอมโมเนียที่ทำให้เดือดได้เมื่อได้รับความร้อนจากน้ำทะเล โดยใช้ไอที่เกิดขึ้นไปขับกังหันของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า และใช้น้ำทะเลที่เย็นจัดลดอุณหภูมิของไอให้ควบแน่น กลับเป็นของเหลว - แบบระบบเปิด (open cycle) คล้ายกับระบบปิด ต่างกันที่ไม่ใช้ของเหลวตัวกลาง แต่ใช้น้ำทะเลที่อุ่นขึ้นและกลายเป็นไอน้ำความต่ำ ไปผลิตไฟฟ้า จากนั้นไอน้ำจะถูกทำให้เย็นลงด้วยน้ำทะเลที่เย็น ทำให้ควบแน่นกลายเป็นน้ำบริสุทธิ์ - แบบผสม (hybrid cycle) เป็น OTEC แบบระบบปิดในการผลิตไฟฟ้าเพื่อนำไปใช้ทำให้เกิดสภาวะที่น้ำทะเลมีความดันต่ำ สำหรับผลิตไฟฟ้าด้วยระบบเปิด โรงไฟฟ้า OTEC สามารถใช้เป็นแหล่งผลิตน้ำจืดและน้ำทะเลที่มีแร่ธาตุสูงเป็นผลพลอยได้ที่เกิดจากกระบวนการ จากคุณ : นาซ่าโพส - [ 8 ม.ค. 50 19:35:04 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อันดับ 3 นิวเคลียร์ อัลเบอร์ต ไอน์สไตน์ บอกเราว่า วัตถุและพลังงานนั้นมีเส้นแบ่งระหว่างกันที่ไม่ชัดเจน พลังงานสามารถเกิดขึ้นได้จากการรวมกันของอะตอมของวัตถุ เรียกว่า ฟิวชัน (fusion) หรือการแยกอะตอม เรียกว่า ฟิสชัน (fission) ปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิสชันทำให้เกิดรังสีและสารกัมมันตรังสีที่เป็นอันตรายและคงอยู่นานเป็นพันปี ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อระบบนิเวศถ้ามีการรั่วไหลออกมา นอกจากนั้น ยังมีข้อวิตกในเรื่องการนำไปใช้ในการทำวุธด้วย ปัจจุบัน โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้งหมดใช้ปฏิกิริยาฟิสชัน ส่วนปฏิกิริยาฟิวชันนั้น ต้องใช้พลังงานสูงมาก ในการทำให้เกิดและรักษาสภาวะของปฏิกิริยาที่อุณหภูมิสูงมากให้คงที่ แต่สักวันหนึ่งปรากฏการณ์ที่เรียกว่า sonoluminescence อาจจะทำให้เกิดปฏิกิริยาฟิวชันได้แบบเดียวกับดวงอาทิตย์ ซึ่งเป็นเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชันขนาดยักษ์ ให้สามารถจำลองลงมาอยู่ในบีกเกอร์ที่บรรจุของเหลวได้ได้ sonoluminescence เป็นประกายแสงที่เกิดขึ้นจากของเหลวชนิดพิเศษที่ถูกกระแทกด้วยคลื่นเสียงพลังงานสูง คลื่นเสียงที่ผ่านของเหลวจะทำให้เกิดฟองขนาดเล็ก ซึ่งจะขยายตัวออกและยุบตัวลงอย่างรวดเร็ว มีแสงเกิดขึ้นจากกระบวนนี้ด้วย แต่ที่สำคัญกว่านั้น ฟองอากาศที่หดตัวลงนั้นมีอุณหภูมิและความดันสูงมาก จนนักวิทยาศาสตร์บางคนคาดว่าน่าจะมีปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชันเกิดขึ้น นอกจากนั้น นักวิทยาศาสตร์กำลังอยู่ในขั้นตอนของการทดลองเพื่อหาวิธีในการควบคุมปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชันในเครื่องปฏิกรณ์ ที่เกิดจากการเร่งไอออนของไฮโดรเจนมวลหนักในสนามไฟฟ้าพลังงานสูง จากคุณ : นาซ่าโพส - [ 8 ม.ค. 50 19:36:03 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อันดับ 2  เซลล์เชื้อเพลิง (fuel cells) ถ้ามองผ่านๆ เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนอาจจะเป็นพลังงานทางเลือกจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลที่สมบูรณ์ที่สุด เนื่องจากเชื้อเพลิงชนิดนี้สามารถผลิตไฟฟ้าโดยใช้เพียงไฮโดรเจนกับออกซิเจน ทำให้ไม่มีมลภาวะ รถยนต์สามารถใช้เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน ซึ่งไม่เพียงแต่มีประสิทธิภาพในการให้กำลังดีกว่าเครื่องยนต์แบบจุดระเบิดภายใน แต่ผลของปฏิกิริยายังให้แต่น้ำออกมาเท่านั้น แต่ปัญหาคือ ไฮโดรเจนซึ่งเป็นธาตุที่มีมากที่สุดในจักรวาลนั้น ส่วนใหญ่อยู่ในรูปของโมเลกุล เช่น น้ำ หมายความว่าการผลิตไฮโดรเจนนั้นต้องใช้พลังงาน ซึ่งหลายกรณียังต้องใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล และถ้าเป็นอย่างนั้น ผลบวกที่ได้จากการใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจนก็จะกลายเป็นลบ อีกปัญหาหนึ่งของการใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจนคือ ต้องใช้ความดันสูงและต้องเก็บในถังขนาดใหญ่ซึ่งยังมีปัญหาเรื่องความปลอดภัย นอกจากนั้นไฮโดรเจนยังมีแนวโน้มที่จะกัดกร่อนภาชนะที่ใช้บรรจุทำให้มีความแข็งแรงลดลง เมื่อปีที่แล้วบริษัทฮอนด้าได้ออก scooter ที่ใช้เทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิง จากคุณ : นาซ่าโพส - [ 8 ม.ค. 50 19:36:45 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อันดับ 1 ปฏิสสาร (antimatter) ปฏิสสาร เป็นสสารที่ประกอบด้วยคู่ของอนุภาค (particles) กับปฏิอนุภาค (antiparticles) ซึ่งมีมวลเท่ากันแต่มีคุณสมบัติอย่างอื่นของอะตอมตรงข้ามกัน ได้แก่ การหมุน (spin) และประจุ (charge) เมื่อวัตถุตรงกันข้ามทั้งสองชนิดนี้มารวมกัน จะเกิดการทำลายกัน (annihilation) พร้อมทั้งให้พลังงานปริมาณมากออกมาตามสมการของไอน์สไตน์ E = mc2 มีการใช้ปฏิสสารกันแล้วในทางการแพทย์โดยใช้ในงานรังสีวินิจฉัย เรียกว่า positron emission tomography (PET) แต่การจะนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงนั้นยังมีอยู่แต่เพียงในนิยายวิทยาศาสตร์ ปัญหาของการใช้ปฏิสสารคือ การที่วัสดุชนิดนี้มีอยู่น้อยมากในจักรวาล การผลิตสามารถทำได้แต่เพียงในห้องปฏิบัติการ ซึ่งมีปริมาณน้อยมากและมีค่าใช้จ่ายสูง ถ้าแก้ปัญหาในเรื่องการผลิตไปได้ ก็ยังคงมีปัญหาว่าจะเก็บไว้ได้อย่างไรกับสิ่งที่จะเกิดปฏิกิริยาการทำลายเมื่อสัมผัสกับสิ่งอื่น รวมทั้งการควบคุมพลังงานที่เกิดขึ้นว่าจะทำอย่างไร นาซ่า ได้ทำการวิจัยในผลิตปฏิสสาร เพื่อวันหนึ่งอาจจะใช้ในการขับเคลื่อนยานที่จะส่งมนุษย์ไปยังดวงดาว แต่ผู้เชี่ยวชาญต่างก็เห็นว่า ความฝันเรื่องยานอวกาศที่ใช้พลังงานจากปฏิสสารอย่างในนิยายวิทยาศาสตร์เรื่อง Star Trek นั้นยังคงอีกไกล จากคุณ : นาซ่าโพส - [ 8 ม.ค. 50 19:38:28 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เข้ามาดู รู้เรื่องบ้างไม่รู้บ้าง จะพยายามทำความเข้าใจแล้วกันครับ จากคุณ : Lord banK - [ 8 ม.ค. 50 19:54:33 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ข้อมูลแน่นดีค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ผุ๋งผิ๋ง - [ 8 ม.ค. 50 20:08:02 ]

ความคิดเห็นที่ 13 โหวตให้ครับ กระทู้ดีมีสาระ จากคุณ : Double-Oh-Se7en - [ 8 ม.ค. 50 20:32:53 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ดีๆ เจ๋งๆ จากคุณ : GUSTAV - [ 8 ม.ค. 50 20:38:53 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ช่วยกันมาชมพร้อมติชมเว็บเราได้นะครับที่เว็บนี้ มีเนื้อหาอาหารอันตราย10อย่างที่เราๆชอบทานครับ http://gftframe.googlepages.com เลือก Articles กับ http://searchprovider.awardspace.com จากคุณ : GFT - [ 8 ม.ค. 50 20:58:05 A:203.113.39.8 X: ]

ความคิดเห็นที่ 16 อันดับ1 น่าสนใจดี จากคุณ : jubchay - [ 8 ม.ค. 50 21:48:21 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ผมว่านิวเคลียร์น่าจะมาอันดับหนึ่งนะ จากคุณ : kimtaro_max - [ 8 ม.ค. 50 23:08:33 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ จากคุณ : ชื่อคุณยังไม่ได้ลงทะเบียน - [ 8 ม.ค. 50 23:31:07 ]

ความคิดเห็นที่ 19 กระทู้อย่างนี้ควรเป็นกระทู้แนะนำ จากคุณ : Nutonline - [ 9 ม.ค. 50 00:39:24 ]

ความคิดเห็นที่ 20 อย่างงี้ต้องโหวตครับ จากคุณ : FridayXP - [ 9 ม.ค. 50 02:37:23 ]

ความคิดเห็นที่ 21 กระทู้มีสาระดีคับ แต่พี่ไทยเราก็ยังเผาน้ำมัน เผาแก๊ส เผาถ่านหินกันอยุ่ เหอๆ จากคุณ : Jet_XP - [ 9 ม.ค. 50 03:12:11 ]

ความคิดเห็นที่ 22 นิวเคลียร์อ่ะ ที่เคยรู้มาพลังงานนี้ส่งผลกระทบต่อโลกในระยะยาวมหาศาล.....ไม่มีทางจะควบคุมได้ในระยะยาวอย่างแท้จริง.............นิวเคลียร์เปลี่ยนเป็นพลังงานได้แค่3-4 % เท่านั้น ....ที่เหลือคือ....กากกัมมันตรังสี...ถึง97 % ...ในอเมริกา ไม่มีที่จะเก็บกากแล้ว.....และสร้างอุโมงค์เก็บกาก ใต้ภูเขา.........รับประกันว่า10,000 ปี ไม่รั่วไหล........but ......หลังจากนั้นไม่รู้..............ยังจะเอาอีกไหม.................................เชียร์......h2o อ่ะ นี่คือเหตุผลที่พระเจ้าสร้างโลกเรามาให้มีน้ำเยอะไงล่ะ จากคุณ : O-NET (O-DED) - [ 9 ม.ค. 50 04:08:32 ]

ความคิดเห็นที่ 23 antimass นี้ เก็บกันมากว่า 20 ปี จำนวนยังมองไม่เห็นด้วยตาเลยหนิครับ จากคุณ : E-Boat - [ 9 ม.ค. 50 05:14:29 ]

ความคิดเห็นที่ 24 Vote จากคุณ : Komi (komi_to) - [ 9 ม.ค. 50 07:17:00 ]

ความคิดเห็นที่ 25 โหวตครับ จากคุณ : ผีคอมพ์ - [ 9 ม.ค. 50 08:14:45 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ช่วยโหวตอีกคนค่ะ จากคุณ : primjang - [ 9 ม.ค. 50 08:29:14 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เยี่ยมไปเลยคุณนาซ่าโพส มีกระทู้แนะนำดีๆน่าสนใจกันอีกสักที โหวต!!!! จากคุณ : โสดสนิท...ติดกับคานมานานปี - [ 9 ม.ค. 50 09:17:46 ]

ความคิดเห็นที่ 28 น่าสนใจมากๆ ขอบคุณครับ  ^ ^ จากคุณ : โมบี_ดิก - [ 9 ม.ค. 50 09:27:58 ]

ความคิดเห็นที่ 29 คำพูด"นิวเคลียร์อ่ะ ที่เคยรู้มาพลังงานนี้ส่งผลกระทบต่อโลกในระยะยาวมหาศาล.....ไม่มีทางจะควบคุมได้ในระยะยาวอย่างแท้จริง.............นิวเคลียร์เปลี่ยนเป็นพลังงานได้แค่3-4 % เท่านั้น ....ที่เหลือคือ....กากกัมมันตรังสี...ถึง97 % ...ในอเมริกา ไม่มีที่จะเก็บกากแล้ว.....และสร้างอุโมงค์เก็บกาก ใต้ภูเขา.........รับประกันว่า10,000 ปี ไม่รั่วไหล........but ......หลังจากนั้นไม่รู้..............ยังจะเอาอีกไหม.................................เชียร์......h2o อ่ะ นี่คือเหตุผลที่พระเจ้าสร้างโลกเรามาให้มีน้ำเยอะไงล่ะ O-NET (O-DED) " ผมว่าคุณO-NET (O-DED) พูดไม่ถูกน่ะ นิวเคลียร์ที่นิวเคลียร์เปลี่ยนเป็นพลังงานแล้วได้แค่3-4% อันนี้คำนวณจากอะไร อย่าลืมน่ะว่า พลังงานนิวเคลียร์ให้พลังงานไฟฟ้าต่อต้นทุนที่ต่ำที่สุดถ้าเทียบกับแบบอื่นๆในตอนนี้ ซึ่งหมายถึงมีต้นทุนที่ถูกที่สุดนั่นเอง แล้วนิวเคลียร์เติมเชื้อเพลิงทีนึงก็อยู่ได้เป็นสิบปี แต่ว่ากากของนิวเคลียร์ต้องเก็บต้องเก็บอย่างดีเพื่อไม่ให้รั่วไหล ตรงนี้แหละที่เป็นปัญหา แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 50 10:25:31 จากคุณ : สมุดจด - [ 9 ม.ค. 50 10:23:36 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ความรู้ทั้งน้านนน ขอบคุณคร้าบ จากคุณ : พ่อค้าก๋วยเตี๋ยว ณ ทุ่งบางกะปิ - [ 9 ม.ค. 50 10:57:07 ]

ความคิดเห็นที่ 31 มาโหวตอีกรอบ  ไล่กระทู้พวกส้วมๆออกไป จากคุณ : GUSTAV - [ 9 ม.ค. 50 11:35:44 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เยี่ยมครับโหวตครับ ส่วนตัวสนับสนุนพลังงานนิวเคลียร์ครับ แต่คงไม่เกิดขึ้นในประเทศไทยในเร็วๆนี้ครับ เพราะเป็นทางเลือกสุดท้ายของผู้ใหญ่ท่านว่า ฉะนั้นเราก็ซื้อพลังงานกันต่อไปครับ จากคุณ : sweetoil - [ 9 ม.ค. 50 11:47:08 ]

ความคิดเห็นที่ 33 โหวตค่ะ... เกิดมาก็ได้ยินคำว่าปฏิสสารตอนที่ได้อ่าน Angels&Demons ของ Dan Brown นี่แหละค่ะ ถึงได้รู้ว่ามันเป็นยังไง... จากคุณ : G i f t b o x - [ 9 ม.ค. 50 11:51:21 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ประทับใจกังหันลมลอยฟ้ามากครับ ^__^ เด็กๆทั้งหลายที่ชอบตั้งกระทู้ ...... ควรดูกระทู้อย่างงี้เป็นตัวอย่างน่ะครับ จากคุณ : สมภพ เจ้าเก่า - [ 9 ม.ค. 50 12:11:05 ]

ความคิดเห็นที่ 35 แจ่มมากเลยครับ อย่างนี้สมกับห้องหว้ากอจริงๆ โหวตครับ จากคุณ : ksk - [ 9 ม.ค. 50 12:31:48 ]

ความคิดเห็นที่ 36 thank... จากคุณ : ผู้หวังร้าย - [ 9 ม.ค. 50 12:33:13 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ถ้ากลัวนิวเคลียร์ฟิสชั่นกันนัก ก็รอดูเตาปฏิกรณ์ฟิวชั่นรุ่นต้นแบบ ที่ฝรั่งเศสสิครับ จากคุณ : MynameisHOUSE - [ 9 ม.ค. 50 12:59:25 ]

ความคิดเห็นที่ 38 จาก "พลังงานลม" ทำให้ข้าน้อยนึกถึงพวกการ์ตูนหรือนิยายไซไฟ-แฟนตาซีที่พึ่งพลังงานลมเป็นหลัก ดูเท่ดีเหมือนกันแฮะ อิอิ จากคุณ : หมาหัวโจก - [ 9 ม.ค. 50 13:27:46 ]

ความคิดเห็นที่ 39 พลังงานลม สูงกว่า 15000 ฟุต แล้วสายเคเบิ้ลจะลากไหวหรือครับนั่นหน่ะ จากคุณ : beer2nd - [ 9 ม.ค. 50 15:10:45 ]

ความคิดเห็นที่ 40 โหวต จากคุณ : ing_ab - [ 9 ม.ค. 50 15:27:37 ]

ความคิดเห็นที่ 41 บรรยากาศ หว้ากอ ไล่กระทู้ แปลกๆออกไป จากคุณ : บ่าวจ่อย - [ 9 ม.ค. 50 15:39:34 ]

ความคิดเห็นที่ 42 Vote  ครับ สาระดีๆ แบบนี้ จากคุณ : vn, man - [ 9 ม.ค. 50 16:39:39 ]

ความคิดเห็นที่ 43 เจ๋งป้าด..... จากคุณ : La Gioconda - [ 9 ม.ค. 50 17:51:56 ]

ความคิดเห็นที่ 44 วู้ว พลังงาน เจ๋งจิง ว่าแต่ #38 นี้ต้องเจอพลังงานลมไปหน่อย อิอิ จากคุณ : f3v3r_4m3 - [ 9 ม.ค. 50 18:00:55 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ปฏิสสาร??? ใช่อันเดียวก่ะเรื่อง เทวากะซาตาน ของแดน บราวปะ หุหุ น่าสนุกดีแฮะ จากคุณ : SkillFull - [ 9 ม.ค. 50 18:45:32 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ไออันดับที่ 1 นี่ ศตวรรษนี้ ผมว่าก็ยังไม่ทันมั้งครับ ^^" แต่ H2O อาจจะพัฒนาได้เนอะ จากคุณ : totetote - [ 9 ม.ค. 50 19:22:53 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ธ่อ อุตส่าห์ลุ้นอันดับ 1 ดันกลายเป็นฝันค้างไปซะฉิบ เข้ามาเชียร์ Solar Energy คับผม (ทำไมบ๊วยเลยหว่า) จากคุณ : Gunn_Sap - [ 9 ม.ค. 50 20:36:03 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ร่วมเทใจให้ จากคุณ : tolstoy - [ 9 ม.ค. 50 20:37:31 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เริ่ด! จากคุณ : Estelion - [ 9 ม.ค. 50 20:50:48 ]

ความคิดเห็นที่ 50 Good Idea 50 พอดี จากคุณ : แฮมเบอร์เกอร์คอมพะนี - [ 9 ม.ค. 50 21:14:14 ]

ความคิดเห็นที่ 51 นิวเคลียร์+ H2 นั่นแหละ แหล่งพลังงานกลัง ลมกะแดดคงใช้รองๆ จากคุณ : นายปลาตีน - [ 9 ม.ค. 50 22:14:32 ]

ความคิดเห็นที่ 52 1 โหวต จากคุณ : UNO2Shoot - [ 10 ม.ค. 50 01:15:21 ]

ความคิดเห็นที่ 53 โหวต ช่วยไล่น้ำเสียและน้ำปัญญาอ่อน จากคุณ : หน้าน่วม - [ 10 ม.ค. 50 01:29:45 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ชอบกังหันลอยฟ้าแฮะ แต่อันดับหนึ่ง น่าสนใจดีคับ แม้จะ งงๆ ก็เถอะ จากคุณ : Triceratops - [ 10 ม.ค. 50 03:09:07 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ผม Fusion (ไม่ใช่ Mr.Fusion)ต้องมาอันดับหนึ่งและเป็นพลังงานหลัก ในอนาคตไม่ไกล จากคุณ : Poonoi - [ 10 ม.ค. 50 12:27:48 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 10 ม.ค. 50 13:16:44 ]

ความคิดเห็นที่ 57 เข้ามาต่อจาก Mr.Fusion จากคุณ : char (tlachai) - [ 10 ม.ค. 50 14:21:18 ]

ความคิดเห็นที่ 58 สุดยอด เจ๋งเป้งไปเลย.... แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 50 18:30:30 จากคุณ : เห็ดหอมโต้ลม - [ 10 ม.ค. 50 18:29:03 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ขอบคุณครับ จากคุณ : คนขายของ - [ 10 ม.ค. 50 23:19:23 A:125.25.91.212 X: TicketID:108702 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ผม...ความเห็นที่22 ครับ....โทษที login ไม่ได้อ่ะนะ............ข้อมูลเอามาจาก หนังสือนิตยสาร เนชันแนล จีโอกราฟฟิค ครับ ฉบับ...นานแล้วอ่ะ... ที่เล่มนั้นพูดเรื่องกากนิวเคลียร์อ่ะ....แฉเรื่องนิวเคลียร์ในอเมริกาด้วย....(จนไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาอยู่ประเทศเดียวกัน).....เป็นเรื่องของการ"เลือก"น่ะครับ........ระหว่างความเสียหายต่อเศรษฐกิจหรือจะเลือกคุณภาพชีวิตประชาชน โครงการแมนฮัตตัน และโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ส่งผลกระทบต่อประชาชนของเขาจนทุกวันนี้.....ไม่มีรัฐไหนอยากเป็นถังขยะเก็บกากนิวเคลียร์ที่มีจำนวนมหาศาล รัฐบาลอเมริกาจึงไปให้งบพัฒนาหมู่บ้านกับชนเผ่าอินเดียนแดง....เพื่อแลกกับการเป็นถังขยะเก็บกากนิวเคลียร์อ่ะนะ..... อ้าว...login  ได้แล้ว แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 50 02:36:03 แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 50 02:34:52 จากคุณ : O-NET (O-DED) - [ 11 ม.ค. 50 02:34:19 ]

ความคิดเห็นที่ 61 กระทู้เยี่ยมเลยค่ะ มีประโยชน์ดี โหวตให้อีกหนึ่งค่ะ และมาร่วมแจมค่ะ สนใจ solar cell กับ fuel cell ค่ะ ประเทศเรากำลังทำและพัฒนาสองอย่างนี้ จากคุณ : นาราลี - [ 11 ม.ค. 50 03:01:49 ]

ความคิดเห็นที่ 62 สนุก ^__^ จากคุณ : INEOS - [ 11 ม.ค. 50 12:39:16 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ปฏิสสาร อย่างในนวนิยายของ แดน บราวน์ หรือครับ ? ถ้าทำได้จริง ๆ ก็ถือเป็นสุดยอดนวัตกรรมของโลก ที่จะทำให้โลกมีพลังงานสะอาดใช้โดยไม่ต้องกังวลใด ๆ อีกเลยตลอดไป จากคุณ : ทอฟฟี่สีน้ำเงิน - [ 12 ม.ค. 50 17:22:17 ]

ความคิดเห็นที่ 64 wow จากคุณ : scud - [ 12 ม.ค. 50 20:15:42 ]

ความคิดเห็นที่ 65 นี่แหละห้องหว้ากอ... นี่แหละชาวหว้ากอ... นี่แหละกระทู้แนะนำของหว้ากอ... จากคุณ : Headless Horseman - [ 13 ม.ค. 50 15:57:49 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ในแง่ทฤษฎีน่ะครับ ปฏิสสาร ไม่ใช่การสร้างพลังงานขึ้นมาใหม่ แต่เป็นการจัดเก็บพลังงานรู้แบบนึงต่างหาก คือ ในการสร้างปฏิสสาร ต้องใช้พลังงานสูงมาก , มันก็คือการเปลี่ยนพลังงาน ให้เกิดเป็นมวลขึ้นมาตามสมการ E = mc^2 ขณะเดียวกัน แม้จะสมมุติว่าไม่มีพลังงานสูญเปล่าเลยจากระบบ การเปลี่ยนปฏิสสาร กลับเป็นพลังงาน ก็ได้พลังงาน ปริมาณเท่ากับ พลังงานที่สร้างมันขึ้นมา ( E = mc^2 อีก แต่กลับด้านกัน ) ซึ่งในความเป็นจริง จักรกลใดๆ ก็มีการเสียพลังงานไปอย่างสูญเปล่าอยู่เสมอครับ.... ; ; ; เว้นเสียแต่ รู้วิธี หาปฏิสสารมาใช้ ( ไม่ใช่สร้างขึ้น ) นั่นก็ว่าไปอีกเรื่องครับ ( แต่อย่าลืมว่า ในจักรวาลแห่ง สสาร แล้ว ปฏิสสาร จะยังเหลือรอดอยู่อีกเท่าไหร่เชียว ) จากคุณ : Detonator_Pao_ - [ 14 ม.ค. 50 11:51:20 ]

ความคิดเห็นที่ 67 เอ คุณกาละมะชนหายไปไหนหว่า?? หรือว่าอันนี้ยังไม่ถึงขั้น จากคุณ : g9h - [ 16 ม.ค. 50 14:57:47 ]