ความคิดเห็นที่ 1 แก้คำผิด และเราต้องการลดจำนวนใตการเดินขึ้นลงบันได แก้เป็น และเราต้องการลดจำนวนในการเดินขึ้นลงบันได สายไฟที่มีจำนวนเส็นในหนึ่งเส้นจำนวนมากและมีสีเดียวกัน แก้เป็น สายไฟที่มีจำนวนเส้นในหนึ่งเส้นจำนวนมากและมีสีเดียวกัน จากคุณ : pinkFloyd.ads - [ 3 ก.พ. 50 08:54:20 ]

ความคิดเห็นที่ 2 คำถามประกอบการคิด มีจำนวนหลอดไฟและแบตเตอรี่จำกัดหรือไม่? จากคุณ : ทะเลคราม (blueocynia) - [ 3 ก.พ. 50 10:18:42 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ^ ^ ขอบคุณท่าน blueocynia มากๆ    - เพิ่มเติมคำถามเพื่อให้คิดได้ง่ายขึ้นดังนี้        -> มีหลอดไฟหนึ่งดวง        -> มีแบ๊ตทรี่หนึ่งก้อน    - ใครจะคิดเพิ่มเติมว่ามีหลอดหลายดวงและแบ๊ตทรี่หลายก้อนก็ไม่จำกัดสิทธิ์ ;) จากคุณ : pinkFloyd.ads - [ 3 ก.พ. 50 10:42:36 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คำถามคือ แบตตารี่มีแรงดันพอที่จะวิ่งผ่านเส้นลวดที่ยาวขนาดนั้นหรือไม่ อิอิ จากคุณ : นายแสนดี  - [ 3 ก.พ. 50 11:13:35 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ลดจำนวนครั้งในการขึ้นลงก็ 1.ใช้สองคนกับอุปกรณ์สื่อสาร 2.ใช้เชือกผูกปลายห้อยลงมาเช็กทำเครื่องหมายก่อนแล้วค่อยขึงลวด การเช็กหาคู่ แบบง่ายที่สุดก็ใช้มือกระตุกที่ละเส้น พันเส้นพันครั้ง (ใช้ไฟฟ้านอกจากเสียเวลาและไม่ได้ผลเพราะ โจทย์บอกว่าลวดตัวนำ ไม่ได้บอกว่ามีฉนวนหุ้มแยกแต่ละเส้น จายไฟเส้นเดียวก็ช๊อตถังกันหมด) ลดจำนวนครั้งก็แบ่งครึ่งรวบกันที่ปลายหนึ่งรวบกันวัด ทำเครื่องหมาย กลุ่มหนึ่ง 1 อีกกลุ่ม 0 และแบ่งใหม่ครึ่งของเดิมจะได้ 4 มัด นำข้างละมัดมารวมกันเหลือ 2 มัด ทำเครื่องหมาย 1 และ 0 ในแต่ละชุด แบ่งครึ่งทำไปเรื่อยๆ 10 ครั้งจะได้เลข Binary 10 หลัก คือหมายเลขสายแต่ละเส้น โดยหาเพียง 10 คร้้ง ถ้าจะลดจำนวนครั้งอีกให้แบ่ง 3 กลุ่มคือ วัดแค่ 2 กลุ่มทำเครื่องหมาย 0,1 และอีกกลุ่ม คือ - ว่างไม่ต้องวัด แล้วแบ่ง 3 ไปเรื่อยๆ จะได้ตามสูตร 3^n คือ 7 ครั้ง แบ่ง 4 กลุ่มก็มี 4 เครื่องหมาย ก็ลดจำนวนครั้งไปอีกเป็ร 4^n แล้วแต่จะทำ แต่ในทางปฎิบัติ แก้หน้างาน(ดันพลาดไม่ทำเครื่องหมายไว้ก่อน หรือวางแผนผิดพลาด) ผมขอวานคนมาอีกคน ช่วยกระตุกที่ละเส้นทำเครื่องหมาย ซื้อเวลาคนอื่นและตัวเองได้น่าจะคุ้มกว่า จากคุณ : khanasri - [ 3 ก.พ. 50 11:17:38 ]

ความคิดเห็นที่ 6 #๔    - ถ้าแบ๊ตทรี่มีแรงดันไม่พอแล้วงัยต่อดีล่ะ??    - ขอบคุณสำหรับไอเดีย #๕    - กำลังพยายามทำความเข้าใจอยู่ (นั่งอ่านอยู่ซักครึ่งชั่วโมง ;)    - คำถามข้อแรกเป็นคำถามเชิงอุดมคติ คงไม่เกิดในชีวิตจริง    - ถ้าอยากคิดแบบชีวิตจริงคิดตามวงเล็บที่ข้าพเจ้ายกตัวอย่างก็ได้       มีเงื่อนไขตามระบุ คือไม่มีเครื่องมือสื่อสารหรือผู้ช่วย    - ช่วยสรุปที่คิดไว้ทีว่าตกลงใช้กี่รอบ?? อย่างไร??    - คิดเพิ่มอีกนิดว่าถ้าทำเพียงคนเดียว จะทำอย่างไร?? ใช้กี่รอบ??    - ขอบคุณสำหรับไอเดียและวิธีการ ;) จากคุณ : pinkFloyd.ads - [ 3 ก.พ. 50 15:44:52 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ลองแปลงโจทย์ให้ง่ายๆดูก่อน..เพื่อจะแนวคิดในการติฉลากที่ดีๆ เอาแค่สายสามเส้น ..น่าจะเปลี่ยนเป็น fiber optic ไปเลยดูทันสมัยดี คิดฉลากดำ หนึ่งครั้ง ส่งไฟเข้าไป เดินลงไปดูติดตรงเส้นไหน ตรงนี้ก็ติด ฉลากดำ แล้วก็เดินกลับไปทดลองเส้นใหม่ ย้ายแบตเตอรี่ คราวนี้ติดฉลากแดง ไปดู สว่างปลายไหน ก็ติดฉลากแดง ก็จะจับคู่ได้หมดแล้ว.. จะเห็นว่าวิธีแบบนี้ เดินเหนื่อยแน่..ต้องมีการจับกลุ่ม..เพื่อลดจำนวนครั้งลง.. จากคุณ : นัท - [ 3 ก.พ. 50 18:49:31 A:61.90.160.166 X: TicketID:076240 ]

ความคิดเห็นที่ 8 #๗    เห็นด้วยว่าเหนื่อยแน่ และข้าพเจ้าซึ่งเป็นคนสันหลังยาวคงไม่เลือกวิธีนั้น ;) จากคุณ : pinkFloyd.ads - [ 3 ก.พ. 50 19:37:31 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขยายความ 5 (สมมุติใช้วิธีแบ่งครึ่ง) มี 1000 เล้น แยกมา500เส้นรวบปลายบนช๊อตกัน แล้วทำเครื่องหมาย 1 ในสายที่วัดโอมห์ขึ้น และ0 สำหรับเส้นที่วัดไม่ขึ้น(ต่างกลุ่ม) ทั้ง2ปลาย จากคุณ : khanasri - [ 4 ก.พ. 50 13:07:04 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ครั้งต่อมา ก็แบ่งครึ่งเป็น 2+2 กลุ่ม มาคละใหม่ แบบ a1+b1 และ a2+b2 โดยวัดแลัวใส่เครื่องหมายสายในกลุ่ม a1+b1 เป็น 1 นอกนั้นเป็น 0 จะได้รหัสหลักที่ 2 จะได้สายไฟมี 4 พวกคือ 11,10,01,00 และเมื่อแบ่งครึ่งย่อยคือ กลุ่ม 11 ออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่ม 10 ออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่ม 01 ออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่ม 00 ออกเป็น 2 กลุ่ม นำหนึ่งในสองมารวบกันวัดใหม่ จะได้รหัสตัวที่3คือ 111,110,101,100,011,010,001,000 ถ้าทำดังนี้ครบ 10 ที่ คือขึ้นลง 10 เที่ยวจะได้รหัส 10 หลักซึ่งแทนสายได้ถึง 1024 เส้นที่เพียงพอที่โจทย์กำหนด และถ้าสมุตติใช้วิธีแบ่งเริ่มต้นเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ333,333,334เส้น แล้ววัดหา 2 กลุ่มทำเครื่องหมาย A,B และที่เหลือเป็น C จะต้องทำจำนวน 3^n ครั้ง ไม่เกิน 7 ครั้งหลัก คงได้คำตอบ แต่ยิ่งแบ่งหลายกลุ่มยิ่งจำนวนครั้งหลักๆน้อยลง แต่ทำให้วัดยากเพราะตอนสุ่มเอามิเตอร์มาไล่วัดจะเมีโอกาสเจอพวกเดียวกันน้อยลง และการแยกจับคู่ย่อยคงวุ่นวายน่าดู แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 50 13:37:58 จากคุณ : khanasri - [ 4 ก.พ. 50 13:22:55 ]

ความคิดเห็นที่ 11 #๙, #๑๐    - อ่านวิธีแล้วน่าสนใจดี เด๋วขอไปนั่งนึกก่อน    - เรื่องความยากในการวัดไม่สนใจ สนใจว่าจำนวนครั้งในการขึ้นลงน้อยสุด    - ไอเดียดี ชอบ ;) จากคุณ : pinkFloyd.ads - [ 4 ก.พ. 50 13:39:48 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้าเงื่อนไขคือเดินน้อยที่สุดแล้วล่ะก็ ต้องเตรียมตัวตุนอาหารเครื่องดื่มไว้เยอะๆ เริ่มด้วยการอยู่ยอดตึก ห้อยสายไฟที่ความสูงเท่าๆกันก่อน ติดฉลาก #1 สายไฟเส้นที่ 1 แล้วผูกปมไว้ 1 ปม ติดฉลาก #2 สายไฟเส้นที่ 2 แล้วผูกปมไว้ 2 ปม . . . ติดฉลากสายไฟเส้นที่ 1000 แล้วผูกปมไว้ 1000 ปม เดินลงมาข้างล่าง แล้วติดฉลากตามลำดับความสูง โดยเส้น #1 จะมีปลายอยู่ต่ำที่สุด เส้นที่มีปมมากขึ้น ก็จะสั้นกว่าเล็กน้อย และปลายก็จะอยู่สูงกว่าเล็กน้อย แบตเตอรี่กับหลอดไฟนั่นเอาไว้ตอนที่นั่งผูกปมตอนกลางคืนครับ แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 50 22:39:10 แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 50 22:36:44 จากคุณ : PUFF - [ 4 ก.พ. 50 22:36:25 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ^ ^ #๑๒    - ไอเดียบรรเจิด เยี่ยมจริงๆ    - คุณ PUFF ช่วยสรุปให้หน่อยว่า ขึ้นลง กี่ครั้ง       (ต้องกลับขึ้นไปคลายปมมั้ยอ่ะ?? ;)    - ขอบคุณสำหรับไอเดียดีๆ ;) จากคุณ : pinkFloyd.ads - [ 5 ก.พ. 50 00:13:15 ]

ความคิดเห็นที่ 14 คิดไปคิดมาได้วิธีนี้ เป็นการจัดกลุ่ม อย่างที่กล่าวไว้ที่#7 โดยแบ่งกลุ่มดังนี้ เริ่มที่ฝั่งใดก็ได้ ติดฉลาก Aเข้ากับ ลวด หนึ่งเส้น B เข้ากับลวด อีกสองเส้น และทำให้มันเชื่อมกันด้วย D เข้ากับลวดอีก 4 เส้นและทำให้มันเชื่อมต่อทั้งสี่เส้นด้วย J เข้ากับลวดอีก 10 เส้นและทำให้มันเชื่อมต่อทั้งสิบเส้นด้วย K เข้ากับลวดอีก 11 เส้นและทำให้มันเชื่อมต่อทั้งสิบเอ็ดเส้นด้วย ไปเรื่อยๆ Zเข้ากับลวดอีก 26 เส้นและทำให้มันเชื่อมต่อทั้งยี่สิบหกเส้นด้วย ZA เข้ากับลวดอีก 27 เส้นและทำให้มันเชื่อมต่อทั้งยี่สิบเจ็ดเส้นด้วย ไปเรื่อยๆ ZS เข้ากับลวดอีก 45 เส้นและทำให้มันเชื่อมต่อทั้งสี่สิบห้าเส้นด้วย ตอนนี้ทั้ง 1000 เส้นก็ ถูกเขื่อม เป็นกลุ่มๆเรียบร้อยแล้ว เดินไปอีกฟากหนึ่ง ด้วยหลอดไฟ และแบตเตอรี่ ก็จะสามารถรู้ได้ว่าอีปลายจะอยู่กลุ่มอย่างไร เช่น ที่อยู่ในกลุ่ม B ที่มีสองสาย ส่งแบตเข้าไปสายหนึ่ง เอาหลอดไฟแตะๆสายที่เหลือ จะต้องติดแค่สายเดียว หรือกลุ่ม Dถ้าให้แบตเข้าไปสายหนึ่ง ก็ต้องมีหลอดติด ในอีกสามสาย ตรวจกันจนครบ ติด ฉลากแยกเป็นกลุ่มๆ A B D J..ZS และทีนี้ติดฉลากไปอีก ZS45 ZS44 ติดจนครบทุกสายในกลุ่ม จนถึง ZS1 กลุ่ม D ก็ติด D45 D44 D43 D42 กลุ่ม A ก็ติด A45 ไปเลย ทีนี้ก็มาจัดกลุ่มใหม่ เอา เอาแต่ละเส้นที่มีเลข 45 มารวมกัน เป็นกลุ่มหนึ่ง ซึ่ง กลุ่มนี้ จะมีทั้งหมด 39 เส้น เอา แต่ละเส้นที่มีเลข44 มารวมกัน กลุ่มนี้จะมี 38 เส้น จนกระทั่ง เหลือ เส้น ZS1 เส้นเดียว ไม่ต้องรวมกับใคร ทีนี้ก็เดินไปอีกฟากหนึ่ง ใช้ไฟกับแบดเตอรี่ต่อไฟไปแล้วก็ดูสายที่ติดก็จะสามารถระบุเลขประจำสายในแต่ละกลุ่มได้ น่าจะน้อยครั้งสุดแล้วนะครับ จากคุณ : นัท - [ 5 ก.พ. 50 14:19:13 A:61.90.160.166 X: TicketID:076240 ]

ความคิดเห็นที่ 15 #๑๔    - ไล่ตามที่คุณนัทว่าก็ สมมุติเดิมอยู่ข้างล่าง ก็ขึ้นข้างบนหนึ่งครั้ง       แล้วกลับลงมาข้างล่างอีกหนึ่งครั้ง       สรุปก็ ๒ ครั้ง (ไปหนึ่งแล้วกลับหนึ่ง)    - ต้องขออนุญาตใช้เวลาคิดหน่อย ถ้าทำได้จริงก็ต้องนับว่าเยี่ยมยอดมาก ;) จากคุณ : pinkFloyd.ads - [ 5 ก.พ. 50 14:45:43 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อธิบายวิธีที่ข้าพเจ้าใช้ก่อน (ขอบคุณคุณนัทที่ถามถึง ;) ตอนเริ่มคิดเริ่มคิดจากลวด ๑๐ เส้น (๕ คู่) เพื่อให้ง่ายในการแก้ปัญหา #ด้านล่าง สมมุติเริ่มแรกอยู่ด้านล่างของตึก จับคู่สายเป็นคู่คู่ จะได้ ๕ คู่ ต่อลวดแต่ละข้างของคู่เข้าด้วยกัน (ให้ไฟผ่านได้เป็นคู่ๆ) #ด้านบน เดินขึ้นไปด้านบนของตึก เริ่มหาแต่ละคู่โดยลวดข้างหนึ่งต่อหลอดไฟขั้วบวก ขั้วลบหลอดไฟต่อกับแบ๊ตทรี่ ขั้วบวกแบ๊ตทรี่ก็ต่อกับลวดที่เหลือทีละเส้น เส้นไหนทำให้หลอดไฟติดก็เส้นนั้น เป็นคู่กับลวดที่ต่อขั้วบวกหลอดไฟ หลังจากได้ ๕ คู่แล้ว ก็ทำแถ็กทีละคู่เป็น ๑+, ๑-, ๒+, ๒-, ๓+, ๓-, ๔+, ๔-, ๕+, ๕- หลังจากนั้น ต่อ ๑-  <=>  ๒+ ๒-  <=>  ๓+ ๓-  <=>  ๔+ ๔-  <=>  ๕+ แล้วต่อ ๑+ กับขั้วบวกหลอดไฟ แล้วต่อ ๕- กับขั้วลบหลอดไฟ #ด้านล่าง กลับไปด้านล่าง จะค่อยๆปลดสายแล้ววัดทีละคู่ ปลดคู่ใด เมื่อวัดเสร็จแล้วก็ใส่แถ็กแล้วต่อ แล้วปลดเส้นต่อไป วิธีการดังนี้    สมมุติว่าครั้งแรกปลดคู่ ๑+ กับ ๑-    (ไม่ต้องกังวลว่าสมมุติแบบนี้ฟลุกรึป่าว เดี๋ยวอธิบายเสร็จจะรู้ว่าเจอคู่ไหนก่อนก็ได้)    จะทดสอบด้วยแบ๊ตทรี่ซึ่งจะมีสี่กรณี    #A        สมมุติว่าขั้วลบของแบ๊ตทรี่ต่อลวด ๑+        นำสายไฟ(ตัวนำ)ต่อจากอีกเส้น (กรณีนี้คือ ๑-) ต่อกับอีกขั้วของแบ๊ตทรี่(กรณีนี้คือขั้วบวก)        นำสายไฟ(ตัวนำ)ต่อจากจุดเชื่อม ๒+ กับ ๒-,  ๓+ กับ ๓-, ๔+ กับ ๔-, ๕+ กับ ๕-        ทีละจุดไปต่อกับอีกขั้วของแบ๊ตทรี่(ในกรณีนี้คือบวก)        ผลของกรณีนี้คือไม่สว่าง ๕ ครั้ง    #B        สมมุติว่าขั้วบวกของแบ๊ตทรี่ต่อลวด ๑+        ผลคือ ไฟสว่าง ๕ ครั้ง (จากข้างที่เหลือ, จากคู่ ๒, จากคู่ ๓, จากคู่ ๔, จากคู่ ๕)    #C        สมมุติว่าขั้วลบของแบ๊ตทรี่ต่อลวด ๑-        ทำเหมือน #A        ผลคือสป๊าร์ค ๔ ครั้ง (คู่ ๒, คู่ ๓, คู่ ๔, คู่ ๕)        ผลคือสว่าง ๑ ครั้ง (๑+)    #D        สมมุติว่าขั้วบวกของแบ๊ตทรี่ต่อลวด ๑-        ทำเหมือน #A        ผลคือสป๊าร์ค ๔ ครั้ง (คู่ ๒, คู่ ๓, คู่ ๔, คู่ ๕)        ผลคือไม่สว่าง ๑ ครั้ง (๑+)    ติดแถ็กได้เลย มีแบบเดียว            สมมุติครั้งสองปลดคู่ ๒+ กับ ๒-    (ไม่ลืมที่จะไปต่อคู่เดิมกลับ โดยเมื่อรู้แล้วว่าเป็นเส้นไหนก็    สี่กรณีเหมือนเดิม    #A        สมมุติว่าขั้วลบของแบ๊ตทรี่ต่อลวด ๒+        นำสายไฟ(ตัวนำ)ต่อจากอีกเส้น (กรณีนี้คือ ๒-) ต่อกับอีกขั้วของแบ๊ตทรี่(กรณีนี้คือขั้วบวก)        นำสายไฟ(ตัวนำ)ต่อจากจุดเชื่อม ๑+ กับ ๑-,  ๓+ กับ ๓-, ๔+ กับ ๔-, ๕+ กับ ๕-        ทีละจุดไปต่อกับอีกขั้วของแบ๊ตทรี่(ในกรณีนี้คือบวก)        ผลของกรณีนี้คือไม่สว่าง ๔ ครั้ง สป๊าร์ค ๑ ครั้ง (ไปไล่เองนะ ง่ายๆ)    #B        สมมุติว่าขั้วบวกของแบ๊ตทรี่ต่อลวด ๒+        ผลคือ ไฟสว่าง ๔ ครั้ง (จากข้างที่เหลือ, จากคู่ ๓, จากคู่ ๔, จากคู่ ๕)        ผลคือ สป๊าร์ค ๑ ครั้ง (คู่ ๑)    #C        สมมุติว่าขั้วลบของแบ๊ตทรี่ต่อลวด ๒-        ทำเหมือน #A        ผลคือสป๊าร์ค ๓ ครั้ง (คู่ ๓, คู่ ๔, คู่ ๕)        ผลคือสว่าง ๒ ครั้ง (คู่ ๑, ๒+)    #D        สมมุติว่าขั้วบวกของแบ๊ตทรี่ต่อลวด ๒-        ทำเหมือน #A        ผลคือสป๊าร์ค ๓ ครั้ง (คู่ ๒, คู่ ๓, คู่ ๔, คู่ ๕)        ผลคือไม่สว่าง ๒ ครั้ง (คู่ ๑, ๒+)    ติดแถ็กได้เลย        ทำอย่างนี้จนครบทุกคู่ (จะเหนื่อยไปมั้ยนี่้ ฮะฮะ) อ่า... ตาลายมากๆ พิมพ์มาชั่วโมงครึ่งและ ผิดตรงไหนก็แนะนำหน่อยละกัน มึนและ อาจมีช่องโหว่ แต่ยังนึกไม่ออก เคยพยายามจะใช้วิธีนี้ครั้งนึงตอนที่คนที่จะช่วยหาคู่สายคุยกันผ่านวอไม่ค่อยรู้เรื่อง เลยคิดจะลองทำเอง แต่เปลี่ยนมาใช้มิเตอร์ซึ่งต้องทำอีกแบบ เพราะดูหลอดไฟอีกข้างไม่ได้ มึนไปหมด สรุปคือซื้อสายแบบคอร์มีเลขกำกับดีที่สุดหรือแยกด้วยสี ถ้าเลขคอร์เลือนก็ใช้ผู้ช่วยนี่แหละดีสุดแล้ว ที่ถามนี่เอามาจากฝรั่ง ถามเพื่อความสนุกเท่านั้น อย่าคิดมาก (กระทู้นี้ใช้เวลาในการคิดค่อนข้างมาก รวมถึงนั่งพิมพ์อธิบายนี่ด้วย มึนมาก!!) วิธีของคุณ khanasri ก็โอเค แต่จำนวนครั้งยังมากไปหน่อย วิธีคุณนัทขอเวลาเพิ่มเติมพิจารณาหาช่องโหว่หน่อย ฮะฮะ คิดว่าคงคิดเสร็จก่อนกระทู้ตกไปนะ (เอ่อ... ข้าพเจ้าเป็นคนคิดเลขไม่ค่อยเก่ง คิดช้าหน่อย ;) จากคุณ : pinkFloyd.ads - [ 25 ก.พ. 50 20:41:03 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อา..สงสัยอยู่จุดหนึ่ง...หลอดไฟที่ติดอยู่ด้านบนมิใช่หรือ การที่ท่านลงมาด้านล่างจะสามารถเห็นหลอดไฟได้หรือ ถ้าคิดแบบเห็นถือว่าเป็นแบบอนุกรม.. ก็จะมีข้อน่าสงสัยอยู่ตรง ถ้า บวกแบต เข้าตรงหนึ่งบวก หรือ บวกแบตไปตรงห้าลบ พอแยกสายมา check ก็จะสว่างห้าไม่แตกต่างกันรึเปล่า แบบสมมาตรซ้ายขวานะ จากคุณ : นัท - [ 26 ก.พ. 50 09:53:14 A:61.90.160.166 X: TicketID:076240 ]

ความคิดเห็นที่ 18 จากปัญหา(กระทู้)นะคุณนัท "ลวดสามารถนำปลาย (ที่อยู่ฝั่งเดียวกัน เช่น บนตึกกับบนตึก) มาต่อกันได้ และเราก็สามารถ เห็นแสงไฟจากอีกด้านของตึกได้" เรื่องหนึ่งบวกกับห้าลบเดี๋ยวคืนนี้จะนั่งคิดอีกที เคยคิดไปแล้วทีหนึ่ง ลืมไปละ จากคุณ : pinkFloyd.ads - [ 26 ก.พ. 50 11:27:53 ]

ความคิดเห็นที่ 19 มีเวลาเล็กน้อย มาต่อก่อน จะแยก ๑+ ออกจาก ๕-  ได้อย่างไรนั้น คำตอบอยู่ที่เรื่องขั้ว คือถ้าดูเผินๆ ผลลัพธ์สี่ผลลัพธ์ (#A, #B, #C, #D ตาม #๑๖) จะออกมาเหมือนกัน ระหว่าง ๑+ กับ ๕- แต่จริงๆแล้วต่างกัน ถ้าพิจารณาเรื่องขั้ว คือสองเส้นนี้ไม่ทัดเทียมกัน ดูผลด้านล่าง สมมุติ T คือ ไฟสว่าง, F คือ ไฟไม่สว่าง, S คือ สป๊าร์ค ๑+                                         T   F   S    #A      -   ต่อกับ  ๑+         -   ๕   -    #B      +  ต่อกับ  ๑+         ๕   -   -    #C      -   ต่อกับ  ๑-          ๑   -   ๔    #D      +  ต่อกับ  ๑-          -    ๑  ๔ ๕+                                          T   F   S    #A      -   ต่อกับ  ๕+         -   ๑   ๔    #B      +  ต่อกับ  ๕+         ๑   -   ๔    #C      -   ต่อกับ  ๕-          ๕   -   -    #D      +  ต่อกับ  ๕-          -   ๕   -     คือถ้าดูผลสุดท้ายจะเหมือนกันมี ๕T, ๕F, ๔S + ๑T, ๔S + ๑F แต่ตอนที่เราทำ Tracing Test นั้น เรา Fix เส้นขั้วนึงของแบ๊ตทรี่ไว้ แล้วอีกขั้วนึงก็ trace วัดที่จุดเชื่อมของแต่ละคู่สาย ซึ่งตรงนี้สลับขั้วกัน ระหว่าง ๑+ กับ ๕- เช่น ๕T ของ ๑+ นั้นเกิดจาก Fix ๑+ ไว้ที่ขั้วบวกของแบ๊ตทรี่ ๕T ของ ๕- นั้นเกิดจาก Fix ๕- ไว้ที่ขั้วลบของแบ๊ตทรี่ คิดว่าน่าจะโอฯแล้วนะ จากคุณ : pinkFloyd.ads - [ 26 ก.พ. 50 17:52:22 ]

ความคิดเห็นที่ 20 อา... วิธีคุณนัท คราวก่อนดูแต่ concept คิดว่าน่าจะโอเค ตะกี๋นั่งคิดดีๆแล้ววิธีคุณนัทนี่โอฯ ใช้ได้ ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่ายอดเยี่ยมเลย ขอชื่นชม สามารถนำมาใช้กับโจทย์ต่อเนื่องที่ใช้ โอห์มมิเตอร์ได้ทันที ไม่ต้องคำนึงเรื่องขั้วเพราะ differentiate ด้วยการจัดกลุ่มสองครั้งที่แตกต่างกันทุกเส้นได้เลย ส่วนจำนวนครั้งเท่ากัน ล่าง=>บน=>ล่าง หรือ บน=>ล่าง=>บน (อาจจะต้องไป disconnect สายอีกครั้งหนึ่ง) (ว่าแต่ว่า... ไอพีคุณนัทนี่คุ้นๆนา ;) จากคุณ : pinkFloyd.ads - [ 26 ก.พ. 50 20:19:11 ]