ความคิดเห็นที่ 1 เปลี่ยนเองได้ แค่ไปซื้อไส้กรองใหม่มาเปลี่ยนง่ายๆ จากคุณ : ม้าหงอย - [ 16 ก.พ. 50 17:00:13 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อันแรกจะเป็น Rasin เอาไว้กำจัดความกระด้าง โดยการแลกประจุไฟฟ้า ใช้ไปนานๆ ก็เอาน้ำเกลือเข้มข้น อุ่นๆ เทกรอกลงไป ก็แลกประจุและกลับมาใช้ได้ใหม่ อันที่สอง เป็นไส้กรองเซรามิค ข้างในจะใส่ผงถ่านเอาไว้ดูดกลิ่น ตัวเซรามิคจะเป็นตัวกรองละเอียด อันี้ใช้ไปตะกอนจะอุดทำให้ไส้กรองตัน  อันนี้ลองเอาสกอตไบร์ทขัดหน่อย เพราะไอ้ที่ตันมักเป็นที่ผิว ครับ อันที่สาม น่าจะเป็นหลอด UV ครับ สำหรับฆ่าเชื้อโรค ที่บังอาจหลุดรอดมาจาก เซรามิค อันนี้ถึงอายุก็ต้องเปลี่ยนครับ เพราะหากหลอดให้พลังงานไม่พอ เชื้อผ่านแล้วไม่ตาย มันก็จะไปเจริญเติบโตทีหลัง ตัวอย่างก็มีน้ำดื่มยี่ห้อหนึ่ง เป็นชื่อโครงการที่ดังในภาคเหนือตอนบน ที่คนทำไม่รู้ ทั้งๆ ที่เป็นถึงดอกเตอร์ด้านเกษตร  ปรากฏว่าน้ำดื่มยี่ห้อนี้ หากปล่อยทิ้งไว้ซักเดือนตะไคร่ขึ้นเขียวในขวดเลยครับ จากคุณ : Waterman (LN106) - [ 16 ก.พ. 50 21:41:33 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ปกติแบบสามหลอด จะเป็น เซรามิคหรือโพลิเมอร์หนึ่งหลอด เรซินหนึ่งหลอด และคาร์บอนหนึ่งหลอดครับ จากคุณ : ม้าหงอย - [ 16 ก.พ. 50 22:09:12 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ถ่ายรูปให้ดูรุ่นหน่อยครับ จะได้อธิบายถูก จากคุณ : ฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ - [ 17 ก.พ. 50 01:29:08 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เรซินซัก 3 เดือนก็ใช้น้ำเกลือกรอกแช่ทิ้งไว้แล้วปล่อยออก คาร์บอนก็ใช้วิธีรีเวิร์สน้ำย้อนกลับเอาฝุ่นออก ถึงปี เปลี่ยนทั้งสองแบบทิ้ง ทำเองง่ายๆ เปิดฝาข้างบนแต่ละท่อเทสารข้างในออกเอาสายยางฉีดเข้าไปไล่สารที่ค้างอยู่ออกให้หมดแล้ว จากนั้นก็ซื้อสารอย่างละถุงมาเปลี่ยนจบ (วิธีวิเคราะห์ก็มีแต่คงยุ่งยากสำหรับคนใช้ทั่วๆไป) ส่วนไส้กรองเซรามิกก็เอามาผ่านน้ำจากก๊อกแล้วเอาสก๊อตไบท์ขัดฝุ่นที่อยู่ผิวนอกออกจนขาวเท่านี้ก็เรียบร้อยแล้วครับ (ถ้าไม่ขัดออกน้ำจะไหลอ่อนลงเรื่อยๆ) จากคุณ : monjangja - [ 17 ก.พ. 50 12:23:44 ]

ความคิดเห็นที่ 6 วิธีล้างเครื่องกรองน้ำ จากคุณ : takbai - [ 17 ก.พ. 50 14:56:20 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ปิดน้ำที่วาล์วสีแดงตัวบนและไล่น้ำที่ค้างอยู่ในเครื่องออกจนหมดแรงดัน เปิดจุกที่ด้านล่างของเครื่อง(ฝั่งที่ใส่เรซิ่น) จากคุณ : takbai - [ 17 ก.พ. 50 14:59:07 ]

ความคิดเห็นที่ 8 จากนั้นเปิดน้ำตามปกติ จากคุณ : takbai - [ 17 ก.พ. 50 15:00:11 ]

ความคิดเห็นที่ 9 สารเรซิ่นจะไหลออกมาจนหมด จากคุณ : takbai - [ 17 ก.พ. 50 15:02:13 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สภาพที่ได้ จากคุณ : takbai - [ 17 ก.พ. 50 15:03:25 ]

ความคิดเห็นที่ 11 จากนั้นล้างด้วยน้ำเปล่าหลายๆครั้ง จากคุณ : takbai - [ 17 ก.พ. 50 15:04:36 ]

ความคิดเห็นที่ 12 จนน้ำที่ล้างสารใสแล้ว รินน้ำออกให้เหลือระดับเดียวกับสาร จากคุณ : takbai - [ 17 ก.พ. 50 15:05:38 ]

ความคิดเห็นที่ 13 จากนั้นเอาเกลือบริสุทธิ์ 99.99 % ประมาณ 1/2 กิโลกรัม ใส่ลงไปในสารเรซิ่น คนให้เข้ากัน ปิดฝาทิ้งไว้ 30-45 นาที จากคุณ : takbai - [ 17 ก.พ. 50 15:08:26 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ระหว่างนั้น ก็มาทำฝั่งคาร์บอนต่อ ขั้นตอนเดียวกันกับเรซิ่น จากคุณ : takbai - [ 17 ก.พ. 50 15:10:01 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สารไหลออกมา จากคุณ : takbai - [ 17 ก.พ. 50 15:11:03 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สภาพน้ำที่ได้ จากคุณ : takbai - [ 17 ก.พ. 50 15:11:43 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ล้างโดยซาวกับน้ำเปล่าหลายๆครั้ง จากคุณ : takbai - [ 17 ก.พ. 50 15:12:33 ]

ความคิดเห็นที่ 18 จนน้ำใส จากคุณ : takbai - [ 17 ก.พ. 50 15:13:06 ]

ความคิดเห็นที่ 19 กรอกสารคาร์บอนกลับเข้าไป จากคุณ : takbai - [ 17 ก.พ. 50 15:13:51 ]

ความคิดเห็นที่ 20 จากนั้นมาทำเรซิ่นต่อ โดยการซาวกับน้ำอีกหลายๆครั้ง แล้วชิมน้ำที่ใช้ล้างเรซิ่นดูว่าจืดหรือยัง ถ้าจืดแล้วก็ใส่กลับเข้าไป(ชิมเท่านั้น แค่แตะๆที่ปลายลิ้น ไม่ต้องดื่มเข้าไป) จากคุณ : takbai - [ 17 ก.พ. 50 15:16:55 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ส่วนใส้กรองเซรามิค เปิดน้ำหล่อไว้แล้วเอาสก็อตไบร์ถูลงตรงๆ เบาๆไม่ต้องออกแรงมาก เหลือ เหลืองๆตรงขอบพลาสติคนิดหน่อยไม่เป็นไร ถ้าไปขัดรอบๆ แรงๆ เดี๋ยวมันจะหักเอา จากคุณ : takbai - [ 17 ก.พ. 50 15:21:22 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ทีนี้เรามาทดสอบน้ำกัน นี่เป็นน้ำยาทดสอบหินปูน ที่มีขายตามร้านเครื่องกรองน้ำทั่วไป จากคุณ : takbai - [ 17 ก.พ. 50 15:23:27 ]

ความคิดเห็นที่ 23 วัดปริมาณหินปูน โดยสังเกตุจาสีของน้ำยาที่จะเปลี่ยนไปตามปริมาณของหินปูน HARDNESS ppm as CaCO3 0   เป็นสีน้ำเงิน 2   เปลี่ยนเป็นสีม่วงเข้ม 5   เปลี่ยนเป็นสีม่วง จากนั้นจะแดงขึ้นเรื่อยๆ จากคุณ : takbai - [ 17 ก.พ. 50 15:30:47 ]

ความคิดเห็นที่ 24 รองน้ำจากเครื่องกรองน้ำทื่ล้างเรียบร้อยแล้ว จากคุณ : takbai - [ 17 ก.พ. 50 15:31:59 ]

ความคิดเห็นที่ 25 หยดน้ำยาทดสอบลงไป 1 หยด จากคุณ : takbai - [ 17 ก.พ. 50 15:32:49 ]

ความคิดเห็นที่ 26 1 หยด จากคุณ : takbai - [ 17 ก.พ. 50 15:33:55 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เขย่าให้เข้ากัน ผลที่ได้ จากคุณ : takbai - [ 17 ก.พ. 50 15:34:49 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ทีนี้มาลองที่น้ำประปา โดยใช้ผลที่ได้จากน้ำกรอง มาใส่น้ำประปาลงไป ผลที่ได้ จากคุณ : takbai - [ 17 ก.พ. 50 15:36:54 ]

ความคิดเห็นที่ 29 แต่ไม่ต้องตกใจไป หินปูนก็คือ แคลเซี่ยมคลอไรด์ กินได้ถ้ามีปริมาณที่ไม่มากเกินไป ส่วนคลอรีนนั้น เมื่อผ่านคาร์บอน คลอรีนยังไงก็ไม่เหลือ ไม่ต้องทดสอบ จากคุณ : takbai - [ 17 ก.พ. 50 15:41:22 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ส่วน สารเสียดูยังไง คาร์บอนเสีย สังเกตุได้จากเมื่อเราเอาสารออกมาล้าง จับดูว่าสารคาร์บอนแตกตัวง่าย นิ่ม เละ ล้างยังไงน้ำก็ไม่ใส แสดงว่าสารเสียแล้ว  ควรเปลี่ยนใหม่ได้เลย ส่วนสารเรซิ่นนั้น จากประสบการณ์การทำงานของผม เกือบ 10 ปี ยังไม่เคยเห็นมันเสีย  ล้างตามขั้นตอนที่ผมว่ามันก็ยังใช้ได้ตลอด  เคยเห็นแต่มีขนาดเล็ก ใช้ได้เหมือนกัน แต่ถ้าตัวกรองสารไม่ดี มันจะมีโอกาสหลุดตามน้ำออกมา ส่วนไส้กรองเซรามิค ไม่รั่ว ไม่แตก ไม่หัก ไม่กลายเป็นหิน ไม่เสีย ของที่บ้านผม ใช้มา 10 กว่าปี เอาน้ำที่กรองได้ไปตรวจที่กรมวิทย์ น้ำออกมาก็ผ่าน  ระวังเวลาล้างไส้อย่าให้น้ำย้อนกลับไปเข้ารูก็แล้วกัน จากคุณ : takbai - [ 17 ก.พ. 50 15:53:05 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เวลาล้างสาร อย่าเอาเกลือใส่ลงไปภายในเครื่อง ถ้าเป็นเครื่องแสตนเลส มันจะทำให้ตัวเครื่องเป็นสนิมภายใน แล้วมันจะกิดจนทะลุออกมาเป็นตามด น้ำจะพุ่งออกมา แล้วช่างจะบอกว่าเครื่องเสียแล้ว ซ่อมไม่ได้ ให้เปลี่ยนเครื่องใหม่ ถ้าเป็นเครื่อง PVC สนิมจะจับอยู่ภายใน พอใช้ไปนานๆ น้ำจะเหลืองโดยไม่ทราบสาเหตุ จริงๆเพราะสนิมไปจับอยู่ที่ภายในเครื่อง ถามว่าเครื่อง PVC แล้วสนิมมาจากไหน มันก็มาจากน้ำไงล่ะ แร่ธาตุที่อยู่ในน้ำ ทำปฏิกิริยากับโซเดียมและอ็อกซิเจน แล้วเกิดเป็นสนิม สนิมมันก็ไปเกาะที่ภายในตัวเครื่องถ้าเป็น PVC มันก็ไม่กัดทะลุออกมา แต่ถ้าเป็นเครื่องแสตนเลสมันจะกัดทะลุออกมาภายนอกทำให้เครื่องรั่ว(ซ่อมได้แหละแต่ใช้เวลานาน และหาร้านรับซ่อมยาก)ส่วนใหญ่จะบอกให้เปลี่ยน พอเห็นว่าเครื่องแสตนเลสเป็นตามด ทั่วไปก็เลยเปลี่ยนไปใช้ PVC  แต่เครื่อง PVC ส่วนใหญ่ทนแรงดันสูงๆไม่ได้ พอใช้ไปนานๆก็จะเกิดอาการ แตก รั่ว ปริ บางคนจึงไม่ใช้เครื่องกรองน้ำไปเลยก็มี ถ้าจะล้างทำตามขั้นตอนที่ผมตอบไป เครื่องกรองน้ำของคุณ ก็จะอยู่กับคุณไปเป็น สิบๆปี ไม่เสีย ไม่เป็นสนิม ไม่เปลืองค่าใช้จ่าย ต้นทุนน้ำลิตรละสตางค์เดียว จ่ายแพงกว่าทำไม จากคุณ : takbai - [ 17 ก.พ. 50 16:10:04 ]

ความคิดเห็นที่ 32 แล้วอุปกรณ์ต่อเข้าเครื่องกรองน้ำอย่าใช้อุปกรณ์ที่เป็นเหล็ก มันจะพาลให้เครื่องเป็นสนิมไปด้วย เป็นข้อต่อ PVC ก็แข็งแรงพออยู่แล้ว ไม่งั้นก็ต้องใช้อุปกรณ์ ทองเหลือง หรือ แสตนเลส แต่ราคามันสูงไปนิดนึง จากคุณ : takbai - [ 17 ก.พ. 50 16:16:55 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณมากๆเลยครับ พออ่านเสร็จ ผมก็ออกไปล้าง เลยครับ ได้ความรู้จริงๆ ขอเก็บเข้าคลังกระทู้เลยนะครับ จากคุณ : .. (มู้ดดี้ แม้ดอาย) - [ 17 ก.พ. 50 20:27:05 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เรซินล้างด้วยวิธีที่คุณ takbai บอกถูกแล้ว แต่คาร์บอนเปลี่ยนใหม่ดีกว่า เพราะล้างน้ำเปล่าคงไม่สะอาดขึ้นเท่าไหร่ การดูดติดของสาร organic มันค่อนข้างจะแน่น ไม่เหมือนกับเรซินซึ่งเป็นกระบวนการ ion exchange เกิดขึ้นรวดเร็วมากและย้อนกลับได้ง่าย จากคุณ : ม้าหงอย - [ 17 ก.พ. 50 23:01:15 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เครื่องเก่าเป็นท่อพีวีซีสีฟ้าสองท่อก็ใช้มาได้10 ปี เล่นจนข้อต่อก๊อกหักก็เลยเปลี่ยนใหม่ เป็นแบบสแตนเลส 3 ท่อ ใช้มา 10 กว่าปีเหมือนกัน วิธีล้างก็รีเวิร์สน้ำที่ขุ่นจนใสแล้วก็กลับทิศทางน้ำเป็นปกติ ส่วนเรื่องเกลือก็เล่นกรอกทั้งกิโลลงในท่อทิ้งไว้เลย ทำแบบนี้มาทั้งสองเครื่อง ก็ยังไม่มีอาการสนิมออกมาให้เห็นเลยครับ ถึงแม้จะมีแต่อายุการใช้งานเท่าที่ใช้มาแต่ละเครื่อง 10 กว่าปี สำหรับผมก็ถือว่าคุ้มแล้วครับ จากคุณ : monjangja - [ 18 ก.พ. 50 01:07:14 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เมื่อวาน พอ กรอก คาร์บอน กรอกเรซิ่นใหม่ เสร็จ ก็ flow น้ำ ผ่านไป ครึ่ง ชม. ตอนนี้ น่าจะโอเค แล้ว ยังไม่ได้ เทส น้ำยาอะไรครับ รสชาติน้ำอร่อยดี แต่คิดว่าคงไม่มีปัญหา เพราะน้ำดิบ เป็นน้ำฝน ก็เก็บไว้ในแท้งค์คอนกรีต ปิดสนิท พอดี ไปซื้อเครื่องเก่ามาจากตลาดนัด สภาพดีมากนะครับ แต่ เห็นว่า คาร์บอน กับ เรซิ่น มันแห้ง มานาน เลยกะเปลี่ยนซะเลย จากคุณ : . (มู้ดดี้ แม้ดอาย) - [ 18 ก.พ. 50 07:56:29 ]

ความคิดเห็นที่ 37 "หินปูนก็คือ แคลเซี่ยมคลอไรด์" หินปูนคือแคลเซี่ยมคาร์บอเนต งงตรงที่ว่าสแตนเลส แต่เป็นสนิม ถ้าเป็นสแตนเลสแท้ๆคงไม่เป็นสนิมกระมัง จากคุณ : ม้าหงอย - [ 18 ก.พ. 50 09:54:39 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เยี่ยมจริงๆครับ จากคุณ : ของเล่นใหม่ - [ 18 ก.พ. 50 23:14:51 ]