ความคิดเห็นที่ 75

ข้อมูลเกี่ยวกับจิตเภท ลองอ่านดูครับ
------------------------------------------------------------------ โรคจิตเภท (schizophrenia) Source: http://www.infomental.com/schizophrenia.htm By: ผศ.นพ. สเปญ อุ่นอนงค์ (spainu@hotmail.com )
โรคจิตเภทคืออะไร
โรคจิตเภทเป็นโรคจิตชนิดหนึ่งที่ทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถแยกแยะว่าอะไรเป็นเรื่องจริงอะไรไม่ใช่เรื่องจริง ทำให้เกิดพฤติกรรม แปลกๆหรือพฤติกรรมที่เป็นปัญหาขึ้น
อาการของโรคจิตเภท
อาการของโรคจิตเภทอาจแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆคือ 1. มีพฤติกรรมที่ ผิดปกติ บางอย่างเกิดขึ้น 2. พฤติกรรมที่ปกติบางอย่างหายไป
มีพฤติกรรมที่ ผิดปกติ บางอย่างเกิดขึ้น ได้แก่
อาการหลงเชื่อผิด เช่น ระแวงว่าคนอื่นจะวางยาพิษ , คิดว่าคนในโทรทัศน์มาว่าตน , คิดว่าตนสามารถส่งกระแสจิตได้ มีความคิดแปลกๆ เช่น เห็นใบไม้ร่วงแปลว่าต่างชาติกำลังจะยึดประเทศไทย ประสาทหลอน เช่น ได้ยินเสียงคนมาพูดด้วยโดยที่ไม่มีใครพูด (หูแว่ว) , เห็นภูติผีปิศาจ ( ภาพหลอน) มีพฤติกรรมที่ผิดปกติโดยมักเกี่ยวข้องกับความคิดและความเชื่อที่ผิดปกติ เช่น ยืนเพ่งพระอาทิตย์ , ดื่มน้ำจากโถส้วม, ทำร้ายคนอื่น , ทะเลาะกับคนในโทรทัศน์ พฤติกรรมที่ ปกติ บางอย่างหายไป ได้แก่ ไม่อยากพบปะผู้คน , เก็บเนื้อเก็บตัว , ไม่สบตาคน, ไม่ดูแลตนเอง, ไม่อาบน้ำ , ไม่โกนหนวด , ไม่นุ่งผ้า , กลางคืนไม่นอน, ไม่มีความริเริ่มสร้างสรร , ไม่ทำงาน , นั่งเฉยๆได้ทั้งวัน , ผลการ เรียนตกต่ำ, พูดจาไม่รู้เรื่อง , เนื้อความไม่ปะติดปะต่อกัน , เปลี่ยนเรื่องกลางประโยค, ไร้อารมณ์ , หน้าตาเฉยเมย , ยิ้มคน เดียวหรือหัวเราะอย่างไม่สมเหตุผล
ญาติๆมักเริ่มรู้ว่าผู้ป่วยไม่สบายเมื่อผู้ป่วยมีอาการ มีพฤติกรรมที่ ผิดปกติ เกิดขึ้น เช่น หวาดระแวงกลัวมนุษย์ต่างดาวมาจับ ตัวไปทำให้ต้องพกอาวุธไว้ป้องกันตัว คอยหลบซ่อนๆ คิดว่าปลาทองในตู้ปลามีเครื่องส่งวิทยุ ทำร้ายคนที่ผู้ป่วยเข้าใจว่าเป็น มนุษย์ต่างดาวปลอมมา เมื่อรู้ว่าผู้ป่วยป่วยแล้วญาติๆมักนึกได้ว่าที่จริงเขาเริ่มผิดปกติมาก่อนหน้านั้นระยะหนึ่งแล้วโดยสังเกตุ ว่าปีที่แล้วผลการเรียนหรือการทำงานไม่ค่อยดี ร่วมๆปีที่ผ่านมาดูเขาเงียบๆไป พูดน้อยลง ไม่ค่อยดูแลตนเอง บางครั้งยิ้ม คนเดียว เพราะอาการของโรคจิตเภทมักค่อยเป็นค่อยไปโดยเริ่มจากการลดลงของพฤติกรรมที่ปกติก่อนแล้วจึงเกิดพฤติกรรม ที่ผิดปกติขึ้น
โรคจิตเภทมักเริ่มเป็นในช่วงวัยรุ่นหรือวัยหนุ่มสาว ในรายที่ไม่ได้รับการรักษาจะไม่หายเอง ผู้ป่วยจะมีพฤติกรรมที่เป็นปัญหา ก้าวร้าว อาละวาด ตีคน บางรายถูกจับล่ามโซ่เพราะญาติไม่รู้จะทำอย่างไร เมื่ออายุมากขึ้นอาการ พฤติกรรมที่ ผิดปกติ จะค่อยๆลดลง ผู้ป่วยจะอาละวาดน้อยลงแต่จะเหลืออาการ พฤติกรรมที่ ปกติ หายไป มากขึ้น ผู้ป่วยจะไม่อาบน้ำ เนื้อตัว สกปรก บางรายเร่ร่อนเที่ยวเดินคุ้ยขยะ ผู้ป่วยบางรายมีอาการดีขึ้นเมื่อแก่ตัวและเริ่มรู้ว่าชีวิตทั้งชีวิตหายไปโดยไม่ได้เรียนรู้ วิชาชีพหรือทำอะไรขึ้นมาเลยและเกิดภาวะซึมเศร้า บางรายถึงกับฆ่าตัวตาย
โรคจิตเภทเกิดจากอะไร
ในปัจจุบันเรายังไม่รู้แน่ว่าโรคจิตเภทเกิดจากอะไรแต่เท่าที่รู้พบว่ากรรมพันธุ์มีส่วนแต่ไม่ 100% สิ่งแวดล้อมเช่นความเครียด ก็มีส่วน แต่ที่สำคัญคือมีความผิดปกติของสมองโดยพบว่าสารเคมีบางอย่างในสมองมีความผิดปกติ สารเคมีที่สำคัญคือสารที่ เรียกว่า โดปามีน ( dopamine) และซีโรโทนิน ( serotonin) นอกจากนี้ยังพบว่าโครงสร้างของสมองบางส่วนก็มีความผิดปกติ เล็กน้อยเช่นกัน
การรักษา
ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยยา โรคจิตเภทจะไม่หายเอง โรคจิตเภทเป็นโรคที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยยา การรักษาโดยการพูดคุยจะไม่หาย ผู้ป่วยที่ไม่ ได้รับการรักษาด้วยยาจะลงเอยเหมือนตัวอย่างข้างต้น
ยาที่ใช้รักษาโรคจิตเภทมีหลายชนิดทั้งยากินและยาฉีด ยาประเภทนี้ไม่ทำให้เกิดการเสพติด มีทั้งชนิดที่ทำให้ง่วงและที่ไม่ง่วง ผลข้างเคียงที่สำคัญได้แก่ มือสั่น ตัวแข็งเหมือนหุ่นยนต์ ซึ่งมักเกิดขึ้นเมื่อผู้ป่วยได้รับยาในขนาดค่อนข้างสูงแต่ก็มียาแก้ให้ รับประทานควบคู่กันไปด้วยและไม่มีอันตราย ผลข้างเคียงอื่นๆได้แก่ อาจมีอาการคอแห้งบ้างเพราะต่อมน้ำลายทำงานน้อยลง ลุกเร็วๆอาจหน้ามืดบ้าง บางคนปัสสาวะออกช้า บางคนท้องผูก ซึ่งผลข้างเคียงเหล่านี้ไม่มีอันตราย
ผู้ป่วยเพศหญิงบางรายอาจไม่มีรอบเดือน ผู้ป่วยชายบางรายอวัยวะเพศอาจไม่ค่อยแข็งตัว ผลข้างเคียงแบบนี้ก็ไม่อันตราย เช่นกันและ กลับคืนเป็นปกติได้
รักษาให้ดีขึ้นได้แต่มักหายไม่สนิทและไม่หายขาด
โรคจิตเภทจำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยยา ยาจะช่วยให้อาการต่างๆดีขึ้น ผู้ป่วยจะหวาดระแวงน้อยลงหรือเลิกหวาดระแวง ผู้ป่วยจะก้าวร้าวน้อยลง เก็บตัวน้อยลง ยอมอาบน้ำ แต่อาการต่างๆมักหายไม่หมดโดยเฉพาะอาการ พฤติกรรมที่ปกติหายไป ผู้ป่วยที่รักษาได้ผลดีจะไม่วุ่นวาย กลับไปเรียนหรือทำงานได้แต่มักไม่ดีเท่าเดิม และมีโอกาสกลับมาเป็นใหม่ได้อีกถ้าขาดยา หรือประสบปัญหาที่ทำให้เครียดมากๆ อย่างไรก็ดียารุ่นใหม่ๆสามารถทำให้พฤติกรรมปกติที่หายไปกลับคืนมาได้มากกว่ายา รุ่นเก่าๆ
ญาติๆควรปฏิบัติอย่างไร
ผู้ป่วยมักไม่ชอบรับประทานยาเพราะไม่รู้ว่าตนป่วย บางรายไม่ยอมรับประทานยาโดยบ่นเรื่องผลข้างเคียงของยา เนื่องจาก โรคจิตเภทจำเป็นต้องรักษาด้วยยา ดังนั้นการดูแลให้ผู้ป่วยได้รับยาให้ครบจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ให้บางรายแพทย์อาจเปลี่ยน ยาเป็นยาฉีดที่ออกฤทธิ์ได้นาน 2-4 สัปดาห์ทำให้ผู้ป่วยได้รับยาแน่นอนขึ้น สิ่งที่ญาติต้องทำก็จะง่ายขึ้นคือคอยดูแลให้ผู้ป่วย มาพบแพทย์ตามนัด
ความเครียดมีส่วนทำให้โรคจิตเภทกำเริบได้
ความเครียดมีส่วนทำให้โรคจิตเภทกำเริบได้ดังนั้นจึงไม่ควรมุ่งหวังผลักดันให้ผู้ป่วยเรียนสูงๆหรือให้รับผิดชอบงานสำคัญๆ แต่การ ปล่อยปละละเลยขาดการกระตุ้นก็ทำให้อาการ พฤติกรรมที่ปกติหายไป กลับคืนมาช้า ดังนั้นสิ่งที่ญาติควรทำคือ กระตุ้น แต่ไม่บังคับ คือคอยกระตุ้นให้ผู้ป่วยมีกิจกรรมแบบคนปกติทั่วไปเช่น ชวนผู้ป่วยเวลาจะไปไหนกัน เรียกให้กินข้าว แต่ไม่ต้องถึง กับตักข้าวขึ้นไปบังคับให้กิน นอกจากนี้ยังควรหลีกเลี่ยงการตำหนิติเตียนโดยไม่จำเป็นโดยเฉพาะจากคนที่ไม่ถูกกันกับผู้ป่วย
ญาติๆมักจะเครียด
ผู้ป่วยโรคจิตเภทไม่รู้ว่าเรื่องใดจริงเรื่องใดไม่จริง เรื่องใดเหมาะสมเรื่องใดไม่เหมาะสม แต่สติปัญญายังเฉลียวฉลาด ดังนั้นเมื่อ อาการกำเริบผู้ป่วยมักก่อเรื่องให้ญาติๆเดือดร้อนและอับอายอยู่เรื่อยๆ ญาติๆไม่ควรโทษตัวเองเพราะญาติไม่ได้เป็นคนทำ นี่เป็น อาการของคนที่สมองทำงานผิดปกติ และการที่มีญาติป่วยก็ไม่ใช่ความผิดแต่เป็นภาระที่น่าเห็นใจ การพยายามทำให้ผู้ป่วยได้รับยา ให้ครบจะช่วยลดภาระตรงนี้ลงได้บ้าง ในกรณีที่ญาติเริ่มรู้สึกท้อแท้การพูดคุยกับหรือปรึกษาจิตแพทย์หรือแพทย์ผู้รักษาอาจช่วย ให้มีกำลังใจที่จะต่อสู้กับโรคของญาติของท่านมากขึ้น
จากคุณ :
pzifrius
- [
28 ก.พ. 50 17:13:40
]
|
|
|