ความคิดเห็นที่ 1 ไม่เชื่อ อย่าลบหลู่ ใช้ห้ามคนที่ไม่เชื่อ ไม่ใช่เพราะหวังดี กลัวว่าถ้าไปลบหลู่แล้วจะได้รับอันตรายจากสิ่งลี้ลับ แต่เพื่อไม่ให้เกิดการทะเลาะกัน กับคนที่เชื่อ จากคุณ : กาลามะชน - [ 6 มี.ค. 50 11:41:00 ]

ความคิดเห็นที่ 2 คิดว่า ข้อความนี้ เหมาะกับสังคมไทย ที่นิยมฟังคำหวานมากกว่าคำจริง ค่ะ คำว่า อย่าลบหลู่ ในข้อความนี้ หมายความว่า อย่าพูดออกมาว่า คุณไม่เชื่อ เมื่อคุณอยู่ท่ามกลางคนที่เชื่อ เพราะส่วนใหญ่ คนที่เชื่อเขามีศรัทธาแรงกล้า ศรัทธา กับ ปัญญา เป็นสิ่งตรงข้ามกัน จากคุณ : angy_11 - [ 6 มี.ค. 50 11:41:50 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ เกิดจาก 1.ผู้พูดเชื่อในสิ่งนั้น และ ไม่ต้องการให้ทำการกระทำที่ทำให้สิ่งที่เชื่อดูด้อยค่า หรือ ผิดไปจากที่เชื่อ เนื่องจาก กลัวที่จะยอมรับ หากสิ่งที่เชื่อ ไม่สามารถแสดงผลที่เชื่อไว้ได้ตามที่ควรจะเป็น   จะตามมาด้วยการแสดงความคิดที่ผู้เชื่อ เป็นผู้เบาปัญญาเชื่อในสิ่งที่ไม่เป็นจริง   ดังนั้น ผู้เชื่อจึงต้องห้ามไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัยของความคิดตนเอง  เป็นการป้องกันตนเองจากจิตใจระดับหนึ่ง 2.ผู้พูดไม่แน่ใจในสิ่งนั้น ว่าจะปลอดภัยหรือไม่ เพราะได้ฟังจากผู้อื่นมาอีกทีว่ากระทำการต่อต้านหรือขัดแย้งกับสิ่งนั้นแล้วจะไม่ปลอดภัย  จึงเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับผู้ต่อต้าน หรือ ตนเอง จึงต้องห้ามไว้ก่อน คนที่พูดประโยคฮิต มักจะเป็นข้อ 1. ซะมากกว่า คือกลัวว่า ตนเองจะกลายเป็นคนโง่ หากพิสูจน์มาได้ว่า สิ่งที่เชื่อเป็นเรื่องไม่มีเหตุผลและโดนหลอกลวง ทำให้ขาดการยอมรับจากสังคมและการดูหมิ่นจากสังคม จากคุณ : น้ำปลาเดือนห้า - [ 6 มี.ค. 50 11:58:11 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ความเชื่ออยู่เหนือเหตุผล จากคุณ : cygnat - [ 6 มี.ค. 50 11:59:10 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เคยพูดไปแล้วครับขอคัดลอกมาพูดใหม่ครับ ผีนั้นสังเกตุไหมที่ไหนในโลกก็มีการพูดถึงเรื่องนี้  คาดว่าน่าจะเป็นกลวิธีในการควบคุมทางสังคมของคนสมัยก่อน เรียกว่านับถือผี  ซึ่งอาจเป็นศาสนาชนิดหนึ่ง เพราะการควบคุมทางสังคมสมัยก่อนใช้ความกลัวเป็นหลักมากกว่าเหตุผลในการควบคุมคนในสังคม  พอมาตอนหลังก็ใช่เทพเจ้า พระเจ้า และเหตุผล   สรุปผีมีจริงแต่เป็นนามธรรม ไม่สามารถสัมผัสได้  เพราะเป็นระบบความเชื่อที่มนุษย์สร้างมาเพื่อเป็นกลไกในการความคุมสังคมและสร้างอำนาจให้แก่บุคคลต่างๆที่สามารถเข้าถึงได้ ส่วนวิญญาณน่าจะเป็นสภาวะหนึ่งของจิต  อาจเรียกว่าความรู้สึกหละมั้ง   แต่สิ่งมีชีวิตก็ประกอบไปด้วยสสารและพลังงาน  และทัง้สองก็ไม่สูญหายเพียงแต่เปลียนรูป   ดังนั้นจิตหรือวิญญาณถ้าไม่เสถียรหรือนิพพานแล้วก็เกิดดับอยู่ตลอดเวลา สวนเรื่องนรก สวรรค์  ก็ไม่ต่างจากผีที่ถูกสร้างมาจากวรรณกรรมเรื่องไตรภูมิพระร่วง  เพื่อควบคุมสังคม  แล้วผู้นำในอดีตก็เอาแนวคิดดังกล่าวมาผนวกกับแนวคิดในพระพุทธศาสนา  จะเห็นว่าความเชื่อมันลื่นไหลได้ขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้ๆเพื่ออะไร  ยิ่งผู้ใช้นั้นมีอำนาจก็สามารถทำให้คนอืนรับเอาสิ่งนั้นไปด้วยก็ได้ แต่มีขอสังเกตุอยู่อย่างหนึ่งว่า  คนที่ตาบอดมาแต่เด็กจะเชื่ออย่างไรว่าใบไม้มันมีสีเขียวและไอ้ที่ว่าสีเขียวนั้นมันเป็นอย่างไร  ฉันใดผีก็อาจจะเป็นเช่นนั้นใครจะไปรู้ อีกอย่าคำว่าไม่เชื่ออย่าลบหลู่ก็เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ชัดว่าผีก็คือกลไกในการควบคุมทางสังคมนั่นเอง ครับสำหรับผี จะเห็นคำว่าผิดผี อันนี้เห็นชัดเลยครับ สรุปแล้วคำว่าไม่เชื่อแต่อย่าลบหลู่นั้นในบางเรื่องเป็นกลไกในการควบคุมทางสังคมอย่างหนึ่ง ที่สมัยก่อนใช้สิ่งที่ใช้ส่งผ่านแบบบอกต่อๆกันมา หรือใช้ความกลัวเป็ฯตัวควบคุมคนในสังคมเพื่อให้เกิดการยอมรับเพื่อที่จะกระทำหรือไม่กระทำบางสิ่งที่ผู้มีอำนาจที่สร้างวาทกรรมนั้นขึ้นมา ซึ่งปัจจุบันคมในสังคมยอมรับความมีเหตุผลแบะการพิสูจน์ในเชิงประจักษ์มากขึ้น กลไกลดังกล่าวจึงออกมาในรูปของกฏหามย และวิทยาศาสตร์  ทำเกิดการวิภากษ์กันระหว่างพวกอนุรักนิยมกับพวกหัวก้าวหน้า  หรือพวกฐานอำนาจเดิมกับอำนาจใหม่ที่ใช้กลวิธีใหม่ๆอย่างวิทยาศาสตร์ กฏหมายเป็นต้น แต่บางครั้งมันก็เป็นไปเพื่อหาผลประโชนย์ทั้ง 2 ทาง ทีสำคัญวาทกรรมดังกล่าวจะรับใช้ใครมากกว่า อะอะไม่เชื่ออย่าลบหลู่นะครับ จากคุณ : bus-makong - [ 6 มี.ค. 50 12:01:48 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่เชื่อ - (เพราะ)ยังหาข้อพิสูจน์ไม่ได้ อย่าลบหลู่ - (ก็)อย่าเพิ่ง(ด่วนตั้งข้อ)สรุปในทางลบ ในสิ่งที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ เพราะสิ่งที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ ถือว่าความจริงยังไม่ปรากฎ "ไม่เชื่อ อย่าลบหลู่" เป็นคำสอนที่ทำให้เปิดใจให้กว้าง อย่ามีอคติกับสิ่งใดๆ ที่อยู่เหนือความรู้ความเข้าใจของตนเอง จากคุณ : ? - [ 6 มี.ค. 50 12:03:10 A:69.224.112.231 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่ลบหลู่ เพราะไม่งั้นตีกันตายแน่ แต่ว่าจะไปพิสูจน์ไหม อาจจะแล้วแต่เรา จากคุณ : Epinephrine - [ 6 มี.ค. 50 12:08:39 ]

ความคิดเห็นที่ 8 หมายถึง อย่าไปลบหลู่คนที่เชื่อครับ ไม่เชื่อก็เฉยๆก็ได้ เราไม่เชื่อ จะไปวุ่นวายทำไม จากคุณ : sirnifti - [ 6 มี.ค. 50 12:14:45 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่เห็นด้วยแฮะ โดยส่วนตัวถ้าไม่เชื่อ ก็ไม่สน ไม่ใส่ใจ ไม่เอาเป็นธุระ ก็เลยไม่ลบหลู่ แต่ถ้าไม่เชื่อ แล้วไปลบหลู่อีก ก็เหมือนดูหมิ่นคนที่เค้าเชื่อ อาจเกิดผลร้ายต่อสุขภาพปากและฟันได้ มิควรกระทำ.... นานาจิตตังครับ จากคุณ : clean no10 - [ 6 มี.ค. 50 12:28:18 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ถูกคับไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ เก็บไว้ในใจน่ะดีแล้ว ใครอยากลบหลู่สิ่งที่ผมเชื่อบ้าง เอาง่ายๆ เวลาไปวัดไปเที่ยวสถานที่คนส่วนใหญ่บอกว่าศักดิ์สิทธิ์ คนเยอะๆ ก็ไปเยี่ยวใส่ศาลแล้วถ่ายรูปมาให้ผมดูหน่อย รับรองว่าถ้าผมอยู่แถวนั้น คงต้องมีเรื่องกันแน่ๆ --------------------------- มันคงจะเป็นคำที่ใช้เตือนกันเป็นห่วงกันว่าไม่ควรทำ ประมาณว่าอยู่เฉยๆดีกว่า ไม่ต้องไปลบหลู่ในสิ่งที่คนอื่นเชื่อถึงมันจะจริงหรือไม่จริงก็ตาม ปล่อยเขาไปตราบใดที่มันไม่ทำให้เราเดือดร้อน จากคุณ : THE_AR - [ 6 มี.ค. 50 12:44:34 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ความคิดเจ้าของกระทู้ก็ยังหยาบๆ แบบพาลชนอยู่นั่นหละน่ะ  อย่างเช่นการคำนึงถึงมือตีนเย๊อะหรือไม่ด้วย จากคุณ : สมภพ เจ้าเก่า - [ 6 มี.ค. 50 13:04:19 ]

ความคิดเห็นที่ 12 นึกถึงกระทู้ดื่มน้ำส้วม แห่กันไปดูดอยู่นั่น ขนาดสาธารณสุขมาตรวจยังไม่ให้ หาว่าไปลบหลู่ ผลออกมาเป็นน้ำส้วม สะใจกันไปทั้งบาง - - จากคุณ : cookiecompany - [ 6 มี.ค. 50 13:08:30 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ไม่ต้องถึงขนาด เป็นเรื่องสืบทอดหรอกครับ แค่แฟนเชื่ออย่างนี้ แต่เราไม่เชื่อ เราก็ต้องอยู่นิ่งๆ ไม่งั้นมีงอน มีมือ มีเท้า มีหมัด จากคุณ : IRQ5 - [ 6 มี.ค. 50 13:46:37 A:203.146.63.184 X: TicketID:129004 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ถ้ามี เหตุผล ก็ไม่เรียกว่า เชื่อ นะซิ ยังไงก็อย่าไปยุ่งกับเค้า ถ้ามันไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็ ... จากคุณ : Thirdwave - [ 6 มี.ค. 50 13:51:31 ]

ความคิดเห็นที่ 15 น่าจะใช้คำว่า "ไม่เชื่อ ต้องพิสูจน์"ครับ จะดีกว่า พิสูจน์ไม่ได้ ก็ไม่ต้องเชื่อครับ จากคุณ : vermillion - [ 6 มี.ค. 50 15:08:38 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ไม่เชื่อ ยิ่ง ต้องลบหลู่ครับ ถูกต้องที่สุด เพื่อความเจริญก้าวหน้าในวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนะ พอดีไม่เคยบวชหรือศึกษา เลยไม่รู้ว่าศาสนาจะเจริญไปทางไหนได้ เห็นแต่ตกต่ำลงเรื่อยๆ จากคุณ : goodnightcry - [ 6 มี.ค. 50 15:09:49 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ใช้กันบ่อยมาก นานมาก จนลืมไปแล้วว่าจริงๆ แล้ว ที่มามันเพราะไม่ต้องการให้ไปบาดหมางกับคนที่เชื่อ ตามที่ คห.1 ว่า ไม่เชื่อต้องลบหลู่นี่ก็เกินไป ผมชอบ "ไม่เชื่อต้องพิสูจน์" มากกว่า . จากคุณ : TingTing - [ 6 มี.ค. 50 15:10:42 ]

ความคิดเห็นที่ 18 กรณีholy shit กับหนอนคูลฟีเวอร์เป็นตัวอย่างที่ดีของคนที่ชอบใช้คำว่า "ไม่เชื่อ อย่าลบหลู่" จากคุณ : silverspider - [ 6 มี.ค. 50 15:10:47 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ไม่ได้ลบหลู่ แต่ไม่เชื่อ จากคุณ : PalmIIIc - [ 6 มี.ค. 50 15:37:58 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เดี๋ยวนี้ สมภพ เก๋า จากคุณ : อาจารย์แมว - [ 6 มี.ค. 50 15:41:54 A:203.188.39.121 X: TicketID:137077 ]

ความคิดเห็นที่ 21 "ไม่เชื่อ อย่าลบหลู่" บ่อยครั้งที่ผู้ใช้ ใช้แบบเผด็จการ ปิดกั้นความคิดผู้อื่นไม่ได้แสดงเหตุผล ตัวเองคิดหาเหตุผลไม่ออกเลยเชื่อมันซะงั้น แต่ดันห้ามคนอื่นคิดและแสดงความเห็น  ในความเป็นจริงที่เกิดขึ้นก็คือ มันมีนัยปิดกั้นทางจิตวิทยา เวลาที่ผู้ใหญ่ไปใช้คำนี้กับเด็กแล้ว เด็กไม่คิดต่อครับ กระบวนการความคิดมันหยุดชะงัก (พวกแก่ๆแล้วไม่เป็นไรหรอกไม่อยากหวัง) --> เป็นคำพูดที่แย่มาก จิตใจคับแคบใจมากครับ โลก+ปัญญามนุษย์ ยังจะต้องพัฒนาไปอีกไกล จะให้หยุดอยู่กับที่ได้ไง หลายเรื่องในสังคมไทยถูกครอบงำด้วยความคิดโง่ๆ เช่น แล้วก็เอาคำนี้ขึ้นมาสร้างเกาะป้องกัน ปิดกั้นความคิดเด็ก+เยาวชนรุ่นใหม่ให้โง่ตาม กำลังของชาติในอนาคตโง่ๆจะพัฒนาปัญญาได้อย่างไร "ไม่เชื่อ ต้องถกแย้ง"(ตามเหตุตามผล) ไม่ใช่เพื่อตัวเองแต่ต้องช่วยเปิดกว้างทางความคิดให้ เด็ก+เยาวชนของชาติ ไม่งั้นจะถูกครอบงำและโง่แบบคนรุ่นเก่าๆ ปล.1 แก้ไขครั้งแรก เพราะเพิ่งแก้ไข ปล.2 แก้ไขครั้งที่2 เพราะแก้ไขหลังจากครั้งแรก แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 50 18:21:31 แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 50 16:32:09 จากคุณ : Abell 1367 - [ 6 มี.ค. 50 16:26:07 ]

ความคิดเห็นที่ 22 "ไม่เชื่อ อย่าลบหลู่". คิดยังไงกับคำพูดข้ออ้างยอดฮิตนี้ครับ ^ ^ ^ กำลังคิดว่า คำนี้ทำไมช่วงนี้มันฮิตกันจัง เอามาตั้งกระทู้หลายหนแล้ว (ไม่ได้บ่น จขกท. นะครับ แต่สงสัยจริงๆ มันมีข่าวหรือว่า มีคนดังคนไหน เอามาพูดออกทีวีรึป่าว? ถึงได้มีกระแส) จากคุณ : ม่อน (bodin) - [ 6 มี.ค. 50 16:38:48 ]

ความคิดเห็นที่ 23 จาก Title ของกระทู้ ในทัศนะของโปจิน่ะ ไม่เชื่อ ไม่น่าสนใจ ไม่สนใจ สิทธิส่วนตัว ไม่เชื่อ น่าสนใจ น่าพิสูจน์ น่าติดตามศึกษาเรียนรู้ ไม่เชื่อ สนใจ/ไม่สนใจ ลบหลู่ ลบหลู่ ไม่เชื่อ ไม่เห็นน่าจะเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันเลยอ่ะ งง... จากคุณ : โปจิ - [ 6 มี.ค. 50 16:39:33 A:202.44.73.170 X: TicketID:105644 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ก็ลองลบหลู่ไปเรื่อยๆสิครับ จะได้รู้ว่าทำไมเค้าถึงบอกว่า อย่าลบหลู่ ^ ^ จากคุณ : อมยิ้มอร่อยหวานมัน - [ 6 มี.ค. 50 16:43:32 ]

ความคิดเห็นที่ 25 พระพุทธศาสนาไม่เคยสอนให้ยกตนหรือถือตนหรอกครับ ไม่ทราบว่าใช้สีด่างทับทิมกันแล้วจะอีโก้สูงขึ้นอัตโนมัติหรือไง จากคุณ : สมภพ เจ้าเก่า - [ 6 มี.ค. 50 17:07:41 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ผมว่ามันเป็นกุสโลบายนะ..555 1.คนที่ไม่เชื่อมีเหตุผลของตัวเอง คนเชื่อมีเหตุผลของตัวเอง แต่คำนี้ช่วยเว้นช่องให้มีจุดที่ไม่กระทบกันแรงเกินไป 2.การเชื่อไม่เชื่อของทึฃุกคนมีเหตุผลรองรับ แต่ขนาดวิทยาศาสตร์ ความรู้ใหม่ๆก็ยังบอกเราว่าสิ่งี่เรารุ้เราเชื่ออาจไม่ใช่ความจริงเสมอไป และจะรู้จนกว่าจะมีการค้นพบใหม่ๆที่มาหักล้างของเดิมได้อย่างมีเหตุผล แม้กระมั่งความรุ้ทางวิทยาศาสตร์ บางครั้งเราก็เถียงกันสาหัส 3.สิ่งที่ยากต่อการพิสูจน์ให้กระจ่างจนหมดข้อสงสัยเป็นสาเหตุหลักของความขัดแย้ง การเชื่อในสิ่งที่ตัวเองเชื่อแต่ยังให้เกียรติไม่ลำเส้นความเชื่อความคิดของคนอื่นไว้บ้าง ผมว่าเป็นการเว้นช่องให้เสาแต่ละต้นมีที่ยืนของตนเอง ส่วนตัวเชื่อเรื่องไม่เชื่อต้องพิสูจน์ สงสัยต้องพิสูจน์ให้เห็นชัด แต่ก็ยังให้เกียรติในความคิดและความเชื่อของคนอื่นโดยรักษามารยาทในการแสดงความคิดเห็นเฉพาะตัว ว่าไปตามเหตุผล แต่ไม่ลบหลู่ความคิดของคนอื่น เพราะในส่วนของเขาย่อมมีเหตุผลที่เขาเชื่อ เราเคารพในความเชื่อของเรา เราก็ต้องเคารพในความเชื่อของคนอื่น เพราะนี่เรากำลังพุดถึง "ความเชื่อของคน" เราไม่ได้พุดถึงความรู้ เรื่องที่รู้จริงและพิสูจน์ได้ เป็นข้อเท็จจริง สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ความเชื่อ และเป้นอีกกรณีหนึ่งที่มีความคล้ายแต่ก็มีรายละเอียดที่ต่าง อาทิ ที่เขามาเฉลยแทคติกลุยไฟ มือจุ่มน้ำมันเดือดๆ แทงปาก แทงแก้ม นั่นก็เป้นความรู้อย่างหนึ่ง ต่างจากการเถียงด้วยความเชื่อของแต่ละฝ่ายอย่างเดียวครับ เว้นไม่ลบหลู่ ไม่ได้หมายถึงความเชื่อ แต่หมายถึงความรู้สึกของคนเชื่อนั้นเอง บางทีก็เว้นไว้ในฐานที่เข้าใจครับ จากคุณ : granun - [ 6 มี.ค. 50 17:41:45 ]

ความคิดเห็นที่ 27 คิดว่าเป็นข้ออ้างเวลาแก้ตัวไม่ขึ้น เวลาที่จนมุมเรื่องไสยศาสตร์ ผี และเรื่องงมงายต่างๆ 1 ในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ชาวบ้านยังเชื่อเรื่องไม่เป็นเรื่อง ก็เพราะไอ้ประโยคนี้แหละ จากคุณ : Limelight - [ 6 มี.ค. 50 19:02:48 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ไม่เชื่อ อย่าลบหลู่ (เพราะกรูจะโกรธ เข้าใจมะ) ประมาณว่า ดักไว้ก่อนเดี๋ยวทะเลาะกัน คนเรามันความเห็นต่างกันได้ **ขอโทษที่ไม่สุภาพค่ะ** จากคุณ : Galilee - [ 6 มี.ค. 50 19:19:49 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ...ไม่เชื่อแต่อย่าลบหลู่.!!! จากคุณ : เอื้องป่า - [ 6 มี.ค. 50 20:16:23 A:202.5.89.134 X: ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขี้เกียจบ่น มาลงชื่อแทนดีกว่า ;) จากคุณ : pzifrius - [ 6 มี.ค. 50 20:19:21 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ลบหลู่อาจโดนตีนได้ เนื่องจากเหตุผลในบรรทัดสุดท้ายของ ค.ห. 2 จากคุณ : Lancaster - [ 6 มี.ค. 50 21:02:28 ]

ความคิดเห็นที่ 32 หค.2 ศรัทธา กับ ปัญญา เป็นสิ่งตรงข้ามกัน ...ทั้งๆที่ ศรัทธา ต้องมีปัญญาร่วมด้วยแท้ๆ *หนังสือเกี่ยวกะ พระพุทธศาสนา ว่างั้นอ่า(เคยเรียนกันมาแล้วนิหน่า) แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 50 21:50:42 จากคุณ : หมออาคม - [ 6 มี.ค. 50 21:37:38 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เอ๋า ว่าไรกันหว่า ? จากคุณ : THE_AR - [ 6 มี.ค. 50 21:45:07 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เบื่อครับลบหลู่ประจำโดยส่วนตัว อยากเชื่อก็เชื่อของท่านไปอย่ามาเหมาให้คนอื่นเคารพตาม พวกสิ่งศักดิ์สิทธ์ต่างๆ มันของศาสนาพุทธเหรอไงนั่น ศาสนาพุทธเเต่ยังนับถือต้นไทร ต้นโพธิ์ กล้วยแฝด หมาหกขา ปลาไหลเผือก นับถือไปสิทธ์ใครสิทธ์มันแต่คำพูดว่าไม่เชื่ออย่าลบหลู่ มันก็งั้นๆ พวกจิตอ่อนพ่อแม่สอนให้กลัวผีแต่เด็ก ก็คงจะกลัว จากคุณ : Chaos dragon - [ 6 มี.ค. 50 23:11:49 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ความคิดเห็นที่ 25 เค้าตั้งผิดกระทู้ อย่าไปสนใจเลยครับ จากคุณ : อาจารย์แมว - [ 6 มี.ค. 50 23:42:18 A:203.188.24.95 X: TicketID:137077 ]

ความคิดเห็นที่ 36 กลัวว่าพิสูจน์แล้วจะพบว่า มันเป็นเรื่องแหกตา มากกว่าครับ เลยต้องห้ามไว้ กลัวคนอื่นรู้ความจริงแล้วจะหลอกคนต่อไม่ได้ จากคุณ : maxijojo123 - [ 7 มี.ค. 50 03:47:18 ]

ความคิดเห็นที่ 37 "ไม่เชื่อ อย่าลบหลู่" มันเป็นวลีที่สั้นไปครับ ต้องเพิ่มคำ มันถึงจะได้ความหมายที่ครบ และไม่กระทบกระทั่งทั้งสองฝ่าย "ไม่เชื่อ อย่าลบหลู่คนที่เชื่อ" เนี่ย แค่นี้พอ คือ ถ้าเราไม่เชื่อเราก็ต้องพิสูจน์ใช่ป่ะ ตามหลักนักวิทยาศาสตร์ที่ดี และพุทธศาสนิกชนที่ดี แต่อย่าไปลบหลู่คนที่เชื่อ โดยการดูถูกสิ่งที่เค้าเชื่ออ่ะ แค่นี้ก็พอแล้ว รอพอวันที่เราสามารถพิสูจน์สิ่งที่เค้าเชื่อได้ว่าเป็นเพราะอะไร มาจากอะไร เกิดได้ยังไง เราค่อยอธิบายให้เค้าเข้าใจ จากคุณ : ดุก - [ 7 มี.ค. 50 10:01:16 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เห็นด้วยกับ คห1 ครับ หลักๆ นี่จะเป็นเกี่ยวกับพวกเรื่องผีเป็นหลักมั๊ง สำหรับผมเฉยๆ นะ ผมนับถือแต่พระ (ต้องดีด้วย ไม่ดีก็แค่คนห่มผ้าเหลือง) ตอนนี้ก็อยู่บ้านคนเดียว โกฏป๊ะกับหม่ามี้ก็อยู่ใกล้ๆ ไม่เห็นมีอะไรเลย บางทียังเปิดมาดูกระดูกที่เหลือเล่น แต่คนอื่นที่เหลือไม่มีใครกล้ามานอนด้วยเลยแฮะ 66666 จากคุณ : monjangja - [ 7 มี.ค. 50 10:48:51 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ก็ถูกแล้วครับ เพียงแต่การที่เราบอกว่าไม่เชื่อเพราะไม่มีเหตุผลที่น่าเชื่อ ไม่น่าจะถือว่าเป็นการลบหลู่นะครับ จากคุณ : มังกรใจเย็น - [ 7 มี.ค. 50 10:56:30 ]

ความคิดเห็นที่ 40 อาจารย์แมว อยากโดนลบหลู่ไหมหละ จากคุณ : สมภพ เจ้าเก่า - [ 7 มี.ค. 50 11:10:31 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ชอบความเห้นที่ 37 ครับ.. ผมว่าบางทีเวลาที่ฝ่ายหนึ่งรู้จริง แต่วิธีการและเจตนากลับไปเยาะถากถางฝ่ายที่เชื่อ มันเป็นการเอาชนะกันมากกว่าการให้ความรู้ หรือทำให้เพื่อนมนุษย์รู้และเข้าใจ นี่ผูดถึงในกรณีความเชื่อที่ผิดๆนะครับ ต้องระบุประเด็นกันไว้ก่อน เพราะเร่องของควาเชื่อมีหลายกรณี คนไหนอ่านเกิดเข้าใจผิดจะไปกันใหญ่...แฮ่ม ว่าๆไป นึกถึงหมอสอนศาสนาในสมัยก่อนนะครับ เข้าไปต่างบ้านต่างเมืองค่อยๆใช้เวลาเผยแพร่ความเชื่อของตัวเองที่ละเล็กละน้อย ความรู้สึกของตัวเองเก้บไว้ มุ่งเผยแพร่อย่างอดทนอย่างเดียวค่อยๆซึมไปทีละน้อย นี่ก็กุสโลบายอย่างหนึ่ง จากคุณ : granun - [ 8 มี.ค. 50 01:06:20 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ความเห็นที่ 6 กับ 8 ถูกต้องที่สุดครับ ชัดเจน ส่วนพวกคนงมงายก็มักจะอ้างคำพูดนี้มาใช้บ่อยๆ ก็เป็นอีกเรื่องครับ จากคุณ : EvaAngelion - [ 8 มี.ค. 50 05:41:25 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เห็นด้วยกะ #37 อะ แต่ศรัทธาตรงข้ามกับปัญญาตรงข้ามกัน ผมไม่ค่อยเห็นด้วยนะ หลายคนก็ศรัทธาด้วยมีหลักการณ์และเหตุผลเหมือนกัน ไม่ได้ด้วยความเชื่อตามๆกันไปซะหมด ยกตัวอย่าง ผมศรัทธาพุทธศาสนาเหมือนกันหลายๆคน ผมไม่ได้เชื่อว่าศรัทธาแล้วจะเหาะได้หรือแคล้วคลาด แต่ศรัทธาด้วยเชื่อว่า จะได้ไม่เลือกเดินทางผิดในชีวิต ผมศรัทธาในตัวของผู้ใหญ่หลายๆคนที่ผมรู้จัก เพราะท่านมีอัธยาศัยและวิศัยทัศน์ที่ดี จากคุณ : EastCoast - [ 8 มี.ค. 50 10:33:19 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ศรัทธา อยู่ขั้นสูงกว่าปํญญาครับ ความหลง ถึงจะอยู่ตรงข้ามกับปัญญา เรื่องอิทธิฤทธิ์  ต้นไม้ประหลาด สัคว์สองหัว... นี่เป็นความหลงครับ แต่ศรัทธานี่อธิบายยาก   ประมาณว่าบางสิ่งอยู่ก็ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยปัญญาในปัจจุบัน จากคุณ : จินหยง - [ 13 มี.ค. 50 13:15:07 ]