ความคิดเห็นที่ 1 รูปประกอบ จากคุณ : stereo - [ 23 มี.ค. 50 09:39:07 ]

ความคิดเห็นที่ 2 รูปประกอบ 2 จากคุณ : stereo - [ 23 มี.ค. 50 09:39:32 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อันนี้จริงครับ จากคุณ : Autster - [ 23 มี.ค. 50 10:21:54 ]

ความคิดเห็นที่ 4 แมลงตัวนี้มีสามขา ??? จากคุณ : นายโอ้นโต้น - [ 23 มี.ค. 50 10:32:33 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่จริงครับ ผมโดนกลางหลังแผลน่ากลัวกว่าในรูปเยอะ บางคนโดนที่หน้าเลย สยองมาก ไม่รู้ถ้าเข้าตาจะเป็นยังไงเหมือนกัน จากคุณ : false - [ 23 มี.ค. 50 10:35:54 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เมื่อปีก่อนเคยมีข่าว คนเอามาทอดน้ำมันกินแกล้มเหล้า แล้วตาย จากคุณ : jiewee - [ 23 มี.ค. 50 10:37:17 ]

ความคิดเห็นที่ 7 จริงครับ โห... น๊านนนนน นานน กว่าจะเจอฟอร์เวิร์ดเมลล์ที่เชื่อถือได้ จากคุณ : อะธีลาส - [ 23 มี.ค. 50 11:00:07 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ทีนี้กลัวแต่ของจริง คนจะไม่เชื่ออะสิ 555 จากคุณ : atheist - [ 23 มี.ค. 50 11:04:45 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ก้นกระดกครับ พวกเด็กเกษตรกำแพงแสนโดนกันแยะ จากคุณ : Steeringwheel Father - [ 23 มี.ค. 50 11:16:55 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เอ เหมือนเคยโดนตอนเด็กๆ จากคุณ : Genzo - [ 23 มี.ค. 50 11:28:15 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าเด็กมันรู้ว่าแมลงชนิดนี้มันเอามาทำยาอย่างว่าได้.... สงสัยแมลงจะสูญพันธุ์ หุ หุ จากคุณ : PUFF - [ 23 มี.ค. 50 11:29:26 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เรื่องความเป็นพิษ ถูกต้องครับ แต่ผิดด้านข้อมูล ความจริงแล้วมันคือด้วงก้นกระดก Paederus fuscipesวงศ์ Staphylinidae จริงๆแล้วจัดเป็นแมลงที่มีประโยชน์เพราะเป็นตัวห้ำ ทำลายแมลงศัตรูพืช แต่ด้วยความที่ตัวของมันนั้นมีพิษ มันสามารถสร้างกรดซัลฟูริก สำหรับจัดการกับเหยื่อหรือปล่อยออกมาเมื่อถูกรบกวน ความเข้มข้นของกรด สามารถทำให้เกิดเป็นแผลพุพองได้ แมลงในกลุ่มของก้นกระดก จริงๆแล้วมีหลาย แต่มีเพียงไม่กี่สกุลเท่านั้นที่สามารถทำอันตรายกับมนุษย์ได้ ในขณะที่ทุกชนิดในวงศ์นี้ (Staphylinidae) เป็นตัวห้ำทำลายแมลงที่เป็นโทษอื่นๆครับ แมลงพวกนี้พบได้ทั่วไปครับ ตั้งแต่เหนื่อจรดใต้ ไม่ใช่ว่ามันเพิ่งจะอพยพเข้ามา กทม.ซะเมือ่ไหร่ ส่วนด้วงน้ำมันที่มักมีข่าวว่า มีคนเอามากินแล้วตายนั้น อยู่ในวงศ์ Meloidae เป็นแมลงในวงศ์เดียวกันกับแมลงที่ถูกเรียกว่า แมลงวันสเปน (Spanish fly) Lytta vescicatoriaแมลงกลุ่มนี้มีสาร cantharidine ออกฤทธิ์กระตุ้นประสาท สารนี้ในปริมาณเล็กน้อย สามารถนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ได้ แต่ถ้าได้รับในปริมาณมาก ก็ทำให้เสียชีวิต อย่างที่เป็นข่าวบ่อยๆ สำหรับด้วงน้ำมันในประเทศไทยที่ทำให้คนตายนั้น อยู่ในสกุล Mylabris มีชื่อว่า Mylabris phalerata ชื่อไทยคือ ด้วงน้ำมัน, ด้วงไฟเดือนห้า จริงๆแล้วด้วงน้ำมันในไทยมีหลายชิดและหลายสกุล แต่เนื่องจากมันเป็นแมลงศัตรูพืช จึงพบได้บ่อยกว่าสกุลอื่นๆ ด้วงน้ำมันในสกุลMylabris นี้ พบว่ามีสาร cantharidine ในปริมาณมากกว่าแมลงวันสเปน ในยุโรปตอนใต้เสียอีก แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 50 17:11:09 จากคุณ : กวิวัฏ - [ 23 มี.ค. 50 11:40:54 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อืม..จะจำไว้ค่ะเวลาเจอจะได้อยู่ห่าง..เดี๋ยวโดนกัดเหอะๆ จากคุณ : เอื้องป่า - [ 23 มี.ค. 50 11:51:06 ]

ความคิดเห็นที่ 14 Rove beetles โดยธรรมชาติชอบเล่นแสงไฟนีออนในตอนกลางคืน  และอาศัยในที่ชื้นใกล้แหล่งน้ำ ที่มีพืชปกคลุม จึงมักพบรายงานผู้ป่วยที่ได้รับพิษจากการสัมผัสด้วงก้นกระดก เพิ่มมากขึ้นในช่วงหลังฝนตก หรือระหว่างฤดูฝนถึงฤดูหนาว          โดยปกติ rove beetles หรือ ด้วงก้นกระดกจะไม่กัดหรือต่อยคน  แต่คนจะได้รับพิษจากสารพิษที่ปล่อยออกมาจากตัวของแมลง  เนื่องจากแมลงชนิดนี้ชอบแสงไฟในเวลากลางคืน ดังนั้น ผู้ที่นอนเปิดไฟ  เปิดหน้าต่าง  อาจสัมผัสกับด้วงก้นกระดกและได้รับพิษโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเมื่อเราสัมผัส บดขยี้ บี้ตัวแมลง แล้วมันจะปล่อยสารพิษ ที่มีชื่อว่า Pseudopaederin  และ Paederus ออกมา ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์ทำลายเซลล์เนื้อเยื่อ เมื่อถูกผิวหนังจะอักเสบ แสบร้อน พุพอง บวมแดงได้  ซึ่งสารพิษนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแมลงเพศเมีย โดยด้วงก้นกระดก 1 ตัวจะมีสารพิษอยู่ในร่างกายประมาณ 0.025 % ของน้ำหนักตัว      Paederus  ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นกรดชนิดหนึ่ง เป็นสารพิษจากแมลง rove beetles ที่เป็นที่รู้จักกันมาเป็นเวลานาน ในสมัยโบราณเคยใช้เป็นยาสมุนไพร  รักษาโรคผิวหนังบางชนิด เช่น ในประเทศจีนใช้รักษา จี้ หัวฝี ริดสีดวงจมูก  กลาก เป็นต้น     อันตรายจากการสัมผัสสาร  Paederus    มีตั้งแต่ อาการเล็กน้อย คือ  ผื่นแดง  แสบร้อนผิวหนัง  อาการปานกลาง  เป็นผื่น  บวมแดง แสบร้อนผิวหนัง   เป็นภายใน 24  ชม. หลังสัมผัส  และเริ่มมีแผลพุพองภายใน 48 ชั่วโมง  แผลอักเสบจะขยายใหญ่ขึ้น และแห้งเป็นสะเก็ดภายใน 8 วัน  อาจมีแผลเป็น หลังจากนั้นผิวหนังจะค่อย ๆ สร้างเม็ดสีขึ้นมาใหม่ ซึ่งอาจใช้เวลาเป็นเดือนหรือมากกว่า  ในรายรุนแรง มีคล้าย ๆ กับอาการปานกลาง แต่การสัมผัสหรือได้รับสาร Paederus รุนแรงมากกว่า  และเป็นแผลอักเสบหลายแห่ง อาจมีอาการไข้ ปวดเส้นประสาท กล้ามเนื้อ  อาเจียน  ร่วมด้วย  และเป็นผื่น บวม แดง ติดต่อกันหลายเดือน      การรักษา    คำแนะนำในการรักษาทั่วไป   ได้แก่   ให้ยา steroids, antibiotics  และทำแผล ฯลฯ  บริเวณที่สัมผัสสารพิษทำความสะอาดด้วยน้ำและสบู่  ประคบด้วยน้ำเย็นประมาณ 5 - 10 นาที แล้วเป่าให้แห้ง  และทาครีมเพื่อป้องกันการติดเชื้อ จากคุณ : pcool - [ 23 มี.ค. 50 12:03:18 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อืม นี่สิ ข้อมูลจริงๆ จากคุณ : นายโอ้นโต้น - [ 23 มี.ค. 50 12:13:41 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สมัยเรียน ไป ตจว เพื่อนเรียกแมลง"บ้านนอก" เห้อ เอากะมันสิ แต่ยืนยันครับว่าแผลน่ากลัวมากอย่างที่เห็น จากคุณ : Kawpod - [ 23 มี.ค. 50 12:57:18 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ผมเคยไปเหยียบแมลงอะไรก็ไม่รู้ด้วยเท้าเปล่า ฝ่าเท้าไหม้ปวดแสบปวดร้อนหลายวัน จากคุณ : กลีเซอรินเทียนแท่ง - [ 23 มี.ค. 50 12:59:54 A:58.8.101.85 X: TicketID:125408 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ในสวนลุมเคยพูดถึงแมลงตัวนี้นะคะ  มีคนโดนหลายคนเหมือนกัน จากคุณ : -->+:+โชยุ&วาซาบิจัง+:+<-- - [ 23 มี.ค. 50 13:19:58 ]

ความคิดเห็นที่ 19 นี้มัน ตัวก้นกระดกนี้นา มก. กำแพงแสนเพียบเลย จากคุณ : จุ๊บยางเป็ดน้อย - [ 23 มี.ค. 50 13:26:40 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คุณจุ๊บยางอยู่กำแพงแสนเหรอคับ สงสัยเราจะเคยเดินสวนกัน จากคุณ : กวิวัฏ - [ 23 มี.ค. 50 13:32:00 ]

ความคิดเห็นที่ 21 แมลงก้นกระดกค่ะ เคยมีกระทู้อยู่ที่สวนลุมช่วงนึง มีคนเข้ามายืนยันว่ามีจริง โดนมาแล้วเป็นสิบๆ คนเลย ทั้งจากกทม. และต่างจังหวัด โดยเฉพาะเด็กมก. กำแพงแสน หรือเด็กม.ที่มีต้นไม้เยอะๆ จะโดนกันมาก ตัวเองเคยโดนเหมือนกันแต่ไม่เห็นตัวเลยไม่แน่ใจว่าใช่รึเปล่า แผลไม่ร้ายแรงเท่าคนอื่นด้วย โดนตอนไปงานรับปริญญาที่มศว.องครักษ์ ไม่เห็นตัว อีกทีก็เห็นแผลที่ข้อมือแล้ว คันมากๆ ถ้าเผลอเกา หรือแผลมันแตกนะ ยิ่งลามเลย ตอนนั้นเอายาพวก BetC ทาอยู่หลายวัน ถึงทุกวันนี้ยังมีแผลจางๆ อยู่เลย จากคุณ : แมวน้อยสีน้ำตาล - [ 23 มี.ค. 50 15:07:44 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เคยโดนมันกัดแล้ว เป็นเหมือนเริมเลย ตอนนั้นโคตระระอายอย่างมาก แถมปวดแสบปวดร้อนด้วย แต่มันนานมาแล้วอ่ะ ตอนนั้นยังเป็น นศ. อยู่ แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 50 15:29:26 จากคุณ : catpantang - [ 23 มี.ค. 50 15:25:16 ]

ความคิดเห็นที่ 23 #20 สวัสดีครับอาจารย์ -/l\-" จากคุณ : จุ๊บยางเป็ดน้อย - [ 23 มี.ค. 50 15:44:31 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เคยโดนกัดเหมือนกันค่ะ สมัยอยู่หอ เจ็บมาก แผลเป็นหลุมด้วย แต่พอหายก็โชคดีที่ไม่มีแผลเป็นจ๊า จากคุณ : zagiya - [ 23 มี.ค. 50 15:58:35 ]

ความคิดเห็นที่ 25 # 23 ผมไม่ใช่อาจารย์นะคร้าบบบ  T-T จากคุณ : กวิวัฏ - [ 23 มี.ค. 50 17:12:53 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ผมเป็นแผลเป็นที่แขน ก็ไอ้เจ้าตัวนี้ล่ะ  จำได้ตอนอยู่คอนโดเมืองทอง แผลมันพุพองเร็วมาก กำลังคุยกับเพื่อนอยู่สักพัก เอ๊ะทำไมแขนมันตึงๆ คันๆ สักพักขึ้นตุ่มพองเหมือนโดนน้ำร้อนลวกเลย ปวดแสบปวดร้อนมาก  รุ่งขึ้นไปหาหมอที่โรงพยาบาล หมอบอกว่าไปแพ้อะไรมา ผมก็บอกว่าไม่รู้  กลับมาที่ห้องก็เจอซากแมลงที่ว่านี่ล่ะ จากคุณ : rbko - [ 23 มี.ค. 50 17:17:38 ]

ความคิดเห็นที่ 27 1 ใน 2% -_-'' จากคุณ : Dont Be Serious - [ 23 มี.ค. 50 17:18:20 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เคยเป็นแผลที่ขาเมื่อนานมาแล้ว แผลคล้ายๆในภาพเลย ไม่รู้ไปโดนอะไรมา กว่าจะหายก็นานมาก สงสัยจะโดนไอ้ตัวนี้แอบซุ่มโจมตีรึป่าวหว่า - -? จากคุณ : ม่อน (bodin) - [ 23 มี.ค. 50 17:21:40 ]

ความคิดเห็นที่ 29 จึ้ยยยย ไม่เคยเห็นเลยครับ น่ากลัวแหะ จากคุณ : คนข้างๆ - [ 23 มี.ค. 50 17:24:06 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ระวังกันด้วยนะ เพื่อนเราโดน นานเลยกว่าจะหาย จากคุณ : MinIEs - [ 23 มี.ค. 50 22:03:18 ]

ความคิดเห็นที่ 31 มันสร้างกรดได้ แล้วตัวมันเป็นเนื้อเยื่อแบบไหนอะครับ ถึงทนอยู่ได้ หรือเป็นญาติกับเอเลี่ยนหง่ะ - -* จากคุณ : oro - [ 23 มี.ค. 50 23:32:55 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ^ ^ กระเพาะสร้างกรดได้ แล้วตัวมันเป็นเนื้อเยื่อแบบไหนอะครับ ถึงทนอยู่ได้ หรือเป็นญาติกับเอเลี่ยนหง่ะ - -* /me เผ่นก่อน จากคุณ : มูแอน - [ 24 มี.ค. 50 01:38:44 ]

ความคิดเห็นที่ 33 แมลงก้นกระดก นี้ นา เคยได้ข่าว มา  เป็น 10 ปี เพิ่งเคยเห็นตัว จากคุณ : mr.wisdom - [ 24 มี.ค. 50 11:12:11 ]

ความคิดเห็นที่ 34 http://topicstock.pantip.com/lumpini/topicstock/2006/12/L4960421/L4960421.html http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2006/07/X4512871/X4512871.html เอามาฝากครับ จากคุณ : otto (otto) - [ 24 มี.ค. 50 23:40:49 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณคนตอบทั้งหลายครับ จะได้จำเอาไว้ อืม....อ่านะ จากคุณ : คุณชายอ่านะ - [ 25 มี.ค. 50 11:55:57 ]

ความคิดเห็นที่ 36 จริงครับผมเคยโดนกรดของมันแล้ว หนังไห้มแล้วก็ลอกเลย นานเป็นอาทิตย์กว่าจะหาย จากคุณ : oni chi - [ 25 มี.ค. 50 22:56:44 ]