ความคิดเห็นที่ 1 เงินของเค้า หง่ะ บ้าอะไรก็ใจรักเหมือนกันแหละ จากคุณ : caznov - [ 30 มี.ค. 50 19:21:50 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ผมก็ใช้เครื่องเสียงชุดละเป็นแสน ทุกชิ้นตอนนี้อายุเฉลี่ย 15 ปี ผมก็พอใจและได้ความลงตัว ไม่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ แบบไม่รู้จบ ทุกอย่างมีความพอดีและลงตัวอยู่ที่จุดหนึ่ง ถ้าคุณเคยฟังเครื่องเสียงชุดละแสนเทียบกับชุดละไม่ถึงหมื่นหรือแม้แต่ชุดละ 2-3 หมื่น ปิดตาฟังก็รู้ว่าฟังจากเครื่องไหน แต่พวกที่บ้าสายเมตรละหมื่น ลำโพงคู่ละเป็นล้าน แบบนั้นผมก็ว่าเพ้อเจ้อ เพราะผมก็เห็นว่าถ้าปิดตาแล้วให้บอกความแตกต่างระหว่างสายธรรมดาคุณภาพปานกลางกับสายเมตรละหลายพันถึงเกือบหมื่นผมก็ฟังไม่ออก ส่วนลำโพงอาจฟังออกเพราะสไตล์เสียงมันอาจจะต่างกันจนแยกได้ ไม่ใช่ต่างที่คุณภาพอย่างเดียว แต่ไม่ใช่ว่าลำโพงแพงๆจะดีกว่าลำโพงที่ราคาต่ำกว่าเสมอไป แล้วก็อย่าเอาไปเทียบกับลำโพงชุดมินิคอมโปทั้งหลายซึ่งคุณภาพมันต่างกันอยู่แล้ว จากคุณ : freefeel - [ 30 มี.ค. 50 19:21:54 ]

ความคิดเห็นที่ 3 "จะบ้าอย่างอื่นก็ไม่เป็นไรเพราะสามารถรู้สึกได้" ก็เขารู้สึกได้ถึงเสียงไงครับ คุณยังเข้าไม่ถึง นี่เป็นคำตอบที่คนกลุ่มหนึ่งคนตอบแบบนี้ แล้วแต่ยี่ห้อ Spec ที่ design กันนั้น Product ออกจากไลน์การผลิต เช็คกราฟที่ได้ ต้องเหมือนตัว ต้นแบบ อยากฟังเพลง ออกจากไลน์ก็เอาเข้าตู้ เปิดเพลงฟังกันได้เลย แต่หูทองทั้งหลายบอกว่า ต้องเปิดทิ้งไว้กี่วันกี่คืนก็แล้วแต่ เพื่อ Runin มันก่อน เสียงจะได้อยู่ตัว ตัวอย่างที่ยกมานี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของความเข้าใจแต่ละบุคคล แต่สำหรับผมแล้ว ยิ่งร้อน ยิ่งสงสาร Voice Coil สงสาร Bobbin หรือแม้แต่ตัว Edge ที่ต้องขยับอยู่ตลอดเวลา คนทำของพวกนี้ขาย เขาไม่ได้แค่ทำออกมาแค่ขายๆนะครับ กลไกการตลาดมันซับซ้อนมาก พวกหูทองที่คุณว่า เป็นหนึ่งในกลไกการตลาดหรือเปล่า ============================= ลำโพงระดับโลก บางตัวอยู่ในรถสปอร์ตยุโรป หนึ่งในนั้น คนไทยดีไซด์นะครับ ============================== จากคุณ : เรื่องจริงผ่านจอ - [ 30 มี.ค. 50 19:23:40 A:125.25.152.229 X: TicketID:038237 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ทำไมคำพูดที่โพส มันแหว่งไปมาอ่ะ อ่านไม่รู้เรื่องเลย จากคุณ : ขี้เกียจแก้แล้ว - [ 30 มี.ค. 50 19:25:23 A:125.25.152.229 X: TicketID:038237 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เดี๋ยวนี้เขาฟัง Zune กันหมดแล้วครับ ... จากคุณ : WERRIBEE - [ 30 มี.ค. 50 19:35:03 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ผมก็เป็นคนนึงที่รำคาญพวกหูแพลทินัมนะ แต่มันก็เป็นความสุขของเค้าอ่ะเนอะ สำหรับผมฟังออกแค่เสียงดีที่สุด กับแย่ที่สุด อันนี้จะแยกได้ แต่ถ้าไล่ระดับมาอันนี้จะแยกไม่ออก ปัจจุบันใช้ลำโพง 2.1 ราคา 750 บาท ก็พอใจแล้ว ของพี่ชาย 1,500 บาท ก็ดีกว่าผมเยอะ แต่ถ้าแพงกว่านี้ทั้งผมและพี่ชายเริ่มแยกไม่ออกว่า เสียงนุ่ม เสียงดีมันเป็นยังไง เหอๆๆๆ จากคุณ : อิฐมอญ - [ 30 มี.ค. 50 19:54:23 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ความสุขของเขา  อย่าไปยุ่งกับเขาเลย ผมเคยเห็นคนที่ยอมทุ่มเงินเป็นหมื่น ๆ เพื่อจะได้ฟังเสียงกริ๊กใส ๆ จากลำโพง บางทีก็เห็นเขานั่งจับผิดเสียงตรงนั้น ตรงนี้  ก็อืม...ปล่อยเขา จากคุณ : jedi-jaidee - [ 30 มี.ค. 50 20:35:52 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ผม ก็ ว่างั้น ความสุขของเค้า เงิน ของเค้า ก็ว่ากันไป ผมใช้ SAAG 2.1 ราคา 550 บาท แม่ อยู่ชั้น 2 ผมอยุ่ชั้น 4 แม่ก็ ขึ้นมาด่าแล้ว เบสแน่น พอควร แหลม กลาง ใช้ได้ จากคุณ : Mr.Kito - [ 30 มี.ค. 50 20:40:03 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ฮู้ย มันมีความสุข เสียงบางเสียงฟังจากเครื่องเสียงธรรมดา มันไม่ได้ยิน ไม่รู้ว่า มี พอไปฟังจากพวกนั้นนะ ฮู้ย มาจากไหนก็ไม่รู้ ฮู้ย เหมือนคนสายตาสั้นสักห้าร้อย แล้วได้ใส่แว่นตาครั้งแรก ยังไงยังงั้น ฮู้ย ฟังของชาวบ้านนะ ตัวเองมีแต่มินิ ถ้ามีตังคงเอาบ้างเหมือนกัน จากคุณ : หงสาวดี - [ 30 มี.ค. 50 20:47:20 ]

ความคิดเห็นที่ 12 หูพาเสียตังค์ จากคุณ : PHLIU - [ 30 มี.ค. 50 20:58:23 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ผมยังใช้สายลำโพงดำแดงเมตรละบาทอยู่เลย จากคุณ : platalay - [ 30 มี.ค. 50 21:11:23 ]

ความคิดเห็นที่ 14 นั่นสิ ผมก้อว่าอยู่ ทำไม๊ต้องซื้อรถคันละเป็นสิบล้าน ในเมื่อคันละ ครึ่งล้านมันก้อพาไปถึงจุดหมายเหมือนกัน ยิ่งรถติดๆในกทม.ด้วยเนี่ย ไม่เห็นจำเป็นต้องใช้รถแพงเลย รถเล็กๆประหยัดกว่าด้วย  เกี่ยวกันมั้ยเนี่ย!!!! จากคุณ : เดอะไรท์ - [ 30 มี.ค. 50 21:21:24 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เพิ่มเติมนิด  จขกท ไม่งงเหรอครับ ทำไมโรเล็กซ์ถึงได้ขายดิบขายดี ในเมื่อ 199 ก้อบอกเวลาตรงเหมือนกัน จากคุณ : เดอะไรท์ - [ 30 มี.ค. 50 21:22:19 ]

ความคิดเห็นที่ 16 การจัดวางลำโพง กับไม่จัดวางตำแหน่งลำโพง มีผลต่อทิศทางเสียงและความรู้สึกรับรู้การได้ยินเยอะอยู่นา คอมของผมระบบเสียงยังแพงกว่า การ์ดจออีก เพื่อนผมมันก็ด่า ซาวน์ออนบอร์ดกับ audigy ไรพวกนี้ เสียงไม่เห็นต่างกัน ไม่รู้นะ ผมว่ามันต่างกันอ่ะ = =' (เพราะได้ลองฟัง ถึงซื้อมา).... จากคุณ : S e m a k u t e k ! (เจ้าพ่อSemakutek) - [ 30 มี.ค. 50 21:30:53 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เคยฟังคนเล่นพระเครื่องเขาอธิบาย เราก็คิดอย่างคุณ สรุป...คือสุนทรีย์ศาสตร์...เมื่อไม่เข้าใจก็ไม่ควรว่าเขาเพ้อเจ้อ...แค่นั้น จากคุณ : DangDame - [ 30 มี.ค. 50 21:31:12 ]

ความคิดเห็นที่ 18 น้องๆ หลายท่าน ที่ไม่เคยไปนั่งฟังเอง สัง 2-3 ชม. ใน Studio คงไม่รู้หรอก ว่า เครื่องเสียงธรรมดาแบบที่บ้านผมและท่านทั้งหลายมี มันให้มิติและความชัดลึกแตกต่างกันมาก..ก..ก..ก.. บ้านผมก็ไม่มี แต่เคยไปฟังหลายๆ ครั้ง และให้เสียงที่ น่าฟังแบบสบายอารมณ์ กว่าเครื่องธรรมดาเยอะ จึงเกิด พวกหลงใหลในเสียงที่ต้องการเสียงเป็น ธรรมชาติจริงๆ อย่างพวกนั้น ที่เห็นใน VCD อย่างน้อยผมก็ยอมรับคนหนึ่ง ว่า เมื่อได้ฟัง ตั้งใจว่า ถ้าตังเยอะ (สัก 50 ล้าน+) และมีเวลาว่าง เยอะ อย่างคนบางกลุ่มตาม จขกท. ผมคง ซื้อชุดเครื่องเสียง Hi-End พร้อมลำโพงที่ซื้อรถเก๋งได้ 1 คัน มาฟังที่บ้านจริงๆ สักชุด เพราะมันไพเราะจริง ฝาก จขกท. ลองไปเข้า Studio ของ บริษัท มหาจักร ฯ ฝ่ายเครื่องเสียงดู อาจจะเปลี่ยนความคิดก็ได้.. หรือ  Studio ของลำโพง BOSE USA ก็ได้ อยู่แถวสี่พระยา  โอ้ว จ๊อส มัน..... แตกต่างกันจริงๆ จากคุณ : sumalai_computer - [ 30 มี.ค. 50 21:38:51 ]

ความคิดเห็นที่ 19 "ผมไม่เห็นว่ามันจะต่างกันตรงไหนเลย" พอดี พวกนั้นเค้าเห็นความแตกต่าง และพร้อมที่จะจ่าย และก็คิดว่ามันคุ้มกับเงินที่เสีย คุณไม่เห็นแสดงว่หูคุณยังไม่ถึงไง เหอะๆๆๆ ผมก็หูทอง(เหลือง)  แบบว่างบน้อย ฟังของดีๆแล้วมาฟังของห่วย หงุดหงิดขึ้นมาทันที จากคุณ : Sympho - [ 30 มี.ค. 50 21:44:45 ]

ความคิดเห็นที่ 20 1. เขามีเงินเหลือ 2. บางทีมันเป็นความสุข ที่ได้แยกแยะสิ่งเล็กๆน้อยออก จากคุณ : น้องหมาตัวนั้น - [ 30 มี.ค. 50 22:24:00 ]

ความคิดเห็นที่ 21 อืมม... ท่าทางเจ้าของกระทู้จะเป็นคนโชคดีนะ ถึงได้ไม่เข้าใจความรู้สึกของคนที่ต้องหาความสุขจากการฟังอ่ะนะ จากคุณ : Catwater (Catwater) - [ 30 มี.ค. 50 22:44:56 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ...พวกเก่งจริง ฟังออกก็เยอะ พวกมั่วๆ ก็มี ...คุณภาพกับราคา จะคล้ายสเกล log ยิ่งแพงระยะห่างยิ่งแคบ ...คนเล่นเครื่องเสียงมักอยู่กับบ้าน ดูหนังฟังเพลง ความสุขของครอบครัว มีค่ากว่าราคานัก จากคุณ : จ่ายไปเถอะ... (SoundForce) - [ 30 มี.ค. 50 22:52:18 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เขาเอาไว้คุยข่มกันน่ะครับ.... จากคุณ : เด็กน้อยขี่ม้าก้านกล้วย - [ 30 มี.ค. 50 22:54:43 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เจ้าของกระทู้ชอบเรื่องอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า ลองโพสต์มาให้ฟังหน่อยสิ อาจมีคนมาวิจารณ์ว่าชอบไปทำไมกันมันไม่เห็นจะมีอะไรเลย จากคุณ : T7Promoter - [ 30 มี.ค. 50 23:21:20 ]

ความคิดเห็นที่ 25 แล้วคุณเคยไปเที่ยวผับหรือร้านอาหารที่เปลิดเพลงป่ะครับ ทำไมเค้าไม่เอาวิทยุเครื่องละไม่กี่พันมาเปิด จากคุณ : . (tepleela24) - [ 30 มี.ค. 50 23:23:17 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ผมก็ไม่ได้ฟังมามากหรอกนะครับ แต่ลำโพงแต่ละแบบ มันก็ให้เสียงที่ต่างกันจริงๆ เคยไปพร้อมเพื่อนมันจะซื้อเครื่องเสียงไปลองฟัง อืมม มันก็ ok นะ เสียงแหลม เสียงเบส มันขับมาออก กลมกลืนกัน นุ่มๆดี ส่วนตัวผมเหรอ 2.1 990 ก็พอแล้วว ถ้าเครื่องเสียง ก็ 5.1 ชุดละ 3000 กว่าบาท เท่านี่ก็เปิดได้ไม่สุดแล้ววว ข้างห้องด่าตาย จากคุณ : คนข้างๆ - [ 30 มี.ค. 50 23:28:11 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ความเห็น15 เปรียบเทียบกันไม่ได้หรอกครับ คนซื้อRolex เพราะมันจะมีอิมเมจอีกแบบจากราคา199 แต่พวกลำโพงเค้าไม่ได้ห่วงอิมเมจนิครับ จากคุณ : Nutonline - [ 30 มี.ค. 50 23:33:01 ]

ความคิดเห็นที่ 28 http://www.behindxtreme.com/benchmarks/2002/03/20020317/20020317.html http://www.behindxtreme.com/articles/2002/08/20020817/20020817.html http://www.behindxtreme.com/articles/2002/10/20021016/20021016.html http://www.behindxtreme.com/articles/2003/03/20030307.html http://www.behindxtreme.com/articles/2005/20050706.html เคยเจอลิงค์ในพันทิปนี้แหละ พูดเกี่ยวกับพวกหูทองได้น่าสนใจ จากคุณ : mAbbuS - [ 30 มี.ค. 50 23:37:07 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ความจริง ต้องถามว่าชุดละล้านบาท ได้ฝังคุ้มไม๊ ถ้าเห่อเป็นพักๆ ซื้อเสียดาย เงิน คนบ้านเราบางคนเล่นเครื่องเสียงโดยไม่ศึกษา เห็นเพื่อนซื้อก็ซื้อมั่ง เพิ่ม โน้นเพิ่มนี้รวมแล้วปาเข้าไปเป็นล้าน ที่แย่ที่สุดก็คือ เอามาโชร์เพื่อน ไม่ได้เปิดฟัง สุดท้ายขายทิ้งหมด ซื้อมินิคอมโปรมาฟัง สบายใจ ครับ แก้ไขเมื่อ 30 มี.ค. 50 23:43:07 จากคุณ : บลูเรย์ - [ 30 มี.ค. 50 23:42:30 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ผมเคยฟังเครื่องเสียงชุดละ2ล้าน มิติของเสียงนั้นสุดยอด มหากาฬมาก เสียงมดตดยังได้ยิน แหะๆโม้ไปเรื่อยอ่ะครับ จากคุณ : หมวย เรเควี่ยม - [ 30 มี.ค. 50 23:55:47 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ได้ยินว่าจะเล่น guitar เพลงของ Jimi Hendrix ต้องใช้ลำโพงชาวนา จึงจะได้สำเนียงแท้ๆ แก้ไขเมื่อ 31 มี.ค. 50 00:30:16 จากคุณ : น้องหมาตัวนั้น - [ 31 มี.ค. 50 00:29:58 ]

ความคิดเห็นที่ 32 กล้องตัวละสองแสนยังขายได้เลยครับ จากคุณ : เชื่อผมเหอะ แล้วดีเอง - [ 31 มี.ค. 50 01:00:05 ]

ความคิดเห็นที่ 33 คุณฟังไม่ออก คุณก็ไม่เข้าใจหรอก อย่างถ้าให้ผมฟังเพลงลำโพงคอม คู่ละ500ผมนั่งดีดกีต้าร์ร้องเองดีกว่า แต่ผมก็พอใจเครื่องเสียงที่ผมมีอยู่ตอนนี้ ซึ่งไม่ได้เทพอะไร รวมทกอย่างทั้งสายสัญญาณแล้วราคาประมาณ80,000ผมก้พอใจแล้ว ถามว่าผมฟังพวกที่สูงกว่านี้ออกมั้ย ก็ฟังออกน่ะ แต่รู้สึกว่ามันเกินตัว ในเมื่อคุณไม่รู้ศาสตร์นั้นๆคุณก็ไม่ควรไปด่าเค้า cpu 2ghzกะ2.5ghz คุณอาทำออฟฟิศก็ไม่รู้ความต่าง แลมโบกินี่640แรงม้ากะ2j-gteแต่งบ้านๆ700แรงม้า คุณไม่เคยแต่งรถคุณก็แยกไม่ออกหรอก เอาplasma กะ lcdไปให้ คนเมื่อ50ปีที่แล้วดู เค้าก็แยกไม่ออกหรอก ในเมื่อมนุษย์มีความโลภ มีกิเลศ ให้มีของดียังไงก็ไม่มีวันพอหรอก ยังไงก็ไม่มีวันจบ คนจนก็กลุ้มไม่มีข้าวกิน คนรวยก็กลุ้ม เบื่อ มีแต่ร้านเดิมๆกิน คนบางคนมีเงินสดๆ72000กว่าล้าน ยังหาเรื่อง เล่นเกมส์ ทำร้ายประเทศที่เคยให้ที่ซุกหัวนอนอยู่ทุกวันนี้เลย จากคุณ : roninkung (Roninkung) - [ 31 มี.ค. 50 01:26:34 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ผมว่าจะตำหนิต้องแยกดีๆนะครับ 1ถ้าพวกหูทองจริง ทำอาชีพนี้มาเป็น20-30ปี ฟังเสียงจนเชี่ยวชาญ คนพวกนี้ก็สมควรที่จะบ้าเครื่องเสียงดีๆ มันเป็นอาชีพครับ - 2แต่ถ้าคนหูทองปลอมๆ นี่สิครับ สมควรโดนด่าว่าโง่ครับ พวกหูทองปลอมๆมีเย๊อะครับ ที่จริงตัวเองก็ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องหรอกครับ แต่ยอมจ่ายเงินเป็น หลายๆแสนก็มีครับ หลอกตัวเองไปวันๆ ว่าฟังเก่ง - - ปล. พวกหูทองมืออาชีพ ก็มีรายได้จากการหลอกขายให้พวกหูทองปลอมๆครับ จากคุณ : อาจารย์แมว - [ 31 มี.ค. 50 01:47:27 A:203.188.8.24 X: TicketID:137077 ]

ความคิดเห็นที่ 35 มันเป็นเรื่อง ค่าการตลาดและ ระดับรายได้ของผู้ซื้อ.... คิดว่า ลำโพงเทพ ต้นทุนจริงๆ มันเท่าไหร่...ล้าน....สองล้าน....หรือ 4-5 พัน..... จะมีสักคนไหม ซื้อของมาแล้วไม่บอกราคา หรือ บอกราคาต่ำกว่าความจริง....ซื้อมา แสนสอง บอก สองพันห้า..... คนใช้รถแพง ก็เป็นการแสดงออกทางสังคม ว่าเขา มีเงิน....แต่ไม่ใช่คนรวยทุกคนจะทำแบบนั้น.... มันก็แค่การใช้เงินเสพความสุขเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรมากกว่านี้เลย เครื่องสำอางค์ เช่น โลชั่นเทพขวดละ 8000 บาท แต่ต้นทุนผลิตจริง 250 บาท ก็มีถมเถไป....แต่ เขาขายให้คนมีเงินซื้อ ไม่ได้ขายให้ชาวบ้านซื้อ ทั้งๆที่ "คุณภาพ" กับ "ราคา" มันไล่ไม่ทันกัน คนรวยมักจะคิดว่าใช้ของแพงแล้วจะทำให้ตัวเองดูดีขึ้นในสังคม สังเกตุพวกเทพที่ว่ามา จะไม่เคย พอใจ หรือ พอดี ซักที..จะไคว่คว้าหาของ"สุดยอด" มาเก็บไว้..... จากคุณ : น้ำปลาเดือนห้า - [ 31 มี.ค. 50 01:57:32 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ถ้าไม่เบียดเบียนใครผมเฉยๆนะ เรื่องของเค้า เพราะที่จริงคนเราต้องการแค่ปัจจัยสี่ นอกนั้นก็ต่างตอบสนองกิเลสทั้งนั้นแหละ อยู่ที่คุณเข้าใจกิเลสของเค้าหรือเปล่าว่าอยากอวดบารมี หรืออยากเสพจริงๆ ก็แค่นั้น จากคุณ : Dr.slump - [ 31 มี.ค. 50 02:19:22 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ลำโพงไม่ค่อยสนเท่าไหร่ สนที่อัดเสียงแบบพกพาที่อัดเสียงช่วง 0-200,000 Hz จากคุณ : silverspider - [ 31 มี.ค. 50 02:25:30 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ที่คุณฟังไม่ออกก็เพราะคุณไม่ได้สนใจด้านนั้นไงครับ อะไรก็ตามที่เราไม่สนใจ มัีนจะเหมือน ๆ กันหมด เช่นไม่สนใจเรื่องภาพ มีคนมาเปิด VCD DVD หรือ Hi-def ให้ดูก็แยกไม่ออก ไม่สนใจเรื่องกล้อง กล้องอะไรถ่ายมาภาพก็เหมือนกันหมด มิติชัดลึกไม่เคยสนใจ ไม่สนงานศิลปะ งานทุกชิ้นมันก็เหมือน ๆ กัน บางชื้นไม่เห็นจะสวยเลย แต่ทำไมแพงจัง ไม่สนใจเสื้อผ้า กระเป๋า ดูยังไงก็ไม่ออกว่ามันสวยยังไง ไม่สนใจด้านอาหาร ไม่ว่าวัตถุดิบจะดีแค่ไหน คุณก็ไม่สังเกต อีกทั้งยังปรุงรส/จิ้มซอสจนได้ลิ้มรสรสซอสมากกว่ากลิ่นรสแท้ ๆ ไป ไม่สนใจไวน์ ไวน์ผลิตจากที่ไหน ปีไหนก็แยกไม่ออก เรื่องเสียงก็ไม่ต่างกัน คนที่รักเรื่องเสียง เค้าสามารถจดจำแต่ละท่อนของเพลง ฟังแยกถึงเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นที่เล่นผสานกันเลยที่เดียว ส่วนหูทองเปลวอย่างผมที่ชอบเสียงดนตรีแต่ก็ไม่ได้เล่นของหรูอะไร ที่เคยฟังตามประสบการณ์จะพบว่า ชุดเครื่องเสียงธรรมดาเวลาเจอเครื่องดนตรีเยอะ ๆ หรือเจอบางช่วงความถี่ เสียงมันจะออกสั่น ๆ รายละเอียดเสียงจะหายไป แต่ถ้าลำโพงดี ๆ เสียงมันยังมีมิติครบถ้วนดี รวมไปถึงซัฟวูฟเฟอร์ที่นุ่มลึกแบบโรงหนัง ไม่ได้ดังตึบ ๆ แบบงานวัดจนแน่นอกขี้หูเต้นระบำเกินไป แต่ไม่ถึงกับมานั่งฟังรายละเอียด loss ของสัญญาณจากสายต่อ หรือ แอมป์หลอดใหญ่หลอดเล็กหรอกครับ ก็อย่างว่า.. หูทองแบบ nonsense ก็มีนะครับ ไม่ขอเอ่ยถึงละกัน เพราะมันก็เหมือนกับสิ่งอื่นด้วยเช่นกัน เช่น นักชิม นักวิจารณ์ อะไรทำนองนั้น รสนิยมแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ จากคุณ : noraneko - [ 31 มี.ค. 50 02:52:41 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ฟังแล้วชอบ....ถ้าราคาพอรับไหวก็ซื้อครับ ถ้าเปนล้านๆก็ไม่ไหว - -'' แต่พวกนี้บางทีมันก็เปนของประดับบ้านชิ้นนึงที่ทำให้ดูมีระดับนะครับ อย่างเช่นของ B&O ก็จะพบเหนได้เปนของประกอบฉากในหนังหลายๆเรื่องนะ .... จากคุณ : solvonou (solvonou) - [ 31 มี.ค. 50 03:08:26 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เครื่องเสียงราคา 1 ล้าน ต้นทุน ค่า วัจัย + วัสดุ การผลิต รวมๆ กัน อาจอยู่ที่ ประมาณ 6 แสน ที่เหลือเป็น แบรนด์ บริการหลังการขาย จิปาถะ   - - - ราคาขาย มากกว่าต้นทุน กระเป๋าหลุย - ทุนอาจแค่ 1500-2500 ขายซะ 5 หมื่น ศพหมา!เจิงๆ- คุ้มมั้ย ไม่ไหว จน, ต่อให้รวยก็ไม่ซื้อ เกิดมีลูกแล้วลูกมันไปซื้อ แหมะๆๆ จะตบกบาลแยก คอมพิวเตอร์ - ทุนไม่แพง เพราะทำเยอะ แต่คุ้ม สร้างประโยชน์ หาความรู้ได้ ดูหนังโป๊ก็ยังได้ - - คุ้มมั้ย, คุ้ม หมอนวด ระดับ A กว่าพ่อแม่เค้าจะเลี้ยงลูกโต ขึ้นมาให้สวยๆ กว่าจะ  ..... บลาๆๆๆ แต่ เราๆ ก็ จ่ายไป 2500 - - - คุ้มมั้ย? แล้วแต่บุคคล สำหรับผม อิอิ รักครอบครัว จากคุณ : มู้ดดี้ แม้ดอาย - [ 31 มี.ค. 50 08:47:30 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ถ้าไม่ได้มีความรู้ศาสตร์ นั้นๆ อย่าเจ๋อ ครับ อย่าเสือ.. ด้วย ครับ เห็นมาหลายท่านแล้วที่ไม่ได้มีความรู้ด้าน ศาสตร์นั้นๆ แล้วไป เจ๋อ วิจารณ์ ทั้งที่ตัวเองไม่ได้มีความรู้ เอาเรื่องง่ายๆ ทราบไหมว่า ข้ามหอมมะลิ กิโลละ 320 ต่างจากข้าวหอมมะลิที่ขายตามห้างยังไง รูปวาดของอาจารย์เฉลิมไทย ต่าง จากรูปวาดของ เด็กที่เพิ่งวาดรูปใหม่ๆ ยังไง ศาสตร์และศิลป์ ของคุณ ถึงหรือยังครับ ที่มากพอจะไปวิจารณ์ หงายหลังมาแล้วหลายคน แล้วกระทุ้ที่เขา ด่า หูทอง ในกระทู้ #28 คือสมาชิกท่านหนึ่งที่เคยไปสร้างเรื่องที่ห้องมาบุญครอง ครับ เรื่อง ATOM EXAC  ให้ข้อมูลประกอบการพิจารณาไว้ครับ ปล. บ้านผมใช้ลำโพงคู่ละ 750 เพราะผมชอบฟังทำนองและเสียงร้องมากกว่า มิติเสียง ครับ แต่สำหรับเรืองที่ผมมีความรู้เชี่ยวชาญจริงๆ  ของบางอย่าง อุปกรณ์ ราคา แพงมากๆ ครับ ทั้งที่มีของราคาไม่กี่พัน ขาย จากคุณ : moojiw - [ 31 มี.ค. 50 09:27:26 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ผมสามารถใช้ ***ปลายนิ้ว*** ของผมแตะพื้นโต๊ะประชุม แล้วรับรู้ความสั่นสะเทือนของเสียงคนพูด ระดับที่แยกแยะว่า ใครกำลังพูดอยู่ได้  คุณทำได้ไหมครับ?  พวกหูทอง**บางคน** เขาสามารถแยกแยะความถูกต้อง ความสะอาดของเสียงได้ และมีความสามารถ ที่จะหาอุปกรณ์ที่เหมาะสุดสำหรับเขาได้ แต่เท่าที่รู้มา มนุษย์มีขีดจำกัดการฟังอยู่มาก ต่อให้ลำโพงเสียงดีแค่ไหน ถ้าไม่ได้อยู่ในระดับ มนุษย์ก็ไม่รับรู้อีก  ฯลฯ แต่เรื่องบ้าเครื่องเสียงนี่สิ ผมว่าเหมือนคนเพ้อเจ้อยังไงยังงั้นเลย  ฉนั้น เพิ่มขีดความรู้ให้มากขึ้น เห็นโลกให้กว้างขึ้น  ก็จะ ... ... รู้ว่า  กะลาแต่ละใบ กว้างไม่เท่ากันครับ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 31 มี.ค. 50 09:45:53 ]

ความคิดเห็นที่ 43 # 42 ผมว่าคุณเริ่มเหนือมนุษย์ แล้วนะ จากคุณ : เพียงหนึ่งตดจาง - [ 31 มี.ค. 50 11:19:15 A:58.136.103.186 X: TicketID:117891 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เคยไปบ้านเพื่อนนั่งฟังเพลงจากลำโพงคู่ละ20000กลับมาบ้าน ฟังคู่ล่ะ300ก็ไม่เห็นจะหงุดหงิดหรือ เห็นว่ามันต่างกันมากมายอะไร จากคุณ : ดาวซัลโว - [ 31 มี.ค. 50 14:20:14 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ผมไปเล่น iMac บ้านเพื่อน กลับมาเล่น PC ของตัวเองแล้วรู้สึกอยากเปลี่ยนทันที จากคุณ : เชื่อผมเหอะ แล้วดีเอง - [ 31 มี.ค. 50 18:05:48 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ผมว่าพวกหูทองจริงๆต้องเป็นพวกฟังเสียงแล้วรู้ว่าเป็นโน๊ตอะไร นั่นแหละครับผมนับถือว่าเป็นพวกหูทอง แบบว่าได้ยินเสียงปุ๊บบอกโน๊ตปั้บเอาทูนเนอร์เทียบเป๊ะ นั่นแหละครับเทพ จากคุณ : Sillything - [ 31 มี.ค. 50 19:27:43 ]

ความคิดเห็นที่ 47 อย่าเอาบรรทัดฐานของตัวเองเป็นที่ตั้งแล้วคิดว่าคนอื่นจะเหมือนคุณหมดซิครับ คนที่มีความชำนาญด้านไหนก็จะรับรู้ทางด้านนั้นได้มากกว่าคนอื่น ถ้าคนชอบทางช่าง แค่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ก็บอกได้แล้วว่า เสียที่ตรงไหน คุณฟังรู้เรื่องหรือเปล่าละครับ ถ้าทางลิ้น คนที่เก่งทางด้านชิมไม่ว่าจะเป็นอาหารหรือเครื่องดื่มก็สามารถบอกรายละเอียดได้ทันที คุณชิมแล้วบอกเหมือนเขาได้หรือเปล่าละครับ ฯ แต่คนที่รู้จริงมีมาก แต่คนที่รู้ไม่จริงมีเยอะกว่า 66666 จากคุณ : monjangja - [ 31 มี.ค. 50 22:09:58 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เอามาบอกเฉยๆนะครับ ลูกค้าผมบริษัทนึง ทำเครื่องเสียงสำหรับพวก Stereophile ชุดเป็นแสนเนี่ยแหละครับ เค้าบอกว่า part บางตัวโคตะระแพงก้อใส่ๆเข้าไป ทั้งที่มันไม่ต่างจาก part ปกติ แต่เพราะว่าชื่อ brand มันดังในกลุ่มพวกหูทองครับ ก้อเป็นการตลาดน่ะนะ จากคุณ : pzifrius - [ 1 เม.ย. 50 00:17:06 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ผมฟันธงว่า >99% ของพวก "หูทองคำ" หลอกตัวเองครับ หูเรามีความสามารถยอดเยี่ยมก็จริง แต่ "ใจ" และ "สมอง" ของคนเรามีความสามารถยอดเยี่ยมมากกว่าที่จะ "เชื่อ" ในสิ่งที่อยากจะเชื่อครับ ลองสังเกตุดูสิครับ ไม่มีบทความรีวิวเครื่องเสียงสักอันเดียวที่ใช้ระเบียบวิธี "Double-Blinded Testing" ในการทดสอบการฟัง เพราะอะไร? ก็เพราะว่าถ้าใช้จริง >99% ของผู้รีวิว จะไม่มีทางแยกความแตกต่างของเสียงระหว่างสายลำโพงราคา 200 บาทออกจากสายลำโพงราคา 20,000 บาทได้ครับ (ยกเว้นว่าสายลำโพงราคา 20,000 บาทจะถูกจงใจให้มี frequency response ที่ต่างจากความเป็นกลาง ซึ่งเป็นเทคนิคของสายราคาแพงหลายยี่ห้อครับ) จากคุณ : rp - [ 1 เม.ย. 50 00:47:57 A:58.9.140.108 X: TicketID:102443 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ใครจะใช้ลำโพงเทพแสนแพงแค่ไหนก็ไม่แปลกหรอก ช่างแม่ม แต่หูทองประเภทที่ต้องเอาก้อนบ้าอะไรซักอย่างไปรองใต้สายเพื่อไม่ให้สัญญาณไฟฟ้าแกว่ง, เสียงสั่นเนี่ยปัญญาอ่่อนสุด ๆ - -" #41 คนเขียนบทความใน BHX คือ SRJ ครับ อย่าพยายามเอาไปโยงกับตาปอลิ่งเพื่อดิสเครดิต จากคุณ : redistuO - [ 1 เม.ย. 50 01:31:20 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เล่นเครื่องเสียง ผมสนใจอยู่ แค่ ปัจจัยหลัก เครื่องเล่น มีเดีย แอมป์ ลำโพง สภาพห้อง แอมป์กะลำโพงราคาร้อย  กับราคาหมื่น เสียงต่างกันแบบชัดเจน แต่ราคาหมื่น กับราคาแสน ต่างกันไม่มาก ยิ่งราคาแสนกับราคาล้าน แทบจะไม่เห็นความแตกต่าง แต่พวกเล่นเครื่องเคียงเนี่ย ออกแนวหลอกตัวเองและหลอก คนอื่นยังงัยก็ไม่รู้ ก้อนรองสายไฟ เอาหนังสือหนักอึ้งวางทับสาย ผมไม่เคยลอง ปลั๊กไฟราคาหมื่น แต่สายไฟจาก MDB เป็นสาย THW ธรรมดา สาย AC เส้นหลายพัน แต่ปลั๊กที่ท้ายเครื่องเป็นแบบธรรมดา สายสัญาณเส้นละหลายพัน  แต่แจ็ค RCA ที่ตัวเครื่องก็แจ็คธรรมดา ผมไม่ชอบที่พวกหูทอง ชอบดูถูกเครื่องเสียง ยี่ห้อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ จากคุณ : Tread'em all - [ 1 เม.ย. 50 02:00:19 ]

ความคิดเห็นที่ 52 พวกเปลี่ยนปลั๊กเปลี่ยนสายก็ไม่เคยลองเหมือนกันอ่ะ แต่แค่สายสัญญาณสายลำโพงเนี่ยอย่าดูถูกนา... แค่สายสัญญาณงี่เง่าเนี่ยเอาสาย av งี่เง่ามาแทนก็น่าจะได้แจ๊คตัวเดียวกัน ยังไงไฟฟ้ามันก็ความเร็วแสงอยู่แล้วไม่เห็นต้องซื้อเพิ่มให้เปลืองตังค์ มีคนคิดหยั่งงี้มาแล้ว... (ผมเอง -_-") แล้วเป็นไงรู้ป่าว เสียงแบบแหบๆแห้งๆอู้ๆอั้นๆยังไงไม่รู้เลยไปหาสายสัญญาณบ้านหม้อราคา 40 บาทมาเปลี่ยน (งก...) ปรากฏว่าเสียงดีขึ้นเห็นได้ชัดเลย เปลี่ยนกลับไปกลับมารู้เลยว่าสายคนละเส้น (แต่ต้องเล่นเพลงเดียวกันนะ) เลยเปลี่ยนใจไปลองหาสายสัญญาณที่มันถูกกิจลักษณะชาวบ้านเค้ามาเปลี่ยนหวังว่าเสียงมันจะออกมาดี้อย่างที่มันควรจะเป็นแล้วก็ดีขึ้นจริงๆด้วยอ่ะ เสียงออกมาค่อนข้างเต็ม (คิดเอาเองว่าเต็ม แต่ก็เต็มกว่าสาย AV ละกัน) ตอนนี้เลยใช้สายสัญญาณเส้นละสี่พันและก็ไม่คิดจะเปลี่ยน (เปลี่ยนทำบ้าอะไรฟะแค่สายไฟเสือกเส้นละสี่พันยังจะให้เปลี่ยนอีกเหรอ) แต่มีสายคลองถมอยู่เส้นนึงรู้สึกจะเป็นสายเงินพันด้วยทองแดงสามเส้นเอามาถักเปียซื้อมาเมตรละร้อยมั้ง ตอนนั้นซื้อมาสองเมตรเสียงก็โอเคอ่ะ แต่ก็รู้สึกขาดๆเกินๆไงก็ไม่รู้ แต่ก็เกือบละ ถ้าเล่นไปเรื่อยๆอาจจะแยกไม่ออกกะเส้นละสี่พัน แต่ถ้าเล่นเพลงเดียวกันแล้วสลับเส้นไปมานี่รู้สึกเลยว่ามันไม่เหมือนอ่ะ ถ้าให้เดินๆไปฟังเครื่องเสียงชุดแล้วให้บอกว่าชุดนี้ใช้สายอะไรเนี่ยบอกไม่ถูกหรอก แต่ถ้าชุดเครื่องเสียงนั้นมันอยู่ในบ้านเราเอง เราฟังไปเรื่อยๆเราก็จะรู้จักมันมากๆขึ้นเองพอคุ้นเคยกะมันมากๆแล้วจะรู้เองว่ามันมีจุดแข็งตรงไหนข้อด้อยตรงไหน ทำไงถึงจะลดข้อด้อยลงอะไรทำนองเนี่ย อาจจะเปลี่ยนสายลำโพงสายสัญญาณนิดๆหน่อย อาจจะช่วยได้ ถ้าเราอยู่กะพวกนี้ไปนานๆเราเป็นคนจัดชุดเองเลือกเองเดี๋ยวมันก็จะรู้เองแหล่ะว่าสายนั้นเสียงเป็นไงเส้นนี้เสียงเป็นไง... ไม่นับเปลี่ยนแอมป์นะ เปลี่ยนแอมป์แล้วฟังไม่รู้นี่ออกจะควายไปหน่อยละ เสียงคนละแนวเลยยังฟังไม่ออกนี่ก็เกินปายยย แต่ยังไงสายสัญญาณมันก็แค่สายไฟอ่ะ จะเปลี่ยนสายสัญญาณให้ NAD c320 มันเสียงเหมือน Accuphase มันก็เกินปายยย 5555 ส่วนปลั๊กไฟนี่... ไม่รู้คิดไปเองป่าวแต่เคยเป็นทีนึง เคยเห็นปลั๊กต่อสามตากันทุกคนใช่มะ เนื่องจากปลั๊กไฟมันเสียบได้แค่สองอัน ปกติก็เสียบแอมป์กะซีดีอ่ะนะ แต่วันดีคืนดีจะรีดผ้ามันก็ไม่มีปลั๊กจะเสียบก็เลยซื้อปลั๊กต่อสามตามาอ่ะแล้วก็เสียบแอมป์กะซีดีที่ปลั๊กพ่วง เชื่อป่าวเสียง drop ลงหน่อยนึงอ่ะ ไม่อยากจะเชื่อเลยปลั๊กก็ปลั๊กเดียวกัน แค่เสียบจากปลั๊กตรงๆกะเสียบจากปลั๊กพ่วงเสียงก็ต่างกันแล้วอ่ะ โทรคุยกับเพื่อนที่เล่นเครื่องเสียงด้วยกันมันก็บอก ใช่เหรอ คิดไปเองรึป่าว อีกต่างหาก พาเพื่อนอีกคนเข้าห้องมันก็บอกเฮ้ยจะบ้าเหรอ อีเล็คตรอนเคลื่อนที่ด้วยความเร็วแสง แต่พอเปิดให้มันฟังมันก็บอกเออ...ว่ะ อันที่ไม่เสียบปลั๊กพ่วงดีกว่า... เนี่ยย เป็นงงง... เครื่องเสียงผมก็ไม่ได้เลิศเลออะไรมากนะแค่ JM lab กะ NAD แล้วซีดีก็ marantz แค่นั้นเอง อยากได้ Accuphase อยู่เหมือนกันตอนลองลำโพงรู้สึกว่ามันเจ๋งมากเลย 555 จากคุณ : Catwater (Catwater) - [ 1 เม.ย. 50 03:20:03 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ส่วนตัวเห็นว่า ลำโพง แอมป์ เครื่องเล่นซีดี สายสัญญาณ สายลำโพง การจัดวางลำโพง ลักษณะของห้องฟัง รวมทั้งตัวแผ่นที่เล่น มีผลต่อเสียงที่ออกมา (แต่ สายสัญญาณและสายลำโพงจะส่งผลต่อเสียงที่ออกมาน้อยกว่าลำโพง แอมป์ เครื่องเล่นซีดี การจัดวางลำโพง ลักษณะของห้องฟัง) อย่างเช่นตอนลองฟังลำโพงที่จะซื้อ epos es-11 ร้านใช้เครื่องเล่นซีดีกับแอมป์ accuphase เสียงจะเพราะกว่าตอนใช้เครื่องเล่นซีดี denon กับแอมป์ harmanฯ ที่บ้านเยอะ(ราคามันห่างกันเยอะนี่นา) หรือ แค่เปลี่ยนจากแอมป์ harmanฯ มาเป็นแอมป์ของเพื่อนเสียงที่ได้ก็ต่างกัน ปล.ไม่ได้หูทองแต่อย่างใดนะครับเพราะอุปกรณ์บางอย่างที่เห็นวางขายอยู่ทดลองฟังก็ฟังไม่ออกเหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 01 เม.ย. 50 17:03:15 จากคุณ : Live!@Siam - [ 1 เม.ย. 50 17:02:01 ]

ความคิดเห็นที่ 54 #49 ลองเอาสายสัญญาณโลตัส กับสายไม่ต้องดีมาก แค่monster เส้นละ4000พัน ผมแยกออกแน่ๆ เกินกว่านี้ เช่น เส้นละ4000 กะเส้นละ20,000 ผมว่าไม่ค่อยต่าง เหมือนกินกาแฟ ผมชอบกินน้ำตาลสองช้อน ถ้าใส่มาเกินครึ่งช้อน บางทีอาจเลี่ยน บางทีอาจไม่รู้สึก อย่างCDผมเคยเถียงให้ห้องนี้มาแล้ว เค้าบอกดิจิตอลอัดมาเหมือนกัน100% มีการมาบอกอีกว่าแผ่นวินโดร์ก็ก็อปมา คนที่ไม่เชื่อ ลองเอามาให้ผมฟังสิ ผมแยกได้อันไหนprincoอันไหนแผ่นแท้ แก้ไขเมื่อ 01 เม.ย. 50 19:34:18 จากคุณ : Roninkung - [ 1 เม.ย. 50 19:30:07 ]

ความคิดเห็นที่ 55 เออ ช่ายช่ายยย เป็นความมหัศจรรย์อีกเหมือนกันที่คนเราสามารถแยกแยะแผ่นซีดีที่เก็บข้อมูลแบบดิจิตอลสองแผ่นได้โดยเครื่องอ่านแผ่นซีดีที่อ่านแบบดิจิตอล... (ผมเข้าใจถูกป่าวว่าเครื่องอ่านแผ่นซีดีอ่านแบบดิจิตอลเนี่ย) ก็ไม่เข้าใจอีกเหมือนกันว่าทำไมมันถึงต่างกัน แต่มันต่างกัน ใครเข้าใจก็ช่วยอธิบายหน่อยก็ดี... หรือว่าจริงๆแล้วมันอ่านแบบอะนาล๊อก... หรือมันมีความเป็นอนาล๊อคแฝงอยู่ในความเป็นดิจิตอล... งงงงอยู่เหมือนกัน เออ แต่จริงๆแล้วเมื่อก่อนมันก็มีซีดีไรท์เตอร์ของ yamaha รุ่น F1 ออกมาทีนึงนะ เห็นโฆษณาว่าไรท์เสียงได้เหมือนแผ่นมาสเตอร์เสียงเบสจะคมชัดไม่เบลออะไรเงี้ย เลยควัก(อีกแล้ว) หกพันกว่าบาทซื้อมาซะ (เป็น external ด้วย) เสียงก็ดีเลยทีเดียวอ่ะ ใช้ได้... ก็ซื้อแผ่น audio มาไรท์ด้วยออกมาประมาณแผ่นมาสเตอร์เลยจริงๆ (แต่ก็พอจะฟังออกหน่อยๆว่าต่างกันนิ๊ดนึง แต่ก็ก๊อปแผ่นธรรมดานะ ประมาณเพลงที่ฟังกันทั่วๆไป) แต่เคยก๊อปแผ่น jennifer warnes ทีนึงก็ใช้ได้เลยนะใกล้เคียงกับแผ่นมาสเตอร์มากแต่ยังขาดๆอะไรอีกนี๊ดดดเดียว ไอ่เพื่อนที่เล่นเครื่องเสียงมันก็บอกเป็นธรรมชาติของแผ่นอ่ะ แต่ละแผ่นเสียงมันจะออกมาต่างกันแผ่น princo ก็ให้เสียงแบบนึง แผ่น imagine ก็เสียงอีกแบบ แผ่น audio ที่ซื้อมาก็เสียงโอเค ใช้ได้เลยอ่ะ ก็สงสัยอยู่ว่ามันขึ้นกับแผ่นด้วยเหรอ การอ่านข้อมูลดิจิตอลมันไม่มี error ที่ขึ้นกะ media นี่หว่า ไอ่ที่ออกทางสายสัญญาณมันเป็นอะนาล๊อกก็ใช่แต่ยังไงๆ output มันก็ออกมาจาก input ที่เป็นดิจิตอล ถ้าไฟล์ดิจิตอลสองไฟล์เก็บใน media แบบไหนมันก็น่าจะให้ output เหมือนกันนี่หว่า... แล้วทำไมมันต่างกัน... น่าแปลกใจจริงๆ แก้ไขเมื่อ 01 เม.ย. 50 22:09:11 จากคุณ : Catwater (Catwater) - [ 1 เม.ย. 50 21:43:45 ]

ความคิดเห็นที่ 56 #54 ครับ คุณลองทำ Double-Blinded Testing แล้วหรือครับ ถึงได้มั่นใจว่าเสียงต่างกันจริง Placebo Effects มันมีผลมากกว่าที่เราคิดครับ Double-Blinded Testing คือการทดสอบโดยที่คนฟังและคนที่สลับเปลี่ยนอุปกรณ์ระหว่างการทดลอง ไม่รู้ว่ากำลังใช้อุปกรณ์ชิ้นใดอยู่ ณ ขณะนั้น (จะเฉลยหลังจากที่ทำการทดลองเสร็จแล้ว) ถ้าเป็นการทดลองจริงๆ ที่อ้างอิงได้ ต้องทำแบบนี้ครับ ซึ่งก็ทำกันจริงๆ ในแวดวงมืออาชีพจริงๆ (ไม่ใช่นิตยสารเครื่องเสียง) เช่นนักวิจัยที่คิดค้นอัลกอริทึมบีบอัดข้อมูลเสียงแบบ lossy อย่าง MP3 Vorbis ATRAC ฯลฯ ในทางวิทยาศาสตร์ต้องทำอย่างนี้ครับ ไม่อย่างนั้นอย่าหวังว่าจะได้การยอมรับหรือได้ตีพิมพ์หรือสอบผ่านวิทยานิพนธ์ นิตยสารเครื่องเสียงเช่น Stereophile เคยเถียงหัวชนฝา (เอาสีข้างถู) เมื่อหลายปีที่แล้วเลยครับว่าจะไม่ยอมใช้วิธีนี้ เพราะเขารู้อยู่แก่ใจว่ารีวิวเวอร์ไม่มีทางผ่าน Double-Blinded Testing ไปได้ สายสัญญานบางยี่ห้อจงใจใส่ R C I เพื่อให้สายของตัวเองมีเสียงแตกต่างจริงๆ ครับ แต่นั่นก็คือการปรุงแต่งเสียงครับ ไม่ใช่ Fidelity จากคุณ : rp - [ 1 เม.ย. 50 22:34:15 A:58.9.137.213 X: TicketID:102443 ]

ความคิดเห็นที่ 57 หงุดหงิดกับ  "เรื่องของคนอื่น"   ไปเพื่อ?? จากคุณ : ยากจริงจริง - [ 2 เม.ย. 50 15:28:53 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เห็นด้วยกับ #56 วิธีนี้เคยทดสอบกันมาบ้างแล้วผลการทดสอบพบว่าทายถูกประมาณ 50% ซึ่งหมายความว่าอย่างไรคงพอทราบคำตอบนะครับ จากคุณ : freefeel - [ 3 เม.ย. 50 06:46:23 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ทดสอบกันง่ายๆ ไปเลย คือ ปลั้กเสียบ จะมีอยู่ 2 ขั้ว (3 ตาไม่เกี่ยวนะ ) แค่ลองสลับ กันเสียบดูสิ โดยหมายตัวปลั้กไว้  ครั้งแรก ที่หมายอยู่ รูบน   อีกครั้งก็อยู่ รู ล่าง   รับรอง เสียงเปลี่ยน เคยบ้าอยู่พักหนึ่ง เหมือนกัน แต่บ้าแบบประหยัด แค่ จัดระดับ ระยะ ของลำโพง ก็พอ ตอนนี้ เลิกบ้า ล่ะ มันก็เหมือนคอมนั้นแหละ รุ่นใหม่มาเรื่อยๆ ราคาตกเรื่อยๆ   ก็เลยใช้ไปเท่าที่ฟังได้ แต่สำหรับ พี่ๆท่านใด ชอบทดลองแบบ ไม่เสียกะตัง ก็ลองดู สลับปลั้ก ต่อกราว์ด จัดระดับลำโพง แค่นี้ ก็ช่วยได้เยอะแล้ว จากคุณ : mie (mievdo) - [ 8 เม.ย. 50 02:40:41 ]