ความคิดเห็นที่ 1 ได้อ่านกระทู้เก่าที่เป็นคำถามของคุณแล้ว เรื่องปัญหาการต่อสายกราวด์ และการจับ terminal N กับ G มารวมกันแล้วเกิดปัญหา จากกระทู้  http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X5278637/X5278637.html อยากให้แยกความหมายของการต่อสายกราวด์ของไฟฟ้า1เฟส 220vac ออกเป็น 2ประเภทจะเข้าใจปัญหาได้ง่ายขึ้น 1 System Grounding เป็นการต่อสายกราวด์ของระบบไฟฟ้าเพื่อทำให้ terminal N ของระบบไฟฟ้ามีศักดิ์ไฟฟ้าเป็น 0 ซึ่งควรจะเป็นหน้าที่ ของผู้จ่ายไฟฟ้าหรือการไฟฟ้าเป็นผู้ดำเนินการ ในฐานะผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อยไม่จำเป็นต้องสนใจ เพราะการที่ ขั้วสาย N มีศักดิ์ไฟฟ้าเป็น 0 ไม่ได้มีส่วนช่วยการป้องกัน ไฟดูดจากการใช้อุปกรณ์ ไฟฟ้าให้ผู้ใช้เลย   2 Equipment Grounding เป็นการทำให้โครงโลหะ หรือตัวถังchassis ของเครื่องใช้ไฟฟ้ามีศักดิ์เป็น 0 ทำให้ผู้ใช้ไม่ถูกไฟดูดเมื่อมีไฟรั่วลงchassis อันนี้จะเป็นหน้าที่โดยตรงของผู้ใช้ไฟเพื่อป้องกันอันตรายจากไฟรั่วลงโครง โลหะของอุปกร์ณไฟฟ้า equipment grounding นี้ สามารถแยกต่อสายดินของอุปกรณ์ไฟฟ้า แยกเป็นรายตัวโดยแต่ละตัวจะมีสายต่อลง ground rod ของตัวเอง หรือถ้าจะรวมเป็น ground rod 1แท่ง ต่อไปให้ chassis ของอุปกรณ์ ทุกตัวภายในบ้านก็ได้ โดยผ่านทางสายสีเขียว ไปออกที่รูที่ 3 ของปลั๊กไฟฟ้าตัวเมียทุกตัวภายในบ้าน อุปกรณ์ใดมีความจำเป็นต้องใช้สายดิน ก็ให้ใช้ปลั๊ก 3 ขาตัวผู้ มาเสียบไปใช้งาน สำหรับ เครื่องทำนำอุ่น chassis จะถูกต่อกับสายดิน(G)โดยตรง ถ้าใช้ CB 2poles สาย L,N จะต่อผ่าน CB หรือ ถ้าใช้ CB 1pole สาย L จะต่อผ่าน CB  ,N จะถูกต่อโดยตรง ในสภาวะปกติสามารถมีกระแสไหลในสาย N ได้และมีขนาดเท่ากับที่ไหลสาย L แต่ในสภาวะปกติไม่ควรจะมีกระแสไหลในสาย G ดังนั้นการนำ terminal N-G มารวมกัน จะยิ่งเป็นอันตรายกับผู้ใช้เองได้ เช่น ในกรณีที่มีการสลับสาย L,N ต้นทางก่อนเข้าบ้าน ถ้าสมมุติ คตท.ของ grounding= 5 ohm (ตามมาตรฐานงานติดตั้ง)     I = 220 / 5  = 44 Amps สาย N และ G ภายในบ้านจะกลายเป็นวงจร voltage divider ทันที voltage ทีจุดต่างๆของสาย NและG จะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับว่า เป็นต้นทางหรือปลายทางก่อนลงแท่ง ground rod สรุป ความเห็นส่วนตัวเห็นว่า คุณควรแยก terminal N-G ออกจากกัน และไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้อง ทำground rodให้ terminal N ตรงกันข้าม ground rod สำหรับ terminal G เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับคุณ ในสภาวะปกติที่ไม่มีไฟรั่วในอุปกรณ์ไฟฟ้า  ไม่ควรจะมีกระแสไหลในสาย G ลองใช้ meter clamp คล้องวัดทดสอบกระแสในสายG ดูเป็นประจำ .. แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 50 13:20:43 จากคุณ : jounior - [ 2 เม.ย. 50 13:10:41 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เป็นคำถามที่ดีนะครับ.. เตรียมไขควงเช็คไฟติดตัวไว้เมื่อถ้าต้องไปพักอาศัยบ้านที่มีปลั๊กแบบ3ตา ให้วัดไฟดูที่ช่องกราวน์ก่อนเพื่อความปลอดภัย จากคุณ : กระเพราเป็ด - [ 2 เม.ย. 50 13:24:28 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณมากครับ  เพราะตอนเชื่อม N-G เอามือจับ มันดูด แต่ไขควงวัดไฟ วัดไม่ได้เลย(ยังไม่ได้ลองเอา volt meter วัด) ผมว่าคงต้องไปปรับปรุง ground rod ดีๆ และไม่ต่อ N - G จะดีกว่าครับ แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 50 15:43:36 จากคุณ : ยัยปุย - [ 2 เม.ย. 50 15:37:01 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ปัญหาน่าจะเกิดจาก  บางบ้านต่อ N-G  บางบ้านไม่ต่อ N-G โดยเฉพาะพวกบ้านเก่าๆ จะต่อ G แยกแท่งเดี่ยวๆลงดินเสมอ ถ้าทุกบ้านต่อ N-G  เหมือนฝรั่ง ปัญหาคงจะไม่เกิด จากคุณ : หญิงยอดนักทดลอง - [ 3 เม.ย. 50 05:13:48 ]