ความคิดเห็นที่ 23
******* สเตลไม่ใช่ตรวจจับด้วยเรดาห์ไม่ได้เลยนะครับ เพียงแต่ว่า สมัยก่อนจนถึงปัจจุบันเรดาห์ที่ใช้ตรวจจับวัตถุบินทั่วๆ ไปนั้น มีความถี่สูงในช่วงหนึ่งเท่านั้นเอง ดังนั้น การออกแบบตั้งแต่พวก F117, B2 ฯ นี่จะเน้นไม่ให้เรดาห์ในระดับความถี่ย่านนี้ตรวจจับได้ก็เท่านั้นเอง ถ้าต้องการตรวจจับพวกเครื่องบินที่เคลือบสารดูดกลืนเรดาห์ความถี่ย่านนี้ได้จะต้องใช้ความถี่อีกย่านหนึ่งซึ่งเป็นความถี่ต่ำ นั่นก็เท่ากับว่า ประเทศนั้นๆ จะต้องมีเรดาห์ 2 ความถี่ ในการตรวจจับเครื่องบินทั้งแบบธรรมดาและแบบสเตล ซึ่งงบประมาณที่ใช้ป้องกันจะมากกว่าที่ใช้เรดาห์ประเภทเดียวมากครับ เรียกได้ว่าต้องโละของเก่าซื้อของใหม่เพิ่มเติมใหม่หมดเลยครับ
******* เปรียบเทียบได้กับ เรดาห์ปัจจุบันเหมือนจรวดยิงรถถังแบบฮีต ส่วนเครื่องบินปัจจุบันเหมือนกับรถถังธรรมดา ซึ่งเมื่อรถถังธรรมดาเจอจรวดฮีตก็กระจุย แต่เมื่อรถถังธรรมดาเปลี่ยนเกราะแบบใหม่เป็นแบบหลายชั้นเหมือนกับเครื่องบินที่เคลือบสารดูดกลืนเรดาห์ จรวดฮีตธรรมดาก็เจาะเกราะแบบใหม่ไม่เข้าเหมือนกับเรดาห์แบบเก่าจะตรวจจับเครื่องบินแบบสเตลไม่ค่อยเจอ ดังนั้นถ้าจะปราบรถถังที่มีเกราะหลายชั้นหรือเครื่องบินแบบสเตล ก็ต้องใช้จรวดแบบหลายหัวรบหรือใช้เรดาห์อีกย่านความถี่หนึ่งถึงจะเจอครับ
******* สำหรับตัวเลือกทั้ง 4 นั้นเรียงตามลำดับความห่วยสุดไปหาห่วยน้อยสุด ห่วยสุดก็เบอร์1 ตัวนี้เหมือนกับไซวายเดอร์รุ่นเก่า ห่วยรองลงมาก็4 ตัวนี้ก็แค่สติงเจอร์จับได้แค่เพดานบินต่ำ (ต่ำกว่าเบอร์1 ซะอีก) พอใช้ได้ก็เบอร์ 3 ไม่รู้รุ่นเก่าหรือรุ่นใหม่ถ้ารุ่นเก่าก็ห่วยอีกเช่นกัน สมัยสงครามอ่าวรอบแรก พลาดเป้าไปเยอะเหมือนกัน แต่ออกข่าวไม่ได้ แต่รุ่นใหม่น่าจะดีขึ้น ห่วยน้อยสุดในบรรดาตัวเลือกก็น่าจะเป็น 2 เพราะ ถูกพัฒนาขึ้นมาหลังสุด ระบบป้องกันอื่นๆ สหรัฐไม่เคยโวย แต่อิหร่านซื้อตัวนี้ไปใช้ สหรัฐโวยแหลก ไม่กล้าส่งเครื่องบินเข้าไปเสี่ยงเพราะยังไม่รู้จักระบบการทำงานเลย รุ่นเก่าแจมได้หมดแล้วครับ
จากคุณ :
monjangja
- [
5 เม.ย. 50 00:25:41
]
|
|
|