ความคิดเห็นที่ 13
เรื่องสนามแม่เหล็ก H
#7 ผมขอแย้งนิดหนึ่งนะครับ
กระแสเป็นพัน Amp ไม่น่าใช่นะครับ สายไฟออกจากโรงไฟฟ้า 2,625 MWatt คงไม่ได้ออกมา เสาเดียวแล้วส่งดุ่ยๆไปเรื่อย เพราะ Loss มันน่าจะเยอะมาก... P=I2R น่ะครับ นี่เป็นเหตุผลที่ ทำไมการไฟฟ้าต้องส่งไฟด้วย Volt สูงๆ ก้อเพื่อลดกระแสให้มันเกิด Loss น้อยลง ผมว่าเขาน่าจะ... 1. เพิ่ม Volt ขึ้นอีกเพื่อลดกระแส 2. เพิ่มจำนวนเส้นทางไฟฟ้าออกจากโรงไฟฟ้า เพื่อหารจำนวนกระแสต่อกลุ่ม delta ให้น้อยลงอีก
---------------------------------------------------
ส่วนสายส่งจะเป็น Delta หรือเป็น Y เป็นอะไรก้อแล้วแต่ กระแสไปต้องเท่ากับกระแสกลับ กรณี Delta ไม่มีสาย Neutral ก้อจริง แต่ว่ากระแสจากสายหนึ่ง ก้อจะไหลกลับในสายที่ เหลือไงครับ
ดังนั้น จาก Ampere's Circuital Law: Curl(H) = uJtotal เมื่อวงรอบ Integral มีกระแสเข้า เท่ากับกระแสออก...Jtotal จึง เป็น 0 ทำให้ H เป็น 0 ด้วยเช่นกัน
....แต่นั่นมันไม่ถูกต้องจริงๆครับ เพราะที่มาสมการนี้ เป็นการมองแบบ Macroscopic ซึ่งจะ เป็นจริงเมื่อเราอยู่ห่างๆจากสายไฟ แต่เมื่ออยู่ใกล้ๆจะมีสนามแม่เหล็ก H อยู่ แต่กรณี เสาส่งนี้ผมคิดว่ามันน่าจะสูงเพียงพอที่จะไม่มีผลกระทบ
ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของคุณ MK-V คือวัดสนามแม่เหล็ก(B)ได้เพียง 10 uT ที่ใต้เสาส่ง ในขณะ ที่บริเวณ ROW จะวัดได้ 0.1-1.0 uT ในขณะที่สนามแม่เหล็กโลกประมาณ 30-60 uT ดังนั้น จึงไม่มีปัญหาเนื่องจากสนามแม่เหล็ก เพราะน้อยกว่าสนามแม่เหล็กโลกซะอีก
สรุป ไม่เป็นไรครับ (จากการทดลองของคุณ MK-V + การวิเคราะห์)
--------------------------------------------------------------------------------------------------- เรื่องสนามแม่เหล็กไฟฟ้า Electromagnetic Radiation (EM Wave)
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า EM Wave (แบบคลื่นมือถือ)จะแผ่ออกมาได้ ต้องมีเสาอากาศที่ยาวพอเพื่อให้เกิด ความต่างศักย์ระหว่างต้นสายกับปลายสายมากพอที่จะเกิด EM Wave ซึ่งความยาวที่ดีที่สุดคือ (ความยาวคลื่น/2)...แต่จากที่คำนวณข้างบนมันเป็นระยะถึง 3000 km.....ดังนั้น ถือได้ว่ามีการแผ่ น้อยครับ
สรุป มีน้อย ไม่น่าเป็นไรครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------- เรื่องสนามไฟฟ้า E
ถ้าตามค่าที่วัดได้ 10,000 V/m ใต้เสา และ 100-1,000 V/m ที่ ROW ก้อเหมือนเอาสายไฟความ ต่างศักย์คงที่(DC) 10 kV และ 1kV ขั้ว + และ - มาวางห่างกัน 1 m โดยมีตัวเราอยู่ตรงกลาง ผมก้อไม่ทราบว่ามันจะมีผลอะไรรึเปล่านะครับ ไม่เคยศึกษา
สรุป ไม่ทราบครับ
---------------------------------------------------------------------------------------------------
บทสรุป
แต่จากการค้นใน Wikipedia ทำให้ได้ข้อมูลว่า วิทยาศาสตร์กระแสหลัก(แปลว่าส่วนน้อยที่แย้ง)เห็นว่า ไม่มีผลกระทบกับสุขภาพอย่างเป็นนัยสำคัญ
การศึกษาผลกระทบที่ทำกับประชากรจำนวนมาก ส่วนใหญ่ไม่สามารถเชื่อมโยงอัตราการเกิดมะเร็งกับ สายส่งได้ ยกเว้นการผลศึกษาในปี 2005 ของ Oxford University
http://en.wikipedia.org/wiki/Transmission_line
The current mainstream scientific view is that power lines are unlikely to pose an increased risk of cancer or other somatic diseases. For a detailed discussion of this topic, including references to a variety of scientific studies, see the Power Lines and Cancer FAQ. The issue is also discussed at some length in Robert L. Park's book Voodoo Science.
It is argued by some that living near high voltage power lines presents a danger to animals and humans. Some have claimed that electromagnetic fields from power lines elevate the risk of certain types of cancer. Some studies support this theory, and others do not. Most studies of large populations fail to show a clear correlation between cancer and the proximity of power lines, but a 2005 Oxford University study did.
แก้ไขเมื่อ 21 เม.ย. 50 11:40:33
แก้ไขเมื่อ 21 เม.ย. 50 11:39:48
แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 50 20:17:32
แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 50 20:13:44
แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 50 20:08:39
จากคุณ :
pzifrius
- [
20 เม.ย. 50 20:04:02
]
|
|
|