PANTIP.COM : X5384113 การผลิตไฟฟ้าแต่ล่ะวีธีนั้นสะอาดและปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมแค่ไหน?? [วิศวกรรมและเทคโนโลยี]

ความคิดเห็นที่ 4

เอาไปคร่าวๆ ละกัน(บอกก่อนว่า ถ่านหิน/น้ำมัน/ก๊าซธรรมชาติ มีหลักการในการนำมาใช้ผลิตไฟฟ้าเหมือนกัน ไอ้ 3 ตัวนี้จึงมักถูกนำเปรียบเทียบกัน เพราะ เงือนไขไม่ค่อยต่างกันเท่าไรนัก)

1. โรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงถ่านหิน เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน โดยนำความร้อนจากการเผาถ่านหินมา ต้มระเหยน้ำให้กลายเป็นไอน้ำ และ นำไอน้ำนี้ไปขับหมุนกังหันไอน้ำ(Steam Turbine) เพื่อสร้างพลังงานกลไปหมุนเครื่องกำเนิดไฟฟ้า(Generator พูดง่ายๆ มันก็คือ ไดนาโมนั้นเอง) ข้อดีของการใช้ถ่านหิน คือ ราคาถูก ให้ความร้อนสูง หาได้ไม่ยาก แต่ปัญหาใหญ่ของมันอยู่ที่ ถ่านหินมักจะมีกำมะถันปนอยู่สูง ซึ่งเวลาเผาไหม้จะกลายเป็นปัญหาในหลายด้านทั้ง กลายเป็นก๊าซพิษต่อสิ่งมีชีวิต หรือ กลายเป็นสารกัดกร่อนสร้างความเสียหายต่อโรงไฟฟ้าเองหรือสิ่งแวดล้อม ดังนั้น ในการใช้ถ่านหินจึงต้องมีการจัดการกำมะถันเป็นพิเศษ ที่โรงไฟฟ้าถ่านหินแม่เมาะมีปัญหา ก็เพราะกำมะถันนั้นแหละ

2. โรงไฟฟ้าที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง น้ำมัน(ปิโตรเลียม)มีคุณสมบัติที่ดี มีกำมะถันปนอยู่บ้าง(แต่ไม่มากเท่าถ่านหิน จัดการง่าย) ให้ความร้อนสูง แต่มีปัญหาด้านราคา เพราะ น้ำมันมีความต้องการใช้ในภาคส่วนอื่นๆ ด้วย เช่น ภาคการขนส่ง(ทั้ง เบนซินและดีเซล รวมไปถึงน้ำมันเครื่องบิน) หรือ ภาคการอุตสาหกรรมการผลิตที่ต้องอาศัยความร้อน(ใช้น้ำมันเตา) โรงไฟฟ้าที่ใช้น้ำมันจึงนิยมใช้น้ำมันเตาซะมากกว่า(เบนซิน/ดีเซล มันแพง เอาไปเติมรถอย่างเดียวก็พอ) ถึงกระนั้นการใช้น้ำมันเตาผลิตไฟฟ้า ก็ไม่ได้มีมากมายนัก บางส่วนก็เป็นการผลิตไฟใช้เองในโรงงานอุตสาหกรรมบางโรง(โรงใหญ่ๆ) ก็บอกแล้ว น้ำมันมันแพง

3. โรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ(Natural Gas,NG) ก๊าซธรรมชาติหาง่าย ราคาถูก ประเทศไทยนี้นิยมใช้แบบนี้ ไฟฟ้าส่วนใหญ่ที่ การไฟฟ้าผลิตให้ใช้ ก็ใช้ NG นี่แหละ เพราะ เมืองไทยหา NG ได้จากอ่าวไทยและหลายแหล่ง แต่มีข้อด้อยในเรื่องค่าความร้อน ถ้าเทียบกับน้ำมัน/ถ่านหิน จึงต้องใช้ปริมาณมาก (แต่ เรื่องความสะอาดสูงกว่า เพราะเผาไหม้ได้สมบูรณ์กว่า แถมไม่มีปัญหาเกี่ยวกับกำมะถัน) เนื่องจากเป็นก๊าซเลยขนส่งได้ยากกว่า พวกน้ำมันหรือถ่านหิน โดยมากนิยมส่งด้วยท่อใต้ดิน ดังนั้นอาจจะต้องพิจารณาถึง สถานที่ตั้งโรงไฟฟ้า จะไกลจากแหล่งก๊าซมากๆ ก็ไม่ดีนัก

4. โรงไฟฟ้านิวเคลียร์(ทีเด็ด) เป็นโรงไฟฟ้าผลิตพลังงานไฟฟ้าได้สูงมาก เมื่อเทียบกับปริมาณเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ที่ใช้(ใช้น้อย) มีความสะอาดมาก(ถ้าไม่มีการรั่วไหลของรังสีนะ) เพราะ ไม่มีการเผาไหม้ปลดปล่อย Carbondioxide สู่บรรยากาศ มีต้นทุนค่าไฟฟ้าต่ำ และด้วยเหตุที่มันให้ไฟฟ้าในปริมาณมาก ในประเทศที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง จึงมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น USA ญี่ปุ่น และอื่นๆ แต่ข้อเสีย(ค่อนข้างร้ายแรง) แม้จะใช้เชื้อเพลิงไม่มาก แต่ก็หายากและแพงมาก(ใช้ไม่มากก็ไม่เท่าไรหรอก แถมบางชนิดยังใช้เป็นหัวรบได้ด้วย) จำเป็นต้องใช้ความรู้และเทคนิค รวมไปถึงมาตราการควบคุมความปลอดภัยในระดับสูงในการดำเนินการของโรงไฟฟ้า เพราะ ถ้าหากเกิดปัญหาแล้วจะรุนแรงและแก้ยากกว่าโรงไฟฟ้าทั่วไปมาก (ตัวอย่างคือ เชอโนบิล) ปัญหาในการควบคุมการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสี ปัญหาการกำจัดกากเชื้อเพลิง(มีรังสีด้วย) ดังนั้นในการพิจารณาสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์จึงมีเรื่องปวดหัวมากกว่า อีกทั้งคนทั้งหลายก็มักจะกลัวนิวเคลียร์มากกว่าเชื้อเพลิงแบบอื่นๆ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจนัก

5. โรงไฟฟ้าพลังน้ำ(Hydroelectric) อาศัยพลังจากน้ำโดยตรง โดยเอากระแสน้ำมาหมุนกังหันปั่นไฟ อย่าง เช่น การปั่นไฟจากเขื่อน ข้อดีคือ สะอาดมาก ไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง(เอาน้ำมาจากน้ำตก/แม่น้ำมาปั่นเนี่ยนะ) แต่มีข้อจำกัดในด้านสถานที่ตั้ง ที่เหมาะๆ มีไม่มากหรอก อีกทั้งอาจจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม(ผลของการสร้างเขื่อนไงละ น้ำอาจจะท่วมป่าหรือบ้านเรือน) อีกทั้งยังพึ่งฟ้าฟึ่งฝนเป็นหลัก คาดการณ์ได้ยาก น้ำน้อยแล้งขึ้นมาก็แย่

ในการจัดสร้างโรงไฟฟ้ามีปัจจัยหลายอย่างนะ ทั้งต้นทุนในการผลิต การเลือกประเภทของโรงไฟฟ้าให้เหมาะสม ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ผลกระทบของประชาชน(ที่จะรับกรรม)

ไม่ยากหรอก ลองไปดูหลักการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าแต่ละประเภทสิ แล้วจะเห็นถึงข้อเปรียบเทียบของมัน

จากคุณ : Xenophage - [ 7 พ.ค. 50 22:14:09 ]