ความคิดเห็นที่ 1 ข่าวจากสำนักเลขาธิการกองทัพเรือ กองทัพเรือ ส่งคืน เรือหลวงนาคา ให้กับ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา พลเรือเอก สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีส่งมอบ เรือหลวงนาคา ตามความเห็นชอบของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เพื่อนำเรือไปเป็นเรือพิพิธภัณฑ์ ทางประวัติศาสตร์ที่ Mare Island Naval Shipyard เมือง Vallejo มลรัฐ California ประเทศสหรัฐฯ ภายใต้ เงื่อนไขการคืนเรือจะกระทำในลักษณะตามสภาพที่เป็นอยู่ ณ ที่อยู่ปัจจุบัน (As is Where is) โดยให้ทางการสหรัฐฯ รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินการทั้งหมด และคงชื่อ "H.T.M.S. NAKHA" ไว้เพื่อเป็นเกียรติแก่ ประเทศไทย ในวันพุธที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๐ เวลา ๐๙.๓๐ น. ณ ท่าเรือจุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี (ที่มา: ข้อมูล ยก.ทร.) จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ 9 พ.ค. 50 13:11:25 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เรือชั้น LCS(L)(3) เรือในชั้น LCS(L)(3) หรือ Landing Craft Support (Large)(Mark 3) เป็นเรือที่กองทัพเรือสหรัฐต่อขึ้นมาใช้ในสงครามโลกครั้งที่สอง โดยมีหน้าที่สนับสนุนนาวิกโยธินในการยกพลขึ้นบก เรือ LCS(L)(3) ถูกต่อมาทั้งหมด 130 ลำ โดยแต่ละลำจะมีตัวเลขลำดับต่อท้าย โดยลำแรกชื่อว่า LCS(L)(3)-1 และลำสุดท้ายชื่อว่า LCS(L)(3)-130 ต่อมากองทัพเรือสหรัฐได้เปลี่ยนชื่อเรือเป็น LSSL หรือ  Landing Ship Support, Large เรือมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการยกพลขึ้นบกของนาวิกโยธินสหรัฐภาคพื้นแปซิฟิก เช่นที่ Iwo Jima, Tarakan, Balikpapan และ Okinawa หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง เรือถูกเก็บสำรองราชการ หลายลำถูกฟื้นสภาพนำกลับมาใช้ในสงครามเกาหลี และหลายลำถูกมอบให้กับประเทศพันธมิตรอื่น ๆ [ภาพ LCS(L)(3)-102 จาก Navy Source] แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 50 14:54:33 แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 50 13:23:07 จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ 9 พ.ค. 50 13:22:36 ]

ความคิดเห็นที่ 3 สมรรถณะของเรือ LCS(L)(3) ระวางขับน้ำ: 250 ตัน เต็มที่ 387 ตัน มิติ:  กว้างxยาวxลึก - 48.3x7.1x1.7 ม. ความเร็ว: เต็มที่ 16.5 น็อต ลูกเรือ: นายทหาร 6 นาย ประทวน 65 นาย เครื่องยนต์: GM diesel 8 เครื่อง   พิสัยปฏิบัติการ: 5,500 ไมล์ ณ ความเร็ว 12 น็อต อาวุธ: - ปืน 40 mm bow gun แท่นคู่ 1 แท่น - ปืน 40mms แท่นคู่ 2 แท่น - ปืน single 20mms แท่นเดี่ยว 4 แท่น - ปืน .50 cal Machine Gun 4 กระบอก - เครื่องยิงจรวด Mk.7 10 แท่น [ภาพ LCS(L)(3)-102 ณ เมืองเซียงไฮ้ ปี 1945 - จาก Navy Source] แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 50 14:55:46 จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ 9 พ.ค. 50 13:35:04 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เรือหลวงนาคา เรือหลวงนาคา (HTMS Nakha) หรือเรือ LCS(L)(3)-102 ลำนี้วางกระดูกงูในวันที่ 13 มกราคม 1945 ณ Commercial Iron Works เมือง Portland ประเทศสหรัฐอเมริกา ขึ้นระวางประจำการในชื่อ USS LCS(L)(3)-102 ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 1945 ได้เข้าร่วมปฏิบัติการในการยกพลขึ้นบก ณ เมืองโอกินาว่า ต่อมากองทัพเรือสหรัฐมอบให้กองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลของญี่ปุ่นในวันที่ 30 เมษายน 1953 และเปลี่ยนชื่อเป็น JMSDF Himawari และกองทัพเรือสหรัฐได้ขอคืนและมอบต่อให้กองทัพเรือไทยในปี 1966 โดยได้รับพระราชทานชื่อว่า "เรือหลวงนาคา"  สังกัดหมวดเรือที่ 1 กองเรือยกพลขึ้นบก [ภาพหมู่เรือ LCS(L)(3) ณ เมืองเซียงไฮ้ ปี 1945 - จาก Navy Source] จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ 9 พ.ค. 50 13:41:15 ]

ความคิดเห็นที่ 5 การส่งมอบเรือคืน ด้วยเวลาในการรับราชการในกองทัพเรือมานานถึง 40 ปี เรือหลวงนาคาได้ถูกใช้ในภารกิจต่าง ๆ ของกองทัพเรือมามากมาย โดยตัวเรือได้รับการดุแลเป็นอย่างดี และมีองค์ประกอบเกือบจะเหมือนเมื่อครั้งที่ประจำการในกองทัพเรือสหรัฐ ยิ่งไปกว่านั้น เรือหลวงนาคายังเป็น เรือ LCS(L)(3) ลำเดียวที่ยังคงใช้งานได้ในโลก กองทัพเรือสหรัฐจึงได้ขอคืนไปตั้งแสดงเป็นพิพิทภัณฑ์ ณ Mare Island Histrorical Park ในแคลิฟอร์เนีย ในความดูแลของ National Association of USS LCS(L)(3) 1 - 130 ซึ่งเป็นองค์กรที่มีหน้าที่เก็บรวบรวมประวัติศาสตร์ของเรือชั้นนี้ โดยตามข้อตกลงนั้น ทางฝ่ายสหรัฐจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการนำเรือหลวงนาคากลับบ้าน ที่ประมาณ 410,000 เหรียญสหรัฐ จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ 9 พ.ค. 50 13:50:18 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ดูแลดีจริงๆ ยังมีลำเดียวที่ใช้งานได้ จากคุณ : Jump.Jr - [ 9 พ.ค. 50 13:54:42 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เรือหลวงนาคา ซึ่งทำหน้าที่สำคัญในภาคพื้นแปซิฟิกและดูแลรักษาอธิปไตยทางทะเลของไทยมานาน ก็จะได้กลับสู่บ้านเกิด และได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี สมกับเกียรติประวัติที่เคยทำมา ข้อมุลเพิ่มเติม เชิญที่ LCS(L)(3) Construction Record http://www.coltoncompany.com/shipbldg/ussbldrs/wwii/boatbuilders/landingcraft/lcsl.htm Navy Source Page; LCS(L)(3) - 102 http://www.navsource.org/archives/10/05/050102.htm National Association of USS LCS(L)(3) 1 - 130 http://www.mightymidgets.org/index.htm สำหรับวันนี้ จบเพียงเท่านี้ สวัสดีครับ จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ 9 พ.ค. 50 13:56:53 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เออ นอกจากจะรู้ทุกอย่างที่มีปีกแล้วยังรู้ทุกอย่างที่มี แคม อีกแหะ สุดยอดจริงครับ จากคุณ : หื่นเสมอ - [ 9 พ.ค. 50 14:14:43 A:203.151.206.73 X:58.147.17.132 TicketID:143794 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ข้ามเรือแถวบางนา เห็นประจำ คิดถึงจังครับ จะไปซะแล้ว.... ไม่นึกเลยว่าจะมีประวัติขนาดนี้ ขอบคุณ จขกท.ครับ จากคุณ : Extrusso - [ 9 พ.ค. 50 14:34:58 ]

ความคิดเห็นที่ 10 มองแง่ดี ไทยใช้ของเก่าจนคุ้มจริงๆ ^^ จากคุณ : ....4จุด - [ 9 พ.ค. 50 15:00:40 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ใช้เป็นทูตเชื่อมสัมพันธ์ซะ ใช้คุ้มจนนาทีสุดท้ายเลย จากคุณ : นักล่าภาพ - [ 9 พ.ค. 50 15:14:32 ]

ความคิดเห็นที่ 12 แต่ก็น่าเสียดาย ไม่มีเงินรักษาไว้อีก ยกคืนให้เขานั่นแหละดีแล้ว มีเงินแล้วจะบินตามไปดู ของเราเก็บไว้เดี๋ยวก้อพังไปอีกไม่ทันได้เอาเข้าพิพิธภัณฑ์อีก เฮ้อ..... จากคุณ : orcahappy (orcahappy) - [ 9 พ.ค. 50 16:47:38 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เรื่องที่น่าแปลกใจบางอย่าง ...  ด้วยเวลาในการรับราชการในกองทัพเรือ(ไทย) มานานถึง 40 ปี เรือหลวงนาคาได้ถูกใช้ในภารกิจต่าง ๆ ของกองทัพเรือมามากมาย โดยตัวเรือได้รับการดุแลเป็นอย่างดี และมีองค์ประกอบเกือบจะเหมือน เมื่อครั้งที่ประจำการในกองทัพเรือสหรัฐ ยิ่งไปกว่านั้น เรือหลวงนาคายังเป็น เรือ LCS(L)(3) ลำเดียวที่ยังคงใช้งานได้ในโลก กองทัพเรือสหรัฐจึงได้ขอคืนไปตั้งแสดงเป็นพิพิทภัณฑ์ ณ Mare Island Histrorical Park  สิ่งที่แปลกประหลาดใจมากๆๆ คือ ทำไม กองทัพเรือไทย ถึงไม่เห็นคุณค่าของ รล.ลำนี้???  ทำไม ทร. ถึงไม่นำมาบูรณะ และทำเป็นพิพิธภัณฑ์ (Live Demo) ของ ทร.เอง  เพื่อให้คนไทย ได้มีความภูมิใจในภารกิจ ของ ทร. ในการปกป้องน่านน้ำไทยมายาวนาน .... แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 50 12:53:15 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 9 พ.ค. 50 17:00:53 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เมื่อถึงเวลา ก็ต้องคืนครับ เพราะมีสัญญาระหว่างราชนาวีไทยกับกองทัพเรือสหรัฐว่าราชนาวีไทยจะส่งมอบเรือลำนี้คืนให้กับกองทัพเรือสหรัฐเจ้าของเดิมครับ เพราะเรารับมาด้วยความช่วยเหลือทางทหาร ใช้เสร็จ จำเป็นต้องส่งคืนเจ้าของตัวจริงครับ ผมก็เสียดายครับ แต่สัญญาก็ต้องเป็นสัญญาครับผม ละเอียดกว่านี้ รอคุณ zedth หรือคุณ Hard-Time มาขยายครับ แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 50 17:21:23 จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ 9 พ.ค. 50 17:06:56 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณมากครับคุณ Skyman จากคุณ : ChocolateMousse - [ 9 พ.ค. 50 18:23:05 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ชัดเจน จากคุณ : interceptor - [ 9 พ.ค. 50 19:55:20 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ถ้าจะบูรณะไว้ทำพิพิธภัณฑ์ ผมว่า รล.ธนบุรี ยังน่าทำมากกว่า เพราะมีเกียรตฺประวัติในการรบขนาดใหญ่ แถมเป็นเรือปืนขนาดใหญ่ที่สุดของเราในยุคนั้นด้วย ว่าแต่เรือสยามมกุฏฯของทล.ยังประจำการอยู่รึป่าวครับ มีอะไรผุพังไปแล้วบ้าง ซ่อมไหวหรือ จากคุณ : x - [ 9 พ.ค. 50 21:19:54 A:210.246.64.219 X: TicketID:052378 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณมากครับ จากคุณ : Sympho - [ 9 พ.ค. 50 22:00:40 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ไม่ผิดหวังในข้อมูลครับ Analayo #8 เออ นอกจากจะรู้ทุกอย่างที่มีปีกแล้วยังรู้ทุกอย่างที่มี แคม อีกแหะ สุดยอดจริงครับ ตรงนี้เห็นด้วย แต่ไม่หื่นครับ ผมสงสัยว่า เครื่องจักร แปดเครื่องนี่ มีส่วนหนึ่งสำหรับถอยหลังใช่ไหมครับ #14 คงต้องเป็นไปตามนั้น คุณสกายแมนจำ F-5B ลำแรกได้ไหมครับ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : บาเยงนอง (บาเยงนอง) - [ 9 พ.ค. 50 22:01:41 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เรียนคุณบาเยงนอง จำได้ครับผม แต่ล่าสุดเห็นว่าปลดไปเมื่อปีที่แล้วแล้วล่ะครับ ส่วนเรื่องเครื่องยนต์นั้น ผมไม่มีความรู้เลยครับ ยังไงรอคุณ zedth ตัวจริงเสียงจริงดีกว่าครับ ------------ ส่วนเรือหลวงธนบุรี ตอนนี้ก็คงตั้งแสดงเอาไว้เฉพาะส่วนป้อมปืนอย่างเดียวล่ะครับ ซึ่งจริง ๆ แล้วผมเห็นด้วยครับด้วยว่ามันน่าจะมีนิทรรศการอะไรสักอย่างหนึ่งประกอบด้วย เพื่อเด็ก ๆ จะได้รู้ว่าเรือลำนี้ผ่านยุทธนาวีครั้งเดียวของไทยมาแล้ว ขอบคุณทุกท่านครับ แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 50 22:10:19 จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ 9 พ.ค. 50 22:09:10 ]

ความคิดเห็นที่ 21 สมัยนั้นอาจจะไม่เห็นค่าของเรือ ธนบุรี หรือเกี่ยวกับงบประมาณ เอ ผมไม่แน่ใจว่าจริงจริงเราต้องเรียกว่าเรือ ธนบุรี หรือ เรือหลวงธนบุรีกันแน่ เดี๋ยวนี้การยกเรือแม่กลองมาทำ Permanent Museum ก็ทำได้ดีในระดับหนึ่ง แต่เรายังไม่เห็นคุณค่าของพิพิทธภัณฑ์เท่าไรนัก คุณสกายแมนลองคิดดูครับว่า ในแต่ละปีมีเด็กเด็กได้ดูการแสดงการบินของ Blue Angels, Thunderbird, Red Arrow ปีละกี่คน ถ้าเด็กเหล่านี้ได้แรงบันดาลใจ ฝังใจตั้งแต่ยังเล็ก โตขึ้นมา ประเทศชาติไม่ต้องไปเกณฑ์ทหารหรอกครับ พิพิทธภัณฑ์ก็ให้ผลอย่างเดียวกัน [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : บาเยงนอง (บาเยงนอง) - [ 9 พ.ค. 50 22:19:52 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ไทยมีโอกาสซื้อเรือดำน้ำมาใช้อ่ะป่ะ อยากเห็น จากคุณ : golfy (golfyjstp) - [ 9 พ.ค. 50 22:20:24 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ดูแลดีจริงๆ ยังมีลำเดียวที่ใช้งานได้ - F-5B ลำแรกของโลก ก็ยังบินอยู่ได้ตามปกติครับ ช่างไทยฝีมือหรือไม่มีตังซื้อของใหม่กว่า เลยต้องใช้ของเก่าให้คุ้มค่า 66666 จากคุณ : monjangja - [ 9 พ.ค. 50 22:46:52 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ทหารเรือเคยเล่าให้ฟังว่า เขานั่งเรือที่ญี่ปุ่นเคยมอบให้ตอนสงครามโลกไปจอดที่ท่าเรือญี่ปุ่น มีช่างอายุราว 70 ปี ที่เคยสร้างเรือลำนี้มายืนร้องไห้ ดีใจและตกใจที่เห็นเรือที่ตัวเองสร้าง ยังคงสภาพเหมือนใหม่ ลำอื่นปลดระวางไปหมดแล้ว ต้องชื่นชมความสามารถของ ทร จริงๆ ครับ จากคุณ : vandalism - [ 10 พ.ค. 50 00:30:20 ]

ความคิดเห็นที่ 25 มาแล้วครับ เวลามีกระทู้แบบนี้ทีไร ต้องเข้ามาช้าทุกที ตาม คห. ของคุณ Vandalism น่าจะเป็น เรือหลวงแม่กลอง ครั้งนำนักเรียนนายเืรือไปฝึกภาคต่างประเทศ และแวะพักที่โตเกียวครับ เรือหลวง นาคา ผมไม่เคยอยู่มาก่อนเลยครับ เลยไม่แน่ใจว่า เครื่องยนต์แปดเครื่องเป็นเครื่องอะไรกันบ้าง ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นเครื่องจักรใหญ่ และเครื่องไฟฟ้า รวมกันเป็น 8 เครื่องนะครับ ส่วนเป็นเครื่องถอยหลังด้วยหรือเปล่านี่ไม่แน่ใจครับ เรือหลวงมกุฎราชกุมาร เฉย ๆ นะครับ ไม่มี สยามนำหน้า ลำนี้ยังไม่ปลดประจำการครับ เรืออื่น ๆ ที่มีความเก่าแก่มาก ๆ และมีำลำเดียวในโลกที่ยังวิ่งได้อยู่อีกลำ คือ เรือหลวงปิ่นเกล้า สังกัด กองเรือฟริเกตที่ 1 ครับ มีลักษณะพิเศษ คือ ใช้เครื่องยนต์ไปปั่นไฟ แล้วใช้ไฟนั้นไปขับมอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อหมุนเพลาใบจักรอีกทีครับ ลำนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านทรงโปรดมาก และทรงมีพระราชปฏิสันถารว่า เห็นเรือลำนี้ทีไร เหมือนได้เห็นพระประยูรญาติ เรื่องการบำรุงรักษาเรือนั้น ทหารเรือถือได้ว่าเป็นสุดยอดเหมือนกันครับ ด้วยเหตุที่เราได้รับงบประมาณน้อย การจัดซื้อเรือใหม่นั้น ยากเย็นแสนเข็ญ จึงต้องบำรุงรักษาเรือที่มีอยู่กันให้เต็มความสามารถ เรือลำหนึ่ง ๆ อย่างน้อย ๆ ต้องประจำการเป็น 30-40 ปี ก็ต้องดูแลให้ดีครับ ส่วนเรือเก่า ๆ อื่น ๆ ที่เข้าขั้นมรดกโลก (เว่อร์ไปป่าว) ก็มีเรือชุด เรือหลวงช้าง เป็นเรือระบายพลขนาดใหญ่ สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันค่อย ๆ ทยอยปลดประจำการไปทีละลำสองลำแล้ว ตอนนนี้ เหลือเรือหลวง พงัน ลันตา พระทอง ครับ เืรือหลวง ช้าง รอปลดอย่างเป็นทางการ เรือหลวง โพสามต้น เรือไอน้ำ แบบข้อเสือข้อต่อ ที่ใช้น้ำมันเตาเป็นเชื้อเพลิง ก็กำลังรอปลดประจำการเช่นกัน เรือลำนี้เป็นเรือที่มีคุณอนันต์ต่อกองทัพเรือไทย เพราะเป็นเรือฝึกนักเรียนนายเรือ มาหลายต่อหลายรุ่น และยังเป็นเรือที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดของประเทศไทยด้วย โดยต่อตั้งแต่ปี พ.ศ.2487 ภารกิจสำคัญของเรือลำนี้ ครั้งหนึ่ง เคยไปอวดธง ในการสวนสนามทางเรือ เนื่องในงานราชาภิเษก สมเด็จพระราชินีอลิซาเบธที่ 2 แห่งประเทศอังกฤษ โดยมีเรือรบอังกฤษ 250 ลำ เรือสินค้า 60 ลำ เรือรบต่างประเทศที่ได้รับเชิญ 16 ลำ ซึ่งรวมถึงไทยด้วย เรือหลวงพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก เรือหลวงพุทธเลิศหล้านภาลัย สองลำนี้อายุกว่า 40 ปี เป็นเรือไอน้ำกำลังดันสูง แบบกังหันไอน้ำ ปัจจุบัน มีใช้กันไม่กี่ประเทศเท่านั้นครับ เรือหลวง ดอนเจดีย์ เรือกวาดทุ่นระเบิดใกล้ฝั่ง ตัวเรือเป็นไม้ ลำนี้ ถ้าซ่อมทำไม่คุ้มค่า ก็คงจะปลดเช่นกันครับ ยุทโธปกรณ์เก่าแก่อีกอย่างที่เห็นจะไม่กล่าวถึงไม่ได้ คือ ตัวป้อมพระจุลจอมเกล้า และปืนเสือหมอบครับ ใครมีเวลาว่าง หาโอกาสไปเที่ยวดูก็ได้ครับ จากคุณ : zedth - [ 10 พ.ค. 50 02:16:26 ]

ความคิดเห็นที่ 26 "ถ้าซ่อมทำไม่คุ้มค่า ก็คงจะปลดเช่นกันครับ"  ตรงนี้แหละครับ ที่ผมปวดใจมาก  ซ่อมทำไม่คุ้มค่า ... ปลดระวางเป็นเศษเหล็ก  ก็ต้องยอมรับว่า ซ่อม .. เพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ป้องกันประเทศ มันไม่คุ้มค่าจริง  แต่  ถ้าซ่อม เพื่อเก็บรักษาเป็นพิพิธภัณฑ์กองทัพเรือ  วางตรงไหนก็ได้ ... เพื่อให้เด็กเล็ก ประชาชน ชาวต่างชาติ ฯลฯ ได้เข้าดู ... นำกำลังพล (เก่าๆ) ที่เคยประจำการบนเรือเหล่านั้น (และสมัครใจ) มาอบรมเพื่อเป็นมัคกุเทศน์ นำชม  เก็บค่าเข้าชมแต่พอประมาณ พอให้ได้เป็นค่าแรง ค่าซ่อมแซมบำรุง (ในราคาต่ำมาก)  ไม่คุ้มหรือครับ  หรือ  ซ่อมพอให้ปฏิบัติงานได้  หน้าร้อน ที่ไม่มีมรสุม ก็นำลงน้ำ ... ร่วมมือกับ บ.เอกชน  พาพลเรือนลงเรือ เพื่อนำชมเส้นทางต่างๆ อันเป็นเส้นทางประวัติศาสตร์นาวี แห่งทะเลไทย  เก็บค่าใช้จ่าย พอให้ได้เป็นค่าแรง ค่าซ่อมแซมบำรุง (ในราคา"ไม่แพงมาก")  นอกจากเป็นการใช้ยุทโธปกรณ์ได้คุ้ม  ยังเป็นการลดการใช้งบฯ  เพิ่มความสัมพันธ์อันดีกับพลเรือน  เพิ่มความรักในชาติ ประเทศ ฯลฯ  ดีไหมครับ?  ทาง ทบ.ยังเปิดค่ายหลายๆค่าย เพื่อการท่องเที่ยวเชื่อมสัมพันธ์  ทร.น่าจะทำมั่ง  (ทอ.ลำบากหน่อย ... ค่าใช้จ่ายมันแพง และค่าประกันชีวิตไม่คุ้ม ) จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 10 พ.ค. 50 13:04:01 ]

ความคิดเห็นที่ 27 สำหรับ เรือหลวงดอนเจดีย์ คงต้องปลดเป็นเศษไม้ล่ะครับ เพราะตัวเรือทำด้วยไม้ เรื่องปลดเรือ มันก็ต้องมีบ้างครับ สำหรับเรือลำเล็ก ๆ จะเอาเรือมาทำเป็นพิพิธภัณฑ์ทุกลำคงไม่ไหว เวลาปลดประจำการ อุปกรณ์ที่ยังใช้ได้ จะถูกถอดออกไปติดตั้งกับเรือลำอื่น ๆ ที่ใช้อุปกรณ์เดียวกัน หรือนำไปติดในเรือที่ยังไม่มี หรือนำไปใช้ในหน่วยบก เช่น ปืน , ปั๊ม , อุปกรณ์เดินเรือ สื่อสาร บางส่วนถูกนำไปไว้ตามโรงเรียนของเหล่าทัพต่าง ๆ เพื่อใช้สอนนักเรียน เช่น นักเรียนนายเรือ นักเรียนจ่าทหารเรือ พลทหาร เป็นต้นครับ บางส่วนถูกนำไปเก็บตามพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น พิพิธภัณฑ์ทหารเรือ , หรืออาคารต่าง ๆ ในหน่วยของทหารเรือ เพื่อเก็บไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา สำหรับเรือที่มีชื่อตามภูมิประเทศ ทางจังหวัดอาจจะขอไปทำอนุสาวรีย์ เป็นเกียรติประวัติของจังหวัด เช่น เรือหลวงชุมพร เรือหลวงประแส บางลำก็นำไปจมใต้ทะเล เพื่อเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปะการัง และทำเป็นแหล่งท่องเที่ยว เช่น เรือหลวงกูด ซึ่งจะเห็นได้ว่า เราได้ใช้ประโยชน์คุ้มค่า ทุกส่วนจริง ๆ ไม่ได้เป็นเศษเหล็กเหมือนที่คุณแมวเหมียวเข้าใจเลยครับ มีอีกเรื่อง เรื่องเรือพิพิธภัณฑ์นั้น ถ้าไม่ใช่ ทร.ดูแลเอง ผมค่อนข้างไม่เห็นด้วยเลยครับ ดูตัวอย่าง ร.ล.ท่าจีน ที่อยู่ที่โรงเรียนเตรียมหทารได้ ผมไปดูแล้วค่อนข้างปวดใจครับ เรืออยู่ในสภาพทรุดโทรมมาก ต่างกับ เรือหลวงแม่กลองที่เราดูแลอย่างดีครับ ซึ่งตรงนี้ ผมคิดว่า ทางนั้น ไม่เข้าใจธรรมชาติของเรือ ว่านำขึ้นไปแล้วต้องดูแลอย่างไรมากกว่าครับ แนวคิดของคุณแมวเหมียว น่าสนใจมากครับ ผมก็อยากให้มีแบบนั้นเหมือนกัน จากคุณ : zedth - [ 10 พ.ค. 50 14:23:13 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ใช่ครับ เรือทุกลำเอามาทำพิพิธภัณฑ์ไม่ไหวแน่ อย่าง USS intrepid ลำนี้เข้าร่วมทั้งสงครามโลก สงครามเวียดนาม แถมเป้นเรือที่รับมนุษย์อวกาศของนาซ่ากลับด้วย ตอนปลดเกือบจะเป็นเศษเหล็กอยู่แล้วครับ แต่มีเอกชนซื้อไปทำพิพิธภัณฑ์ http://www.intrepidmuseum.org ส่วนเรือลำเล็กที่น่าเอามาตั้งแสดง....แน่นอนที่สุด ต.91 จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ 10 พ.ค. 50 14:41:00 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ค้นเจอแล้วครับ เป็นเรื่องเกี่ยวกับ พระราชกระแสรับสั่ง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เกี่ยวกับการอนุรักษ์ เรือของทร. โดยพระองค์ท่านทรงรับสั่งผ่าน ผู้บังคับการหมู่เรือรักษาการณ์วังไกลกังวล และผู้แทน ทร. ในระหว่างเฝ้าฯรับเสด็จ มีเนื้อความประมาณนี้ครับ พระองค์ท่านทรงเสียดายเรื่อเก่าของ ทร. ที่มีประวัติสำคัญ เช่น ร.ล.รัตนโกสินทร์ , ร.ล.สุโขทัย (ลำที่ 1) และ ร.ล.พระร่วง ซึ่งทั้งสามลำ ได้ปลดแล้วก็ขายเป็นเศษเหล็กไป ซึ่งพระองค์ทรงตัดว่า ถึงแม้จะเป็นภาระด้านค่าใช้จ่าย แต่จะเป็นเกียรติประวัติและอนุสรณ์ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา ทรงโปรดแบบเรือเร็วโจมตี ที่สร้างโดยบริษัท LURSSEN ของเยอรมนี เนื่องจาก ออกแบบท้องเรือได้ดีมาก มีความเร็วสูงแม้คลื่นลมแรง ซึ่งแบบเรือที่ได้เสด็จทอดพระเนตรคือ เรือเร็วโจมตีอาวุธนำวิถี ชุด เรือหลวงปราบปรปักษ์ โดยทรงมีพระราชกระแสรับสั่งเพิ่มเติมว่า เรือขนาดนี้เหมาะสมกับประเทศไทย เนื่องจากมีขนาดเล็ก และไม่สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการใช้งานมาก ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งเพิ่มเติมว่าควรอนุรักษ์ เรือ ต.91 - ต.99 ไว้เป็นประวัติศาสตร์ ตลอดจนสร้างเรือประเภทนี้เพิ่มเติม เพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการสร้างเรือ และเรือขนาดนี้มีความเหมาะสมในการลาดตระเวนชายแดน ทรงมีพระราชดำริว่า เรือรบขนาดใหญ่มีราคาแพงและมีค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงานสูง ทร. จึงควรใช้เรือที่มีขนาดเหมาะสมและสร้างได้เอง ซึ่งเมื่อสร้างเรือ ตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง ชุดเรือ ต. 91 ได้แล้ว ควรขยายแบบเรือใ้ห้ใหญ่ขึ้น และสร้างเพิ่มเติมขึ้นอีก ซึ่ง ทร. ก็ได้นำพระราชกระแสรับสั่งในครั้งนั้นมาเป็นแนวทางในการอนุรักษ์เรือรบ โดยมีแนวความคิดดังนี้ อนุรักษ์ไว้ทั้งลำ โดยไม่จัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์ มีลักษณะเป็นอนุสาวรีย์ อนุรักษ์และทำเป็นพิพิธภัณฑ์ อนุรักษ์เฉพาะชิ้นส่วนที่สำคัญของเรือ โดยมีหลักเกณฑ์ของเรือดังนี้ เรือสำคัญที่ได้เคยร่วมปฏิบัติการในการรักษาอธิปไตยของชาติ เรือรบที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของชาติ เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์ เรือรบที่มีวิวัฒนาการทางด้านเทคโนโลยีการต่อเรือ ด้านเครื่องจักรกล อาวุธยุทโธปกรณ์ เรือรบที่ตั้งชื่อตามชื่อจังหวัด หรือสถานที่สำคัญในจังหวัด เช่น สมรภูมิต่าง ๆ ถ้าทางจังหวัดเหล่านั้นมีความประสงค์จะอนุรักษ์โดยอยู่ในความดูแลของจังหวัด จากคุณ : zedth - [ 11 พ.ค. 50 01:48:42 ]

ความคิดเห็นที่ 30 อ้อ ลืมบอกไปเรื่องนี้ตั้งแต่ ปี 45 ซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้ เราก็ได้เห็น เรือ ต.991 ได้เห็นพิพิธภัณฑ์ และอนุสรณ์ทางเรือ อย่าง เรือหลวงประแส และ เรือหลวงท่าจีน อนุสรณ์ใต้น้ำ อย่างเรือหลวงกูด แล้วครับ จากคุณ : zedth - [ 11 พ.ค. 50 01:50:41 ]

ความคิดเห็นที่ 31 แล้วร.ล.ตาปีกับเรือหลวงคีรีรัฐไปไหนครับอยากรู้ จากคุณ : BigZA - [ 23 พ.ค. 50 00:13:54 A:124.120.234.74 X: ]