^
^
ผมก็ไม่ได้ว่าเป็นเทพเฝ้าประตู คุณต่างหากที่เป็นคนบอก ผมไม่ถนัดเรื่องประวัติศาสตร์ ไม่ชอบขุดคุ้ย ของอย่างนี้อยู่ที่ใจ ถ้าจะทดสอบปาฏิหาริย์ก็ต้องให้คนที่ศรัทธา ไม่ศรัทธาแล้วปาฏิหาริย์จะเกิดได้อย่างไรครับ แล้วอีกอย่างถ้าปาฏิหาริย์มันเกิดได้บ่อยๆ แล้วจะเรียกว่าปาฏิหาริย์ได้อย่างไรครับ มันก็จะกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาไป ของบางอย่างพิสูจน์ไม่ได้ หรือไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ อย่างจตุคามที่คุณว่าไม่มีตัวตนจริง หรือเป็นแค่คนเฝ้าประตูบ้าน คุณเองก็ไม่ได้เกิดในสมัยนั้น แล้วคุณจะรู้หรือชี้ชัดฟันธง 100% ลงไปได้ยังไงว่าองค์จตุคามมีจริงหรือไม่ คุณก็เพียงแต่รวบรวมหลักฐานเท่าที่พอจะหาได้เท่านั้นเอง แต่ความเป็นจริงคือหลักฐานบางอย่างก็ไม่ได้ถูกต้องตรงเผง เมื่อเวลาผ่านไป ความบิดเบือนมันก็เกิดขึ้นได้ครับ การพิสูจน์เรื่องอย่างนี้อาจไม่ก่อให้เกิดสาระอะไร แต่ถ้าคุณคิดว่าจะพิสูจน์ให้คนอื่นเห็นว่าคุณเป็นฝ่ายถูก เพื่อที่จะได้ด่าคนอื่นที่นับถือได้เต็มปากหน่อยว่างมงายหรือเชื่อในสิ่งที่ไม่มีตัวตนจริง ผมว่าก็สมควรถูกด่าแล้ว เพราะเหมือนคุณอยู่ดีไม่ว่าดี ไปหาเรื่องพวกเขาก่อน ทั้งๆที่พวกเขาก็ไม่ได้ทำอะไรให้คุณก่อน และคุณก็ไม่ได้เดือดร้อนถ้าคนอื่นงมงาย หรือทำเพื่ออยากอวดความฉลาดของตัวเองว่ารู้ลึก (แต่โง่กว้าง) กว่าคนอื่นๆงั้นหรือ ทุกคนก็มีเหตุผลของตัวเองทั้งนั้น คุณจะไปคิดแทนคนอื่นได้หรือ คุณไม่เชื่อก็ไม่จำเป็นต้องเชื่อ ก็อยู่เฉยๆไปสิครับ เอาแค่หัวข้อกระทู้ ***ผมถูก "สาวกจตุคาม" รุมด่า*** มันก็ไม่ถูกต้องแล้ว ข้อความแบบนี้มันมีกลิ่นอายของความดูถูกคนที่เขานับถืออยู่เยอะมากๆครับ บาง คห. ก็บอกว่าเหตุผลและความจริงใช้ได้กับคนที่พัฒนาแล้ว (คุณอ่านแล้วรู้สึกยังไงครับ ไม่ยกหางตัวเองแล้วเที่ยวดูถูกคนอื่นมากไปหน่อยหรือ โพสออกมาได้)
แล้วเรื่องที่ทำเป็นรูปโอรีโอ้ หรือรูปจตุคอร์ แรมเทพ ไม่เห็นเถียงเลยว่าไม่ได้เป็นการลบหลู่ (เถียงไม่ออก เพราะแบบนี้แหละที่เรียกว่าลบหลู่)
แล้วก็อย่าพูดเลยครับว่าเบื่อกับคำ "ไม่เชื่ออย่าลบหลู่" คำกล่าวนี้ก็เตือนๆสติกันไว้ คุณไม่จำเป็นต้องเชื่อ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องดูถูกหรือล้อเลียนคนที่เชื่อ จำไว้ครับ
แล้วทำไมคุณเพิ่งมาว่าคนที่นับถือเขางมงายเอาตอนนี้เล่าครับ องค์จตุคามสร้างมาตั้งแต่ปี 2530 แล้ว แต่พอเริ่มจะดังคนรู้จักมากขึ้น เขาก็นับถือกันมากขึ้นเท่านั้นเอง คุณอย่ามองว่าทุกคนที่ห้อยจตุคามเป็นคนไม่มีหลักยึด หวังรวยเพราะบูชาองค์จตุคาม หรือเหมาว่าเป็นพวกขูดต้นไม้หาเลขเด็ด กราบไหว้สัตว์ที่เกิดมาพิการแต่แปลกประหลาดเสมอไปครับ คนที่เขานับถือเฉยๆก็มีเยอะแยะไป อย่าเหมารวมๆ
เรื่องการนับถือมันก็เป็นความเชื่อของแต่ละคน เรานับถือครูบาอาจารย์ นับถือญาติผู้ใหญ่ หรือแม้กระทั่งคนแปลกหน้าที่เราไม่เคยรู้จัก แต่เคยช่วยเหลือเราไว้ก็ได้จริงไหมครับ
ส่วนผมนับถือองค์จตุคามเพราะองค์ท่านช่วยเหลือในเรื่องการจับฉลากของผม บอกแล้วไงครับ ใครจะบ้าจับได้แค่ 1 คะแนนจาก 99 คะแนน จับอีกร้อยครั้งก็ไม่ได้น้อยขนาดนั้นหรอก ผมยืนอยู่ในสถานการณ์ตรงนั้นและผมรู้ความรู้สึกตัวเองดี วันนั้นผมพกองค์จตุคามและผ้ายันต์ของพ่อท่านหรั่งไปด้วย และได้อธิษฐานตั้งจิตขอตอนที่คู่แข่งกำลังล้วงมือลงไปจับลูกปิงปอง และสุดท้ายเขาจับได้เลข 0 กับ 1 ผมเลยสบายไปไม่ต้องลุ้น ยังไงก็ต้องจับได้คะแนนมากกว่าแหงๆ
สุดท้ายผมจับฉลากได้ ไม่ต้องเสี่ยงตายลง 3 จังหวัดชายแดน (แม่ผมดีใจมากๆ โทรไปบอกญาติบอกเพื่อนอีกเป็นสิบๆสายเลย ผมรู้เลยว่าแม่ผมเครียดมากขนาดไหน เที่ยวไปเล่าให้ใครต่อใครฟังไปทั่วก่อนผมจะจับฉลาก พอจับได้ท่านก็โล่งใจมากๆ)
ซึ่งอีก 3 เดือน 6 เดือน สามจังหวัดชายแดน ก็อาจจะไม่ใช่ส่วนหนึ่งของประเทศไทยแล้วก็ได้ อาจจะกลายเป็นรัฐอิสระเพราะถูกแบ่งแยกดินแดนตามที่โจรใต้ต้องการ ซึ่งถ้าลงไปแล้วจะย้ายออกมาก็ยาก เพราะจริงๆถ้าจะย้ายต้องหาคนมาแทนให้ได้ก่อน แถมเงินยังได้เพิ่มไม่เท่าไหร่ด้วย ไม่คุ้มเสี่ยง ใครอยากปากดีหาว่าหมอที่หนีพื้นที่เสี่ยงตายเป็นคนขี้ขลาดหรือไม่มีอุดมการณ์ก็พูดกันไป แต่คนที่มาอยู่ในสถานการณ์บีบบังคับที่ต้องเลือกมันแย่ขนาดไหน อาจารย์ผมยังพูดเลยว่าถ้าต้องไป 3 จังหวัดชายแดน เธอลาออกเถอะ "***ไม่เห็นต้องพลีชีพมากขนาดนั้นเลย***" พูดแบบนี้เลยนะครับ
ก็แค่อยากจะบอกว่า คุณอยากจะพิสูจน์อะไรก็พิสูจน์ไปได้ มันเรื่องของคุณอยู่แล้ว แต่สิ่งที่คุณอยากพิสูจน์นั้นมันไม่ได้สลักสำคัญอะไรกับคนที่เขานับถือหรอก หากคุณพิสูจน์แล้วว่าองค์จตุคามไม่มีตัวตนจริง หรือเป็นแค่คนเฝ้าประตูบ้านตามที่คุณบอก คุณก็ไม่จำเป็นต้องนับถือไงครับ มันง่ายจะตายไป แต่หลายคนเขาไม่สนใจหรอกว่าองค์จตุคามจะเป็นอย่างไร มีตัวตนจริงหรือไม่ กลุ่มนี้ คุณก็ไม่จำเป็นต้องเอาสิ่งที่คุณพิสูจน์ไปหักล้างความเชื่อของพวกเขา ทำไปก็มีแต่จะถูกด่าครับ เพราะในขณะที่คุณกำลังเผยแพร่สิ่งที่คุณคิดว่าเป็นข้อเท็จจริงนั้น คุณได้ผสมเอาความอคติ และความคิดเชิงดูถูกคนเอาไว้ด้วย เป็นธรรมดาที่ทุกคนไม่ชอบให้ให้มาดูถูกความคิดตน เพราะฉะนั้นผลลัพธ์ก็คือคุณถูกด่าแน่นอน แค่นี้คุณน่าจะคิดถึงผลของมันได้ก่อนทำลงไป
ส่วนที่ว่าราคาขององค์จตุคามจะตกเหมือนฟองสบู่แตก ผมก็ไม่เห็นว่ามันสลักสำคัญอะไรกับคนที่เช่าเพื่อไปบูชากันคนละองค์สององค์ เขาไม่เดือดร้อนหากราคามันจะตก คุณก็ไม่เห็นจำเป็นต้องไปเป็นเดือดเป็นร้อนแทนพวกเขาหรอก อยากจะฟันธงอะไรก็ฟันธงไปเถอะครับถ้าไม่มีอคติ แต่ถ้าฟันธงว่าราคาจะตกแล้วก็ใส่เอาความคิดเชิงดูถูกคนอื่นว่าโง่ที่ไปหาเช่ามาแพง หรือบอกว่ามีเงินอย่างเดียวไม่พอต้องโง่ด้วยถึงจะเช่าได้ (พูดขนาดนี้มันเกินไปไหมล่ะ) อันนี้ก็ไม่แปลกที่จะถูกด่า ก็เพราะคุณไปดูถูกเขาก่อนไง คิดถึงผลที่จะตามมาก่อนทำสิครับ
นักธุรกิจที่จัดสร้างองค์จตุคามบางคนอ้างว่าจะบริจาคให้วัดเท่านั้นเท่านี้ แต่พอเอาเข้าจริงๆเงินกลับเข้ากระเป๋าตัวเอง อันนี้ก็เลวไปหน่อย ผมก็รับไม่ได้เหมือนกัน พวกนี้สมควรขาดทุนให้เข็ดอันนี้ผมเห็นด้วย แต่หลายๆอย่างมันกลายเป็นว่าพาดพิง (ลบหลู่) ไปถึงองค์จตุคามด้วย (เช่น เรื่องโอรีโอ้จตุคาม กับเรื่องจตุคอร์ แรมเทพ มันฟาดงวงฟาดงามากเกินไปหรือเปล่า ลองดูให้ดีๆว่า คนที่สมควรจะถูกด่าคือใคร ระหว่างนักธุรกิจที่โกหกว่าจะนำเงินไปทำบุญแต่กลับใช้องค์จตุคามหารายได้เข้ากระเป๋าตัวเอง กับกษัตริย์ราชันย์ดำแห่งทะเลใต้ผู้สร้างอาณาจักรให้เจริญรุ่งเรือง ถ้าจะด่าก็ควรด่าให้ถูกตัวหน่อยครับ) แทนที่จะด่าเฉพาะนักธุรกิจเลวๆกลุ่มหนึ่งที่อาศัยองค์จตุคามบังหน้าเพื่อหาผลประโยชน์เข้ากระเป๋าตัวเอง ซึ่งแบบนี้ผมว่ามันไม่สมควรครับ
แก้ไขเมื่อ 27 พ.ค. 50 10:46:23
แก้ไขเมื่อ 27 พ.ค. 50 10:42:25
แก้ไขเมื่อ 27 พ.ค. 50 10:36:46
แก้ไขเมื่อ 27 พ.ค. 50 10:35:00
แก้ไขเมื่อ 27 พ.ค. 50 10:32:24
แก้ไขเมื่อ 27 พ.ค. 50 10:17:25
แก้ไขเมื่อ 27 พ.ค. 50 10:09:58
แก้ไขเมื่อ 27 พ.ค. 50 09:31:54