ความคิดเห็นที่ 1 ไอ้ผมก็รออยู่เหมือนกันว่าเมื่อไหร่เขาจะเปิดรับสมัครสอบเข้ารับราชการซะที จากคุณ : รันม่าทาโร่ - [ 24 พ.ค. 50 02:10:49 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ถามถึงความตั้งใจและมุ่งมั่นในการไปเรียนและกลับมาทำงานเพื่อ ประเทศชาติ จากคุณ : Practical x 2 - [ 24 พ.ค. 50 07:37:02 ]

ความคิดเห็นที่ 3 สอบสัมภาษณ์ทุกที่ อันดับแรกเลยมักจะให้แนะนำตัว หรืออาจขอแนะนำตัวเลยก็ไม่น่าเกลียดแต่อย่างใด ส่วนด้านอื่นๆ นั้นแล้วแต่กรรมการละครับ แนะนำตัวเตรียมตัวอย่างไร ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญนะ...ก็เอาแบบที่เราเห็นว่าเหมาะสมน่ะครับ 1. ลิสต์เรื่องที่เกี่ยวกับตัวเรา ข้อมูลเบื้องต้นจำพวก ชื่อ-สกุล อายุ สถานภาพปัจจุบัน ข้อมูลการศึกษาขั้นสูงสุด โปรเจกที่ทำ ความสนใจพิเศษ ข้อมูลที่คิดว่าเป็นประโยชน์ต่อตัวเรา กิจกรรมที่สำคัญ ให้รวมแล้วประมาณไม่เกินสามนาที ไม่น้อยกว่าหนึ่งนาที สองนาทีกำลังงาม กรรมการส่วนใหญ่จะถามต่อเลย จากข้อมูลที่เราพรีเซ้นต์ตรงนี้เอง 2. ข้อมูลขององค์กรที่เราต้องรับผิดชอบในอนาคต ประมาณไหน ทำไมถึงมาสมัครทุน กพ. ทุนอื่นมีตั้งเยอะแยะ อันนี้เตรียมไว้เลย ต้องตอบอย่างไรถึงจะเป็นบวก 3.ทัศนคติ อันนี้สำมะคัญนะ กรรมการที่เก่งๆ จะดูออก จากการพูดของเราจากไหวพริบที่เราโต้ตอบ น้ำเสียง อารมณ์ขณะนั้น ข้อนี้ฝึกกันยาก ต้องเข้าคอร์สฝึกบุคลิกภาพ เพียงแค่อ่านเอา ยากนักที่จะฉายออกมาทางประกายตาได้ ผมมีแง่คิดสองแง่คือ ตอบให้เป็นตัวของเราเองที่สุด ถ้าถูกโฉลกกับกรรมการก็โชคดีไปผลลัพธ์เป็นบวกแน่นอน แต่ถ้าตรงกันข้ามก็ตัวใครตัวมันครับ หรือตอบแบบให้ตัวเองดูดี เป็นคนที่มีความมุ่งมั่น ประมาณว่าคุณเลือกผมแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน กรณีนี้จะยากหน่อย   ไหนจะต้อง เนียน ระดับเทพแล้วยังต้องมีข้อมูลเยอะ เข้าใจหลักจิตวิทยาใช้ออกในจังหวะที่เหมาะสม ซึ่งถ้าไม่ใช่ระดับนักแสดงมืออาชีพ หรืออัจฉริยะเกียรตินิยมแล้ว ยากที่จะตบตากรรมการได้ และทุกคนก็มักจะเลือกแนวทางนี้ เพราะมันเป็นสากล ที่ทุกคนอยากเป็นคนดี อยากดูดีในสายตาคนอื่น หรืออาจผสมกันก็น่าจะได้  แต่ที่สำคัญอย่าให้ดูแล้วขัดแย้งกันเอง หรืออีกทางหนึ่ง ใช้หลักสูตรตบหัวแล้วลูบหลัง อันนี้ไม่ค่อยอยากแนะนำ แต่ถ้าใช้เป็นแล้วเราจะโดดเด่นกว่าผู้สมัครรายอื่นๆ อาจตบเบาๆ ทำให้กรรมการสะดุด แล้วยกยอในภายหลัง หรือเอาให้หนักแล้วยกยอ ให้เลิศลอยไปเลย ทุกอย่างเขียนมาไว้เลย แล้วลองพูดออกเสียงฟังน้ำเสียงเรา อัดเสียงไว้ให้คนอื่นวิจารณ์ด้วย อันนี้สำคัญมากเราจะรู้การออกเสียง การเว้นวรรค โดยเฉพาะภาษาอังกฤษยิ่งต้องรีบทำ หลายๆ รอบ เปิดฟังแล้วตรงไหนต้องปรับแก้ก็รีบทำ รับรองว่าได้ความมั่นใจ มากโข ดีกว่าไม่เตรียมตัวอะไรเลย จากคุณ : =Lord Gary= - [ 24 พ.ค. 50 11:07:12 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เราต้องประมาณว่ารู้อนาคตของตนเองในสิบปีขางหน้าได้ประมาณว่าล เช่นถ้าคุณำด้คุณจะไปเรียนที่ไหน ทำไม จึงเลือกไอ้นี่ เช่นคุณต้องมียูในดวงใจ อาจารย์ทีคุณจะไปเรียนด้วย แนวทางวิจัยของเค้า เพราะกรรมการจะพอรู้สาขานี้ที่ไหนเด่น ถ้าคุณพูดมาล็วตรงกับเขา ก็แสดงว่าคุณตั้งใจมาดี เพราะเค้าอยากรู้ว่าคุฯณตั้งใจไปเรียนหรือเปล่า แบบข้อมูลมีมั้ย ผมเคยเจอเค้าถามอยากปที่ไหน ผมดันตอบว่าไปที่เยอรมัน แต่ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับระบบการศึกษาเขาเลย คือตอปผิด จนกรรมการต้องบอกว่าไปเปิดดูระบบการศึกษาของประเทศเค้าดีๆนะ ตกคับ อีกปีทีนี่ผมสมัคร ยูก่อนสอบสัมภาษณ์เลยบอกกรรมการว่า ที่นี่เด่นยังไง ทำไมเลือกโปรเฟสเซอร์ คนนี้ โยงให้ได้ว่ามันตรงกับทุนเราตรงไหน โชว์ใบตอบรับให้กรรมการดูเลยว่าเรามีที่เรียน มีคนรับแล้ว ขาดแค่ทุน อีกอย่างอังกิดผมห่วยมาก ก่อนสัมภาษณ์ลงทุนสักห้าพัน จ้างฝรั่งมาสอน  การพูดเลย สคริปอาจจะไม่ตรงเท่าไร แต่มันทำให้เราฝึกการใช้ปาดพูดอังกิด ให้ลิ้นมันชินนะ ประมาณ อาทิดหนึ่งที่นี้เจอกรรมกการจะได้ไม่เกร็งกับภาษามาก ได้คับ เพราะอะไรละ เกรดกับคะแนนข้อเขียนเราโกหกไมได้ ตามทรานสคริป หือผลสอบ เจตคติ เราจะแต่งยังไงก็ได้ จะพูดให้ดูดียังไงก็ได้ใช่ปะ การแต่งตัวก็เช่นกัน แต่สองสิ่งที่ผมแนะนำคุณสรารถทำได้ในสองอาทิดก่อนถึงเวลาสัมภาษณ์จริง สมมุติคนสองคุฯเกรดเท่ากัน คะแนนข้อเขียนเท่ากัน แต่คนพร้อมกว่าแบบรูปธรรมไม่ใช่แบบพรรณา เ กรรมการจะเลือกใครละ แต่พอผมจะไปจริงก็ไปได้เลือกยูนั้นหลอกนะ แบบสับขาหลอกนะ จากคุณ : Nitty.M - [ 27 พ.ค. 50 10:08:15 ]

ความคิดเห็นที่ 5 แล้วผมสอบ ได้ ใช้วุฒิ ป.โทนะครับ เพราะเกรด ดี แต่วุฒิ ป.ตรี ผมเกรดไม่ดีเลย เพราะต้องทำงานด้วยเรียนไปด้วย ผมจะมีโอกาสสอบได้ไหมครับ ผมจบ ป.ตรี สีชมพูนะครับ ทั้งตรีทั้งโท จากคุณ : a (AnxiousHeart) - [ 27 พ.ค. 50 22:43:08 ]