ความคิดเห็นที่ 1 เป็นคำถามที่ดีนะครับ ส่วนตัวคิดว่า  สูญญากาศ ไม่ได้เป็นตัวกลาง แสงสามารถเดินทางผ่านได้เลย ที่ความเร็วสูงสุด ดังนั้นแสงสามารถเดินทางได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีตัวกลาง มาส่งผ่านพลังงาน ใช่ไหมครับ แต่เมื่อเดินทางผ่าน ตัวกลางใดๆ มวลของตัวกลางที่มันเดินผ่านนั่นแหล่ะ มันเป็นตัวคอยสกัดกั้นหรือไปกระทบกระเทือนการเดินทางด้วยความเร็วสูงสุดของแสง ทำให้ความเร็วของแสงที่เดินทางผ่านเข้าไปในตัวกลางเปลี่ยนไป จากคุณ : Styer - [ 15 มิ.ย. 50 17:51:38 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เพราะว่า โฟตอนมันมาชนกับ อนุภาคของมววตัวกลางงั้นหรือ ... ? ผมยังไม่ค่อยเก็ตเลยอ่ะครับ ? จากคุณ : [:Rexagon:] - [ 15 มิ.ย. 50 18:10:47 ]

ความคิดเห็นที่ 3 แสง ยังไงๆก้อความเร็วเท่าเดิมครับ เพราะจาก Electromagnetic Wave Equation ของ Maxwell ความเร็วของแสง คือ       c =1/sqrt(e0u0) ในมุมมองของ EM-Wave ไม่มีคำว่า "ตัวกลาง" เพราะตัวกลางก้อเป็นแค่กลุ่มอะตอมที่มาขวางทาง เดินของมันเฉยๆ แต่สาเหตุที่แสงเดินทางช้าลงในตัวกลาง เกิดจาก 2 สาเหตุ เหมือนทีคุณ Styer ตอบไว้ครับ คือ     1. การรับและคาย photon ของ electron ใน atom     2. การกระเจิง หรืออื่นๆที่ทำให้ photon ต้องเป๋ไปจากเส้นทางเดิม photon กับ EM-Wave คือสิ่งเดียวกันนะครับ Classical physics มองว่าแสงเป็นคลื่น แต่ Modern Physics มองว่าแสง และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าทุกชนิด คืออนุภาคไร้มวลชนิดหนึ่งที่เรียกว่า photon เมื่อ photon เดินทางผ่านเข้ามาเจอตัวกลาง มันก้อเจอข้อ (1) โดนดูดหายไปพักหนึ่งก่อนจะโดนคา ยกลับออกมาใหม่...เสียเวลาไปกระจึ๋งนึง เดินทางต่อไป...นึกว่าจะโชคดี...เจอข้อ (2) อีก...เส้นทางเดินเบี้ยวไป เหมือนเดิมอ้อมไปอ้อมมา ทำ ให้เดินทางช้าลงไปอีก.... +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ถ้าถามว่า c ยังเท่าเดิมมั้ยในตัวกลาง..ตอบได้เลยว่าเท่าเดิม! แต่ความเร็วปรากฏ v มันไม่เท่าเดิม เท่านั้นเองครับ จากคุณ : pzifrius - [ 15 มิ.ย. 50 18:41:06 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ตามความคิดผมนะครับ ก็เหมือน น้ำที่ไหลลงเขาที่โล่งเตียน กับน้ำที่ไหลผ่านป่า แบบไหนจะไหลลงด้วยความเร็วที่สุงกว่าล่ะครับ ที่แสงเดินทางช้าลง ก็เพราะ ส่วนหนึ่งอาจจะถูกดุดกลืน ส่วนหนึ่งอาจจะสะท้อนกลับ เหลือเพียงบางส่วน ที่สามารถเดืนทางผ่านออกมาได้ จากคุณ : Styer - [ 15 มิ.ย. 50 18:49:58 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เขามาร่วมงงด้วย แสง A ผ่านตัวกลางที่มีค่าดรรชนีหักเหแสงสูงไปถึงฉาก แสง B ผ่านสูญญากาศ ไปเป็นระยะทางเท่ากัน ถ้าแสงทั้งสองออกพร้อมกันถึงฉากรับพร้อมกันหรือไม่ กรณีนี้ใช้ C หรือ v ในการคิด เพราะอะไร ถ้าใช้ v แล้วให้ C เป็นเพียงค่าคงที่ทางคณิตศาสตร์ ที่ไม่ใช่ค่าความเร็วแสงปรากฎแค่นั้นหรือ จากคุณ : khanasri - [ 15 มิ.ย. 50 19:54:03 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ใช่แล้ว c เท่าเดิม แต่ v เปลี่ยนครับ จากคุณ : อะธีลาส - [ 15 มิ.ย. 50 21:29:13 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ความเร็วปรากฏ ... ก็คือความเร็วที่เราเห็น (คิดว่าเห็น) เดินทางผ่านตัวกลางต่าง ๆ คือ v เป็นแค่ที่เรามองเห็นเท่านั้นเอง แต่จริง ๆ แล้วแสงก็ยังเดินทางเท่ากับ c อยู่ดี แค่เราเห็นว่ามันเปลี่ยนเท่านั้นเอง ใช่มั้ยครับ จากคุณ : [:Rexagon:] - [ 15 มิ.ย. 50 22:21:51 ]

ความคิดเห็นที่ 8 สูญญากาศ ? จากคุณ : ไม่มีสมาชิกชื่อนี้ - [ 15 มิ.ย. 50 22:33:27 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เพราะว่ามันเป้นสมบัติจของคลื่นหรือเปล่าที่เมื่อเปลี่ยนตัวกลาง ความเร็วก็เปลี่ยน ... ไอสไตน์เคยพยายามตัวกลาง อีเทอร์ แต่ไม่พบครับ จากคุณ : กระเพราเป็ด - [ 15 มิ.ย. 50 23:10:42 ]

ความคิดเห็นที่ 10 c เป็นความเร็วของแสง (และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า) ในสุญญากาศนะคะ ไม่ใช่ความเร็วของแสงในตัวกลางใดๆ เมื่อแสงเดินทางผ่านตัวกลางอื่น ความเร็วเปลี่ยนได้ค่ะ ที่ว่าความเร็ว c คงที่หมายถึง เมื่อผู้สังเกตการณ์ A (observer) อยู่บนดาวอังคาร ผู้สังเกตการณ์ B อยู่บนโลก ผู้สังเกตการณ์ O อยู่บนยานอวกาศที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงมาก ทั้งสามคนจะยังคงเห็นแสงเดินทางผ่านสุญญากาศด้วยความเร็ว c เท่ากัน แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 50 08:32:59 จากคุณ : ว้อบแว้บ* - [ 16 มิ.ย. 50 08:13:59 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ผมเข้าใจครับว่า ... แสงเดินทางในสุญญากาศจะเท่ากับ c #คุณ ว้อบแวบ คห. 10 ครับ ... : ผมยังไม่เข้าใจที่พูดว่า ความเร็วในตัวกลางเปลี่ยนได้ ในความหมายของพี่เลยนะครับ ? ช่วยอธิบายให้กระจ่างหน่อยนะครับ ... #พี่ PZIFRIUS ครับ ... แสงในตัวกลางที่เราเห็น มันคือความเร็วปรากฏ ... ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วแสงมันก็ยังเคลื่อนที่เท่ากับ c เหมือนเดิม ... แต่ที่พี่บอกว่า อนุภาคมันรับและคาย photon และก็มีการกระเจิง ทำให้มีการเสียเวลาไปนิดนึง ไอ่ตรงนี้มันเหมือนกับพี่บอกว่า ความเร็วจริง ๆ มันก็ช้าลงยังไงยังงั้นนะครับพี่ ... มันรู้สึกขัด ๆ ยังไงชอบกล ... ผมยังไม่เข้าใจตรงไหนหรือนี่ ??? ขอบคุณนะครับ จากคุณ : [:Rexagon:] - [ 16 มิ.ย. 50 12:56:46 ]

ความคิดเห็นที่ 12 #11 ความเร็วของ c ยังเท่าเดิมเสมอครับ ไม่ว่าจะอยู่ในตัวกลางใดๆ แต่ความเร็วปรากฏที่เราเห็นจะมีค่าลดลงเมื่อมันเคลื่อนที่ผ่านตัวกลาง ยกตัวอย่างให้เห็นภาพนะครับ ลักษณะการเคลื่อนที่ในสูญญากาศ ------------------------------------- (เป็นเส้นตรง) เมื่อเคลื่อนที่ในตัวกลาง /\/\/\/\/\/\/\/\/\/\/\/\/\/\/(มีการสะท้อนและดูดกลืนในตัวกลาง) เมื่อแสงเคลื่อนที่ผ่านตัวกลาง อะตอมของตัวกลางมีการดูดกลืนคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ทำให้แสงเสียเวลาในการถูกดูดกลืนหรือสะท้อนกลับไปกลับมาในตัวกลางแบบนี้ซ้ำๆ ทำให้เราเห็นแสงเคลื่อนที่ในตัวกลางลดลง ส่วนที่ c มีค่าเท่าเดิมในตัวกลางหมายถึง c ที่ถูกปล่อยออกจากอะตอมหลังการดูดกลืนของมันแล้วนั่นเองครับ ลองคิดภาพดู ในตัวกลาง อะตอมมันไม่ได้อยู่ติดกันหรือหนาแน่นเท่ากับนิวเคลียส และรัศมีของวงโคจรของ e-ใหญ่กว่าขนาดนิวเคลียสเป็นหมื่นถึงแสนเท่านะครับ ดังนั้นมันจะมีพื้นที่ว่างระหว่างนิวเคลียสกับ e-หรือของอะตอม แต่ละอะตอมอยู่ครับ นั่นแหล่ะ พื้นที่ว่างตรงนั้นเป็นสุญญากาศ เมื่อแสงถูกคายออกมาก็จะเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว c ทันที แต่ที่เราเห็น v ลดลงเพราะมันไปเสียเวลาอย่างที่บอกไว้ข้างบนครับ จากคุณ : Styer - [ 16 มิ.ย. 50 16:45:16 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ผมยังไม่เข้าใจตรงที่ว่า ... "ส่วนที่ c มีค่าเท่าเดิมในตัวกลางหมายถึง c ที่ถูกปล่อยออกจากอะตอมหลังการดูดกลืนของมันแล้วนั่นเองครับ " แสดงว่าที่พี่ ๆ พูดถึง พิจารณาเฉพาะ c ในช่วงเวลาก่อนดูด และหลังคายพลังงานเท่านั้นใช่ไหมครับ ? "แต่ที่เราเห็น v ลดลงเพราะมันไปเสียเวลาอย่างที่บอกไว้ข้างบนครับ" ที่ผมอ่าน เหมือนกับพี่กำลังจะบอกว่า c คงเดิม แต่ v ปรากฏมันลดลงน้อยกว่า c และสิ่งที่ทำให้ v ปรากฏลดลงก็คือ ไอ่ 2 ข้อนั้นที่ทำให้เสียเวลา และไอ่ตรงที่พี่บอกตรงนี้อ่ะครับ ผมงงจริง ๆ มันเหมือนพูดขัด ๆ กัน พี่บอกว่า ทำให้ความเร็วแสงที่ปรากฎลดลง ( แล้วทำไมความเร็วแสงจริง ๆ ยังเท่าเดิมได้ไงหว่า) ก็ถ้า c จริง ๆ ไม่ลด แล้วไฉนเราถึงเห็น v ปรากฏลดลง ... ? งงคร้าบบบบบบบบบบบบบบ ยังไม่เข้าใจเลยอ่า ... !!! ปล. หือ ๆๆๆๆ ภารกิจนี้ต้องแก้ไขให้สำเร็จ จะรอความช่อวยเหลือของพี่ ๆ ต่อไป ขอบคุณนะคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ รักหว้ากอ และพี่ ๆ หว้ากอทุก ๆ คน ! จากคุณ : [:Rexagon:] - [ 16 มิ.ย. 50 18:19:31 ]

ความคิดเห็นที่ 14 c = ความเร็วของแสงในสุญญากาศ มันจึงคงที่เสมอเพราะไม่สามารถตัดคำว่าสุญญากาศออกไปจากนิยามของมันได้ค่ะ ที่ว่าความเร็วเปลี่ยน  ก็หมายถึงความเร็ว v น่ะค่ะที่เปลี่ยน ความเร็วแสงในน้ำ ก็เท่ากับ v (ซึ่งไม่เท่ากับ c ) และ v ของแสงในน้ำมันช้ากว่า c จึงได้พูดว่าความเร็วเปลี่ยน (แต่ไม่ได้บอกว่า c เปลี่ยน) คุณพูดว่า "แสงมีความเร็วเท่ากับ 3 x 108 เสมอ" คงต้องบอกว่าผิด แต่ถ้าพูดว่า "แสงมีความเร็วโดยประมาณเท่ากับ 3 x 108 เสมอในสุญญากาศ" ก็ถูกค่ะ สรุปว่าถ้าพูดถึง "speed of light" มันอาจจะหมายถึง v ซึ่งเปลี่ยนแปลงได้ แต่ถ้าพูดถึง "speed of light in vacuum" มันจึงจะเป็น c ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงค่ะ ตามที่คุณ Styer อธิบายไว้ในความคิดเห็นที่ 12 ก็จริงค่ะ แต่ที่บอกว่า "ความเร็วของ c ยังเท่าเดิมเสมอครับ ไม่ว่าจะอยู่ในตัวกลางใดๆ " เราคงต้องบอกว่า  ดูเหมือนจะพูดขัดแย้งกันกับที่เราบอกไป  แต่ที่จริงเป็นเรื่องเดียวกันและเหมือนกัน  (เพราะคุณอ้างถึงพื้นที่ว่างเปล่าในอะตอมและระหว่างอะตอมนี่นา ซึ่งภายในส่วนเล็กๆ ที่อ้างนั้นมันไม่ได้มีตัวกลางหรืออะตอมของตัวกลางอยู่ จึงเป็น vacuum เล็กๆ )   และเราก็ไม่เคยบอกว่า c เปลี่ยนนะคะ เพราะตอนที่พูดว่าเปลี่ยนได้ เราหมายถึง v ของแสงต่างหาก *ภาพประกอบนำมาจาก http://micro.magnet.fsu.edu/primer/lightandcolor/speedoflight.html จากคุณ : ว้อบแว้บ* - [ 16 มิ.ย. 50 19:01:54 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เอ่อ ลืมภาพประกอบค่ะ แล้วก็ link สำหรับศึกษาเพิ่มเติม http://math.ucr.edu/home/baez/physics/Relativity/SpeedOfLight/speed_of_light.html http://en.wikipedia.org/wiki/Speed_of_light จากคุณ : ว้อบแว้บ* - [ 16 มิ.ย. 50 19:05:47 ]

ความคิดเห็นที่ 16 น้องต้องแยกลำแสง c และ v ออกจากกันก่อนนะครับ แสงมีความเร็ว c เสมอครับ เมื่อแสงเคลื่อนที่เข้าไปในตัวกลาง ขณะที่มันอยู่ในตัวกลาง มันก็เดินทางที่ความเร็ว c อยู่ตลอด แต่ทีนี้ ตัวกลางมันทำให้แสงเดินทางไม่สะดวก ยกตัวอย่างคร่าวๆละกันนะครับ เหมือนกับเอาคนมายืนต่อแถวกันหลายๆคน แล้วให้เราวิ่งผ่านคนเหล่านั้นไป เราก็ต้องวิ่งอ้อมคนเหล่านั้นใช่ไหมครับ ถึงจะถึงจุดหมาย ซึ่งเราเองก้อยังวิ่งด้วยความเร็วเท่าเดิมอยู่ แต่ต้องใช้ระยะทางมากขึ้น เพราะเสียเวลาไปอ้อมคนที่ยืนขวาง แทนที่จะวิ่งไปตรงๆเลย ทำให้เราถึงจุดหมายช้ากว่าเดิม ทั้งๆ ที่เราวิ่งด้วยความเร็วเท่าเดิม ผู้สังเกตุก็จะเห็นเราวิ่ง"ไปข้างหน้า"ช้าลง ระหว่างที่เราวิ่งอ้อมคนเหล่านั้นอยู่ จากคุณ : Styer - [ 16 มิ.ย. 50 20:43:53 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ... แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 50 21:27:26 จากคุณ : ว้อบแว้บ* - [ 16 มิ.ย. 50 21:23:48 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ไม่ได้เสวนากันนานเลยทีเดียว ก่อนอื่นคุณrexagonต้องนึกภาพให้ได้ก่อนครับ ว่าvคืออะไร cคืออะไร มันต่างกันอย่างไร สมมติให้คุณวิ่งมา มี c(สมมติให้ไม่ไช่ความเร็วแสงนะครับ แต่เป็นความเร็วของคุณเอง) 20กม./ชม ถ้าวิ่งไปในแนวตรงด้วยc 20กม. ใช้เวลา1ชม. แน่นอนvก็คือ20กม./ชม(v คือความเร็วเฉลี่ย) ถ้าวิ่งไปในแนวตรงด้วยc 20กม.ในเวลา1ชม. แล้วคุณวิ่งกลับมา1กม. ในเวลา1/20ชม. ถามว่าการกระจัดของคุณเปลี่ยนไปไหม แน่นอน เหลือ19กม. ส่วนเวลาเปลี่ยนไปไหม 1ชม.กับ3นาที การกระจัดหารด้วยเวลาเปลี่ยนไป ดังนั้นvเปลี่ยนไป cเปลี่ยนไปไหม cยังเหมือนเดิม เพราะ(ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดนะ) cคือความเร็วชั่วขณะหนึ่ง นั่นเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมเราวิ่งด้วยความเร็ว80กม./ชม ต่อมาวิ่งด้วยความเร็ว50กม./ชม แล้วความเร็วเฉลี่ยจึงไม่ใช่เอาทั้งสองอันหารด้วย2 เพราะความเร็วเฉลี่ยต้องคำนึงถึงการกระจัดและเวลาที่ใช้ด้วย ปล.โอฯสสวท.เหรอครับ ผมสมัครสอบฟิสิกส์เหมือนกันครับ แต่คงไม่ได้ไปสอบละ เฮ้อ!~~ ไม่เป็นไร รอโอฯของสอวน.แล้วกัน ปล.2 คือ มีคนที่ผมรู้จักคนนึง สอบเคมี แน่ใจว่าผิดจริงๆๆๆๆๆแค่3ข้อ แต่ไม่ติด (หลังจากนั้นก็สอบโอฯสอวน. ได้เหรียญเงินกลับมา) อืม มันยากจริงๆ แก้ไขเมื่อ 17 มิ.ย. 50 19:39:58 แก้ไขเมื่อ 17 มิ.ย. 50 16:46:30 แก้ไขเมื่อ 17 มิ.ย. 50 16:01:57 จากคุณ : อัมมาลย์ - [ 17 มิ.ย. 50 14:16:53 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ตามที่ผมเข้าใจ ... สมมติว่าผมกินส้มเป็นปรกติวันละ 10 ลูก กินมันทุกวันวันละ 10 ลูก (C ของแสง เป็นลักษณะเฉพาะตัวของแสง ตามนิยามแสง ในสุญญากาศ) เป็นปรกติ ตั้งแต่เกิด เป้นสันดาน นิสัยผม แต่ปรากฏว่าวันนี้ดันส้มเน่าไป 3 ลูก ทำให้ผมได้กินแค่ 7 ลูก ทั้ง ๆ ที่ปรกติผมกิน 10 ลูก (แต่แสงดันเดินทางเข้ามาในตัวกลางเฉย ๆ เลยทำให้มันต้องช้าลง เพราะว่าอนุภาคตัวกลางมันดู และคาย) ถ้าจะพูดให้ถูก ก็คือ c เป็นสันดานของแสง แต่ v เป็นแค่สิ่งที่ไปทำให้ให้สันดานมันเปลี่ยน ทั้ง ๆ ที่มันไม่ได้อยากจะเปลั้ยนเลย ... ใช่ไหมครับ ขอบคุณครับ !!! จากคุณ : [:Rexagon:] - [ 17 มิ.ย. 50 23:50:36 ]

ความคิดเห็นที่ 20 สันดานเปลี่ยน...ไม่ใช่เลยครับ อืม...จะว่ายังไงล่ะ ตอนนี้เรายังไม่พูดถึงการเสียพลังงานของแสงนะครับ เราพูดถึงว่าถ้าแสงผ่านตัวกลางโดยไม่เสียพลังงาน ไม่เกิดการเปลี่ยนความถี่จนเสียสมบัติของแสงไปเป็นคลื่นชนิดอื่น ซึ่งจะส่งผลต่อสมการที่คุณยกมา ผมยังไม่ได้ศึกษาสมการนั้นเลย เลยยังไม่ค่อยบอกอะไรได้มากนักครับ(หนังสือเรียนเคมีกล่าวถึงเรื่องนี้สั้นๆ ไม่ค่อยบอกอะไรเลยพับผ่าสิ) เอาอย่างงี้แล้วกันครับ จะได้นึกภาพออก ถ้าคิดเป็น"อัตราเร็วเฉลี่ย" จะเท่าเดิม แต่ถ้าคิดเป็น "ความเร็วเฉลี่ย" จะไม่เหมือนเดิมครับ ตอนนี้เรายังจะไม่คิดถึงอัตราเร็วขณะใดขณะหนึ่ง หรือความเร็วขณะใดขณะหนึ่งก่อน จะได้ไม่สับสน ตอนนี้ลืมเรื่องของแสงไปก่อน เรามาทบทวนจลนศาสตร์จะได้ชัดเจนขึ้น จำตอนที่เรียนเรื่องอัตราเร็วเฉลี่ยกับความเร็วเฉลี่ยใหม่ๆได้ไหมครับ มันแตกต่างกันอย่างไร อัตราเร็วเฉลี่ยคือ ระยะทางในหนึ่งหน่วยเวลา ซึ่ง"ไม่คำนึง"ถึงทิศทาง หมายความว่าไปทิศทางใด ระยะทางก็เพิ่มขึ้นเสมอ วิ่งไปด้วยอัตราเร็วคงที่80กม./ชม. วิ่งซิกแซกไปมาในเวลา1ชม. ถามว่าจะได้ระยะทาง80กม.หรือไม่ คำตอบคือใช่ เพราะเรานับระยะทางหมด วิ่งไปทางโน้นทางนี้เราก็นับ เปรียบเทียบได้กับc(แต่ไม่ได้หมายความว่าcคืออัตราเร็วเฉลี่ย แต่ผมเปรียบเทียบเฉยๆ อันที่จริงควรเป็นอัตราเร็ว หรือความเร็วขณะใดขณะหนึ่งมากกว่า) แต่ถ้าถามว่าวิ่งซิกแซกด้วยอัตราเร็วคงที่80กม./ชม. แล้วถามหาการกระจัดในเวลา1ชม. ถามว่าคือ80กม.ใช่ไหม คำตอบคือไม่ใช่ เพราะเราไม่นับระยะทางที่ซิกแซกไปด้วย เรานับจากจุดเริ่มต้นไปจุดสุดท้าย เปรียบเทียบได้กับv เหล่านี้คือสามัญสำนึกพื้นฐานที่เรียนกันมาครับ คงจะนึกออกแล้วนะครับ ถ้ายังนึกไม่ออกลองคิดตามดูอีกรอบ ปล.นี่คือความสำคัญของ"ความเร็ว"อีกข้อ ปล.2 ไม่อยากสอบแต่อยากได้ข้อสอบมากเลยครับ นี่ก็ว่าจะขูดรีดจากเพื่อนที่ไปสอบ แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 50 11:03:32 จากคุณ : อัมมาลย์ - [ 18 มิ.ย. 50 11:01:41 ]

ความคิดเห็นที่ 21 คุณ อัมมาลย์ อธิบายได้ดีครับ จากคุณ : pzifrius - [ 18 มิ.ย. 50 22:08:23 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ประมาณนี้หรือเปล่าครับ ??? จากคุณ : [:Rexagon:] - [ 20 มิ.ย. 50 20:07:53 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ผมแตกกระทู้ไปที่ ... แล้วนะครับ จากคุณ : [:Rexagon:] - [ 20 มิ.ย. 50 20:11:08 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ผมแตกกระทู้ไปที่ ... แล้วนะครับ จากคุณ : [:Rexagon:] - [ 20 มิ.ย. 50 20:11:21 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ผมแตกกระทู้ไปที่ ... แล้วนะครับ จากคุณ : [:Rexagon:] - [ 20 มิ.ย. 50 20:12:10 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ผมแตกกระทู้ไปที่ ... แล้วนะครับ จากคุณ : [:Rexagon:] - [ 20 มิ.ย. 50 20:12:38 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ผมแตกกระทู้ไปที่ ... แล้วนะครับ จากคุณ : [:Rexagon:] - [ 20 มิ.ย. 50 20:12:52 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เฮ้ย ... เป็นไปได้ไงหว่ะ รู้แล้วครับ ... ขอโทษนะครับที่ทำให้รก ... จากคุณ : [:Rexagon:] - [ 20 มิ.ย. 50 20:18:14 ]