ความคิดเห็นที่ 1 เข้าใจแล้ว มิน่าละ คนเราถึงมักจมอยู่กับอดีต แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 50 18:19:44 จากคุณ : เจ็บY - [ 18 มิ.ย. 50 18:17:50 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เอาล่ะเว้ย พล็อตนิยายชวนงงมาอีกแล้ว จากคุณ : hj - [ 18 มิ.ย. 50 18:20:38 A:58.9.183.143 X: TicketID:145104 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คนเราอยู่กับปัจจุบัน ยิ่งคิดเห็นเข้าไปข้างในจะยิ่งพบสิ่งที่เป็นปัจจุบันมากขึ้น แต่ถ้าเราคิดเห็นออกไปข้างนอก ยิ่งคิดออกไปไกลเท่าไหร่ยิ่งเห็นสิ่งเป็นอดีตนานขึ้น จากคุณ : มังกรใจเย็น - [ 18 มิ.ย. 50 18:21:30 ]

ความคิดเห็นที่ 4 แล้วเวลาเล่นเทนนิส หรือตีแบต มันเป็นการเล่นที่มีการตอบโต้กันตลอดเวลา หรือมันเป็นการตอบโต้กันของอดีตครับ จากคุณ : CU. โดนยึดอมยิ้มแล้วจ้า - [ 18 มิ.ย. 50 18:45:49 A:58.10.90.191 X: TicketID:146611 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่ค่อยเข้าใจนะ แต่เพราะเราเห็นสิ่งที่เกิดใช่ไหม มันเกิดแล้วก็เป็นอดีตเสะ จากคุณ : maikeet - [ 18 มิ.ย. 50 18:57:36 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ตอนต้นพูดไม่ค่อยเคลียร์ หมายถึงเวลาขนาดน้อยมากๆที่แบ่งต่อไปได้เรื่อยๆ จนกระทั่งไม่รู้ว่าจะเอาจุดไหนมากำหนดเป็นปัจจุบัน เหมือนใน Zeno's paradox น่ะครับ กระแสไฟฟ้าในสมองก็เหมือนแสงใช้เวลาเดินทางชั่วพริบตา แต่ก็ต้องอาศัยเวลาเดินทางอยู่ดี จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! - [ 18 มิ.ย. 50 18:57:46 ]

ความคิดเห็นที่ 7 จริงครับ .. ยังไงเราก็สัมผัสปัจจุบันไม่ได้อยู่แล้ว แปลกนะครับ ถ้าคิดด้านนี้ ...  เราไม่มีอนาคตเลยด้วย .. คิดๆๆๆ  งง ดี ครับ  สนุกมาก จากคุณ : ทุ่มเท - [ 18 มิ.ย. 50 19:00:31 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อืมม แล้วอย่างนี้สัตว์ที่มีประสาทสัมผัสดีกว่ามนุษย์ ล่าและใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในตอนกลางคืน ก็ถือว่า ล้ำหน้าไปในอนาคตมากกว่าคนนิดนึงป่าวคับ แค่คิดเล่น ๆ น่ะ :P จากคุณ : ด่างไรเดอร์ - [ 18 มิ.ย. 50 19:13:00 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมคิดว่า คนเราแยกไม่ออกหรอกครับ d~_~b จากคุณ : Sakuder - [ 18 มิ.ย. 50 19:20:23 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เอาแค่ประมาณก็พอ ไม่ต้องเป๊ะๆๆๆๆ ขนาดนั้นหรอก แล้วเราจะหาจุดยืนได้ยังไง เมื่อไม่มีปัจจุบัน ถ้าเอาแบบจขกท.ว่า ทุกอย่างจบเลยแบบนี้ จากคุณ : rider XXX - [ 18 มิ.ย. 50 19:28:54 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อืมม... จริง จากคุณ : pattapon - [ 18 มิ.ย. 50 19:40:45 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เรื่องนี้มันเกี่ยวอยู่สองอย่างคือ 1.ความไวของสัมผัสคนเรา อย่างแรก สัมผัสเราไวได้ขนาดนึงเท่านั้น(ซึ่งผมเห็นด้วยกับ คห.10 ทุก ประการ ว่าแค่นั้นก็พอจะถือเป็นปัจจุบันของคนเราได้) แต่คล้ายๆกับที่คุณ มังกรใจเย็นว่า คือผมเหมือนจะอ่านเจอการแบ่งเวลาเชิงพุทธ (รู้สึก ศ.ดร.ระ วี ภาวิไล จะเขียนไว้นานแล้ว) เรื่องขณะจิต เมื่อพิจารณาเข้าไปข้างใน แต่เวลาที่เราแบ่งข้างใน ก็ไวเท่ากับขอบเขตของการทำงานของสมองเรา เท่านั้นหรือเปล่า นั่นคือ ไม่สามารถตามเวลาจริวได้ใกล้กว่านั้นแล้ว นั่นถือ เป็น lag time ของสมองเราเหมือนพวกระบบควบคุมมี lag time ยังไงยังงั้น 2. เวลาจริงๆแล้วแบ่งเป็นหน่วยได้เล็กที่สุด หรือรันต่อเนื่องกันไป เกี่ยวกับข้อสอง ช่วยวิจารณ์ข้อความต่อไปนี้ให้หน่อยครับ -*- ... อ่านแล้วทำความเข้าใจความคิดรวบยอด(concept) ยาก รู้สึกจะมีคนไปเขียนปฏิทรรศน์ของซีโน่ในวิกิพีเดียเพิ่มขึ้นจากที่เข้าไปดู เมื่อหลายปีที่แล้ว มีเนื้อหาเพิ่มอีกเยอะเลย http://en.wikipedia.org/wiki/Zeno%27s_paradoxes Are space and time infinitely divisible? Another proposed solution to some of the paradoxes is to consider that space and time are not infinitely divisible. Just because our number system enables us to give a number between any two numbers, it does not necessarily follow that there is a point in space between any two different points in space, and the same goes for time. If space-time is not infinitely divisible (and thus not perfectly continuous), it is "discrete" (composed of “lumps” and “jumps”, as is experimentally observed in the field of quantum physics e.g. electron orbitals jumping from one level to another). This means that motion is, at the smallest physical level, a series of jumps from one quantum space-time coordinate to the next, each occurring over distance and time intervals that are not divisible into smaller measures. Thus the total number of quantum jumps made while traversing from point A to point B is finite, and therefore there is no paradox. งงดี ตาม คห.7 ว่าไว้เลย ทิ้งไว้แค่นี้ก่อน ออกไปหาซื้อขนมมากินดีกว่า เดี๋ยวจะกลับมาดูใหม่.. จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! - [ 18 มิ.ย. 50 19:48:43 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เราอยู่กับอดีตตลอดเวลา ปัจจุบันไม่มีอยู่จริง    อืม...คงจะจริง ผมชอบคิดถึงเรื่องเก่าๆ ชอบดูละครพีเรียดอย่างเรื่อง ramพิสวาท ชอบหนังแนว nostalgia นึกย้อนความหลังอย่างเรื่อง แฟนฉัน จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 18 มิ.ย. 50 20:09:41 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ถ้ากลับไปต้นตอของจุดกำเนิด ก็หาปัจจุบันพบ จากคุณ : Dr.slump - [ 18 มิ.ย. 50 20:15:07 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อย่างนี้คงต้องเร่งความเร็วของ "ไซแนบส์" ให้สูงขึ้นเยอะๆสินะครับ จะได้เข้าใกล้ "ปัจจุบัน" ได้มากขึ้น *0* เอ... แล้วถ้าเรามีความสามารถที่จะ "เร่ง" ได้จนเลยจุดๆหนึ่งไป.. จะทำให้เราก้าวเลยปัจจุบันกาล จนเข้าไปอยู่ในขอบเขตของอนาคตกาลหรือเปล่าครับ? จากคุณ : ง่า.. - [ 18 มิ.ย. 50 20:19:30 A:124.120.74.81 X: TicketID:109190 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ในเมื่ออยู่ในอดีตตลอดเวลาจริง แล้วทำไมถึงแก้ไขอดีตไม่ได้ล่ะครับ แสดงว่ารถที่เราขับอยู่ก็คือ ไทม์แมชชีนนี่เอง มันพาเราไปในอดีตได้ จากคุณ : นาซ่าโพส - [ 18 มิ.ย. 50 20:21:09 ]

ความคิดเห็นที่ 17 #15 คิดเหมือนเรื่อง Serial Experiment Lain เลยครับ ที่มีการมองการใช้ยา micro-machine drug ชื่อ Accela ทำให้สัญญาณในสมองคนและการประมวลผลเร็วขึ้น (เหมือนเราโอเวอร์คล็อกสมองคน ถ้าเทียบสมองคนเป็นซีพียูคอมพิวเตอร์) จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! - [ 18 มิ.ย. 50 20:31:18 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ล้ำลึกสุดๆ จากคุณ : MochaSundae - [ 18 มิ.ย. 50 20:53:11 ]

ความคิดเห็นที่ 19 งง จากคุณ : tanni - [ 18 มิ.ย. 50 21:05:24 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ผมโอเวอร์คล็อคมาแล้วครับ บรืนๆๆ~ จากคุณ : Jinx D Wednesday - [ 18 มิ.ย. 50 21:09:09 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เวลาจริงๆแล้วแบ่งเป็นหน่วยได้เล็กที่สุด หรือรันต่อเนื่องกันไป ฟิสิกส์ยุคใหม่ ทฤษฎีควันตั้มเวลามีหน่วยที่เล็กที่สุด ทฤษฎีสัมพัทธ์เวลารันต่อเนื่องกันไป http://en.wikipedia.org/wiki/Zeno%27s_paradoxes#Achilles_and_the_tortoise พาราด็อกของซีโน่ อคิลิสวิ่งแข่งกับเต่า อคิลิสต่อให้เต่าช่วงนึง เมื่ออคิลิสวิ่งถึงจุดที่เต่ายืนเดิม เต่าก็ขยับไปข้างหน้า อคิลิสวิ่งถึงจุดที่เต่ายืนเดิม เต่าก็ขยับไปข้างหน้าอีก เป็นเช่นนี้ไปไม่รู้จบ อคิลิสวิ่งไม่ทันเต่า แต่ความจริงอคิลิสวิ่งทันเพราะผลบวกอนุกรมไม่รู้จบเป็นค่าๆหนึ่ง รูปข้างล่างจากเวป http://deskreference.britannica.com/eb/art/print?id=321&articleTypeId=1 จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 18 มิ.ย. 50 21:11:10 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ความหมายจากพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ อดีต, อดีต  [อะดีด, อะดีดตะ] ว. ล่วงแล้ว. น. เวลาที่ล่วงแล้ว. (ป., ส. อตีต). ปัจจุบัน  น. เวลาเดี๋ยวนี้, ทันที, เวลาไม่ใช่อดีต ไม่ใช่อนาคต   อนาคต, อนาคต  [อะนาคด, อะนาคดตะ] ว. ยังไม่มาถึง. น. เวลาภายหน้า. (ป., ส.). ถ้าอย่างนั้นทุกคนก็เป็นผู้หยั่งรู้อนาคตได้น่ะสิครับ อย่างเช่น......ข้อความของผมที่กำลังตอบอยู่ตอนนี้ต้องถูกบรรจุอยู่ในกระทู้นี้แน่ ๆ จากคุณ : ความฝัน = รักษายิ่งชีวิต - [ 18 มิ.ย. 50 21:28:15 ]

ความคิดเห็นที่ 23 space-time is not infinitely divisible (and thus not perfectly continuous), it is "discrete" ผมเชื่อว่า space-time น่าจะมีหน่วยเล็กที่สุดที่แบ่งต่ออีกไม่ได้ http://www.phys.unsw.edu.au/einsteinlight/jw/module6_Planck.htm ความยาวพลังค์คือค่าพลังค์,ค่าจี,พายและความเร็วแสงตามสูตร The Planck length LP is defined by taking the constants of nature and combining them in such a way that their units combine to give a length. Planck's constant, h, has units of Joule seconds. Cavendish's constant G (the constant of gravitation) has units of N.m2kg-2. And the speed of light c has units of m.s-1. The combination that works is: LP = (hG/2pc3)1/2 .  The Planck length is 1.6 x 10-35 metres. เวลาพลังค์คล้ายค่าความยาว Divide the minuscule Planck length by the speed of light (which is pretty big) and you get a really tiny unit of time, the Planck time, tP, which is: tP = (hG/2pc5)1/2 . The Planck time is 5.4 x 10-44 seconds. จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 18 มิ.ย. 50 21:28:57 ]

ความคิดเห็นที่ 24 #17 คนใช้ Accela จะเห็นอะไรหรือครับ จะเกี่ยวกับเรื่องที่มีท่าทางหวาดกลัวรึเปล่า จากคุณ : hj - [ 18 มิ.ย. 50 21:40:03 A:58.9.183.143 X: TicketID:145104 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ข้าน้อยขอคารวะ คิดได้ไง ถ้านิยามว่า อดีต คือเวลาที่ผ่านไปแล้ว ปัจจุบัน คือ เวลา ณ.ขณะนี้ เป็นไปได้มั้ยที่อนาคตมันจะถูกกำหนดไว้แล้ว อาจจะเป็นสมการยากโคดๆตัวนึง ตัวแปรเยอะบันไร คำนวนแล้วออกมาเป๊ะๆ เพียงแต่ยังไม่มีใครหาสมการนี้เจอ หรือคนที่ใกล้เคียงว่าจะเจอมากที่สุดคือศาสดาต่างๆ จขกท ทำให้ผมบ้าไปแล้ว จากคุณ : Alien From Mars - [ 18 มิ.ย. 50 21:57:25 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ช่วงต่างของเวลานั้นน้อยมาก จนถือว่าเป็นปัจจุบันครับ ความจริงเราก้อยู่ในปัจจุบัน แต่รับรู้ และเห็น สิ่งที่เป็นอดีต ซึ่งเป็นอดีตที่เพิ่งผ่านไปด้วยเวลาน้อยมากๆๆๆๆ จากคุณ : Sir.ขงเบ้ง - [ 18 มิ.ย. 50 22:07:12 ]

ความคิดเห็นที่ 27 สิ่งที่เราเห็นเราสัมผัสและรับรู้อยู่เป็นอดีตก่อนความเป็นจริงเพียงน้อยนิดมากๆครับจะถือว่ามันเป็นปัจจุบันก็ได้ เหมือนกับ 0.99999ก็ปัดให้เป็น 1 ไป   เราจะถือให้มันเป็นปัจจุบันไปเลยก็ได้เพราะในความรู้สึกมันไม่ต่างกันเลย แต่ยังไงมันก็ไม่ใช่ปัจจุบันที่แท้จริงอยู่ดี เสริมอีกนิด ในความคิดผม ประสาทสัมผัส ทั้งหมด ความคิด และจิตของเราอยู่กับอดีต ดังนั้นตัวเราจึงอยู่ในอดีต ไม่ใช่ปัจจุบัน ส่วนที่อยู่กับปัจจุบันอาจจะเป็นแค่ ร่างกายหรือเป็นแค่ซากเท่านั้น ไม่ใช่ตัวเรา ตามกฎของธรรมชาติแล้ว เราไม่สามารถนำประสาทสัมผัสต่างๆ และความคิดของเราตามให้ทันปัจจุบันที่แท้จริงได้ แต่จิตของเราเป็นเพียงสิ่งเดียวที่สามารถก้าวข้ามกฎนี้ได้เพียงแต่ เราต้องบังคับจิตของเราให้ได้ ซึ่งใครที่สามารถบังคับจิตให้เข้าสู่ปัจจุบันที่แท้จริงได้ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะสามารถทำอิทธิปาฏิหารย์ได้ เหมือนพระอรหันต์ เพราะเราจะไม่อยู่ในกฎของฟิสิกส์อีกต่อไป จึงจะทำอะไรก็ได้ ที่เป็นเรื่องอัศจรรย์ของคนทั่วไป แต่ใครก็ตามที่ทำได้ก็คงจะรู้ถึงความเป็นจริงทุกอย่างจนอยากจะหาทางหลุดพ้นมากกว่าจะไปหลงในอำนาจเหนือธรรมชาติ (สงสัยจะเริ่มออกทะเลแล้ว ยังไงก็เป็นความคิดส่วนตัว ใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยครับ อย่าเชื่อมาก เพราะผมก็ยังไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่ามันเป็นแค่สมมติฐาน) แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 50 22:53:14 แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 50 22:51:54 จากคุณ : อิอิคุง - [ 18 มิ.ย. 50 22:33:28 ]

ความคิดเห็นที่ 28 #21-#23 โห ขอบคุณนะครับ สำหรับรายละเอียดที่นำมาเพิ่มเติมให้ #24 ต้องทำความเข้าใจไว้ก่อนครับ Accela เป็น "ยา" แบบนาโนแมชชีนในการ์ตูนเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับเรื่องหลักของกระทู้นะครับ(เกี่ยวอ้อมๆอาจจะได้) คนที่ใช้จะเห็นคนอื่นทำอะไรช้าลงครับ (สงสัย #24 ดู Lain แล้วแน่ๆ) #25 ดีครับ ยินดีต้อนรับสู่ด้านมืดของพลัง คิดในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ในวันนี้ แต่คิดแบบอย่าให้เกินเลย อาจจะทำให้อนาคตเกิดอะไรดีๆก็ได้ #26 ในทางผัสสะของมนุษย์ ในระดับชีวิตประจำวันผมก็เห็นด้วยกับคุณ และหลายๆท่านข้างบนนั่นแหละครับ กระทู้นี้แค่นำไอเดียมาลองคิดกันดูเล่นๆเท่านั้นเอง เหมือนสมัยนานมาแล้ว ที่ผมอ่านวารสาร มิติที่ 4 แล้วมีพูดถึงวลีหนึ่งที่ว่า "แม้เราจะมองฝ่ามือของเรา แต่มันก็เป็นฝ่ามือในอดีต" (ผมยังชอบมาถึงทุกวันนี้) จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! - [ 18 มิ.ย. 50 22:36:46 ]

ความคิดเห็นที่ 29 โหลด Lain มาทั้งชุด ดูไปได้ 3 ตอน... นอนดีกว่าตู จริงๆจะปิดตั้งแต่ตอนแรกแล้ว แต่เห็นกระแสเขาว่าดี ^^" จากคุณ : pzifrius - [ 18 มิ.ย. 50 22:56:44 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ที่จริง Lain มีอภิปรัชญาแทรกอยู่เยอะนะครับ แต่ไม่ใช่การ์ตูนดูเอาสนุก แต่เป็นการ์ตูนแนวไซเบอร์คัลเจอร์ สำหรับวัยรุ่นตอนปลาย และผู้ใหญ่ดู เนี่ยที่ภาควิชาปรัชญาแฟนผมก็ว่าจะเอาไปฉาย และนั่งเสวนา แถมยังมีแง่มุมที่วิพากษ์สภาพครอบครัวในสังคมญี่ปุ่นในปัจจุบันอีกต่างหาก(แง่นี้เหมือนอิวานเกเลียน) หากดู Lain แล้ว ให้ลองหาคำค้นต่อไปนี้ในกูเกิลครับ - Universal Consciousness - Transhumanism - Xanadu จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! - [ 18 มิ.ย. 50 23:17:31 ]

ความคิดเห็นที่ 31 #28 ยานั่นมันไม่มีจริง แต่จากที่อ่านมาก็มีแนวคิดชวนเวียนหัวมากมายรวมทั้งไซแนปส์นั่นด้วยน่ะครับ ผมเห็นตรงกับ #15 นี่ว่าเข้าถึงปัจจุบันได้มั้ยขึ้นกับประสาทของคน แบบนี้ถ้าใช้ยาที่ให้ผลแบบเดียวกับเจ้ายานั่นก็อาจพ้นจากอดีตได้(แต่อาจเป็นวิธีที่ไม่ดี) เนื่องจากการ์ตูนนั่นผมดูไม่รู้เรื่องเลยสงสัยว่าการที่สมองประมวลผลเร็วขึ้นกลายเป็นผลร้ายจากผลข้างเคียงของยาหรือเป็นเพราะเห็นอนาคตที่เลวร้ายได้กันแน่ จากคุณ : hj - [ 18 มิ.ย. 50 23:22:37 A:58.9.183.143 X: TicketID:145104 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ผมว่ามันย้อนไปกระทู้นี้แล้วนะ ทำไมจึงมีบางสิ่ง แทนที่จะไม่มีอะไรเลย ? http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X5507623/X5507623.html จากคุณ : Dr.slump - [ 18 มิ.ย. 50 23:24:50 ]

ความคิดเห็นที่ 33 จริงๆผมก้อคอหนังนอกกระแสครับ แต่พวกที่มัน "หลุด" มากๆนี่ก้อไม่ค่อยโดนเท่าไหร่ครับ อย่างเมื่อหลายปีก่อน มีเรื่องนึง แนวคล้ายๆกับ Lain เลยครับ ชื่อเรื่อง Nabi เรื่องนี้กวาดรางวัลมามากมายครับ ออกแนวเหงา...โดดเดี่ยว...ชีวิตคืออะไร โอ้~! ถ้ามันมีความเป็น"มนุษย์" ที่หลากหลาย อย่าง The Matrix นี่ผมคิดว่าโอเคเลย แต่ตอนนั้นผมดูแล้วมันแนวไปหน่อยอ่า เสียดายตังค์ T_T จากคุณ : pzifrius - [ 18 มิ.ย. 50 23:27:30 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ถ้าเรารู้จักแต่เวลาหนึ่งก้านธูปแบบคนโบราณ ก่อนธูปจะหมดปัจจุบันก็ยังมีอยู่จริงใช่ป่ะครับ จากคุณ : ของเล่นใหม่ - [ 19 มิ.ย. 50 00:41:50 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ผมมันเป็นคนไม่มี อนาคต นี่หว่าแบบนี้ T^T จากคุณ : คนข้างๆ - [ 19 มิ.ย. 50 01:11:18 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ประสาทสัมผัสทุกอย่างสั่งให้รับรู้โดยสมอง เสียง  สมองก็สั่งว่าได้ยิน ภาพ  สมองก็สั่งว่าที่มองเห็นน่ะเป็นแบบนี้ รส    สมองก็สั่งว่ารสที่สัมผัสเป็นแบบนี้ สัมผัส  สมองก็สั่งเราว่าที่สัมผัสน่ะแรงเบายังไง เรียกว่ารับรู้ทางสมองทั้งหมด ส่วนการโอเวอร์คล็อกสมอง ผมทำประจำแต่เป็นโอเวอร์คร่อก(ฟี้)นอนแล้วตื่นเกือบเที่ยง จากคุณ : Y (yoyolandk) - [ 19 มิ.ย. 50 02:03:21 ]

ความคิดเห็นที่ 37 อาจจะจริงเช่นนักกีฬาที่มีพรสวรรค์อาจจะใช้ทักษะนี้ในการเอาชนะคู่ต่อสู้ ยกตัวอย่าง นักเทนนิสที่มีความสามารถเข้าใกล้ปัจจุบันได้มากกว่าคนปกติทั่วไป ก็มีสิทธิ์คุมเกมได้ดีกว่าฝ่ายตรงข้ามซึ่งไม่มีความสามารถนี้ จากคุณ : normalfx - [ 19 มิ.ย. 50 02:23:58 ]

ความคิดเห็นที่ 38 #33 ผมได้ดู Nabi ในโรงหนังเมื่อหลายปีก่อนเหมือนกัน รู้สึกจะชื่อเต็มๆว่า Nabi The Butterfly หรือไงนี่แหละ งงมากครับ จนถึงทุกวันนี้ลืมเรื่องที่งงไปแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกว่างงอยู่ งงมั้ยครับ จากคุณ : ขุนโฉด - [ 19 มิ.ย. 50 02:47:57 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เมื่อเร็ว ๆ มานี้ได้ยินเรื่องงานวิจัยเกี่ยวกับการตอบสนองของสมองที่มีต่อเหตุการณ์ในอนาคตอันใกล้ เห็นเขาว่าสมองมีการตอบสนองต่อเหตุการณ์กระตุ้นที่กำลังจะเกิดในอนาคตช่วงสั้น ๆ ถ้าคิดเรื่องประสาทสัมผัส และ Lagging Time ของการประมวลผลของสมอง ก็นับว่างานวิจัยนี้ถูกทางแล้ว อาจจะนำไปใช้สร้าง Accela ให้เป็นจริงก็คงไม่เกินเลยไปนัก ปล.ไม่แน่ใจว่าอ่านเรื่องเกี่ยวกับงานวิจัยนี้มาจากไหน (หนังสือพิมพ์) ขอโทษที่หาลิ้งมาประกอบไม่ได้นะครับ จากคุณ : tuinui98 - [ 19 มิ.ย. 50 02:55:26 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ผมว่าไม่จริงนะครับ เวลา น่าจะคล้ายความเร็ว ขึ้นอยู่กับจุดยืนที่เรามอง มันเป็นความสัมพันธ์กัน อดีตของเรา อาจเป็นอนาคตของคนอื่น อนาคตของคนอื่นอาจเป็นอดีตสำหรับเรา ผมโทรคุยกับแฟนบ่อยๆครับ ซึ่งเคยเจอจังหวะบังเอินเปิดทีวีช่องเดียวกัน เสียงทีวีที่ได้ยินเข้ามาในโทรศัพท์จะเร็วช้าต่างกัน แฟนอยู่ต่างจังหวัดไกลมาก ทีวีบ้านผมจะเร็วกว่าทีวีบ้านแฟน ซึ่งมันเป็นปัจจุบันสำหรับผม แต่เป็นอนาคตสำหรับแฟน ผมสามารถพูดคำพูดของบทละครได้ก่อนที่ทีวีบ้านแฟนจะพูด ซึ่งทีวีบ้านแฟนเป็นอดีตสำหรับผม งงไหม ถ้าผมฟังเสียทีวีจากบ้านผมเอง ก็เป็นปัจจุบัจใช่ไหม แต่ถ้าผมไม่ได้เปิดทีวีบ้านผม แต่ฟังเสียงทีวีบ้านแฟนจากโทรศัพท์ มันก็จะเป็นปัจจุบันสำหรับผมนะตอนนั้น ซึ่งจริงๆมันเป็นอดีต สรุปคือ จะอดีตหรือปัจจุบันหรืออนาคต ต้องมีตัวเปรียบเทียบ ถ้าซูมตัวเองออกมานอกโลก ออกไปนอกกาแล็กซี่ และออกไปยืนดูนอกจักรวาล กาลเวลามันจะคืออะไรครับ ผมว่ามันคือความไม่มี หรือความว่างเปล่า จริงๆจะพูดว่ามันว่างเปล่ายังไม่ได้เลยนะผมว่า คือมันไม่มีตัวตน งงไหมเนี่ย ผมยังงงตัวเองเลย 5555 เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับอาจจะผิดก็ได้ต้องขออภัย จากคุณ : .............................. - [ 19 มิ.ย. 50 03:18:24 A:58.8.44.148 X: TicketID:087386 ]

ความคิดเห็นที่ 41 งี้คนที่น่าจะสัมผัสได้ใกล้เคียงกับปัจจุบันที่สุดก็ต้องเป็นนิวไทป์สิครับ ว่าไปนั่น เผ่นดีก่า.... จากคุณ : aramis_s - [ 19 มิ.ย. 50 05:09:30 ]

ความคิดเห็นที่ 42 งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง จากคุณ : Desolation Angel - [ 19 มิ.ย. 50 09:08:38 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ผมกลับมองว่า เราอยู่กับปัจจุบันเท่านั้น อดีตที่สมองตีความ หรือกำลังตีความมันก็คืออดีตไม่ใช่ปัจจุบัน ส่วนจะตีความได้ช้าหรือเร็วก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาเป็นปัจจุบันได้ ตีความช้า ก็ตอบสนองช้า แม้ข้อมูลต่างๆ ที่สมองรับรู้จะเป็นอดีตจริง แต่สมองรับรู้คือตัวเราเท่านั้นหรือ   อะไรที่นอกเหนือการรับรู้ของสมอง ไม่ใช่ตัวเราอย่างนั้นหรือ และไม่ว่าเราจะแบ่งเวลาให้ย่อยเล็กลงเท่าใด ปัจจุบันก็ยังเป็นปัจจุบัน เป็นจุดที่เราอยู่ ซึ่งคือปัจจุบันเท่านั้น ออกทะเลแล้วครับผม จากคุณ : =Lord Gary= - [ 19 มิ.ย. 50 11:25:29 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ขอนอกเรื่องหน่อย Toki wo Kakeru Shoujo นี่เลยครับ ของปีนี้ เพิ่งออก DVD มาไม่นานเท่าไหร่ เป็นอนิเมชั่นยอดเยี่ยมของปีที่แล้ว เนื้อเรื่องเกี่ยวกับเด็กสาวที่เดินทางข้ามกาลเวลาได้ จากคุณ : angel13th - [ 19 มิ.ย. 50 12:07:58 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ความจริงคำพูด "เราอยู่กับอดีตตลอดเวลา ปัจจุบันไม่มีอยู่จริง" นี้ผมหมายถึงอย่างที่ จขกท ว่าไว้ทีแรกนะแหละครับ คือไม่ว่าปัจจุบันมีอยู่จริงหรือไม่ แต่ปัจจุบันที่เราสัมผัสได้ ไม่มีอยู่จริง เพราะพอเราเอื้อมมือไปสัมผัส / รู้สึกมันเมื่อไร มันก็จะกลายเป็นอดีตไปในทันที นั่นรวมไปถึง ปัจจุบันที่เรารู้สึก/รับรู้ มันย่อมไม่มีอยู่จริงด้วยเช่นกัน อันนี้ผมไม่ได้รวมถึงอนาคตนะครับ เพราะนิยามอนาคต ไม่ได้ถูกนิยามด้วยสัมผัสของคนเรา แต่น่าจะเป็นความรู้สึก หรือ จินตนาการมากกว่า การมองเห็นภาพอนาคต ไม่ใช่เรื่องยาก อย่างเช่น เรามองเพื่อกำลังเดินมา เราก็สามารถจำลองภาพอนาคตของการเดินของเพื่อนได้ ว่า อีกประมาณ 2 วินาที มันต้องอยู่ท่านี้ ตำแหน่งนี้ เห็นไหมครับ คุณก็มองเห็นอนาคตได้ ผมมองว่า อนาคต ก็คือ ความน่าจะเป็น ที่มี factor จำนวนมหาศาล ซึ่งสิ่งหนึ่งก็จะเป็น factor ของอีกสิ่งหนึ่ง ที่สัมพันธ์กันไม่รู้จบ เอาง่ายๆ แค่เรื่องของการสนทนา คู่สนทนา คือ factor ที่สำคัญต่ออนาคตของการสนทนา และ ที่สำคัญไปกว่านั้น อดีต ก็คือ factor ที่สำคัญมากๆ ด้วยเช่นกัน จากคุณ : อยู่คนเดียวเปล่าเปลี่ยวใจ - [ 19 มิ.ย. 50 13:07:56 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ถึงจะเร่งการทำงานของเซลล์ประสาทให้เร็วได้มากแค่ไหน สุดท้ายมันก็ไม่ใช่ปัจจุบันอยู่ดี จากคุณ : -->+:+โชยุ&วาซาบิจัง+:+<-- - [ 19 มิ.ย. 50 14:23:43 ]

ความคิดเห็นที่ 47 แนะนำเรื่อง Zegapain ครับ ดูแล้วให้นึกอยากกลับไปอ่านเรื่อง Quantum Mechanic จากคุณ : Nexus - [ 19 มิ.ย. 50 14:30:23 ]

ความคิดเห็นที่ 48 #46 ใช่ครับ ไม่ว่ายังไง สิ่งที่เรามองเห็น/รู้สึก/สัมผัส ก็เป็นเพียงอดีตอยู่ดี ตลกดี ที่คิดว่า เรากำลังนั่งมองภาพอดีตอยู่ตลอดเวลา ;-) จากคุณ : อยู่คนเดียวเปล่าเปลี่ยวใจ - [ 19 มิ.ย. 50 21:02:31 ]

ความคิดเห็นที่ 49 - อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต คืออะไร? ถ้าให้เวลาเป็นเส้นจำนวนเส้นหนึ่ง "อดีต" และ "อนาคต" จะเป็นช่วงบนเส้นจำนวน โดยมีจุด "ปัจจุบัน" เป็นจุดแบ่งระหว่างอดีต และอนาคต อดีต คือช่วงเวลาของเหตุการณ์ที่เกิดไปแล้ว อนาคต คือช่วงเวลาของเหตุการณ์ที่ยังไม่เกิด ปัจจุบัน คือ จุดเวลาจุดหนึ่งที่แบ่งระหว่างอดีตกับอนาคต จะเห็นว่า อดีต กับ อนาคต เป็น "ช่วงเวลา" แต่ปัจจุบันเป็นจุดจุดหนึ่ง จุดที่แบ่งระหว่างอดีต และอนาคต ก็คือ "ปัจจุบัน" ถึงตรงนี้ผมคงพอตอบคำถามเจ้าของกระทู้ได้บ้างแล้ว การรับรู้ด้วยสัมผัสทางร่างกายต่างๆ ย่อมเป็นการรับรู้จากเหตุการณ์ที่เกิดไปแล้ว เหตุการณ์ในอดีต เป็น "เหตุ" => การรับรู้ เป็น "ผล" สิ่งที่เรารับรู้ย่อมเป็นเหตุการณ์ในอดีต - วัตถุแต่ละวัตถุ เหตุการณ์แต่ละเหตุการณ์ มีจุด "ปัจจุบัน" ของมันเอง และเหตุการณ์อื่นๆที่เกิด "พร้อมกัน" ก็นับเป็นเหตุการณ์ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเราจะอยู่ในปัจจุบัน แต่เรารับรู้เหตุการณ์ในอดีตตลอดเวลา แต่ข้อสรุปของผมยังไม่ใช่เพียงเท่านี้ครับ concept เรื่อง กาล-อวกาศ ในทฤษฏีสัมพัทธภาพ ทำให้ความคิดเกี่ยวกับ อดีต-อนาคต, ลำดับของเหตุการณ์, และความสัมพันธ์ระหวาง เหตุและผล เปลี่ยนแปลงไปมาก เดี๋ยวมาคุยต่อ! จากคุณ : ikkyu - [ 20 มิ.ย. 50 19:59:44 ]

ความคิดเห็นที่ 50 กลับมาแล้ว ขอโทษด้วยครับ เน็ตที่แฟลตเสีย เลยต้องใช้เน็ตที่ทำงาน เลยไม่ได้เข้าหว้ากอมาสองสามวัน จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! - [ 21 มิ.ย. 50 16:18:24 ]

ความคิดเห็นที่ 51 - ลำดับของเหตุการณ์, ความสัมพันธ์ระหว่างเหตุ-ผล (causality) เมื่อเหตุการณ์สองเหตุการณ์เกิดขึ้น โดยมีบุคคลที่สามเป็นผู้สังเกตุ เขาอาจบอกได้ว่าเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นก่อน เมื่อไอน์สไตน์เสนอทฤษฏีสัมพัทธภาพพิเศษ เราจึงได้ทราบว่า ผู้สังเกตุแต่ละคนต่างมีนาฬิกาของตัวเอง ที่อาจเดินไม่พร้อมคนอื่น การระบุว่าเหตุการณ์ใดเกิดก่อนหรือหลังเหตุการณ์ใด ย่อมขึ้นกับการเคลื่อนที่ของผู้สังเกตุด้วย ดังนั้นเหตุการณ์สองเหตุการณ์ก็อาจเกิดก่อนหรือเกิดหลังกันและกันก็ได้ ขึ้นกับผู้สังเกตุ ลำดับของเหตุการณ์เป็นสิ่งสัมพัทธ์?? (โปรดดูต่อในความเห็นถัดไป เรื่องอดีตสัมบูรณ์ และอนาคตสัมบูรณ์) มีเหตุการณ์สองเหตุการณ์ใดๆ ที่จะระบุลำดับเหตุการณ์ได้โดยสัมบูรณ์ ไม่ขึ้นกับผู้สังเกตุหรือไม่? - เหตุ-ผล (causality) คือความสัมพันธ์ระหว่างเหตุการณ์หนึ่งไปยังอีกเหตุการณ์หนึ่ง เหตุการณ์ทั้งสองนี้เรียกว่า เหตุ(cause) และ ผล(effect) ตามลำดับ ถ้าเราวาง "เหตุ" และ "ผล" ลงบนแกนเวลา (timeline) เหตุ จะต้องมาก่อนผลเสมอ "เหตุ" ต้องอยู่ในอดีตของผล "ผล" ต้องอยู่ในอนาคตของเหตุ แก้ไขเมื่อ 21 มิ.ย. 50 23:38:51 จากคุณ : ikkyu - [ 21 มิ.ย. 50 19:36:45 ]

ความคิดเห็นที่ 52 - ข้อจำกัดของเหตุการณ์ที่สามารถเป็นเหตุผลกันได้ เหตุการณ์ที่เกิดที่ระยะทางไกลๆ แต่ระยะเวลาสั้นๆ ไม่มีทางส่งผลถึงกันได้ เช่น (1) ผมขับรถผ่านถนนพระรามสองเมื่อเช้า เวลา 06:00 (2) มีคนถูกรถชนที่ลอนดอนเมื่อ 06:01 (ตามเวลาประเทศไทย) เหตุการณ์ ณ เวลาและสถานที่หนึ่ง จะส่งผลถึงเหตุการณ์อื่นๆ ได้ในระยะทางและเวลา (spacetime) ที่จำกัด - ทฤษฏีสัมพัทธภาพพิเศษ (Special Relativity) ทำให้เรารู้มากขึ้นเกี่ยวกับ อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต และลำดับของเหตุการณ์ ถ้า A กับ B อยู่ห่างกัน 1 ปีแสง (โดยมุมมองของผู้สังเกตุคนหนึ่ง) เหตุการณ์ใดๆ ที่เกิดที่ A จะส่งผลให้เกิดเหตุการณ์อื่นที่ B ได้ อย่างเร็วที่สุดก็ต้องใช้เวลา 1 ปี หรือกล่าวอีกอย่างหนึ่งว่า ภายในระยะเวลา 1 ปี เหตุการณ์ที่ A จะส่งผลกระทบกับเหตุการณ์ใดๆ ได้ก็ต่อเมื่อ ระยะห่างของเหตุการณ์นั้น ไม่เกิน 1 ปีแสงจาก A เหตุการณ์ในอนาคต 1 ปี ที่อยู่ในขอบเขต 1 ปีแสงนี้ เรียกว่าอยู่ใน อนาคตสัมบูรณ์ของ A ในทางกลับกัน เหตุการณ์ในอดีต 1 ปี ที่อยู่ในขอบเขต 1 ปีแสง ก็เป็นอดีตสัมบูรณ์ของ A *ดูภาพประกอบ จากภาพ จุดกำเนิด = ตำแหน่งและเวลา ของเหตุการณ์ "ปัจจุบัน" แกนนอน = ระยะทาง (ที่จริงมีมากกว่า 2 มิติ) แกนตั้ง = เวลา กรวยในภาพ เรียกว่า กรวยแสง (light cone), เป็นทางเดินของแสงที่พุ่งเข้า-ออก จากเหตุการณ์ "ปัจจุบัน" ที่อยู่ใน cone ด้านบน คือ "อนาคตสัมบูรณ์" เหตุการณ์ต่างๆ ที่อยู่ในนี้ อยู่ในอนาคตของเหตุการณ์ "ปัจจุบัน" เสมอ ไม่ว่าจะในมุมมองของใคร และจะมีแต่เหตุการณ์ที่เป็น "ผล" จากเหตุการณ์ "ปัจจุบัน" เท่านั้น ที่อยู่ใน cone ด้านล่าง คือ "อดีตสัมบูรณ์" เหตุการณ์ต่างๆ ที่อยู่ในนี้ อยู่ในอดีตของเหตุการณ์ "ปัจจุบัน" เสมอ ไม่ว่าจะในมุมมองของใคร และจะมีแต่เหตุการณ์ที่เป็น "เหตุ" ของเหตุการณ์ "ปัจจุบัน" เท่านั้น ที่อยู่นอก cone อาจเรียกว่าเป็นปัจจุบัน หรืออดีต-อนาคตสัมพัทธ์ ก็ได้ เป็นเหตุการณ์ที่เป็นอิสระจากกัน ไม่มีความสัมพันธ์เชิง เหตุ-ผล กับเหตุการณ์ "ปัจจุบัน" เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ ตำแหน่ง และเวลา จุดนี้ จะเกิดก่อนหรือหลังเหตุการณ์ปัจจุบัน ล้วนขึ้นกับผู้สังเกตแต่ละคน ถ้ายอมรับว่ามีเหตุการณ์อื่นๆ ที่เป็นปัจจุบัน เหตุการณ์ดังกล่าวก็จะต้องอยู่บริเวณนี้เท่านั้น [ภาพประกอบ: Light Cone] แก้ไขเมื่อ 21 มิ.ย. 50 22:27:19 แก้ไขเมื่อ 21 มิ.ย. 50 19:49:56 จากคุณ : ikkyu - [ 21 มิ.ย. 50 19:45:32 ]

ความคิดเห็นที่ 53 #40 ผมว่าเกิดจากสัญญาณแพร่ภาพของ TV จากเสาส่งเดินทางมาถึงเครื่องรับไม่พร้อมกันมากกว่าครับ และยังรวมถึงเวลาที่ทีวีแต่ละเครื่องใช้ประมวลสัญญาณออกมาเป็นภาพแล้ะเสียงด้วยครับ จากคุณ : tuinui98 - [ 21 มิ.ย. 50 22:47:28 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ความคิดสุดยอด ทำเอาผมงงครับ จากคุณ : hs3mxc@hotmail.com (hs3mxc) - [ 22 มิ.ย. 50 12:33:38 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ชอบจริงๆครับกระทู้นี้   (ผมแอบมึนเล็กน้อย แต่น่าสนใจมากครับ)^^ โดยส่วนตัว ผมไม่รู้เรื่องวิทยาศาตร์ เท่าไรนะครับ แต่ ในความคิดผม คือร่างกายเรา อยู่ในปัจจุบัน แต่ความคิด การอ่าน สัมผัส อยู่ในอดีต p.s ผมเล่นพันทิพมาได้2ปีกว่า ไม่เคยเข้าห้องนี้(เพิ่งเข้ามาอ่านได้อาทิตย์กว่าๆนะครับ) เสียดายจริงๆ ถ้าผมเข้าหว้ากอ เร็วๆ คงได้ความรู้อีกมาก   ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ^^ แก้ไขเมื่อ 23 มิ.ย. 50 06:36:59 จากคุณ : แมกไซต์ - [ 23 มิ.ย. 50 06:34:02 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณคุณ ikkyu มากเลยครับ เดี๋ยวเซฟไว้ก่อน ไว้มาเปิดประเด็นใหม่ จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! - [ 25 มิ.ย. 50 10:50:24 ]