นโยบายรวมๆแล้วดูเหมือนจะสวนทางกัน
คือตกลงอยากให้ไทยเป็นประเทษที่พัฒนาไป จนกลายเป็นประเทษที่ธุรกิจ และเทคโนโลยีพัฒนาไกล
หรือว่าอยากให้ประเทษเราค่าเงินบาทต่ำๆแล้วผลิดประชากรในประเทษให้ ทำงานเป็นหุ่นยนต์ในโรงงานอุตสาหกรรมกันแน่ ไทยก็จะเป็นเมืองแห่งการลงทุน(คนอื่นเข้ามาลงทุน)
แต่กลับกันประเทษที่ธุรกิจเค้าก้าวหน้ามีรากฐานแข็งแรงอย่างกลุ่ม EU และ USA รวมทั้ง Japan เค้าก็ไม่ได้ ผลิดของเหล่านั้นในประเทษเค้าเอง มันค้านกันตรงไหนรู้มั้ยครับ
สิ่งที่กำลังจะเป็นบวก //
งบการศึกษา และพัฒนาสังคม ที่จะเพิ่มสูงขึ้นจากเมื่อก่อนมาก ก็เพื่อต้องการให้การศึกษาเพื่อหวังผลต่อการพัฒนาไม่ใช่หรอ เด็กสมัยใหม่ก็เก่งขึ้น ตัวอย่างประกวด Robot ไทยยังชนะ Japan ได้เลย รอดูการพัฒนาก้าวกระโดดจาก เด็กๆไทย Generation Y ได้เลย
สิ่งที่ขัดแย้ง //
ทำไมเรากลัวค่าเงินบาทจะแข็งค่า ทำไมไม่ดีใจหากวันหนึ่ง เงินบาทไทยมีค่ามากกว่าเงิน USD และถูกใช้เป็นอัตราแลกเปลี่ยนสากลสำหรับภูมิภาค Asian ไม่แน่ขณะนี้และ ที่เงินแข็งขึ้นมา อาจจะเกียวกับการที่ได้ความเชื่อมั่นจากภายนอกก็ได้ เพราะว่าจีนก็ได้ทำเรือ่งขายหน้าเอาไว้ในการตีกลับของสินค้าหลายพันรายการ เนื่องจากการผลิดที่ไม่ได้าตรฐาน และอาหารที่ปนเปื้อน
ถ้าเรากลัวเงินบาทแข็งค่า เราต้องไม่ให้การศึกษากับประชากร แล้วปล่อยให้ ใช้ควายทำนาเกียวข้าวขายกันในราคากดถูกๆ กันไป หรือทำงานโรงงานเป็นลูกจ้างไปเรื่อยๆ
หรือ
ถ้าประชากรมีการศึกษา ไม่แน่ ไทยซึ่งเป็นแหล่งการเกษตร ชาวนาที่ได้รับการศึกษามากขึ้นอาจจะคิดพลังงานทดแทนจากการแปรรูปข้าวหอมมะลิ ก็เป็นได้ และเพาะปลูกและส่งออกไปทั่วโลก และควบคุมธุรกิจพลังงานข้าวเอาไว้ เหมือนกับที่โลกอาหรับทำ
ผมว่าเราเพียงแต่ว่าต้องปรับตัว และค่อยๆรับการเปลี่ยนแปลง จากประเทษที่มีแต่คนมาลงทุน แล้วทิ้งขยะเอาไว้ เราจะค่อยเปลี่ยนไปเป็น ประเทศผู้ลงทุน และมีการพัฒนาทางด้าน เศรษฐกิจ และ เทคโนโลยีที่สูง ระดับผู้นำเที่ยบเท่ากับ Japan ซึ่งผมว่ามันไม่เกินความเป็นจริงในไม่ช้านี้ ทุกวันนี้เด็กไทยฉลาดขึ้นมาก แต่ที่ประเทษยังเป้นแบบทุกวันนี้ อาจจะเป็นเพราะว่า ปัจจบันนี้ ประเทษเราถูกขับเคลือนโดยคนจาก Generation ที่แล้ว....
ปล.ถ้าเราทะเลากันบ่อยๆระวังเพลินไม่ทันจีนนะ.. เด็กๆ Generation ต่อๆไปก็ตั้งใจเรียนหล่ะ ดูผู้ใหญ่เค้าทะเลาะกันแล้วอย่าเอาเยี่ยงอย่าง ;-)
จากคุณ :
modeller
- [
11 ก.ค. 50 22:46:28
]