ความคิดเห็นที่ 59
ต่อภาค2 แล้วแต่วิจารณญานครับ (ถ้าหากคิดว่าบ้าก็ยอมรับ) แนวความคิดและความเชื่อในพลังของพีระมิดในยุค 5,000 ปีของอารยธรรมอียิปต์แห่งลุ่มแม่น้ำไนล์ เป็นความเชื่อในสิ่งชีวิตหลังความตายว่า พวกเขาจะได้ไปอยู่ในเมืองที่มีความศิวิไลซ์มากที่สุด เส้นทางที่จะพาพวกเขาไป คือ โพรงพลังงานที่เป็นศูนย์กลางของโลกตั้งอยู่ภายในพีระมิดองค์กลาง ฉะนั้นพวกเขาจึงนำศพและสมบัติไปเก็บไว้ในห้องโถงพีระมิดให้ปลอดจากกการทำลายของพลังงานแม่เหล็กโลก ศพจึงไม่เน่าเปื่อยและรอวันที่จะมีชีวิตคืนกลับมาใหม่อีกครั้ง นอกจากนั้นพีระมิดทั้ง 3 องค์ได้ถูกสร้างเพิ่มเติมจนกลายเป็นมหาพีระมิดที่มีขนาดแตกต่างกันเป็นองค์ใหญ่ องค์กลาง และองค์เล็ก ตามลำดับ ดังที่ปรากฎอยู่ที่อียิปในปัจจุบันนี้
องค์สฟิงซ์และพีระมิดทั้ง 3 องค์มีความสัมพันธ์ มีความหมายซึ่งกันและกันเป็นอย่างยิ่ง ลึกลงไปใต้พื้นดินของเท้าคู่หน้าข้างขวาขององค์สฟิงซ์ จะเป็นแร่มโนธาตุสีดำชนิดเดียวกับที่เป็นแผ่นหินที่ใหญ่สีดำที่ปิดทับส่วนที่เป็นโพรงพลังงานภายในพีระมิดองค์กลางซึ่งกลไกของการทำงานจะเกิดขึ้นเมื่อครบวาระ 10,000 ปี และผู้ทรงพลังจิตให้กลับมาเกิดใหม่ เพื่อทำหน้าที่ตามสัจจะที่เคยให้ไว้ โดยการใช้พลังจิตดึงกระแสลมปราณจากดาวอังคารมาที่จมูกของสฟิงซ์เท่ากับเป็นการปลุกหรือสร้างความมีชีวิตใหม่ให้แก่องค์สฟิงซ์พลังกระแสลมปราณจะพุ่งลงไปหาแร่มโนธาตุสีดำ ที่อยู่ใต้เท้าขวาข้างหน้า พลังมโนธาตุและพลังกระแสลมปราณจะพุ่งต่อไปยังโพรงพลังงานศูนย์กลางของโลกซึ่งอยู่ใต้พีระมิดองค์กลาง และดันแผ่นหินสีดำเผยออก และ ลม หรือพลังงานยังถูกดันต่อไปถึงศูนย์กลางของพีระมิดอีก 2 องค์ จนในที่สุด ลม หรือ พลังงาน นั้นถูกดันไปจนถึงอาณาจักรแอตแลนตีส ที่ฝังตัวนิ่งสงบอยู่ใต้มหาสมุทรแอตแลนติก (สามเหลี่ยมเบอมิวด้า)
การคืนสัจจะได้เกิดขึ้นแล้วเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2547 แต่เงื่อนไขสำคัญที่สุดที่จะช่วยดึงให้อาณาจักรแอตแลนตีสโผล่ขึ้นมาคือก ได้มีการใช้อาวุธเส้นแสงอีกครั้ง ซึ่งชนวนของการเกิดสงครามใหญ่ก็ได้ส่อเค้าให้เห็นกันบ้างแล้ว
จากคุณ :
rater-cracker@hotmail.com
- [
25 ก.ย. 50 21:58:06
A:203.113.17.174 X:
]
|
|
|