ความคิดเห็นที่ 1 ... ถ้าเป็นจักรยานแบบให้เช่า ผมคิดว่าไม่ต้องจอดครับ คือเช่าแล้วไปคืนที่ปลายทางครับ แล้วตรงปลายทางเขาค่อยเอาจักรยานที่ว่านี้ใส่รถบรรทุกกลับมาที่จุดเริ่ม จะดีกว่าครับ ตอนขากลับเราก็เช่าคันใหม่เอา จากคุณ : Mr. Fusion - [ 24 ส.ค. 50 16:02:13 ]

ความคิดเห็นที่ 2 bike pool ผมว่าทำไม่ได้ครับ ถ้าทำสิ้นเปลืองสูงกว่ามากๆครับ สมมุติคนสองย่าน ลาดพร้าว กับสีลม ก็แล้วกันครับ คนลาดพร้าว ไปทำงานสีลม สมมุติว่ามี 3 พันคน คนสีลม ไปทำงานลาดพร้าว สมมุติว่ามี 6 พันคน นั่นหมายความว่า ทั้งสองจุด ต้องมีจักรยาน ไม่น้อยกว่า 6 พันคัน มิเช่นนั้น คนสีลม ไม่มีจักรยานปั่น ถ้าเป็นผม ผมเล่นที่ผังเมืองครับ การที่รถไฟฟ้า รถใต้ดิน ถ้าทำให้มันครอบคลุมแล้วมันไม่ค่อยคุ้มค่า นั่นเป็นเพราะ Economic of scale ประชากรในบางท้องถิ่น มีความหนาแน่นน้อยเกินไปที่จะสร้าง ทำให้สร้างไม่คุ้ม จึงไม่สร้าง ถ้าเล่นที่ผังเมือง โดยจัดให้ที่อยู่อาศัย เป็นส่วนๆหนึ่งไปเลย สมมุติว่า ผมเล่นที่แถวสถานีรถไฟเชียงราก แล้วทีทำงาน เป็นพระรามสี่ หัวลำโพง รถไฟก็จะยิงตรงๆยาวๆ non stop ไปเลย โดยอาจเป็นทางยกระดับก็ได้ แล้วทำรถไฟฟ้า หรือรถเมล์ไฟฟ้า แถวเชียงราก เพื่อการเดินทางในชุมชน มันคงดีกว่ารถสองแถวหรือมอไซค์รับจ้าง แล้วทำรถไฟฟ้าอีกในย่านทำงาน แหล่งธุรกิจ ที่พระรามสี่ หัวลำโพง โดยไม่ต้องทำยาวก็ได้ เพราะมันกระจุกตัวอยู่แค่นั้น ถ้าแหล่งธุรกิจมันขยายตัวบานออก ก็ต่อเส้นทางขยายออกไป เท่าที่ผมดูนะครับ รถใต้ดิน มันวิ่งขากบางซื่อ ไปหัวลำโพง ถ้าเป็นรถไฟนะครับ มันก็แค่ บางซื่อ สามเสน หัวลำโพง มันวิ่งอ้อมเพื่อจะไปรับคน มันพยายามเลื้อยไปในย่านชุมชนเพื่อให้มีคนขึ้น แต่ถ้ามันวิ่งไปในย่านชุมชนเท่านั้น แล้วมีระบบป้อนคนให้มัน ทำให้ต้นทุนในการทำระบบขนส่งมวลชนราคาถูกลง จากคุณ : โลหการ4 - [ 24 ส.ค. 50 16:03:37 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ปัญหาแรกคือ การจัดผังเมือง และผังจราจรที่ไร้ประสิทธิภาพจนเกินเยียวยา จากคุณ : LAPD21 - [ 24 ส.ค. 50 16:05:38 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ปักกิ่งเขาก็มีโครงการจักรยานให้เช่าแล้วเหมือนกันครับคุณหมอ เตรียมจักรยานไว้หลายหมื่นคัน ผมว่า รถไฟฟ้านี่ เป็นตายร้ายดียังไงก็ต้องสร้างล่ะครับ นานหน่อยแพงนิดก็คงต้องยอม เพราะเราไม่สามารถเรียกร้องให้คนทิ้งรถไว้ที่บ้านได้ ถ้าตราบใดการเดินทางด้วยระบบสาธารณะยังไม่สะดวกเหมือนที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ครับ อีกอย่างระบบรถไฟฟ้าวัน ๆ หนึ่งขนคนได้ราว ๆ 3 แสนคน ลดปริมาณรถยนต์ได้ราว 1 แสนคัน ถ้าคิดว่า 3 แสนคนนี้จะต้องไปขับรถ เฉลี่ย 3 คน ต่อ ๆ คัน ในเส้นทางที่ลงทุนระบบรางขนาดใหญ่ไม่คุ้ม แต่จำเป็นต้องเชื่อมต่อจากระบบรถไฟฟ้า ผมว่าระบบรถเมลล์เร็วพิเศษน่าจะเหมือนที่สุดครับ เพราะลงทุนในระดับพันล้านเท่านั้น เห็นท่านผู้ว่าอัจฉริยะก็กำลังจะทำแล้ว เหอ ๆ แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 50 16:09:45 จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ 24 ส.ค. 50 16:08:11 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ... ปัญหา คือ จิตสำนึกในการรักษาสิ่งของที่เป็นสาธารณะสมบัติของคนน่ะครับ ระหว่างทางแอบเอาไปสับเปลี่ยนอะไหล่ ผ้าเบรครถของเราใกล้จะหมดแล้ว จับมาเปลี่ยนกับของส่วนกลางซะหน่อย ปัญหานี้มีระดับความยากแบบเดียวกันกับรถเข็นของ supermarket ลองดูรถเข็นตาม supermarket ก็ได้ครับ เวลาเข็น ๆ กันนี่ กระแทก ๆ ไม่สน เข็นไปตามลานจอดรถที่เป็นปูนมีร่องก็ดันแรง ๆ สุดท้ายก็ล้อพับ ล้อเฉ ถ้าแก้ปัญหานี้ได้ ก็แก้ปัญหา pool bike ได้เช่นกัน จากคุณ : Mr. Fusion - [ 24 ส.ค. 50 16:13:47 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าจะแก้ให้ได้ผลระยะยาวก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงกันยกใหญ่ไม่ว่าจะวิธีไหน ซึ่งเป็นวิธีที่คนไทยไม่ชอบ คนไทยชอบอยู่เฉย ๆ แล้วรอให้ทุกอย่างดีขึ้นเอง ก็คงทำได้แค่ซื้อเวลาต่อไปเรื่อย ๆ ละครับถ้าไม่ยอมเสียสละกันบ้าง จากคุณ : IaMZ - [ 24 ส.ค. 50 16:13:48 ]

ความคิดเห็นที่ 7 สร้างนิสัยคนกรุงเทพ  ให้ใช้ระบบขนส่งสาธารณะ  ให้เกิดมากที่สุดครับ  อันนี้  คือ ต้นตอจริงๆ (ค่านิยมอันหรูหรานี่  รู้ๆกันอยู่). จากคุณ : คนบ้านสามขา101ฯ. - [ 24 ส.ค. 50 16:20:08 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อ้าวววววววววววว ปักกิ่ง มีแล้ว ให้เช่าให้ยืมแล้วเหรอครับ ผมเห็นเค้าปั่นกันเยอะ ยังคิดว่า เป็นของส่วนตัวกัน เรื่องปริมาณ นี่ผมคิดว่า เพิ่มจำนวนกันได้อีกมากๆขอให้คนมาใช้เถอะ  เนื่องจากอย่างที่บอก ราคาจักรยานไม่ได้แพงมากๆมาย ลงทุนไม่เยอะ ทั้งนี้ทั้งนั้น ทำอันนี้ แล้ว ไม่ใช่ว่าอันอื่นไม่ต้องทำ ทำทุกอย่างรวมไปด้วยกันด้วย ถ้า เงินไม่ถึงพันล้านที่จะลงมา จะช่วยลดจำนวนรถในถนน ในชม.เร่งด่วนลงไปอีกซักแสนคัน มันช่วยได้เยอะ และคุ้มพอควร จากคุณ : -=Jfk=- - [ 24 ส.ค. 50 16:26:16 ]

ความคิดเห็นที่ 9 1.เวลาปั่นร้อนน่ะครับ 2.เสี่ยงรถหายถึงล็อคมันก็มีที่ตัดมันเสี่ยงดีจริงๆ รถไฟฟ้านี่ถ้าขึ้นตอนชั่วโมงเร่งด่วน โห...แน่นดีจริงๆ ถ้ามีจริงก็น่าปั่นนะครับ อ่อ ต้องหาวิธีกันมอไซด์มาวิ่งด้วย จากคุณ : Jump.Jr - [ 24 ส.ค. 50 16:29:44 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สร้างรถไฟฟ้า 7 สี ให้ครบ ระยะสั้นก็จักรยาน มีกฎ ระเบียบ และบทลงโทษในการใช้สมบัติ สาธารณะที่ชัดเจน ตรงไปตรงมา เพราะคนไทยบางคนยังไม่มีวินัย  และสำนึกในชาตินิยม อย่างญี่ปุ่นนี้ ทำไมคนญี่ปุ่นรักชาติ มีวินัย จากคุณ : ไว้นึกถึง - [ 24 ส.ค. 50 16:29:59 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ข่าวกรุงเทพกำลังจะจมน้ำ เนี่ย ช่วยได้ครับ ทำให้ ห้างร้านใหม่ ๆชะลอตัว ไม่ปลูกสร้างอาคารเพิ่ม คนทำงานกรุงเทพ หลายคนกำลังจะออก ต่างจังหวัด จากคุณ : greeny pony - [ 24 ส.ค. 50 16:35:01 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ตอบ 9 ปั่นเน้นปั่นระยะสั้นๆต่อรถไฟฟ้าได้ Bike pool มีที่เก็บมีคนคอยดูแล จักรยานเน้นใช้งาน ไม่ใช้จักรยานราคาแพงไ ม่ต้องล้อคไปถึงส่งมอบให้คนเก็บดูแล แลกบัตรกับรถ เอาไปใช้ แล้ว เสร็จเอามาคืน จากคุณ : -=Jfk=- - [ 24 ส.ค. 50 16:37:25 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ความคิดดี "แต่เอามาใช้กับเมืองร้อนไม่เหมาะหรอกครับ" เมืองไทยเป็นเมืองร้อน ไม่เหมือนกับเมืองนอก หรือว่าปักกิ่ง คุณปั่นจักรยานแค่ 3 - 5 กิโลเมตรพูด ตามตรงมันก็ไม่เหนื่อยหรอกครับ แต่เนื่องจากมันเป้นเมืองร้อน เหงื่อที่ออกมาเยอะแน่นอนและกว่า จะถึงที่ทำงานหรือสถานีรถไฟฟ้าแล้วล่ะก็ รับรองได้เลยว่าโทรมกายแน่นอนครับ มันไม่เหมือนเมืองนอก หรือเมืองที่อากาศหนาว เหงื่อจะออกยากกว่า ขี่ไปกินลมชมวิวสบายเพราะ อากาศดีเย็นสบาย การออกกำลังกายโดยการขี่จักรยานแบบนั้นช่วยอบอุ่นร่างกายได้ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี แต่มันใช้ไม่ได้กับเมืองร้อน เพราะอยู่เฉยๆ มันก็ร้อนจนเหงื่อออกตับแล่บแล้ว อย่าว่าแต่ปั่นจักรยาน เลย เดินเฉยๆ ก็เหงื่อโทรมแล้วครับ รถไฟฟ้าหรือใต้ดินจะลำบากแค่ไหนซักวันมันก็ต้องสร้าง ผมว่าลงทุนครั้งเดียวแต่ได้ผลระยะยาว ดีเสียกว่า จากคุณ : axquest - [ 24 ส.ค. 50 16:47:01 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ต้องมีกฏหมาย ฉบับใหม่ออกมาครับ จากคุณ : นายโอ้นโต้น - [ 24 ส.ค. 50 16:47:59 ]

ความคิดเห็นที่ 15 รอให้โลกแตก แล้วค่อยมานับ 1 ใหม่ครับ เพราะตอนนี้ สายเกินแก้แล้ว จากคุณ : Bug Gerd - [ 24 ส.ค. 50 16:48:03 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เอาหลักการเลยครับ ต้องทำระบบขนส่งมวลชนให้ดี ดีหมายความว่า สะดวก ไม่ใช่ต้องเดิน 2 กม.เพื่อไปขึ้น คุ้มค่า ไม่แพงมากนัก ดีดลูกคิดแล้วคุ้ม สบาย ไม่ใช่ต้องตะเกียกตะกาย แย่งกันขึ้น เผลอๆ ยังไม่ทันขึ้น ก็ร่วงลงมาโดนทับตาย เร็ว ไม่ต้องรอทีละ 10 นาที เพื่อจะพบว่า รถเมล์ไม่ยอมจอดป้ายที่เรารออยู่ และ อื่นๆอีกมากมาย รายละเอียดปลีกย่อย ค่อยเพิ่มเติมทีหลัง จากคุณ : ช า ติ - [ 24 ส.ค. 50 16:59:17 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ต้องส่งเสริมให้คนมาใช้ รถโดยสารครับ ถนน ต้องไม่มีจุดตัด ไม่มีไฟแดงสำหรับ รถโดยสาร หรือ บันเลนไปเลย ไม่ต้องไป อำนวยความสะดวกให้กับ รถส่วนบุคคล  (ถ้าตามนี้ ผู้ว่ากี่ๆ คนก็ทำไม่ได้ครับมันเป็นแค่ความฝันของคนบ้านนอกที่มาอยู่ กทม. ) จากคุณ : บุญมีแต่กรรมบัง - [ 24 ส.ค. 50 17:01:08 ]

ความคิดเห็นที่ 18 รถไฟฟ้าน่าจะดีสุดแล้ว มีถนนหลักที่ไหนต้องมีรถไฟฟ้าผ่าน แล้วทำระบบเชื่อมกันทุกจุด แต่คงได้แต่ฝัน ส่วนการนำจักรยานมาใช้ก็ดีครับ แต่สงสารคนอายุมากจะปั่นไวไหม แล้วสาวๆใส่กระโปรงสั้นปั่นทีหวอไม่ออกหรอครับ ผมอยากเสนอว่าตาม 4 แยกต่างๆ น่าจะไม่ให้มีสิ่งก่อสร้างภายในรัศมี 1 km (คงเป้นไปไม่ได้อีก)  ให้สร้างสวนหย่อมแทน จากคุณ : koa 6/2 - [ 24 ส.ค. 50 17:03:32 ]

ความคิดเห็นที่ 19 น่าสน สำหรับจักรยานครับ แต่ลองนึกภาพ ผู้ชายใส่สูตร หรือผู้ใหญ่ที่ใส่กระโปรง พอต้องไปปั่นจักรยานก็คงลำบาก กว่าจะออกจากซอย เหงื่อไหลไคลย้อย ไปถึงที่ทำงานก็เหม็นๆ เสี่ยงล้มคว่ำ โดนเฉี่ยวกันอีก ลองเพิ่มดูอีกตัวเลือก ก็คือ สกู๊ตเต้อร์ แบบยืน ใช้เท้าไถๆ และก็แบบที่ใช้ไฟฟ้าได้ เสียบชาร์ท ไม่ต้องปั่น แถมพับเก็บได้ ประหยัดที่ ตรงนี้จะช่วยลำเลียงคนออกมาจากซอยได้ระดับหนึ่ง แถมไถไปบนฟุตบาทบางที่ก็ได้ ซอกแซกง่ายกว่าจักรยาน พอไปถึงที่พักจอดรถไฟฟ้า ก็มีจุดสำหรับเสียบชาร์ทแบต โดยอาจเก็บค่าชาร์ท+ฝากถูกๆ ครั้งละไม่เกิน 10 บาท หรือให้พับแบกไปกับรถไฟฟ้า คล้ายๆจักรยานได้เลย (แต่คงมีปัญหากับรถใต้ดินที่ต้องตรวจวัตถุน่าสงสัย) ตรงนี้ ถ้ารัฐฯ หรือ กทม. ออกทุนให้ จัดโครงการนำร่อง สร้างให้ถูกๆตัวละไม่ถึง หมื่น แล้วใครอยากใช้ก็ผ่อนเอา น่าจะพอดึงคนที่ปั่นจักรยานไม่ไหวออกมาได้บ้างนะครับ จากคุณ : อยากจะเดิ้น - [ 24 ส.ค. 50 17:18:59 A:58.136.75.98 X: TicketID:144817 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ส่งเสริมระบบทำงาน และเรียนที่บ้าน เหมาะกับนิสัยคนไทยครับ.... นิสัยคนไทยคืออะไร ? คือนิสัยเอาหมากฝรั่งไปแปะอานจักรยาน นิสัยถอดเบรกไปขาย นิสัยกระทืบบันไดถีบ.... รวมทั้งนิสัยด่าแล้วแจว ไม่ช่วยคิด ไม่สร้างสรรค์ด้วยครับ เวลามีใครเสนอไอเดีย ก็ด่าไว้ก่อน ถ้าล้มเหลวก็รอสมน้ำหน้า ถ้าสำเร็จก็เออออห่อหมก สองวันก็ลืม กลับบ้านไปดูละครหลังข่าวต่อ.... จากคุณ : Tire Tracks Studio - [ 24 ส.ค. 50 17:24:41 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ^ ^ - ผมปั่นไปทำงาน 30 กว่าโล ประจำครับ ถึง Office ก็ซักแห้ง ก็ OK นี่ครับ เลือกเสื้อผ้าที่ระบายลมง่ายๆ รู้จักวิธีเอาตัวรอดบนถนน เห็นท่าไม่ดี ก็ขึ้น Footpath เลยครับ.... จากคุณ : - License To Kill - - [ 24 ส.ค. 50 17:26:02 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ก็ดีครับ ทำให้คนขึ้นรถเมล์รถไฟฟ้าเดินทางสะดวกขึ้น แต่ไม่น่าจะได้ผลมากมาย   อยากให้สร้างสะพานลอยเยอะๆ มากกว่า  แนวคิดคือถนนกว้างไม่ได้ช่วยให้รถไปได้เร็วขึ้น แต่ถนนที่ไม่มีไฟแดงต่างหากที่ทำให้การจราจรเลื่อนไหล เมื่อไม่ให้มีไฟแดงก็ต้องสร้างสะพานข้ามกันไปมา จากคุณ : มังกรใจเย็น - [ 24 ส.ค. 50 17:38:10 ]

ความคิดเห็นที่ 23 จะทำBike Pool ให้รอด ต้องทำให้ Bike ไม่ Pool รอดให้ดูก่อน กว่าคนจะกล้าใช้อาจใช้เวลาปรับตัวของสังคม ซึ่งระยะปรับตัวรถก็คงหายไปเรื่อยๆ ไม่อยู่เหมือนสภาพตอนแรกที่น่าใช้งาน Bike ไม่ Pool ยังหาย แล้ว Bike Pool จะไม่หายได้ยังไง ส่วนตัวอยากให้ทำเรื่องแยกขยะรีไซเคิลในกทม.มากกว่า ทำระบบเป็นธนาคารขยะที่ดี มีเจ้าหน้าที่จัดเก็บขยะรีไซเคิลถึงบ้าน แต่ละคนมีบัญชีของตัวเอง (คนไทยชอบสะสมตัวเลขเป็นสรณะไว้อวดกัน จะได้แข่งขันทำแต้มในด้านดี) จากคุณ : Dr.slump - [ 24 ส.ค. 50 17:42:02 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ปั่นจักรยานในกรุงเทพทำได้ในฤดูหนาวเท่านั้นมั้งครับ (มีแค่ไม่กี่สิบวันในหนึ่งปีเท่านั้น) ตอนที่ผมไปอยู่ที่เพริธ ออสเตรเลียตะวันตก ช่วงฤดูหนาว (พ.ค.- ส.ค.) ก็ซื้อจักรยานมือสองปั่นไปทำงานเหมือนกันครับ ระยะทางราว ๆ ๕ กิโลเมตรเห็นจะได้ พอไปถึงก็เหงื่อซึมนิด ๆ ระบบขนส่งมวลชนในกรุงเทพที่ใช้อยู่ตอนนี้ก็ดีอยู่แล้ว เพิ่มเครือข่ายเส้นทางให้มันกระจายไปทั่ว ๆ จะเป็น BRT หรือรถไฟฟ้าขนาดเล็กก็แล้วแต่จำนวนผู้โดยสารในเส้นทาง จากคุณ : Mr. SJ - [ 24 ส.ค. 50 17:43:16 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ที่ผมคิดอยู่ตอนนี้คือถ้ามีระบบจักรยานให้ใช้จริงๆ จะทำอย่างไรให้คนหัดมานิยมใช้บริการครับ เมืองไทยอากาศร้อน หน้าฝนฝนก็ตกหนัก มลพิษในกรุงเทพก็เยอะ จากคุณ : Gaojing - [ 24 ส.ค. 50 18:00:59 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ก็น่าสนครับ ถ้ามันเป็นหน้าหนาว หน้าร้อน แค่เดินในร่มก็เหงื่อซึมๆ แล้วครับ นั่งทำงานตัวเหม็นๆ ทั้งวันไม่ไหวแน่ครับ เหอๆ จากคุณ : oppertunity - [ 24 ส.ค. 50 18:06:38 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เบื่อเนอะ เวลาจะทำอะไรต้องเจออุปสรรคกับคำว่า "ไม่มีเงิน" จากคุณ : คาถาป้องกันแห้ว - [ 24 ส.ค. 50 18:19:04 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ผมเคยเสนอไว้ที่ thaimtb ราวๆ 4 ปีมาแล้วครับ  ทำทางด่วนพิเศษ สำหรับจักรยาน เหมือนทางด่วนพิเศษสำหรับรถยนต์สิ  ทำขนาบ ขนานไปกับทางลอยฟ้ายังไหว  ทางขึ้นลง เป็นทางเลื่อนเหมือนบันไดเลื่อนของห้างโลตัสนั่นแหละ เพื่อช่วยแรงในการปั่นขึ้น  ตัวเลนจักรยานลอยฟ้า ครอบด้วยโดมโปร่งแสง 90% ลงมาจนถึงระดับผิวถนน เพื่อกันลม กันฝุ่น  อัดอากาศ(เย็นๆหน่อย และสะอาดหน่อย) เข้าไป เพื่อลดความล้า และเพิ่มแรงลมส่งท้าย  น้ำหนักจักรยาน 1 คัน มันแค่ 1/100 ของเก๋งเท่านั้นเอง  โครงสร้างไม่จำเป็นต้องแข็งแรงอะไรเลย  ส่วนไหนที่ต้องลาดขึ้น ไม่จำเป็นต้องค่อยๆลาดแบบรถยนต์  ให้ราบยาว ... จนกว่าถึงจุดที่ต้องเปลี่ยนระดับ ... ติดตั้งเจ้าตัวผิวเลื่อนนั่นแหละ เพื่อให้ปั่นเปลี่ยนระดับได้  ความเร็วจักรยาน MTB ตอนนี้ อยู่ที่ 20-30 กม/ชม.  ถ้าปั่นไปทางเดียว ผลการ drag และลมส่งท้าย สามารถไปได้ถึง 30-40 กม/ชม.ด้วยซ้ำ  กรุงเทพ จากรังสิต ถึงบางนา ... กี่กิโลกัน?  ดีไม่ดี เร็วกว่ารถยนต์ซะอีก  ... ทุกอย่างไม่ฟรี ...  ใครจะใช้ทางด่วนจักรยาน ต้องเสียค่าใช้ทาง 10-20 บาท ...  เอาไหมหละ? จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 24 ส.ค. 50 18:44:39 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ส่งเสริมการทำงานที่บ้าน ใครทำงานที่บ้านได้ลดภาษี จากคุณ : aaa - [ 24 ส.ค. 50 18:48:19 A:125.25.83.214 X: TicketID:153624 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ผมว่ามันต้องแก้ปลูกฝังค่านิยมซะก่อนครับ ทุกวันนี้ขนาดรถติดคนก็อยากใช้รถส่วนตัว เมื่อเราแก้ไขให้รถไม่ติดได้ต้องมีกฏข้อบังคับที่ตายตัวคือต้องปฏิบัติแบบนี้แบบนั้นต่อไปครับ ไม่ใช่ว่าพอพรุ่งนี้แก้ไขรถไม่ติดแล้ว พวกก็หาซื้อรถมาขับกันอีกเพราะเห็นว่าขับสบายรถไม่ติด แล้วมันก็มาเพิ่มจำนวนขึ้น และก็ติดอีกเหมือนเดิม  ก็ต้องมาหาวิธีแก้กันใหม่อีกไม่รู้จักจบสิ้น บ้านเราถนนไม่พอกับปริมาณรถที่เพิ่มขึ้นทุกวันครับ จากคุณ : ขอชื่อที่รักจ๋า ณ พันทิป - [ 24 ส.ค. 50 18:52:19 ]

ความคิดเห็นที่ 31 อยากขึ้นรถเมล์ แต่ป้ายอยู่ไกลจัง ลงฝั่งนึงของสี่แยก จะไปป้ายต่อไปเดินเป็นกิโล จากคุณ : จั๊กกะจี๋ - [ 24 ส.ค. 50 18:52:36 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ขอลอกไอเดียเอามาจากญี่ปุ่นนะครับ สร้างเมืองใหม่ครับ ที่ญี่ปุ่นเขาถมทะเลแล้วสร้างเมืองใหม่แล้วจูงใจโดยใช้ภาษีล่อโดยบริษัทไหนย้าย Head office ย้ำ Head office จากเขตโตเกียวออกไปเขตดังกล่าวจะลดการเก็บภาษีเป็นเวลากี่ปีไม่รู้ เพื่อช่วยในการย้าย Office แล้วเมืองใหม่ที่ว่าก็จัดผังเมืองรอไว้แล้ว คนไปอยู่ก้มีความเป็นอยู่ที่ดีมาก มีบริษัทขนาดใหญ่ขนาดพนักงานหลายพันคนย้ายออกไปหลายบริษัท ของเราไม่ต้องถมทะเล แค่สร้างเมืองใหม่แล้วให้บริษัทย้าย HO ก็น่าจะช่วยได้ จริงๆของเราก็มีจะย้ายศูนย์ราชการ ถ้าย้ายได้ก็ลดจำนวนคนได้มหาศาล เกิดการพัฒนาอสังหริมทรัพย์และอื่นๆอีกมหาศาล ผมว่าสร้างงานได้เป็นสิบๆปีเลย ดีกว่าขุดคอคอดกระอีก จากคุณ : I love Alpha - [ 24 ส.ค. 50 19:04:46 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ปัญหาใหญ่คือ ความไร้มาตรฐานของผังเมืองยันถนนหนทาง บาทวิถีที่ไม่เอื้ออำนวย เอาแค่ถนนเล็กๆเข้าซอยบางซอย จะเดินเท้าเข้าไปก็แทบไม่มีทางจะเดิน ฟุตบาทบางที่ก็ไม่มีต้องเดินตัวลีบหลบรถเฉี่ยวชน ไอ้ที่มีฟุตบาทก็แทบจะไม่มีที่เดิน เดินๆไป ท่อบ้าง แม่ค้าบ้าง กองวัสดุต่างๆ ขี้หมา ฯลฯ  แค่จะหาที่เดินสบายๆ ก็แทบหาไม่ได้   สมัยเรียนผมเป็นคนชอบเดิน ไปไหนมาไหนเดินบ่อย รู้ปัญหาดี จากโรงเรียนไปบ้านมั่ง เดินเที่ยวในกรุงเทพมั่ง พอดีชอบการผจญภัย ก็เลยรู้สึกเหมือนเดินวิบาก ต้องเดินหลบนู่นนี่ ทั้งรถทั้งของ ทางพัง กระโดดข้ามน้ำขัง สารพัด เรื่องขี่จักรยานสมัยยังฟิตอยู่ ผมก็ชอบขี่ไปไหนต่อไหน จักรยานก็ใช่ว่าจะดีเท่าไร ก็แบบจักรยานแม่บ้านล้อใหญ่ๆธรรมดา ขี่จากบ้านแถวๆทอ.ไปเซียร์รังสิต ขี่บนถนนนี่รู้สึกเสี่ยงตายจริงๆ แต่โชคดีย่านนี้ฟุตบาทใหญ่ และก็ไม่ค่อยมีคน แต่พอถึงบางช่วงซอยใหญ่ๆก็ลำบาก ข้าวของ แม่ค้า ทางขาด ยกขึ้นยกลงเหนื่อย   ถ้าจะให้คนหันมาสนใจจักรยานก็ต้องทำให้เขารู้สึกสะดวกสบายในการขับขี่มันถึงจะได้ผล ขออภัยผมก็ไม่รู้ ไม่มีวิธีใดจะเสนอ แต่ละวิธีคิดไปคิดมาก็ตันไปหมด คิดได้แต่กทม.ต้องโดนนิวเคลียส์แล้ววางผังใหม่ หรือไม่ น้ำมันลิตรละ100-200 จากคุณ : Furious - [ 24 ส.ค. 50 19:06:28 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เอาเลนนึงไปให้ขี่จักรยาน แล้วเลนที่เหลือไม่เป็นอัมพาตเลยเหรอครับ กรุงเทพแค่ซ่อมถนนเลนเดียวก็ติดทั้งถนนแล้วครับ ไม่ได้ลบหลู่ความคิดนะครับ แต่ผมว่าโอกาสที่จะสร้างค่านิยมให้คนเมืองหันมาขี่จักรยานยากยิ่งครับ และอีกอย่างคือ ปัจจัยต่างๆไม่เอื้ออำนวยแน่นอน โดยส่วนมากรถที่ติดไม่ได้เกิดจากคนในเมือง ส่วนมากจะเป็นรถที่เข้ามาจากเขตปริมณฑลหรือต่างจังหวัด เข้ามาทำงาน ไม่งั้นรายการวิทยุจราจร คงไม่ต้องออกมาพูดทุกวันว่า ขาเข้ารถมากในทางกลับกันเคลื่อนตัวได้ดี พอตอนเย็นก็ต้องออกมาพูด ขาออกการจราจรติดขัดหนาแน่นในทางกลับกับเคลื่อนตัวได้ดี อะไรประมาณนี้ ในทุกๆสถานี ทุกๆวัน แนวทางของผมคือ เร่งสร้างการคมนาคมทั้งลอยฟ้าและใต้ดิน จากชานเมืองเข้ามาหาสายหลักในเมือง คล้ายๆโครงข่ายใยแมงมุม ให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ ถึงแม้จะลงทุนมากมายมหาศาลเพียงใดแต่ผลตอบแทนระยะยาวคุ้มแน่นอน จากนั้นเมื่อการคมนาคมดีขึ้น ปัจจัยที่ส่งผล ให้คนออกรถใหม่ก็จะน้อยลงเพราะมีตัวเลือกที่ดีกว่า คนหันมาใช้รถไฟฟ้ากันมากขึ้น และก็ยังส่งผล ให้จำนวนประชากรในเมืองลดลง เพราะย้ายไปอยู่ชานเมืองกัน กระจายไปเลยครับ หน่วยงานรัฐ กระทรวงทบวงกรมทั้งหลาย รวมถึงทำเนียบรัฐบาลด้วย ทั้งที่เอาไปแล้วและยังไม่ได้เอาไป เอาไปไว้ชานเมือง เดี๋ยวคนก็แห่ตามๆกันไปเองตามอัตโนมัติ แต่ข้อแม้คือรถไฟฟ้าต้องผ่านแค่นันครับ สรุปแล้วก็คือ กระจายการคมนาคมและศูนย์รวมต่างๆ ออกไปครับ แล้วประชากรก็จะตามกันไปเอง จากคุณ : ko - [ 24 ส.ค. 50 19:09:09 A:125.27.104.13 X: TicketID:118414 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เสริมอีกนิดนึงครับขยายความเจริญออกไปจากกรุงเทพซะที นี่แหละถาวรเลยครับ อะไรๆ มันก็มาอัดกันอยู่แต่ในกรุงเทพนี่แหละ  แต่ไม่มากรุงเทพก็ไม่มีงานจะทำกัน จากคุณ : ขอชื่อที่รักจ๋า ณ พันทิป - [ 24 ส.ค. 50 19:16:16 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ลดปริมาณ Taxi ให้ได้ก่อนดีกว่า ส่งเสริมการฝึกอาชีพให้ด้วย จะได้ไม่มาขับ Taxi กันเยอะ เพราะ มองๆไปเวลารถติด Taxi ไม่มีผู้โดยสารซะส่วนมาก วันๆวิ่งรถเปล่า เปลืองทั้งน้ำมัน ทั้งรถติด ทำระบบขนส่งพื้นฐานให้ปลอดภัยมีมาตรฐานสะอาด ดูน่าใช้งาน เข้มงวดกับ พนักงานขับรถ เพราะชีวิตผู้โดยสารและคนเดินถนนอยู่ใน มือของคนขับ รถไฟฟ้าบนดิน ใต้ดิน พยายามให้ครอบคลุมมากที่สุด ขยายความเจิรญสู่รอบนอก และต่างจังหวัด เพื่อกระจายที่จะเข้ามาทำงานให้กรุงเทพ จากคุณ : คนข้างๆ - [ 24 ส.ค. 50 19:28:32 ]

ความคิดเห็นที่ 37 สนับสนุนจักรยาน1เสียง แบบใช้บัตรสมาทการ์ด หรือทำให้ใช้ในบัตรประชาชนได้ ก้รูดบัตรที่สถานีจักรยานซึ่งมีกล้องวงจรปิดคอยสอดส่อง พอรูดบัตรแล้วตัวล็อคจักรยานจะปลด เราก้ขับไปไหนก้ได้ เวลาคืนก้ไปคือสถานีใกล้ๆ แล้วรูดบัตรซ้ำให้เก็บจักรยานเข้าที่ได้ โดยกำหนดให้นำมาคืนภายใน...วัน (งานนี้ใช้ฟรีทุกคนไม่เสียเงิน หรืออาจคิดเงินเล้กๆน้อยๆ เช่น 5บาท ต่อ1ครั้ง) ถ้ามีคนทำจักรยานเสียหาย หรือขโมยก้จะรู้ทัทีจากข้อมูลในบัตร ซึ่งถูกบันทึกไว้ตลอดแบบออนไลน์ ข้อดีคือได้ออกกำลังกายด้วย ลดการจราจร ลดมลพิษ แต่คนที่กลัวว่าจะเหนื่อยหรือต้องเดินทางไกลๆค่อยใช้รถได้ ของไทยคงไม่เหมือน ตปท. เพราะบ้านเราร้อนมาก แต่ผมว่าคงช่วยได้เยอะ แต่รัฐต้องรณรงค์ และออกโปรโมชันดึงดูดใจ เช่น ใช้บ่อยมีสิทธิ์ถูกรางวัลแจกพอต เป้นต้น จากคุณ : Sir.ขงเบ้ง - [ 24 ส.ค. 50 19:59:59 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ข้อแรกเลยที่คิดได้ และเป็นจุดเริ่มต้นของการแก้ปัญหาทุกอย่าง คือ "เลิกเห็นแก่ตัวครับ" จากคุณ : monkeygig - [ 24 ส.ค. 50 20:12:52 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ได้ยินว่าจักรยานไม่เหมาะกับเมืองไทย ผมนึกไปถึงว่าที่ washington DC เดินๆอยู่ ชะงักกับฝูงคนขับ segway ผ่านหน้าไป เอ่อ มันเป็นภาพที่สุดจะบรรยายเลยครับ ประเทศไทยจะรออีกซักกี่สิบปีหนอ - -* จากคุณ : -=| thopical |=- - [ 24 ส.ค. 50 20:14:37 ]

ความคิดเห็นที่ 40 คงต้องฝันเอาแล้วล่ะครับ จากคุณ : ไม่มีสมาชิกชื่อนี้ - [ 24 ส.ค. 50 20:34:38 ]

ความคิดเห็นที่ 41 1. เวลารถชนกัน อ่ะ อย่าจดแช่ ให้ เขยิบออกริมทาง ถ้าเป็นที่ฮ่องกง ใครไปรถเสีย หรือ น้ำมันหมด ตรง อุโมงค์เชื่อมเกาะเกาลูน โดนปรับอานเลย ตรงนี้ ถ้าแก้เวลารถชน แล้วเขยิบได้ จะดีขึ้นมากๆ 2. รถเข็นบนทางเท้า ต้องอย่ามี จัดให้เข้าโซน ไม่ล้ำออกมานอกถนน เพราะเวลารถต้องเบี่ยงตัวหลบ มันทำให้เสียเวลาเป็นหางว่าว 3.รถเมล์ ถ้าจะขับ ก็เลือกเอาสักเลน ไม่ใช่ เบี่ยงไปมา 2-3 เลน เวลาจอดรถเมล์ก็อย่าแช่ รถไว้นาน คันหลัง เขาต้องเบี่ยงออก รถมันก็ติด 4.แท๊กซี่ขา อย่าจอดรถนานเกินไป ตอนแรกคิดว่ารถติดๆ เพราะรถประชาชนทั่วไป ที่ไหนได้ เที่ยงคืนแล้ว รถยังติดสะบั้น อยู่เลย แถบรัชดา มองไปทางไหนมีแต่ แท๊กซี่ น่าจะมีการควบคุม รถแท๊กซี่ได้แล้ว ไม่ให้ขยายเกิน จำนวนเท่าไหร่ๆ มันเยอะเว่อร์มากๆ 5. พวกสร้างสะพานข้ามแยกเนี้ยะ รีบๆสร้างได้ไหม จะอู้ทำไมจ๊ะ ได้รับสัมปทานมา ก็รีบๆสร้างให้เสร็จๆไปซิ ดูอย่างจีนดิ ตึก 50-60 ชั้น สร้างแป๊ปเดียว ถ้าจะเร่งสร้างให้เสร็จๆ ก็เสร็จได้ ไม่รู้ จะแช่ทำไม โดยเฉพาะ สะพานข้ามแยกปากน้ำ เนี้ยะ 3-4 ปีแล้วน่ะเฟ้ย ติดนรกแตกขนาดนั้น ชาวบ้านเดือดร้อน 6.รถไฟฟ้า เร่งสร้างได้แล้วจ้า ช่วยได้เยอะมากๆเลย เร่งหน่อย อย่ามัวแต่ตรวจสอบกันอยู่แล้วแช่แป้ง โดยเฉพาะ เส้น สุวรรณภูมิ รอใช้อยู่เนี้ยะ ปล. จักรยาน เมืองไทย ขี่ไม่ไหว เพราะ ว่า อากาศตามท้องถนน เหม็นมากๆ ขี่แป๊ปเดียว หัวฟู หน้าดำไปเลย และ รถเยอะเกินไป ไหนจะมอเตอร์ไซด์อีก จะโดนรถใหญ่ เกี่ยวล้ม ซะงั้น รถวิ่งกันเร็วๆ อันตราย จะทำได้ ก็ต่อเมื่อ รถไฟฟ้า ทั่วถึง ทั่วกรุงเทพซะก่อน อ๋อ ไม่นับ เรื่องโจรขโมย จักรยานอีก ไว้ใจไม่ค่อยได้ แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 50 20:53:13 จากคุณ : chosen - [ 24 ส.ค. 50 20:38:24 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ญี่ปุ่นเค้าก็ใช้จักรยานขี่มาถึงสถานีรถไฟ สะดวกดีออก คนทำงานใส่สูทเค้าก็ใช้จักรยานกันครับ ผมอยากให้มีรถไฟฟ้าทุกๆจุดสำคัญทั่วกรุงเทพ จะช่วยลดปริมาณการใช้รถได้เยอะ ลดมลพิษทางอากาศ การเดินทางจะสามารถกำหนดเวลาได้เป๊ะๆ ปล. ว่าแล้วก็ฝาก Blog ไปเยี่ยมชมกันนะครับ http://pixar.bloggang.com จากคุณ : Pixar - [ 24 ส.ค. 50 20:48:49 ]

ความคิดเห็นที่ 43 แล้วแต่คนมองครับ หลักๆอยากให้สร้างรถไฟฟ้า นอกนั้นก็ ใครใช้รถส่วนตัว ก็อยากให้สร้างอุโมง สะพานข้ามทางแยก ใครใช้รถเมล์ก็อยากให้มีบัสเลน ห้ามรถอื่นวิ่ง ให้รถเมล์ไปตรงทางแยกก่อน ขี่จักรยานได้ก็อยากได้ช่องจักรยาน แต่คนกรุงเทพอยู่ไกลมากบางทีก็ไม่ไหว ไม่มีทางถูกใจทุกคนหรอกครับ คนใช้รถเมล์ มองคนใช้รถส่วนตัว 1 คน 1 คันทำให้รถติด คนใช้รถยนต์ส่วนตัว มองว่ารถเมล์จอดแช่ ขับหลายเลน เอาอย่างจีนไหมครับ จีนเริ่มทดสอบลดจำนวนรถบนถนนในกรุงปักกิ่ง ทางการกรุงปักกิ่งของจีนได้ออกคำสั่งห้ามไม่ให้ประชาชนนำรถยนต์ส่วนตัวราว 4 แสนคันออกวิ่งตามท้องถนนในกรุงปักกิ่งในวันนี้ ซึ่งเป็นวันแรกของการทดสอบ 4 วันจนถึงวันที่ 20 สิงหาคม เพื่อดูว่าการลดจำนวนรถยนต์บางส่วนจะช่วยลดปัญหาหมอกควันที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้หรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องหนึ่งที่หลายฝ่ายห่วงว่าจะเป็นอุปสรรคสำหรับการเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิกในปีหน้า ผู้ฝ่าฝืนนำรถยนต์เข้ามาขับขี่ในกรุงปักกิ่งในช่วงที่จัดการทดสอบ จะถูกปรับ 440 บาทและถูกสั่งให้นำรถกลับบ้าน แต่สำหรับรถยนต์ที่ใช้ในเหตุฉุกเฉิน รถแท็กซี่ รถโดยสาร และรถที่ใช้เพื่อบริการสาธารณะได้รับการยกเว้น สามารถแล่นได้ตามปกติ คณะกรรมการจัดโอลิมปิกกรุงปักกิ่ง เปิดเผยว่า ตั้งเป้าลดจำนวนรถยนต์บนท้องถนนในกรุงปักกิ่งตลอดช่วง 4 วันของการทดสอบลง 1 ล้าน 3 แสนคันหรือประมาณ 1 ใน 3 ของจำนวนรถยนต์ที่มีอยู่กว่า 3 ล้านคันซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาเพียงไม่กี่ปี โดยจะดูจากเลขทะเบียนรถที่เป็นเลขคู่หรือคี่สลับกัน แต่ไม่มีการเปิดเผยว่าจะใช้วิธีใดนับจำนวนรถยนต์ ประชาชนในกรุงปักกิ่งจำนวนมากเลือกที่จะเดินทางด้วยรถคันเดียวกัน บ้างก็ใช้บริการรถแท็กซี่ หรือระบบขนส่งมวลชนอย่างเช่น รถโดยสารและรถไฟใต้ดิน แต่บางคนก็เลือกที่จะหยุดงานไปแล้ว จาก http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?lang=th&newsid=274979 ผมว่าน่าจะลองดูในกรุงเทพบ้างนะ ว่ามันจะแก้ปัญหาจราจรได้เปล่า ห้ามแบบวันคี่ วันคู่ก็ได้ แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 50 21:14:25 จากคุณ : 821 (บัตรผ่าน 821) - [ 24 ส.ค. 50 21:10:48 ]

ความคิดเห็นที่ 44 จักรยานต้องระวังฝนนะครับ ไม่งั้นก็ต้องหาผ้าไปเปลี่ยนด้วย ถ้าดูจากเมืองใหญ่ๆทั่วโลกแล้ว จะเห็นว่าแก้กันด้วยรถไฟกันทั้งนั้นครับ เพราะท้ายสุดแล้ว มันสามารถขนคนจำนวนมากๆไปได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้แล้วเค้าก็จำกัดรถในตัวเมืองด้วยครับ อย่างlondon ใครขับรถเข้ามาในเขตlondonชั้นในต้องจ่ายเงินครับ(congestion charging zone) นี้ยังไม่นับรวมถึงค่าที่จอดรถที่แพงมากๆ http://www.cclondon.com/download/DetailMapECCZ.pdf ส่วนพวกcommuter นั้น มักจะมีรถไฟจากเมืองต่างๆเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟใต้ดินชั้นในครับ(บางคนอยู่เป็นห่างไป 100 กิโลฯเลย ยังมาทำงานทัน รถไฟมันวิ่งเร็วชั่วโมงก็ถึงแล้ว แล้วมาต่อรถไฟใต้ตินอีกสบายมาก) หรือบางเมืองที่ไม่ใหญ่มาก จะจัดเป็นPark and Ride นั้นคือเป็นลานจอดรถขนาดใหญ่นอกเมืองแล้วมีรถคล้ายรถเมล์วิ่งวนระหว่างลานจอดรถกับตัวเมืองชั้นในครับ จากคุณ : KL - [ 24 ส.ค. 50 21:14:43 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ผม "ต้อง" ขับรถไปทำงานครับ เพราะรถผมใช้แก๊ส ค่าแก๊ส 60  บาทต่อวัน ค่ารถผม (มือสอง) ติดแก๊สเสร็จ 55,000 บาท ถ้านั่งรถโดยสาร ค่ารถ 120 บาทต่อวัน ส่วนต่าง 60 บาท ใช้ 916.67 วันถึงจะคืนทุน แต่ไม่ลำบากนะเออ ถ้าสมัยก่อนที่ทำงานตจว. จักรยานอย่างเดียวครับ ^^ -------------------------------------------------------------- แต่ที่ต้องแก้ คือสัน.....ของคนไทย ไอ้พวกที่ชอบเบียด ชอบแทรก มนุษย์กบ มนุษย์ปาดน่ะ กำจัดมันซะ ไอ้พวกที่ชอบวิ่งไหล่ทาง หรือชอบเข้าเลนในๆ แล้วค่อยมาเบียดออก (อย่างผมทำงานตรงบางนา - ตราด เ่จอตลอด) อัดครับ เหยียบใส่มันเลย ถ้าเมิงเข้า กุชน รถพังไม่สนใจหรอก ยังไงรถผมก็ถูกกว่ารถมัน ปล. ว่าจะไปตั้งที่รัชดาอยู่เลย เพิ่งเห็น จากคุณ : Epinephrine - [ 24 ส.ค. 50 21:16:17 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ผมอยากให้ทำตึกสำหรับจอดรถกระจายๆ กันในเเต่ละเขตพื้นที่ ไม่ให้มาจอดริมถนน เก็บค่าจอดเป็นรายเดือน ถ้าบริเวณนั้นมีตึกนี้เเล้วยังมีรถคันไหนจอดข้างทางก็ให้ปรับเยอะๆ เเล้วก็สร้างตึกบริเวณที่มีการค้าขายริมถนนหรือบนบาทวิถีหนาเเน่น แล้วก็บังคับให้ไปอยู่รวมกันบนตึกใครขายริมถนนก็ปรับให้มันเยอะๆ รถสองแถวห้าบาทแถวบ้านผมให้ขึ้นราคาเลยเป็นสัก 7 บาท แล้วก็เลิกจอดเเช่รอผู้โดยสารแบบแช่อิ่มจอดไม่ขยับ แล้วก็พวกชอบขับรถเร็วๆปาดไปปาดมาน่าจะมีกล้องจับแล้วปรับ เพราะมันพลาดทีรถติดเป็นขบวนเลย รู้ว่าขับเก่งเเต่บางทีคันหน้าเบรคกระทันหัน ก็ซวยไป จากคุณ : Chaos dragon - [ 24 ส.ค. 50 22:10:41 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ถ้ามีหนทางดีๆ ส่งให้ ครม. เลยครับ ผมว่า ขยาย เมืองออกได้ไปด้านนอกบ้าง อย่ามากระจุกอยู่ในตัวเมือง รถไฟฟ้า ให้ครอบคลุม ทุพื้นที่ ลดจำนวน รถใช้ส่วนบุคคล รณรงค์ การใช้รถสารธารณะ น่าจะต้องใช้หลายมาตรการในการแก้ปัญหาครับ จากคุณ : uav - [ 24 ส.ค. 50 22:29:42 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ทำสดวกสบายเกิน คนขี้เกียจกันอีก ฉะนั้น  ผมว่านะ  ถ้าจะจัดระเบียบการจราจร ก็น่าจะจัดระเบียบทางเท้า  ให้มีความรู้สึกว่า  ปลอดภัย  และน่าเดิน เพราะทางเท้าทุกวันนี้  เหมือนที่ทิ้งขยะเทศบาล เกะกะเลอะเทอะไปหมด ขยายได้ก็ขยายเลย ทุบได้ทุบ  ทิ้งได้ทิ้ง อุดได้อุด อย่างที่เราเห็นในหนัง  เมืองใหญ่ๆของโลก  ย่านเศรษฐกิจสำคัญๆ ผู้คนเดินกันให้ควัก  เหมือนฝูงมดเลย เดินบ่อยๆ  ร่างกายแข็งแรง  สมองโปร่ง  เหงื่อไม่ออกมาก จากคุณ : ชาวบางนา - [ 24 ส.ค. 50 22:54:40 ]

ความคิดเห็นที่ 49 *** (ณ บริเวณหน้าห้องผ่าตัดฉุกเฉินของโรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่ง  นายแพทย์เจไดหนุ่มเดินหน้าหดหู่ออกมาแจ้งข่าวสารบางอย่างแก่ญาติของคนไข้รายหนึ่ง) *** "หมอต้องขอแสดงความเสียใจด้วยครับ  เนื่องจากคุณนำผู้ป่วยรายนี้มาส่งถึงมือหมอช้าเกินไป"  "หมอจึงต้องขอแจ้งให้ทุกท่านในที่นี้ทราบว่าอาการป่วยด้วยโรค”ทางเดินสัญจรแน่นขนัด” ของ "นาย กรุงเทพ  นามสกุล มหานคร"นั้น  ได้ดำเนินมาถึงระยะสุดท้ายจนเกินที่จะเยียวยาแล้ว หมอจึงต้องขอให้ญาติๆเตรียมทำใจไว้ล่วงหน้าเลยครับ" (ภายหลังสิ้นสุดคำพูดอันแสนกรีดแทงใจของหมอเจไดหนุ่ม  เหตุการณ์หลังจากนั้นล้วนเต็มไปด้วยบรรยากาศเหมือนละครน้ำเน่าหลังข่าวทาง "ช่องอดสูทีวีเพื่อคุณ") นางรัตนา โกสินทร์(ภรรยานายกรุงเทพ): " มะ ม่ายจริ๊งงง โธ่คุณพี่... เฮือก! (แล้วนางก็เป็นลมล้มพับแลสิ้นสติสมประดีไป  จนพยาบาลต้องเข้ามาช่วยกันหามร่างไปยังห้องพักคนป่วย) นาย สุจริต รักเมือง (หลานนายกรุงเทพผู้มีหน้าตาดีที่สุดในกลุ่ม ประมาณว่าเป็นพระเอกของเรื่อง): “โธ่ท่านเจ้าคุณปู่ แล้วนี่จะมีวิธีอะไรช่วยเยียวยาได้ไหมครับหมอ  ไม่ว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเท่าไรเราก็ยอมครับ” นายแพทย์เจไดหนุ่ม (หมอผู้รักษาอาการของนายกรุงเทพ): “สายไปเสียแล้วครับ  หมอเองก็ลองทุกวิถีทางแล้ว  ตอนนี้เราคงได้แค่...” นาย ช่วยเหลือ เกื้อกูล (ลูกชายคนสุดท้องของนายกรุงเทพซึ่งมีอาชีพเป็นหมอเช่นกัน  แลเป็นน้าชายที่แสนดีของนายสุจริต): “อย่าพึ่งหมดหวังสิสุ น้าเองว่ามันยังต้องมีทางแน่”  “นี่หมอลองใช้วิธีปั๊ม แก๊สโซฮฮลล์ เข้าไปในระบบทางเดินสัญจรของคุณพ่อรึยังครับ” นายแพทย์เจไดนุ่ม: “ลองแล้วครับ แม้กระทั่งการพ่นก๊าซเอ็นจีวี รึฉีดตัวยาไบโอดีเซลล์ทางหลอดเลือดหมอก็ลองแล้ว  แต่ดูท่าจะหยุดอาการเรื้อรังของคนไข้ไม่ได้เลย” นาย ช่วยเหลือ เกื้อกูล : “ละ..แล้วหมอลองเพิ่มปริมาณยาบีทีเอสกับยาเอ็ม.เอ็น.บัสรึยังครับ  ผมว่านั่นอาจทำให้ระบบที่ติดขัดในร่างกายของคุณพ่อทุเลาลงได้” นายแพทย์เจไดหนุ่ม:  “ลองแล้วครับ  แต่คนไข้จะอาการทุเลาลงก็เฉพาะช่วงที่ยาออกฤทธิ์ใหม่ๆเท่านั้น  หลังผ่านไปซักพักอาการก็จะทรุดลงไปเป็นแบบเดิมอีกครับ” นายสุจริต รักเมือง: “ผมเคยได้ยินมาว่าที่เมืองนอกมีระบบการรักษาที่เรียกว่าพูลไบค์น่ะครับ  ไม่ทราบว่าคุณหมอพอจะเอามาประยุกต์ใช้กับร่างกายของท่านเจ้าคุณปู่ได้ไหมครับ” นายแพทย์เจไดหนุ่ม: “นั่นยิ่งไม่มีทางครับ  เนื่องจากระบบในร่างกายของท่านล้วนแน่นขนัดแลเน่าเฟะเสียจนเราไม่อาจใช้กรรมวิธีนั้นได้”  “อีกทั้งระบบการวางผังเรื่องสุขภาพของท่านเองซึ่งดูแลโดยท่านผู้ว่า..เอ้ย..โดยหมอคนเก่าก็ยุ่งเหยิงอีรุงตุงนังไปหมด”  “จนตอนนี้เราไม่อาจจะนำวิธีนั้นมาใช้ได้อย่างเต็มที่100เปอร์เซ็นต์ครับ” นายสมน้ำ หน้ามัน (ลูกชายคนโตของนายกรุงเทพ  ผู้มีใบหน้าแลรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ดุจสุนัขจิ้งจอก):  “พอเถอะช่วย  พี่ว่าเราควรปล่อยให้คุณพ่อแกไปสบายเถอะ”  “ท่านเองก็เหนื่อยยากลำบากตราตรำมานานหลายปีดีดักแล้วนี่คงเป็นเวลาของท่านเสียที” (นายสมกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบๆแลดูอบอุ่น  แต่สีหน้านั้นกลับฉายแววเจ้าเล่ห์เหี้ยมโหดแฝงอยู่) นางช่างมัน ฉันไม่แคร์ (ภรรยานายสมน้ำ หน้ามัน และเป็นสะใภ้คนโตของนายกรุงเทพ) : “ใช่แล้วพี่ก็เห็นด้วยกับพี่สมน่ะแหละสุ”  “ท่านเจ้าคุณปู่แกลำบากมานานแล้วนี่ก็คงถึงเวลาเสียที  พี่ว่าเราควรรีบจัดการเรื่องมรดกของ..เฮือก..” (นางช่างมันหยุดปากทันทีเมื่อเห็นนายสมหันมาจ้องด้วยแววตาเขม็งเป็นทำนองให้หุบปากไว้ก่อน) นายสุจริต รักเมือง : “นี่คุณน้าพูดออกมาได้ยังไงครับ  ท่านเจ้าคุณปู่กรุงเทพเขามีบุญคุณต่อพวกเราขนาดไหนคุณน้ารู้ไหม”  “นี่ท่านยังไม่ทันจะจากไปเลย  พวกคุณน้าก็จะมาพูดเรื่องมรดกกันซะแล้วหรือนี่” (นายสุจริตกล่าวด้วยน้ำตานองหน้า แลเริ่มกัดฟันด้วยความโกรธ) (ต่อจากนั้นเหตุการณ์เริ่มบานปลาย  เมื่อนายสุจริตซึ่งพอจะเดาแผนของจิ้งจอกเจ้าเล่ห์สองตนออก  เตรียมตัวเงื้อหมัดเข้าไปต่อยตีจจนนายแพทย์เจไดหนุ่มแลญาติๆต้องเข้ามาช่วยกันห้ามปราม  พอดีกับที่เสียงสัญญาณเครื่องวัดชีพจรของนายกรุงเทพส่งเสียงดังก้องออกมาจากห้องไอซียู) (ระหว่างนั้นเอง “นางสาว แพนเค้ก” ผู้มีรูปร่างท่าทางอันแสนสง่าแลดูน่ารักสมกับเป็นนางเอกของเรื่อง  ก็เดินเข้ามาแลเริ่มกล่าววาจาเสียงเจื้อยแจ้วกับนายสุจริตว่า....) โปรดติดตามอ่านตอนต่อไปของละคร ”รักหมดใจ นายกรุงเทพ” ได้ทุกวันทางหน้าหนังสือพิมพ์ ”หว้ากอโพสต์”  หรือติดตามชมได้ทุกวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ทางโทรทัศน์ช่อง"อดสู ทีวีเพื่อคุณ" Mr.Fusion (มหาบุรุษแห่งเว็บบอร์ดพันทิป): เข้ามาดู น้องแพนเค้ก (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 50 23:37:04 แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 50 23:29:43 จากคุณ : เจไดหนุ่ม - [ 24 ส.ค. 50 23:15:32 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ย้ายเมืองหลวงออกไปครึ่งหรือส่วนนึงครับ เอาไปเฉพาะ หน่วยงานราชการทุกๆหน่วย หน่วยงานที่สำคัญๆของภาคธุรกิจ และหน่วยงานเอกชนที่มีพนักงานสูงสุด 20 อันดับต้น   ทั้งนี้ทั้งนั้นการขนส่งคมนาคม ของเมืองใหม่และเก่าต้อง ทำให้ใหญ่และสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เคยมีมา สามารถขนถ่ายประชากรจากสองเมืองนี้ได้คราวละมหาศาล ใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 30 นาที ผมคิดว่า น่าจะขยายตามเส้นทางรถไฟสายปัจจุบันน่าจะง่ายกว่าทางอื่นครับ และก็จัดวางระบบ รถไฟความเร็วสูงไปในตัวเลย เมืองใหม่ก็สร้างไปพร้อมๆกันเลย และที่สำคัญไม่รบกวนสภาพการจราจรในปัจจุบันครับด้วยครับ จากคุณ : uuhuu - [ 24 ส.ค. 50 23:17:04 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ไปสร้างเมืองคู่ขนานเอา กทม.คนเยอะแล้วเพิ่มเรื้อยๆไงก็รถก็ติด ต้องกระจายความเจริญ จากคุณ : ไม่ได้มีสิบมือ (ไม่ได้มีสิบมือ) - [ 24 ส.ค. 50 23:37:51 ]

ความคิดเห็นที่ 52 มีจักรยานเช่าและเลนส์จักยานก็ดีค่ะ เป็นทางเลือกของกลุ่มคนที่เลือกทางนี้ และอาจมีบางคนที่กระโดดลงจากแทกซี่ที่ติดไฟแดงยาวนาน เพื่อเช่าจักรยานไปต่อ ซึ่งอาจไปแค่ข้ามไฟแดง คือประโยชน์มันไม่ได้แค่กลุ่มคนที่ต้องขี่จักรยานไปทำงานหลายกิโลเมตร แต่แก้ปัญหาของคนที่ ไปทำงานไม่ทัน ไปสอบไม่ทัน...มอเตอร์ไซค์รับจ้าง หวาดเสียวพอสมควร แต่ถึงไง จักรยานก็ได้เฉพาะกลุ่มและอาจได้กลุ่มใหม่เพิ่มขึ้นเมื่อมันได้ประโยชน์จริงๆ ...แต่ถึงแม้จะเฉพาะกลุ่มก็น่าจะเป็นกลุ่มใหญ่พอสมควร จริงๆ ถ้าสร้างกรุงเทพฯที่สองได้ก็คงดี หาทำเลที่เหมาะสม แล้วย้ายออกไป ไม่ง่าย แต่ทุกสิ่งจำเป็นต้องเริ่มต้นให้ได้ก่อน....ไม่งั้นก็จะมีแต่ไอเดีย ช่วงลองวีคเอน กรุงเทพน่าอยู่สุดๆ ถ้าคนออกไปหมดแบบนั้น ไม่จำเป็นต้องสร้างอะไรในกรุงเทพเพิ่มเติมให้ยุ่งยาก ลองที่ธุรกิจบันเทิงก่อนก็ดี ...เหมือนย้ายฮอลลีวู๊ดในกรุงเทพไปอยู่ที่ไหนสักแห่ง เพราะธุรกิจบันเทิง ไม่จำเป็นเท่าไหร่ที่ต้องอยู่ในเมือง เอาแบบไกลจากกรุงเทพเล็กน้อย ธุรกิจพวกนี้ ต้องการเพียง สถานที่ดูดีกิ๊ฟเก๋ และถ้ามีเมืองที่มีบรรยากาศที่เป็นเสน่ห์ที่แตกต่าง พวกเขาก็พร้อมที่จะย้ายออกไปอยู่ที่นั่น เมื่อฮอลลีวู๊ดย้ายไป ...หาสถานที่ราชการที่สำคัญบางแห่งตามออกไปด้วย เช่น ที่ทำพาสปอร์ต  ขนส่งมวลชน....เมืองๆใหม่นี่จะเกิดร้านค้าสวยงามขึ้นมากมาย ตลาดนัดดารา ร้านอาหาร โรงแรม เกิดเป็นธุรกิจขนาดย่อม มีการจ้างงาน ..และเมื่อค่าเช่าอาคารออฟฟิศในกรุงเทพฯเริ่มแพงขึ้นมากมาย ก็อาจเริ่มย้ายไปที่ฮอลลีวู๊ด (เพราะเป็นเมืองที่น่าอยู่แล้ว) คิดได้แค่นี้... จากคุณ : กรุงเทพฯบ้านเรา (khorbfaa) - [ 25 ส.ค. 50 00:04:48 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เมืองใหม่ควรอยู่ในจังหวัดที่ไม่ไกลจากกทม.มาก และมีรถไฟผ่าน จากนั้น พัฒนาจากสิ่งที่มีอยู่แล้ว คือ รางรถไฟ สถานีรถไฟ....เพิ่มเส้นทางเดินรถ เป็นรถด่วนวิ่งเข้ากรุงเทพฯและมาจอดที่สถานีบางซื่อและหัวลำโพงเท่านั้น (ไม่จอดสถานีอื่นเลย) เพราะสองสถานีรถไฟนี้ มันมีสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินอยู่ด้วย จากคุณ : khorbfaa - [ 25 ส.ค. 50 00:08:27 ]

ความคิดเห็นที่ 54 และ...กะลังคุยกะเพื่อนที่เป็นคนอังกฤษ เค้าบอกว่า เค้าแนะนำให้ทำแบบบ้านเค้า คือ รถส่วนตัวเมื่อวิ่งเข้ามาในโซนที่มีปัญหารถติด ต้องจ่ายตังค์ด้วย...ตอนนี้ ในลอนดอนรถติดน้อยลงแล้ว เค้าบอกนะ ไม่รู้จะเหมาะสมกะบ้านเรามั้ย.. จากคุณ : เพื่อนบอกมา (khorbfaa) - [ 25 ส.ค. 50 00:11:23 ]

ความคิดเห็นที่ 55 เคยบอกแล้วว่า แพรอยากให้มีการขี่จักรยานมากขึ้น อยากให้ฝันเป็นจริงอย่างมาก เพราะตอนนี้น่ะ แพรต้องจ่ายค่าเดินทางไปทำงานเดือนละประมาณ 4000 บาทค่ะ จากคุณ : แพรดาว - [ 25 ส.ค. 50 00:26:57 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ห้ามจอดตลอดแนว     ใช้กล้องถ่าย ปรับ สิ้นปี ป้ายบอกช่องจราจร สีเขียว ติดถึงก่อนไฟแดง 500 เมตร ห้ามแม่ค้าแผงลอย  กั้นรั้วตลอดแนว รับบริจาคเงินจากประชาชนในการทำป้ายจราจร หมวกส้มกั้นห้ามแซง ห้ามเปลี่ยนเลน จากคุณ : หญิงยอดนักทดลอง - [ 25 ส.ค. 50 01:47:15 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ทำระบบขนส่งมวลชนให้ดี ถึงดีที่สุด           ปรับนิสัยพนักงานขับรถโดยสาร + เพิ่มค่าจ้าง           รถโดยสารบ้านเราเป็นอย่างนี้ ใครๆ ก็อยากออกรถมาขับเองกันทั้งนั้น ค่าใช้จ่ายสูงกว่าก็ยอมดีกว่าต้องมาเสี่ยงชีวิตกับ พขร ตีนผี โดยเฉพาะรถร่วม                     ถ้ามีโครงการพัฒนาตรงจุดนี้จริง ข้อสุดท้ายที่ต้องทำ คือ ผู้ที่รับผิดชอบในการดำเนินงาน ต้องทำงานพัฒนาในสิ่งที่ดีขึ้นด้วยความรักชาติจริงๆ ไม่ใช่รักชาติกันจนน้ำลายไหล.... จากคุณ : temjung99 - [ 25 ส.ค. 50 06:08:36 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ผังเมืองก็อีกปัจจัยหนึ่งครับ จากคุณ : หนอนไผ่ (หนอนไผ่) - [ 25 ส.ค. 50 09:13:09 ]

ความคิดเห็นที่ 59 เมื่อวานเข้ากทม. กลับมาตีสามไม่ได้เข้ามาดู เพื่อนๆให้ความเห็นดีๆ เป็นประโยชน์กันเยอะเลยครับ หลายความเห็นผมว่าเป็นประโยชน์ การแก้ไข จำเป็นต้องทำหลายอย่างไปพร้อมๆกัน บางอย่างทำได้ง่าย บางอย่างทำได้ยาก ใช้ทุนสูง บางอย่างอาจจะทำไม่ได้เลย บางอย่างส่งผลกระทบ ต่อคนหมู่มาก มากน้อย ต่างกันไป ดังนั้นการมีข้อมูล แล้วนำมาศึกษาต่อ เป็นประโยชน์กับบ้านเมือง ถ้ามีโอกาส ผมจะลองเสนอคนที่เค้ามีส่วนรับผิดชอบ ทางด้านนี้ดู เผื่ออะไรจะดีขึ้นไปกว่านี้ บ้าง ดีกว่าคิดว่ามันทำอะไรไม่ได้ แล้วก็ปล่อยไป ขอบคุณทุกท่านครับ SAVE จากคุณ : -=Jfk=- - [ 25 ส.ค. 50 11:02:21 ]

ความคิดเห็นที่ 60 แต่ ถนน ในกทม ดูจะไม่เอื้อ อำนวยต่อการใช้ จักรยานเลย จากคุณ : ก้นกบ - [ 25 ส.ค. 50 11:59:05 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ความเห็นส่วนตัว ขี่จักรยาน - ไม่เอาอ่ะ แดดร้อน เหงื่อไหลไคลย้อย มลพิษเยอะ ต้องปั่นอีก ขี่มอ'ไซค์ - ดีกว่าจักรยาน แต่ก้อร้อน หัวฟู มลพิษเยอะ ขับรถ - ดีเว้ย แค่เหยียบปรื้ดๆก้อไปละ แอร์เย็น มลพิษเข้าไม่ถึง มีเพลงฟัง สบายๆ เหงื่อไม่ไหล ไคลไม่ย้อย ทั้งหมดนี้ไม่รวมถึงการที่ต้องแบกสัมภาระไปไหนมาไหน และ ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย ในการขี่จักรยาน อุบัติเหตุ ปล้น ฉุด ข่มขืน เข้าใจว่ารถก้ออาจจะเกิดได้เหมือนกัน แต่รถยังพอจะมีเกราะป้องกัน จักรยานนี่ ถีบรถล้มโครม ลากตัวเข้าข้างทางได้เลย เรื่องนิสัยคนไทย ผมว่าแก้ยากกว่าปัญหาละครน้ำเน่าเมืองไทยรวมกับชุดนักศึกษาอีก ฉะนั้นเราลองมาดูที่สาเหตุอื่นกันดีกว่า --- แก้ที่ระบบขนส่งมวลชนดีไหม ? รถเมล์ มาเป็นเวลา อย่าจอดแช่ อย่าขับแข่งกัน รถไฟฟ้า อยู่ในที่ชุมชน ไปง่าย มาสะดวก รถไฟใต้ดิน เช่นเดียวกับรถไฟฟ้า แต่อาจจะเข้าไปในที่ที่ไม่อยากทำให้เสียทัศนียภาพ รถไฟ เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดิน นำคนจากเขตปริมณฑลเข้ามายังเขตเมืองรอบนอก เรื่องวางระบบการจราจรใหม่ ระบบผังเมืองใหม่ ผมว่าเมืองไทยทำไม่ได้ครับ ขอแค่แก้ไขเรื่องรถเมล์ได้ ผมว่าทุกอย่างจะดีขึ้น เพราะส่วนใหญ่ลงรถไฟฟ้าก้อต้องต่อรถเมล์อยู่ดีแหละครับ ขอนอกเรื่องแบบเกี่ยวข้อง ตอนนี้กำลังศึกษาผังรถไฟใต้ดินของลอนดอนและมอสโคว์อยู่ครับ สุดยอดมากๆ แต่เหมือนรัสเซียเค้าจะสร้างรถไฟก่อนแล้วค่อยสร้างเมืองครับ จากคุณ : ... (สายลับ 081) - [ 25 ส.ค. 50 21:29:06 ]

ความคิดเห็นที่ 62 เข้ามาเสริมเรื่องปั่นจักรยานแล้วเหงื่อไหลไคลย้อยไปที่ทำงานครับ ว่ามันพอจะมีทางช่วยได้คือ ทำห้องอาบน้ำในที่ทำงานครับ แล้วมีอุปกรณ์อาบน้ำส่วนตัวของแต่ละคนเก็บไว้ที่ที่ทำงานครับ แล้วก็เสริมเรื่องการวางผังเมืองครับว่าทำได้ยากมากๆ เนื่องจากในเมืองไทยนี่ทุกที่มีเจ้าของ แล้วแต่ละคนก็ไม่ยอมถ้าที่ของตัวต้องกลายไปเป็นส่วนที่เอาไปใช้ประโยชน์ได้น้อย จากคุณ : Ronachai (amscmu) - [ 25 ส.ค. 50 22:57:37 ]

ความคิดเห็นที่ 63 หมอเจต้องคัดไทยให้ถูกครับ จึงจะแก้ปัญหาได้ จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล คัดมา100เที่ยวครับ เพราะหมอเจแก่แล้ว ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้เด็กอย่างผมเห็น.... จากคุณ : เด็กน้อยขี่ม้าก้านกล้วย - [ 26 ส.ค. 50 01:55:00 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ความเห็นของผม ผมว่าควรทำที่จอดรถตรงบริเวณสถานีรถไฟฟ้า+ใต้ดิทุกสถานีครับ เพราะรถที่กระจุกในตัวเมืองส่วนใหญ่นั้นมาจากนอกเมือง สังเกตุได้จากหมู่บ้านต่างๆ ส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณนอกเมืองทั้งนั้น การเดินทางจากนอกเมืองเข้าตัวเมืองนั้นลำบาก โดยคนส่วนใหญ่นั้นจำเป็นที่จะต้องใช้รถเพื่อเข้ามาในตัวเมืองเพื่อทำงาน การเดินทางนอกเมืองนั้นลำบากมากครับถ้าใครที่อยู่บริเวณชานเมืองน่าจะรู้ดี รวมถึงเรื่องความปลอดภัยนี่ก็น่าเป็นอีกเหตุผลที่จำเป็นจะต้องใช้รถ ทุกวันนี้แม้แต่เช้าๆเดินออกไปขึ้นรถเมล์ปากซอยยังอันตรายเลยครับ ทั้งจี้ปล้น วิ่งราว ควรมีที่จอดรถใหญ่ๆจุรถได้เยอะๆ สกัดรถที่จะเข้าไปในตัวเมือง โดยในตัวเมืองก็เดินทางโดยรถไฟฟ้า+รถไฟใต้ดินเป็นหลัก น่าจะแก้ได้ส่วนหนึ่ง สุดท้ายก็ต้องเริ่มแก้ตั้งแต่วันนี้เพราะมันใช้เวลานานในการแก้ คือแก้ไขจิตสำนึกครับ โดยเฉพาะพี่ๆ แท๊กซี่ทั้งหลายแหลก ผมว่าน่ามีการเก็บภาษีถนนนะครับ (หรือมีอยู่แล้ว) เพราะเค้าใช้ถนนสาธารณะในการทำมาหากิน จากคุณ : gumpwoy - [ 26 ส.ค. 50 03:21:26 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ความคิดเห็นที่ 63   หมอเจต้องคัดไทยให้ถูกครับ จึงจะแก้ปัญหาได้ จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล คัดมา100เที่ยวครับ เพราะหมอเจแก่แล้ว ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้เด็กอย่างผมเห็น.... จากคุณ : เด็กน้อยขี่ม้าก้านกล้วย ###################### ได้ครับคุณครู จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จราจร ไม่ใช่ จารจร จลาจล ไม่ใช่จารจล จากคุณ : -=Jfk=- - [ 26 ส.ค. 50 13:13:55 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ^ ใช้ copy paste นี่นา ต้องคัดใส่กระดาษแล้ว scan มาซิ จากคุณ : Mr. SJ - [ 26 ส.ค. 50 13:57:22 ]

ความคิดเห็นที่ 67 มูลค่ารถไฟฟ้าที่เราว่ามันแพง เพราะกะัลงทุนทีเดียวหนักๆ ที่มีอยู่ของบ้านเราทุกวันนี้ทั้งสองสาย เป็น heavy rail ครับ ลองไปดูที่มาเลย์ดิคับ รถของเค้ามีหลายแบบ heavy rail, light rail(LRT), monorail, commuter รถไฟฟ้าเค้ามี 5 สาย ส่วนใหญ่เป็น light rail ค่าก่อสร้างถูกกว่า heavy rail บ้านเราร่วม 40% ดังนั้นจึงลงทุนได้หลายสาย โดยใช้เงินลงทุนสูสีกับเรา ยิ่งถ้าเป็น monorail ต้นทุนค่าก่อสร้างยิ่งถูกใหญ่ ถึงขนาดฮิตาชิมาตั้งโรงงานทำรถในมาเลย์เองเลย เท่าที่ลองนั่งดูแทบไม่รู้ความแตกกต่างระหว่างขนาดตัวรถกับบ้านเราเลย ที่ว่ารถไฟฟ้าเราแน่นในชม.เร่งด่วน เพราะงกรถครับ ความจริงยังปล่อยขบวนรถได้มากกว่านั้นหลายเท่า จากคุณ : x - [ 27 ส.ค. 50 01:14:13 A:210.246.64.84 X: TicketID:052378 ]

ความคิดเห็นที่ 68 เส้นทางรถไฟฟ้ารถใต้ดิน ตอนนี้เห็นบ้านเรือนประชาชนติดขายกันเป็นแถว จากคุณ : บอกไป - [ 27 ส.ค. 50 22:28:03 ]

ความคิดเห็นที่ 70 เค้าไม่ได้อนุญาติให้เข้ามาขายของนะครับ รบกวนไปที่บอร์ดซื้อขายเถอะครับ จากคุณ : AutoCrazy - [ 4 ก.ย. 50 15:57:32 ]