ความคิดเห็นที่ 1 เกาหลีไม่ใช้ไม้เรียว แต่ใช้ไม้เบสบอล เคยดูในหนัง the classic อะ จากคุณ : shoothotshot - [ 14 ก.ย. 50 11:02:08 ]

ความคิดเห็นที่ 2 รูปภาพประกอบน่ากลัวจังแฮะ จากคุณ : Rata_RG - [ 14 ก.ย. 50 11:15:41 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ควรใช้  แต่ใช้ให้เหมาะสม  ผมว่ามันมีผลดีนะ สมัยก่อนนั่งทำการบ้านก็เพราะกลัวไม้เรียวเนี้ยแหละ จะไปยกตัวอย่างประเทศอื่น  ต้องดุสังคมเราด้วย  นักเรียนเราพร้อม + มีความรับผิดขนาดเค้ารึยัง ถ้านักเรียนทำตัวดี  รับผิดชอบต่อหน้าที่ดี  ไม้เรียวที่มีมันก็ไม่ต้องใช้ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการเป็นประเทศด้อยพัฒนา? จากคุณ : craftman - [ 14 ก.ย. 50 11:27:19 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เรื่องจริงเลยอ่ะคับ สมัยเด็กไปเรียน แล้วครูทะเลาะกับเมีย ก้อหาเรื่องมาตีนักเรียนคับ ครูบางคนถึงขนาดเอาสายยางมาตีเลยอ่ะคับ อยากให้พวกครูบ้าพลัง หมดไปจากสังคมไทยเร็วๆจริงๆ จากคุณ : bugaoe - [ 14 ก.ย. 50 11:35:15 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ใช้ให้เหมาะสม มันมีประโยชน์ครับ จากคุณ : Epinephrine - [ 14 ก.ย. 50 11:50:41 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่จริงเป็นความคิดของพวกบ้าอำนาจ ถ้าตัวเองดีจริงเด็กๆมันก็เชื่อเองแหละ แต่ตัวเองปัญญาอ่นเองตะหาก เลยต้องใช้ไม้หน้าสามบังคับเด็ก ผมชอบไอ้เด็กสมุทรปราการที่ตีกระบาลครูจัง สมัยเด็กๆเมือ เกือบ 20 ปีก่อนอยากทำมานานแล้ว จากคุณ : โกยแนบ - [ 14 ก.ย. 50 12:01:56 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ใช่แล้ว ประเทศไทยยังด้อยพัฒนา สมควรมีไม้เรียวใช้กับมนุษย์ด้อยพัฒนาต่อไป ถ้าเลือกเกิดได้คงไม่มาเกิดเมืองไทยหรอก แต่ดันเกิดมาแล้ว แถมยังไม่ตายอีก ก็ต้องทนต่อไป จากคุณ : heck - [ 14 ก.ย. 50 12:10:31 A:203.155.125.178 X: TicketID:119117 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เพื่อให้การเรียนรู้ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ,, จำเป็นต้องมีการเสริมแรง ทั้งสองทาง ,, คือทั้ง เสริมแรงทางบวก และ เสริมแรงทางลบ ,, ,, การทำโทษ เป็นการเสริมแรงทางลบอย่างหนึ่ง ,, การชมเชย ให้รางวัล เป็นการเสริมแรงทางบวกอย่างหนึ่ง ,, ,, การใช้ไม่เรียว เป็นการเสริมแรงทางลบ ,, ส่วนจะเหมาะสมหรือไม่ ,, อยู่ที่การใช้งาน ,, ,, จากคุณ : แตงกวาเน่าๆ - [ 14 ก.ย. 50 12:38:53 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คห.7 ถ้าประเทศไทยมันแย่นัก  ไปตาย ตอนนี้ก้อยังทันนิ จากคุณ : ARMS STRONG - [ 14 ก.ย. 50 13:05:08 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้ารู้จักใช้ มันก้อดีครับ แต่ ถ้าใช้เกินขอบเขตของความพอดี ไม่ว่าอะไรก้อไม่ดีทั้งนั้นแหละครับ จากคุณ : vn, man - [ 14 ก.ย. 50 13:05:49 ]

ความคิดเห็นที่ 11 กรณีนี้เหมือนกฏหมายไทย กฏหมายดีแต่ไม่มีความศักดิ์สิทธิ์เพราะการบังคับใช้อ่อนและผิดวิธี จากคุณ : axquest - [ 14 ก.ย. 50 13:21:32 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ไม้เรียว คือ ตัวแทนของอำนาจ     ที่ครอบครัว  มอบให้ครูหรือโรงเรียน  ทำหน้าที่อบรมสั่งสอนลูกหลานของตน เพราะ สังคมไทยยึดถือระบบอุปถัมภ์  หรือ การเชื่อฟังผู้ใหญ่ว่าดีว่างาม แต่สังคมก็กำลังเปลี่ยน แล้วคุณว่า เราเจริญ แต่ด้อยพัฒนาไหมหล่ะ ดังนั้น  ถ้าจะไปพ้นการด้อยพัฒนา    ก็ต้องลดการใช้อำนาจลง แต่ก็ต้องสลายระบบครอบแบบอุปถัมภ์ให้น้อยลงด้วยเช่นกัน ซึ่งในความเป็นจริง    ทั้งสองทิศทางอาจเสริมหรือขัดแย้งกันได้ตลอด อยู่ที่สื่อ  จะยกมาเป็นประเด็น   ก็ถกเถียงกันได้ไม่จบ แต่ดูเหมือนว่า   ยิ่งมีการศึกษาสูง   ก็ยิ่งปฏิเสธการใช้อำนาจทุกรูปแบบโดยปริยาย.... แต่คงต้องพิจารณาเป็นรายครอบครัว จากคุณ : dicky5 - [ 14 ก.ย. 50 13:25:57 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เค้าเลิกไม้เรียวตอนผมอยู๋ม.2 รุ่นน้อง3ปีหลังจากรุ่นผม มันเน่ามากๆครับ เห็นชัดเจน โรงเรียนมีแต่เด็กอะไรก็ไม่รู้ แซบ สก๊อย ยั้วเยี้ยไปหมด  เด็กดีๆน้อยลง แต่ก็ยังพอมี เพราะ อาจารย์ทำได้แค่ด่า ตัดคะแนน ก็เท่านั้น ตีไม่ได้ ถ้ายังมีไอ้พวกที่มันเหมือนวัวเหมือนควายคิดอะไรเองไม่ได้ พอแม่ส่งมาเรียนมันก็ไม่เรียน ผมว่าก็น่าจะใช้ต่อไป เทียบกับทหาร เค้าไม่ใช้ไม้เรียว ใช้ตรีน ก็คุมคนให้ไปในทิศทางเดียวได้(อาจจะมีคนมาบอกว่า เผด็จการ - -") ผิดกับโรงเรียน ความจริงก็คือ ประเทศเรากำลังพัฒนา คุณภาของประชากรโดยรวมคงเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้วลำบาก กฏเกณฑ์ต่างๆ คงเอามาใช้ด้วยกันไม่ได้ทุกอย่าง บางครั้ง ถ้าพูดกันดีๆแล้วมันไม่รู้เรื่อง ถ้าไม่เอาออกไป มันก็ต้องบังคับกันหละครับ จากคุณ : Sympho - [ 14 ก.ย. 50 13:32:08 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เวลาผมสอนหมา ถ้าใช้การดุหรือตี หมาจะกลัว และจะไม่ทำผิดต่อหน้าเรา แต่ลับหลังสิ เละ.. เหอๆ การสั่งสอน โดยใช้ความกลัวมาเป็นกรอบ ไม่ใช่วิธีการที่ถูก แต่สำหรับบางช่วงอายุ ก็มีความจำเป็น เนื่องจากวุฒิภาวะของเด็กยังไม่พัฒนาขึ้นจนรู้ผิดชอบชั่วดี แต่การลงโทษมีเยอะแยะ ที่ไม่ใช่ไม้เรียว.. ท้ายสุดของท้ายสุด.. คนที่คิดเองได้เท่านั้นแหละ ที่จะอยู่รอดในสังคมได้ จากคุณ : Angos - [ 14 ก.ย. 50 13:43:17 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ^ ^ ญี่ปุ่น ก็เพิ่งจะฟื้นจะประเทศผู้แพ้สงครามมาไม่ถึง 50 ปีเลยด้วยซ้ำ บอบช้ำและย่อยยับ ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม ขวัญกำลังใจ......สลายหมด... ถ้าในความเป็นจริง เค้าควรจะปลูกข้าว ทุบแป้งโมจิกินอยู่ แต่  50 ปีของญี่ปุ่น เหมือน 200 ปีของเราเลย.....-*- ผมไม่ได้ว่าประเทศไทยไม่ดี แต่ ระบบการบริหาร การวางแผนการศึกษา และ พื้นฐานแนวความคิดของประชาชน มันไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็นครับ อยู่กันแบบไร้ระเบียบแบบแผน เลื่อนลอยไปวันๆ หวังแต่เอาตัวให้รอดพอ ประเทศ หรือ คนอื่นจะเป็นไงช่างมัน..... คนญี่ปุ่น เขายอมตายเพื่อให้ประเทศรอด เขายอม อด เพื่อให้คนอื่นรอด ดังจะเห็นได้ว่าประเทศมีนโยบายที่จะส่งเสริมการเสียสละเพื่อประเทศมากมาย พูดง่ายๆว่าส่งเสริมค่านิยมรักชาติให้มากๆ หนังญี่ปุ่น การ์ตูน ละครทีวี หรือ แม้กระทั่งขบวนการห้าสี หรือ สามสี ก็ล้วนแต่แฝงไปด้วยแนวคิดเรื่องการเสียสละตัวเอง การต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามเพื่อปกป้องคนอื่น ฯลฯ เด็กๆ โตขึ้นมาก็อยากจะเป็นฮีโร่ผู้ช่วยชาติ ด้วยกันทั้งนั้น แรงบันดาลใจมันต้องปลูกฝังแต่เด็กๆครับ แต่ของไทยเรามีค่านิยม ให้ทำงานสบาย หาเงินเยอะๆ มีอำนาจ มีบารมี มีชื่อเสียงมากๆ จนลืมคำว่า เสียสละเพื่อคนอื่นไปซะสนิทใจ ญี่ปุ่น ลอกเอาเทคโนโลยีฝรั่งมาใช้มากมาย ทั้ง เครื่องยนต์กลไก เคมี อิเลคโทรนิคส์ ฯลฯ แล้วเอามาดัดแปลงให้เข้ากับตัวเอง และ แตกแขนงการพัฒนาออกไปมากมาย น่าแปลก ที่ญี่ปุ่นเป็นคนเอเซีย ไม่ได้เป็นนักคิดเหมือนฝรั่งตะวันตก แต่เขาเอานิสัย นักคิดมาใช้กับคนในชาติ จนเห็นได้ว่า สิ่งประดิษฐ์แปลกๆ ประหลาดๆ ก็มาจากญี่ปุ่นมากมายจนคิดไม่ถึง นับไม่ถ้วน จีน ก็เอามั่ง ลอกฝรั่ง ลอกญี่ปุ่น จนตอนนี้จีนก็มีของตัวเองมากมาย ทั้ง รถยนต์ คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีอวกาศ การทหาร .....ลามไปยัง ไต้หวัน เวียตนาม เกาหลี แต่น่าเศร้าที่คนไทยเป็นแบบตามที่ คห.12 บอก....ระบบอุปถัมถ์ , ระบบอาวุโส , ระบบเจ้าขุนมูลนาย  มันฝังรากลึกในสังคมไปหมดแล้ว เด็กรุ่นใหม่สร้าง หรือ คิดอะไรได้ ..ผู้ใหญ่ก็ ฉวย เอาไปเป็นผลงานตัวเองหมด จนคนฉลาดๆ หลายคนหมดกำลังใจจะสร้างประเทศ หนีไปเมืองนอกกันหมด...เหลือแต่พวกเช้าชามเย็นชามบริหารประเทศอยู่ดังที่เห็น ถ้าประเทศจะพัฒนา ต้องเปลี่ยนกันตั้งแต่พื้นฐานความคิดประชาชนเลยครับ ปล....ผมก็ไม่เคยเห็นว่า ฝรั่งเมื่อ 200 ปีที่แล้ว มันจะสอนนักเรียนด้วยไม้เรียวนะครับ หรือ ย้อนไปเมื่อยุค 1 - 2 พันปีก่อน ก็เช่นกัน ไม่มีการทำร้ายเพื่อให้จำ แต่ แสดงให้เห็นและยกตัวอย่างให้รู้เอง จากคุณ : น้ำปลาเดือนห้า - [ 14 ก.ย. 50 14:00:22 ]

ความคิดเห็นที่ 16 มองกว้างๆๆๆๆ ผมยังชอบสังคมไทยที่ เคยมีคำพูดที่ว่า  รักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี .. คนไทยยังมีสัมมาคารวะ ยังกลัวที่จะทำชั่ว ในขณะที่ บางที่ในโลก มีฆาตกรต่อเนื่อง ไม่มีการเคารพอาวุโส เห็นประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าส่วนรวม นะ จากคุณ : ทุ่มเท - [ 14 ก.ย. 50 14:50:15 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เด็กจะทำตามเพราะความกลัว ไม่ใช่ความเคารพ และจะเกิดอาการต่อต้านขึ้นในใจด้วยซ้ำคับ อาจารย์ที่ชอบใช้ไม้เรียวมากขนาดไหน ก็ยิ่งแสดงความโง่ของตัวเอง ออกมาให้นักเรียนเห็นว่า ไม่มีปัญญาทำให้นักเรียนเคารพได้ด้วยวิธีที่ ทำให้นักเรียนไม่ต้องเจ็บตัวคับ นอกจากจะด้อยพัฒนาแล้ว ยังด้อยการจิตนาการและการสร้างสรรค์จากอาจารย์คนนั้นด้วย แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 50 15:20:47 จากคุณ : Limelight - [ 14 ก.ย. 50 15:20:30 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ยังไงผมก็ชอบให้คนมันคิดได้เอง ไม่ใช่บังคับให้มันคิด ถ้าไม่ทำโทษแล้วคนไทยมันคิดเองไม่ได้ ก็ให้ประเทศไทยมันล่มจมไปซะให้รู้แล้วรู้รอด จากคุณ : Naruse_X - [ 14 ก.ย. 50 15:28:01 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ผลโหวตออกมา ครึ่งต่อครึ่ง ยังไงก็ตามผมว่า เราจะทิ้งไม้เรียวไปไม่ได้เป็นอันขาด ยี่สิบปีมานี้ผมสำนึกบุญคุณไม้เรียวเสมอ ถ้าไม่มีไม้เรียว ป่านนี้ผมคงสำมะเลเทเมาอยู่แถวไหนสักตรงแล้ว จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! - [ 14 ก.ย. 50 15:45:30 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คนที่เคยมีประสบการณ์ดีๆ ได้ไม่เรียวลงโทษทำให้กลับใจ ทำให้ตัวเองไม่หลงเดินทางผิด ทำให้่ตัวเองเข็ดหลาบจากการทำชั่ว หรือประทับใจการลงโทษของครูืีที่ลงโทษเพราะรักนักเรียนจริงๆ ก็จะคิดว่าไม่เีรียวมันก็มีดี ส่วนคนที่เจอประสบการณ์แย่ๆ เจอคนสอนไร้ศีลธรรม ลงโทษมั่วๆด้วยความสะใจ ก็จะเจ็บแค้น และต่อต้านการลงโทษด้วยความรุนแรงทุกรูปแบบ ไม้เรียวก็เป็นแค่เครื่องมือในการลงโทษวิธีหนึ่ง ซึ่งมันจะรุนแรงเกินเหตุหรือไม่ขึ้นกับคนที่ใช้ ไม่ได้ขึ้นกับตัวมันเองโดยตรง แต่ถามตรงๆว่า ทุกวันนี้ที่ห้่ามใช้ไม้เรียวแล้ว คิดว่าการลงโทษโดยการตัดคะัแนนจิตพิสัย มันทำให้เด็กไทยเข็ดหลาบในเรื่องชั่วๆ แล้วเข้าใจว่าอะไรผิดถูกมากขึ้นไหม กลับตัวกลับใจกันได้มากขึ้นไหม ผมอยากรู้ว่ามีใครทำงานวิจัยมาเปรียบเทียบกันหรือยัง ไม่งั้น เราก็แค่พูดกันลอยๆอยู่ดีว่าแบบเก่าดีกว่า แบบใหม่ดีกว่า ปัญหาพวกนี้จะไม่เกิด ถ้าระดับจิตใจของทุกคนสูงเท่าเทียมกัน หรือระบบตรรกะและเหตุผลของเด็กเล็กพัฒนาขึ้นมาทัดเทียมผู้ใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว แต่ในเมื่อโลกจริงมันไม่ใช่แบบนั้น การเลือกเครื่องมือในการลงโทษที่เหมาะสมกับเด็กแบบต่างๆ ก็น่าจะมีผลดีกว่าคิดว่าใช้เหตุผลอย่างเดียว เด็กมันคงตรัสรู้ได้เองแบบทุกวันนี้ ป.ล. ผมคิดว่าประเด็นคนสอนที่ใช้โมหะจริตในการลงโทษนักเรียนอย่างไร้เหตุผล ไม่ได้เกี่ยวกับไม้เรียวครับ เพราะทุกวันนี้ก็ยังมีอยู่ แต่เลี่ยงไปใช้วิธีการลงโทษแบบอื่นๆเท่านั้นเอง ลองไปสืบหาถามเด็กตามโรงเรียนได้ ไม่มีไม้เรียวแต่ก็เจ็บแค้นได้ไม่ต่างกันเลย จากคุณ : ....4จุด - [ 14 ก.ย. 50 17:37:49 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ถ้าไงก็ช่วยดู"คุณหงิก"เป็นกรณีศึกษานะครับ  ... โอ๋ตามใจกันจนเสียคน  ไม่รู้จักขาด  ไม่รู้จักผิด  ไม่รู้ว่าทำผิดแล้วต้องรับโทษ มีคนคอยปกป้องตลอดเลยกลายเป็นเด็กแบบนี้  ... เด็กบางคนใช้คำพูดบอกกล่าวก็รู้เรื่องแต่บางคนก็ไม่ จึงต้องมีทั้งการตักเตือนและลงโทษเคียงคู่กันไป  ... แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 50 18:08:47 แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 50 18:06:44 จากคุณ : maedakung - [ 14 ก.ย. 50 17:51:05 ]

ความคิดเห็นที่ 22 " ไม้เรียว " กับ " โทษประหารชีวิต " ต่างกันตรงไหนในแง่ของเจตนา คำตอบคือไม่ต่างกัน ไม้เรียวตีนักเรียนที่ทำผิดกฏระเบียบอย่างรุนแรง ส่วนโทษประหารไว้ตัดสินโจรชั่วที่ก่อกรรมกับผู้คนในสังคมอย่างโหดร้ายรุนแรง สิ่งที่ต่างกันคือเจตนาของผู้ใช้ โทษประหารนั้นถ้ากระบวนการสอบสวนโปร่งใสว่าผู้ต้องหากระทำผิดจริง คนผู้นั้นก็สมควรได้รับโทษ ไม้เรียวก็เช่นกัน โดยความเห็นของข้าพเจ้าแล้ว ไม้เรียวควรมีขนาดแน่นอน การเฆี่ยนตีก็ควรจะถูกใช้โดยอาจารย์ฝ่ายปกครองที่ได้รับการอบรมมาเป็นพิเศษมากกว่าคนทั่วไป และกฏระเบียบต้องมีระบุแน่นอนว่าทำผิดระดับไหนจึงถูกลงทัณฑ์ด้วยไม้เรียว เฉกเช่นเดียวกับกฏหมายบ้านเมืองในสังคมใหญ่ทั่วไป ทุกวันนี้กฏระเบียบคลุมเครือ ผู้ใช้กฏก็เอาแต่อารมณ์ส่วนตัว ทุกอย่างมันก็ฟั่นเฟือนไปอย่างที่เห็นนั่นแล จากคุณ : TonyMao_NK51 (TonyMao_NK51) - [ 14 ก.ย. 50 17:56:14 ]

ความคิดเห็นที่ 23 หากคนไทยยังเลี้ยงลูกเหมือนเดิม สังคมยังคงเดิม ผมคิดว่า ไม้เรียว จำเป็น จากคุณ : nutxnut - [ 14 ก.ย. 50 17:57:22 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ไม้เรียว มีไว้ใช้หละดีแล้วครับ เป็นการกำกับวินัย ผมยอมรับว่า สมัย ม.ต้น ผมไว้ผมยาว ถ้าไม่มีไม้เรียว ตัดคะแนนผมหรือ ไม่กลัว ผมสอบเทียบ ตกได้ตกไป ม.ต้นมีปัญญาจบ จะด่าหรือ ด่าให้หมดแรง ก็ด่าไปสิ จะไว้ยาว มีอะไรมั๊ย กะอีแค่ลมผ่านหู คนฟังไม่เมื่อยหรอก คนพูดสิเมื่อย ส่วนไม้เรียว ตรวจผมอาทิตย์ละหน ตีสามที แรงๆก็เจ็บ ไม่คุ้มหรอก ถ้าตีเบาๆ ยอมทนเพื่อผมยาวๆ แต่ว่ามีอยู่ครั้งหนึ่ง ครูคงฟิวส์ขาด ตบหน้าผมเข้าไป เย็นวันนั้นผมไป สน.สายไหม ไปแจ้งความครูทำร้ายร่างกาย ครูโดนปรับไปห้าร้อยบาท ผมเลยกลายเป็นฮีโร่ของเด็กเลวไปในช่วงนั้น แต่ผมไม่อยากได้ตำแหน่งนั้นเลย ก็คิดว่าคงมีบางคนว่าผมเลว ผมรู้ครับว่า โทษของการทำผิดระเบียบสถานศึกษา มีโทษคือโดนเฆี่ยนไม่เกิน ๖ ครั้ง ซึ่งเป็นโทษ"ตามกฎ" ด้วยไม้เรียวขนาด 0.7 เซ็นติเมตร และครูที่ทำการลงโทษผม ย่อมรู้ดีอยู่แล้วว่า ท่านมีสิทธิเพียงใด ท่านทำผิดกฎหมาย จึงต้องได้รับโทษ"ตามกฎหมาย" จากคุณ : โลหการ4 - [ 14 ก.ย. 50 18:28:29 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ถ้าไม่มีไม้เรียว เวลาสั่งอะไรไม่ทำตามกันหรอก จากคุณ : Rokusho - [ 14 ก.ย. 50 18:43:43 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เด็กไทยชอบเอาอย่างที่ตัวเองชอบมาอ้าง เช่น ทำไมเมืองนอกไว้ผมยาวได้ ทำไมเมืองนอกใส่เสื้อตามสบายได้ ทำไมเมืองนอก บลาๆๆ แต่เรื่องเรียน กรูม่ายอาวว อยากเรียนสบายๆ พอจบมาทำเหียกอะไรไม่เป็นซักอย่าง ต้องมานั่งสอนงานกันอีก ลองเอาแค่้ ปวช หรือ ปวส ของเยอรมัน ยังเก่งกว่า ป.ตรี บางที่ด้วย จากคุณ : MleKo - [ 14 ก.ย. 50 19:53:12 A:61.7.168.105 X: TicketID:153016 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ไว้เมืองไทย โดนใครตีแตก หรืออะไรทำนองนั้น คนไทยจะทำอะไรที่เป็นระบบ ระเบียบ และเพื่อเมืองไทย รักเมืองไทยมากขึ้น จากคุณ : V--Bank--V - [ 14 ก.ย. 50 20:15:14 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ไม้เรียวมันก็แค่ไม้เรียวครับ อยู่ที่คนใช้มากกว่า จากคุณ : จุ๊กกรู้ (Operation aRmageddon) - [ 14 ก.ย. 50 20:41:17 ]

ความคิดเห็นที่ 29 แจ้งลบ รูปหวาดเสียว จากคุณ : น้องหมาตัวนั้น - [ 14 ก.ย. 50 20:51:57 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ไม่ชอบให้ตีค่ะ... เด็กบางประเภท...(อย่างเรา) ถ้าไม้แข็งใส่เนี่ย จะต่อต้านเลย... จากคุณ : Halimeda Lover - [ 14 ก.ย. 50 21:51:43 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ก็แน่ล่ะครับ ประเทศพัฒนาคนรับผิดชอบ กฎหมายเข้มแข็ง บ้านเมืองเรียบร้อย ประเทศด้อยพัฒนา ผู้คนยังสับสน วุ่ยวาย ไม่ใช่ความดุก็เอาไม่อยู่ เหมือนประชาธิปไตยไงครับ เหมาะกับบางประเทศ เมื่อคราวคับขัน ประชาธิปไตยก็เอาไม่อยู่ จากคุณ : รัก ยาริส - [ 14 ก.ย. 50 22:10:28 A:203.113.71.68 X: TicketID:126935 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ไม้เรียวไม่ผิด ปัญหาที่เกิดจากไม้เรียว มันมาจากคนถือไม้เรียวทั้งนั้น จากคุณ : Angos - [ 14 ก.ย. 50 22:17:04 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ครูปัจจุบันมีภาวะทางอารมณ์ไม่ค่อยนิ่งพอๆกับเ็ด็ก ดังนั้นการมอบไม้เรียวให้อยู่ในมือจึงอันตราย ก่อนผมเรียนจบ เค้าออกกฎห้ามห้ามตีนักเรียนพอ ดีอาจารย์คนนึงเคยพูดขำๆแต่หน้าตาจริงจังว่า เค้าไม่ให้ครูตีพวกเมิงแล้วว่ะ ต่อไปครูจะกระโดดถีบแทน จากคุณ : Ninjax - [ 14 ก.ย. 50 22:31:46 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ถ้าไม่มีไม้เรียว I might turn out so bad. จากคุณ : Living Extreme - [ 14 ก.ย. 50 23:19:26 ]

ความคิดเห็นที่ 35 นึกสภาพของสถามศึกษาบ้านเราในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมานะครับ    ภาพเด็กนักเรียนยืนเรียงกันเป็นแถวตากแดด หัวเกรียน  หน้าม้าเด๋อ    เพื่ออะไร    ฝึกความพร้อมเพรียง  ความมีวินัย?  ถามว่ามันดีที่สุดแล้วเหรอ  ไม่มีอะไรที่มันดีกว่านี้แล้วเหรอไง   ผมมองแล้วเห็นเหมือนเป็นโรงเรียนของพวกคอมมิวนิสต์ทุกที   ภาพของนักเรียนนั่งท่องพร้อมๆกัน   ถูกสั่งให้ทำบางอย่างเหมือนๆกัน เด็กๆไม่มีสิทธิ์รู้ว่าดีไม่ดีควรไม่ควรยังไง   รู้แต่ว่าไม่ทำก็ถูกตี   ครูอาจารย์เข้ามาสอนต้องตีหน้าเหมือนยักษ์   ถ้ไม่ดุนักเรียนไม่กลัว  ต้องวางอำนาจเจ้ายศเจ้าอย่าง   ไม่เคยคิดว่าไอ้ความเป็นกันเองมันจะทำให้บรรยากาศในห้องมันน่าเรียนกว่ากันเยอะเลย        ผิดกับการเรียนตอนที่เป็นมหาลัยแล้ว  แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง  ทำไม่เราใช้ระบบเดียวกันไม่ได้ใครบอกหน่อย จากคุณ : ปฏิบัติดี - [ 14 ก.ย. 50 23:38:37 ]

ความคิดเห็นที่ 36 คุณคิดว่าเด็กประถม ม.ต้น ทุกคนมีวุฒิภาวะเท่ากับเด็กมหาลัยหรือเปล่าล่ะครับ? จากคุณ : ....4จุด - [ 14 ก.ย. 50 23:41:07 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ถ้าคุณไม่มีปัญญาสั่งสอนให้เด็กเชื่อฟัง ทำตามกฎระเบียบ โดยที่ไม่ต้องใช้ไม้เรียวได้ คุณก็ลาออกไปเหอะคับ เพราะนั่นหมายถึงว่า คุณไม่มีความสามารถที่จะถ่ายทอดความเป็นคนให้กับเด็กเลย ถึงต้องมาอาศัยวิธีที่ทำให้เด็กจดจำจากการเจ็บตัว คือถ้าไม่มีไม้เรียวแล้ว พวกคุณๆอาจารย์ก็ไม่มีทางที่จะควบคุมเด็กๆ ได้เลยเหรอไงคับ พวกคุณไร้ประสิทธิภาพขนาดนั้นกันเลยเหรอคับ จากคุณ : Limelight - [ 14 ก.ย. 50 23:41:21 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ท่าทางครูไทยคงจะต้องลาออกหมดทั้งประเทศแ้ล้วล่ะครับ ตอนนี้สำหรับเด็ก กฎมีไว้แหก ความรู้มีไว้ลอกจากคนที่เขาตั้งใจเรียนและทำได้ ถนนมีไว้แข่งรถ หนังสือมีไว้วาดเขียน วาดรูป ฉีกพับเครื่องบิน สมบัติโรงเรียนไม่ม ีมีแต่สมบัติส่วนตัว ครูสอนก็คือสิ่งที่น่ารำคาญสำหรับนักเรียน เพื่อนมีไว้หาประสบการณ์ เงินคือทุกอย่าง โทรศัพท์มือถือคืออวัยวะที่ห่างจากร่างกายไม่ได้ แต่งงานอายุ 14 (เรื่องจริงอีกเหมือนกัน) ทำแท้งลูกเมื่อ 13 (เรื่องจริงอีก) คลอดลูกคนแรกเมื่อ 12 (เรื่องจริงแถวบ้าน) อยากจริง ๆ เลยครับ อยากให้คนที่ด่าที่ว่าครู   ไปลองเป็นครูดูสัก 1 เทอมหรือ 1 ปีก็ได้ คุณอาจจะเคยผ่าน ๆ การเป็นครู แล้วคุณจะรู้ว่าที่กล่าวมาข้างบนนั้นไม่เกินจริงเลย แถมยังน้อยไปเสียด้วย อ้อตอนนี้ครูไทยที่ยังอยู่กำลังสุขภาพจิตไม่ดีอย่างหนักนะครับ เพราะเครียดมากกับงาน แล้วยังต้องมาเครียดกับเด็กอีก แก้ไขเมื่อ 15 ก.ย. 50 00:04:40 จากคุณ : นายก้อนหิน - [ 14 ก.ย. 50 23:57:23 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ถ้าเด็กทำผิดจริงก็สมควรตี สมัยผมเด็ก ก็โดนตี แต่น้อยครั้งมาก ไม่ทำผิดไม่ได้เพราะกลัวถูกตี ไม่มีไม้เรียวจะใช้ได้ก็ต่อเมื่อเด็กที่รู้จักผิดชอบชั่วดีมีวุฒิภาวะระดับหนึ่ง จากคุณ : Chaos dragon - [ 15 ก.ย. 50 00:31:21 ]

ความคิดเห็นที่ 40 รู้จักผิดถูกก็เพราะไม้เรียวนี่ละ ทําผิดเหมือนเดิม แต่แยกผิดถูกเป็น เวลาโดนทําโทษไม่ว่ากัน  ผมยอมรับเองไม่ต้องพูดมากความ ------ ไม่เคยโดนอาจารย์ตีแบบไม่มีเหตุผลด้วยสิ จากคุณ : ไม่ได้มีสิบมือ (ไม่ได้มีสิบมือ) - [ 15 ก.ย. 50 00:45:30 ]

ความคิดเห็นที่ 41 Limelight ที่บอกว่า "ถ้าคุณไม่มีปัญญาสั่งสอนให้เด็กเชื่อฟัง ทำตามกฎระเบียบ โดยที่ไม่ต้องใช้ไม้เรียวได้ คุณก็ลาออกไปเหอะคับ"   ปรถม มัธยม อุดมศึกษา มหาลัย ต้องการๆดูแลที่ไม่เหมือนกันครับ อย่างตอนผมเรียนม.ต้นมีครูจบมาใหม่มาสอนก็หน้าตาดีหน่อย มาเจอหัวโจกห้องผมแซวเอาระหว่างเรียนถึงกับร้องให้เดินออกไปนอกห้อง ... เพื่อนมันก็หัวเราะสนุกสนาน กับวิชาที่คนสอนเป็นฝ่ายปกครองหน้ามือเป็นหลังตี นเลย เด็กรีบเข้ามานั่งรอในห้องไม่เดินเถลไถล อ.เข้าสอนเงียบกันดี ไม่ต้องเหนื่อยปากเลยคับ   คุณคงไม่รู้สินะครับว่าคำว่า "เด็กร้าย" มันเป็นยังไง พอจับเป็นกลุ่มกันได้นั่งแซวอาจารย์ทั้งคาบ ผมถามคุณซิ จะทำให้เด็กหัวโจก4-5มันหยุดคุยยังไง 4-5 เสียงกับเสียงเดียวตะโกนแข่งกัน ไม่ต้องมาย้อนว่าไม่มีปัญญาก็ไม่ต้องไปสอนนะครับ อย่าดูละครพวกหินกลิ้งอะไรมากเลยคตรับท่าน เด็กร้ายๆที่ในละครสร้างขึ้นกับเด็กร้ายของจริงมันคนละเรื่องกัน แค่หน้าตาก็คนละเรื่องแล้ว อย่าหลับตาฝันเอาครับ ออกไปดูโลกความจริงหน่อย ... " ตอนนี้เรากำลังห่วงเด็กถูกทำร้ายมากเกินไปจนเด็กหัวโจกที่ทำผิดที่สมควรโดนลงโทษได้ใจ เสียคนไปหมด ทีนี้ใครก็แตะไม่ได้ " แก้ไขเมื่อ 15 ก.ย. 50 01:13:54 จากคุณ : maedakung - [ 15 ก.ย. 50 00:59:35 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ปัญหาคือ -- ถ้าให้ใช้ไม้เรียว ครูเลวๆ (บางคนนะครับ) ก็ใช้รังแกในเรื่องไม่เป็นเรื่อง -- ถ้าไม่ให้ใช้ไม้เรียว ครูดีๆ ก็ไม่มีวิธีจะต่อกรกับพวกเด็กเหลือขอ สอนไปเถอะพวกนี้ไม่ฟังหรอก ผมพูดแรงไปป่าวเนี่ยะ... จากคุณ : Gaojing - [ 15 ก.ย. 50 01:20:27 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ใครที่เถียงว่าเด็กไทยฉลาดเนี่ยลองเปิดวิทยุคลื่น91ของส.ว.พ.ดูนะ ทุกวันหยุดจะมีผีนรกรวมตัวกันแข่งมอเตอร์ไซค์ก่อความวุ่นวายเป็นเจ้าถนน เกินกว่าครึ่งของไอ้โจรนรกที่มันปล้นทำร้ายคนขับแท็กซ๊เป็นพวกอายุน้อยๆมารวมตัวกันปล้นแท็กซ๊เอาเงินไปเที่ยว..................นี่หรือการกระทำของเด็กมีหัวคิด?  เอาหางปลากระเบนมาใช้สั่งสอนเด็กสมัยนี้ยังถือว่าเบาเลย จากคุณ : kk (องครักษ์พิทักษ์อุลตร้าหมี) - [ 15 ก.ย. 50 01:33:47 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ครูฝรั่งไม่ใช้ไม้เรียวก็จริง แต่วิธีที่ใช้ดูเลวกว่าครูมัธยมผู้หญิงที่ใช้ไม้เรียวตีเตือนให้พอเจ็บๆคันๆเยอะ ขอโทษเถอะ ดูแล้วอึ้ง ครูมัธยมไทยใจดีกว่านี้ตั้งเยอะ ยังถูกกดเพิ่มเข้าไปอีก อย่างนี้แล้วใครจะมีกำลังใจทำงาน ในอนาคตถัดจากนี้ จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! - [ 15 ก.ย. 50 04:21:04 ]

ความคิดเห็นที่ 45 สังคมต่างกัน ความรับผิดชอบต่อตนเองต่างกันครับ จากคุณ : KL - [ 15 ก.ย. 50 08:39:18 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ต้องแยกประเด็นนะคับ ต้องถามว่าไม้เรียวเหมาะกับเมืองไทยรึป่าว? มันไม่จำเป็นต้องไปเปรียบกับประเทศที่พัฒนาแล้วนะคับ(ฝรั่งมันกินขนมปัง กินเนื้อเป็นมื้อหลัก เราต้องเปลี่ยนวัฒนธรรมการกินตามเค้าด้วยรึป่าวล่ะคับ) แต่ละสังคม ย่อมมีสิ่งที่เหมาะสมกับตัวมันเอง คงต้องถกแค่ว่า ไม้เรียวเหมาะสมกับสังคมไทยหรือไม่ ต่างหาก โดยส่วนตัว ผมเห็นว่า ไม้เรียวเหมะสมกับวัยเด็กที่ยังไม่สามารถแยกแยะได้ว่า ถูก หรือ ผิด ช่วงมัธยมต้นเท่านั้น ในช่วงที่เด็กยังไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี กระบวนการเรียนรู้ยังคงเป็นลักษณะของการจดจำ ถ้าทำดี เค้าไม่รู้ว่าดี แต่เมื่อได้รับคำชม ได้รับการยอมรับ เค้าก็จะรู้ว่า เค้าควรทำแบบนี้ ต่อๆไป และนี่คือสิ่งที่เค้าจดจำว่านี่คือสิ่งที่ภูกต้อง ทางตรงกันข้าม เมื่อเค้าทำผิด และโดนลงโทษ เกิดความเจ็บ และโดนไม่ได้รับการยอมรับ เค้าก็จะจดจำว่า ต่อไปไม่ควรทำ(ในลักษณะที่ไม่ได้มีความเคียดแค้น เด็กขนาดนั้น แค้นไม่เป็ฯ) แต่อย่างว่า ปัจจุบัน สภาพสังคมมันบิดเบี้ยว ครูบางคน ไม่รู้จักสั่งสอน ใช้ไม้เรียวพร่ำเพรื่อ และไม่รู้ถึงจุดประสงค์ของการทำโทษ ผลของไม้เรียวก็เลยบิดเบี้ยวไปด้วย แต่ถึงอย่างไร มันควรปรับปรุงที่ตัวครูที่ไม่รู้จุดประสงค์การทำโทษต่างหาก ไม่ใช่ไปยกเลิกไม้เรียว มีพี่คนนึงผมนับถือเหมือนพี่สาว สอนผมว่า เวลาลูกเล็กๆเค้าทำผิด เค้าจะทำโทษด้วยการตีคับ พร้อมกับอธิบายว่าตีเพราะอะไร ผิดอะไร ตีเสร็จ จะต้องกอดลูกทุกครั้ง เพื่อให้เด็กรู้สึกว่าคนที่ตี เค้าตีด้วยความรักความอบอุ่น ไม่ได้ตีเพราะความเกลียด ทุกวันนี้ ผมก็เอามาใช้กับหลานนะ จากคุณ : อาเจี่ย (JEA) - [ 15 ก.ย. 50 10:04:35 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เห็นด้วยกับ คห 46 ครับ จากคุณ : TnT4 - [ 15 ก.ย. 50 10:41:57 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ไม้เรียวเหมาะกับประถมถึงมัธยมต้นครับ    เริ่มจะไม่เหมาะสมตั้งแต่มัธยมปลายขึ้นไป(ประมาณเอานะครับ)         ไม้เรียวคือเครื่องจัดระเบียบและปกครองภายในโรงเรียน และในห้องเรียนได้ดี   ครูไม่ได้อยากจะตีนักเรียนหรอกนะครับ ถือไว้ให้นักเรียนนึกภาพถ้าทำผิดจะเป็นอย่างใร        สำหรับคนที่ดูถูกดูแคลนครูที่ใช้ไม้เรียวสามารถทดลองวิธีการสอนกันได้นะครับ            คนหนึ่งมีไม้เรียวประกอบการสอน    อีกคนหนึ่งไม่ต้องใช้ไม้เรียว  สอนเด็กในระดับเดียวกัน   วิชาเดียวกัน  วิธีการสอนเหมือนกัน      ข้อสอบอันเดียวกันฯฯฯ   ผมคิดว่านักเรียนกลุ่มที่เรียนกับครูที่ใช้ไม้เรียวจะมีผลคะแนนออกมาดีกว่า                                          ทดลองกันได้จริงใหมครับ?       เคยซื้อตั๋วโดยสารที่ บขส  หรือซื้อตั๋วชมภาพยนต์กันไหมครับ  ตรงช่องซื้อตั๋วจะมีคอกแคบๆกั้นไว้ให้เดินเรียงเข้าไปชื้อได้ทีละคน   เคยนึกไหมครับว่าตัวเรานี้เป็นตัวอะไร              นี่แหละครับไม้เรียวของสังคมที่ฟาดลงบนจิตใจของทุกๆคนไม่ว่าผิดหรือไม่ผิดโดยเท่าเทียมกัน จากคุณ : ตาเป๋า - [ 15 ก.ย. 50 11:52:56 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ผมรู้คับ ว่าเด็กร้ายในโลกความเป็นจริงเป็นอย่างไร เด็กสวะสังคมพวกนี้มีทุกโรงเรียน ทุกระดับชั้นอยู่แล้ว ในฐานะที่ทุกคนเคยเล่าเรียนมา ต้องเคยเจออยู่แล้วคับ ผมไม่รู้หรอกว่า ถ้าไม่มีไม้เรียวแล้วควรจะทำยังไง หรือถ้าให้ผมไปเป็นครู ผมก็แก้ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้หรอก "แต่ผมไม่ใช่ครู".........มันจำเป็นมั้ยที่ผมต้องทำอะไรแบบนั้น ในเมื่อคุณตัดสินใจที่มาเรียกตัวเองว่าครู คุณคิดจะหาเงินเลี้ยงชีพ กับอาชีพนี้ มันก็เป็นหน้าที่ของคุณ ที่ต้องหาวิธีจัดการ ไม่ใช่พอเจอคนแบบผมมาต่อว่าเข้า ก็มาไล่ให้ผมไปเป็นครูแทนซะงั้น นั่นน่ะ มันหน้าที่ของคุณ ถ้าคุณทำไม่ได้ แล้วคุณเข้ามาทำทำไม จากคุณ : Limelight - [ 15 ก.ย. 50 20:09:04 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เรื่องนี้มองต่างมุมยังใงก็ไม่มีวันจบกันได้ครับ คนที่ไม่เป็นครู ก็จะพูดทำนองว่า ทำไม่ได้ก็ลาออกไปซะ แล้วเคยคิดถึงครูใหมว่า ที่เขาเข้ามาทำเพราะอะไร ทำใมต้องมาทำ แน่ละบางคนอาจไม่มีทางเลือก แต่บางคนเลือกที่จะทำหน้าที่เป็นครู ถามว่าทำใมต้องใช้ไม้เรียววีอื่นๆ ไม่ได้เหรอ เอางี้ ผมเองก็เคยโดนไม่ใช่ไม่โดน เล่าให้ฟังก็ได้ แล้วลองคิดดูนะถ้าทุกคนเป็นครูแล้วเจอเพื่อนผมจะทำอย่างไร เพื่อนผมคนหนึ่ง เป็นเด็ก ที่พูดได้ง่ายๆ ว่า ครอบครัวสุขสบาย มีฐานะดี ครอบครัวขายของในตลาด แน่นอนว่าโดนตามใจอย่างมาก กลับบ้านไปก็มีเกมส์เล่น (เกมแฟมมิลี่ ซึ่งในต่างจังหวัดแถวบ้านผมไครมีนี่เลิศสุดๆ ) แต่การเรียนไม่เอาอ่าว การบ้านไม่เคยทำ ไม่ว่าจะวิชาไหน อย่างไร ก็ไม่เคยสนใจ ตอนแรก ครูก็ลงโทษ ด้วย การตี เบาๆ มันก็ไม่ทำ ตีหนักๆ มันก็ไม่ทำ (รวมถึงผมด้วย เพราะทำไม่ทัน) ขั้นต่อมาคือ ให้ เคี้ยวบอระเผ็ดไว้ในปาก ห้ามกลืน (ผมยอมแพ้ครับ) แต่เพื่อนผมมันก็ยังไม่ทำ เมื่อบอระเพ็กไม่ได้ผล ก็ตามด้วยฟ้าทลายโจร (ผมลองชิม โอ้ย สุดๆๆ) แต่โทษครับ เพื่อนผมคนนี้ก็ยังเฉย มันก็ไม่ยอมทำ ไม่ยอมสนใจเรียน ถึงตอนนี้ ถ้าคุณเป็นครูคุณจะทำอย่างไรครับ ถ้าอยากให้เด็กๆ ที่คุณสอน เป็นคนที่มีอนาคตต่อไป ถามหน่อยครับ แต่ครูของผมเลือกใช้วิธีสุดท้าย ด้วยการขู่ว่า จะให้แก้ผ้าวิ่งรอบโรงเรียน แต่ เพื่อนผมยังเฉย ก็เลยสุดท้าย ต้องให้แก้จริงๆ แต่แก้ในห้อง หันหลังให้ แป๋บนึง จากนั้นมา มันก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลย ผมยังมองว่า ไม้เรียวยังเป้ฯสิ่งที่จำเป็น ในการอบรนมสั่งสอน หากต้องใช้ให้ถูกวิธี และ ผู้ปกครองก็ต้องเข้าใจ ว่าลูกเขาผิดจริงๆ ไม่ใช่อะไรก็ โอ๋ ลูกโดนตีมา ก็รีบวิ่งไปด่าครู เทียบกลับพ่อแม่ผม ถ้าขืนไปฟ้องว่าโดนตี มีแต่จะโดนตีซ้ำอีก ทุกวันน้ถ้าผมผ่านโรงเรียนเก่า และมีเวลาว่างพอก็จะกลับไปคุยกับครูทุกครั้ง หากมีอะไรช่วยได้ก็ยินดี แต่เสียดายที่ผมเองยังไม่สามารถจะทำอะไรได้มากอย่างที่ใจคิด ทุกวันนี้กลับไปเห็นโรงเรียนเก่า เห็นเด็กๆ ไม่เคารพครู เห็นเด็กๆ เล่นกันในชั่วโมงสอน เห็นแล้วก็เหนื่อยใจแทนครับ จากคุณ : เด็กนอกบ้าน - [ 15 ก.ย. 50 23:58:52 ]

ความคิดเห็นที่ 51 #49 ถึงไม่ได้เป็นอาชีพนั้นๆ แต่การจะโยนให้เขาแก้ปัญหา ก็ต้องดูถึงความเป็นไปได้ในหลักความจริงด้วยครับ ประเด็นหลักๆก็คือ เด็กมีหลากหลายรูปแบบ หลากหลายวุิฒิภาวะ เราต้องเลือกการจัดการลงโทษด้วยวิธีการที่เหมาะสมกับเด็กแต่ละแบบ ซึ่งเราก็รู้อยู่แล้วว่าไม่สามารถใช้ไม้อ่อนกับคนบางประเภทได้เลย หรือถ้าคุณคิดว่ามีวิธีดีๆที่จะกำราบเด็กประเภทนี้ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพก็ช่วยกันเสนอมา ผมไม่คิดว่าจะต้องมีอาชีพครูเท่านั้นถึงจะคิดไำด้หรอกครับ อีกหน่อยมีลูกมีหลานของตัวเองก็ต้องหาวิธีมาจัดการเหมือนกัน เราทุกคนมีหน้าที่ของครูในชีวิตประจำวันอยู่แล้วจริงไหม จากคุณ : ....4จุด - [ 16 ก.ย. 50 14:10:38 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ถ้าอย่างนั้น อย่างนี้ดีไหม  ไม่ต้องมีกฏหมาย  ไม่ต้องเกณฑ์เด็กมาเข้าเรียน  ใครรู้อยากได้ดี อยากมีความรู้ อยากมีอนาคตก็มาเข้าเรียน  ใครไม่อยากก็ไม่ต้องมาเข้าเรียน  แม้แต่ โทษ ต่างๆ ก็ไม่ต้องมี แต่คงเป็นไปไม่ได้  อย่าว่าแต่เด็กเลย  ผู้ใหญ่เองที่ไม่ชอบปฎิบัติตามกฏหมาย ตามระเบียบก็มาก  ต้องบังคับ ต้องมีโทษ  เช่น  กฏหมายเรื่อง หมวกกันน๊อค เรื่อง เข็มขัดนิรภัย เรื่อง เมาแล้วไม่ขับ  และเร็วๆ นี้ จะมีเรื่อง การใช้โทรศัพท์มือถือในขณะที่ขับขี่ยานพาหนะ ทั้งๆ ที่กฏหมายมีเพื่อความปลอดภัย  และในหลายๆ สี่แยก  ยังมีคนฝ่าฝืนไฟสัญญาณ  คนเหล่านี้มีวัยวุฒิ มีคุณวุฒิ ยังทำผิดกฏหมาย แล้วเด็กๆ  ไม่ให้รับการอบรม รับการสั่งสอน ให้รู้ผิด รุถูก รู้ควร รู้ไม่ควร เมื่อไม่ปฏิบัติก็ควรได้รับโทษ หนักบ้าง เบาบ้างตามโทษานุโทษ อีกประเด็น  ที่เกี่ยวกับตัวครู  ในกรณีที่ทำไม่ถูกต้อง เกินกว่าเหตุ ก็ให้ได้รับการว่ากล่าวตักเตือน รับการลงโทษตามควรแล้วแต่กรณี  ไม่ดีกว่าหรือ แล้วคนที่ยังผูกใจเจ็บใจครู  ลองกลับไปพิจารณาตัวเองบ้างหรือเปล่า  ว่า ตัวเองทำผิดอะไร  โทษที่ได้รับน้อย/แรงไป  แต่จะมีซักกี่คนที่คิดว่า ยอมรับว่าตัวเองผิด  ในสังคมไทยนี้  ที่เห็นมีก็แค่   "พันท้ายนรสิงห์"  แต่ก็เกือบสามร้อยปี  ทุกวันนี้ ถ้าเป็นไปได้  เวลาทำถนน  น่าจะเอา ใบหน้าของคนหลายๆ คนมาปูแทนยางแอสฟัลท์ ขึงลาดแทนคอนกรีตน่าจะทนมากกว่า! จากคุณ : ขอนเก่า - [ 16 ก.ย. 50 17:56:59 ]

ความคิดเห็นที่ 53 คุณเป็นครู หน้าที่ของคุณคือให้ความรู้กับนักเรียน โดยการสอนสั่ง การเป็นครูไม่ใช่สักว่าเรียนจบอะไรก็ได้แล้วมาเป็น เขาต้องมีการเรียนการสอน การเตรียมตัว อบรมชั่วโมง มีคู่มือ และจิตวิทยา ปัจจุบัน ครูไทยไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะทำสิ่งเหล่านี้ เราต้องยอมรับข้อเท็จจริงให้ได้ว่า คนของเราหลายคน มันไม่เข้าท่า บ้า ๆ บอ ๆ วัน ๆ เอาแต่ตรวจผม สอนท่องจำ ความรู้เนื้อหาสาระยังไม่มี บางโรงเรียนยังตีอยู่แม้กฎกระทรวงออกมาห้าม การทำตัวแบบนี้นอกจากจะไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมแล้ว ยังถือเป็นการทำตัวไร้สาระและเลื่อนลอยเป็นที่สุด ในเมื่อเขาให้เงินคุณเพื่อมาให้บริการ คุณต้องจำให้แม่นยำว่า แหล่งที่มาของรายได้ของคุณมาจากไหน ทุกวันนี้คุณ มีกินเพราะใคร ความเจริญหรือตกต่ำของประเทศเราอยู่ที่ใคร คุณมาเป็นครูเพราะอะไร เรื่องแบบนี้คิดได้ไม่ยากว่า เริ่มต้นด้วยความรุนแรงก็ต้องจบด้วยความรุนแรง เหมือนด่ากันไปกัน ตบกันไป ไม่ได้ เกิดประโยชน์ ไม่ได้เกิดการเรียนรู้ ไม่ได้เกิดการพัฒนา สิ่งที่ควรทำก็ไม่ได้ทำ ครูบางคนความสามารถต่ำกว่าเด็ก เตรียมอุดมม.สี่ด้วยซ้ำไป นี่ไม่ใช่การดูถูกแต่เป็นเรื่องจริง อยากให้คุณลองศึกษาว่า ทำไมในต่างประเทศหลาย ๆ ประเทศ เขาไม่มีการตี แต่นักศึกษาหรือเด็กของเขากลับมี คุณภาพ กล้าคิด กล้าถาม กล้าตัดสินใจ หลาย ๆ คนบอกว่า ไม้เรียวทำให้คนเป็นรัฐมนตรี แต่ผู้นำหรือบุคคลสำคัญ ระดับประเทศหลายคนกลับโตมาด้วยการให้ความรู้ ความคิดมากกว่าการใช้แรงและการท่องจำ การใช้ไม้เรียว การหยิก การกร้อนเป็นสิ่งที่สามารถหลีกเลี่ยงได้ในโรงเรียนที่ได้ชื่อว่าเป็นโรงเรียนมีเกรด มีชั้นดี โรงเรียนเหล่านี้นอกจากจะมีการเรียนการสอนที่มีประสิทธิ สามารถเชิดชูตาได้ไม่ว่าไปประเทศไหน ๆ ในโลก (ว่า เด็กไทยฉลาดและมีคุณภาพแล้ว) โีรงเรียนเหล่านี้ยังมีความปลอดภัยในระดับสูงอีกด้วย เราต้องยอมรับข้อเท็จจริงอยู่อย่างหนึ่งว่า ครูนี้มีหลายระดับ แต่ละคนมีที่มาไม่เท่ากัน ท่านอยากให้ท่านอยู่กับสิ่งแวดล้อมแบบใด ท่านต้องเป็นคนเลือก ท่านเป็นคนจ่ายเงิน ท่านพอใจหรือประทับใจการบริการเช่นนี้หรือไม่ ลูก หลานของท่านได้รับเงินคุ้มค่ากับที่ท่านจ่ายหรือไม่ หรือว่าครูประพฤติตัวเช่นไร มีกำพืดมาอย่างไร เราอยู่ในประเทศไทย ประเทศของเรานี้มีความแตกต่างอยู่มาก ในเรื่องของดีและของเลว เราต้องยอมรับให้ได้ว่า ประเทศของเรานี้มีทั้งของดี ของเลว พืชที่จะเจริญงอกงามได้ ใช่อาศัยแต่พันธุ์ดี แต่อาศัยสิ่งแวดล้อมที่ดีด้วย ซึ่งใน ฐานะที่ท่านเป็นพ่อแม่ ท่านก็ควรเลือกสิ่งแวดล้อมที่ดีให้ลูกของท่านด้วย ไม่ใช่ว่าเสียดาย เลือกแต่ของถูก เลือกแต่ ของใกล้บ้าน แต่มาตรฐานต่ำ ต่ำอย่างน่าใจหาย สังคมไทยนี่มีความลักลั่นอยู่อย่างหนึ่ง เรามักมีสองมาตรฐานเสมอ เรามักบอกว่า เราเสรี เราให้อิสระภาพ เราให้โอกาส เราให้ความเท่าเทียม แท้จริงแล้วเรื่องเหล่านี้มักมีความแตกต่างอยู่เสมอ เสมือนเล่นเกมส์เดียวกันแต่ มีสองกติกา ซึ่งแน่นอนว่า บางคนมักจะเลือกวิธีการปกครองอย่างต่ำที่ง่ายดาย ใช้กับหมาแมว แต่บางคนกลับมองไปไกลกว่านั้น ซึี่งเรื่องเหล่านี้เราเรียกกันว่า วิสัยทัศน์ ซึ่งภูมิของครูแต่ละคนนี่ไม่เหมือนกัน ท่านจะต้องไปสรุปเอาเอง เลือกเอาเอง ว่าอะไรนี่ดีที่สุด ความลักลั่นนี้มีหลายคนไม่พูด แต่เขาคิดในใจ เรื่องนี้ใช่ว่าเราไม่รู้กัน วันไหว้ครูจะไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย ถ้าเกิดจากการกะเกณฑ์ คนเขาไม่ได้รักใคร่ยินดี ไม่ศรัทธา พิธีกรรมเกิดจาก คำสั่ง เด็กไม่ได้เลื่อมใส เพราะตนนี่เจ็บ ตนนี่แค้น เขาไม่ได้รัก เขาไม่ได้มีสติปัญญาเพียงพอ นานไปก็ลืม ดังนั้นเราจึงเห็นคำว่าครูเป็นเพียงเรือจ้างอยู่บ่อยครั้ง นั่นไม่ใช่เพราะเขาลืม แต่เขาไม่ได้ประทับใจกับการขึ้นเรือแบบโดนเสี้ยนตำจนเลือดไหลแต่ถึงจุดหมาย แต่เพื่อนของเขากลับขึ้นถึงฝั่งอยากสวัสดิภาพและประทับใจกับเรือลำนั้น พอซะทีเถอะ อย่าทำให้อาชีพดีดีต้องตกต่ำไปมากกว่านี้อีกเลย ไม่ใช่ไม่รู้จะเรียนอะไรแล้วมาเรียนครู อาชีพของเราถึงแม้ว่าจะไม่ร่ำรวย แต่เราก็ต้องมีเกียรตินะครับ จากคุณ : Fah Lan - [ 18 ก.ย. 50 18:41:36 A:165.228.97.129 X: TicketID:091427 ]

ความคิดเห็นที่ 54 # 53  คุณ. Fah Lan          1 ครูทุกคนเขารู้ว่าเขามีหน้าที่อะไร  คุณต่างหากที่ไม่รู้                    2.คุณเอาอะไรมาอ้างอิงว่าครูไทยไม่มีความสามารถเพียงพอหรือวัดจากตัวคุณเอง          3.ถ้าหากครูไม่เป็นที่ยอมรับจากสังคมแล้วทำไมสังคมถึงส่งลูก หลานมาเรียนกับครูกันทั้งประเทศ   คุณมีความรู้เพราะใคร   คุณคิดว่าครู   สอนแลกเงินเหมือนพวกวณิพก   ถามนักเรียนสว่นใหญ่ดูซิครับ          4.คุณว่าครูบางคนมีความสามารถต่ำกว่าเด็กเตรียมอุดม  ทำไมคุณ จึงเอาบางคนมาพูด    ทำไมไม่เอาครูส่วนใหญ่มาพูด          5.มาอีกแล้วครับ   เอาประเทศเราไปเทียบกับประเทศที่เขามีความ พร้อม   จิตใจมืดบอด  คิดอยู่อย่างเดียวว่าครูจ้องแต่จะตีนักเรียน          6.รัฐบาลสามารถทำโรงเรียนทุกโรงให้เท่าเทียมกันทั่วประเทศได้ไหมครบคุณภาพจะได้เท่าเทียมกัน          7.ชาวบ้านนอกคอกนา  กรรมกร  แรงงาน  ลูกจ้าง ฯ  จะเอาเงินที่ ไหนส่งลูกไปเรียนโรงเรียนแพงๆ          8.สังคมมันก็ต้องมีคนหลายระดับชั้นปะปนกันไป คุณพูดเพื่ออะไร          9.นักเรียนสว่นใหญ่เขาไหว้ครูด้วยความรักและเคารพ    คงมีส่วน น้อยที่คิดเหมือนคุณ          10.ผมคิดว่าคุณก็คงมีอาชีพครูแน่จากสำนวนการสื่อของคุณ   แต่ คุณเป็นครูประเภทสร้างภาพ  ทำตัวเป็นครูพ่อพระ  เพื่อให้นักเรียนรักแต่ เวลานักเรียนมีปัญหา  ทะเลาะวิวาท  ตีกัน  ติดยา  หนีเรียน  ชู้สาว  เล่นเกม แทงสนุก  กินเหล้า  เที่ยวผับ  จะไม่เห็นหน้าครูอย่างคุณเข้ามาแก้ปัญหา สงสารแต่ครูปกครอง  นอกจากงานสอนแล้วยังต้องตามแก้ปัญหานักเรียน สารพัด  เหนื่อยยังไม่พอ  แถมเด็กยังเกลียดอีก  ผู้ปกครองบางคนยังให้ ท้ายเด็กอีกกลัวเด็กจะได้ดีหรือไงครับ    หรือว่าปล่อยเด็กไปเลยดีไหมสอน เสร็จก็กลับบ้านเด็กอยากไปชั่วที่ไหนก็ช่างเขา     แบบนี้ดีไหมครับ?? จากคุณ : ตาเป๋า - [ 18 ก.ย. 50 21:11:17 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ข่าวเดลินิวส์วันนี้               ล็อค 6 โจ๋ เมืองกรุงเก่าฉุดนักเรียน ม.2 เรียงคิวข่มขืนแล้วฆ่า                    1.นาย บิ๊ก          อายุ 16 ปี                    2.นายไกด์         อายุ  16 ปี                    3.นายโบ๊ต          อายุ  15ปี                    4.นายชง            อายุ  15ปี                    5.ด.ช.อ๊อด         อายุ  14ปี                ผู้เคราะห์ร้ายคือ ด.ญ. ขลธิชา   วิมลพฤกษ์  อายุ 14 ปี โรงเรียนอยุธยานุสรณ์                    เด็กวัยเรียนทั้งนั้นเลยครับ   ขอเชิญครูจิตวิทยา   ครูอุดมการณ์  ครูในดวงใจ  ครูสิทธิมนุษย์ชน แก้ปัญหาครับ จากคุณ : ตาเป๋า - [ 19 ก.ย. 50 09:36:23 ]

ความคิดเห็นที่ 56 # 53 คุณ. Fah Lan อยากทราบว่าที่คุณมานั่งพิมพ์เปิดคอมพิวเตอร์ได้อยู่ทุกวันนี่ ไม่ใช่เพราะครูหรือไง แน่จริงคุณก็เอาความรู้ทั้งหมดคืนครูไปสิ ท่าทางคุณจะเก็บกดเพราะไม้เรียวมามาก และคุณก็ไม่ได้เข้าใจในจุดประสงค์ที่ครูตีคุณเลย ที่คุณอ่านออกเขียนได้ทุกวัน เพราะกินตำราคลุกกับข้าวหรือไง เสียแรงที่อ่านออกเขียนได้ แต่กลับไม่เห็นบุญคุณของครูซะงั้น ถ้าคนคิดอย่างคุณกันหมด ประเทศชาติคงล่มจมอย่างแน่นอน ถ้าคุณเห็นว่าครูเป็นคนที่เพียงรับจ้างสอนหนังสือเท่านั้นไม่มีความสำคัญใดๆ ลองมองตัวเองบ้างสิ ว่าถึงขนาดที่มีคนที่ไม่รู้จักมาด่าว่าอย่างนี้ คุณถือว่ามีความสำคัญสักเท่าไหร่เชียว จากคุณ : คนเห็นค่าของไม้เรียว - [ 25 ก.ย. 50 12:40:42 A:221.128.87.201 X: ]