ความคิดเห็นที่ 1 เป็นคำถามที่ดีมากครับ ผมเองเคยถามตัวเองเช่นนี้เหมือนกัน ท่านลองไปถามห้องศาสนาดู แต่คำตอบที่ได้ท่านต้องกรองดีๆ เพราะ ตรรกะที่ใช้ตอบ ส่วนใหญ่จะอ้าง กรอบความคิดของตนเองมาตอบทั้งนั้น คำถามของท่าน คือ "สร้างกรอบของตนขึ้นมาว่าสิ่งหนึ่งเป็นสิ่งที่ถูกต้อง" ผมช่วยยกเคสละกัน ''ถ้าสิ่งมีชีวิตทุกอย่างในทั้งจักรวาลนี้ รู้สึกว่าการบี้มดเป็นสิ่งที่ดี จะเป็นอย่างไร" (ไม่มีข้อขัดแย้ง ไม่มีการผิดธรรมชาติ แต่อย่างไร ทุกคนในจักรวาลนั้นรู้สึกว่าการบี้มด เหมือนกันการให้ การทำบุญ ในจักรวาลนี้เลย ทำแล้วสบายใจมากๆ) น่าจะเป็นประเด็นเดียวกับที่ท่านถาม จะเป็นอย่างไร ???? พักแปป แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 50 12:30:54 จากคุณ : ไฟล์ท B ทีน้ำเงิน - [ 21 ก.ย. 50 12:28:05 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ดีครับ... รับจ้างกำจัดมด ปลวก ได้เลย จากคุณ : manussp - [ 21 ก.ย. 50 12:33:04 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ผิดศีลแน่นอน บาปไม่ได้ติดตัวเฉพาะแค่ชาตินี้ แต่จะติดตัวไปทุกชาติ ชาตินี้ไม่รู้  ชาติหน้าก็ต้องรู้ ชาติหน้าไม่รู้ ชาติต่อๆไปก็ต้องรู้ บาปจะติดตัวไปทุกชาติ เหตุคือผล ผลจากเหตุ จากคุณ : A.R.T. - [ 21 ก.ย. 50 12:37:35 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อย่าลืมนึกนะครับว่ามดมันจะคิดอย่างไร? ลองเปลี่ยนจากมดเป็นคนดูแล้วพิจารณาดูดีๆก็แล้วกันครับ อย่าใช้มนุษย์เป็นจุดกึ่งกลางของจักรวาลครับ ต้องมองในมุมของผู้ถูกกระทำด้วย ผมไม่อยากเข้าเรื่องการเมืองแต่ผมทิ้งคำถามเอาไว้แล้วกันว่า คุณเห็นด้วยกับเรื่องภาคใต้หรือเปล่า นั่นเป็นคำตอบต่อคุณ ไฟล์ท B ทีน้ำเงิน ครับ จากคุณ : Nexus - [ 21 ก.ย. 50 12:38:41 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อืม จากคุณ : INEOS - [ 21 ก.ย. 50 12:47:41 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ผมไม่เห็นด้วยกับการที่มนุษย์จะพยายามกำหนดว่า อย่างไรบาป อย่างไรไม่บาป เพราะต่างคน ต่างความคิด ต่างวัฒนธรรม ต่างมาตรฐาน ต่างสภาพแวดล้อม ต่างเหตุผล ต่างฯลฯ จากคุณ : ksk - [ 21 ก.ย. 50 12:53:50 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เคยดูสัมภาสณ์ sniperในสงคราม เห็นเค้าบอกว่า ไม่รู้สึกผิดเลยเวลาเก็บทหารฝั่งตรงข้ามได้ เพราะทุกครั้งที่ฆ่า จะรู้ว่าลดจำนวน คนที่จะมาฆ่าเพื่อนเราไปได้ 1 คุณธรรมเป็นเครื่องมือ สร้างแรงผลักดันของคนมาแต่โบราณแล้ว ทีนี้ก็ต้องใช้ปัญญาตัดสินเอาเอง ว่าอะไรควร ไม่ควร อย่างน้อยก็มีcommonsense ทำอะไรกับใครไว้ ก็ต้องยอมรับได้หากจะโดนทำคืนอย่างไม่มีทางเลี่ยง จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน - [ 21 ก.ย. 50 12:55:25 ]

ความคิดเห็นที่ 8 โมหะ คือไม่รู้ ทำให้เดินหลงทาง ก็ลงอบายครับ ไอ้ 3 ตัวนี้คือ โลภะ โทสะ โมหะ อย่าไปคบกับมันครับพาลพาเราลงนรกเอาดื้อๆ จากคุณ : เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป - [ 21 ก.ย. 50 12:58:21 A:124.121.8.151 X: TicketID:012298 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมกำลังสอนคุณว่า น้ำเดือดๆร้อนๆ ไม่เป็นอันตราย สามารถกินได้ อาบได้ การเอาน้ำลวกปากลวกตัว เป็นการฆ่าเชื้อโรค ทำให้ร่างกายเราแข็งแรงขึ้น คุณเชื่อผม คุณทำตาม คุณกินน้ำเดือดๆลงไป ถามว่า คุณจะแข็งแรงขึ้น หรือจะเป็นอันตราย สิ่งบางอย่างมีคุณค่าโดยสมบูรณ์ด้วยตัวเอง ไม่ได้ขึ้นกับว่าผู้กระทำเชื่ออย่างไร ความกตัญญู ความสามัคคี สันติภาพ เป็นตัวอย่างที่มีคุณค่าในทางที่ดี ไม่ขึ้นอยู่กับว่า คนจะเชื่ออย่างไร การเบียดเบียน แตกสามัคคี เอารัดเอาเปรียบกัน เป็นตัวอย่างที่มีคุณค่าในทางทีไม่่ดี ไม่ขึ้นอยู่กับว่า คนจะเชื่ออย่างไร แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 50 13:06:53 จากคุณ : ช า ติ - [ 21 ก.ย. 50 12:59:16 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ทุกอย่างที่ทำ เขาให้ดูจาก.... เจตนา...... ค่ะ จากคุณ : ช้อนชา - [ 21 ก.ย. 50 13:00:15 ]

ความคิดเห็นที่ 11 มนุษย์เป็นสัตว์ที่มีวิวัฒนาการสูง... กรณีการบี้มด  ถ้าช่วงแรกของการกระทำ  คิดๆไปว่า ไม่มีไร  แล้ว..ถ้าทำๆไป  เกิดสงสัยว่า  เอ.. บี้ๆมดนี่  เจ็บมั้ย เป็ยนังงัย  อืมม..ลองทำกะตัวเองดิ  โอเค.. มันเป็นแบบนี้เอง เมื่อได้ทั้งสมมุติฐานและข้อสรุป..  คงพอเดาได้ว่า  ศาสนาเกิดเพราะอะไร  เพื่ออะไร (บางทีการรับรู้อะไร  และเก็บไว้คนเดียว  เป็นเรื่องไม่ดีสำหรับคนเรา  อกจะระเบิดน่ะ  ต้องบอกๆต่อ). จากคุณ : คนบ้านสามขา101ฯ. - [ 21 ก.ย. 50 13:01:02 ]

ความคิดเห็นที่ 12 มันผิดครับ มันก็เลยไม่เคยเกิดขึ้น บาปไม่บาปมันแค่คำจำกัดความครับ ใช้สามัญสำนึกเอาครับ ศาสนาพุทธสอนให้ใช้ปัญญาในทุกๆอย่าง แค่ข้อนี้ข้อเดียวก็ตอบคำถามลักษณะนี้ได้ทุกคำถามแล้วครับ ปัญญาเกิดขึ้นภายในตัวเราเองโดยการมองจากสิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา ไม่ใช่ให้สิ่งแวดล้อมของเรามากำหนดปัญญาของเราครับ.......... การตั้งคำถามแบบนี้เสี่ยงต่อการบาดหมางของผู้คนที่มีความเชื่อไม่เหมือนกัน ผิดไม่ผิดไม่เกี่ยวหรอกครับ ถ้าเลี่ยงการเผชิญหน้า ปรับคำถามให้ดูเหมาะสมกว่านี้หน่อยก็คงจะได้รับคำตอบที่พอจะรับได้กับทุกคนนะครับ จากคุณ : BamBooZ_48 (BamBooZ_48) - [ 21 ก.ย. 50 13:03:02 ]

ความคิดเห็นที่ 13 คิดว่าเป็นการจำลองแนวความคิดที่มีเหตุผล เช่นเดียวกับ สังคมที่กำหนดบาป ความดี ขึ้นมาเป็นบรรทัดฐานเช่น -สังคมกลุ่มคนที่สอนให้พลีชีพเพื่อก่อการร้ายทำแล้วจะได้ขึ้นสวรรค์ ก็ไม่ผิด ไม่บาปในหมู่ของสังคมกลุ่มนั้น -บูชายัญ เพื่อพระเจ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก็ไม่บาป -พิธีกรรมในหมู่ของพวกคนป่า ที่คนเจริญแล้วมองว่า ทารุณ สำหรับคนป่าด้วยกัน มันเป็นวัฒนธรรมในหมู่ของพวกเค้า จากคุณ : iamnid - [ 21 ก.ย. 50 13:04:06 ]

ความคิดเห็นที่ 14 คือว่า ถ้าจะคิดซักนิด การบี้มดเป็นการทำให้มดไปสวรรค์ก่อนเวลาอันควรของมัน ซึ่งจริงๆแล้วก็คือการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้นบาปคับ สำหรับคนที่เชื่อพ่อแม่มาอย่างนั้น ก็ถือว่าบาปอยู่ดี เหมือนกับพ่อเป็นโจรแล้วสอนให้ลูกเป็นโจร ถามว่าลูกบาปไหม จากคุณ : ฉันมีค่าแค่ไหน - [ 21 ก.ย. 50 13:11:08 ]

ความคิดเห็นที่ 15 มดมันบอกหรือเปล่าอยากไปสวรรค์ จากคุณ : คนข้างๆ - [ 21 ก.ย. 50 13:17:06 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ... อยากจะถามว่า "ไม่เมื่อยมือเหรอ" -  -! จากคุณ : ดาราวิปลาส - [ 21 ก.ย. 50 13:19:39 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เป็นแค่เหตุผลเข้าข้างตัวเอง ไปอย่างนั้นเอง ลองพิจารณาดูดี ๆ ก็จะพบว่า มันเป็นการเบียดเบียน จากคุณ : tolstoy - [ 21 ก.ย. 50 13:22:08 ]

ความคิดเห็นที่ 18 บอกแค่ว่าอย่าเอาตัวเองเป็ฯศูนย์กลางครับ จักรวาลมันก็มีกฎของมัน ซึ่งเราอาจจะยังไม่รู้ตอนนี้นแต่ มันย่อมมีอยุ่ครับ จากคุณ : et009 - [ 21 ก.ย. 50 13:23:08 ]

ความคิดเห็นที่ 19 นึกถึง องคุลีมาล ยังไงไม่รู้ --a จากคุณ : ลูกจ้างดีเด่น - [ 21 ก.ย. 50 13:25:59 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เออ นึกออกอีกอย่าง ตอนแรกก็เห็นทู้นี้ติดไฟแดงแว้บๆด้วย(คงข้อหา นอกเรื่อง ละสิ) ตอนนี้ไม่มีแล้ว ต่อไป ??? สะกิดใจคคห. ข้างบน "อย่าเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง"... จากคุณ : ลูกจ้างดีเด่น - [ 21 ก.ย. 50 13:28:22 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ........... เปลี่ยนจากบี้มด มาเป็นบี้คน คล้ายๆ ภาคใต้อะเปล่าว - * - อย่างไรก็ตามแต่มันจะมีคนออกมาถามว่า แล้วมันจะขึ้นสวรรค์ได้อย่างไร? กะการกระทำแบบนี้ มนุษย์มีสิ่งหนึ่งที่ซ่อนอยู่ภายใน เขาเรียกมันว่าสามัญสำนึก ยกตัวอย่างเช่น เดินไปตบหัวคนไม่ต้องมีใครบอก ไม่ต้องมีใครสอน เรารู้ดีว่ามันไม่ดีแน่นอนแต่เราก็มีำอำเภอใจที่จะตัดสินใจ ว่าจะทำหรือไม่ทำ ทหารบางคนยอมขัดคำสั่งเพราะว่ามันขัดความรู้สึกของเขา ถ้าใครจะสั่งให้ยิงเด็ก เมื่อเขากลับบ้านเขากลับต้องขึ้นศาลทหาร เพราะขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา สิ่งนี้เรียกว่า สามัญสำนึก .......... จากคุณ : ศาสตราจารย์ ดร. สติแตก (Thai_DeSeRT) - [ 21 ก.ย. 50 13:28:57 ]

ความคิดเห็นที่ 22 #3 ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ผิดศีลแน่นอน..... เหตุคือผล ผลจากเหตุ ----> เหตุผล เฉพาะ กรอบอ้างอิงในจักรวาลของเราเท่านั้นครับ จักรวาลอื่น ตรรกะอาจต่างออกไปครับ (^_^) #4 ท่าน NEXUS มดมันจะคิดอย่างไร ? มดที่ไหนละครับ  มดในโลกนี้ มดที่ดาวนาเม็ก มดในจักรวาลนี้ หรือ มดที่จะเกิดในแสนกัปป์หน้า คุณเห็นด้วยกับเรื่องภาคใต้หรือเปล่า  ตอบ ----> ในกรอบจิตของมนุษย์ในจักรวาลนี้ไม่เห็นด้วย แต่ อาจจะมีจักรวาลอื่นที่เห็นด้วยกับการทำลายล้าง ก็ไม่แน่ครับ ด้วยความเคารพนะครับ ไม่ใช้อารมณ์ (^_^) อาจจะมี มดในจักรวาลอื่นที่เห็นด้วยกับการโดนบี้ก็ได้ครับ (^_^) ท่านอื่นๆ ไม่ว่าจะยก โมหะ บุญ บาป เจตนา คำสอน หรือ สิ่งต่างๆ ในโลกนี้ ที่ยกมา เป็นเฉพาะของที่นี่เท่านั้น ไม่ว่าท่านจะยกตรรกะอะไรมา ล้วนเป็นเฉพาะที่ที่เราอยู่เท่านั้น เฉพาะกรอบของเราเท่านั้นครับ บิกแบงครั้งหน้า การบี้มดให้ไปสวรรค์ อาจเป็น ทัศนคติที่ไม่ทำให้เกิดความแปรปรวนในจิต (กรรม) ก็ได้ (^_^) ปล. เป็นเรื่องศาสนาแล้วละ อย่างน้อย ผมเชื่อว่า ที่หลายท่านตอบใช้หลักศาสนาแล้วเชื่อว่านั่นเป็นสิ่งที่ถูกที่ควรในทุกที่ น่าจะมีสมมติฐานต่อว่า ทำไมหลักศาสนาพุทธใช้ได้กับทุกจักรวาลและทุกกรอบอ้างอิง ?? ขออ่านเพิ่มและใช้หลักกาลามสูตรก่อน และรอท่านอื่นแนะนำด้วยครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณ จขกท.ด้วยครับ ที่ทำให้ผมคิดต่อถึงตรงนี้ คำถามนี้ เยี่ยมจริง ทำไมหลักศาสนาพุทธใช้ได้กับทุกจักรวาลและทุกกรอบอ้างอิง ?? แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 50 13:38:00 แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 50 13:35:39 จากคุณ : ไฟล์ท B ทีน้ำเงิน - [ 21 ก.ย. 50 13:32:25 ]

ความคิดเห็นที่ 23 พ่อเป็นโจร สอนลูกให้เป็นโจร ลูกก็คิดว่าการเป็นโจรนั้นมันไม่ผิด ถ้าทุกคนคิดอย่างนั้น สังคมก็คงอยู่ต่อไปไม่ได้ ถ้าหมู่บ้านนั้นบี้มดกันหมด ไม่นานเข้าเดี๋ยวก็ได้เดือดร้อน มดมันก็มีประโยชน์ของมันนะ ผมว่า จากคุณ : chaos_r - [ 21 ก.ย. 50 13:36:42 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ด้วยสามัญสำนึกที่ดี เวลาเราเห็นคนตกทุกข์ได้ยาก เราย่อมรู้สึกสงสารเขา แม้จะมีบทบัญญัติว่า  การสงสารเป็นบาป จากคุณ : นางสเตนเลส - [ 21 ก.ย. 50 13:45:59 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ให้แม่ไปคุยกะหลวงตาด่วนเลยครับ จากคุณ : อยู่คนเดียวเปล่าเปลี่ยวใจ - [ 21 ก.ย. 50 13:47:37 ]

ความคิดเห็นที่ 26 สมมติว่า นรก สวรรค์ พระพุธเจ้า และศาสดา ต่าง ๆ  มีจริง.... *************** ผม ว่า คงเป็นเรื่องของ กรรม  น่ะครับ ถ้าอย่างที่เจ้าของกระทู้ว่า แสดงว่า เป็นการใช้กรรม ร่วมกัน อย่างที่มีคำบอกว่า  หมา คือ เศรษฐี ขี้เหนียว เมื่อชาติที่แล้ว นั่นล่ะครับ แบบนั้นผมว่า เป็นกรรม ที่ติดตัวอย่างมาก  คืออาจจะมีกรรมดีอยู่มาก ที่ได้เกิดเป็นคน แต่ก็มีกรรม ไม่ดี อีกส่วนนึง ที่ทำให้ไปเกิดในที่ไม่ดี นั่นล่ะครับ จากคุณ : HiPex - [ 21 ก.ย. 50 13:50:00 ]

ความคิดเห็นที่ 27 หยุด หยุดนะ เราหยุดแล้ว แต่ท่านซิ ยังไม่หยุด จากคุณ : eyong - [ 21 ก.ย. 50 13:58:11 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ถ้าบี้กันตั้งแต่รุ่นทวด บี้กันทั้งหมู่บ้านอีกตะหาก รุ่นคุณก็ไม่รู้จักแล้วแหละครับว่าอะไรคือมด สูญพันธ์กันหมดแล้ววว จากคุณ : aLcHy~* - [ 21 ก.ย. 50 14:05:27 ]

ความคิดเห็นที่ 29 จขกท.ลองไปศึกษาเรื่อง ..........องค์คุลีมาร....... ดูครับ........................ หรือเพราะเรื่องนี้เลยเอามาถามหว่า?? ... .. นิ จากคุณ : ผมก็สงสัยครับ - [ 21 ก.ย. 50 14:10:14 ]

ความคิดเห็นที่ 30 แนวความคิดคุณ ไฟล์ท B ทีน้ำเงิน ใช้มนุษย์เป็นจุดศูนย์กลางยังไงครับ ถ้าจะให้ผมเปลี่ยนคำพูดใหม่เล็กน้อยเอาเป็นว่าผมเป็นมนุษย์ต่างดาวคุยกันก็แล้วกัน "'ถ้าสิ่งมีชีวิตทุกอย่างในทั้งจักรวาลนี้(ยกเว้นมนุษย์) รู้สึกว่าการทำลายล้างมนุษย์เป็นสิ่งที่ดี จะเป็นอย่างไร" นั่นแหละครับคือคำตอบของผมต่อคำถามนี้ ส่วนข้อสงสัยของคุณที่ว่า "อาจจะมี มดในจักรวาลอื่นที่เห็นด้วยกับการโดนบี้ก็ได้ครับ (^_^)" ผมก็ถามกลับไปเหมือนกันว่า ไปถามมดมันมาหรือยังว่ามันชอบถูกบี้หรือเปล่าก่อนไปบี้มัน จากคุณ : Nexus - [ 21 ก.ย. 50 14:16:50 ]

ความคิดเห็นที่ 31 บาปครับ บุญบาปไม่อยู่ที่ความเชื่อ ต่อให้มนุษย์เชื่อว่าโลกแบนไม่ได้ทำให้โลกแบน บุญบาปเป็นไปตามธรรมชาติของมันอย่างนั้น ต่อให้มนุษย์กำหนดกลับกันให้บุญเป็นบาปบาปเป็นบุญ ไม่ได้ทำให้ธรรมชาติของมันเปลี่ยนไป ไม่ว่าเราจะกำหนดหรือไม่กำหนดว่า อย่างไรบาป อย่างไรไม่บาป ก็ไม่ทำให้บาปหรือบุญหายไป ดังนั้นเป็นธรรมดาที่เราควรศึกษาให้รู้บุญรู้บาป ให้ถูกตามความจริงที่มันเป็นให้มาก ซึ่งจะทำให้เรารู้และปฏิบัติตัวได้เหมาะสมและมีประโยชน์กับตัวเราเอง แล้วก็คนอื่นๆมากที่สุดเท่าที่สถานะของเราในตอนนั้นพอจะทำได้ ก็เหมือนกับวิทยาศาสตร์ ที่เราเรียนรู้ธรรมชาติ ให้ถูกตามจริงเท่าที่จะเป็นไปได้ แม้ว่าเรายังไม่รู้ทั้งหมด แต่ก็ทำให้เรารู้ว่าจะสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ   เพื่อให้เกิดความสุขสบายในชีวิตได้อย่างไรบ้าง จากคุณ : มังกรใจเย็น - [ 21 ก.ย. 50 14:33:02 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ถ้าเราเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง  เวลาที่เราถูกทำร้าย  เราเจ็บใช่มั้ยครับ ดังนั้น  สิ่งที่แม่สอนมา  มันไม่ทำลายข้อเท็จจริงที่ว่า  เมื่อคุณถูกทำร้าย  คุณเจ็บ เราไม่อยากเจ็บ  เราไม่อยากถูกทำร้าย  ชีวิตอื่นก็เช่นกัน เช่นนี้  เรียกว่า  สามัญสำนึก  ซึ่งไม่ได้ขึ้นอยู่กับคำสอนของใคร จากคุณ : jedi-jaidee - [ 21 ก.ย. 50 14:33:16 ]

ความคิดเห็นที่ 33 กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมสนองครับ จากคุณ : ขยะสังคม - [ 21 ก.ย. 50 15:00:54 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ช่างเป็นคำถามที่ยอดเยี่ยมเหลือเกิน... ฝากเอาไว้ 1 บาป เป็นนิยามๆ หนึ่งซึ่งมนุษย์ลิขิตขึ้น 2 สามัญสำนึก เป็นสิ่งปรุงแต่ง สามารถหล่อหลอมได้จากสิ่งแวดล้อมของปัจเจกหนึ่งๆ คำถามลึกซึ้ง คำถามลึกซึ้ง... จากคุณ : Start Something - [ 21 ก.ย. 50 15:02:48 ]

ความคิดเห็นที่ 35 แนะนำ จขกท อ่าน reply #1,11,13,18,20,22,26,32,34 ครับ นอกนั้นเหมือนจะติดกรอบ แก้ผิด.... เพิ่ม 1,11,34 ด้วย แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 50 20:13:15 แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 50 16:11:14 แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 50 15:11:52 จากคุณ : BaaBo!! - [ 21 ก.ย. 50 15:11:03 ]

ความคิดเห็นที่ 36 1. บางทีแม่อาจจะมีจิตสำนึกรู้ดีชั่วแล้ว    แต่อาจจะอ้างเหตุผลเข้าข้างตัวเอง ด้วยความมักง่าย 2. บาปหรือไม่ ? มีทั้งบาป และกรรม จากคุณ : อั๋น ทรงวุฒิ - [ 21 ก.ย. 50 15:33:14 ]

ความคิดเห็นที่ 37 พวกคุณๆที่บอกว่าบาปอ่ะ รู้ได้ไงว่าบาปมันมีจริง ก็แค่เชื่อต่อๆกันมาไม่ใช่รึ จากคุณ : Naruse_X - [ 21 ก.ย. 50 16:00:47 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ศาสนา = ความเชื่อ ไมมีอะไรพิสูจน์ว่ามันเป็นจริงหรือเท็จ จากคุณ : [-Luche-] - [ 21 ก.ย. 50 16:26:31 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ไม่รู้นะ แต่ผมกลับเห็นว่า.. เรื่องนี้ละเอียดอ่อนและสำคัญ มันมีสภาวะ Ego อยู่คร่าวๆ 3 อย่าง 1. Parent (มีสองแบบ แบบ Control กับ Free) 2. Adult 3. Child (มีสองแบบ แบบ Free กับ Adapted) ถ้าใช้กรอบอ้างอิงนี้เป็นบรรทัดฐาน จะได้ว่า 'ศาสนา' มีตัวตนคล้ายกับเป็น Parent (Free) ผู้ที่เชื่อมีสถานะ Child ส่วนการกระทำ (บี้มด) นั้นเทียบได้คือ Game (สิ่งที่ทำโดยมีจุดประสงค์) ปัญหามีอยู่ว่า.. ผลของ game มันได้อะไรบ้าง?? (เช่น) ถ้าเราฆ่าสัตว์เพื่อมากิน..ผลของ game มี 1. ด้านอารมณ์และจิตใจ (ศีลธรรม) ... อร่อย (ถ้าคิดหนักๆ บางคนก็ว่าว่าเป็นบาป) 2. ด้านร่างกายและวิทยาศาสตร์.. โปรตีน (ในขณะที่หาทางอื่นได้) 3. ด้านสติปัญญา.. So-So ส่วน game การบี้มดนั้นจะได้ 1. ด้านอารมณ์และจิตใจ (ศีลธรรม).. ได้บุญ 2. ด้านร่างกายและวิทยาศาสตร์.. So-So (แต่ถ้าฆ่าเยอะก็มีผลต่อระบบนิเวศ) 3. ด้านสติปัญญา.. So-So (แต่ถ้าเชื่อมากจะทำให้มีภาวะเป็น Child และตั้งศาสนาจาก Parent Free กลายเป็น Parent Control โดยปริยายซึ่งเป็นผลทำให้ตัว Child เองเป็น Child แบบ Adapted >> อาจก่อให้เกิดความรุนแรงหรือไม่ก็ได้ ในขณะที่ Child Free จะไม่ก่อให้เกิดความรุนแรงถ้าไม่มีแรงจูงใจที่จะทำโดยไม่มีเหตุผล) ฉนั้นเรื่องบาปบุญ ขึ้นอยู่กับภาวะความเชื่อของปัจเจกบุคคลต่อศาสนา ส่วนบาปบุญน่าจะเป็นการเมืองและเป็นการเล่นกับอารมณ์คนที่ต่ำกว่า ปัญหาอยู่ที่ว่ามีคนจำนวนมากที่จะยอมรับบรรทัดฐานที่คน(ก่อนหน้าเรา) ตั้งขึ้นมา ทั้งมีเหตุผลและไม่มีเหตุผล (เช่นการบูชายัน) เพราะถ้ามีคนตั้งบรรทัดฐานว่าการบี้มดเป็นสิ่งที่ดีและถ้าเชื่อกันทั้งโลก บุคคลที่หาคำอธิบายที่เป็นเหตุเป็นผลเกี่ยวกับเรื่องนี้ในแนวต่อต้าน ก็จะเท่ากับว่ามีเหตุผลที่ต้องมาต้านกับคนทั้งโลกโดยปริยาย ฉนั้นสรุปก็คือว่าขึ้นอยู่กับปัจเจกบุคคลว่าจะใช้กรอบอ้างอิงไหนในการตอบ สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในสังคมปัจจุบัน และสร้างปัญหามากกว่าให้คำตอบเสมอ (เนื่องจากเมื่อคนรุ่นหลังต้องการทราบเหตุผลกลับตอบไม่ได้ว่าทำไม) แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 50 16:56:43 แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 50 16:50:46 แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 50 16:43:14 แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 50 16:40:11 จากคุณ : ยูไนเต็ดตำบลออฟไทยแลนด์ - [ 21 ก.ย. 50 16:38:11 ]

ความคิดเห็นที่ 40 แต่ของพวกก่อการร้ายจะคิดว่าฆ่าแล้วตัวเองได้ไปสวรรค์ มาตั้งแต่ยุคบูชายันต์แล้ว เหมือนทำภารกิจสำเร็จแล้วได้รางวัล แล้วที่เชื่อว่าฆ่ามดแล้วได้ไปสวรรค์นี่ไม่เป็นการเชื่อแบบต่อๆกันมารึ คห37 38  ดังนั้นมันก็ต้องมีความจริงที่ถูกสักอัน หรือโลกเรามีแต่แค่ความเชื่อ จากคุณ : Dr.slump - [ 21 ก.ย. 50 16:44:48 ]

ความคิดเห็นที่ 41 คนป่า ฆ่าคนเผ่าอื่นๆ ได้ ตัดหัวมาทำหนังแห้ง + กินหัวใจ เพราะในเผ่ามีแนวคิดว่า ทำแล้วจะแข็งแกร่ง มีเกียรติ คนทั้งเผ่า ไม่เห็นมีใครจะคิดว่าผิดสักคน ยินดีด้วยซ้ำ ยิ่งฆ่าได้มากยิ่งดี..... ผิดไม่ผิด ผมว่าอยู่ที่กลุ่มสังคมต่างหาก จากคุณ : น้ำปลาเดือนห้า - [ 21 ก.ย. 50 16:45:32 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เรียนท่าน NEXUS - แนวความคิดคุณ ไฟล์ท B ทีน้ำเงิน ใช้มนุษย์เป็นจุดศูนย์กลางยังไงครับ - โอ้ว ไม่ใช่ครับ ผมไม่ได้มีแนวความคิดว่า ใช้มนุษย์หรือมด หรือ อะไร จักรวาลไหนๆ เป็นจุดศูนย์กลางทั้งนั้นเลยครับ  ไม่รู้ว่าตรงไหนที่สื่อความไปอย่างนั้น ที่ท่านบอกว่า "'ถ้าสิ่งมีชีวิตทุกอย่างในทั้งจักรวาลนี้(ยกเว้นมนุษย์) รู้สึกว่าการทำลายล้างมนุษย์เป็นสิ่งที่ดี จะเป็นอย่างไร" อันนี้เป็นคำถามย้อนอะครับ ไม่ใช่คำตอบ แต่ถ้าดูการสื่อโอเคครับ ถ้าท่านพูดว่าเฉพาะ "จักรวาลนี้" เท่านั้น โอเคครับ แต่ที่ผมบอกได้ได้มองกรอบแค่ จักรวาลนี้เท่าครับ ที่ท่านว่า ส่วนข้อสงสัยของคุณที่ว่า "อาจจะมี มดในจักรวาลอื่นที่เห็นด้วยกับการโดนบี้ก็ได้ครับ (^_^)" ผมก็ถามกลับไปเหมือนกันว่า ไปถามมดมันมาหรือยังว่ามันชอบถูกบี้หรือเปล่าก่อนไปบี้มัน งั้นผมตอบอีกว่า เราสามารถตั้งสมมติฐานได้ว่า "ใน ทุกๆๆ จักรวาล ทุกๆๆๆกัปป์ น่าจะมีทั้งมดที่ไม่ชอบถูกบี้และชอบถูกบี้ด้วย" ยกตัวอย่างเช่น สมมติสุ่มตัวอย่าง มา 1000 กัปป์ น่าจะพบกัปป์หนึ่ง จักรวาลหนึ่ง ที่มีสิ่งมีเกิดมาแล้วมีจิตชอบทำลาย หรือถูกทำลาย โดยจิตไม่แปรปรวน (แล้วไปสวรรค์ได้) อันนั้นเป็นสมมติฐานครับ ถ้าตามกรอบของเรา ตอบได้เลยว่า "ไม่จริง" แต่ จักรวาลอื่นนั้น ยังตอบไม่ได้ครับ ว่า "ไม่มี" เพราะความคิดของจักรวาลเรากัปป์เรา อาจจะใช้กับที่จักรวาลอื่นกัปป์อื่น ไม่ได้ครับ ด้วยความเคารพครับ ปล. งั้นตอบ จขกท. ยังไม่ได้ครับ ยังมีอีกสมมติฐานหนึ่งคือ ภายใต้ จักรวาลเดียวกัน จิตจะอยู่ภายใต้กฏพื้นฐานต่างกันได้หรือ (ทำเลวอย่างบริสุทธิ์ใจ ไปสวรรค์) (ไม่น่าจะได้นะ) แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 50 16:56:42 แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 50 16:54:26 แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 50 16:53:50 จากคุณ : ไฟล์ท B ทีน้ำเงิน - [ 21 ก.ย. 50 16:51:31 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ผมว่าคำถามนี้ ไม่ได้ต้องการให้คิดว่า การทำลายสิ่งมีชีวิตเป็นสิ่งที่ถูกหรอกนะครับ ผมว่า เค้าต้องการกระตุ้นให้คิดว่า บาปมีจริง ๆ เหรอ จริง ๆ แล้วก็มนุษย์เราเองนี่แหละที่กำหนดเอาเองว่าอะไรบาป อะไรไม่บาป เราจะรู้ได้ยังไงว่าอะไรคือบาป คือบุญที่แท้จริง ผมเชื่อนะครับว่ามันต้องมีความจริงที่ถูกต้องสักอันนึงละ แต่ว่ามันเป็นความจริงของกรอบไหนนี่สิ กรอบของนาย A หรือ นาย B หรือ สังคม C หรือเป็นของประเทศ D ของดาว E จักรวาล F ฯลฯ จากคุณ : [-Luche-] - [ 21 ก.ย. 50 17:00:27 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ดูท่าจะยาว จากคุณ : discover_darkside - [ 21 ก.ย. 50 17:03:27 ]

ความคิดเห็นที่ 45 นักวิทยาศาสตร์ที่ดีควรจะสรุปสิ่งที่ตัวเองยังไม่รู้ว่ายังไงละ กว่าวิทยาศาสตร์จะผ่านมาถึงปัจจุบันก็อธิบายความเชื่อผิดๆออกไปเยอะ  ดังนั้นเราควรเชื่อตามเหตุผลไม่ใช่เหรอ อย่างคห43 เหตุผลคุณครอบคลุมกรอบ A(ตัวตนคุณ) คุณบี้มดแล้วใจเป็นสุข มันก็สุขจริงๆ ถ้าคุณยังอยู่ในกรอบ A ถ้าคุณพ้นกรอบ A ไปเจอ  กรอบ B (อาจเป็นครอบครัว) การกระทำคุณก็ยังมีความสุขอยู่ในระดับครอบครัว เพราะพ่อแม่พี่น้องเชื่อเหมือนกัน ตราบใดที่คุณยังอยู่ภายใต้กรอบ B แม้แต่กรอบ E ว่าทุกคนบนโลกใบนี้คิดแบบนั้น หรือกรอบจักรวาลนี้ จักรวาลที่สอง หรือ กรอบของกลุ่มจักรวาล .... แล้วจะไปสรุปยังไง แสดงว่าในที่สุดมันต้องมีกรอบสุดท้ายที่บอกว่าความจริงคืออะไร ความจริงสุดท้ายมันต้องครอบคลุมการกระทำทั้งหมด รวมทั้งสวรรค์ที่คุณอ้างว่ามดจะไปด้วย ในส่วนของพุทธเราเชื่อว่า  มีกรรมระดับมโนกรรม วจีกรรม กายกรรม ทำกรรมระดับไหนก็ได้ระดับนั้น ระดับมโนกรรมที่ฆ่ามดเพราะต้องการส่งมดไปสวรรค์ กับระดับกายกรรมคือนิ้วบี้มดตาย  ... ดังนั้นโอกาสเกิดกรรมในอนาคตของนายA ก็คือ อาจจะตายเพราะความปรารถนาดีจากผู้อื่น หากคุณยังอยู่ในกรอบอิทธิพลนั้น แต่ถ้าคุณพ้นอิทธิพลกรอบนั้นไปแล้วกรรมย่อมหายไปเป็นอัตโนมัติ ส่วนผู้ไม่เชื่อในกฏแห่งกรรมละ จะรู้ได้ยังไงว่ากฏมันเป็นแบบนั้นจะเป็นกรอบแท้จริงสุดท้าย ก็ต้องพิสูจน์สิ ค่อยสังเกตุเก็บผล ว่ามโนกรรม วจีกรรม กายกรรม มีการเกิดขึ้นขณะทำกรรมหรือเปล่า แล้วเกิดผลกรรมกลับมาจริงหรือเปล่า วิธีศึกษาของพุทธไม่ใช่ความเชื่อ แต่เริ่มที่เรียนรู้กายใจของเรา เพื่อค้นหาความจริง เพื่อศึกษากรอบต่างๆข้ามพ้นอิทธิพลกรอบต่างๆ จากคุณ : Dr.slump - [ 21 ก.ย. 50 17:35:16 ]

ความคิดเห็นที่ 46 อืมมม์ มีเหตุผลๆ จริง ๆ ผมค่อนข้างจะเทใจให้กับศาสนาพุทธมากกว่าศาสนาอื่น ๆ นะครับ (อ่า ไม่ได้ลบหลู่ศาสนาอื่นนะ) เพราะว่า คำสอนชวนให้คิดหาเหตุผลด้วยตนเอง มากกว่าจะให้เชื่ออะไรที่ไม่มีเหตุผลรองรับ ว่าแต่ ไม่รู้ว่าสวรรค์ หรือนรก มีจริงรึเปล่า ? แล้วสมมติว่า มีการหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดจริง มันจะดีจริงเหรอ? ถ้าหลุดพ้นแล้ว ตัวเราจะไปอยู่ที่ใด ? จริงหรือที่หลังจากคนเราตายไป แล้วจะกลับมาเกิดใหม่ชดใช้กรรม? ถ้ามีการกลับมาเกิดใหม่จริง ทำไมจำนวนประชากรโลกถึงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หรือว่าวิญญาณ 1 มีบาปหนักหนามากกก จนต้องแยกเป็นสองวิญญาณเพื่อชดใช้กรรม?? ปล. คือผมไม่ได้ลบหลู่ศาสนาใด ๆ นะครับ จริง ๆ ผมค่อนข้างเห็นชอบกับคำสอนของศาสนาพทธด้วยซ้ำไป แต่มันเหมือนมีปริศนาบางอย่างที่มันดำมืดอยู่ และยังพิสูจน์ไม่ได้ เลยรู้สึกน่าค้นหา จากคุณ : [-Luche-] - [ 21 ก.ย. 50 17:48:42 ]

ความคิดเห็นที่ 47 คนและสัตว์ทั้งหมด  ต้องการศีล5  ไม่มีใครอยากให้ผู้อื่นมาละเมิดศีล5 ต่อตัวเอง จากคุณ : เก๋งหมง - [ 21 ก.ย. 50 17:53:40 ]

ความคิดเห็นที่ 48 บาปบุญของมนุษย์อยู่ในกรอปของกฏหมายของประเทศนั้นๆ นอกนั้นอยากทำอะไรก็ทำไปเหอะครับ พวกชนเผ่ากินคน เค้ากินกันเอง ไม่เห็นใครจะได้รับกรรมเลย หรืออาจจะรับชาติหน้ามั้ง ถ้างั้นใครเกิดในพวกเผากินคนก็ซวยไป สำหรับผมการนับถือศาสนาก็แค่ทำให้สังคมสงบสุขเป็นรูปธรรมเท่านั้นแหละครับ นอกนั้นแล้วแต่ศาสนาใครศาสนามัน คุณอยู่ในสังคมไม่ทำอะไรผิดกฏหมายก็พอแล้วมั้ง ไม่ต้องโดนศาลมาสั่งชดใช้กรรม อยากฆ่าอะไรก็ฆ่าไปเหอะ ถ้าไม่ใช่คน ..rofl ^ เก๋งหมงครับ เสือถือศีลห้าด้วยเหรอครับ จากคุณ : JohnnieWalker - [ 21 ก.ย. 50 18:21:51 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ผลของกรรมมี แต่หนักหรือเบาเทียบกับที่เจตนา อุปมาดั่งชกกำแพงเหล็กถ้าชกเบาก็เจ็บน้อย ถ้าชกแรงก็เจ็บมาก คงไม่มีใครบอกว่ามีเจ็บ นอกจากคนๆนั้นจะเสียประสาทการรับความรู้สึก แต่ถึงแม้จะไม่เจ็บปวดเขาก็ยังได้รับแรงที่สะท้อนมาอยู่ดี จากคุณ : เลอนัก - [ 21 ก.ย. 50 18:32:49 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ตอบตามหลักพุทธ องค์ประกอบของการทำบาป(ฆ่าสัตว์) 1. สิ่งนั้นมีชีวิต 2. รู้ว่าสิ่งนั้นมีชีวิต 3. มีจิตคิดจะฆ่า 4. พยายามฆ่า 5. สิ่งนั้นตาย ถ้าครบตามองค์ประกอบนี้ก็บาปสมบูรณ์แบบ แต่ถ้าไม่ครบก็บาปเหมือนกันแต่ก็เบาบางแตกต่างกันไป จากคุณ : golden fish - [ 21 ก.ย. 50 19:02:45 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ที่ผมบอกว่ามุมมองมนุษย์เป็นศูนย์กลางเพราะว่าคุณพูดถึงแต่มุมมองของคนยังไงครับ ซึ่งก็ไม่แปลกเพราะว่าคนจำนวนมากก็มีความคิดเป็นอย่างนั้น ผมถึงตั้งคำถามเพื่อชี้ให้เห็นอีกมุมหนึ่งคือมุมของผู้ถูกกระทำ ไม่ต้องเอาเหตุการณ์สมมติก็ได้ เอาเรื่องจริงๆนี่แหละครับ สมัยยุคล่าอาณานิคมฝรั่งถือว่าคนอื่นเป็นพวกไร้ศาสนา ไม่รู้จักพระคริสต์เลยพยายามทำทุกทางเพื่อให้รับศีลแบปติสให้ได้ ถึงขนาดที่ว่าบางทีก็อาศัยการทรมาณเพื่อให้ยอมรับศีล หรือบางทีก็เปลี่ยนเป็นศีลที่เตียงแทน(ตอนก่อนตาย) จะได้มาเป็นลูกแกะของพระ้เจ้า เขาเชื่ออย่างสนิทใจว่าสิ่งที่เขาทำนั้นเป็นการทำบุญ เป็นการทำเพื่อพระเจ้า ถ้าคุณอยู่ในสมัยนั้น นั่นแหละครับคือ Scenario เดียวกับที่ จขกท กับคุณ ไฟล์ท B ทีน้ำเงิน ยกมาไม่ผิดเพี้ยน จากคุณ : Nexus - [ 21 ก.ย. 50 19:08:27 ]

ความคิดเห็นที่ 52 เยี่ยมๆ กระทู้นี้ ถ้าใครอยากพิสูจน์ ก็ลองฆ่าสัตว์ไปเรื่อยๆ ไม่ต้องเอามากินเพื่อดำรงชีวิตหรือทำประโยชน์ ฆ่าเล่นๆ ฆ่าแล้วทิ้งๆ ซักวันละตัว หรืออาจจะคิดไว้ว่าฆ่าเพื่อทดลองไม่ผิด ก็ได้ ทำไปเรื่อยๆไม่ต้องหยุด ซัก 20 ปี ข้างหน้ามารายงานผลด้วยล่ะ จากคุณ : cygnat - [ 21 ก.ย. 50 19:26:28 ]

ความคิดเห็นที่ 53 แบบนี้ก็ติดกรอบครับ เค้าไม่คิดถึง คำสอนที่มีมาก่อน ไงครับ จากคุณ : ไฟลามทุ่ง - [ 21 ก.ย. 50 20:00:36 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ก่อนอื่นต้องเข้าใจคำว่า "บาป" ก่อนครับ บาป มันเป็นเพียงนามธรรม มันคือ "ความรู้สึกผิด" ย้ำอีกทีนะว่ามันคือ "ความรู้สึกผิด" ถามคุณ จขกท. 1. รู้ได้อย่างไรว่าสวรรค์มีจริง 2. สมมติว่าสวรรค์มีจริง รู้ได้อย่างไรว่ามด 1000 ตัวทีคุณบี้ตายในแต่ละวันมันไปสวรรค์ครบทุกตัว แค่ 2 คำถามนี้ตอบให้ได้ก่อนนะครับ เพราะถามในห้องนี้มันต้องสามารถอ้างอิงที่มาที่ไปได้ตามหลักวิทยาศาสตร์ หรือสามารถหาเหตุผลมาอ้างได้อย่างเป็นตรรกะ ที่สำคัญไม่ควรใช้เหตุผลแบบข้าง ๆ คู ๆ เอาสีข้างเข้าถู มาที่เรื่อง " ศูนย์กลางจักรวาล " ผมอ่านแบบผ่าน ๆ ไม่รู้ว่า คห.ไหนกล่าวมา แต่ผมว่ที่จริงควรจะบอกว่า เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางก็พอ ก็จะเข้าใจได้ง่ายขึ้น ก็คือ 1. ไม่ว่าเราจะทำอะไร พูด คิด อะไร เราเป็นฝ่ายถูกทั้งหมด 2. คนอื่นที่ทำอะไรไม่ถูกใจเรา ไม่เหมือน ไม่คล้าย ไม่เป็นแบบเรา ก็ผิดทั้งหมด คือการที่เราตัดสินสิ่งรอบข้างทุกอย่างโดยใช้เหตุผลส่วนตัว มากกว่าจะยอมรับการตัดสินหรือคำวิจารณ์ของสังคมรอบข้าง นี่คือการเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางไม่มีการยอมรับถูก - ผิดจากคนอื่น เราถูกคนเดียว จากคุณ : bb (SirzaA) - [ 21 ก.ย. 50 21:41:56 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ขอต่ออีกนิดครับ  พอดีไปอ่านมาอย่างดีละ   มาต่อกันเรื่อง  "บาป" ก่อนเลยนะครับ ยกตัวอย่างให้เห็นอย่างชัดเจน สมมติว่า   กรณีที่  1 ผมไปต่อยเพื่อนคนนึง  ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีความผิดอะไร  เพื่อนผมไม่โต้ตอบ  ไม่พูดจ่าด่าว่ากล่าวอะไร  ผมตัดสินเองทันที   เพื่อนผมมันชอบ  ---> เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง กรณีที่  2 ผมต่อยเพื่อน  ทั้ง ๆ ไม่ผิดอะไร  แล้วเพื่อนมันถามว่า  เมิงต่อยkuทำไม  แล้วมันก็เลิกคบผม  ผมต้องสำนึกแล้วครับ  เออ..ต่อยมันทำไมwa --->  สำนึกผิด  รู้สึกผิด   กรณีที่  3 ผมไปต่อยเพื่อนผม  ทั้งที่ไม่ได้ผิดอะไร  แล้วมันก็สวนหมัดกลับมา  ----->  นอกจากมีบาปแล้ว  กรรมยังติดจรวดด้วย ทั้ง  3  กรณีผมเป็นผู้กระทำ(ก่อน)  และเพื่อนเป็นผู้ถูกกระ กลับกันถ้าเพื่อนผมเป็นผู้กระทำต่อผม  ผมจะรู้สึกอย่างไรบ้าง   เหมือนกับการที่คนทุกคนต้องการเอาตัวเองเป็นหลัก  โดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง เหมือนกับที่เรากำลังถกเถียงกันหน้าดำหน้าหน้าแดง  ก็จะมี  3 ฝ่าย ถูก - กลาง ๆ - ผิด   มีคนยอมรับมากก็ไม่ใช่ว่าเป็นฝ่ายถูก  มีคนยอมรับน้อยก็ใช่ว่าจะเป็นฝ่ายผิด ไม่รู้จะยกตัวอย่างยังไงแล้วครับ   แต่เอาเป็นว่าอันนี้พยายามใช้ตรรกะแล้ว  แต่เป็นตรรกะผมเอง  5555 จากคุณ : SirzaA - [ 21 ก.ย. 50 22:10:53 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เถียงอะไรกันมากมาย งง.. การทำอะไรให้มันสุดโต่ง เสียสมดุลเกินไปก็ไม่ดีทั้งนั้นล่ะครับ ถ้าในแง่วิทยาศาสตร์ เวลาบี้มด หรือไปทำให้สัตว์ตัวไหนทรมาน เจ็บปวด ทำให้สิ่งมีชีวิตแสดงออกว่าเป็นทุกข์ได้ แล้วก่อผลในใจเราขึ้นมาบ้าง นั่นแหล่ะมั้งครับ ที่เรียกกันว่าบาป ถ้าคนมันจิตใจหยาบแห้งกร้าน ก็จะทำเป็นไม่รู้สึก หรือหาเหตุผลเข้าข้างตัวเอง ด้วยความเชื่อ หรือภาวะต่างๆแล้วแต่สภาพสังคมนั้น ๆ คำว่า บาป ในความหมายเชิงวิทยาศาสตร์ จึงไม่ใช่สื่อกลางโดย 100% ที่จะวัดกันได้ แต่ถ้ายังเป็นคนที่คิดได้ เรียนรู้ได้ ย่อมรู้สึกถึงสิ่งนี้บ้างมากกว่า 0% อยู่แล้ว ไม่มากก็น้อย สัตว์ที่ต่ำกว่านี้จะไม่รู้สึก เช่นว่า ชะมดไล่กินมด มันไม่ต้องรู้สึกบาป(ทำโดยสัญชาติญาณ) ส่วนถ้าไม่ต้องคำนึงถึงคำว่า บาป มองแต่วิทยาศาสตร์ล้วนๆ มดเวลาโดนบี้ มันจะมีกลิ่นสารเคมี ที่ปล่อยออกมา เพื่อนๆในกลุ่มมันก็จะเริ่มรู้ครับ บางพันธุ์ก็จะแบกซากพวกมันกลับรังด้วยนะ หรือไม่ก็ไปปล่อยสารเตือนภัยให้ตัวอื่นๆที่รังได้รู้ ถ้าคุณต้องทำลายสิ่งนึง โดยไม่เกิดประโยชน์ใดๆเพิ่มมาเลย ก็ถือเป็นการสูญเปล่า โดยสิ้นเชิงครับ บางที ไม่ทำซะยังจะดีกว่า ลองไล่ดู ที่คุณไล่บี้มดมันได้ประโยชน์อะไร เช่น ป้องกันบ้าน หรือถิ่นคุณได้หรือไม่ เป็นต้น ฯลฯ คิดเป็นเหตุเป็นผล จะดีกว่าไปคิดอ้อมโลกถึงภพหน้า จากคุณ : นัยตาสองชั้น - [ 21 ก.ย. 50 22:27:06 ]

ความคิดเห็นที่ 57 อย่าไปว่าจขกท.เลย  จขกท. เค้าตั้งคำถามเพราะสงสัยว่ากรอบมันมาจากไหน เค้ารู้อยู่แล้วว่ามันไม่ดี แต่ไม่ดีที่ว่ามันคืออะไรใครกำหนดความรู้สึกไม่ดีมาจากไหน มาจากตัวเอง ครอบครัว สังคม กรอบมันไปสุดตรงไหน  เค้าไม่ได้บี้มดจริงๆสักหน่อย พุทธศาสนามีคำตอบ และแนวปฏิบัติเพื่อทางออกจากกรอบนั้นด้วย โดยมีกายใจตัวเองเป็นเครื่องมือ เรียนรู้การทำงานของจิตแบบต่างๆ และส่วนประกอบของจิต(เจตสิก) เพื่อรู้ความจริง จากคุณ : Dr.slump - [ 21 ก.ย. 50 23:04:48 ]

ความคิดเห็นที่ 58 #10 ถ้าหากจะดูด้วยการเจตนา... แต่หากผู้กระทำนั้นกระทำโดยเจตนา แต่ผู้กระทำไม่รู้ข้อเท็จจริงหละครับ ถือว่าผิดหรือไม่ จากคุณ : TumOhyes - [ 21 ก.ย. 50 23:26:42 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ผมว่าเกิดขึ้นไม่ได้ คนเราดีมาตั้งแต่ต้นครับ จากคุณ : นายเหนือเมฆ - [ 22 ก.ย. 50 01:05:48 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ถ้าในสังคมนั้นหมู้บ้านนั้นหมู่บ้านA ไม่บาปเพราะไม่ได้รับการสั่งสอนว่าการฆ่ามดนั้นมันบาป แต่ถ้านอกหมู่บ้านAหมู่บ้านB มีความเชื่อที่เชื่อว่า การฆ่ามดนั้นบาป มันจะบาปคนในหมู่บ้านB หมู่บ้านAก็จะมองหมู่บ้านฺBว่าบาปเพราะไม่ฆ่ามด เพราะจะทำให้มดได้ไปขึ้นสวรรค์ หมู่บ้านBก็จะมองหมู่บ้านAว่าบาป เพราะว่าการฆ่ามดนั้นเป็นสิ่งที่บาป มันก็เหมือน2ศาสนาที่ได้รับการสั่งสอนมาไม่เหมือนกัน โดยที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยที่ว่า ตนเองนั้นถูกที่สุดแล้ว การฆ่ามด นั้นถูกที่สุดแล้ว หรือการไม่ฆ่ามดนั้นถูกที่สุดแล้ว ในเรื่องที่ผมกล่าวมานี้ไม่ได้พูดถึงเรื่องสามัญสำนึก หรือไม่อย่างไร เปลี่ยนจากมดเป็นยุงที่ดูดเลือดก็ได้ จากคุณ : ผีตู้เย็นน้อย - [ 22 ก.ย. 50 01:58:36 ]

ความคิดเห็นที่ 61 คนที่ตั้งคำถามเลว ๆ แบบนี้ ที่ผมเจอมา มักไม่ใช่คนเลวหรอกครับ แค่สงสัยว่าอะไรคือเลว และสิ่งที่ทำอยู่มันเลวไหม ส่วนตัว ผมไม่เชื่อบุญบาป แต่เชื่อว่าเราทำอะไรแล้วจะได้อย่างนั้น ปลูกถั่วก็ต้องได้ถั่ว ไม่ได้สับปะรดไปได้หรอก สิ่งที่ทำไปแล้วดี ก็คือสิ่งที่เราเองอยากให้คนอื่นทำให้เรา ผมเป็นคนที่ทำดีเพราะหวังจะได้ดี และผมก็คิดว่าไม่มีใครในโลกอยากทำดีเพราะอยากได้แต่ความเลวกลับมา เท่านั้นเองละครับ :) จากคุณ : cookiecompany - [ 22 ก.ย. 50 02:09:55 ]

ความคิดเห็นที่ 62 บาปมั้ย? ถ้าในมุมมองของคนที่นับถือพุทธศาสนา ก็คงบอกว่าบาป  แต่ถ้าเป็นสังคมอื่นๆ ดาวดวงอื่นๆ จักรวาลอื่นๆ  ก็ไม่แน่... ผมมองว่า คห. 23 ถูกที่สุด... ธรรมชาติสร้างทุกสิ่งมาอย่างสมดุล... สิ่งมีชีวิตทุกชนิดมีึุความเกี่ยวพันกัน ถ้าเราเชื่อว่าการบี้มด มันเป็นสิ่งที่ถูก นั่นเพราะเรามองไม่เห็นข้อดีของการที่เรายังมีมดอยู่  แต่หากวันใดที่มดสูญพันธุ์ไปจากจักรวาลนี้..  เราอาจจะได้รับผลกระทบ จากความเสียสมดุลของธรรมชาติ บาป มันเป็นแค่นิยามที่มนุษย์ตั้งขึ้นมา  เพื่อให้ผู้คนเกรงกลัวที่จะทำลายชีวิตผู้อื่น  โดยจุดหมายที่แท้จริงก็เพื่อ การคงอยู่ซึ่งของสมดุลของธรรมชาติ.... แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 50 16:34:49 จากคุณ : artech - [ 22 ก.ย. 50 02:30:04 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ไม่บาป แต่ถ้าพยายามหลอกว่ามันไม่บาป มันก็ยังบาป เพราะคุณรู้อยู่แก่ใจว่าอะไรมันดีหรือไม่ดี จากคุณ : Yoiji - [ 22 ก.ย. 50 03:23:27 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ถ้าพูดในเรื่องของความรู้สึก ในเมื่อโดนสั่งสอนมาแบบนั้น ก็คงไม่รู้สึกหรอกว่ามันบาปอะไร แต่สำหรับเรื่องบาปบุญคุณโทษและกฏแห่งกรรม ผมคิดว่ามันเป็นความจริงที่อยู่ในธรรมชาติ ผมมีประสบการณ์พบเห็นการย้อนคืนมาสนองของกรรมมาหลายครั้งทั้งกับคนรอบตัวก็ดีหรือตัวเองก็ดี ดังนั้นสิ่งที่ทำไปก็จะต้องย้อนคืนกลับมา และเมื่อมันย้อนคืนกลับมา จขกท.อาจจะคิดว่า "ก็ฉันทำดีด้วยการส่งมดขึ้นสวรรค์แล้ว ทำไมถึงเกิดเรื่องร้ายๆแบบนี้ขึ้นในชีวิตฉันกันเล่า" และนั่นแหละคือกฏแห่งกรรมที่จะส่งผลกลับมา ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อมันก็ตามที ความเห็นส่วนตัว คนจำนวนมากบอกว่าตัวเองไม่นับถือศาสนาอะไรเพื่อที่จะมีข้ออ้างในการทำสิ่งที่ไม่ดีมากเสียกว่าจะค้นพบสัจธรรมและทำดีได้ด้วยสำนึกจากจิตใจของตัวเอง และในทางกลับกันก็มีคนจำนวนมากที่ทำบาปเพราะเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ดีตามที่ศาสนาบอกมา (ศาสนาบอกมาอีกอย่างแต่มาตีความผิดๆ) จากคุณ : VeryBadman...อมยิ้มชำรุด - [ 22 ก.ย. 50 06:09:53 A:128.242.106.124 X: TicketID:155341 ]

ความคิดเห็นที่ 65 องค์คุลีมาลย์ ถูกอาจารย์หลอกให้ฆ่าคน เพราะเชื่อว่าคนที่ตายจะได้พ้นทุกข์ ก็ยังบาปเลยครับ แม้ตอนหลังจะบวชแล้ว แต่ก็โดนชาวบ้านเอาเขวี้ยงก้อนหินใส่จนตาย จากคุณ : Duke! (Duke!) - [ 22 ก.ย. 50 07:42:50 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ความไม่รู้ หรือความหลง เป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในสังสารวัฏค่ะ เปรียบเหมือนคนที่ไม่รู้ว่าถ่านติดไฟนั้นร้อน ก็ย่อมจับถือแบบเต็มไม้เต็มมือ ผลก็คือ มือไหม้พุพอง แต่ถ้าหากรู้ว่าถ่านติดไฟนั้นร้อน ก็ย่อมไม่อยากจับต้องเลย หรือจับด้วยความระมัดระวัง บาปนั้นวัดกันง่ายๆที่เจตนา และผลของมันค่ะ ถ้าคุณตั้งใจทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง และมีผู้อื่นเดือดร้อนเสียหาย ไม่ว่าจะทางกายหรือทางใจจากการกระทำนั้น ก็ย่อมบาปแน่นอน ยิ่งถ้าคุณไม่รู้ว่านั่นคือบาป ก็ยิ่งสั่งสมบาปได้มากขึ้นง่ายขึ้นด้วยความหลงผิด ซึ่งก็ยิ่งเป็นอันตรายกับตัวคุณเอง เมื่อถึงคราววิบากกรรมส่งผล พระพุทธเจ้าจึงตรัสสอนว่า ความหลงนั้นอันตราย และถอนยากยิ่งกว่ากิเลสทั้งปวงค่ะ แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 50 08:12:46 จากคุณ : เอสเจ~* - [ 22 ก.ย. 50 08:10:55 ]

ความคิดเห็นที่ 67 บาปมั้ย? ขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละบุคคล  แต่ละศาสนา บุญบาป  มันเป็นแค่นามธรรมที่ถูกกำหนดขึ้นมาโดยมนุษย์ บี้มดตาย  ถือว่าไม่บาปในความเชื่อของคุณ แต่สำหรับสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนโลกใบนี้  เราว่าสัจธรรมมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น  นั่นคือการเบียดเบียนถือเป็นบาป อย่าลืมว่าเราไม่ใช่ศูนย์กลางของโลก ของจักรวาล ลองคิดดู ถ้าในองค์กรที่คุณอยู่  บอกว่าการโกง การหลอกลวงผู้อื่นเป็นสิ่งดี  เป็นสิ่งที่ไม่ผิดแต่กลับเพิ่มผลประโยชน์ต่อตัวคุณ คุณปฏิบัติตามกฏขององค์กรคุณอย่างดี  มันทำให้คุณก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ทำให้ชีวิตคุณดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม  กฎหมายของประเทศมันก็ยังมีอยู่  คุณคิดว่าคุณจะได้รับผลอย่างไรล่ะ แต่น่าคิด...ว่าที่กล่าวถึงมาทั้งหมด จริง ๆ มันเป็นแค่ปัจจัยภายนอก  เป็นความเชื่อ เป็นภาวะแวดล้อมของแต่ละสังคม  จึงน่าสงสัยว่า  ปัจจัยภายในจิตใจของมนุษย์เราตั้งแต่เกิดมา  จะสำนึกได้หรือไม่ ว่าทำอะไรเป็นบาป-บุญ-คุณ-โทษ?? โอย...ยิ่งคิดยิ่งงงค่ะ  ไปดีกว่า~~ ^^" จากคุณ : นางสาวโต๋เต๋ - [ 22 ก.ย. 50 08:38:23 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ถ้า คุณถูกสอนว่าคุณบินได้ แล้ววันนึงคุณก็ กระโดดลงมาจากหน้าผา  เพราะคิดว่าบินได้ นั่นละครับสิ่งที่จะเกิดขึ้น คุณไม่จำเป็นต้องรู้ว่ามีกฎอะไรบางอย่างที่ควบคุมบางสิ่งอยู่ คุณจะรู้ หรือไม่รู้  กฎนั้นก็ยังทำงานของมันอย่างซื่อตรงที่สุด เหมือนเดินลงสนามฟุตบอลไป กรรมการเค้าไม่สนหรอกว่าคุณจะรู้กฎการเล่นหรือไม่ ถ้าคุณเอามือไปจับบอลโดยไม่ได้เป็นผู้รักษาประตู คุณก็ทำผิดกฎแน่นอน ทั้งๆ ที่คุณไม่ได้มีเจตนาที่จะผิดกฎ จากคุณ : Golden-Bullet - [ 22 ก.ย. 50 08:49:38 ]

ความคิดเห็นที่ 69 คือจะฆ่าสิ่งมีชีวิต แล้วไม่ให้ผิดให้ได้ว่างั้น หลายท่านด้านบนบอกไปเยอะแล้ว นึกไรไม่ออก ก็ลองนึกถึงศีล 5 ดู เรียนกันมาตั้งแต่ประถม จากคุณ : Purity - [ 22 ก.ย. 50 10:16:02 ]

ความคิดเห็นที่ 70 มนุษย์...มีชีวิต...มด...ก็มีชีวิต แล้วค่าของชีวิตแต่ละสรรพสิ่ง มีค่ามากน้อย แตกต่างกันตรงไหน ถึงเชื่อว่า ฆ่าเขาแล้วมันเป็นสิ่งที่ดี ในเมื่อมนุษย์เอง ก็ยังต้องการอากาศ ต้องการอาหาร ต้องการอยู่รอดมีชีวิต แล้วต่างกันกับมดตรงไหน จากคุณ : knine2five - [ 22 ก.ย. 50 11:37:28 ]

ความคิดเห็นที่ 71 -*- ผมไม่ได้บี้มดครับ แนวความคิดมาจากในสารคดีมีอยู่ตอนนึง พวกจิฮัญ สั่งสอนกันว่า "เราจะทำให้คนทั้งโลกเป้นมุสลิมโดยการส่งพวกนอกรีตไปหาอัลลอห์" ข้อความนี้จริงหรือเท็จไม่รู้เพราะมันเป้นแค่สารคดี แต่มันจุดชนวนความคิด ตั้งแต่เริ่มฟังผมไม่เห็นด้วยกับข้อความนี้ แต่ผมไม่มีสิทธิ์ไปตัดสินว่าเขาถูกหรือผิด และผมมั่นใจว่าคนที่คิดไม่ตรงกับผมไม่ใช่คนผิด แค่สังคมต่างกัน แล้วเขาจะรู้ได้ไงว่าผิด จริงๆแล้วกฎแห่งกรรมที่ว่ากันว่ามันเป็นไปอย่างเที่ยงตรงเนี่ยเราจะรู้ได้ไงว่ามันเที่ยงตรงครับ?? มันไม่เคยมาให้ผมเห้นซักครั้ง ในความเป้นจริงก็เห็นๆอยู่ คนเลวที่ลอยนวล มีเต็มไปหมดไม่ว่าจะคนจน(หนีข้อหา)คนรวย(ยัดเงิน) ถ้าคุณพูดถึงชาติหน้าผมก็คงไม่เถียง แต่คุณก็พิสูจน์มันไม่ได้ ทำดีแล้วรู้สึกดีอ่ะจริงครับ แต่คนทำเลวในหลัก(ความคิดของเรา)แล้วรู้สึกดีมันมีมั๊ย?? จริงๆแล้วกฎของธรรมชาติที่หลายคนกล่าวอ้างเนี่ย คือกฎของศาสนาที่คุณนับถือใช่ไหม?? ถ้าในอีกที่นึง การช่วยคนเป้นสิ่งชั่วช้าสามานย์ล่ะ?   การหาเหตผลมารองรับสิ่งที่ถูกต้องในประเพณีและสังคมเนี่ย ผมว่าสังคมไหนๆก็มีนี่นา เคยมั๊ยที่คุยกับคนที่เชื่อคนละอย่างกับคุณแล้วคุยกันไม่รู้เรื่อง ถ้าคุณไปว่าเขาโง่เพราะคุยกับคุณไม่รู้เรื่อง ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องน่ะครับ สิ่งนึงที่ได้จากกระทู้นี้คือคนที่นับถือศาสนามักมีอีโก้ คือเชื่อมั่นในสิ่งที่ตัวเองนับถือ แล้วก็กลายเป้นเหยียดความนับถืออื่นๆที่เห็นไม่ตรงกันกลายๆ ว่ามันผิด แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 50 11:51:57 จากคุณ : จาจาบิงแปงร่างเป็นไอ้มดเขียว - [ 22 ก.ย. 50 11:48:21 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ผมเชียร์คุณนะ มาเรียนรู้กายใจตัวเอง ลงไปละเอียดๆเข้าจะเริ่มเข้าใจของมันเอง กว่าผมจะยอมลงไปเรียนในตัวเองผมก็อยากรู้อยากเห็นมากมายเหมือนกัน เริ่มเห็นจิตใจทำงาน ปัญหาของศาสนาพุทธต้อนนี้คือ มันมีความจริง แต่ผู้ที่นับถือศาสนามีหลายระดับ เค้าไปหยุดที่กรอบศรัทธาเพราะรักตัวตน ไม่ค้นหาความจริงต่อไป ก่อนหน้านี้ผมก็ไม่คิดหรอกว่าศาสนาพุทธจะเป็นศาสนาที่สอนความจริง แต่คิดว่าศาสนาเป็นแค่เครื่องมือปกครองเท่านั้น และก็ไม่มีเหตุผลที่จะกลัว หรือปิดกั้นการเรียนรู้กายใจตัวเอง เพราะถ้ามันไม่จริงมันก็ไม่เห็นข้อเสียอะไรเลยที่เกิดขึ้นเพราะมันเป็นกายใจเราเอง ถ้ามันจริงเราก็จะรู้ความจริง จากคุณ : Dr.slump - [ 22 ก.ย. 50 12:09:51 ]

ความคิดเห็นที่ 73 บาป ไม่ต่างกับองคุลิมาล แหละ แล้วแต่ว่าจะสำนึกได้ทันท่วงทีหรือไม่ จากคุณ : Lord Vincent (Lord Vincent) - [ 22 ก.ย. 50 13:59:23 ]

ความคิดเห็นที่ 74 #71 เที่ยงตรงนะครับ ถึงอาจจะไม่เท่ากับ 0 เป๊ะๆซะทีเดียว แต่อยู่ในระดับที่น่าพอใจเลย เพียงแต่คุณไม่รู้สึกหรือไม่ได้อยู่ใกล้ชิดคนพวกนั้นเท่านั้นเอง ผมลองสังเกตุกับคนรอบข้างดู นี่ก็ประมาณ 3 ปีได้แล้ว ผมคิดว่าเรื่องกรรมนี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นแน่ๆครับ ความเชื่อส่วนตัวนะครับ จากคุณ : Purity - [ 22 ก.ย. 50 14:50:23 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ผมว่าคนที่มาตอบกระทู้นี้ส่วนใหญ่ไม่ได้เข้าใจอะไรที่จขกท.ถามเลยนะ-*- จากคุณ : ผีตู้เย็นน้อย - [ 22 ก.ย. 50 15:26:53 ]

ความคิดเห็นที่ 76 เดี๋ยววันหลังมาตอบครับ แต่ผมว่าไม่บาปนะ จากคุณ : นายปลาตีน - [ 22 ก.ย. 50 17:53:30 ]

ความคิดเห็นที่ 77 น่าคิดๆ จากคุณ : Matsutomo - [ 22 ก.ย. 50 18:37:10 A:117.47.142.162 X: TicketID:150847 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ... แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 50 19:05:54 จากคุณ : xnone - [ 22 ก.ย. 50 18:39:23 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ผมค่อนข้างผิดหวังกับคำตอบนะครับ นึกว่าถ้าเป็นห้องหว้ากอน่าจะได้คำตอบที่แตกต่างไปมากกว่า ยึด ถือ ศีล 5 เป็นกรอบประเด็นความคิด เพราะว่าคำถามของ จขกท นั้นออกนอกกรอบนั้นไปแล้ว คำถามน่าคิดดีครับ ยิ่งอ่าน 71 ก็ยิ่งเชื่อว่าคุณมาถามด้วยใจบริสุทธิ์จริงๆ หลังจากนี้ไม่แน่ใจนะครับ คนอิสลาม ทานหมูนี่บาปใช่ไหมครับ ถ้าทานไปมาทราบทีหลังก็รู้สึกผิด ด้วยคำถามเดียวกัน แต่คนพุทธกิน ไม่เคยคิดว่ามันบาป กรอบนี้เดียวกันรึเปล่าครับ หรือเราพบศาสนาหรือจักรวาลที่เคร่งเครียดว่า การฆ่าสิ่งมีชีวิตไม่ว่าสิ่งใดเป็นบาป แม้การใช้ยา ฆ่าเชื้อ และไวรัสต่างๆ แต่ในโลกมนุษย์ไม่้คิดอย่างนั้น เราจะเป็นคนบาปในสายตาของจักรวาลนั้นรึเปล่าครับ ? ข้อความทั้งหมดมาจากคนที่ไม่เคยศึกษาศาสนาเลยอย่างผมมีอะไรผิดพลาด ขออภัยครับ ด้วยความเคารพ จากคุณ : xnone - [ 22 ก.ย. 50 18:40:38 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ผมว่าผมตอบไว้ครอบคลุมแล้วนะครับ แล้วก็ไม่ได้อ้างถึงศีลเลยสักข้อเดียว ผมแค่บอกว่าอย่าใช้ตัวเองเป็นศูนย์กลางเท่านั้นเอง เอาแค่ประโยคนี้มาพิจารณา  Scenario ที่ยกมาก็ได้ (ประโยคนี้ไม่ครอบคลุมถึงเรื่องอื่นนะครับเช่นเรื่องกินหมูไม่กินหมู) เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับศีลเลยแม้แต่ข้อเดียวมันเป็นแค่มุมมองง่ายๆที่ไม่ใช่ Self Center เท่าันั้นเอง ซึ่งถ้าจะเอาหลักพุทธมาจับก็ใช้หลักเบื้องต้นแค่ "สิ่งต่างๆมีเหตุปัจจัย" เท่านั้นเองแต่ผมไม่อยากลงไปตรงนั้นเพราะเดี๋ยวมีคนบอกว่าใช้กรอบความคิดเก่าๆอีก ...... บางทีคนเราก็มีกรอบของการไม่ติดกรอบเหมือนกัน เหมือนคนที่ยึดมั่นกับการไม่ยึดมั่นนั่นแหละครับ จากคุณ : Nexus - [ 22 ก.ย. 50 20:44:46 ]

ความคิดเห็นที่ 81 คนบ้าที่ไม่รู้ผิดชอบชั่วดี ฆ่าคน มันเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วหรือ ผมว่าคุณทำตามความเชื่อเพราะคุณอยากได้บุญไง เพราะคุณเห็นแก่ตัว คุณไม่ได้เป็นคนที่เสียสละเพื่อมดแต่อย่างใด คุณคิดเข้าข้างตัวเองเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง ไม่ต้องให้บรรพบุรุษมาบอกว่าบี้มดได้บุญ คุณก็น่าใช้สมองวิเคราะห์แบบใจเขาใจเราเอาก็ได้ การที่คุณทำตามบรรพบุรุษบอก โดยไม่แม้แต่จะใช้สมองคิดเอง ก็น่าสมเพชนะ แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 50 22:23:22 จากคุณ : thelegendary - [ 22 ก.ย. 50 22:17:16 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ไม่เห็นจะต้องว่าเจ้าของกระทู้แรงๆเลยครับ  เขาก็แค่เสนอความคิดตามหลักความเชื่อ  ดูเป็นคำถามที่ดีมากๆเสียด้วยซ้ำไป....   คนตอบบางคนก็ยังยึดอยู่กับกรอบมากเกิน  อย่างที่ข้างบนบอกไว้จริงๆ แล้วการที่เราเอาความคิดเราเองไปตัดสินการกระทำของคนอื่นที่ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ว่าบาป หรือไม่บาปนั้น   ตรงนี้เป็น self center หรือปล่าวครับ     ถามมั่งๆ... จากคุณ : artech - [ 23 ก.ย. 50 09:54:20 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ลองคิดก่อนดีมั้ยว่า บุญ คืออะไร บาป คืออะไร ส่งมดไปสวรรค์  สวรรค์อยู่ที่ไหนล่ะ มีจริงหรือ แล้วมันอยากไปสวรรค์รึเปล่า บางทีมันอาจจะอยากตกนรกก็ได้นะ จากคุณ : pormonkey - [ 23 ก.ย. 50 13:46:48 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ผมคิดว่าไม่ว่าจะคิดยังไงเพื่อฆ่ากัน แต่จิตขณะฆ่า มันก็ต้องแวบไปด้วยโมหะจริตอยู่ดีครับ แม้จะช่วงแวบเดียว แต่จิตที่เกิดขึ้นเพื่อทำการสะบั้้นชีวิตนั้นแหละคือปาบที่แท้จริง แม้จะมีเหตุผลมาอ้างมากมาย เช่นปกป้องตัวเอง เพื่อปกป้องผู้อื่น แต่จิตในขณะฆ่ามันก็พุ่งขึ้นถึงความรุนแรงที่สุดเหมือนกัน เพียงแต่ผลกลับมาจะแตกต่างกันจากสภาวะจิตโดยรวม (เช่นฆ่าเพราะจำเป็นก็บาปน้อยกว่าฆ่าด้วยความสนุกสนาน แต่ยังไงก็บาปเพราะการฆ่าอยู่ดี) คำว่าดีหรือเลว บางคนคิดว่าเราคิดขึ้นมาเอง สามารถเปลี่ยนแปลงกรอบได้ตามสภาวะัสังคม แต่ผมคิดว่ามันไ่ม่จริง ไม่งั้นศาสนาหลักทั่วโลกไม่มีศีลพื้นฐานที่เหมือนๆกันหรอกครับ(ศีล5 มีทุกศาสนาแต่ปรับเปลี่ยนคำพูดแต่เนื้อหาเดียวกัน)เพราะเขาพิสูจน์กันมานานแล้วว่า การกระืำทำใดบ้่างที่ไม่ดี ที่ทำให้เิกิดจิตที่เป็นต้นเหตุของความเลวร้าย เป็นเหตุให้บุคคลนั้นๆมุ่งไปทางต่ำลงครับ น่าจะเรียกว่ามันเป็นข้อเท็จจริงทางธรรมชาติมากกว่า เหมือนน้ำย่อมไหลลงตามแรงโน้มถ่วงฉันท์ใด การฆ่ากันไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆมันก็สร้างจิตโมหะให้บุคคลผู้นั้นเช่นเดียวกันครับ จากคุณ : ....4จุด - [ 23 ก.ย. 50 15:56:04 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ประเด็นไม่ได้อยู่ที่หลักศาสนานะคะ มันอยู่ที่ความเชื่อค่านิยมในสังคมนั้น ๆ ต่างหาก ศาสนาเป็นเหมือนคำสอน ที่กำหนดให้ผู้คนในสังคมนั้น ๆ ปฏิบัติกันเพราะเชื่อว่าเป็นหนทางที่ถูกที่ควร (แต่กับใครบางคนที่ความเชื่อเค้าไม่เหมือนเรา แสดงว่าเค้าผิดหรือคะ) 1 บาป เป็นนิยามๆ หนึ่งซึ่งมนุษย์ลิขิตขึ้น 2 สามัญสำนึก เป็นสิ่งปรุงแต่ง สามารถหล่อหลอมได้จากสิ่งแวดล้อมของปัจเจกหนึ่งๆ ^ ^ เห็นด้วยกับข้อความนี้ค่ะ จากคุณ : ขนมจุ๊บ - [ 23 ก.ย. 50 16:55:11 ]

ความคิดเห็นที่ 86 เราชอบคำถามเจ้าของกระทู้นะ เราว่าจะบาปหรือจะบุญที่บี้มัน มันก็คือความเชื่อ มันพิสูจน์ไม่ได้เพราะมดมันไม่ได้พูดหรือสามารถยืนยันได้ ว่าถ้าบี้แล้วจะได้ไปสวรรค์จริงๆ เพราะงั้นเราว่าไม่ต้องไปช่วยส่งมันขึ้นสวรรค์ ปล่อยมันตามธรรมชาติดีกว่าตราบใดที่ยังไม่มีหลักฐานว่าการบี้มดคือการทำดีจริงๆ แบบนี้คุณก็ไม่มีอะไรต้องเสีย (คือไม่ต้องมานั่งคิดว่าจะได้บุญหรือบาป) จากคุณ : spoilt bytch - [ 24 ก.ย. 50 04:39:46 ]

ความคิดเห็นที่ 87 เบื่อพวก Self-Centre.. สำหรับผม แค่เอาใจเขามาใส่ใจเรา.. ก็น่าจะตอบคำถามได้ทุกข้อ.. โดยไม่ต้องสนใจว่า ศาสนาไหน สอนมาอย่างไร.. คนเราเมื่อถึงจุดหนึ่งจะคิดเองได้ ว่าอะไรถูกอะไรผิด ด้วยสามัญสำนึก.. กฏแห่งกรรม บุญ บาป เป็นกรอบที่ศาสนาสร้างขึ้นให้คนที่คิดเองไม่ได้.. ขึ้นชื่อว่า "กฏ" มันก็ต้องมีช่องโหว่ ไม่ว่าด้วยภาษาหรือการตีความ.. แล้วคนเรา ยึดเอาตัวอักษรที่เขียนออกมา แปลกันเป็นสิ่งให้ปฏิบัติ.. แล้วคาดหวังว่า สิ่งนั้นจะเป็นกรอบที่สมบูรณ์แบบ ให้คนปฏิบัติตามได้.. ขำดีนะ.. จากคุณ : Angos - [ 24 ก.ย. 50 10:48:24 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ไม่ใช่กระทู้นี้ไม่มีประโยชน์นะครับ ถ้าพวกคุณหาตรรกกะเจอ ว่ากรอบมาจากไหน อาจจะเอาไปช่วยถอดรหัสสร้างความเข้าใจชาวบ้านที่โดนโจรใต้หลอกได้ ปล. ผมก็ไม่ชอบพวกที่เข้ามาแล้วก็ใส่ๆๆ ความคิดตัวเองอย่างเดียว แทบจะไม่รู้เลยว่าจขกท. ตั้งคำถามเพราะอะไร อ่านโจทย์ดีๆนะครับ ถือว่าอยู่ห้องเรียนปรัชญาละกัน จากคุณ : Dr.slump - [ 24 ก.ย. 50 11:04:35 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ชอบคำถามคุณ จขกท จังนอกกรอบและลึกซึ้งมาก เราก็อยากรู้คำตอบหลาย ๆ ด้านเหมือนกัน เบื่อคำตอบที่ไม่ได้เอาแต่ความเชื่อของตนเอง มาเป็นบรรทัดฐาน แล้วตัดสินโดยที่ไม่้ได้มองต่างมุม ขอโหวตแล้วกัน จากคุณ : JEEPSHED - [ 24 ก.ย. 50 11:28:52 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ถ้าคนเชื่อว่าบาปมีจริงก็ก็ต้องบอกว่าบาป ถ้าคนไม่เชื่อว่าบาปมีจริงก็ต้องบอกว่าไม่บาป เมื่อคนถามเชื่อเรื่องบาป ก็จะได้คำตอบว่าบาป แต่้ถ้าเมื่อคนถามไม่เชื่อเรื่องบาป ก็ต้องการคำตอบว่าไม่บาป 5555+ จากคุณ : บาปต้องการตรรกะ? - [ 24 ก.ย. 50 18:45:29 A:58.8.152.25 X: ]

ความคิดเห็นที่ 91 คนที่เคยบี้มดมาก่อนเพราะถูกสอนว่าบี้มดไม่บาป แต่มีคนอีกกลุ่มหนึ่งมาบอกว่าบี้มดบาป เพราะบาปไม่บาปมันเกิดในตัวอยู่แล้ว ต่อให้เชื่อว่ามันไม่บาป แต่มันก็บาปอยู่ดี สรุป คนที่เชื่อว่าไม่บาป ก็เชื่อว่าไม่บาป คนที่เชื่อว่าบาปก็จะเชื่อว่าบาป แบบว่าต่างคนต่างมีกรอบเป็นของตัวเอง แล้วกรอปนั่นดันไม่มีส่วนอินเตอร์เซ็คกันเลยด้วย คิดๆ ไปเหมือนกรณีคนนับถือต่างศาสนากัน แล้วเป็นศัตรูกัน เพราะว่าพระเจ้าคนละองค์กันนะครับ ต่างคนต่างเชื่อ เหมือนจริงๆ แก้ไขเมื่อ 25 ก.ย. 50 15:10:39 จากคุณ : ดุก - [ 25 ก.ย. 50 14:27:28 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ขึ้นอยู่กับว่า....  จะให้ตอบแบบศาสนา หนือ หว้ากอ .... จากคุณ : ลูกเป็ดตกมัน - [ 25 ก.ย. 50 14:32:28 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ถ้าคนเผ่ากินคน ไม่เชื่อในเรื่องชาติหน้า หรือบาปบุญ คุณโทษ เขาก็ ไม่บาป ไม่มีคำว่าบาปในสารบบ จากคุณ : นายโอ้นโต้น - [ 25 ก.ย. 50 15:20:46 ]

ความคิดเห็นที่ 94 บาป บุญอยู่ที่คนกำหนดกันเองครับ มันไม่ได้มีจริงอะไรหรอกครับ สวรรค์ นรก คืออะไรครับ สิ่งที่ศาสนาสอนกันมาใช้ปาฏิหารย์เป็นตัวเชื่อมโยง ก็เพื่อให้คนอยู่กันในสังคมอย่างเป็นสุขครับ ลองคิดดูว่าถ้าศาสนาไม่สั่งสอนมา คนเราก็ทำเรื่องเบียดเบียนคนอื่นกัน สังคมวุ่นวายตายเลยครับ เรื่องที่ว่ากรรมติดตัวไปถึงชาติหน้า มีจริงหรือครับ ความคิด จิตวิญญาณผมยังสามารถไปสู่อีกร่างกายหนึ่งได้เหรอครับ เมื่อตายชีวิตก็ดับครับ เหมือนคอมพิวเตอร์ชัตดาวน์เครื่อง ไม่มีเชื่อมต่อกับอะไรอีกทั้งนั้น ถ้าชีวิตในภพหน้ามีจริง ผมจะดีใจมากครับ ที่รู้ว่าต่อไปชีวิตจะเป็นอย่างไร ขอตอบคำถามเจ้าของกระทู้ครับ ว่าสังคมเป็นตัวกำหนดครับว่าสิ่งใดทำแล้วไม่เบียดเบียนผู้อื่น สิ่งที่ควรทำ= บุญ สิ่งที่ไม่ควร=บาป สรุปว่าอยากจะทำเอี้ยๆอะไรก็ทำเถอะครับ(กินเหล้า เล่นยา อบายมุข) ถ้าไม่ไปทำให้คนอื่นลำบากก็โอเคแล้วครับ จากคุณ : เจ๊ขอร้อง - [ 25 ก.ย. 50 15:28:04 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ไม่มีใครรู้หรอกครับว่าบาปไม่บาป เพราะคุณถามในสิ่งที่ไม่มีใครรู้ แต่ละคนก็ตอบตามความเชื่อตัวเองล่ะครับ ถ้าคุณพอใจจะทำก็ทำเถอะครับ ถ้าไม่พอใจก็ไม่ต้องทำ อย่าคิดมากครับ เดี๋ยวบ้า ถ้าบาปมันมีจริง ไม่ว่าคุณจะคิดหรือเชื่อยังไงมันก็บาป ถ้าบาปไม่มีจริง คุณจะทำยังไงมันก็ไม่บาป แต่ถ้าบาปไม่มีจริงๆก็เถอะ คุณคิดว่ามันดีแล้วหรอ ต่อไปมันจะไม่แค่มดน่ะซิ จากคุณ : infernaldevilking - [ 25 ก.ย. 50 15:34:37 ]

ความคิดเห็นที่ 96 กฏของกรรม ก็เหมือนกฏหมาย คุณจะไปเที่ยวฆ่าคนแล้วบอกว่าไม่รู้กฏหมายได้มั๊ยล่ะครับ จากคุณ : [Zero] - [ 25 ก.ย. 50 16:33:29 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ถ้าไม่ได้บี้มด มดไม่ได้ไปสวรรค์แล้ว จขกท รู้สึกยังไงครับ หากรู้สึกทุกข์ร้อนใจ ผมว่าการบี้มดมันมีปัญหาแล้วละครับ จากคุณ : storywriter (storywriter) - [ 25 ก.ย. 50 16:34:46 ]

ความคิดเห็นที่ 98 เห็นด้วยกับ คห. บนๆ ครับ (จำไม่ได้แล้วว่าความเห็นไหน) (^_^") ถึงแ้ม้ว่าจะมีการบอกต่อๆ กันมา สอนต่อๆ กันมาว่าสิ่งใดเป็นบุญหรือเป็นบาป คำสอนนั้นมันก็เป็นเพียงแค่กฎในสังคมนั้นๆ เท่่านั้น แต่จริงๆแล้ว สังคมเป็นเพียงส่วนเล็กย่อยของธรรมชาติในจักรวาลอันกว้างใหญ่ และจัักรวาลมันก็มีกฎของมันเองเหมือนกัน คือ การมีเหตุและผล Action = Reaction  เมื่อมีเหตุย่อมต้องมีผลที่จะเกิดขึ้นแน่นอน ทำสิ่งใดก็ย่อมต้องได้รับผลของสิ่งนั้น ไม่ว่ามนุษย์จะรับรู้ได้หรือไม่ก็ตาม ยกเว้นว่าเราจะอยู่ในจักรวาลที่ ไม่มีเหตุไม่มีผล หรือ เหตุและผลไม่สัมพันธ์กัน . . . . ผมก็เคยนั่งคิดปัญหาแบบนี้คล้าย จขกท. เลย เคยคิดแบบนี้ตั้งกะสมัยเด็กๆ แก้ไขเมื่อ 25 ก.ย. 50 17:57:17 จากคุณ : Lambert K. - [ 25 ก.ย. 50 16:35:09 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ผมคิดว่าไม่บาปนะครับ แต่จริงๆมันบาปครับ แต่บาปเพราะสังคมกำหนดครับ เหมือนกับการบูชายันต์น่ะครับ จากคุณ : Champoo Extra Care - [ 25 ก.ย. 50 16:39:10 ]

ความคิดเห็นที่ 100 นานๆครั้งตอบซะที ขี้เกียจ login ผมเห็นด้วยกะ ความคิดเห็นที่ #71 #79 #82 #88 คุณเจ้าของกระทู้ครับผมเข้าใจคุณครับ จากคุณ : 5555ชอบ (p(ix)r) - [ 25 ก.ย. 50 16:43:16 ]

ความคิดเห็นที่ 101 จากคุณ : pattapon - [ 25 ก.ย. 50 16:53:48 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ผมเห็นหัวกระทู้ก็ขําแล้ว จากคุณ : คิดไม่ออกหรอก - [ 25 ก.ย. 50 18:08:10 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ฮาดี คุณ จขกท. น่ารักอะ คุณคนแนะนำ ทู้ ก็น่ารัก  55+  ยกความดีให้ มิสเตอร์ดุก จากคุณ : รัก_ประจำทาง - [ 25 ก.ย. 50 19:44:18 ]

ความคิดเห็นที่ 104 อ่านแล้วขำกับคำถามครับ แหะๆ ผมอยากถามต่อว่า แล้วจะรู้ได้อย่างไร ว่าอันไหนบาป อันไหนไม่บาป เราเชื่อศาสดา แต่เราใช้เหตุผลอะไรในการเชื่อ ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนเป็นบาป ทำให้ผู้อื่นสบาย เป็นบุญ แล้วจะรู้ได้ยังไงว่า ตายไปแล้วจะเดือดร้อน ตายไปแล้วอาจจะอยู่แบบสบายก็ได้ ไม่ต้องกินไม่ต้องหิวไม่ต้องเจ็บไม่ต้องป่วย แต่ผมยังไม่อยากตายนะ จากคุณ : ปีศาจหมายเลข5 - [ 26 ก.ย. 50 14:24:37 ]

ความคิดเห็นที่ 105 ถ้าสมมุติผมถูกแม่สอนมาตั้งแต่เด็ก ๆ ว่าการถูกฟ้าผ่าตายเวลาฝนตกจะทำให้ขึ้นสวรรค์   แล้วผมจะไปสวรรค์จริง  ๆ ไหมครับ ? อะไรที่เขาสอนมา  พระพุทธเจ้าตรัสว่า  ให้ใช้กาลามสูตรสิบวิธี  ในการตัดสิน   บนโลกใบนี้มีคำสอน  ถูกบ้าง  ผิดบ้าง    ไม่ใช่ว่าทุกคำสอน  หรือทุก ๆ  "การฟังกันตามมา"  จะดีเสมอไป ถ้าการฟังกันตามมา  เป็นจริง  ถูกต้องเสมอไป   คงไม่มีนักวิทยาศาสตร์บางคนต้องตายเพราะบอกว่า โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์หรอกนะ   ใช่มั้ย พระพุทธเจ้าสอนหลักกาลามสูตร ๑๓ วิธี   ต้องอ่านและทำความเข้าใจ   เพราะเป็นการคัดกรองข้อมูลที่สมเหตุสมผลมากที่สุด จากคุณ : SpiritWithin_HolyStream - [ 26 ก.ย. 50 14:37:54 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ข้อนี้คิดง่ายมากเลย ลองเปลี่ยนจากมด เป็นคนสิ แล้วคำตอบจะออกมาจากตัวคุณเอง อย่างไม่ต้องถามใครเลย ปัญหาของคุณมันอยู่ที่ว่า คุณไม่ได้เห็นว่า มดตัวนึงกับคนๆนึง มีความสำคัญเท่าเทียมกัน ความลังเลสงสัยจึงเกิดขึ้นเป็นลำดับๆ การบี้มดตัวหนึ่ง จะบาปหรือบุญ ขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณ หรือสังคมคุณยึดอยู่ ซึ่งมันเป็นแค่มโนภาพที่วาดขึ้นมา เป็นเพียงจินตนาการตามแต่ละบุคคลจะยึดถือเท่านั้น ไม่ว่ามโนภาพในแต่ละคนจะเป็นอย่างไร แต่สัจจะ กฎธรรมชาติ ยังคงดำรงสืบไป โดยไม่ขึ้นอยู่กับมโนภาพใดเลย -------------------- สัจจะ action่ได้ไปสวรรค์ แต่มันเป็นเช่นนั้นเอง การเป็นมดถูกบี้ไม่ใช่สุข ไม่ใช่ทุกข์ ไม่ใช่ผลบุญ ไม่ใช่ผลบาป แต่มันเป็นเช่นนั้นเอง จากคุณ : หมาป่าเดียวดายใต้ลมหนาว - [ 26 ก.ย. 50 15:16:46 A:58.8.57.8 X: TicketID:148583 ]

ความคิดเห็นที่ 107 -------------------- สัจจะ action = reaction คุณบี้มดร้อยตัว = ภายภาคหน้าคุณเกิดเป็นมดถูกบี้ร้อยชาติ ------------------- จึงเกิดการล้างแค้น จองเวร สลับกันไปในบทของเจ้ากรรมนายเวร จนหาต้นต่อไม่ได้ว่าใครเป็นผู้ก่อกรรมคนแรก เหมือนกันเส้นวงกลมที่ลากซ้ำๆอยู่บนวงเดิม จนหาไม่ได้ว่าตรงไหนคือจุดเริ่มต้น ตรงไหนคือจุดสิ้นสุด มันเพียงแต่หมุนไปเรื่อยๆ เป็นวงที่เรียกว่าวัฎฎสงสาร อย่างไม่จบไม่สิ้น การบี้มดไม่ใช่บุญ ไม่ใช่ใบาป ไม่ใช่ได้ไปนรก ไม่ใช่ได้ไปสวรรค์ แต่มันเป็นเช่นนั้นเอง การเป็นมดถูกบี้ไม่ใช่สุข ไม่ใช่ทุกข์ ไม่ใช่ผลบุญ ไม่ใช่ผลบาป แต่มันเป็นเช่นนั้นเอง จากคุณ : หมาป่าเดียวดายใต้ลมหนาว - [ 26 ก.ย. 50 15:23:33 A:58.8.57.8 X: TicketID:148583 ]

ความคิดเห็นที่ 108 แล้วแต่คนที่พิจารณาจะนับถือศาสนาใดหรือมีความเชื่ออย่างไรครับ ถ้าคนทีไ่ด้รู้เรื่องนับถือพุทธก้จะบอกว่าบาป ถ้าคนที่ได้รู้เรื่องไม่ได้เชื่อเรื่องบาปบุญก้ไม่บาป ถ้าคนนับถือลัทธิบี้มด ก้อาจจะถือว่าได้บุญ ถ้าคนที่บี้มดเองก้จะคิดว่าไม่บาป เพราะมดไปสู่สวรรค์ จากคุณ : Sir.ขงเบ้ง - [ 26 ก.ย. 50 15:43:55 ]

ความคิดเห็นที่ 109 ผมเข้าใจคุณนะ เพราะผมก้อเคยคิด  จริงๆ ผมว่า ศาสนา น่ะ เป็นเรื่องของความเชื่อ ความเชื่อหลายๆอย่าง เป็นสิ่งสมมุติครับ  นรกสวรรค์ น่ะไม่มีจริงเป็นรูปธรรมหรอกครับ บาป บุญ ก้อเช่นกัน  เป็นสิ่งสมมุติ  เพื่อให้เกิดความเข้าใจ และสื่อสารตรงกัน โดยหลักการ ศาสนา ปรารถนา ให้มนุษย์อยู่กันได้อย่างมีความสุข  แต่ ไอ้คำว่าความสุข นี่มันแล้วแต่คนนิยามนะ ดังนั้น วิธีปฏิบัติ ในแต่ละศาสนา จึงแตกต่างกันไป อย่างที่เห็นๆ นั่นละครับ ที่สำคัญ เมื่อศาสนาเป็นเรื่องของความเชื่อ ศรัทธา จึงง่ายที่จะถูกฉกฉวย ผลประโยชน์ จากผู้มีอำนาจในทุกยุค ทุกสมัย  เรื่องการบี้มด แล้วขึ้นสวรรค์ หรือ จะทำอะไรที่พิสดาร กว่านั้นแล้วขึ้นสวรรค์ เป็นเรื่องของความเชื่อถือศรัทธาครับ ถ้าเค้าเชื่อมาตลอด เค้าก้อจะทำแบบนั้นไปอย่างมีความสุข  ไม่ต่างกับเราไปวัด ทำบุญนั่นละครับ   เราเชื่อยังไง เราก้อเป็นไปอย่างนั้นละครับ  นรกสวรรค์ มันมีซะที่ไหน ลองมีจริง ผมเลิกนับถือศาสนาไปไม่ง่ายกว่ารึ ไม่ต้องตกนรก หรือ ตั้งศาสนาใหม่มาเลย ใครทำอะไรก้อขึ้นสวรรค์ เพราะ ศาสนาผมมีแต่สวรรค์  สมัยเรียน  ผมมีอาจารย์คนนึง ท่านชอบพูดโยงไปเรื่องศาสนามาก ท่านสอนวิชาไฟฟ้า ซึ่งก้อเป็นคำสอนดีๆนะครับ  วันนึงท่านก้อโยงมาอีกตามปกติ  ผมก้อดันนึกสนุก เลยถามท่านไปว่า นรกในแต่ละศาสนา เหมือนกันมั้ย  ถ้าผมนับถือพุทธ แล้ว ย้ายไปคริสต์ ผมจะตกนรกของศาสนาไหน  แล้ว ถ้าผมไม่มีศาสนา นรกของที่ไหนจะรับผิดชอบ พุทธ คริสตื หรืออิสลาม หรือ ศาสนาย่อยๆ อื่นๆ แล้ววันดีคืนดี เกิดสงครามศาสนาขึ้น แล้วผมดันไปถูกคนในศาสนาที่ มีความเชื่อว่า ฆ่าคนในสงครามศาสนาไม่ผิด เจี๋ยนเอา อันนี้ผมตายฟรีใช่ป่ะ  เพราะอย่างศาสนาพุทธ กรณีนี้ก้อจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรกันต่อไป  อาจารย์ท่านก้อเงียบ  แล้วก้อไม่เอาเรื่องศาสนามาพูดอีกเลย จากคุณ : ARMS STRONG - [ 26 ก.ย. 50 16:36:59 ]

ความคิดเห็นที่ 110 สำหรับผม ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นครับจะบี้ไม่บี้ เพราะมันไม่มีบาปบุญคุณโทษอะไรอยู่แล้วครับ จากคุณ : อยากให้ทุกคนพร้อมที่จะจัด - [ 26 ก.ย. 50 16:43:59 ]

ความคิดเห็นที่ 111 บาปไหมนี่ ก็พูดยากนะคับกรณีนี้ แต่ การบี้มดอย่างไร้เหตุผล ย่อมไม่ดีต่อระบบนิเวศแน่ เพราะถ้ามดหายไปจากระบบนิเวศ ระบบนิเวศย่อมเปลี่ยนแปลงไป เมื่อมีวัตถุอินทรีย์หล่นอยู่บนพื้น คงขาดสิ่งมีชีวิตที่จะมาย่อยสลายมัน ในขั้นต้นเป็นแน่ (แน่นอนว่า หลายท่านคงยกให้ปีเตอร์ทำหน้าที่นี้แทน) ผมก็ชักงงๆ แล้วว่า ระบบนิเวศจะเปลี่ยนแปลงไปยังไง แต่เปลี่ยนแน่ครับ จากคุณ : . (GreenEyes) - [ 26 ก.ย. 50 17:31:19 ]

ความคิดเห็นที่ 112 ผมตอบอิงศาสนาพุทธ เท่าที่พอรู้แบบงูๆปลาๆนะครับ  ^ ^" เท่าที่รู้พระพุทธเจ้าไม่ได้เป็นคนกำหนดว่าสิ่งไหนบาปหรือไม่บาป แต่มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติอยู่แล้ว แค่เอามาบอกต่อพวกเราเท่านั้น กรรมคือการกระทำ บาปบุญก็คือการทำเลวทำดี มันก็ตามหลักเหตุและผลที่คุณทำดีก็จะได้รับสิ่งดีทำชั่วก็ได้ชั่ว ส่วนที่เจ้าของกระทู้ถามมันก็เหมือนเรามีเมล็ดถั่วเขียวนะครับ บางคนอาจจะบอกว่าปลูกแล้วเป็นแตงโม บางประเทศอาจจะบอกว่าปลูกมาเป็นกล้วย บางดาวอาจจะบอกว่าเป็นมะพร้าว แต่สุดท้ายคำตอบมันก็มีแบบเดียวแหละครับแค่เราอาจจะยังพิสูจด้วยตัวเองไม่ได้ว่าอะไรคือคำตอบที่แท้จริง  เราไม่ได้เป็นผู้กำหนดอะไรมันแค่มีอยู่แล้ว ส่วนตัวผมว่าพระพุทธเจ้าท่านคงรู้แล้วละผมคิดว่างั้นนะ - -" จากคุณ : - -" (monkeyish) - [ 26 ก.ย. 50 17:42:43 ]

ความคิดเห็นที่ 113 คนที่บอกไม่บาปเพราะไม่เชื่อ เพราะเป็นแึ่ค่กรอบที่ถูกกำหนด หรือสังคมกำหนด เอาเป็นว่า คุณลองพยายามจะฆ่าสัตว์เล่นๆสักตัวดูก็ได้ครับ จะตัวเล็กตัวใหญ่ แล้วลองดูจิตตัวเองขณะกำัลังสะบั้นชีวิตดู จิตคุณเป็นแบบไหน เทียบกับปกติ แล้วลองคิดดูว่าถ้าจิตแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยๆจะเป็นอย่างไร ถ้าไม่หลอกตัวเองก็น่าจะเห็นว่ามันไม่ใช่จิตตามปกติ มันเป็นจิตที่พาให้เกิดโมหะ มันเป็นข้อเท็จจริงในธรรมชาติ ว่าการเบียดเบียนชีวิตอื่นมันไม่มีผลดีทั้งนั้น ไม่ว่าจะมองแนว humanism หรือแนวศาสนาก็ตาม การเบียดเบียนชีวิต เป็นการสร้างภาวะจิตที่ลงต่ำ และไม่เกิดผลดีต่อใครเลย ขำดี บอกว่าฆ่่าสัตว์ไม่บาปเพราะไม่เชื่อว่ามันบาป อืม ต่อให้มันไม่บาปในความคิดของคุณ แต่ถ้าได้ทำไปจริงๆจิตใจคุณน่ะ ลงต่ำไปแล้วล่ะครับ มองจิตใจตัวเองก่อนใช้สมองคิดคาดเดาสิครับ จากคุณ : ....4จุด - [ 26 ก.ย. 50 19:39:13 ]

ความคิดเห็นที่ 114 ศาสนาพุทธถึงได้สอนให้เชื่อด้วยสติปัญญา ไม่ใช่เชื่อตามๆ กันมาด้วยเหตุนี้เอง... จากคุณ : Conservative_Progressive - [ 26 ก.ย. 50 19:39:57 ]

ความคิดเห็นที่ 115 อันนี้อ้างตามศาสนาพุทธนะ กฏแห่งกรรม ก็คือธรรมชาตินี่เอง ไม่ใช่สิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงคิดขึ้นเองหรือตั้งขึ้นเอง   แม้แต่ในบทสวดมากมายก้ได้กล่าวว่า พระพุทธองค์ทรงค้นพบธรรมที่มีอยู่แล้ว และเอามาบอกต่อ ธรรมก็คือธรรมชาตินั่นเอง  ธรรมชาติมันเป็นยังไงในโลกนี้มันก็เป็นอย่างนั้น มีเหตุปัจจัยของมันอยู่  ถ้าคุณสั่งสอนลูกคุณมาตั้งแต่เด็กๆว่า การที่เราได้เจอถ่านไฟก้อนแดงๆไฟคลุอยู่เมื่อไร จับมันขึ้นมาแล้วอมมัน มันจะสดชื่น มันจะทำให้เรามีความสุข มันจะเย็นสบาย ลูกคุณก็เชื่อโดยสนิทใจ และบริสุทธิ์  แต่พอลูกคุณไปจับถ่านไฟลุกโชนนั้นจิง  จะเกิดอะไรขึ้น กฎธรรมชาติมันเป็นอยู่แล้ว มันมีตามเหตุและก็ปัจจัยของมัน อยู่แล้ว จากคุณ : มังกรจักรวาล - [ 26 ก.ย. 50 20:12:18 ]

ความคิดเห็นที่ 116 เรื่องสมมติของเจ้าของกระทู้ น่ากลัวนะ มันหมายถึง ถ้าคนเราได้รับการสั่งสอนที่ผิดมาตลอด ก็มีโอกาสที่จะทำบาปโดยคิดว่าไม่บาป คำว่าบาป จะตามด้วยกรรม คือ บาปกรรม กรรมคือการกระทำ กระทำสิ่งใดก็ต้องได้รับผลสิ่งนั้น เคยมีผู้รู้บอกว่า ไม่เจตนา ไม่บาป แต่นี่ เล่นบี้มด ด้วยเจตนา (แม้จะหวังดี อยากให้ไปสวรรค์ก็ตาม) แต่ผลของมัน คือ ไปสวรรค์ เอ้อ ไปไหนก็ไม่รู้ล่ะ เร็วกว่าปกติ เรียกว่าตัดวงจรของชีวิตเขา (เหมือนไฟฟ้าลัดวงจรมั๊ง) ยกเว้น จะเดินไปเหยียบมด โดยที่มองไม่เห็น จึงไม่เจตนา สั้นๆ แล้วกัน มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก การกระทำใดๆ ก็เริ่มจากจิตใจก่อนเป็นอันดับแรก เอ.....หมู่บ้านนี้อยู่ไหนน๊า จากคุณ : คนธรรมดา (aoywan) - [ 26 ก.ย. 50 21:18:24 ]

ความคิดเห็นที่ 117 บาปคือคำที่นิยามขึ้นมาเพื่อให้สังคมสงบสุข คนกลัวบาปจึงไม่อยากทำใครเดือดร้อน ผลดีของการนิยามบาปขึ้นมาก็คือสังคมสงบสุข ถ้าสมมุติว่ามีหมู่บ้านนึงสอนว่าการฆ่ากันคือการปลดปล่อย คนที่จะโดนฆ่าก็คงไม่ดิ้นรน และเชื่อว่าการตายคือการปลดปล่อยและยอมให้โดนฆ่าอย่างมีความสุข ถ้าเป็นแบบนั้นสังคมก็คงไม่วุ้นวาย แต่ประชากรจะลดลงเร็วจนหมดสุญพันธุ์หมด จากคุณ : Dequardo - [ 26 ก.ย. 50 21:55:23 ]

ความคิดเห็นที่ 118 คือคนในหมู่บ้านเชื่อได้ไงว่าบี้แล้วมดจะไปสวรรค์ พิสูจน์ได้แล้วไงหรือเชื่อต่อๆกันไปงั้นเอง(พิสูจน์ไม่ได้) แล้วลองคิดดูว่าบี้มดแล้วมดจะรู้สึกอย่างไร เอาใจเขาใส่ใจเราถ้าเป็นเราจะอยากถูกบี้ไหม คิดง่ายๆก็รู้แล้วว่ามันเจ็บ เจ็บแล้วมันจะรู้สึกดีไหมล่ะ มีใครอยากเจ็บบ้าง มันคือการเบียดเบียนชัดๆ(พิสูจน์ได้) สุดท้ายจะเชื่อเรื่องที่พิสูจน์ได้ หรือจะเชื่อเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ล่ะ แค่นี้เอง โยนิโสมนสิการ ดูก็หายจากความโมหะแล้ว จากคุณ : งามหน้า - [ 26 ก.ย. 50 23:01:27 ]

ความคิดเห็นที่ 119 คุณเคยถามมดไหมว่ามันอยากไปสวรรค์ที่คุณคิดขึ้มมาหรือเปล่า หรือว่าคุณก็อยากจะไปสวรรค์ที่คุณคิดขึ้มมาฮะ ถ้าอยากรู้ว่ามดมันคิดยังงัยแนะนำให้ไปยืนกลางถนนให้รถสิบล้อมันมาบี้คุณดูคุณก็จะรู้ว่ามดมันอยากไปสวรรค์ของคุณไหม จากคุณ : ฉันไม่เคยได้อยู่ในชีวิตของเธอ - [ 26 ก.ย. 50 23:22:54 ]

ความคิดเห็นที่ 120 .......เหตุส่งให้เกิดผล สมดุล และ ธรรมชาติ(เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป) บาป, บาป-  [บาบ, บาบปะ-] น. การกระทําผิดหลักคําสอนหรือข้อห้ามใน ศาสนา ในกรณีที่ จขกท. ตั้งโจทย์นี้ขึ้นมา พิจารณาตาม แล้ว " ไม่บาป " เพราะเป็นการทำบุญในความเชื่อของ จขกท. แต่..... จาก เหตุส่งให้เกิดผล สมดุล ของธรรมชาติ(เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป) ผล = จขกท.ถูกแม่สอนมาตั้งกะเด็กๆว่าการบี้มดเป็นความดี เหตุ = แม่สอนมา เหตุ = ตาสอนแม่มา เหตุ = ทวดสอนตามา เหตุ = ... สอน ต่อๆ กันมา.... เหตุ = ... สอน ต่อๆ กันมา.... เหตุ = ... สอน ต่อๆ กันมา....    ไล่ไปเรื่อยๆ จนถึง คนๆแรกที่ให้เหตุผลว่า เหตุที่การบี้มดเป็นความดี ทำให้มดไปสู้สวรรค์ นั้นเกิดจากอะไร..??? แล้วจึงไป พิจารณา เหตุที่ทำให้ คนๆแรกที่คิดบี้มดเป็นความดี ว่า ทำไมจึงต้องคิดเช่นนั้น คำสอนว่า บี้มดเป็นความดี จึงเกิด กระทู้ ของ จขกท. อยู่ในช่วง คำสอนว่า บี้มดเป็นความดี ตั้งอยู่ แล้วต่อไป คำสอนว่า บี้มดเป็นความดี ก็ต้อง ดับไปเป็น ธรรมดา(ธรรมชาติ) จากคุณ : choo_chin_jung - [ 27 ก.ย. 50 01:23:44 ]

ความคิดเห็นที่ 121 อืม....ลึกซึ้ง จากคุณ : PiGsPy - [ 27 ก.ย. 50 03:26:52 ]

ความคิดเห็นที่ 122 ดีไม่ดีต้องมีสิ่งเปรียบเทียบครับ ความดีความชั่ว ตามหลักทฤษฎีสัมพัทธภาพ ถ้าเปลี่ยนจากบี้มดเป็นบี้คนแทน ผมว่าถ้ามองในที่ตัวผมเป็นคนเหมือนกันคงไม่ดีแน่ แค่เครื่องบินตกมีคนตายไปไม่ถึงร้อยผมยังรู้สึกไม่ดีเลย แต่ถ้ามองในด้านของสิ่งมีชีวิตอื่นๆแล้วผมว่าอาจจะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเค้าก็ได้ การบี้มดดีไม่ดีต้องดูว่าตัวเรายืนมองอยู่ในจุดไหน แค่ใช้มือบี้มดมันไม่ทำให้มดสูญพันธุ์หรอก ถ้ามองในแง่ของมด ถ้าเป็นมดที่อยู่บ้านข้างๆก็คงดีใจว่าเราช่วยจำกัดคู่แข่งไปได้พวกนั้นจะได้หาอาหารได้มากขึ้น ถ้ามองในมุมของฝูงมดที่ถูกบี้ก็คงคิดว่าไม่ดีแน่แรงงานที่ช่วยหาอาหารน้อยลง จะมองในด้านไหนหล่ะครับ ถ้ามองในด้านจิตใจผมว่าก็แล้วแต่นะ คนทำบุญด้วยการฆ่าสัตว์หรือสนับสนุนในการทรมารสัตว์ก็เห็นเยอะแยะ ทำกันในวัดก็มี ทำแล้วสบายใจก็ได้บุญไป ศีลจริงๆแล้วเป็นแค่ข้อห้ามที่มีจุดประสงค์ไว้ให้ยึดเหนี่ยวเป็นเส้นทางที่ให้คนไปสู่จุดมุ่งหมายในการพ้นทุกข์นั้น ซึ่งเปรียบเหมือนกฎหมายลูก ซึ่งกฎหมายสูงสุดคือกฎหมายรัฐธรรมนูญไม่ใช่หรือครับ ถ้าไปดูประวัติการเกิดศีลขึ้นว่ามีความเป็นมาอย่างไรก็จะรู้ว่าความจริงแล้วเริ่มแรกไม่มีศีลเลยด้วยซ้ำ จากคุณ : .............................. - [ 27 ก.ย. 50 03:48:22 A:58.8.44.19 X: TicketID:087386 ]

ความคิดเห็นที่ 123 ตรรกในศาสนา บางทีก็ขัดแย้งกันเอง แต่สาวกไม่คิดถึง จากคุณ : ไม่มีสมาชิกชื่อนี้ - [ 27 ก.ย. 50 06:21:04 ]

ความคิดเห็นที่ 124 กฎแห่งความสมดุลย์ กฏแห่งธรรมชาติ กฎแห่งกรรม เป็นความหมายเดียวกันหมด ใช้ควบคุมทุกสรรพสิ่ง จากคุณ : ผมเอง - [ 27 ก.ย. 50 07:37:06 A:67.159.44.88 X: TicketID:156111 ]

ความคิดเห็นที่ 125 เปรียบเหมือน เหล่าหนอนอยู่ในกองอึมาตลอดชีวิต มันก็มีความสุขของมันไปตามประสา แต่มนุษย์เราที่มีปัญญามากกว่ากลับสามารถมองเห็นได้มากกว่านั้น http://www.wimutti.net อจ. หลวงพ่อปราโมทย์ จากคุณ : 22 - [ 27 ก.ย. 50 11:17:42 A:10.6.142.237 X:202.28.181.9 TicketID:070680 ]

ความคิดเห็นที่ 126 จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย สุราเมรยะปะติปาตา การะนา บลาๆๆๆๆ จากคุณ : LAPD21 - [ 27 ก.ย. 50 11:23:56 ]

ความคิดเห็นที่ 127 สมมุติว่าผมดูหนังฆาตรกรรมแล้วพบว่าการฆ่าคนเป็นเรื่องธรรมดา เป็นการส่งคนที่เราจะฆ่าไปสู่โลกหน้าที่ดีกว่า การปิดบ้านไม่มิดชิด แสดงว่าเจ้าของบ้านต้องการให้ผมเข้าไปหา เพื่อส่งเจ้าของบ้านไปยังโลกหน้า การที่ผมถือมีดเข้าไปหาเจ้าของบ้าน การที่เจ้าของบ้านวิ่งหนีเพราะเค้าอยากทดสอบเจตนารมณ์ผมว่าจะสามารถอดทนกับความยากลำบากในการปลดปล่อยมันได้หรือไม่ การที่เค้าโหยหา ร้องขอชีวิต เพราะเค้าอยากทดสอบว่าคุณมีคุณสมบัติ ใจกล้ามากพอไหมที่จะปลดปล่อยเค้าไปสู่โลกหน้า เมื่อผมเอามีดกระซวกท้องของเหยื่อ เค้ากรีดร้อง ไม่ได้ร้องเพราะความเจ็บปวด แต่เป็นเสียงดีใจสุดชีวิตที่ได้รับการปลดปล่อยต่างหาก ผมจึงกระทำมันโดยไม่มีความขุ่นเคืองหรือรู้สึกผิดแม้แต่นิดเดียว เมื่อผมเดินในเวลากลางคืน เห็นบ้านไหนที่ปิดบ้านไม่ดี ไม่ใส่กลอน ก็จะปีนเข้าไปพร้อมกับ มีด ดาบ เลื่อย..ไว้ทำงาน ผมมีความสุขในการปลดปล่อยพวกเค้า ก่อนหั่นศพเอาไปฝังไว้ที่ป่าช้า... บาปไหมครับ???(ถามจขกท.) จากคุณ : ปอมซัง - [ 27 ก.ย. 50 12:02:48 ]

ความคิดเห็นที่ 128 อืมผมอ่านหลายๆ ความเห็นแบบไม่ละเอียด ผมเริ่มสรุปอะไรบางอย่างให้ตัวเองได้แล้วครับ ไม่ต้องพูดเรื่องนรกสวรรค์เลย ว่ากันที่บาปสำหรับผมคืออะไร บอกไว้ก่อนว่าไม่เคยศึกษาศาสนาเลย เข้าโต๊ะศาสนา ไปเชียร์คู่มวยเอามันอย่างเดียว โอเค ผมจะไม่พูดถึงมดล่ะ เพราะเป็นแค่การยกตัวอย่างที่ทำให้เห็นได้ง่ายและเห็นผลช้า สำหรับผม บาปคือความรู้สึกผิด ผิดต่อมโนธรรม จริยธรรม และ บลา่ๆๆๆๆๆ ต่างๆ ของมนุษย์ บาปยังรวมถึงความไม่สบายใจ ความร้อนใจด้วย ถ้าเราฆ่าคนตามศาสนานั้นๆ ถ้าเทียบตามตรรกะ ที่ผมคิดเอง บาปสำหรับคนๆ นั้นคือ จริงๆ เขาก็ต้องรู้อยู่แล้วว่าการฆ่าคนมันยังไงๆ อยู่ เพราะเขาเองลึกๆก็คงไม่อยากตาย แต่การไปฆ่าคนอื่น มันทำให้เขาต้องเกิดความสงสัยขึ้นบ้าง ว่าถ้าเป็นเราเป็นพี่น้องเราล่ะ และความร้อนใจก็คงสุมขึ้นเรื่อยๆ นี่หล่ะบาป ถึงจะไม่คิดเดือดร้อนเพราะมีศรัธา แรงเหลือเกิน แต่ซักวัน ผลของการกระทำ (กรรม) ก็ต้องย้อนกลับมาหาตัวเขา ซักวันเขาต้องถูกตามล่าคืน เพราะความแค้นของเจ้ากรรมนายเวร ลูกเมียเขาต้องเดือดร้อน เพราะอาจจะโดนลูกหลงไปด้วย นี่หล่ะบาปอีกแบบ และความทุกข์ที่เขาต้องเผชิญ แม้เขาจะเชื่อว่านี่คุณบุญ แต่สิ่งที่เขาจะต้องเจอ มันก็"นรก" น่ะหล่ะ สุดท้าย อ่านข้างบนแล้วนึกขึ้นได้ หมู่บ้านนั้นต้องรู้สึกบาป ครับ เพราะซักวันมดต้องหมดไป จิตใจต้องร้อนรุ่มว่า แล้วเราจะได้บุญกันอย่างไรเจอมดทีก็แย่งกันบี้ เกิดมาเฟียบี้หมด หาบุญ อาจจะเกิดลัทธิย่อยขึ้นว่า บี้ปลวกก็ได้บุญพอกัน แล้วพวกบี้มด ก็มาเถียงกันกลายเป็นสงคราม ครูเสดไป และสุดท้ายผลกรรมที่เขาจะได้รับคือ ของเสียในหมู่บ้านมากขึ้นเรื่อยๆ เชื้อโรคมากขึ้น เพราะผู้ช่วบเหลือ ย่อยสิ่งเหล่านั้น พวกเขาได้บี้มันไปหมดแล้ว ระบบนิเวศน์จึงเสียไป นี่หล่ะคือ กรรม ที่เขาจะได้รับ จากการกระทำที่เกินพอดี....โอ้วตรงด้วย เพราะส่งผลกรรมถึงลูกหลาน ไม่เกิดกับเขา ก็ต้องเกิดกับลูกหลานเขาซักวันครับ ปล มั่วล้วนๆ จากคุณ : xnone - [ 27 ก.ย. 50 12:26:33 ]

ความคิดเห็นที่ 129 คิดเหมือนเจ้าของกระทู้เลยครับ ปัญหาสังคมส่วนใหญ่ก็เกิดจากแบบนี้แหละครับ ปัญหาโลกแตกจริงๆ ตอนนี้ก็เลยได้แต่ทำในสิ่งที่คิดว่าตนเองทำถูก โดยไม่คิดอะไรมาก เพราะไม่ว่าเราทำอะไรก็ต้องมีคนหาว่าเราทำผิดอยู่ดี ต้องคอยระวังอย่าให้คนที่คิดว่าเราทำผิดมากกว่าคนที่คิดว่าเราทำถูก ไม่งั้นจะกลายเป็นคนเลวไป เหมือนกับที่ จขกท. ตั้งกระทู้นี้ ถือว่าได้สร้างบุญไว้ และก็สร้างบาปควบคู่ไปด้วย จะถูกผิดก็แล้วแต่คนว่าจะมองแง่ไหนแล้วกันครับ จากคุณ : vandalism - [ 27 ก.ย. 50 13:59:49 ]

ความคิดเห็นที่ 130 อย่างที่ช้างบนหลายๆความเห็นบอกนะ ของผม ลองรวบรวมได้แล้วคือ 1.ก่อนบี้ไปถามมันหรือเปล่า ว่ามันอยากถูกบี้ไหม ชีวิตใคร ใครก็รัก ถ้าเปลี่ยนจากมด มาเป็นชีวิตอื่นๆ เป็นสัต์เลี้ยงลูกด้วยนม ฯลฯ 2.เอาใจเขามาใส่ใจเรา ถ้าเราเป็นมดแล้วอยากตาย คงไม่รอคนมาบี้หรอก คงกระโดดน้ำฆ่าตัวตายไปแล้ว 3.ของบางอย่าง ถึงมองไม่เห็น พิสูจน์ไม่ได้ มันก็อยู่ของมันอยู่อย่างนั้น ตั้งแต่เรื่องโลกแบน มนุษย์ต่างดาว อะไรพวกนี้ จนเมื่อเรามีเครื่องมือที่พิสูจน์ หรือค้นพบได้นั่นล่ะ ถึงจะเชื่อ 4.ชาตินี้ชาติหน้า เคยคิดบ้างไหม ว่าทำไมคนเราถึงเกิดมาต่างกัน? ความสมบูรณ์ของร่างกาย ฐานะครอบครัว สถานที่เกิด คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่อะไรล่ะ เป็นตัวกำหนด ว่าเราจะเกิดอยู่ในท้องใคร? จากคุณ : xx SlipNOTE Kevin Theater xx - [ 27 ก.ย. 50 17:31:36 ]

ความคิดเห็นที่ 131 บางศาสนาสอนว่าฆ่าคนอื่นโดยสละชีพตัวเองด้วยจะได้ไปอยู่กับศาสดา = เป็นบุญ บางลัทธิ การฆ่าเพื่อสังเวยถือว่าเป็นบุญ จากคุณ : ขนำน้อย - [ 27 ก.ย. 50 18:38:16 ]

ความคิดเห็นที่ 132 สำหรับผมมันก็เหมือนกับที่คนสมัยนี้เชื่อว่าฆ่าเชื่อโรคไม่บาป บาปไม่บาปอยู่ที่คนคิดนั่นแหละ บางคนอาจจะเถียงเรื่องขนาดและการรับรู้ของมดที่มีมากกว่า แต่เชื่อโรคก็เช่นกันมันก็พยายามมีชีวิตอยู่อย่างเห็นได้ชัด พยายามสืบพันธุ์และหลีกหนีสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย บางชนิดก็พยายามปรับตัว เหตุผลก็คือมันก็ไม่อยากตายไม่อยากหายไป เหมือนๆกับมด ทำไมถึงถือว่าไม่บาปละ? ผมว่ามันอยู่ที่คนคิดไปเองทั้งนั้น จากคุณ : Papiyongpi - [ 27 ก.ย. 50 18:52:34 ]

ความคิดเห็นที่ 133 ผมมองว่า ต้องเริ่มจากการไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกันก่อนนะครับ คือทุกสิ่งย่อมเกิดมาแล้วมีหน้าที่ต่างๆกันไป ยกตัวอย่างเรื่องของคุณ ถามว่าคุณจะเจอมดมั้ยถ้าคุณไม่ได้วางขนมไว้ มดมันก็มีหน้าที่ของมันก็คือหาอาหาร แน่ล่ะมันก็ต้องมากินขนม ซึ่งมันก็เป็นการเบียดเบียนคุณ(ถ้าคิดในแง่ร้าย)(เกิดทุกข์) ผมว่าถ้าในฐานะเจ้าของขนมก็ต้องคิดว่าของๆฉัน(ยึดมั่นถือมั่น) แล้วจะทำไงกับมดดี ลองคิดดูมันผิดถึงขนาดหรือ (คิดถึงก่องข้าวน้อยฆ่าแม่) มันไม่มีวิธีอื่นหรือ ที่เบียดเบียนซึ่งกันและกันน้อยที่สุด ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นน้อยที่สุด ผมว่าถ้ามีวิธีอื่นที่เสียหายน้อยที่สุด จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด คุณย่อมรู้แก่ใจดีว่าคุณได้ทำอะไรลงไป มันย่อมติดอยู่ในใจคุณไปตลอดจนกว่าคุณจะตาย ไม่ต้องคิดถึงชาติหน้าหรอก แม้ว่ามันจะเป็นแค่มด มาแย่งอาหารคุณ คุณถึงกับฆ่ามันเลยหรือ ถ้าเปลี่ยนจากมดเป็นเด็กผอมๆหิวโซคนนึงล่ะ คุณยังจะคิดทำแบบเดียวกันกับมดหรือปล่าว จากคุณ : deletenumlock - [ 27 ก.ย. 50 19:33:10 ]

ความคิดเห็นที่ 134 ขึ้นกับการนิยามคำว่า "บาป" นะคะ ถ้านิยามบาป ว่า ผิดหลักศาสนา จากหัวข้อกระทู้ อนุโลมว่า ความเชื่อนั้นเป็นหลักในศาสนา ก็ไม่บาปค่ะ ไม่ขัดหลักนี่นา ถ้านิยาม บาป ว่า ความรู้สึกไม่ดี คนที่เชื่อเช่นนั้น แล้วบี้มด (ด้วยความรู้สึกดีเต็มที่) ก็ไม่บาปอยู่ดี แต่ก็น่าคิด ว่า ถ้าหลักการของสองศาสนา(หรือความเชื่อ) ขัดกันโดยสิ้นเชิง จะเป็นยังไง สมมติว่า ฝ่ายนึงเชื่อว่า การฆ่าเป็นสิ่งดี อีกฝ่ายไม่เชื่อแบบนั้น... ฝ่ายที่ไม่ชอบถูกฆ่า แต่ถูกไล่ฆ่า คงไม่สงบสุขล่ะค่ะ ถ้าอยากสงบสุข คงต้องเปลี่ยนความเชื่อของฝ่ายตรงข้ามที่พยายามจะฆ่าตัวเองให้ได้.. หรือ ควรจะเปลี่ยนความเชื่อตัวเอง ไปเป็นว่า รีบๆตายก็ดี ชีวิตจะได้สงบสุข... ความเห็นที่ขัดแย้งกันแล้วอยู่ร่วมกันไม่ได้นี่ น่ากลัวจริงๆ จากคุณ : dittaya - [ 27 ก.ย. 50 19:39:14 ]

ความคิดเห็นที่ 135 เวรกรรม..... มันมีจริงนะคะ ตอนเด็กเราชอบไปตีรังมดแดง ชอบเห็นมันยกไข่ หนีออกมา โตขึ้น... กรรมตามทัน มาจาก มด... เเต่เป็นคนที่ชื่อ มด มาทำให้เรายุ่งยากเรื่องที่อยู่ไปพักนึงเลย อาจจะบังเอิญ เเต่เราเชื่อว่ามันเป็น..เวรกรรมค่ะ จากคุณ : ซาลาเปา ขาว อวบ เอ็กซ์ - [ 27 ก.ย. 50 20:22:20 ]

ความคิดเห็นที่ 136 ถ้าถามผมอ่ะนะ บี้มดนี้บาปหรือไม่บาป มันก็เกิด "กรรม" ขึ้นแล้วครับ จะเป็นกรรมดีหรือชั่วก็ไม่รู้ ขึ้นกับสเกลที่จะมาวัด   ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเอาอะไรมาบอกว่ามันดีหรือชั่วอ่ะแหล่ะ เพราะคำว่าดีหรือชั่วมันก็แค่คำที่เราใช้เรียกสิ่งนามธรรม การบี้มดก็คือเหตุ มีเหตุก็ต้องมีผล เหมือนแรงกิริยา = แรงปฏิกิริยา ซักพักมันก็จะมีผลของ กรรม  ตามมา   ซึ่งก็คือ  สิ่งที่ผู้บี้จะได้รับ   ไม่ว่าเขาจะมันเรียกว่าบาป  ดี  ชั่ว  หรือว่าหมีแพนด้า  ก็แล้วแต่ครับ ความรู้สึกของผู้บี้น่าจะเป็นตัวกำหนดเองนั่นแหล่ะว่าบาปอ๊ะป่าว(ก็ต้องขึ้นกับเขาด้วยแหล่ะว่า  "บาป  บุญ  สวรรค์ "หน้าตาเป็นยังไง จากคุณ : ไม่งงครับ ไม่งง (ไม่งงครับ ไม่งง) - [ 27 ก.ย. 50 20:38:01 ]

ความคิดเห็นที่ 137 ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เกิดครับ ไม่ว่าจะปลูกฝังจากพ่อแม่ ครูอาจารย์ สภาพแวดล้อม สังคมที่เกิดมา ล้วนแล้วแต่มีผลต่อจิตสำนึก ถึงคนที่ด่าเจ้าของกระทู้แรงๆนะครับ ลองคิดดูพวกคนป่ากินเนื้อคน เขาก็ไม่รู้หรอกครับว่ามันเป็นการเบียดเบียน มันขึ้นอยู่กับว่า จิตเราคิดอะไรส่งผลออกมาเป็นการกระทำ เสือมันจะรู้มั้ยว่าบาปเวลาไล่กินคน หมีมันจะรู้มั้ยว่าเบียดเบียนสัตว์โลกเวลาล่าเนื้อ ต่างชีวิต ต่างสายพันธุ์ ก็ต่างจิตสำนึก ในเมื่อเหล่ามนุษย์ถูกพัฒนาจิตสำนึกให้ดีขึ้นเรื่อยๆ และกำหนดศีลธรรมขึ้นมาเพื่อไม่ต้องการให้คนอื่นทำอะไรที่ไม่เป็นที่พึงประสงค์ นั่นคือจุดประสงค์ในการอยู่ร่วมกันในสังคม ถามว่าฆ่าสัตว์บาปมั้ย จนตายผมก็จะพูดว่าไม่บาปในภาวะจิตสั่งให้จำเป็นต้องฆ่า เพื่อ...เป็นอาหาร ป้องกันตัว.. นอกจากจิตคิดว่าฆ่าแล้วจะผิดจะบาปจิตมันจะหมกหมุ่นอยู่แต่เรื่องนี้วันๆก็มีแต่นรกๆๆ อย่าลืมจิตใต้สำนึกมีผลที่สุดแล้ว ศีลธรรมอันดีงามก็เหมือนกฎหมายเมื่อมีคนหมู่มากก็ต้องมีกฎ เกิดมาไม่มีอะไรติดตัวไป ตายไปก็ต้องไม่มีอะไรติดตัวไปครับ สุดท้ายนี้หมั่นทำความดีเพื่อจิตใจที่ผ่องใสในรากฐานตรรกะที่ถูกสั่งสอนมาตั้งแต่เล็ก..ยกเว้นคุณถูกสอนให้เป็นคนป่าบ้าถือมีดไล่เขวี้ยงคนอื่นจุดจบในสังคมก็เป็นที่รู้กันครับ จากคุณ : Alexzus - [ 27 ก.ย. 50 22:03:05 ]

ความคิดเห็นที่ 138 ถ้าถามผม ผมว่าในกรณีนี้ไม่บาปครับ จากคุณ : Disorder - [ 27 ก.ย. 50 22:04:51 ]

ความคิดเห็นที่ 139 เหมือนที่ตอนนี้ เรากินไก่ กินหมู กินเนื้อวัว กินปลา กิน ฯลฯ ใครๆ ก็ว่าอร่อย ไม่มีใครว่าเราใจร้ายสักคน จากคุณ : pentatonic_man - [ 27 ก.ย. 50 22:51:51 ]

ความคิดเห็นที่ 140 ผมไม่ได้อ่าน กระทู้ตอบทั้งหมด แต่ผมตอบเจ้าของกระทู้ว่า......... ตามความคิดผม... ก็ไม่น่าจะบาป แต่มดจะได้ไปสวรรค์หรือไม่ไม่รู้ แต่ในเมื่อการฆ่า การทำร้ายทำให้คนอื่นเดือดร้อน ..... และไม่ปรารถนาให้เกิดขึ้นกับตนเอง.... เราเลือกทางทำดีช่วยเหลือกันไม่ดีกว่าหรือ เพราะทำให้คนอื่นสบายใจ และเราเองก็สบายใจด้วย... เช่นกัน จากคุณ : ทิวแถว (ทิวแถว) - [ 27 ก.ย. 50 23:46:55 ]

ความคิดเห็นที่ 141 ศาสนาพุทธไม่ได้สอนให้เชื่อ หรือยึดถือเรื่องของกรรมหรอกครับ แต่สอนให้รู้แล้วก็วางซะ  แต่ที่ศาสนาพุทธต้องพูดถึงเรื่องกรรมก็เพราะมันมีอยู่จริง  คือทำอะไร ก็ต้องมีผลอื่นตามมาทั้งสิ้น  คือมี cause & effect แม้ว่าคุณจะทำชั่วแต่ไม่เห็นผลที่ตามมาก็ตาม แต่จิตใจคุณย่อมเกิดความขุ่นมัว และ เป็นเหตุให้ทำกรรมชั่วเพิ่มมากขึ้น  เหมือนกับพวกผู้ก่อการร้าย ที่ถูกสอนว่าการฆ่าคนเป็นบุญ หรือ ช่วยให้เขาไปสวรรค์ ก็ย่อมทำให้เขาพอใจที่จะฆ่า จากนั้นก็เห็นว่าการฆ่าเป็นเรื่องที่ธรรมดา จนมองไม่เห็นตัวเองว่าที่ทำมันไม่ดีอย่างไร เวลาการฆ่าสัตว์เล็กถึงจะเห็นเป็นบุญ แต่ถ้าถึงเวลาใครมาฆ่าเราบ้างเราก็ต้องกลัวลนลานเหมือนกัน  ถ้าคิดได้อย่างนี้ ก็คงมองเห็นได้ว่าไม่มีใครอยากถูกฆ่าหรอกครับ   ทีนี้ถ้าเราฆ่าสัตว์เล็ก ด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่  มันก็ย่อมเป็นเหตุผลให้เราต้องฆ่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  ด้วยความชอบธรรม ขาดเเมตตา กระทั้งฆ่าได้แม้สัตว์ใหญ่ โดยเหตุผลเริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นทิษฐิของตัวเอง เหมือนที่ผมยกเรื่องผู้ก่อการร้ายนั่นแหละ   ถ้าเราสะสมนิสัยการฆ่าไว้กับตัวเองมากๆ เมื่อถึงเวลาที่จะตายก็ย่อมไม่ได้ไปดีแน่ๆครับ เพราะถึงตอนนั้นสมองไม่ได้อยู่ในโหมดคิด  แต่อยู่ในโหมดที่คล้ายฝัน  คนที่คิดว่าจะได้ไปสวรรค์ แต่ชีวิตตอนนั้นกลับอยู่กับความกลัวตาย หรือความลนลานของสัตว์ที่เขาฆ่า ก็มักจะมีจิตใจที่เกาะกับสิ่งเหล่านี้ และปลายทางก็คงเป็นตรงกันข้ามกับที่จะได้ขึ้นสวรรค์    นี่คือสิ่งที่เกิดจากผลรวมของชีวิตครับ แต่ถ้าคนเราฆ่าสัตว์เล็กน้อย แต่ทำบุญใหญ่มามาก  จิตก็อาจเกาะกับความเป็นบุญนั้น ซึ่งอาจส่งผลแรงกว่า และไปในที่ดีๆก็ได้  แต่ก็ไม่ใช่ว่าสิ่งที่เขาทำชั่วนั้นก็ไม่ใช่ว่า จะไม่มีผลอะไร มันย่อมส่งผลในอนาคตแน่นอน  นี่เป็นคำตอบทางพุทธศาสนาที่บอกว่า ทำไมคนเรา หรือสัตว์ถึงได้เกิดมาแตกต่างกัน  และในบางครั้งคุณทำไม่ได้แล้วทำไมกรรมมันไม่สนองทันที   แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 50 00:21:44 จากคุณ : พันทองทิพย์ - [ 28 ก.ย. 50 00:01:47 ]

ความคิดเห็นที่ 142 อืม...ผมเข้าใจ จขกท.ครับ คำว่าบาปมีนิยามแตกต่างกันไปตามคำสอน คงใช้มาตรฐานเดียวกันทั้งเอกภพไม่ได้ แต่ถ้าเป็นกรรมผมเชื่อว่าเป็น cosmic law มากกว่า เช่น เราเหยีบหางหมา หมาก็กัดขาเรา ตามสัญชาติญาณ หาได้เป็เวรตามกรรมตามสนองไม่ จากคุณ : แมวเกาะ - [ 28 ก.ย. 50 02:33:42 ]

ความคิดเห็นที่ 143 อืมมม จะถามว่า บาปมั้ย เราก็ไม่รู้อะค่ะ แต่พอรับรู้เรื่องแล้ว คิดว่าควรจะแก้ไข ก็ไม่รู้จะแก้ไง เล่นถูกสอนกันมาอย่างนี้ตั้งแต่บรรพบุรุษ คนรุ่นหลังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอะไรคือถูกผิด แต่ในฐานะคนนอกหมู่บ้านที่เฝ้ามอง เราว่า มันน่าเศร้านะคะ ที่เบียดเบียนชีวิตคนอื่นแล้วนึกว่าดี ของแบบนี้น่าจะคิดด้วยตรรกะได้ (แต่ก็นั่นอีกแหละ ตรรกะของคนในหมู่บ้านมันก็ได้มาจากบรรพบุรุษสอนกันมา) เหมือนบาปบริสุทธิ์เลยนะคะ -_- จากคุณ : pankee - [ 28 ก.ย. 50 02:38:20 ]

ความคิดเห็นที่ 144 เขาถึงว่าถ้าเราไปเกิดในยุค หรือดินแดนที่ไม่มีคุณธรรม และเกิดมิจฉาทิษฐิเช่นนี้กันทั่วไป ก็จะเป็นกลียุคน่ะแหละครับ โลกจะแห้งแล้ง  มีแต่ความหวาดกลัว ไปทั่ว จากคุณ : พันทองทิพย์ - [ 28 ก.ย. 50 12:47:48 ]

ความคิดเห็นที่ 145 รู้สึกว่า หลาย ๆ ความเห็น ไม่เข้าใจ คำถามของเจ้าของกระทู้เลย ออกมาตอบ แต่กรอบที่ตีไว้ ว่าบาป ว่าให้ไปหาพระเทศน์ด่วน จขกท เขาคงไม่ได้คิดอย่างที่เขาเขียนขึ้นมาจริง ๆ หรอก แค่เป็นสมมุติฐาน ผมก็เคยคิดสมมุติแบบ จขกท เหมือนกัน (แต่ไม่ได้สมมุติว่าเป็น มด นะ ผมสมมุติเรื่องอื่น โหดกว่านั้นเยอะ) หลักการ ที่ จขกท คิด มันคล้าย ๆ กับ เหตุที่ทำให้เกิดศาสนาขึ้นมา เพื่อเป็นกรอบความคิดให้กับ มวลชน เพื่อนให้เกิดแนวทางเดียวกัน (อาจจะคล้าย ๆ กับ"ความเชื่อ") เหมือนกับที่ เรา ๆ ได้ถูกสอนมา ตามหลักศาสนา ว่าทำอย่างนั้นดี ทำอย่างนี้ไม่ดี ทำให้คนเราสามารถตัดสินใจการกระทำได้ ดังนั้น ผม คิดว่า ที่ หลาย ๆ ความเห็นตอบมานั้น ยังอาจ เอาตัวเองอยู่ในกรอบ แล้วตอบออกมา แต่ถ้าผมเอาตัวเอง ออกมา (แบบแกล้งลืม ศาสนานิดนึง   - -") ถ้าถูกสอนมาอย่างนั้น ตามที่ จขกท ว่าไว้ "การบี้มด จะทำให้รู้สึกสบายใจ และยินดีมากๆ เพราะเมื่อทำแล้ว จะได้ผลตอบแทน คือความสุข แล้วได้ขึ้นสวรรค์ และเมื่อทำไปแล้ว จะไม่รู้สึกแม้แต่นิดเดียว ว่าเป็นบาป(เนื่องจากไม่ขัดคำสอนของ บรรพบุรุษ หรือ สังคมส่วนใหญ่" อันนี้พิสูจน์ ได้ว่า มนุษย์ เป็นสัตว์สังคมโดยแท้ การกระทำการใด ๆ นั้น ล้วนก็ทำเพื่อให้ตัวเองดำรงอยู่ได้ ในสังคม ไม่มีคนใด สามารถ ดำรงชีวิต โดยลำพังได้   (อาจจะมีคนแย้งว่าอยู่ได้ ซื้อข้าวกินเอง อยู่คนเดียวไม่เห็นเป็นไร แต่อย่าลืมว่า ข้าวที่คุณซื้อมา คุณไม่ได้ปลูกเอง ยังไงก็ต้องมีความเกี่ยวข้องกับคนอื่นอยู่ดีนั่นแล) โอ้วววว ตอบไปตอบมา เหมือนตัวเอง กำลังหลุดจากโลก ดึงตัวเองกลับมาก่อน อี๊บ ๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : Koraja - [ 28 ก.ย. 50 12:50:36 ]

ความคิดเห็นที่ 146 คิดเหมือน  ความคิดเห็นที่ 145   เอาตัวเองออกมาด้วยอีกคน  ...อ่า  กาดึ๊บ ๆ ๆ ๆ จากคุณ : Cutez - [ 28 ก.ย. 50 16:13:32 ]

ความคิดเห็นที่ 147 ผมเข้าใจคุณคัรบ จขกท ผมเข้าใจ *-* จากคุณ : ไอ้แอนนนนน - [ 28 ก.ย. 50 20:41:34 ]

ความคิดเห็นที่ 148 ผมคิดว่าประเด็นของคำถามน่าจะอยู่ในเรื่องของการปลูกฝังความคิด ค่านิยมที่ผิดเพี้ยนของกรอบสังคมหนึ่งๆเสียมากกว่านะครับ คงไม่เกี่ยวกับบาปบุญซักเท่าไหร่ หรือถ้าเกี่ยวก็เกี่ยวกันแบบนิดๆ.... หรือว่าผมตีความคำถามผิดไปเอง งงจังวุ้ย..? จากคุณ : ตกใจไฟดูด - [ 28 ก.ย. 50 22:41:00 ]

ความคิดเห็นที่ 149 ไม่รู้ก็ไม่น่าจะผิด เพราะความจริงแล้ว พระพุทธเจ้าเองก้ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตไปมากมายเช่นกัน จากคุณ : KCrazy16 - [ 28 ก.ย. 50 23:55:36 ]

ความคิดเห็นที่ 150 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 29 ก.ย. 50 10:56:12 ]

ความคิดเห็นที่ 151 แต่ละคนก็คิดกันไปเองว่าบาปบุญคืออะไร บางคนก้นิยามขึ้นมาเองตามความคิดความเชื่อของตน  เช่น บุญคือความสุข บาปคือความทุกข์ บาปคือนรก บาปไม่มีจริง บาปถูกนิยามขึ้น ฯลฯ เป็นสิ่งที่คิดเอาเองตามประสบการณ์หรือสิ่งที่ได้รู้มา ซึ่งจะนำมาให้อ้างเป็นที่ตั้งไม่ได้ เพราะความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว . . . และยังไม่มีใครพิสูจน์ความจริงนั้นได้กระจ่างชัด ด้วยเหตุนี้คนล้านมาตอบก้อาจมีความเห็นต่างกันล้านอย่าง ตามความเชื่อหรือศาสนาของแต่ละคน ต่างคนต่างเชื่อว่าความคิดความเชื่อของตัวเองถูก ดังนั้น ถ้าจะถามว่าบาปหรือไม่ คำตอบทุกคำตอบก้ถือว่าไม่มีถูกหรือผิด เพราะความเชื่อนั้นต่างกัน ขอให้ทุกคนเข้าใจ แต่ถ้าถามตามหลักสังคม ก้ต้องยึดความเชื่อของคนส่วนใหญ่เป็นหลัก ว่าถูกหรือผิด ถึงแม้ความจริงจะใช่หรือไม่ใช่ก้ตาม จากคุณ : Sir.ขงเบ้ง - [ 29 ก.ย. 50 11:14:57 ]

ความคิดเห็นที่ 152 บุญบาปมีที่ไหน ไร้สาระมากมาย มันก็แค่สิ่งที่คนสร้างขึ้นมา เพื่อที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข(มั้ง) อย่าไปเชื่อมันมาก คิดง่ายๆ กินเหล้าบาปเพราะอะไร ไมกินข้าวไม่บาป ฆ่าสัตว์บาป ตัดต้นไม้ไม่บาป แค่ต้นไม่มันไม่ร้องใช่มะ ดูหนังโป๊ผิดกฏหมาย ขับรถชนคนตายไม่ติดคุก อันนี้ชอบๆ จากคุณ : ตี๋ฮะ (EnvymasK) - [ 29 ก.ย. 50 12:56:39 ]

ความคิดเห็นที่ 153 คุณอยากถามว่าจะบาปไหมไปทำไม? จากคุณ : อะไรคือสิ่งหายาก แต่ไม่มีค่า - [ 29 ก.ย. 50 16:11:41 ]

ความคิดเห็นที่ 154 อ่านมาตั้งแต่กระทู้แรกจนจบ  ยอมรับเลยว่าตรรกะแต่ละท่านสุดยอดทั้งนั้นสูสีจนให้คะแนนไม่ถูก  โดยส่วนตัวเห็นด้วยกับ คห.ที่ 92 และ 109. ครับ จากคุณ : วัยกลางคืน - [ 29 ก.ย. 50 17:36:05 ]

ความคิดเห็นที่ 155 มีคห.นึงบอกว่า ขณะฆ่าชีวิตในจิตใจเป็นโมหะ มีจิตวิญญาณในการฆ่า เป็นบาป แต่ถ้าเราคิดว่าการฆ่าคือการทำความดี จิตขณะนั้นก็คงเปี่ยมด้วยความสุข มันก็คงไม่บาป ผมเริ่มสับสนในชีวิตซะแล้วสิ ... จากคุณ : ยัยสมทรง` (ยัยสมทรง`) - [ 30 ก.ย. 50 00:07:11 ]

ความคิดเห็นที่ 156 leaf ... ถ้ามีสมองคิดได้แค่นี้ ก็น่าจะบาปแต่บาปไม่มาก เพราะไม่มีเจตนา แต่เหมือนว่าคุณเกิดมาในภพภูมิที่มีคำสอนไม่ค่อยจะถูกหลักเท่าไหร่ เหมือนว่าได้เกิดมาเป็นคนทั้งที แต่บุญน้อย มาเกิดในที่ที่มีคำสอนแบบผิด ๆ เนื่องจากคนที่เชื่อเช่นที่จขกท.ยกตัวอย่างมา นี่ก็คิดน้อยไปหน่อย ไม่คิดบ้างหรือ ว่าทำไมตัวเองยังไม่อยากตายเลย แล้วมดมันจะไปอยากตายทำไม จากคุณ : 73078 - [ 1 ต.ค. 50 16:26:04 A:124.120.187.47 X: TicketID:073078 ]

ความคิดเห็นที่ 157 บาปง่ะ ยังไงก็ฆ่าสัตว์ T_T จากคุณ : fAnGkii - [ 1 ต.ค. 50 17:01:05 ]

ความคิดเห็นที่ 158 ไม่รู้ว่าบาป บาปกว่า รู้ว่าบาป เป็นประเภท ตกนรกแล้วแถมไม่ยอมขึ้นอีกต่างหากงัย ผลกรรม ใจเรากำหนดไม่ได้ กฏของกรรม เป็นกฏตายตัว ไม่ขึ้นกับจิต กรรมมาก่อนจิต มีกรรมจึงมีจิต แค่คิดแค่เชื่อ เรียกว่าเปลือกจิตไม่ใช่จิตแท้ จิตแท้ยังโง่อยู่จึงไปนรก แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 50 19:05:54 จากคุณ : Suomi - [ 1 ต.ค. 50 19:02:31 ]

ความคิดเห็นที่ 159 จากมุมมองส่วนตัว คิดว่าไม่บาปนะ บาป-กรรมมันขึ้นกับสำนึกในใจของแต่ละคน เหมือนกับแพทย์ให้ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งถ้าหากถือว่าแบคทีเรียเป็นสิ่งมีชีวิตก็น่าจะบาปเนอะ ฆ่าไปเ็ป็้นแสนเป็นล้านตัว แต่แพทย์กลับไม่คิดว่าตนเองทำบาป เพราะคิดว่าตัวเองได้ทำบุญเนื่องจากได้ช่วยชีวิตคนไว้ได้ 1 คนให้รอดจากภาวะติดเชื้อ เมื่อเอาไปเปรียบเทียบกับภาวะสงคราม ทหารยิงฝั่งศัตรูได้ 1 คน หลายคนอาจจะคิดว่ามันเป็นบาป แตถ้าทหารคนนั้นคิดว่า การทำเช่นนั้นสามารถช่วยเพื่อนร่วมชาติได้ 1 คน ก็น่าจะได้บุญเนอะ ผมเปรียบเทียบแปลกไปไหม คุณอาจจะคิดว่าเปรียบเทียบกันไม่ได้ แบคทีเรียมันไม่น่าจะมีชีวิตจิตใจ ฆ่าได้ไม่ผิด--> ไม่บาป แล้วมันคล้ายกับ จขกท ที่ได้รับการสั่งสอนมาว่า การบี้มดเป้นสิ่งที่ดี ไม่ผิด ไม่บาป ว่าไหม? คิดเล่น ๆ นะ อย่าเคืองกันล่ะ ^ ^ จากคุณ : นกตัวน้อย (นกตัวน้อย) - [ 1 ต.ค. 50 19:29:40 ]

ความคิดเห็นที่ 160 #156 ถาคุณคิดว่ามดมันมีระดับความคิดเท่ามนุษย์ เพราะฉนั้น มดมันอาจจะอยากตายบ้างก็ได้ คนมันยังตายเลย #158 ผมสงสัยว่าใครเป็นคนกำหนด กฎแห่งกรรมขึ้นมา ไม่รู้ก็ผิดงั้นหรือ งั้นทำไมเวลาตกนรกเราจำไมได้ ทำไมไม่ทำให้เราจำได้เราจะได้ไม่ทำอีก หรือว่ามันเป็นแค่คำพูดลอยๆ จากคุณ : งงกับชีวิต (Alexzus) - [ 1 ต.ค. 50 19:42:11 ]

ความคิดเห็นที่ 161 ^ ^ ^ ^ ข้อสงสัยเรื่องตกนรกแล้วทำไมต้องลืม ผมก็สงสัยครับ การลงโทษทำให้หลาบจำ แล้วก็ดันทำให้ลืม มันไม่สมเหตสมผลน่ะ จากคุณ : จาจาบิงแปงร่างเป็นไอ้มดเขียว - [ 2 ต.ค. 50 10:18:42 ]

ความคิดเห็นที่ 162 จากการอ่านคำถาม และความเห็นส่วนหนึ่ง สำหรับผม กระทู้นี้มีคำตอบครับ เป็นคำตอบในใจ ของใคร ของมัน ครับ ต่างกรรม ต่างวาระ ต่างความคิด คำตอบก็แตกต่างกันไป จากคุณ : ภารโรงอาวุโส (ปลอมตัวมา) - [ 2 ต.ค. 50 11:23:26 ]

ความคิดเห็นที่ 163 ตอบเจ้าของกระทู้ค่ะ หากเราทำอะไรโดยขาดเจตนา มันก็ไม่ถือเป็นการกระทำที่ทำให้เกิดกรรมนะคะ จากที่เคยเรียนมาตอนมัธยมปลาย เช่น คนตาบอดเดินไปเหยียบมดโดยไม่ได้มีเจตนาจะฆ่า คนตาบอดไม่บาปค่ะ เพราะเจตนาบริสุทธิ์ แต่ไอ้เรื่องที่อยู่อยู่ไปบี้มดเล่นนี่ โดยสามัญสำนึกของคนเราก็ต้องทราบอยู่แล้วใช่ไหมคะว่านั่นเป็นการเบียดเบียน และทำให้มดตาย และคุณเองก็บี้มดโดยเจตนา แม้คุณจะได้รับการสั่งสอนมาว่าการบี้มดเป็นความดี แต่ก็บาปค่ะ เพราะคุณมี"เจตนา"ที่จะทำลายชีวิตมด แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 50 12:31:26 จากคุณ : กอหญ้าพาฝัน - [ 2 ต.ค. 50 12:30:43 ]

ความคิดเห็นที่ 164 ^ ^ ^ ถ้าผมบี้มดด้วยใจบริสุทธ์ล่ะครับ ถ้าเจตนาตอนนั้นผมต้องการให้มันเป็นสุขล่ะครับ และผมก็คิดเอาเองว่าการฆ่าเป็นทางที่จะให้มันเป็นสุข ตามคำสอนเหล่านั้น ผมเคยสนทนาธรรมกับพระท่านนึงตอนไปปฏิบัติธรรมที่วัดปัญญา ผมเคยถามท่านว่าการที่เราตบยุง บาปไหม? ท่านตอบผมว่า สัตว์เหล่านี้ล้วนเป็นสัตว์เดรัจฉาน การที่เราฆ่ามันถือว่าไม่เป็นบาป ... ผมก็คิดในใจตอนนั้นว่า ใครกันหนอเป็นคนกำหนดสิ่งเหล่านี้ ใครหนอที่กำหนดให้ตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาล ใครหนอที่ตั้งชื่อสถานที่ที่เราอาศัยว่า `โลกมนุษย์` ทั้งๆ ที่มีแมลงอาศัยอยู่มากกว่าเราเกือบล้านเท่า ... จากคุณ : ยัยสมทรง` - [ 2 ต.ค. 50 13:12:00 ]

ความคิดเห็นที่ 165 ... #160 ผมให้คิดบนพื้นฐานตามธรรมชาติปกติ ดังนั้นคนที่มีจิตเป็นปกติ คงไม่มีใครอยากตายหรอกครับ จากคุณ : 73078 - [ 2 ต.ค. 50 14:19:36 A:124.120.182.86 X: TicketID:073078 ]

ความคิดเห็นที่ 166 การฆ่าสัตว์เป็นบาปครับ  ถ้าเข้าใจในธรรมก็จะรู้ แม้จะบอกว่าสั่งสอนกันมา เราบริสุทธิ์ใจ แต่ธรรมก็คือความจริงที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะค้นพบมันหรือไม่ ก็คือการทำบาปไม่รู้ตัว ซึ่งบาปคือสิ่งที่ก่อเกิดต่อจิตใจ มากน้อยขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราทำ อย่างบี้มดนี้ ทุกครั้งที่ทำ บาปก็จะเกาะจิตใจที่ละเล็กละน้อย ทำบ่อย ๆ เป็นเรื่องธรรมดา ก็แสดงว่าจิตใจหยาบแล้ว การฆ่าสิ่งมีชีวิตอื่นต่อไปก็เป็นไปได้โดยง่าย การก่อบาปที่ใหญ่กว่านี้ก็จะตามมา ต่างจากการกระทำโดยขาดเจตนาจะไม่เป็นบาป  เช่น เหยียบมดตายโดยที่เราไม่รู้สึกตัวเลย  ไม่มีทางเป็นบาป เพราะจิตใจเราไม่ได้รับบาปมา แต่ที่เจ้าของกระทู้ยกตัวอย่างมาเป็นการฆ่าโดยเจตนาเป็นบาปชัดเจน จากคุณ : ZtahC - [ 2 ต.ค. 50 14:58:39 ]

ความคิดเห็นที่ 167 เป็นคำถามเชิงอ้างอิงที่ดีครับ กระตุ้นให้คิด คล้ายๆถามว่าคนเรามองเห็นภาพโลกแบบนี้ แล้ว...แมลงวันมันจะมองเห็นภาพของโลกแบบเราไหม สิ่งมีชีวิตแต่ละอย่าง หรืออย่างเดียวกันแต่คนละสังคม ก็มีมุมมองที่ต่างกัน กรณี จขกท นี้ ไม่ผิด ไม่บาปครับในกรอบของความคิดของ จขกท เพราะเจตนาบริสุทธิ์แท้ๆ(ก็คุณเชื่อแบบนั้นนี่นา) จากคุณ : แสงเรืองรองของฟ้าหลังฝน - [ 2 ต.ค. 50 16:24:04 ]

ความคิดเห็นที่ 168 ตามความคิดของผมนะครับ บาปบุญ ความดีความชั่ว เป็นสิ่งที่มนุษย์กำหนดขึ้นมาเองทั้งนั้นครับ กินสัตว์ใหญ่แล้วบาป แล้วสัตว์เล็กมันไม่ใช่ชีวิตหรอครับ ฆ่าสัตว์ใหญ่ตัวนึงกินได้ตั้งกี่คน เทียบเป็นชีวิต/มื้อแล้วยังจะดีซะกว่า ฆ่าสัตว์แล้วบาป อย่างงี้พวกสัตว์กินเนื้อมันก็ไม่มีโอกาสได้บุญเลยสิครับ จากคุณ : amtap - [ 2 ต.ค. 50 16:28:19 ]

ความคิดเห็นที่ 169 . . . จากที่เคยถามพระอาจารย์ตอนบวช คำตอบคือไม่บาปครับ เพราะสมัยพระพุทธเจ้าก็เคยมีสาวกคนนึง ตาบอดแล้วไปเดินจงกลมเหยียบแมงเม่าตายมากมาย แต่เพราะทำไปด้วยความไม่รู้ ก็เลยไม่บาปครับ.. จากคุณ : KGB - [ 2 ต.ค. 50 17:50:09 ]

ความคิดเห็นที่ 170 . . ผมตอบตามหลักที่ถามว่าบาปไหมนะครับ คือตอบอยู่บนความเชื่อของคุณที่เชื่อว่ามีบาป บุญ จากคุณ : KGB - [ 2 ต.ค. 50 18:17:36 ]

ความคิดเห็นที่ 171 ^^ ต่างกันครับ  เหยียบโดยไม่รู้ ไม่มีเจตนา ก็ตอบได้ว่าไม่บาป แต่เจตนาบี้มด วันละ 1,000 ตัว  บาปแน่นอน จากคุณ : ZtahC - [ 2 ต.ค. 50 19:49:41 ]

ความคิดเห็นที่ 172 ไม่บาปค่ะ เพราะบาปเป็นเรื่องของสำนึกในใจ  แต่คุณจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงกรรมหรือผลของการกระทำได้ เช่น การฆ่ามดทำให้ระบบนิเวศน์เสียสมดุล  ก็อาจทำให้แมลงชนิดอื่นเข้ามาครอบครองพื้นที่แทน  ซึ่งอาจเป็นผลร้ายต่อพืชผลของคนในหมู่บ้าน ทำให้หมู่บ้านอดอยากแร้นแค้น (จนวันหนึ่งมีคนจากอีกหมู่บ้านเดินหลงทางพลัดเข้าไปในหมู่บ้านของคุณ  ไปพบเห็นเหตุการณ์ แล้วบอกคนในหมู่บ้านว่า  พวกเราอย่าไปฆ่ามดเลยนะ  เพราะมดจะช่วยควบคุมและกำจัดแมลงศัตรูพืช  ถึงตรงนี้คนในหมู่บ้านนั้นก็อาจรู้สึกบาปที่จะต้องฆ่ามดสักตัว) จากคุณ : Golden Wattle - [ 2 ต.ค. 50 21:15:00 ]

ความคิดเห็นที่ 173 อ่านแล้วต้องขอแจม เรื่อง กรรม อีกเหมือนกัน เห็นว่ายึดติดกะกรอบเหลือเกิน ขอยกตัวอย่างในกรอบนี้มั่ง ความคิดผมเนี่ย นาย ก ไปตีนาย ข เพราะนาย ข ไปตีนาย ค ไว้เมื่อชาติที่แล้ว นาย ก = เป็นบาป ที่ไปตีนาย ข นาย ข ได้ใช้กรรมที่ทำไว้ เท่ากับว่า นาย ข ได้ถ่ายเท กรรม ไปไว้ให้นาย ก ถ้านาย ก ทำแบบนี้กับหลายๆ คน ไม่เท่ากับว่า นาย ก เป็นคนดี ที่ช่วงผ่องถ่ายปาบมาไว้กับตัวหรอ ถ้าสมมติว่า โลกนี่ไม่มีคนแบบนาย ก กรรมก็จะไม่ถูกถ่ายเทบนโลกนี้ เท่ากะว่า  นาย ข ต้องรอตกนรกสถานเดียวอ่ะจิ ซึ่งไม่เท่ากะว่าการมีนาย ก อยู่เป้นผลดีกะนาย ข ทำให้ได้ใช้กรรมอย่างรวดเร็วหรอกรึ เท่ากะว่าการที่เราโดนคนมาเบียดเบียน เราไม่ควรไปโกรธเค้า ดังนั้นเราไม่ควรจะมีกฏหมายมาลงโทษคน แล้วสังคมจะอยู่ได้ยังไง แล้วถ้าพูดถึงเพชรฆาตในแดนประหารล่ะ แล้วถ้าเปลี่ยนเป็น นาย ก ขับรถไปชนโดยไม่ได้เจตนาล่ะ งงวุ้ย ตกลงการมีอยู่ของนาย ก เป็นเรื่องดี หรือไม่ดี ถ้าไม่มีดำ จะรู้ได้ยังไงว่ามีขาว ถ้าเป็นสังคมในอุดมคติ ทุกคนไม่ทำตัวแบบนาย ก เมื่อใช้กรรมในนรกหมด เท่ากับว่า กรรม ได้ถูกผ่องถ่ายลงนรกไปแล้วทั้งหมด แล้วต่อไปก็จะไม่มีคนมาทำไม่ดีกะเรางั้นสิ มิติของโลกเรา ก็จะเป็นเหมือนสวรรค์ แล้วยังมีคนในมิติอื่นอีกมั้ย แล้วทำไมแต่อยู่ๆ กระทั่งในภพภูมิของเทวดา ยังมีการอิจฉาริษยา มีการส่งลงมา ไถ่บาป มาบำเพ็ญบุญในโลกมนุษย์ ?? ก็คือเป็นการลงมาเพื่อทำให้จิตวิญญาของเทวดาสูงขึ้น โดยใช้ประโยชน์จากการช่วยเหลือมนุษย์ เท่ากะว่ามีมนุษย์อยู่ทำให้เทวดาบรรลุได้เร็วขึ้น??? (เทวดาลงมาโลก คล้ายๆ กะ มนุษย์ตกนรก มั้ย) แล้วถ้าเราตกนรก ถูกผู้คุมนรกบังคับให้ทนทรมานต่างๆ ผู้คุมนรกมีกรรม หรือผิดมั้ย แล้วเค้าจะใช้กรรมยังไง มีคนบอกว่าฆ่าเดียรัจฉานโดยไม่เจตนาไม่ปาบ แต่ทำไมฆ่าคนโดนไม่เจตนาถึงปาบ (ต้องปาบแหละ เพราะสมมติ แม่นอนหลับไปทับลูกอ่อนตาย ก็คงต้องเสียใจอย่างมาก คือปาบมั้ย หรือแค่ความยึดมั่นถือมั่นในสิ่งสมมติว่าเป็นลูกตัวเอง) แสดงว่ากฏมีข้อยกเว้น กรรม มีความคิด ว่าจะไปอยู่กะใคร หรือไม่ควรไปอยู่กะใคร แล้วใครเป็นคนตัดสิน ว่าแค่ไหนคือเดียรัจฉาน กรรมเป็นคนตัดสิน?? รึว่าเดียรัจฉาน ไม่มี กรรม อยู่ในตัว เลยผ่องถ่ายไปให้ผู้อื่นไม่ได้ โอยยย ไล่แล้วยืดยาว ผมยังมีกายเนื้อ ยังยึดติดก็คิดได้แค่นี้อ่ะ (ว่าตัวเองไว้ก่อน เบื่อคนมาว่าโดยไม่ออกความเห็น) จากคุณ : I'm available !!! - [ 2 ต.ค. 50 21:43:07 ]

ความคิดเห็นที่ 174 ใครเป็นคนตั้งกฏครับ ว่าไม่เจตนาไม่ปาบ หรือว่าการกระทำที่ไร้เดียวสา ไม่ปาบ พระอาจารย์ กำหนด พระคัมภีร์ กำหนด หรือพระพุทธเจ้ากำหนด หรือความจริงคือไม่มีใครกำหนด แต่เรา"เชื่อ"กันแบบนี้เอง ถ้าความเป็นจริงไม่ใช่ตามความเชื่อนี้ล่ะ ความคิดของเจ้าของกระทู้เค้าล่ะ จากคุณ : I'm available !!! - [ 2 ต.ค. 50 22:03:39 ]

ความคิดเห็นที่ 175 มีนักวิทยาศาสตร์ (จำชื่อไม่ได้) บอกว่า ความรู้ พฤติกรรม สามัญสำนึก ของคน ก็เหมือนกับโปรแกรมๆ หนึ่ง ที่เขียนโดยสภาพแวดล้อม ของคนนั้นๆ ถ้าแต่ล่ะ OS เปรียบเสมือนศาสนาๆ หนึ่ง ก็เหมือนกับ เอาโปรแกรม ที่เขียนขึ้นโดย windows เพื่อเล่นบน windows ไปเปิดบน Linux หรือว่า Mac ยังไงก็เปิดไม่ได้ ถ้าโลกนี้ มีศาสนา xbox ps wii ยังไงก็เอา เกมของ xbox ไปเล่นบน ps ไม่ได้ os หรือ game console ก็เหมือนกรอบๆ นึงล่ะครับ จะเอาของในกรอบๆนึง ไปไว้อีกกรอบๆ นึง ยังไงก็ต้องมี conflicts กันบ้าง จะเอากติกาของฟุตบอล มาตัดสิน สนุกเกอร์   ยังไงก็ไม่ได้ถูกมั้ยครับ แต่ถ้าเอานักสนุกเกอร์ มาหัดเล่นฟุตบอล แล้วก็เล่นฟุตบอลกัน โดยใช้กติกาฟุตบอล อย่างนี้ผมว่าน่าจะดีกว่า จากคุณ : เด็กน้อยกลิ่นวนิลา - [ 2 ต.ค. 50 23:05:44 ]

ความคิดเห็นที่ 176 พระพุทธเจ้าไม่ได้บอกว่าเป็นผู้คิดค้นธรรม  แต่ธรรมเป็นความจริงแท้ที่มีอยู่ นั่นก็คือพระพุทธองค์เป็นผู้ค้นพบ นำมาเผยแผ่ และไม่ได้ให้เราเชื่อโดยไม่มีเหตุผล แต่ต้องใช้ปัญญา หลักความเชื่อ เปรียบเสมือนหลักทางวิทยาศาสตร์ ที่มีคนค้นพบก่อนหน้า แต่อาจมีคนค้นพบความจริงที่ถูกต้องมาหักล้างได้ภายหลัง ดังนั้น หากคิดจะหักล้างได้ ก็ต้องอธิบายได้ครับว่าจริงแท้เป็นเช่นไร สิทธิจะเชื่ออย่างไรเป็นเรื่องส่วนบุคคล  แต่ความจริงก็คือความจริง แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 50 23:14:04 จากคุณ : ZtahC - [ 2 ต.ค. 50 23:13:20 ]

ความคิดเห็นที่ 177 บาป กับ กรรม ไม่เหมือนกันอย่าสับสน บาป คือ ความชั่ว กรรม คือ การกระทำ   ผลกรรม คือ ผลจากการกระทำ การกระทำอะไรลงไป แม้จะไม่บาป แต่ก็อาจมีผลกระทบต่อเนื่อง เป็นผลกรรม พอนึกถึงเรื่องกรรม ทำให้ผมนึกถึง chaos theory จากคุณ : ZtahC - [ 2 ต.ค. 50 23:23:14 ]

ความคิดเห็นที่ 178 ถ้ามีมนุษย์ต่างดาวบอกว่าฆ่าคนแล้วได้บุญ มันมาฆ่าคุณ คิดว่าเป้นอย่างไร? อันนี้มันสะท้อนให้เห้นในมุมมองมด เมื่อมดไม่ต้องการตาย คุณไปฆ่า=การเบียดเบียน คุณถูกมนุษย์ต่างดาวที่ว่านั่นฆ่า มนุษย์ต่างดาวเบียดเบียนคุณ... แล้วก็อันนี้ตามวิทย์เลยนะคือ ฆ่ามดได้บุญ>>กรรมต้น>>ฆ่าไปเรื่อยๆมดสูญพันธุ์>>กรรมตาม>>ส่งผลต่อระบบนิเวศน์ >>ส่งผลเสีย=รู้ว่าสิ่งที่ทำอยู่ผิด ความเชื่อที่ว่านั้นเป็นเพียงความเชื่อของกลุ่มคน ที่เป้นค่านิยมที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์จนกว่าจะถึงเวลา ผมว่าไม่บาป เพราะบาปบุญเป้นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น เมื่อเราตายก็เป็นเพียงดิน กลับสู่ธรรมชาติ แล้วก็มีพืช พืชก็ถูกคนกิน เป็นวงจรเรื่อยไป... จากคุณ : เมก้าซาวะหมายเลข154 - [ 3 ต.ค. 50 00:06:44 ]

ความคิดเห็นที่ 179 เช่นนี้แหละครับเรียกว่า วัฏฏสงสาร พระพุทธศาสนา จุดมุ่งหมายสูงสุดคือหลุดพ้นจากวงจรนี้ จากคุณ : ZtahC - [ 3 ต.ค. 50 09:36:53 ]

ความคิดเห็นที่ 180 เป็นคำถามที่ดีครับ แม้ว่าหลายคำตอบจะน่าผิดหวังเพราะตอบไม่ตรงคำถามที่เจ้าของกระทู้อยากให้ตอบ ผมว่าความรู้สึกผิดบาปเป็นสิ่งที่คนสร้างขึ้นมา ลองคิดดูเล่นๆว่าถ้าเราเกิดมาในโลกนี้คนเดียว ไม่มีคนอื่น หรือ แม้แต่สิ่งมีชีวิตอยู่เลย คุณจะทำบาปได้ไหม ไม่ได้ใช่มั้ยเพราะว่าบาปเกิดจากการปฏิสัมพันธ์ระหว่างเรากับสิ่งรอบตัว (จะฆ่าใครอะไรก็ไม่ได้ โกหกด่าใครก็ไม่ได้ คิดร้ายกับใครก็ไม่ได้เพราะไม่มีฝ่ายถูกกระทำ) ดังนั้นเราจึงพอสรุปได้ว่า บาปเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นเอง ขึ้นอยู่กับสังคม ถ้าสังคมบอกว่ามันคือบาป มันก็คือบาปใช่ไหม สุดท้ายตอบคำถามก็คือ ไม่บาปครับ สำหรับคนในหมู่บ้าน  แต่บาปในสังคมหรือกรอบของคนพุทธแน่นอน จากคุณ : panthang - [ 3 ต.ค. 50 14:44:14 ]

ความคิดเห็นที่ 181 งั้นยกตัวอย่างใกล้ตัว  เหตุความไม่สงบในภาคใต้ ถ้ามีการสั่งสอนว่าสิ่งที่เขาทำเป็นบุญไม่ใช่บาป และเขาก็ทำด้วยใจบริสุทธิ์ละครับ ?? จากคุณ : ZtahC - [ 3 ต.ค. 50 15:53:23 ]

ความคิดเห็นที่ 182 เท่าที่อ่านดู เรื่องแบบนี้ แล้วแต่คน แล้วแต่มุมมองจริงๆ จากคุณ : supercc - [ 3 ต.ค. 50 16:00:25 ]

ความคิดเห็นที่ 183 เราว่าถ้ามองในแง่ จขกท. มันก็ไม่น่าจะบาปนะ คือถ้าเป็นโลกสมมติแบบนั้น มันเป็นสิ่งที่ทุกคนคิดว่ามันถูก คิดว่าทำแล้วมันดี ถูกต้องแล้ว มันก็ต้องไม่บาปใช่ป่ะ เพราะว่า ศาสนา หรืออะไรพวกนี้ ต้นกำเนิดมันก็อยู่ที่มนุษย์ ถ้ามนุษย์คิดว่ามันไม่บาป มันก็คงจะไม่บาปแหละ .. มั้ง ( คิดเหมือน *145 นะ ) จากคุณ : กางเกงเลสีน้ำเงิน - [ 3 ต.ค. 50 17:50:24 ]