ความคิดเห็นที่ 1 อย่าสร้างกระแสครับ ถ้าเจตนาดีก็ดีครับ ถ้าคิดอย่างอื่นก็ไม่รู้ครับ มะเร็งระยะ 1-2 รักษาตามแพทย์แผนปัจจุบัน มันก็หายครับ ทั้งคีโม ฉายแสง หรือตัดเนื้อเยื่อไปเลย ไม่ต้องไปทดลองด้วยอาหารเสริมนี้หรอก ผมว่าถ้าเป็นมะเร็งแล้วกระดกไอ้ตัวนี้อย่างเดียวโดยไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องเลย (ย้ำว่า เลย) ผมว่า คนป่วยคงไม่ดีขึ้นเท่าไหร่หรอกครับ อย่าทำให้มันเป็น ยาเทพ ยาสวรรค์ เกินจริง เพราะคำพูดไม่กี่คำ ของเราเอง ครับ ปล. มันไม่ใช่ยา และควรกินควบคู่ไปกับการรักษาทางการแพทย์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเซลล์ แก้ไขเมื่อ 25 ก.ย. 50 17:44:24 จากคุณ : ปีศาจหมายเลข5 - [ 25 ก.ย. 50 17:40:35 ]

ความคิดเห็นที่ 2 มันไม่ใช่ยา กินควบคู่ไปกับการรักษาทางการแพทย์ เพราะที่กินไปมันไม่มีผลอะไรเลย สุดท้ายแล้ว หายเพราะที่ไปรักษากับหมอแล้วก็มาอวดอ้างสรรพคุณว่าหายเพราะยาตัวเอง ไม่มีงานวิจัยอะไรรองรับ เลยสัก paper เดียว ผมอ่าน paper มามากทางด้านี้ก็ยังไม่เคยเจอนะ เหอะๆ เหมือนลัทธิอะไรสัก อย่างเลย ที่เขาบอกว่าเชื่อก่อน ศรัทธาไว้แล้ว แล้วจะเข้าใจเอง จะดีเอง แต่อย่างว่าแหละ ธุรกิจช่องทางทำกินแตะมากไม่ได้เดี๋ยวโดนอุ้ม แหล่งเงินแหล่งทองเนอะ ถ้ามันดี จริงไม่ต้องมาขายตรงแบบนี้หรอก คงดังไปทั่วโลกแล้ว เด็กอนุบาลยังคิดได้ จากคุณ : axquest - [ 25 ก.ย. 50 17:45:26 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เรื่องทุกเรื่องมันจะดีหรือไม่ดี มันวัดกับงานวิจัยทุกอย่างเลยเหรอครับ ผมก็ไม่รู้นะ (คำยอดฮิตของผมไปแล้วคำนี้) ว่ามันดีขึ้นเพราะยา หรือว่ามันดีขึ้น เพราะอาหารตัวนี้ แต่เท่าที่รู้ (คุณอาจไม่รู้) แม่ผมอายุ 72 ครับ หมอไม่รับทำคีโม ฉายแสง เพราะอายุเยอะ ท่านแก่มากแล้ว เดินเหินลำบาก หมอช่วยกันสรุปว่าแม่ผมอยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือน (นับตั้งแต่ต้นปี) พี่น้องสรุปกันว่า ให้รักษาตามอาการ (จนปัจจุบัน 9 เดือน) รู้นะครับว่า รักษาตามอาการ คืออะไร หมอจะให้ยา แก้ปวด มอฟีนน้ำ (อย่างแรง) มาให้ในกรณีปวด ก่อนนั้นต้นปี แม่ปวดบ่อย ไปหาหมอครั้งละ 5พัน ได้ยามาก็แค่แก้ปวด กับอักเสบ เพราะมันเป็นแผลใต้ร่มผ้า   ไหนครับ ยารักษามะเร็งจากหมอ ถึงต่อให้แม่อาการกำเริบ แต่ผมก็ดีใจ ที่แกไม่ปวดจนต้องใช้มอฟีน แกกินข้าวได้ถึงจะไม่มากเท่าคนปกติ แต่ก็ยังพอมีกำลัง ผมเสริมด้วยสาหร่ายสไปรูลิน่า วันละ 10 เม็ด เพิ่มสารอาหารและอาหารเสริมตัวนี้เดือนละ 4 ขวด ไหนครับ ยารักษามะเร็ง อาการแม่แค่ไม่ทรุดหนัก แค่นี้ผมก็เชื่อว่ามันทำได้ ผมต้องการแค่ ยารักษามะเร็งปากมดลูกระยะ 4 มีแผล และมันลามไปที่ไต กระเพาะ และกำลังลามไปที่ตับ แต่มันยังไม่ลาม ไม่รู้อัตราการเติบโตของเซลมะเร็ง ว่ามันมีวิธีการเติบโตยังไง คุณความเห็นที่ 130 จากนี่http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X5852717/X5852717.html#130 หรือใคร ช่วยบอกหน่อย ผมจะได้หาวิธี หยุดระบบการเติบโตของมะเร็ง ถ้าทำได้ แก้ไขเมื่อ 25 ก.ย. 50 18:04:54 จากคุณ : ปีศาจหมายเลข5 - [ 25 ก.ย. 50 17:56:36 ]

ความคิดเห็นที่ 4 - หุหุ.... ผมว่านะ ลงขัน หรือหา สปอนเซอร์ (พวกรายการ ต่างๆ เช่น เรื่องจริงผ่านจอ หรือรายการอื่น แนวๆ นี้) ซื้อมาขวดนึง แล้วส่งเข้า Lab Test จะได้รู้เรื่องรู้ราวกันไปเลย.... ไม่ต้องมานั่งเถียงกัน เผลอๆ อาจดังกันเป็นพลุแตกเลยก็ได้ จากคุณ : - License To Kill - - [ 25 ก.ย. 50 18:03:37 ]

ความคิดเห็นที่ 5 "เรื่องทุกเรื่องมันจะดีหรือไม่ดี มันวัดกับงานวิจัยทุกอย่างเลยเหรอครับ" ใช่เลยครับ ยาทุกตัวที่กินกันอยู่เนี่ย เขาก็วิจัยกันออกมาแล้วว่าใครกินได้บ้าง คนกินแล้วไม่เป็นอะไร อย่างนี้ไม่ต้องวิจัยกันดีมั้ยครับ ใครกินตายก็ตายไป เรื่องของคุณแม่ของคุณผมก็เสียใจด้วย แต่มัน เอามาวัดอะไรไม่ได้เลย คนๆ เดียวหายและก็ไม่รู้ว่าหายและดีขึ้นเนื่องจากอะไร เนื่องจากยาของคุณ หรือว่าอะไรก็ไม่รู้ ท่านอาจจะมีกำลังใจดีที่คุณไปคอยปรนนิบัติก็ได้เลยอาการดีขึ้น เพราะดีใจที่ลูก มาดูแล อาการที่ดีขึ้นของแม่คุณ เอาอะไรมาชี้วัดครับว่าเป็นผลสัมฤทธิ์ของน้ำนั่น เปล่าเลยไม่มีอะไรมารอง รับเลยสักกะนิดเดียว น้ำนั่นกินยังไงก็ไม่ตายหรอกครับ ส่วนผสมก็เป็นอะไรที่คนรับได้รับทุกวันอยู่แล้ว กะรวยเต็มที่เลย นะครับเนี่ยธุรกิจนี้ อย่างที่ผมบอกเสมอว่าธุรกิจอะไรก็ตามที่ทำมาหากินบนความเชื่อของคนอื่นมันได้กำไรงามดีจริงๆ เหมือนจตุคามยังไงล่ะครับ ยา สิ่งของใช้ อาหาร บ้านเรือน ฯลฯ ทุกอย่างเขาวิจัยและพิสูจน์กันออกมาหมดแล้วว่ามันทำอะไร ได้ทำได้อย่างไร และมีผลอย่างไร ไม่ใช่เชื่อไปลมๆ แล้งๆ ไม่มีอะไรทางการแพทย์มารองรับเลย จากคุณ : axquest - [ 25 ก.ย. 50 18:03:46 ]

ความคิดเห็นที่ 6 พ่อเพื่อนผมเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย หมอบอกไม่เกิน2เดือน แต่แกก็ไม่มีบ่นเจ็บอะไรนะ ดูปกติดี ก็แปลกดีครับ สุดท้ายกว่าแกจะเสียก็ปีกว่าๆ ไม่ได้ใช้ยาเทพบ้าบออะไรเลยครับ จากคุณ : ผีหน้าคอม~ - [ 25 ก.ย. 50 18:07:49 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เหมือนกินอาหารตามกรุ๊ปเลือดนั่นแหละครับ เคยมีคนเอาโพสในนี้แล้ว ถ้ามันกินแล้วดีจริงๆ มีผลต่อ ร่างกายจริงๆ ก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่คุณต้องพิสูจน์ได้ด้วยทางการแพทย์ มันดีขึ้นอย่างไร เอาอะไรมาเป็นตัวชี้วัดถึงผลสัมฤทธิ์ของน้ำ ของคุณต่อร่างกาย สามารถวัดผลเหล่านั้นได้อย่างไร มีขั้นตอนกระบวนการอะไรในการส่งผลต่อ ร่างกายและเป็นไปในหลักการไหน ไม่ใช่กินแล้วดีขึ้น แล้วมาบอกว่าเพราะยานี่ ที่สำคัญระหว่างการทดลองคุณต้องควบคุมการทดลอง ให้เหมือนๆ กันด้วย ประชากรที่ใช้ในการทดลองคืออะไร คุณรู้ได้อย่างไรว่าแม่คุณอาการดีขึ้น เพราะน้ำไร้สาระนี่ เอาอะไรมาเป็นตัวชี้วัด เหมือนลัทธิอะไรซักอย่างต้องเชื่อก่อน ศรัทธาก่อนแล้วถึงจะดี จะเป็นจริงดังกล่าว เอาง่ายๆ การแพทย์เืองไทยนั้นมีการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สามารถเทียบชั้นการแพทย์ของ ฝรั่งได้อย่างเต็มตัว ถ้าน้ำอะไรนั่นของคุณมันดีจริงป่านนี้เขาต้องเอามาวิจัยและได้ผลออกมาวางขายกันเต็มบ้านเต็ม เมืองแล้วไม่ต้องมาหลบๆ ซ่อนๆ ขายตรงแบบนี้หรอก ป่านนี้ดังเป็นข่าวไปทั่วโลกแล้ว อย. ไม่ได้ วัดอะไรเลยเขาแค่รับรอแล้วว่ากินแล้วไม่ตาย ไม่มีอันตราย กระบวนการผลิตถูกต้องเหมาะสม เท่านั้น เหอะๆ ในเว็บคุณก็ขายเต็มตัวเลยไม่ใช่เหรอ เหอะๆ จากคุณ : axquest - [ 25 ก.ย. 50 18:09:50 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ซ้ำ แก้ไขเมื่อ 25 ก.ย. 50 18:11:14 จากคุณ : axquest - [ 25 ก.ย. 50 18:10:10 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ใครพูดไว้ไม่รู้นะว่ากระทรวงหมอปกครองยาก ต้องมีหมอเท่านั้นเป้นรมต.(และก้จริงซะด้วย) เพราะหมอ คิดว่าตัวเองฉลาดกว่าคนอื่นๆ ปล. ฟังขี้ปากเขามานะครับคุณหมอ ********************************************** บางครั้ง เราไม่ยอมรับความจริงกันครับ..ว่า เขาไปรักษานอกแผนฤที่ไม่ใช่หมอ) มาแล้วหาย/อาการดีขึ้น เพราะไอ้ความเป้นวิทยาศาสตร์(วิจัย/ผ่านการทดลองมาแล้ว)นี่แหละทำให้หมอรับเรื่องนี้ไม่ได้ อย่างผมเนี่ย...หมอบอกว่า ต้องคุมเรื่องอาหาร(โรคตับ).ต้องงด หวาน/เปรี้ยว/เค็ม/เผ็ด/ รสจัด/...เด็ดขาด ผมทำตามอย่างเตร่งครัด..3เดือนเดินเหมือนไก่เป็นโรค..ผอม.เดนแทบไม่มีแรง  ถ้าผมเชื่อหมอ...ผมคงไปตั้งแต่ปีแรกแล้วมั๊ง แต่ผมยังอยากกิน ไหนๆก็จะไปแล้วขอกินดีกว่า เพรายังกินได้..5ปีเต็มแล้วครับ..ร่างกายผมปรกติ..สมบูรณ์ ไปเย้วๆไล่เผด็จการที่สนามหลวงทุกเสาร์อาทิตย์(แถมมีปะทะกันด้วย)สบาย แต่ผมก้ไม่ทิ้งยาหลวง..ยังกินไม่ขาด...ตามหมอสั่ง เห็นไหมครับบางครั้งตำราก้ใช้ไม่ได้กับบางคน จากคุณ : นาย กาแฟร้อน - [ 25 ก.ย. 50 18:15:53 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ที่ต้องอ้างงานวิจัย เพราะเราต้องการตัดเรื่อง "ความเชื่อ" ออกไปน่ะสิครับ เป็นเรื่องปกติในทางการแพทย์ที่แป้งอัดเม็ดธรรมดา ก็ทำให้คนไข้ หายป่วยได้ ถ้าอยากรู้ว่า ยานั้น หรือสมุนไพรนั้น รักษาหายจริงหรือไม่ (หรือจะหายเองอยู่แล้ว แม้ไม่ได้ใช้สมุนไพร หรือยานั้น) เราจึง ต้องทำการทดลองอย่างเป็นระบบ เพื่อกรองเอา ความเชื่อออกไป ให้เหลือแต่ข้อแท็จจริง ---------------------------------- ทำไมยา หรือสมุนไพรหลายชนิด ถึงรักษาให้ผู้ป่วยหายได้ หรืออายุยาวขึ้นได้ แม้หมอจะบอกว่าอยู่ได้แค่ 6 เดือน หรือปีนึง ก็เพราะ 6 เดือน หรือปีนึง ที่หมอบอก เป็นค่าเฉลี่ย จากการเก็บสถิติย้อนหลัง จากคนไข้โดยรวม ที่ป่วยคล้ายๆ กันแบบนี้ คำว่าโดยเฉลี่ย ก็บอกอยู่แล้ว ว่าคนไข้ครึ่งนึง อยู่ไม่ถึง ส่วนอีกครึ่งนึงอยู่เกิน มีไม่น้อยที่อยู่ได้ไม่กี่สัปดาห์ และอีกไม่น้อยที่อยู่เกินสองปี หรือห้าปี (ซึ่งทางมะเร็ง ถ้าเกิน 5 ปี มักถือว่าหายจากโรค) มีทั้งอยู่ได้ไม่กี่สัปดาห์ หรือหลายๆ ปี ทั้งๆ ที่หมอบอกว่าอยู่ได้ 6 เดือนนั่นแหละ และกลุ่มที่อยู่นานๆ นี่แหละครับ ที่จะมีโอกาสได้ใช้การแพทย์ทางเลือก (เพราะกลุ่มตายเร็ว ไม่มีโอกาสได้ทดลองใช้) อีกจำนวนมาก ที่หาย หรือกำลังจะหายจากการรักษาแบบปกติ แล้วหันมาใช้แพทย์ทางเลือก และอีกบางส่วนใช้แพทย์ทางเลือก ไปพร้อมๆ กับการรักษาแบบมาตรฐาน ที่สำคัญคือ หากรักษาด้วยแพทย์ทางเลือกแล้วได้ผล ก็มักจะมีการโฆษณาบอกต่อกันใหญ่โต ส่วนใครที่รักษาแล้วไม่รอด ก็มักจะเงียบๆ กันเอาไว้ หรือบอกว่า "อาการหนักเกินไป" "มารักษากับเราช้าเกินไป" "บอบช้ำจากการให้ยาเคมีบำบัดมากเกินไป" ฯลฯ เพราะปัจจัยทุกอย่างมันเกื้อหนุนอย่างนี้แหละ ทำให้ผลการใช้แพทย์ทางเลือก มีผลการรักษาที่ดีกว่า ถ้าลองค้นงานวิจัยดู จะเห็นได้ว่า หากตัดปัจจัยอื่นๆ ออกไปแล้ว ให้เหลือแต่ประสิทธิภาพจากการรักษาล้วนๆ ยังไม่มีการรักษาอื่นได้ ที่ได้ผลเหนือไปกว่าการรักษาแผนปัจจุบันเลย จากคุณ : อะธีลาส - [ 25 ก.ย. 50 18:16:37 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ลองพิจารณาบางอย่างนะครับ ไม่ให้เชื่อไปทั้งหมด และมันไม่ใช่ยาครับ " หากร่างกายมีอนุมูลอิสระมากเกินไป จะทำให้เพิ่มอัตราการเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลายชนิด  โรคที่สำคัญและมีการศึกษากันมาก ได้แก่ โรคหลอดเลือดตีบและแข็งตัว โรคมะเร็งบางชนิด โรคอัลไซเมอร์ หรือโรคความจำเสื่อม โรคไขข้ออักเสบ โรคความแก่และความเสื่อมของร่างกาย " และ " เมื่ออนุมูลอิสระมากเกินไป ร่างกายของเราจะผลิตสารที่ต่อต้านอนุมูลอิสระขึ้นตามธรรมชาติเพื่อป้องกัน แต่จากการศึกษาพบว่า แม้จะมีการสร้างสารต้านอนุมูลอิสระ(แอนติออกซิเดนต์)เช่น เอนไซม์ขึ้นในร่างกาย แต่ก็ยังคงไม่เพียงพอ ดังนั้นร่างกายจึงต้องการสารต้านอนุมูลอิสระจากช่องทางอื่น " และ " การที่ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอเป็นปัจจัยสำคัญในการเกิดโรค -โรคเรื้อรังต่างๆ เกิดจากการขาดออกซิเจนในระดับเซลล์ -โรคหัวใจขาดเลือด มีผลจากการส่งออกซิเจนให้กล้ามเนื้อหัวใจไม่เพียงพอ -การขาดออกซิเจนเป็นสาเหตุหลักในการที่ทำให้เซลล์กลายเป็นมะเร็ง -การขาดออกซิเจนเป็นพื้นฐานของโรคที่เกิดจากการเสื่อมต่างๆ ออกซิเจนทำให้ภูมิคุ้มกันทำงานปกติ -พื้นฐานของการมืชีวิตและการเสียชีวิตล้วนมาจากกระบวนการ Oxidation และ Oxigenation ซึ่งให้พลังแก่เซลล์ในการสร้างหน่วยชีวภาพใหม่ทดแทนของเก่า ทั้งนี้หากขาดออกซิเจนในปริมาณที่พอเหมาะ จะทำให้กระบวนการนี้ไม่สามารถดำเนินไปได้ " หากใครมีข้อเสนอ โปรดชี้แนะ จากคุณ : ปีศาจหมายเลข5 - [ 25 ก.ย. 50 18:23:05 ]

ความคิดเห็นที่ 13 พอดีผมเคยทำงานในบริษัทที่ผลิต สาหร่าย สไปรูลิน่า พอจะรู้ต้นทุนสินค้าครับ ราคา 90 เม็ด ไม่รวมขวด+ค่าแรง+ค่าเครื่องจักร ตกต้นทุน ไม่ถึง 10 บาท แต่ขายกันราวๆ ขวดละ 300-500.- (ประมาณปี 47) ส่วนไอ้น้ำ ติงต้อง นี่ กำไรบานทุ่ง แก้ไขเมื่อ 25 ก.ย. 50 19:48:54 จากคุณ : bee_zilla - [ 25 ก.ย. 50 19:48:07 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เหลวไหลไร้สาระ จากคุณ : เภสัชกร (^*^ROLITIA^*^) - [ 25 ก.ย. 50 20:02:00 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สาธุ ใคร ต.แหลแต่งเรื่องบุพการีมาหากิน เพื่อประโยชน์ทางธุรกิจ ขอให้...............................................................คิดเอาเอง ยิ่งดิ้น แหมันยิ่งมัดตัวซะแน่นเลย เฮ้อ...........น่าสมเพชสุดๆ จากคุณ : กรวย - [ 25 ก.ย. 50 20:18:26 A:66.98.152.31 X: ]

ความคิดเห็นที่ 16 สิ่งหนึ่งที่แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนต้องรู้ก็คือ "ไม่มีอะไรร้อยเปอร์เซนต์" คนแต่ละคนไม่มีทางเหมือนกันร้อยเปอร์เซนต์ การรักษาที่ดี คือ การรักษาที่มีโอกาสจะทำให้ผู้ป่วยหายมากที่สุด การรักษาหนึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยคนหนึ่งหาย แต่อีกวิธีหนึ่งไม่ทำ ดังนั้นจึงต้องมีการวิจัยมาวัดผลดังกล่าวครับ ถ้ามีแพทย์คนใดออกมากล่าวอ้างลอยๆ ไม่มีหลักฐานงานวิจัยที่น่าเชื่อถือ คนอื่นๆ ก็จะไม่ยอมรับ เพราะถ้าไม่มีมาตรฐานเดียวกันในการรักษา ต่างคนต่างรักษาตามวิธีตัวเอง ตามที่ตัวเองเชื่อ ก็คงไม่ต่างจากหมอผีทั่วไป ไม่ใช่คิดว่าตัวเองฉลาดกว่าคนอื่นเลยไม่เชื่อหรอกครับ จากคุณ : vandalism - [ 25 ก.ย. 50 20:54:32 ]

ความคิดเห็นที่ 17 มาตกใจ สาหร่ายสไปรูริน่า ต้นทุนถูก แต่ขายกำไรตั้งกี่เท่าๆแล้วนั่น จากคุณ : เลดี้มาเฟีย - [ 25 ก.ย. 50 20:58:51 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เอาแค่นี้นะครับ ขี้เกียดตอบยาว กระทู้ที่แล้วก็ตอบไปแล้ว -โรคเรื้อรังต่างๆ เกิดจากการขาดออกซิเจนในระดับเซลล์ โรคไหนมั่งครับ ช่วยไปหาจากบริษัทมาด้วย -โรคหัวใจขาดเลือด มีผลจากการส่งออกซิเจนให้กล้ามเนื้อหัวใจไม่เพียงพอ ข้อความนี้ถูก...ครึ่งเดียวครับ หัวใจขาดเลือด ชื่อมันบอกอยู่แล้วนะครับ ว่ามันขาดอะไรที่สำคัญกว่าออกซิเจน เลือดไงครับ คุณกินออกซิเจนเข้าไป10ถัง ก็ไม่มีวันไปถึงหัวใจส่วนนั้นหรอกครับ เพราะหลอดเลือดที่เลี้ยงหัวใจบางส่วนมันตีบครับ หรือจะบอกว่าออกซิเจนวิเศษของคุณมันลอยจากกระเพาะไปที่หัวใจส่วนนั้นได้ - -* -การขาดออกซิเจนเป็นสาเหตุหลักในการที่ทำให้เซลล์กลายเป็นมะเร็ง เป็นเรื่องตลกที่สุดของวันนี้เลยครับ มะเร็งอะไรหรอครับ ถ้าจะหมายถึงมะเร็งรวมๆ ผมเสียใจด้วยครับ ข้อนี้ได้ ติดลบ10 คะแนนครับ ส่วนเรื่องอนูมูลอิสระ อยากพูดอะไรก็พูดไปครับ ไม่เถียง แต่ O2 ไม่ใช่ antioxidant ครับและไม่มีทางใกล้เคียงได้เลยครับ ไปดูที่ผมโพสในกระทู้หลักได้ครับ คห.179 แก้ไขเมื่อ 25 ก.ย. 50 21:22:28 จากคุณ : -=| thopical |=- - [ 25 ก.ย. 50 21:08:22 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ถ้าขาดออกซิเจนระดับเซลล์นี่สิ่งที่ผมคิดออกก็คือกินไซยาไนด์แฮะ  แต่อันนั้นถึงตายเลยนะไม่ใช่โรค -การขาดออกซิเจนเป็นสาเหตุหลักในการที่ทำให้เซลล์กลายเป็นมะเร็ง .........  ตอนแรกพยายามทำใจให้เป็นกลางจนเจอประโยคเนี้ย ส่วน อย. นี่แค่กินไม่ตายเขาก็รับรองแล้วมั้ง.   ออ.. ไม่ต้องมองผมอย่างนั้น  ผมไม่ใช่หมอ.. แก้ไขเมื่อ 25 ก.ย. 50 21:44:45 จากคุณ : Munch - [ 25 ก.ย. 50 21:42:35 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 25 ก.ย. 50 22:25:50 ]

ความคิดเห็นที่ 21 คุณแม่แฟนผม เป็นมะเร็งเต้านม ระยะสี่  ไม่กินยาแผนปัจจุบัน  และไม่กินยาแผนโบราณ ยาผีบอก ฯลฯ  กินมังสวิรัต (ไม่เคร่งนัก) สวดมนต์ ไหว้พระ ทำใจสบาย  ไปเที่ยวต่างประเทศด้วยซ้ำ ... สังเวชณียสถาน 4 ซึ่งลำบากพอสมควร  อยู่จนพอ กินจนพอ เที่ยวจนพอ  พอเต็มที่ + เหนื่อยหนัก ... ก็เลิก และหยุดหายใจ  ห้าปี หลังจากวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านมระยะที่สี่  น้ำพิสดารนั่น ทำได้ขนาดนี้ใหม? จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 25 ก.ย. 50 23:11:41 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ดูด้วยคน จากคุณ : kunikun - [ 25 ก.ย. 50 23:14:08 ]

ความคิดเห็นที่ 23 -โรคเรื้อรังต่างๆ เกิดจากการขาดออกซิเจนในระดับเซลล์ Chronic Stable Angina Myocardial infarction Thalassemia ปล.โรคเหล่านี้มีสาเหตุจากเลือด/หลอดเลือด เพิ่ม Oxygen ไปก็เท่านั้น - -" -โรคหัวใจขาดเลือด มีผลจากการส่งออกซิเจนให้กล้ามเนื้อหัวใจไม่เพียงพอ คงไม่ต้องตอบ เพราะสาเหตุมันอยู่ที่หลอดเลือด/เลือด Oxygen ไม่เกี่ยว -การขาดออกซิเจนเป็นสาเหตุหลักในการที่ทำให้เซลล์กลายเป็นมะเร็ง http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X5852717/X5852717.html#207 ไปดูเองละกันว่ามะเร็งเกิดจากอะไร ขาด oxygen มีได้ 2 อย่าง 1.Cell ตายจากการขาด Oxygen 2.Reperfusion Injury ซึ่งรุนแรงมากๆ(คนไข้ Myocardial infarction มักเสียชีวิตจาก Reperfusion injury มากกว่าการตายจากการขาด Oxygen) จากคุณ : Umiki - [ 25 ก.ย. 50 23:18:37 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เสียเวลาน่าคุณเกลือ ยังไงซะไอ้พวกนี้ก็ไม่กล้ามาทดลองหรอก เพราะมันมั่วๆ ขึ้นมา วิธีหยุด ง่ายนิดเดียว ตัด Oxygen supply ให้เซลล์ แค่นี้มันก็โตต่อไม่ได้แล้ว จากคุณ : Epinephrine - [ 25 ก.ย. 50 23:57:48 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ลุงผมเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายมา20ปีแล้วครับ อยากจะขอรับสมัครทดลอง เผื่อจะหายสนิท ไม่เหลือก้อนมะเร็งอยู่เลย จากคุณ : โกทาม้า (GoTaMa) - [ 26 ก.ย. 50 00:10:08 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ^ ^ ^ เอ่อ สถิติโลกเลยมั้งนั้น มะเร็งระยะสุดท้ายมา 20 ปี - -" จากคุณ : Umiki - [ 26 ก.ย. 50 00:47:50 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ข้อดีของเวปบอร์ดสาธารณะ คือ สามารถกระชากหน้ากากจอมหลอกลวง จากคุณ : ไม่กล้าเจ้าชู้ - [ 26 ก.ย. 50 02:29:47 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ติดตามจากกระทู้ก่อน! และ ตามติดMr. Fusion! จากคุณ : ^^ (an-expert-lover) - [ 26 ก.ย. 50 03:02:47 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ตามไปอ่านกระทู้ต้นเรื่องมาแล้ว ถึงได้รู้ว่า จขกท ท้าด้วยอารมณ์ ไม่ได้คิดจะว่าอะไรหรอกนะ แต่เพื่อประโยชน์ของเด็กๆที่อยากจะเป็นนักวิจัยในอนาคต ที่จะไม่เข้าใจผิดว่า นึกอยากขึ้นมา จะทำอะไรก็ทำได้ เลยต้องย้ำกันตรงนี้ว่า งานวิจัยที่ทำในมนุษย์ ในสายแพทย์ สิทธิผู้ป่วย และ จริยธรรมการวิจัยเป็นสิ่งที่ลืมไม่ได้ (ที่จริงสายไหนก็ลืมไม่ได้ทั้งนั้นแหละ) - ไม่มีทฤษฏี ไม่มีหลักฐานยืนยันว่า สารตัวไหนดีพอ ไม่มีทางนำมาทดลองในคน (ยามากมายติดอยู่แค่ระดับจานเพาะเชื้อ หรือสัตว์ทดลอง) - ระเบียบวิธีวิจัย ไม่ดีพอ ไม่ทำ garbage in garbage out - ถ้าจะทำ ต้องรับประกันได้ว่า คนป่วยต้องได้รับการรักษาแบบมาตรฐาน ไม่สูญเสียโอกาสที่จะได้รับการรักษา - ต้องมีมาตรการรับรองหากคนป่วยเกิดเป็นอะไร ระหว่างที่ทำการวิจัย - คนป่วยมีสิทธิที่จะถอนตัวเมื่อไหร่ก็ได้ โดยต้องไม่มีผลกระทบต่อตัวเขาด้วย เอาคร่าวๆแค่นี้พอ รายละเอียดยังมีอีกเยอะ นักวิจัยตัวจริงทั้งหลายคงรู้กันอยู่แล้ว และที่สำคัญ ใครที่สมัครมา จขกท อย่าเผลอไปรับคำเชียว ตกลงรับใครมาทดลองเมื่อไหร่ คุณทำผิดกฏหมายทันที ส่วนเจ้าอาหารเสริมนี่ มันไม่มีคุณสมบัติจะเอามาทดลองตั้งแต่แรกแล้ว ขี้เกียจพูดถึง จากคุณ : Deckard - [ 26 ก.ย. 50 07:22:18 ]

ความคิดเห็นที่ 31 รวย...คนขาย เขางอก...คนซื้อ จากคุณ : joeymydear - [ 26 ก.ย. 50 07:48:50 ]

ความคิดเห็นที่ 32 อือม... ตามคุณเกลือ มาปั่นกระทู้ครับ... ถ้าคุณ ปีศาจหมายเลข5 ยังเข้ามาตอบกระทู้อีก เดี๋ยวกระทู้ก็ขึ้นโหวต ... จากคุณ : Suraphan07 - [ 26 ก.ย. 50 09:54:12 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เข้ามาอ่านเฉยๆ ครับ ไม่มีอะไรจะตอบ สำหรับความคิดของแต่ละคน แต่ถึงคนที่ดูถูกผมนะครับ ถ้าคิดว่าผมโกหกเรื่องบุพการีจริง ขอสิ่งที่คุณคิดจงเกิดแก่คุณครับผม คุณ -=| thopical |=-  ดูมีความรู้นะครับ ผมก็ไม่รู้ว่าจริงเท็จแค่ไหน เพราะผมไม่ชำชองในเรื่องที่คุณรู้ แต่ก็ขอขอบคุณครับ ถ้ายังไงซะ ทำให้มันเป็นข่าวไปเลยก็ได้ครับ ให้นักวิชาการ นักวิทยาศาสตร์ ไปทดลองใช้เองที่บ้านเลยยิ่งดีใหญ่ครับ ผมจะได้เก็บข้อมูลเอามาใช้เพื่อการตัดสินใจ ปล. อีกนิดครับก่อนจบ ใครที่คิดว่าผมหลอกลวงไม่ดีเมคเรื่องขึ้น ขอให้สิ่งที่คุณคิดกับผม เกิดแก่คุณครับ ผมโกรธมากเลยครับใครมาว่าแม่ผมแบบนี้ จากคุณ : ปีศาจหมายเลข5 - [ 26 ก.ย. 50 10:42:05 ]

ความคิดเห็นที่ 34 # ความคิดเห็นที่ 23 คุณ Umiki ผมเข้าใจว่า คุณเอาข้อมูลของผมและหลายๆ ท่านในนี้มาพิจารณาว่ามันต้องเป็นแบบนั้น แต่ผมเรียนชี้แจงว่า ผมอาจให้ข้อมูลผิดเนื่องจากผมเป็นแค่ผู้ใช้ ถ้าอยากจะพิสูจน์เรื่องที่คุณกล่าว ผมคงต้องให้คุณไปหามาทดลองเองครับ และดูการทำงานของมัน ว่าเป็นยังไง หากคุณไม่มีเงินผมคงไม่ยินดีออกให้ก่อน แต่ถ้าคุณจะเอาความรู้ของคุณ แล้วมาลากข้อสันนิฐานในทางวิชาการว่ามันเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ผมก็อาจเชื่อคุณครับ หลายๆคนก็อาจเชื่อ แต่มันอาจไม่ถูกต้องในหลักการทำงานของอาหารเสริมตัวนี้ก็ได้ครับ คงต้องให้คุณไปทดลองเองแล้วค่อยเอาผลมาบอกครับ ดีกว่าลากข้อวิชาการ สู้กับข้อมูลแค่หางอึ่งของผม จากคุณ : ปีศาจหมายเลข5 - [ 26 ก.ย. 50 10:51:53 ]

ความคิดเห็นที่ 35 "ใครที่คิดว่าผมหลอกลวงไม่ดีเมคเรื่องขึ้น ขอให้สิ่งที่คุณคิดกับผม เกิดแก่คุณครับ ผมโกรธมากเลยครับใครมาว่าแม่ผมแบบนี้ " ไม่มีใครว่าคุณแม่ของคุณหรอกครับ เขาว่าคุณนะแหละ จากคุณ : อยู่คนเดียวเปล่าเปลี่ยวใจ - [ 26 ก.ย. 50 11:44:41 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ผมว่า"การรักษา(แบบไหนก็ได้)ที่ดี คือ ทำให้ผู้ป่วยอาการดีขึ้น" นะครับ เราต้องยอมรับว่า คนป่วย สิ่งแรกเลยที่เขาอยากพบคือหมอ/แพทย์ นั่นเอง แต่หลังจากไปหาแล้ว อาการเขาไม่ดีขึ้น..หรือยังคงเหมือนเดิม(ในระยะเวลาที่พอสมควรแล้วหลังจากรักษา) หรือหมอให้กลับมา(ตาย)นอนบ้าน เขาก็มีสิทธิเลือกที่จะรักษากับหนทางอื่นนั่นคือ..อะไรก็ได้ ที่เขาได้รับคำแนะนำมา..ว่าทำตาม/กินแล้วหาย/ดีขึ้น และเมื่อเขากิน/ทำตามแล้วหายหรือดีขึ้น.เราต้องยอมรับ.ครับ ไม่ใช่บอกว่า ดรคนี้มันจะหายแล้วหรือมันอย่างนี้.. จากคุณ : นาย กาแฟร้อน - [ 26 ก.ย. 50 11:54:03 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ลบเรื่องคนในครอบครัวดีกว่า ขอบคุณ แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 50 18:12:15 จากคุณ : ปีศาจหมายเลข5 - [ 26 ก.ย. 50 12:28:46 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ผมก็คิดเหมือน #35 นะ จากคุณ : AW Milan - [ 26 ก.ย. 50 12:31:20 ]

ความคิดเห็นที่ 39 งั้นเชิญว่าผมได้เลยครับ จากคุณ : ปีศาจหมายเลข5 - [ 26 ก.ย. 50 12:40:14 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ผมเป็นแพทย์ที่ รพ. กระบี่ เพื่อความบริสุทธิ์ใจ รบกวนคุณปีศาจหมายเลขห้า ส่งชื่อและ HN ของคนไข้เพื่อให้ผมตรวจสอบกับเวชระเบียนของทาง รพ. เมื่อได้ข้อมูลแล้วผมจะติดต่อทางทีม PCU ให้ไปเยี่ยมไข้คุณแม่ของคุณถึงบ้าน แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 50 12:49:08 จากคุณ : จ่าพิชิต ขจัดพาลชน - [ 26 ก.ย. 50 12:48:32 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ความเห็น 40 หลังไมท์เลยครับ จะได้รู้กันไป ถ้าคุณไม่ได้หลอกลวงผม ยินดีครับ ตอนนี้ผมอยู่กรุงเทพ ถ้าจะกรุณา ก็ยินดีครับ ที่บ้านมีพยาบาลดูแลอยู่แล้ว จากคุณ : ปีศาจหมายเลข5 - [ 26 ก.ย. 50 12:55:21 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ผมจะหลังไมท์คุณยังไงอ่ะครับ ทำไม่เป็นครับ จากคุณ : ปีศาจหมายเลข5 - [ 26 ก.ย. 50 12:57:49 ]

ความคิดเห็นที่ 43 กดตรงอมยิ้มชื่อผมครับ จะขึ้นหน้าต่างใหม่แล้วกดส่งข้อความ จากคุณ : จ่าพิชิต ขจัดพาลชน - [ 26 ก.ย. 50 13:02:47 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ส่งให้แล้วครับ ถ้ายินดีจะตรวจสอบก็ให้ดูเลยครับ ได้เรื่องยังไง ช่วยบอกหน่อยนะครับ แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 50 15:39:08 จากคุณ : ปีศาจหมายเลข5 - [ 26 ก.ย. 50 13:10:06 ]

ความคิดเห็นที่ 45 คุณ -=| thopical |=-  ดูมีความรู้นะครับ ผมก็ไม่รู้ว่าจริงเท็จแค่ไหน เพราะผมไม่ชำชองในเรื่องที่คุณรู้ จริงเท็จแค่ไหน เหอะๆ นี่นะหรอ คนที่เที่ยวบอกว่าให้คนอื่นมาพิสูจน์ของตัวเอง... แต่ตัวเองไม่ได้พยายามเข้าใจความจริงเลย - -* ผมไม่ได้ดูถูกอะไรคุณนะ ถ้าจะลามไปถึงคุณแม่คุณนี่ยิ่งเป็นไปไม่ได้ครับ ตอนแรกผมยังคิดด้วยซ้ำ ว่าคุณน่าจะโดนบริษัทนั่นหลอก ให้ทราบถึงความเป็นจริงบ้างน่าจะช่วยได้ ซึ่งคุณก็บอกว่า จริงเท็จแค่ไหน ทั้งๆที่คุณUmiki และคนในกระทู้หลักคนอื่นๆ เอามากองไว้ให้ดูตรงหน้าแล้ว ถ้าจะยังจะยืนกรานหลักการเดิมๆหละก็ ผมก็หมดปัญญาแล้วแหละ ไม่ขัดศรัทธาหละครับ เฮ่อออ - -* จากคุณ : -=| thopical |=- - [ 26 ก.ย. 50 18:39:18 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เหนื่อยใจใช่มั้ยครับ ที่คนข้างหน้า ไม่เข้าใจในความคิดของเรา ผมก็เป็นเหมือนคุณครับ เจอทุกคนไม่เข้าใจ แต่ไม่รุ้จะทำยังไง ความจริงผมอยู่อีกด้านนึงของกระจก ผมไม่ทราบอีกด้านนึงของคุณ ทำไมผมยกมือขวา ทั้งๆ ที่ในกระจก มันยกมือซ้าย หากเอาคนสองคนมายืนหันหน้าชนกัน แล้วทำเหมือนกระจก ทำไมต้องสลับข้างกันทำ งงเนาะ โลกมีสองด้านครับ นั่งเล่นเกมส์ดีกว่าครับ แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 50 18:50:42 จากคุณ : ปีศาจหมายเลข5 - [ 26 ก.ย. 50 18:48:40 ]

ความคิดเห็นที่ 47 #34 ครับ ผมไม่ได้คิดจะต่อต้านเรื่องที่คุณจะให้แม่คุณกินผลิตภันฑ์ใดๆเลยนะครับ ขอให้เข้าใจไว้ก่อน และก็ไม่คิดที่จะขัดอะไรด้วยถ้าใครจะซื้อ ผมไม่คิดที่จะทดลองด้วยตัวเองด้วย และก็ไม่คิดจะให้คนรู้จักที่เป็นมะเร็งมาทดลองอะไรด้วย ผมก็แค่เขียนไปตามที่ผมรู้ว่าที่มันเกิดผลทาง "กายภาพ" ต่อร่างกายมันเป็นยังไง แต่ ผลทางด้าน "จิตใจ" นั้นน่ะครับ มันจะต่างกันไปในแต่ละบุคคลครับ จากคุณ : Umiki - [ 26 ก.ย. 50 18:53:22 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เห็นว่ามี "โรคอุปปาทาน" ก็อาจมี "ยาอุปปาทาน" ได้เหมือนกัน.. จากคุณ : oro - [ 26 ก.ย. 50 23:02:26 ]

ความคิดเห็นที่ 49 สาวก.... บัวใต้น้ำ.... ความเชื่อ.... ลัทธิ... ตายแทนได้... จากคุณ : catstevens - [ 27 ก.ย. 50 01:18:19 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เจอกับตัวมาเหมือนกัน เพื่อนผมก็เป็นสาวก น้ำแห่งชีวิต นี่ละ ไปรู้จักไอ่น้ำเปลืองตังค์มาจาก พนักงานสาธารณสุข เอามาหลอกขายมัน แรกๆ มันก็ไม่ค่อยเชื่อแต่ก็เอนไปหน่อย เพราะพนักงานสาธารณสุข มาเอง แต่สุดท้ายก็เอาไปทดลองกับตัวเอง กับแม่มัน คนรอบข้างมัน ตัวมันเองเอาผสมแล้วมาพ่นหน้า แม่มันเอง เอาหยอดตา คนข้างหอเป็นเจ้าของร้านซักรีดที่มันเอาผ้าไปซัก ก็เอาให้เขา ทาแผล ส่วนผม มันให้เอามาให้พ่อผมกินเพราะพ่อผมเป็นเบาหวาน มันบอกรักษาได้... อืม.... มันรักษาได้เยอะจังสาระพัดโรคเลย ตอนแรก เพื่อนผมก็พยายามหา หลักฐานความน่าเชื่อถือต่างๆ เกี่ยวกับน้ำเปลืองตังค์นี่ละ ให้ผมช่วยหาข้อมูลด้วย แปลกนะ ดันมี อย.ด้วยแฮะ เพื่อนผมเลยเชื่อใหญ่เลย แต่ขอโทษนะครับ ที่มันผสมแล้วเอามาพ่นหน้า ไม่ได้ดีขึ้นเลย ขี้เหร่ยังไงก็หยั่งงั้นละครับ ส่วนแม่เจ้าเพื่อนผม เขาตื่นมาตาจะแห้ง รู้สึกตาเหนียวคือกรอกตาลำบากน่ะครับ จะเป็นแบบนี้ประจำ เพื่อนผมจัดการผสม น้ำเปลืองตังค์กับน้ำแร่ ่ที่ขายตามร้านทั่วไปนี่ละครับ หยอดตาแม่มันโลด แม่มันบอกโอ้โหได้ผลทันใจ ดีขึ้นกรอกตาได้ลื่นเลยลูกจ๋า ... เวรกำ .....ตาแห้ง หยอดน้ำเข้าไปมันก็ต้องดีขึ้นสิครับ เฮ้อ ดีนะตาไม่ติดเชื้อ ผมก็ถามมัน ไม่กลัวติดเชื้อรึไงวะทำแบบนี้ มันตอบว่า "เฮ้ย .... น้ำแร่เชียวนะ สะอาดกินยังปลอดภัยเลย....." เอากะมัน สุดท้ายเพื่อนผมหลังจากลองกะตัว คนในครอบครัว และคนรอบข้าง มันคิดมันเองว่าดีขึ้น น้ำเปลืองตังค์นี่วิเศษจังเลย ก็หลวมตัวไปฟังบรรยาย หรือ อีกอย่างหนึ่งคือ การสะกดจิตหมู่ กลายเป็นทาสเรียบร้อย ใครไปว่า สินค้าวิเศษ เขาไม่ได้เลยนะ จากคนเถียงไม่เก่งพูดน้อย กลายเป็นพูดเข้าข้างตัวเอง เถียงข้างๆคูๆ(แถ) ยกนู้น ยกนี่มาอ้างสาระพัด พยายามชวนผมเป็นสมาชิกให้ได้ กว่ามันจะเลิกสนใจผม เล่นเอาผมกลัวโทรศัพท์ไปเป็นเดือน - -* ผมก็บอกว่ามันหลอกลวง พวกขายตรงแบบนี้ แต่คนมันโดนสะกดจิตไปละ ถอนตัวไม่ขึ้น เหมือนว่าเขาปิดใจรับความจริงตรงจุดนี้ไป เพื่อนคนอื่นก็เดือนร้อนไปหมด เพราะถูกชวนไปเป็นเครือข่ายลูกโซ่ ส่วนญาติพี่น้องไม่ต้องห่วงเป็นหมดแล้ว เพราะไปฟังการสะกดจิตหมู่มาทุกคน และขอโทดนะครับ ไปฟังนี่ไม่ฟังฟรีนะีเสียค่าเอกสาร 200 นะครับ!!!!!!! แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันก็ขายได้นะครับ ยิ่งเป็นเครือข่ายแบบ MLM ที่ว่าเนี่ย ทำรายได้ให้มันเยอะเหมือนกันเพราะคน ที่ยังไม่รู้ยังมีเยอะแยะ แถมขายขวดนึงราคาถูกซะเมื่อไหร่ คนซื้อมีทั้งซื้อจากสรรพคุณ ซื้อเพราะเกรงใจ ซื้อเพราะรักษายอดขาย... ไม่ซื้อก็ถูกชวนเป็นสมาชิก ไปฟังการสะกดจิตก่อน ชอบไม่ชอบค่อยว่ากัน แต่ดันไม่บอกนะไปต้องเสีย 200 ต่างจังหวัดนี่ตัวทำยอดเลย ผมอยู่เชียงใหม่ เชื่อมั้ยไอ่น้ำเปลืองตังค์นี่ มีตึกของบริษัทด้วยนะ เอาไว้สะกดจิตหมู่ชาวเชียงใหม่นี่เอง เฮ้อ..เครือข่าย มันเยอะมากมาย น่ากลัวจริงๆ ทำไมถึงเอาผิดกับพวกนี้ไม่ได้สักทีนะ ***ไอ่เรื่องสรรพคุณน่ะ มันเหมือนกับการ ใบ้หวยของพวกหลอกลวงนั่น ละคับ บางคน บังเอิญถูกหวยจากการใบ้หวยก็ปากต่อปากว่า เกจินี้ให้หวยแม่น ใครไม่ถูก ก็ไม่ได้บอกต่อใคร ก็มันไม่ถูกนี่ครับ 555+ เหมือนกับ น้ำเปลืองตังค์นี่ละครับ บางคนใช้แล้วบังเอิญดี ก็บอกต่อกัน แล้วหลวมตัวไปถูกสะกดจิต กลายเป็นสาวก MLM ติดอยู่ในวังวน ออกไม่ได้ ใครใช้ไม่เห็นผลก็เสียรู้ไป เสียตังค์ไปซะงั้น*** จากคุณ : ผ่านมา - [ 27 ก.ย. 50 03:47:08 A:203.113.50.11 X: TicketID:105991 ]

ความคิดเห็นที่ 51 #50 ผ่านมา จริงๆ น้องที่ขายให้ผมเค้าบอกว่า ไปฟังรายละเอียดไม่ต้องเสียเงินนะครับ โปรดรับรู้ไว้ด้วย และไปฟังรายละเอียดที่ตึกบริษัทเลยครับ ที่อยู่ตามนี้ 92/37 อาคารสาทรธานี 2 ชั้น 14 ครับ ถ้าคุณบอกว่าเสียเงิน นั่นโดนหลอกชัวส์ครับ ขอชี้แจงว่า ไอ้ที่เพื่อนคุณใช้น่ะ มัน adoxy หรือเปล่า ถ้าใช่ กลับไปกระทู้หลักเลยครับ อีกอย่าง แค่ไปฟังยังต้องเสียเงิน มันชัวส์อยู่แล้วที่คุณจะโดนหลอก โปรดกลับไปกระทู้หลักเลย จากคุณ : ปีศาจหมายเลข5 - [ 27 ก.ย. 50 08:57:25 ]

ความคิดเห็นที่ 52 โอ มีมาต่อกระทู้นี้ด้วย คุณปีศาจหมายเลข 5 ขยันจริงๆ ขยันจนน่าสงสารเลย ช่วงนี้เวลาวันๆ หนึ่งเสียไปกับเรื่องนี้เยอะไปเปล่าคะ ^^" เป็นผู้ใช้ที่มี loyalty สูงมาก สูงมากๆๆๆ เราเห็นใจคุณนะคะ ค่อนข้างมั่นใจว่าคุณเป็นเหยื่อที่น่าสงสารของขบวนการบ้าๆ นี่แน่เลย จากคุณ : =p o o k p u i= - [ 27 ก.ย. 50 11:31:08 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ไม่ต้องสงสารผมหรอกครับ วันๆ นึงผมไม่เสียเวลาไปกับเรื่องนี้หรอกครับ เพราะผมเปิดเน็ตค้นหาข่าวสารตลอดการทำงานของผมอยู่แล้ว เรื่องนี้ก็เป็นประเด็นถกกัน มันก็เป็นประโยชน์กับผมไม่ได้ทำให้ผมเสียงานแต่อย่างใด ซ้ำ มันอาจเป็นเรื่องที่ผมสามารถเอาไปทำงานได้ด้วย แต่อย่าเข้าใจผิดว่าผมเป็นคนขายละกัน ผมไม่เคยลงเบอร์ติดต่อว่าให้มาซื้อกับผม จากคุณ : ปีศาจหมายเลข5 - [ 27 ก.ย. 50 11:53:57 ]

ความคิดเห็นที่ 54 เข้ามมาอึ๊ง นี่ จ่าพิชิตฯ แห่งห้องการ์ตูน เรา เป็นหมอรึ นี่ มายก๊อด จากคุณ : miller31 - [ 27 ก.ย. 50 13:05:45 ]

ความคิดเห็นที่ 55 เข้ามาสงสารอีกคน...... บอกว่าเปิดเน็ทหาข่าวสารตลอด แต่ว่าไม่อ่านลิงค์ที่เค้าให้มาดูเล้ย.... จากคุณ : addicted to love - [ 27 ก.ย. 50 13:11:54 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ฮาอ่ะ  แต่ท่าทางผมเชื่อน่ะครับว่ายานี้กินแล้ว จะทำให้แถได้เรื่อยๆ ฮ่าๆ จากคุณ : Future is on my hand - [ 27 ก.ย. 50 13:50:35 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ผมอ่านแล้วผมต้องบอกคุณหรือเปล่าล่ะ หรือต้องรายงานคุณทุกเรื่อง จากคุณ : ปีศาจหมายเลข5 - [ 27 ก.ย. 50 15:20:43 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ขนาดคุณเอง ก็ยังไม่อ่านเลยว่ามันเป็นยังไง 55 ขอบคุณนะที่สงสาร เอาคำสงสาร เก็บไว้เหอะ แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 50 15:25:14 จากคุณ : ปีศาจหมายเลข5 - [ 27 ก.ย. 50 15:23:37 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ตามอ่านมาตั้งแต่กระทู้ที่แล้ว ... ถ้าคุณปีศาจฯเป็นผู้บริโภคจริง (ซื้อให้แม่ใช้) ไม่ใช่ผู้ขายและไม่ได้รับ"ผลประโยชน์"จากผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจริงๆ นับว่าบริษัทนี้ประสบความสำเร็จในการสร้าง Brand loyalty ถึงขนาดมีคนมาเถียงแทนให้ (ในขณะที่พนักงาน/ เจ้าของบริษัทไม่เห็นมาตอบ หรือมาแต่ไม่แสดงตัวก็ไม่รู้ ... อิอิ) ตามติดกระทู้ซะิยิ่งกว่า จขกท ตัวจริง จนเผลอๆอ่านไปอ่านมานึกว่าเป็น จขกท ทั้งสองอันซะแล้ว มีหลายๆท่านที่เอาข้อมูลทางวิชาการมายืนยันหักล้างสิ่งที่กล่าวอ้างในเอกสารโฆษณา ที่ไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือ มารองรับแต่อย่างใด แต่ท่าน จขกท ... Ooops! ... คุณปีศาจฯ ก็เลือกที่จะไม่เชื่อ ค้านหัวชนฝา ทั้งๆที่ในเวลาเดียวกันก็บอกว่าตัวเองไม่ได้จบฟิสิกส์มา (เอ..แล้วฟิสิกส์มาเกี่ยวอะไรกับน้ำเนี่ยล่ะ???) เชื่อแต่ที่บริษัทบอกมาว่าถูกแล้ว มองในแง่ดี ... คุณกลัวเสียหน้าใช่มั้ย เสียตังค์ซื้อน้ำอะไรเนี่ยตั้งแพง แล้วชาวบ้านบอกว่าไร้สาระ เป็นไปไม่ได้ตามที่อ้าง ส่วนข้อดีอะไรต่างๆที่ว่ามาก็อาจจะเกิดจาก Placebo effect คุณก็จะตะบี้ตะบันเชื่อตามนั้นให้ได้ ลองคิดดูนะครับ สุดท้ายคุณอาจจะเป็นเหยื่อของโฆษณาที่ไม่ยอมรับว่าตัวเองโดนหลอกเท่านั้นเอง ขอฝากอะไรไว้ให้คิดนิดนึง ... หลายปีมาแล้ว (ประมาณ คศ. 2000) มีข่าวเล็กๆออกมาทาง BBC ที่ UK ว่ามีงานวิจัยพบว่า คนป่วยที่มีความศรัทธา (faith) ในพระเจ้า หมอ หรืออะไรก็ตาม จะทำให้หายเร็วกว่าคนที่ไม่ีมีศรัทธา อันนี้อ้างอิงจาก งานวิจัยใน Scotland ครับถ้าจำไม่ผิด ถ้าสนใจว่างๆจะลอง search paper อันนี้มาให้ดูครับ จากคุณ : Historicus - [ 28 ก.ย. 50 01:49:04 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ผมว่ามันเป็น placebo effect จากคุณ : ชาเขียว - [ 28 ก.ย. 50 02:56:04 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ไม่ได้เชื่อในสิ่งที่บริษัทบอกหรอก แต่เชื่อ เพราะคนป่วยอาการดีขึ้น อาจจะเพราะ placebo effect ก็ได้ แต่ผมก็เชื่ออย่างนั้น ยังไงมันก็ทำให้ดีขึ้น เชื่อ หากเหตุผลที่ยกมามันมั่ว ผมก็คงเชื่อโดยไม่มีเหตุผล เหมือนว่า 1 = 2 2 = 3 3 = 4 เพราะงั้น 1 = 4 ประมาณนี้ จากคุณ : ปีศาจหมายเลข5 - [ 28 ก.ย. 50 09:05:10 ]

ความคิดเห็นที่ 63 เอางี้ดีกว่า ผมเชื่อว่าบริษัทที่ทำน้ำวิเศษนี้ขาย ต้องได้อ่านกระทู้แน่นอน ขอให้ท่านช่วยอะไรหน่อย หากท่านมั่นใจในประสิทธิภาพ และคุณภาพของสินค้า และไหนๆ ก็มี อย. ด้วย มาทดลองกันดีกว่า โดย จัดทีมงานไปช่วยโรงพยาบาลที่มีคนป่วยเรื้อรังมากๆ โดยนำผลิตภัณท์ของคุณไปให้คนป่วยทาน และรอดูผลการรักษา ว่า เปลี่ยนไปอย่างมีนัยยะสำคัญหรือไม่ ทดลองกันแบบนี้เลยดีกว่า ถ้าได้ผล คุณก็อาจจะได้ลงข่าวโทรทัศน์ฟรี มีคนสนใจทั่วประเทศ โดยไม่ต้องโฆษณาเลยสักนิดเดียว !! นอกจากนี้ยังได้บุญ ได้สงเคราะห์คนป่วยอีกด้วย ไม่มีอะไรที่มีแต่ได้และได้แบบนี้อีกแล้ว จากคุณ : NaCl - [ 28 ก.ย. 50 11:55:33 ]

ความคิดเห็นที่ 64 อนึ่ง  ความคิดเห็นผม  ไม่ได้เป็นคนขาย  ไม่ได้เป็นคนซื้อ  แต่เป็นคนใช้(ฟรีๆ  - - นะ) และผมร่างกายไม่ได้เจ็บป่วยด้วย  - - อย่าถามผมว่ากินทำไม  ผมก็แค่กินเล่น ๆ  เท่านั้นเอง  เพราะว่าฟรี  555+  ตามหลักที่ว่า  มีกินก็กิน  ไม่ได้เสียหายอะไร  กินแล้วก็งั้น ๆ  อ่ะนะ ผมก็อยากรู้เหมือนกัน  เพราะคนใกล้ตัวผมใช้อยู่  ปวดหัวมา 2 ปี  รักษามาสารพัดไม่ดีขึ้น  แต่พอหยดไอ้นี่แล้วดีขึ้นเยอะ(เค้าว่างั้นอ่ะนะ)  ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า  ดีขึ้นจริงหรือเปล่า  เพราะผมไม่ได้เป็นคนป่วย  แง่ว  - - ไม่ได้อยู่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ขอให้คนที่อ่านความคิดเห็นผม  ลบอคติทั้ง 2 ด้านไป  แล้ววางตัวเป็นกลางให้ได้นะครับ เราจะมองแค่ว่า "หยดน้ำเทพ" นี่  เป็น object อย่างนึง  ที่สามารถทำให้คนป่วยอาการดีขึ้น / ไม่ดีขึ้น  แค่นี้  ไม่สนใจเรื่องส่วนประกอบที่อยู่ใน "หยดน้ำเทพ" นี้แม้แต่อย่างเดียว สมมติถ้าสามารถพิสูจน์ได้ว่า  ไม่ใช่ Placebo effect ล่ะครับ ?? เช่น สมมติ(เป็นแค่ประเด็นการสมมติ  ไม่คิดจะให้ใครทำจริง  หรือใครจะทำจริงก็ตามใจครับ) ให้คนที่ใช้แล้วอาการดีขึ้นมาทดลอง  แต่  เป็นการให้บุคคลที่ 3 ช่วยทดลอง  โดยที่คนป่วยไม่รู้เรื่องว่าตัวเองกำลังโดนทดลองนะครับ วิธีการ  ก็คือ ปกติ  การกินหยดนี่  จะต้องหยดลงในน้ำใช่มั๊ยครับ  คราวนี้  ก็ให้บุคคลที่ 3 หยดให้แทน  แล้วนำไปให้คนป่วยกิน  ทำแบบนี้สัก 2-3 วัน(หรือจะนานกว่านั้นก็แล้วแต่)  ให้คนป่วยรู้(เชื่อใจ)ว่า  ไอ้นี่มันหยดเป็นละ(ทำเป็นแล้ว)  หลังจากนั้น  ก็ไม่ต้องหยด  คือหยุดไปดื้อ ๆ  แล้วเอาน้ำเปล่า ๆ  ไปให้ผู้ป่วยกิน (อาจจะมีเคสที่ว่ามันไม่เปรี้ยว  ซึ่งเคสนี้  ผมคิดวิธีแก้ปัญหาไม่ออก(หรือจะหยดน้ำส้มสายชูแทน ??)) เอาล่ะครับ  ทีนี้  พอหยุดหยดไปแล้ว  ถ้าคนป่วยทรุดลง  ก็จัดว่าเป็น Placebo effect ไม่ได้  ถูกมั๊ยครับ แต่ถ้าอาการปกติ  เหมือนกับที่ยังไม่ได้หยุดยา  ก็จัดว่าเป็น Placebo effect ได้  ถูกหรือไม่ครับ สรุปคร่าว ๆ หยด -> ดีขึ้น / ไม่หยด -> ทรุดลง ------- ไม่เป็น Placebo effect หยด -> ดีขึ้น / ไม่หยด -> ดีขึ้น -------- เป็น Placebo effect ปล. เป็นแค่การทดลองที่ผมคิดขึ้น  แต่ใครจะเอาอาการป่วยไปลองจริง ๆ  ล่ะครับ  ถ้าป่วยไม่หนัก  ก็น่าลอง  แต่อย่างว่าครับ  การจะเอาอาการเจ็บป่วยของคนไข้  ไปทดลอง  มันก็ดูผิดจรรยาบัน  จริงมั๊ยครับ ผมแค่เสนอเฉย ๆ  ครับ แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 50 16:50:36 แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 50 16:44:37 จากคุณ : Zew - [ 28 ก.ย. 50 16:38:37 ]

ความคิดเห็นที่ 65 placebo effect จากคุณ : Remember16 On The Seventh Moon - [ 29 ก.ย. 50 03:20:47 ]

ความคิดเห็นที่ 66 นานๆที จะมาเชียร์ จากคุณ : atheist - [ 30 ก.ย. 50 10:43:19 ]

ความคิดเห็นที่ 67 อ่านสองกระทู้หมดไปเป็นวัน คุณคนนั้นเอาแต่โปรโมทเว็บนะคะ พฤติกรรมน่าเชื่อถือโคดๆเลย ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสีย ก็ไปนอนดูดขวดนมที่บ้านเถอะค่ะ ไม่ต้องมาเถียงแล้ว ในเมื่อคุณไม่เสียอะไรหนิ คนอื่นไม่กินคุณก็ไม่ต้องมาเดือดร้อน สินค้าโคดไม่น่าเชื่อถือ ถ้าหากว่าคุณเพียงแต่เชื่อถือสุดๆจริงๆ คุณน่าสงสารมากค่ะ จากคุณ : ลูกสาวอีฟ - [ 1 ต.ค. 50 02:19:04 ]

ความคิดเห็นที่ 68 แรกๆคุณปีศาจดูมีเหตุผลดี หลังๆดูเหมือนของเริ่มขึ้น และดูแถสุดๆ ผมว่าถ้าคุณเชื่อแบบนั้นก็เก็บไว้เงียบๆก็ได้นะครับถ้าคนอื่นเขาไม่เชื่อตามเนี่ย ดูจากสภาพแล้วยิ่งพูดก็ยิ่งเสีย เพราะเดี๋ยวคำพูดจะมาขัดแย้งกันเอง ยิ่งคุณมาเถียงขนาดนี้ยิ่งเหมือนเป็นคนขายซะเอง คุณบอกว่ารักษาตามปกติด้วยและทานอาหารเสริมตัวนี้ด้วย มันจะไม่ดีขึ้นได้ยังไงอะคับ ในเมื่อก็ยังรับการรักษาตามปกติ การรักษามะเร็งปกติก็ไมไ่ด้เห็นผลทันทีอยู่แล้วมันต้องใช้เวลาไปไม่ใช่หรือ ยารักษามะเร็งไม่มีหรอก แต่การที่คุณบอกว่าแม่คุณดีขึ้นจากการทานอาหารเสริมนี่ แสดงว่าคุณต้องการจะสื่อว่ามันคือยารักษามะเร็ง ??? จากคุณ : Desolation Angel - [ 1 ต.ค. 50 10:40:39 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ตลกไอ้ข้างบน จากคุณ : ปีศาจหมายเลข5 - [ 1 ต.ค. 50 11:08:57 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ตลกคนข้างบนเหมือนกันค่ะ -*- จากคุณ : monamafia - [ 1 ต.ค. 50 17:25:22 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ตลก 69 ของแท้ 55 จากคุณ : lollynut - [ 1 ต.ค. 50 23:42:17 ]

ความคิดเห็นที่ 72 แห่ะ แห่ะ แห่ะ... นึกว่ากระทู้ตกไปแล้ว ดันถูกโหวตขึ้นแนะนำเฉยเลย... คาดไว้ตั้งแต่ คห.ที่ 32 แล้วว่า... "ถ้าคุณ ปีศาจหมายเลข5 ยังเข้ามาตอบกระทู้อีก เดี๋ยวกระทู้ก็ขึ้นโหวต"   มาลงชื่อดันกระทู้อีกรอบครับ ... เผื่อจะได้ช่วยๆกัน เปิดหู เปิดตาชาวบ้านต่อๆกันไป... เมื่อภาครัฐไม่มีมาตรการ หรือสามารถจัดการหรือกำหราบ พวกขายตรงโฆษณาหลอกลวง-ชวนเชื่อเว่อร์ๆ พวกนี้ได้อย่างจริงจัง เราๆท่านๆนี่แหล่ะครับ ที่ต้องช่วยกันเผยแพร่ความรู้ออกไป แบบ "ปากต่อปาก" ... ด้วยความเคารพ... จากคุณ : Suraphan07 (Suraphan07) - [ 2 ต.ค. 50 14:13:34 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ผมกลัวแต่มาทดลองแล้วมันได้ผลน่ะสิแล้วมันจะยุ่ง จะดูถูก placebo effect ไม่ได้  ต้องทดลองแบบ RCT จากคุณ : ZtahC - [ 2 ต.ค. 50 14:19:27 ]

ความคิดเห็นที่ 74 พอเถอะครับ ท่านๆ .... อย่าไปหาความจริง กับ ความเชื่อ เลยครับ คนมันจะเชื่อ ไม่ว่าจะเอาอะไรมายืนยัน หรือ ทดลองให้เห็น มันก็จะเชื่อ ผมว่าอย่าไปยุ่งดีกว่า ถ้ามาเกี่ยวกับครอบครัว ก็แจ้ง อย. หรือ สคบ. ก็ได้ จากคุณ : น้ำปลาเดือนห้า - [ 2 ต.ค. 50 15:03:37 ]

ความคิดเห็นที่ 75 อ่านมาตั้งแต่อันแรกจนถึงแตกประเด็น ไม่ได้หาข้อมูลเพิ่มเติมอะไรมาก พิจารณาจากข้อความเห็น อ่านเกือบทุกความเห็นนะ เห็นว่า....... มันคืออาหารเสริม  ไม่ใช่ยารักษาโรค  ก็ต้องสรุปสั้น ๆ ฟันธง รักษาโรคไม่ได้ ก็เล่าไปเล่ามา คุณแม่ของ ปีศาจหมายเลข 5 หมอไม่รักษาแล้ว (รักษาตามอาการเท่านั้น) ทานอาหารเสริมแล้วดีขึ้น เหมือนจะหายโรค แต่พอมีความเห็นแย้ง ถ้าใช้กับกรณีอื่นได้ไหม ไม่ต้องรักษาแล้ว กลับบอกว่าต้องรักษาและทานยาควบคู่ไปด้วย ลองคิดดู  แยกข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น ความเชื่อ ที่เจ้าของกระทู้ ทั้งอันแรกและแตกประเด็น เขียนขึ้นมาก็เพื่อเตือนตรงนี้ จากคุณ : ขอตอกย้ำ (aoywan) - [ 2 ต.ค. 50 16:06:15 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ด่วน!!!! พบเอกสารวิชาการยืนยันแล้ว (ขอทีเหอะ) ปล.ตราบใดที่ไม่มีเอกสารยืนยัน ก็ยากจะเชื่อครับ (ไม่รวมเอกสารนี้นะ) จากคุณ : ประจุบวก - [ 2 ต.ค. 50 16:45:58 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ขำ#71 จากคุณ : คำสารภาพครั้งล่าสุด - [ 2 ต.ค. 50 16:49:12 ]

ความคิดเห็นที่ 78 กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีผู้เฒ่าชราฝึกวิชาบนยอดเขา ได้ใช้ให้ลูกศิษย์ไปซื้อเหล้าชั้นดี 5 ปีจะได้กินหนึ่งครั้ง แต่ผู้เฒ่าท่านนี้ยังไม่เคยได้ลิ้มรสของสุดยอดสุราแม้แต่ครั้งเดียว เคยแต่ได้ยินนามกระเดื่องของสุราเทพนี้เท่านั้น ระหว่างทาง ลูกศิษย์ได้ทำขวดสุราเทพตกแตก เห็นน้ำสีเหลืองๆไหลออกมา แย่แล้ว!!! ทำย่างไรดี   สุรา = เหลือง เยี่ยว = เหลือง เอาวะ เอาไงเอากัน กระนั้นแล้วลูกศิษย์ก็บบรรจงเล็งท่อให้ตรงกับขวดน้ำเต้าขวดใหม่ แล้วทิ้งไว้ซักพัก(เอาไปเลยไม่ได้เพราะมันยังอุ่นอยู่) เมื่อถึงยอดเขา ผู้เฒ่าก็ถามด้วยความยินดีว่า "ไหนล่ะสุราเทพฯ ข้าของลองลิ้มชิมรสมันหน่อยซิ"  แล้วก็กระชากน้ำเต้าที่มีสุราเทพฯ(ปลอม) แหงนหน้าขึ้นฟ้า แล้วบบรรจงปล่อยสายน้ำสุราเทพฯ(ปลอม)ใส่ปากด้วยความกระหาย ทันใดนั้นเอง!!!! ผู้เฒ่าถึงกับชะงักเมื่อสุราเทพฯ(ปลอม)แต่ถึงลิ้น ก่อนที่จะไหลลงคอ แล้วหันไปมองใบหน้าอันซีดเผือดของผูเป็นศิษย์ พร้อมกับกล่าวว่า " เยี่ยมมาก สมชื่อสุราเทพฯ รสละมุนยิ่งนัก ฮ่าๆๆๆๆๆๆ" นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า..................................  คิดเองเหอะ จากคุณ : ปอมปอม มิยาโตวิช - [ 2 ต.ค. 50 17:26:18 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ผมนึกถึงความเชื่อและศัทรามากว่าอ่ะ เพราะว่า คุณแม่คุณปีศาจหมายเลข5 มีโอกาสเสียชีวิต เพราะฉะนั้น จึงต้องหาทางทำทุกอย่างให้ท่านอยู่ได้นานที่สุด ถ้าอยู่ในนานจริง ไม่รู้ว่าจะเป็นเพราะวิธีการรักษาใด จึงไม่กล้าที่จะหยุดวิธีการรักษาใดๆได้ เพราะกลัวว่าจะทำให้ท่านอายุสั้นลง ดังนั้นจึงพิสูจน์ไม่ได้ว่า อาหารเสริมตัวนั้นช่วยได้จริง มันเป็น logic ที่บังคับให้คุณทำคับ - -" ผมก็ไม่ได้เป็นพวกฉลาดหรือนักวิทยาศาสตรอะไรนะคับ แต่ผมพูดตามที่ผมคิด อย่างน้อยผมก็รู้สึกเห็นใจคุณที่พยายามเพื่อแม่ขนาดนี้ ผมนับถือคุณในความพยายามคับ ปล. ชีอกที่จ่าพิชิตเป็นหมอ ปล2. ถ้าถือว่าเป็นการดูหมิ่นกัน บอกทางหลังไมค์เลยนะคับ เดี๋ยวผมจะกลับมาลบทิ้งคับ จากคุณ : นายแมวเซา - [ 2 ต.ค. 50 17:35:27 ]

ความคิดเห็นที่ 80 มาติดตาม จากคุณ : -->+:+โชยุ&วาซาบิจัง+:+<-- - [ 2 ต.ค. 50 21:51:36 ]

ความคิดเห็นที่ 81 55555555     ขำ 76 สุดๆ ทำไปด้าย.......... จากคุณ : recombination - [ 2 ต.ค. 50 22:15:32 ]

ความคิดเห็นที่ 82 คั่วไก่ คั่วไก่ คั่วไก่... จากคุณ : ลูกจ้างดีเด่น - [ 3 ต.ค. 50 07:58:13 ]

ความคิดเห็นที่ 83 อย. เค้าก็กำลังดำเนินการอยู่นิ http://newsser.fda.moph.go.th/food2/ProductADC.php แหม แต่ขำคุณปีศาจจัง แหม! ทำไปได้!! จากคุณ : ลาพักร้อน - [ 3 ต.ค. 50 10:06:42 ]

ความคิดเห็นที่ 84 #76 อุตส่าห์ทำนะ จากคุณ : ธีรภัทร์2 - [ 3 ต.ค. 50 10:23:16 ]

ความคิดเห็นที่ 85 เอ้ย จิงอ่ะ ถ้าผมเข้ามา จะทำให้กระทู้ขึ้นงั้นรึ แล้วจะเข้ามาทุกวัน แล้วไอ้คั่วไก่ มันเกี่ยวไรด้วย (ไม่เคยกินก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่) อีกอย่าง ถึงผมจะเถียงหัวชนกำแพงว่ามันทำได้ก็ยังไร้สาระสำหรับทุกท่านอยู่ดี แล้วไอ้คนที่ว่าผมให้กลับไปดูดนม ขอนมท่านมาให้ผมดูดดีกว่ามั้ยครับ ประทานโทษ จากคุณ : ปีศาจหมายเลข5 - [ 3 ต.ค. 50 10:42:25 ]

ความคิดเห็นที่ 86 มาลงชื่อ พร้อมโหวต จึ๊กนึง จากคุณ : Ki@K:) - [ 3 ต.ค. 50 13:44:28 ]

ความคิดเห็นที่ 87 งมงายจิงๆ ถ้ายามันดีจริงป่านนี้ดังพลุแตกไปแล้วคับ จากคุณ : monixe (monixe) - [ 3 ต.ค. 50 14:17:32 ]

ความคิดเห็นที่ 88 เอ้า เห็น"คนในข่าว"สงสัยว่าเกี่ยวอะไรกับคั่วไก่ ...ลองเอาไปอ่านดูละกันครับ http://www.atriumtech.com/cgi-bin/hilightcgi?Home=/home/InterWeb2000&File=/home2/searchdata/Forums/http/www.pantip.com/cafe/jatujak/topicstock/J1451129/J1451129.html ค่อยๆอ่าน ทุกคคห. ทุกบรรทัด ทุกคำ... เดี๋ยวก็เข้าใจเองแหละครับ จากคุณ : ลูกจ้างดีเด่น - [ 3 ต.ค. 50 14:45:36 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ขำ#76... และกะจะมาบอกแบบ #87เช่นกัน..... จากคุณ : อิสสระ - [ 3 ต.ค. 50 16:12:26 ]

ความคิดเห็นที่ 90 มาลงชื่อซะหน่อย ไม่ได้เข้าหว้ากอนาน บรรยากาศมาคุจริงๆ จากคุณ : แมวน้อยสีน้ำตาล - [ 3 ต.ค. 50 19:17:46 ]

ความคิดเห็นที่ 91 น้ำ เมพ   ตอน โบทูลิซึ่ม ระบาด ที่บ้านหลวง จ.น่าน ก็มีคนมาติดต่อให้ คนไข้กิน ขำๆ จากคุณ : หัวใจเถื่อน - [ 3 ต.ค. 50 21:13:37 ]

ความคิดเห็นที่ 92 คคห.76 ทำเอาผมหัวใจแทบวายนึกว่าจะมีจริงๆ แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 50 22:18:47 จากคุณ : Munch - [ 3 ต.ค. 50 22:18:27 ]

ความคิดเห็นที่ 93 J. of  MLM น่ะ impact factor เท่าไหร่เดี๋ยวจะส่ง paper ไปตีพิมพ์มั่งอ่ะค่ะแบบว่าทำแลบไว้หลายเรื่องเหมือนกัน ทั้ง work at hell กับ away น่ะค่ะ จากคุณ : auma - [ 4 ต.ค. 50 00:37:33 ]

ความคิดเห็นที่ 94 อันนี้มั่นใจ 50% เฮ้ออออ ไม่ได้เชื่อในสิ่งที่บริษัทบอกหรอก แต่เชื่อ เพราะคนป่วยอาการดีขึ้น อาจจะเพราะ placebo effect ก็ได้ แต่ผมก็เชื่ออย่างนั้น ยังไงมันก็ทำให้ดีขึ้น เชื่อ หากเหตุผลที่ยกมามันมั่ว ผมก็คงเชื่อโดยไม่มีเหตุผล เหมือนว่า 1 = 2 2 = 3 3 = 4 เพราะงั้น 1 = 4 ประมาณนี้ จากคุณ : ปีศาจหมายเลข5  - [ 28 ก.ย. 50 09:05:10 ] เฮ้อออออออออออ.......1 = 4  พิสูจน์อย่างนี้นี่เองถึงได้เชื่อ............โถ จากคุณ : สิริธีรีน - [ 4 ต.ค. 50 18:48:07 ]

ความคิดเห็นที่ 95 แม่เราเคยเป็นมะเร็งผ่าตัดออกไปแล้วแต่ยังต้องหาหมอสม่ำเสมอ ก่อนออกจากรพ.หมอย้ำกับแม่และญาติๆว่า จะไปกินยาหม้อหรืออาบน้ำมนต์พ่นน้ำหมากที่ไหนหมอไม่ว่า (หมอรู้ว่าห้ามไปคงไม่เชื่อ) แต่หมอนัดต้องมานะ ยาที่ให้ไปต้องกินให้ครบ แม่เราหาย ป้าสะใภ้เราเป้นมะเร็งเหมือนกันที่เดียวกัน ระยะเดียวกัน ญาติๆเขาพาไปรักษาตามวัด กินยาสารพัดที่ใครๆบอกว่าดีว่าวิเศษ แต่ไม่ไปหาหมอติดตามผล...ตาย เราเชื่อว่ายาวิเศษสำหรับผู้ป่วยทุกโรคคือกำลังใจที่เข้มแข็งค่ะ แม่เราบอกตัวเองว่ายังตายไม่ได้ (ตอนนั้นเรายังเด็กมาก) ป้าเราพอหมอบอกว่ามะเร็ง ทรุดเลย บอกกับใครๆว่าอีกไม่นานก็ตาย สรุป อยากบอกคุณปีศาจฯว่า จะให้คุณแม่รักษาหรือกินยาแบบไหนก็ได้ แต่อย่าทิ้งหมอทิ้งโรงพยาบาลนะคะ ปล. คคห 76 พระเจ้ายอดมันจอร์ชมาก จริงๆนะซาร่า จริงมั๊ยเฟค 1900-5555-5555 (TV Indirect and No Shortcut) จากคุณ : ลูกไก่พองลม - [ 5 ต.ค. 50 12:18:30 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ผมว่ายานี้ คนที่ได้รับ หรือคนที่ซื้อประจำ จะส่งผลให้เกิด อาการแถไปเรื่อยๆ ฮ่าๆ จากคุณ : Future is on my hand - [ 5 ต.ค. 50 22:51:49 ]

ความคิดเห็นที่ 97 อ่านแล้วชักสับสน ตกลงการขาดออกซิเจนทำให้เกิดมะเร็งเหรอ?? ผมเข้าใจมาตลอดว่า เซลล์มะเร็งมันแบ่งตัวเร็วกว่าเซลล์ทั่วไป ทำให้เส้นเลือดมาเลี้ยงมาทัน (ก็เลยเกิดเซลล์ที่ขาดออกซิเจน) ดังนั้นการขาดออกซิเจน มันจะต้องเกิดขึ้นหลังจากการเกิดมะเร็งสิ คห.31 อ่านแล้วชักแปลกๆ (เอามาวรรคเดียวนะ ไม่งั้นเยอะเกิน) "เซลล์เผาผลาญพลังงานโดยไม่ใช้ออกซิเจน.....แอนแอโรบิก.......กลายเป็นเซลล์มะเร็ง" <----- แบบนี้นักบอลก็ต้องเสี่ยงเป็นมะเร็งที่น่องมากกว่าคนทั่วไป ส่วนพวกเล่นกล้ามไม่ต้องพูดถึง คงเป็นมะเร็งทั้งตัวแล้วละ "ดังนั้นในสภาพที่ร่างกายขาดออกซิเจนมีโอกาสเกิดเซลล์มะเร็งได้ง่าย" <---เท่าที่เรียนมา มะเร็งเกิดได้จากไวรัส,สารเคมี และรังสี ปัจจัยเรื่องออกซิเจนไม่น่าจะมีผลในการทำให้เกิดมะเร็งนะ แต่ถ้าพูดในแง่ของรังสีรักษา การมีออกซิเจนในเซลล์เยอะๆ ถือเป็นเรื่องดี เพราะว่าออกซิเจนจะไปเสริมฤทธิ์การทำลายเซลล์มะเร็งของรังสีมากขึ้น เซลล์ที่ขาดออกซิเจนเลยค่อนข้างดื้อต่อรังสี จากคุณ : Fumine - [ 5 ต.ค. 50 23:51:22 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ญาติเราเป็นมะเร็งปากมดลูก รักษาแพทย์ปัจจุบัน ทำคีโม ฉายแสง หมอบอกอยู่ไม่ถึงปีใหม่ แต่ก็อยู่มาได้จนทุกวันนี้ ที่รอดเพราะการรักษาของหมอทั้งนั้น  ตอนเธอป่วยมีพวกขายตรงมาหลอกขายเห็ดหลินจือ อวดอ้างสรรพคุณครอบจักรวาล  ถ้ามันดีขนาดนั้นหมอก็เอาไปทำยาแล้ว คงไม่ปล่อยให้มาขายตรงกันแบบนี้หรอก  ไอ้ทีว่ากินนั่นกินนี่แล้วได้ผลเป็นเพราะกำลังใจต่างหาก ตอนแรกกำลังหมดหวังท้อแท้ แล้วมีพวกขายยาวิเศษมาบอกว่ากินแล้วจะหาย เลยมีกำลังใจ พอคนไข้ใจสู้ไม่ท้อแท้เหมือนเก่า ก็หายวันหายคืน  หมอรักษาดีแค่ไหนถ้าคนไข้ไม่มีกำลังใจก็ตายได้ทั้งนั้น  ถ้าไอ้ขวดน้ำเท่ายาหยอดตานี่วิเศษจริงทำไมต้องบอกให้ไปหาหมอล่ะ ดีจริงต้องกินแต่ยานี่แล้วหายเลย  เห็นส่วนผสมแล้วฮาก๊ากกก  กินปลายังมีประโยชน์กว่าเลย จากคุณ : autumn whispers - [ 12 ต.ค. 50 13:48:07 ]

ความคิดเห็นที่ 99 อาจจะเป็ทิดสะดีเดียวกับhyperbaric oxygen ก็ได้นะ ที่ใช้รักษาchronic ulcer , hemorrhagic cystitis, DM foot จากคุณ : คิบ - [ 13 ต.ค. 50 11:13:25 ]

ความคิดเห็นที่ 100 ขอสวมวิญญาณคินดะอิจิ คาดเดาคดี เล่นๆนะ 1.น้ำ ไร้สาระนี่มันหลอกลวง 2.มีคนใจร้าย + มองเห็นลู่ทาง เอามาหลอกคนไทยโง่ๆได้(ซึ่งจำนวนคนโง่ในไทยยังมีอยู่เยอะ พอที่จะทำธุรกิจ) 3.คนๆนี้ บูชาน้ำนี่ คิดว่าน้ำนี้คุ้มกับราคาแพงเวอร์  และเป็นคนขายด้วย เห็นได้จากเปิดเวปขาย และพยายามแถข้อมูลเก๊ๆ ห่วยๆ ไปเรื่อยๆ โดยมีสาระอยู่ว่า ยอมแพ้ไม่ได้ ให้คนมองว่าน้ำซังกะบ้วยมันห่วยแตกไม่ได้ 4.คนๆนี้ปลิ้นปล้อย โกหก ตลบตะแลง :-) แบ๋ๆ มาก็ตั้งหลายเรื่อง ทำไมเขาจะโกหกเรื่องแม่เขาไม่ได้ //ไม่ต้องมาคิดว่า ตัวเองมีแม่จริงๆป่วยแล้วข้าไม่ผิดข้ารักแม่... มันไร้สาระ //จริงๆมันก็เป็นผลจากการโกหกของเอ็งเอง พูดแต่เรื่องโกหก //ไม่ต้องมาแช่งคนอื่นด้วย ที่ผมคาดเดาเช่นนี้ก็เพราะการกระทำของคุณเอง คุณโกหกเอง ต้องโทษตัวคุณเอง 5.ดูแนวโน้มแล้ว คนๆนี้ เป็นระดับคนที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับธุรกิจ และแบรนด์สินค้าหลอกลวงยี่ห้อนี้ 6.เอาเถอะ การที่ใครจะเชื่อว่ากินขี้มูกเปียกแล้วแก้มะเร็งได้ //มันก็เป็นความโง่ของเขาเอง 7.แต่การที่รู้อยู่เต็มอกว่า กินขี้มูกเปียกแล้วมันไม่ได้รักษามะเร็งเลย//แล้วไปต้มตุ๋น หลอกลวง ขายขี้มูกให้กับผู้ที่ต้องการขาย ในราคาแพงๆ//คิดว่าได้บุญหรือ? 8.อานิสงค์ของการ หลอกลวงโกหก โดยตรงคือ อกเล็ก คางไม่เชิด ไม่กล้าสบตาคนจริง ตัวเล็ก เสียงระคายหู ถ้าทำมากๆจะมองโลกบิดเบี้ยว เห็นผิดไปหมด จะเกลียดตัวเอง และจะเริ่มโกหกตัวเอง 9.อานิสงค์ของการขายขี้มูกหลอกคน คือ สร้างเหตุแห่งความยากจน เหตุแห่งร่างกายอันย่ำแย่ เหตุแห่งความผิดหวัง  ในสิ่งที่จะได้ เป็นไปเพื่อความอับจน ความอัตคัต ความสิ้นไร้ไม้ตอก ความเป็นภาระแห่งตน ///จากการคาดเดาตัวคนร้าย เอ้ยไม่ไจ้ การคาดคะเน 10.คนนี้แรกๆก็ไม่รู้เรื่อง พอนานไปไม่ว่าด้วยเหตุ(อาจเป็นเรื่องแม่ หรือจริงๆเป็นเพราะเงิน)ใดก็หลงบูชา 11.เค้าอ่ะ ไม่โง่หรอก และรู้อยู่แล้วว่าน้ำขี้มูกเนี่ยมันเป็นยังไง (จริงๆแล้วผมคาดว่าเค้าน่าจะรู้กระบวนการผลิตและต้นทุนด้วย) ทุกสิ่งที่หว้ากอบอก เขาเข้าใจดี 12.แต่เขาเลือกปิดตาตัวเอง และแกล้งโง่ต่อไป // เพื่อแม่หรือ? เพื่อแม่ ที่ไม่รู้มันโม้รึป่าว เพราะมันโม้มาทุกเรื่องอยู่แล้ว //หรือเพื่อ เงิน 13.มันรู้อยู่แก่ใจว่าเพื่อไร (คงทั้ง2 อย่างละ แต่รักแม่ //หลอกขายขี้มูก มันคนละเรื่องกัน เลวส่วนเลว ดีส่วนดี) สรุป ผมรู้ว่าคุนแกล้งโง่ ผมมาบอกผลแห่งการกระทำของคุณ คุณเอาไปใคร่ครวญเอาเองละกัน จากคุณ : โย่ๆ (tanakeme) - [ 13 ต.ค. 50 16:29:50 ]

ความคิดเห็นที่ 101 เราเอามารักษาโรคสะเก็ดเงิน ไม่หายอ่ะ แต่ไปหาหมอที่คลีนิค 3วัน หาย เลย แต่ถ้าเราเครียดมากๆมันก็อาจจะมีกำเริบบ้างนะ (มันเป็นโรคที่รักษา ไม่หายขาดค่ะ)         คุณปีศาจนี่มีอภินิหารแห่งศรัทธาจริงๆ โจรใต้เชื่อมั่นว่าการลอบสังหารคือการกระทำที่ได้บุญกุศลอันล้ำเลิศ สมัยก่อนมนุษย์เชื่อว่าโลกแบน เด็กแว๊นคิดว่าการแข่งมอเตอร์ไซร์เสียงดัง คือการกระทำที่เท่ห์(ซะไม่มีอ่ะ) "คนที่เสียสติ พวกเขาไม่ได้คิดว่าตัวเองบ้า แต่คิดว่าคนรอบข้างเค้านั่นแหล่ะที่บ้า" เราว่าเชื่ออะไรก็เชื่อไป แต่อย่าเดือดร้อนชาวบ้านละกัน ไอ้ตัวนี้ใครกินแล้วหายก็ดีแล้ว กินน่ะไม่มีอันตรายหรอก อย่างมากก็เหมือนกินน้ำเปล่าใส่น้ำส้มสายชู แต่เราใช้แล้ว ไม่หาย เสียดายตังที่สุด จากคุณ : นิวมามารีน - [ 15 ต.ค. 50 23:51:58 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ตั้งแต่ติดตามมาตั้งแต่ต้นคะหลายๆกระทู้ด้วยกัน ดิฉันขอยืนยันนะคะว่าเป็นกลางคะต้องการรู้ความจริง แต่เห็นด้วยมากๆเลยคะกับ คห.63 เพราะมีเหตุผลที่สุดแล้ว ส่วนคนอื่นๆน่าจะปล่อยวางกันมากกว่านี้นะคะ ใครไม่เคยใช้ก็เงียบไปซะรับฟังก็พอเปลืองกระทู้ ใครที่เคยใช้ทั้งดีไม่ดีก็รบกวนบอกต่อก็ดีแล้วคะเป็นการเผยแพร่ให้รู้กัน แต่คนที่มาด่าว่าคนอื่นหรือแย้งคนอื่นเนี่ยคุณทำแบบนี้แล้วใครที่ไหนที่ใช้เขาจะกล้ามาบอกล่ะว่ามันดี ไม่ดียังไง ถ้าทุกคนช่วยกันไม่ใช่อารมณ์ฉันว่าคงดีกว่านี้นะ ใครยังไม่รู้จริงเอาเอกสารมาแปะๆเนี่ยก็อย่าทำเลย ถ้ายังขอเถอะให้บริษัทออกมาชีแจงเลยจะดีไหมว่าเป็นอย่างไร เพราะดิฉันเองก็รู้จักหลายคนที่ใช้ตัวนี้แล้วบอกว่าดีบ้างไม่ดีบ้าง ก็ไม่รู้ความจริงสักที ดังนั้นแนะนำว่าทางบริษัทท่าดีจริงก็ทำตามคำแนะนำของ คห.63 เถอะคะ ถ้าดีจริงอาจจะช่วยคนได้อีกเยอะ แต่ถ้ามันไม่ดีก็อย่าหลอกมนุษย์ด้วยกันเลยคะ เดี๋ยวเขาเอาไปใช้มันไม่ดีจะเสียความรู้สึกเอาป่าวๆ ใช่ว่าคนเราจะมีเงินกันทุกคน แต่ถ้าดีก็เยี่ยมคุณว่าจริงไหมนอกจากบริษัทคุณจะมีรายได้เพิ่มแล้ว คนขายยังไม่ตกงานด้วย ออกข่าวชี้แจงให้ชัดเจนไปเลย ส่วนเรื่องมี อย.ไหมนั้นดิฉันก็คิดว่าคุณคงมี เรื่องข่าวที่ออกดิฉันรู้ว่าโดนแบนแค่เรื่องโฆษณาเกินจริงเท่านั้น แต่สิ่งที่อยากรู้คือถ้ามันดีจริงบริษัทก็น่าจะออกมาชี้แจงนะคะ ไม่เช่นนั้นมันก็ยังไม่จบอีกจริงไหม มันอยู่บริษัทจะกล้าหรือเปล้าเท่านั้น ทั้ง ATM และ ADOXY เลยนะคะขอความกรุณา เพราะคนที่รอคำตอบยังมีอยู่เยอะ จากคุณ : คนผ่านมา - [ 27 ต.ค. 50 00:26:59 A:203.146.63.182 X: ]