ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าไทยเก่งหมดทุกอย่าง ป่านนี้คงครองโลกไปแล้ว อุตสาหกรรมรถยนต์ ไทย ไม่เป็นรองใครในโลกนะ.... จากคุณ : ประมาณว่า - [ 26 ก.ย. 50 12:52:10 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ^ แต่เราไม่ได้ทำเองง่ะ เอาของเข้ามาประกอบแล้วส่งขายต่อเท่านั้น จากคุณ : ง่ะ - [ 26 ก.ย. 50 12:55:54 A:unknown X:124.120.182.56 TicketID:061788 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ... ถ้าอยู่ในวงการ IT จะรู้ว่ามันก็ไม่ผิดหรอกครับ อินเดียเค้าเตรียมการด้านนี้มาเป็น 10 ปีแล้วครับ หนังสือ text book ถูกๆก็ india version ทั้งนั้น คนด้าน it ของอินเดียเค้ารวมพวก outsource ที่ทำ call center ด้วยนะครับ บ.it ใหญ่ๆ โซนเอเชียทั้ง sun ibm oracle คนอินเดียเพียบครับ หนังสือ text book เดียวนี้คนเขียนก็ india ทั้งนั้น ( ยิ่งของ apress พวก pro อะไรทั้งหลายอะ  เพียบ) คนอินเดียเป็น professer สอนใน ม.ยุโรป + อเมริกาเยอะแยะครับ อินเดียเค้ามีช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยเยอะ  เพราะประชากรเค้าเยอะมากๆ ไม่ได้อะไรหรอกนะครับ  it บ้านเราเราเหนือกว่าพม่า ลาว แล้วก็กัมพูชาอะเท่านั้นแหละครับ  ไม่ได้ว่าหรือประชดอะไรใครนะครับ   คือถ้าเรายอมรับความจริง  แล้วภาครัฐสนับสนุนอย่างจริงจัง  มันก็พอสู้ได้ครับ พวก CG หนังฮอลิวูดทั้งหลายเค้า outsource มาทำแถวนี้ทั้งนั้นแหละครับ  พวก lord หรือ matrix อะไรทั้งหลาย  ทำในไทยก็มีครับ  ไม่ใช่แค่อินเดียอย่างเดียว จากคุณ : craftman - [ 26 ก.ย. 50 12:56:36 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อินเดียมีประชากรกี่คนครับ ไทยมีกี่คน? แสนจากพันล้าน กับพันจากหกสิบล้าน ขนาด(scale)ของประชากรก็มีผลเยอะนะครับ แต่เป็นข้อเท็จจริงที่ว่าอุตสาหกรรม IT ของอินเีดียพัฒนาไปมากกว่าไทยมาก เขาเป็นแหล่ง outsource พัฒนา software และระบบIT ที่ใหญ่มากๆจากอเมริกาเลยทีเดียว และแรงงานของเขา educated มีจำนวนมากแถมค่าแรงก็ถูก(เมื่อเทียบกับเมกา) ภาษาก็ใช้ได้ ก็ไม่แปลกที่จะได้เปรียบบ้านเรานะครับ แต่พูดมามากมายมีแต่ข้อดีอินเดีย แล้วมาสรุปว่าเราแพ้เวียดนามเพราะ intel ไปตั้งโรงงานผลิตที่เวียดนามข้อเดียว? สรุปง่ายไปหน่อยไหมครับ วงการอุตสาหกรรมอิเล็คทรอนิกส์ไทยตอนนี้ก็ไม่แพ้ใครในอาเซียนหรอกนา วงการ Hard disk drive ก็กำลังมาแรงเลยทีเดียว แข่งกันขยายโรงงานกันถ้าอยู่ในวงการคงพอได้ข่าว แรงงานแบบมีทักษะของเราไม่ด้อยเลย ด้านคุณภาพเราครองอันดับหนึ่งในย่านนี้ ถ้าจะแพ้เวียดนาม ก็คงเพราะค่าแรงของเขาถูกกว่านะ่แหละ ไม่ใช่เรื่องอื่น แต่เรื่องบ้านเรายังขาดคน IT และวิศวกรที่เชี่ยวชาญน่ะเรื่องจริง แต่มันจริงเพราะการผลิตภาคอุตสาหกรรมอิเล็คทรอนิกส์มันขยายเร็วไปหน่อยเท่านั้นแหละ ไม่ใช่ว่าบ้านเราด้อยพัฒนาอะไรหรอก และโดยรวมแล้วแรงงาน ITและวิศวกรบ้านเราก็ยังมีเยอะกว่าเวียดนามในปัจจุบันมากครับ ส่วนเรื่อง intel ไปเลือกเวียดนามนั่นเป็นเรื่องของการเมืองและสิทธิประโยชน์ครับ เพราะintel เขาจะขอที่ดินฟรีๆจากรัฐบาลไทย(ในขณะที่บ.อืืนๆเขาซื้อ/เช่าที่จากนิคมฯเอง) เราไม่ให้แต่เวียดนามให้ก็ไม่แปลกที่เขาจะเลือกที่ๆ ลด cost ได้มากที่สุดน่ะแหละ ไม่ได้เกี่ยวว่าเราไม่น่าเชืื่อถือหรือแพ้อะไร และขนาดการลงทุนของ intel ก็ไม่ได้มหาศาลอย่างที่เป็นข่าว บอกตรงๆว่าขนาดโรงงาน+งบประมาณที่จะสร้างเล็กกว่าโรงงานที่เพิ่งขยายเสร็จของ HDD เจ้านึงเสียอีก ป.ล. ไม่ได้บอกให้ชมประเทศตัวเอง แต่บางเรื่องก็ต้องดูข้อเท็จจริงไม่ใช่หลงดูถูกพวกเดียวกันมั่วๆครับ จากคุณ : ....4จุด - [ 26 ก.ย. 50 13:00:45 ]

ความคิดเห็นที่ 5 #1 อุตสาหกรรมรถยนต์ของไทยแค่เป็นแหล่งผลิตครับ  เราไม่ได้คิดหรือสร้างเอง  ถ้าเค้าย้ายฐานการผลิตไปที่อื่น  ผมก็ไม่คิดว่าเราจะมี Know-how  พอที่จะสร้างรถเองนะครับ  ถึงสร้างได้ก็ไม่แน่ว่าจะสามารถแข่งขันกับรถยี่ห้ออื่นได้ ผมก็ดูอยู่นะครับ รู้สึกว่าข้อสรุปของ จขกท จะไม่ตรงกับที่ทางรายการนำเสนอนะครับ  แล้วไอ้เรื่องเราแพ้เวียดนาม  ก็แค่ความเห็นของอาจารย์ท่านหนึ่ง  รายการไม่ได้สรุปแบบนั้น  แล้ว IT ที่เค้าพูดถึงมันในวงของอุตสาหกรรม Software + support ครับ  ไม่ได้เกี่ยวกับการผลิต hw แต่อย่างใด แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 50 13:18:01 จากคุณ : craftman - [ 26 ก.ย. 50 13:05:45 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คนไทยไม่มีวินัย  เด็กอนุบาลของญี่ปุ่นยังมีระเบียบวินัยมากว่าพวกที่จบ  ป.ตรี บ้านเราเสียอีก คนไทยภาษาอังกฤษ แย่กว่าประเทศลาวเสียอีก ครูสอนภาษาอังกฤษ สอนได้แต่ไวยกรณ์  ฟัง/พูด ไม่ได้ คนไทยไม่ค่อยมีเทคโนโลยี่เป็นของตัวเอง  ส่วนใหญ่ชอบเป็นมือปืนรับจ้าง  รับจ้างผลิต  เป็นลูกจ้างอาชีพ บางคนทำงานจนหัวหงอกอยู่แล้ว  ก็ยังทำงานอยู่  ไม่รู้จะไปไหน จะหาเลี้ยงปากท้องตนเองอย่างไร  ขนาดเจ้านายจิก ด่า ก็ไม่ว่า  เสียหน้าไม่เป็นไร..เสียดายเงินเดือน  แล้วอย่าโดนไล่ออกเป็นพอ.....เอ่อ...อ้า...ไปเรื่อยเปื่อย....แล้ว..... ขอโทษด้วย..ที่บ่น  เพราะเห็นพวกเราถอยหลังลงเรื่อยๆ  แล้วหงุดหงิด จากคุณ : wenlax199 - [ 26 ก.ย. 50 13:10:32 ]

ความคิดเห็นที่ 7 5. เมืองไทยยังล้าหลังอินเดียด้าน IT ถึง 30 - 40 ปี เขาดูกันจากอะไรครับ ผมว่า 30 ปีที่แล้ว อินเดียยังไม่มีอุตสาหกรรม IT แน่ๆ อาจมีเมนเฟรม และการเขียนโปรแกรมบ้าง แต่ไทยเราปัจจุบัน มีอะไรมากกว่าอินเดียเมื่อ 30 ปี ก่อนแน่ หรือจะบอกว่าต้องอีก 30 ปีข้างหน้า เราถึงจะมีเท่ากับที่อินเดียมีในวันนี้ อันนี้ก็คงจะคาดการณ์อย่างกล้าหาญไปหน่อย จากคุณ : ksk - [ 26 ก.ย. 50 13:19:37 ]

ความคิดเห็นที่ 8 สิ่งเดียวที่เป็นปัญหาสำหรับนักไอทีไทยคือ ภาษาอังกฤษ  ไม่ว่าจะพูด จะอ่าน จะเขียน ส่งผลหมด พูดไม่ได้ ประสานงานไม่ได้ เขียนไม่ได้ ทำ report ไม่เป็น อ่านไม่ได้ แล้วจะไปอัพเดตความรู้ได้ไง ตำราใหม่ๆ อังกฤษทั้งนั้น ขืนมารอแปลไทย ป่านนี้ เขาถีบจักรไปไหนแล้วไม่รู้ แค่นี้จริงๆ นอกนั้น สองมือสองเท้า เราสู้ได้หมด จากคุณ : A.R.T. - [ 26 ก.ย. 50 13:20:37 ]

ความคิดเห็นที่ 9 . . . คุณภาพ . . . จากคุณ : MIG-ON-THE-WAY - [ 26 ก.ย. 50 13:28:34 ]

ความคิดเห็นที่ 10 30 ปีก่อนอุตสาหกรรมด้านนี้ยังไม่เป็นรูปร่างเลย ถ้าให้เทียบอินเดียเรามีไม่เท่าเค้าแน่ๆ เพราะประชากรแตกต่างกันเยอะ ถ้าเทียบเป็นสัดส่วนของจะน้อยกว่าเค้าประมาณครึ่งนึง ถ้าเทียบคุณภาพทางนั้นเค้าย่อมเหนือกว่าเราหลายขุมครับ แต่คงไม่ถึง 30 ปีหรอก ผมไม่มีข้อมูลอ้างอิงดังนั้นคงไม่กล้าพูดว่าใครเหนือกว่าใครอะไรยังไง แต่ขอมองว่า งานด้าน IT บ้านเรามันยังไม่เป็นระบบที่ดีเท่าไหร อาจจะเพราะบริษัทส่วนนึงมองว่างานฝ่ายนี้เป้นแค่ฝ่ายสนับสนุนเท่านั้นเลยไม่ให้ความสำคัญเท่าที่ควร ส่วนบริษัทใหญ่ๆเค้าก็พัฒนางานด้านนี้ไปไกลลิบเลย จากคุณ : Jump.Jr - [ 26 ก.ย. 50 13:35:46 ]

ความคิดเห็นที่ 11 #4 HDD ก็เหมือนกับ รถยนต์ครับ เราไม่มี know how จากคุณ : BaaBo!! - [ 26 ก.ย. 50 13:41:05 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ผู้บริหาร ด้านนโยบายของไทยก็ยังล้าหลังอยู่มากคับ ดูได้จากหน่วยราชการทั้งหลาย ลองถามผู้บริหารดูสิว่า CIO คืออะไรยังไม่รู้จักเลยคับ จากคุณ : กลด - [ 26 ก.ย. 50 13:44:48 ]

ความคิดเห็นที่ 13 5. เมืองไทยยังล้าหลังอินเดียด้าน IT ถึง 30 - 40 ปี ในรายการไม่ได้พูดแบบนี้เลยครับ จากคุณ : craftman - [ 26 ก.ย. 50 13:50:09 ]

ความคิดเห็นที่ 14 #11 ผมพูดในแง่ของฐานการผลิต ที่บางคนชอบยกเรื่อง intel ย้ายฐานการผลิตไปเวียดนามแล้วก็พูดอย่างกับเราจะล่มจมน่ะแหละครับ ก็เลยบอกว่าบางธุรกิจก็ยังยึดไทยแน่นเลยทีเดียวแถมขยายตัวอย่างรวดเร็วด้วย เอาแค่บ.ที่ผมพูดถึงบ.เดียวก็มีพนักงานในไทยสองหมื่นคน วิศวกรเป็นพัน วิศวกรR&D ที่เป็นคนไทยก็ไม่น้อย ยอดส่งออกแสนกว่าล้าน ก็พอจะพูดได้ว่า นักลงทุนเขาก็ยังมั่นใจบ้านเราอยู่ไม่น้อย ส่วนเรื่อง know-how ก็เป็นทั้งอาเซียนน่ะแหละครับ เป็นฐานการผลิตทั้งนั้น ไม่ได้คิดเองหรอก โปรตรอนมาเลย์เขาก็ซื้อพิมพ์เขียวจากมิตซูบิชิมาผลิตเองแล้วตกแต่งหน้าตาเอง ก็ไม่ได้ต่างจากที่เรารับจ้างเขาผลิตสักเท่าไร(ด้านฝีมือแรงงานแบบมีทักษะทางด้านผลิตรถยนต์บ้านเราอันดับหนึ่งนา) แต่ยังไงไม่ได้know-howลึกๆจนพัฒนาเองได้ทั้งหมดอยู่ดีครับ จากคุณ : ....4จุด - [ 26 ก.ย. 50 14:09:02 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ฆ่า แม่ม ทั้งประเทศ..... รวมทั้งผมด้วย จากคุณ : Mr.Kito - [ 26 ก.ย. 50 14:15:55 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เรียน จขกท. ไทยเก่งที่สุดในโลกอยู่อย่างหนึ่ง นั่นก็คือ โม้เก่ง ฮิ ฮิ จากคุณ : kongsilp2000 - [ 26 ก.ย. 50 14:21:11 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ผมว่า เราก็มีดี ส่วนนึงนะครับ ผมว่าที่มันดีดีที่ว่านั้นก็มาจากเคยเป็นเมืองขึ้น ของตะวันตกมาก่อน เลยมีภาษาติดมาด้วย นั้นแหละที่พวกนั้นไม่มีเหมือนไทย... จากคุณ : นายโอ้นโต้น - [ 26 ก.ย. 50 14:26:22 ]

ความคิดเห็นที่ 18 4. นัก IT ของอินเดียมีคุณสมบัติของคน IT ครบหมด เช่น ความรู้ ภาษาอังกฤษดี ไอเดีย ค่าแรงที่สมกับความสามารถ ความกล้าแสดงความคิดความเห็น(ไม่ขี้อายนั่งเงียบ) แต่คุณภาพชีวิตของคนไทยดีกว่าเค้าเยอะแยะ ระดับรากหญ้าที่ว่าแย่ๆของเราดีกว่าประเทศเค้าเยอะแยะมากมายเลยนะครับ  คนอินเดียส่วนมากก็ยังยากจนและไม่มีคุณภาพชีวิตที่ดีเหมือนเดิม 5. เมืองไทยยังล้าหลังอินเดียด้าน IT ถึง 30 - 40 ปี แต่ด้านอื่นๆที่เหลืออินเดียล้าหลังกว่าเรานะครับ ความเจริญกระจุกอยู่แค่ในเมืองใหญ่ๆ นอกเมืองนี่ความยากจนคือสิ่งที่คุณสำผัสได้  ขอทานในอินเดียมีมากกว่า IT Engineer หลายร้อยเท่า อินเดียมีระเบิดนิวเคลียร์นะครับ จรวดยิงได้ไกลหลายร้อยกิโล เป็นหนึ่งในมหาอำนาจนิวเคลียร์  แต่ประชาชนหลายร้อยล้านคนไม่มีอาหารจะกิน  ไม่มีบ้านจะอยู่ ไม่มีเสื้อผ้าจะใส่ ไม่มียารักษาโรคไว้กิน วิทยาศาสตร์กับคอมพิวเตอร์เขาเจริญกว่าเราอีก  เพราะเค้าจำเป็นต้องพัฒนาในจุดนี้ครับ ไม่งั้นในปัจจุบันและอนาคตประเทศก็ไม่มีรายได้อะไรเข้ามาเลย ประเทศเรายังมีข้าวหอมมะลิราดแกงไก่ราคา20บาท ลำใยกิโลละ10บาท ถึงไม่ได้ไปเป็นลูกจ้างเมกาเราก็ไม่อดตายหรอกครับ จากคุณ : yamaha111 - [ 26 ก.ย. 50 14:28:09 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อินเดียเหนือกว่าเรา คือ ภาษาอังกฤษ นี่คือสิ่งที่ จีนยังตามไม่ได้... แต่ที่อินเดียตามเราไม่ได้คือ การแบ่งชั้นวรรณะ คนเก่งกาจแค่ใหนแต่ถ้าอยุ่ในประเทศ ก็ไม่ได้รับการอุ้มชู ต้องหนีออกไปมาใช้ชีวิตต่างประเทศ จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า - [ 26 ก.ย. 50 14:42:55 ]

ความคิดเห็นที่ 20 จะมาบอกเหมือน คุณ A.R.T. ครับ ภาษาอังกฤษนี่ละ สำคัญจริงๆ ลองหาข้อมูลด้าน IT ในเวปไทยสิครับ มีแต่ รับสอนภาษา ... ขาย.... ไม่มีแหล่งความรู้ดีๆมากเท่าหน้าเวปภาษาอังกฤษ แต่พอเจอภาษาอังกฤษ อ่านก็เข้าใจ อ่านช้า แปลไม่ถูก เข้าใจไม่หมด ก็เก็บความรู้ได้ไม่เพียงพอ (พูดจากสิ่งที่ผมเป็น T_T) แต่ทักษะการเขียนโปรแกรม หรือ Business process เราไม่ด้อยกว่าเค้าเลย เพราะตอนนี้ทำงานก่ะแขก ก็รู้ครับว่าบางเรื่องเค้าก็ไม่ได้เก่งกว่าเรา ไปซะทุกอย่าง ภาษาเนี่ยละครับ อุปสรรค์สำคัญสุดๆละ จากคุณ : คนข้างๆ - [ 26 ก.ย. 50 14:50:08 ]

ความคิดเห็นที่ 21 คนไทยไม่เก่งภาษา เลยยังตามไม่ทัน จากคุณ : ปีศาจหมายเลข5 - [ 26 ก.ย. 50 15:23:19 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 26 ก.ย. 50 15:41:23 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ผมทำงานด้าน IT มาหลายปี คนไทยไม่เก่ง IT สาเหตุหลักๆ คือ 1) องค์กรไม่พัฒนาความรู้ความสามารถของทีมงาน ได้แค่ทำงานส่งลูกค้าไปวันๆ ได้แต่ตามเทคโนโลยี ไม่มีการ R&D เพราะไม่มีใครอยากเอางบมาทำ R&D ถามจริงๆ 2) ภาษาอังกฤษคนไทยอ่อนมาก ความรู้มหาศาลในอินเทอร์เนตก็ถูกตีกรอบด้วยเรื่องนี้ 3) ผมเกลียดหยุ่น.. 4) ผมเกลียดหยุ่น.. 5) ผมเกลียดหยุ่น.. จากคุณ : Angos - [ 26 ก.ย. 50 15:51:09 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ลองไปหาหนังสือชื่อ The World is Flat มาอ่านดูนะครับ หลายฉากในหนังสือเล่มนี้ชมคนอินเดียไว้เยอะมาก ให้ภาพ India ว่าเป็น Silicon Valley ในฝันแห่งต่อไปของโลกเลยละ เพราะรัฐบาลเริ่มเห็นค่าของคนกลุ่มนี้ หลังจากที่ปล่อยให้ USA ดึงตัวคนชั้นหัวกะทิไปหมด ในหลักสิบปี India ที่เรามองว่าสกปรก เหม็น อาบังขายถั่วจะต้องขึ้นไปยืนชั้นแนวหน้าของโลก IT แน่นอน แต่นั่นคือมุมเดียวครับ เพราะ India เป็นประเทศที่มีช่องว่างระหว่างชนชั้นกว้างมาก ไหนจะมีเรื่องวรรณะอีก ปัญหาหนึ่งของ India ก็คือความเจริญอย่างรวดเร็วเกินไป ในบริเวณที่แคบ ๆ ซึ่งต่อไปจะกลายเป็นปัญหาเรื้อรังในอนาคต ส่วนบ้านเรา มีเกรียน Online ไงครับ กับรมต ICT อ๊ะ ไม่อยู่แล้วนี่นา - - จากคุณ : cookiecompany - [ 26 ก.ย. 50 17:03:04 ]

ความคิดเห็นที่ 25 อินเดียมีเมืองที่ชื่อบังกาลอร์ เป็นแหล่งที่ตั้งบริษัทซอฟท์แวร์คอมพิวเตอร์ บริษัทอย่างอินโฟซิส ส่งออกโปรแกรมเป็นระดับแสนล้านบาทต่อปี บ้านเราข้อเสียคือไม่มีระบบ ระเบียบ วินัย อินโฟซิสนี่ได้ CMM level 5 สูงสุดมาร่วมสิบปีแล้ว (process มาตรฐานสำหรับซอฟท์แวร์ คล้าย ISO) อินเดียได้ CMM หรือ CMMi เป็นร้อยบริษัทฯ ไทยเริ่มมา 7-8 ปีก่อน ปัจจุบันยังมีได้ CMM (ทุกระดับ) ไม่เกิน 15 บริษัทฯ (ปัจจุบัน CMM เปลี่ยนเป็น CMMi แล้ว บริษัทไทยยิ่งมีน้อยไปอีก) สำหรับเวียดนาม เขาเน้นพัฒนาบุคคลกรทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากครับ นักวิทยาศาสตร์ วิศวะกร ผลิตออกมาจะแซงหน้าไทยอยู่แล้ว เพราะไทยเรา เด็กๆ จะเน้นเข้านิเทศ เพราะชอบเป็นนักแสดง นักร้อง กันมาก (จะเห็นได้ว่า นิเทศเป็นคณะที่คนเอนฯ มากที่สุดมาหลายปีแล้ว) จะเข้าวงการ บันเทิง เฮๆ ฮาๆ กันลูกเดียว สงสารลูกหลานในอนาคต เพราะนโยบายรัฐ ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ไม่เคยเน้นพัฒนาความสามารถในการแข่งขันที่ยั่งยืนเลย..เฮ้อ แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 50 18:20:30 จากคุณ : เลขาลิขิต - [ 26 ก.ย. 50 18:18:00 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เว็บบอร์ดที่คุยเจาะลึกพวก GPS Linux การถ่ายภาพ   การตัดต่อ VDO   บอร์ด Camfrog พวก Warez ทั้งหลาย .. ยัน Tracker โหลดบิท หาใน Search Engine ดันเจอข้อมูลที่คนไทยแชร์ความรู้กันซะเป็นส่วนมาก และมีหลายครั้ง ที่ชาวต่างชาติ (ไม่ใช่พวก Hacker ตุรกี) เข้ามาแจมด้วยความชื่นชม แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 50 18:22:11 จากคุณ : อั๋น ทรงวุฒิ - [ 26 ก.ย. 50 18:21:17 ]

ความคิดเห็นที่ 27 โรงงาน Intel หรือพวก Hard Disk Drive ไม่เกี่ยวกับ IT ครับ ถึงแม้ว่า Product ที่ได้จะถูกนำมาใช้กับ IT  แต่ในเชิงของ Manufacturing แล้ว จะเกี่ยวกับ  Mechanic ซะเป็นส่วนใหญ่ อย่าง Intel  ก็น่าจะเป็นคล้ายๆ กับ  SMT machine หรือ HDD นี่  หลักๆ ก็เป็น slider / TGA / Head Stack / Motor ซึ่งขบวนการผลิต ก็เกี่ยวข้องกับ Mechanic ทั้งสิ้น จากคุณ : The Peak - [ 26 ก.ย. 50 18:26:37 ]

ความคิดเห็นที่ 28 สิ่งสำคัญสำหรับองกรณ์ไทย ที่มีส่วนทำให้วงการนี้ไม่พัฒนาเท่าที่ควร คือ รับสมัครงาน ต้องทำได้หลายๆอย่าง สรุปคือ ทำได้ทุกอย่าง แต่ไม่เก่งซักอย่าง ลองไปหาตามเวบสมัครงานดูก็ได้ ตัวอย่างมีให้เห็นเยอะแยะ รับสมัคร webmaster ต้องเป็น php java ajax mysql html css photoshop dream แต่เงินเดือน 12000 เจอบ่อยครับประมาณนี้ รับ webmaster แต่หน้าที่แบบว่า ตั้งแต่เขียน web ออกแบบ ยันทำ content และูดูแลครบวงจร ยังมีอีกหลายตัวอย่าง ต้องลองไปหาดูเอาเอง แล้วจะรู้ จากคุณ : platalay - [ 26 ก.ย. 50 18:34:16 ]

ความคิดเห็นที่ 29 มันดูที่ค่าแรงด้วยแหล่ะ ของเวียดนาม เงินเดือนที่ 15000 นี่ ได้แรงงานชั้นยอดเลยนะ แบบพูดอังกฤษเป็น จนโท เรียนเก่ง โปรแกรมเก่งสุดๆ ในขณะที่ ของไทย 15000 ถ้าด้านคอม ได้แค่ระดับธรรมดาเอง ถ้าเอาเก่งๆ หน่อย ก็ 30000 อัพอ่ะ ค่าแรงผิดกันมาก เพราะ คนเก่งด้านโปรแกรมเมอร์ ไทยมีไม่เยอะ ค่าแรงเลยสูง บริษัทต้องการมาก แต่คนเป็นน้อย แถมคนเป็นด้านนี้ ต้องมีความรับผิดชอบอีกต่างหาก บริษัทต้องการ คนเข้างาน 9 โมง แต่พวกโปรแกรมเมอร์ มักนอนดึก ตี 4 นู่น กว่าจะนอน เลยชอบรับจ๊อบ ทำเองมากกว่า เพราะไปบริษัทไม่ไหว ถ้าเอาเก่งด้วย เรียนจบปริญญา ภาษาดี รับผิดชอบเยี่ยม สำหรับโปรแกรมเมอร์ บอกได้เลย หายากโคตรๆ เงินเดือนเลยสูง เขาก็ไปจ้างที่เวียดนามหมดดิ ในขณะที่เวียดนาม ค่าแรง ทางด้านคอม สูง(15000) คนเลยพยามถีบตัวเองไปเรียนทางด้านนี้ กันมาก คนมีความอดน รับผิดชอบ ต่างชาติลงทุน เพราะค่าแรงสำหรับพวกฝรั่ง ถือว่าถูก ก็เข้าข่าย  win-win ทั้งคู่อ่ะ จากคุณ : chosen - [ 26 ก.ย. 50 19:23:34 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เรามาเรียน วิศวกรรมคอมพิวเตอร์กันเถอะ จากคุณ : Alexzus - [ 26 ก.ย. 50 19:51:03 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เคยได้ยินว่า บริษัท Seagate ที่ทำHDD ตั้งโรงงานในไทย จริงแท็จแค่ไหนครับ จากคุณ : blindseer - [ 26 ก.ย. 50 20:10:39 ]

ความคิดเห็นที่ 32 มันตัดกันที่ภาษาคับ U ที่ผมเรียน อยู่ 50% คนแขก พวกนี้ภาษาดีคับ จากคุณ : gouppa - [ 26 ก.ย. 50 20:11:39 ]

ความคิดเห็นที่ 33 คนไทย ล้าหลังจริงๆ  เชื่อเป็นตุเป็นตะ แม้กระทั่งข่าวที่นักข่าวมั่วสร้างขึ้นมาเอง จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 26 ก.ย. 50 20:22:10 ]

ความคิดเห็นที่ 34 #31 โรงงานHDDและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องโดยตรง ในไทย เท่าที่จำได้ 1.Seagate เทพารักษ์ โคราช (แต่ไม่แน่ใจว่าประกอบ HDD ด้วยไหม อาจมีแค่พวกหัวอ่าน) 2.Hitashi Global storage (IBM เก่า) เทพารักษ์ 3.WD (Western Digital) นวนคร บางปะอิน กำลังผลิตหลักของบริษัททั้งหัวอ่านและการประกอบHDDอยู่ในไทยนี่แหละ 4.Fujitsu นวนคร?(อันนี้ไม่ค่อยแน่ใจข้อมูลว่าตอนนี้ผลิตอะไรอยู่ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะdrive ขนาด 2.5") การผลิตพวกนี้อาจไม่ได้เกี่ยวข้องกับ IT โดยตรง เพราะจะเน้นทางด้านวิศวกรรมไฟฟ้า และฟิสิกส์ซะมากกว่า(รวมไปถึงเคมีด้วย) แต่ทีมงาน R&D ก็มีคนไทยจำนวนมากพอดู และหลายๆงานก็เน้นเขียนโปรแกรมเป็นหลักครับ (เขียนโปรแกรมควบคุมrobot บ้าง ควบคุม HDD บ้าง) ซึ่งก็ถือว่าเป็นงานค่อนข้างเชิงลึกเหมือนกัน จากคุณ : ....4จุด - [ 26 ก.ย. 50 20:33:36 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ที่ intel และอื่น ๆ เค้าไปตั้งเวียดนามเพราะลด cost มิใช่หรือ เพราะ intel มีแหล่งผลิตอยู่ที่มาเลย์อยู่แล้ว มาตั้งในไทยอีก คงไม่คุ้ม ส่วน IT เวียดนามก้าวหน้ากว่าไทยต้องถามว่าด้านไหน แบ่งเป็นข้อ ๆ 1.Infra ตอนนี้เกือบทั่วประเทศไทยรองรับ internet ความเร็วสูงเกือบหมด หรือจุดไหนเข้าไม่ถึงก็ยังมี IP Star ส่วนเวียดนาม? 2.ด้าน Programer software developer ? 3.R&D IT ทั้ง software และ hareware ? ด้านไหนล่ะที่ว่าเค้าก้าวหน้ากว่าไทย เพราะเท่าที่สัมผัสมาละแวกนี้ IT Center ของบริษัทข้ามชาติ 90% จะอยู่ที่ singapore เป็น hub หรือ gateway แต่ 10% น่าจะอยู่ที่ malay กะ ไทย อาจจะมีบ้างที่เป็น regional hub ที่เวียดนามแต่ผมว่าน้อยกว่า ไทย จากคุณ : ซิมเปิ้ลแมน - [ 26 ก.ย. 50 21:24:15 ]

ความคิดเห็นที่ 36 1) เรื่องผลิตคนเนี่ย บริษัทใหญ่ๆ เค้ามีศูนย์ training ของเค้าเอง ใหญ่หยั่งกะมหาวิทยาลัยเลยครับ ของไทยเรา scale มันเล็กกว่า คงไม่มีกำลังพอที่จะทำขนาดนั้น 2) ใช่แล้ว นอกจากภาษาแล้ว คณิตศาสตร์เค้ายังพื้นฐานดีอีกด้วย ไทยเราก็มีศักยภาพไม่ขี้เหร่แต่อย่างใด บริษัทใหญ่ๆ ที่มาขยายฐานในไทยก็มีหลายแห่ง #26 อย่าเพิ่งดีใจกับผล search engine ครับ search engine เก่งๆ อย่าง google มันแสดงผลสืบค้นตามภูมิภาึึคได้ ถ้า search จากไทย ก็จะได้เวบไทยขึ้นก่อน นอกนั้นผมไม่แย้งครับ จากคุณ : ikkyu - [ 26 ก.ย. 50 21:24:17 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ตราบใดที่ยังไม่แก้ปัญหาCopyright Softwareได้ อุตสาหกรรมsoftwareในไทยไม่มีทางเกิด อย่างนักศึกษาในยุโรป เขียนเกมส์โง่ๆ ง่ายๆใช่ทีมงานไม่เกิน5คนออกมาขาย ยังขายได้เลย เมืองไทย เกมส์ดีๆยังเล่นกันฟรีอยู่เลย จากคุณ : Roninkung - [ 26 ก.ย. 50 23:55:58 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เห็นด้วยกับคุณ Platalay  เรื่องนี้เคยคุยกันในห้องสีลมมาทีแล้ว เรื่องความต้องการคน IT ของ HR บริษัทต่างๆ จะว่าไปผมว่ามันแย่ตั้งแต่หลักสูตรการเรียนการสอนแล้วด้วยล่ะครับ ครอบจักรวาล  แต่ไม่เก่งสักอย่าง  จริงๆ มันน่าจะแยกไปเลย ใครอยากไปทางไหน จากคุณ : Triceratops - [ 27 ก.ย. 50 00:23:50 ]

ความคิดเห็นที่ 39 อ่อนใจพอสมควรกับบุคคลากรด้าน IT ในประเทศเราจริงๆ ครับ ทุกมหาวิทยาลัยมีคณะที่สอน IT แต่นักศึกษาจบจากมหาวิทยาลัยภูธรของรัฐที่่ไม่สังกัดทบวงมหาวิทยาลัยเนี่ย คุณภาพต่ำจริงๆ ร้อยคนจะมีใช้ได้สักคนนึง อาจเพราะเข้าไม่ถึงเทคโนโลยีก็ได้ ความเชี่ยวชาญที่เหมือนเป็ดนั้น คน IT ก็ไม่ได้อยากเป็นหรอก แต่สถานการณ์มันบังคับ เพราะพวกเดียวกันบางคนมันไม่เอาถ่านจริงๆ เรียกว่ามาตรฐานของบัณฑิตสาขา IT ที่จบมาใหม่แต่ละคน มันแตกต่างกันเกินไป เกินกว่าจะดูจากสถาบันที่จบได้อย่างเดียว บางสถาบัน ก็สอนนักศึกษาให้ใช้ products เป็นอย่างเดียว พื้นฐานแนวคิดไม่มีเลย เช่น ถามว่า "ทำอะไรเป็นบ้าง ที่มั่นใจว่าชอบและถนัดที่สุด" "เขียนเวบครับ" "ปกติใช้เครื่องมืออะไรเขียน" "dreamweaver" "ใช้ notepad ไม่ได้เหรอ" "อาจารย์ไม่ได้สอนครับ" แล้วแบบนี้จะให้มันทำอะไรครับ ภาษาไทยก็พิมพ์แบบภาษา chat  ภาษาอังกฤษก็อ่านไม่ออกแปลไม่ได้ อ่านเป็นแต่ตำราไทยตกยุค ถ้าตราบใดที่คนไทยในสายงาน IT ภาษาอังกฤษยังอ่านไม่คล่อง ก็ไปไม่ถึงไหนหรอก ตอนนี้ก็แพ้มาเลย์แล้ว เป็นคนจบ IT แต่อ่านภาษาอังกฤษไม่ได้ ก็ไม่ใช่คน IT ครับ สื่อสารกันไม่รู้เรื่อง จากคุณ : นายเดชา - [ 27 ก.ย. 50 01:28:13 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ถ้าเด็กไทยอ่านภาษาอังกฤษได้เยอะ ตำราของเมืองนอกคงถูกอ่าน และคนไทยอาจเก่งขึ้นก็ได้ สั่งเกตุได้ว่า เด็กไทยไม่ชอบอ่านหนังสือภาษาอังกฤษครับ จากคุณ : uav - [ 27 ก.ย. 50 01:50:13 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ปัจจุบันผมทำงานอยู่ในอเมริกา ยืนยันได้ว่าไม่ได้พูดมั่วๆแบบไม่เห็นแล้วเอามาพูดแน่นอน แต่ทั้งนี้ก็เป็นข้อสังเกตของผมที่เอามาแบ่งปันเฉยๆนะครับ ขั้นต้นง่ายๆ(หรือไม่ง่าย) ไม่ต้องอะไรมาก ไม่ต้องแก้กฏหมาย ไม่ต้องปรับหลักสูตรขนาดใหญ่ ให้แรงงาน IT ในไทยพัฒนาทักษะทางด้านภาษาอังกฤษให้มากกว่านี้ก็จะไปได้ไกลแล้ว คนไทยไม่ได้โง่เรื่องด้านเทคนิค แต่เรื่องภาษาอยู่ในระดับแย่มากเมื่อเทียบกับแรงงาน IT ในหลายๆประเทศ รวมถึง"เวียดนาม" ที่ขึ้นในหัวข้อกระทู้ด้วย โลกทุกวันนี้พัฒนาไปเร็วมาก แต่คน IT เมืองไทยจำนวนมากยังรอหนังสือภาษาไทย ไม่ก็รอคนไทยอ่านแล้วมาอธิบายให้ฟัง แล้วมันจะไปทันโลกได้ยังไง เราไม่ใช่ประเทศที่ยิ่งใหญ่ขนาดที่เขาจะต้องแปลเป็นภาษาเราให้ทันทีที่มีอะไรใหม่ๆออกมา ความภูมิใจในเรื่องที่เราไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของใครเป็นสิ่งที่ดี ผมเองก็ภูมิใจ แต่มันไม่ใช่สิ่งที่ควรจะเอามาเป็นข้อแก้ตัวเมื่อพบว่าทักษะด้านภาษาของเรานั้นแย่ บางคนอาจจะแย้งผมว่า คน IT เก่งภาษาก็เยอะ แต่ผมพบจากประสบการณ์ของตัวเองว่า เก่งภาษาในระดับคนไทยนั้น จำนวนมากเป็นแค่ระดับพอถูไถเท่านั้นเอง เมื่อต้องมาทำงานกับชาวต่างชาติทั้งวันและตลอดเวลาในต่างประเทศ แล้วผมมีอะไรจะบอกอีกอย่าง พวกอินเดียที่เราว่าไม่เท่าไหร่ที่เจอในเมืองไทย ไม่เห็นจะเก่งกว่าคนไทยเลย บางคนก็งี่เง่ากว่าอีก ถ้ามาเจอพวกอินเดียที่อเมริกาความรู้ ฝีมือก็คนล่ะระดับกับพวกนั้นอีกนะครับ อเมริกามันหัวหมอ ดึงมาแต่พวกเจ๋งๆ อินเดียก็หมอพอกัน พวกเจ๋งๆก็ส่งไปขายที่ได้ราคาแพงๆ แต่มันก็ปกติของการทำการค้านั่นแหละ เรามักจะส่งของดีกว่าไปให้คนที่จ่ายมากกว่าอยู่แล้ว ผมเคยไปบรรยายให้รุ่นน้องฟังที่คณะเกี่ยวกับการทำงานหลังจบ ผมย้ำเรื่องภาษาไป เด็กๆก็อึ้งๆว่าสำคัญขนาดนี้เลยเหรอ แสดงให้เห็นว่าเราต้องปรับทัศนคติต่อเรื่องนี้จริงๆ จากคุณ : VeryBadman...อมยิ้มชำรุด - [ 27 ก.ย. 50 02:02:00 A:128.242.106.124 X: TicketID:155341 ]

ความคิดเห็นที่ 42 คนไทยมีคน it เยอะครับ อยู่ที่ปัญหาการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรมากกว่า จากคุณ : ขยะสังคม - [ 27 ก.ย. 50 03:02:24 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ^ ^ ^ ไอ้แบบที่ไม่ได้เรื่องมันเยอะกว่าที่ได้เรื่องด้วยนิ่สิ จากคุณ : BaaBo!! - [ 27 ก.ย. 50 08:50:28 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ขอต่ออีกนิดครับ จากรายการที่ว่าที จขกท ดูมันตอนที่ 2 ครับ ตอนแรกเค้าเล่าเกี่ยวกับอินเดียไปแล้ว(ที่มาที่ไป) ตอนนี้เค้าเลยเอามาเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านดังนี้ คนด้าน IT ไทย มี 5 หมื่นคน เป็นสายพัฒนา SW ราวๆ 2 หมื่นคน จากประชากรประมาณ 70 ล้าน เกาหลีใต้มีหลักแสนจากประชากร 60 กว่าล้าน มูลค่าตลาด it บ้านเรา 5 หมื่นล้านบาท  เกาหลี 5 แสนล้านบ้าน  อินเดีย 1.7 ล้านล้านบาท คนทาง it ที่เค้าบอกว่าขาดคือ - ทักษะเฉพาะทาง พวก embeded program , การโปรแกรมด้านงานวิจัย , งานทางด้านการแพทย์ ( ไม่ได้ขาดคนทำ webapp หรือ it support ) - ทักษะทางด้าน SW Eng เราทำงานได้  แต่งานระดับ enterprise ยังขาดทักษะความชำนาญ  แล้วเค้าก็เปรียบกับบ้านคือของเราทำได้แต่ระดับห้องแถว  แต่ตึกใหญ่ๆ30-40 ชั้นเรายังไม่มีศักยภาพที่จะทำ  คือเขียนโปรแกรมได้แต่ระบบคุณภาพหรือการบริหารจัดการยังสู้เค้าไม่ได้ - ความเชื่อมั่น บ. sw thai ขนาดคนไทยยังไม่จ้าง  เพราะมาตรฐานระดับสากลยังน้อย บ.ทีทำ CMMi มีไม่กี่ที่  ก็เลยไม่มีโอกาสจับงานใหญ่ๆ  ทำให้ขาดงานระดับ enterprise ที่จะเอาไปอ้างอิงเวลารับงานขนาดใหญ่ - ภาษา เราทำงานทำโปรแกรมได้   แต่เราไปสื่อสารหรือ support งานที่ลูกค้าต่างชาติจ้างไม่ได้ - การสนับสนุนจากภาครัฐ ของอินเดียเค้ามีเขตอุตสาหกรรมของเค้า  สนับสนุนทั้งเรื่องภาษี  ระบบสาธารณูประโภคต่างๆ  ที่เอื้อให้ต่างชาติมาลงทุน ของเราตรงนี้ก็ยังสู้เค้าไม่ได้ สรุปเอาเองก็คือ ที่เค้าบอกว่าขาดคือคุณภาพ ไม่ใช่ปริมาณ แล้วรายการก็ไม่ได้บอกเลยเรื่องเวียดนามแซงไทย(มีแต่คำสัมภาษณ์ความคิดของอาจารย์ท่านหนึ่ง) ทางรายการเค้ามองอุตสาหรกรรม it โดยรวมของประเทศ  เพื่อบอกถึงสาเหตุ  และทิศทางว่าเราควรจะทำยังไงให้มีอุตสาหรรม it แบบนั้นได้  ควรจะต้องแก้ไขตรงไหน อย่าง sipa ก็บอก  เราไม่เป็นที่รู้จักของตลาดเพราะคนเราขาด cert ระดับสากลต่างจากสิงโปร์  เราเลยสนับสนุนการสอบ cert ปล...แล้วเม็ดเงินก็ไหลเข้ากระเป๋าศูนย์เทรน  คนก็ไปอ่านไปท่อง testking หรือเจ้าไหนก็ตามไปสอบ  ได้ cert มาหลักพันคนแล้ว   แต่คุณภาพก็นะ.... จากคุณ : craftman - [ 27 ก.ย. 50 09:23:08 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เห็นด้วยกับ #43 เป็นอย่างยิ่ง จากคุณ : Angos - [ 27 ก.ย. 50 09:39:37 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เห็นด้วยกับ คุณ : craftman เรื่อง Cert แบบไปศูนย์เทรนเพื่อสอบเอา Cert โดยที่ตัวผู้สอบยังไม่เข้าใจเชิงลึกเรื่องจะที่สอบจริงๆเนี่ยผมยังสงสัยเลยทำไปเพื่ออะไรเนี่ย มันแตกต่างกับว่า เข้าใจจนทะลุแล้วค่อยไปสอบมากเลยนะครับ ขอต่ออีกหน่อย แล้วเรื่องมหาลัยภูธรที่เปิดคณะ it แบบแปลกๆเนี่ยผมยังว่านักศึกษาไม่ค่อยมีคุณภาพเยอะมากเลยนะครับ เช่นเรื่อง Hardware ก็ไม่เข้าใจ Software ก็ไม่ได้หรือได้แค่ระดับพื้นๆแค่พวกโปรแกรมสำเร็จรูป Network เรื่องเลเยอร์ก็ตอบไม่ได้ information อะไรก็ตอบไม่ได้ เรียกว่าเด็กราชภัฏ (บาง ม.นะ) เนี่ย 100 คนเนี่ยผมนับมีซัก 5 คนที่มันเข้าขั้นจริงๆน่ะครับ ถึงจะบอกว่าอยู่ที่ตัวบุคคลก็เถอะครับแต่จะหาคนที่มันเข้าขั้นจริงๆมันยากนะครับ ตัวผมเองคิดไม่ออกว่าตัวปัญหาที่ทำให้เป็นแบบเนี๊ยมาจากไหนกันแน่ แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 50 10:16:25 จากคุณ : Jump.Jr - [ 27 ก.ย. 50 10:07:17 ]

ความคิดเห็นที่ 47 นั่งอ่านมาตั้งนาน.... ชอบจัง เวลามีคนมาพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็น ถกข้อเท็จจริง เราว่า คนไทยก็ไม่ใช่พวกคิดไม่เป็นนะเนี่ย แหม แต่ละท่านงัดข้อมูลกันมาเปิดประเด็นกัน โอ้โห... อึ้ง ๆ ชอบง่ะ ~~~ ไม่ได้เกี่ยวกับกระทู้เลย แหะๆ จากคุณ : Madame Bovary - [ 27 ก.ย. 50 10:27:18 ]

ความคิดเห็นที่ 48 แล้วทำไมเงินเดือนผมได้แค่ 9000 เองฟะเนี่ย (Networking) จากคุณ : justic - [ 27 ก.ย. 50 11:07:42 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เอ๊ะ...ของผมรู้สึกจะคล้ายๆกับ คุณ ค.ห. 48 เลยนะครับ!!! จากคุณ : ตากแดดตามลมเพื่อ... (Kolff_Zilla) - [ 27 ก.ย. 50 14:26:28 ]

ความคิดเห็นที่ 50 อ่าน the world is flat  เรื่อง outsource ดูสิครับ แล้วจะรู้ว่าทำไมเราเป็นแบบนี้ จากคุณ : ไม่มีสมาชิกชื่อนี้ - [ 27 ก.ย. 50 18:07:23 ]

ความคิดเห็นที่ 51 พูดเรื่องคุณภาพ ลองดูกระทู้ห้อง Developer, ComSci มีแต่ถามการบ้าน คำถามบ้างอัน มันมีคำตอบอยู่แล้ว ก็แค่เปิด manual หรือใช้ smart search, google ก็ได้คำตอบแล้ว แต่ยังมาตั้งกระทู้ถาม ไม่พยายามช่วยตัวเองกันเลย ตัวอย่างกระทู้ยอดฮิต >ช่วยเขียนโปรแกรมให้หน่อย คิดจนปวดหัวแล้ว คิดไม่ออกเลย >โจทย์ ... >หนักหน่อยก็ ขอก่อนเวลา ... นะ ต้องส่งอาจารย์ >อยากศึกษาเรื่อง ... ต้องทำรายงาน >อ้อขอ web ที่เป็นภาษาไทยนะ เห็นอนาคตของชาติเป็นแบบนี้แล้ว จบมาเป็นคน IT แล้วจะเป็นยังไงกัน จากคุณ : zkaru - [ 27 ก.ย. 50 22:40:43 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ขอเล่าประสบการณ์จริงๆ ออกนอกเรื่องหน่อยๆ แต่ก็ต้องการจะให้กำลังใจคนไทยด้วยกันนะว่า ในมุมมี่มันสลัวๆ ยังมีแสงสว่างรำไร คือตอนเรียนที่ต่างประเทศ ในชั้นเรียนก็มีนศ.ไทยกะอินเดียที่ค่อนข้างจะมากกว่าชาติอื่นๆ ยอมรับว่าถ้าเรื่องภาษาละก็มันแน่นอนว่าอินเดียเจ๋งกว่าเรามาก เด็กไทยก็จะด้อยกว่าชาติอื่นจริงๆในเรื่องภาษานะ เพราะ อินโดนีเซียก็เก่งนะ แต่มีอยู่วิชานึงเป็นวิชาการใช้ทฤษฎีมาประยุกต์กับการบุกตลาด แน่นอนต้องเขียนรายงานเป็นภาษาอังกฤษ และรายงานหน้าชั้นก็ภาษาอังกฤษ เด็กไทยอย่างพวกเราก็ทำเต็มที่ บังเอิญว่าเราใช้ภาษาที่ไม่ใช่มาจากภาษาหนังสือ ซะที่เดียว ใส่มุมมอง ใส่ข้อมูลที่มันมาจากข้อมูลที่ดี และ ขอบอกว่าเขียนแบบค่อนข้างที่จะเรียบ อ่านง่าย และเข้าใจง่ายว่างั้นเหอะ คะแนนเต็ม 50 กลุ่มอะฮั้นได้ 48 คะแนนสูงที่สุดชั้น พวกอินเดียที่อยู่ชั้นเดียวกันนั้น โวยวายใหญ่ว่าทำไมคะแนนของเด็กไทยที่พูดก็สั่น หน้าตาเหรอหราได้คะแนนดี โปรเพสเซอร์บอกว่า เพราะรายงานของกลุ่มนี้กระชับ ข้อมูลแน่น ไม่ใช้ภาษาเยิ่นเย้อ และค่อนข้างทำได้กับของจริง แป่ววว มันหน้าแตกกัน เพราะ ตอนพวกนั้น ตอนเค้ารายงาน พูดคล่องปรื๊อ โอ้โห เด็กไทยเหงื่อซึมกัน จับมือเย็นๆกันให้กำลังใจกัน และมีเพื่อนต่างชาติเจ้าของภาษาที่อยู่คนละห้องแต่เรียนรวมกันบางวิชา ถามเค้าว่าถามจริงเหอะที่พวกอินเดียเค้าเสนอรายงานหน้าชั้น คุณฟังทันและเข้าใจมั้ย เค้าบอกไม่เลย ฟังยากและบางทีก็ไม่รู้ว่าพูดอะไร อืมไม่จะโอ้อวดอะไร แต่ต้องการจะบอกว่าให้มั่นใจตัวเองบ้างก็ดี แต่ตอนนั้นมันเหนือความคาดหมายสำหรับเรามาก เพราะก็คิดอยู่แหล่ะว่า พวกอินเดียต้องทำคะแนนสูงแน่ คือไม่คิดจะแข่งหรอก แต่กลัวว่าถ้าคะแนนสูงมากเราจะแย่เอาตอนสอบหน่ะ ก็เล่าสู่กันฟังว่ามีอยู่ครั้งคนไทยก็นำอินเดียนะ ฮุ ฮุ จากคุณ : เด็กไทยใจสู้ - [ 1 ต.ค. 50 08:49:57 A:58.8.122.29 X: ]

ความคิดเห็นที่ 53 ผมว่า มันอยู่ที่การใช้คนคครับ ไม่มีใครอยากย่ำอยู่กับที่ หรอกครับ แต่มันอาจจะเกี่ยวกับ ประสบการณ์ ด้วยละ มีความรู้แต่ไม่มีประสบการณ์ มัน ก็ไม่เกิดความมั่นใจ ครับ แต่ถ้ามีปรระสบการณ์ แต่ไม่มีความรู้ มันก็จะไม่เกิดสิ่งใหม่ๆๆ ที่ สำคัญ 4 ปี ก่อนที่คุณจะทำงาน คุณ ใช้ความรู้หาประสบการณ์ ได้มากแค่ใหน ของงี้ มันอยู่ที่คน และ โอกาสครับ อยากให้ การเมืองไทย ดี แล้วทำไมคุณไม่ไปเลือกตั้ง มานั่งวิจารณ์ กันไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไรเลย จากคุณ : รักแร้ (pai_bc) - [ 20 ธ.ค. 50 14:30:46 ]