ความคิดเห็นที่ 1 1. แก็งค์ขโมยอวัยวะ เนื้อหาของFWD <<  ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีกระแสข่าวเกิดขึ้นในหลายจังหวัดว่ามีแก็งค์รถตู้ออกตระเวนจับคนไปตัดอวัยวะ ฆ่าทิ้งโดยควักอวัยวะไป หรือลักพาตัวหายไป ... กระแสข่าวนี้ มีทั้งในทีวี วิทยุ โทรทัศน์ และ อินเตอร์เนท วิเคราะห์FWD >> ในเมื่อผมไม่ใช่ตำรวจ ก็คงไม่สามารถบอกได้ว่าจริงๆแล้วมีคนหายหรือตายในช่วงดังกล่าวเท่าไหร่ แต่มีข้อสังเกตบางสิ่งบางอย่างดังนี้ - ลักษณะข่าวหลายข่าว มีตั้งแต่การเจอศพที่ถูกฆ่าแล้วเปิดท้องเอาอวัยวะไป มีเด็กเจอจับแล้วก็มีคนควักลูกตาออกจากนั้นก็โยนเงินมาให้ มีคนโดนฆ่าทั้งครอบครัว ฯลฯ ... หลายข่าว คนที่ส่งต่อหรือเล่าต่อจะเล่าเหมือนกับว่าตนเองเห็นเหตุการณ์หรือได้ฟังจากปากผู้เสียหายจริงๆ แต่หากลองถามย้อนสืบค้นกลับไปแล้วจะพบว่าไม่มีรายใดเลยที่ได้รับรู้ข่าวจากเหตุการณ์จริง - ไม่มีข่าวใดขึ้นหน้าหนังสือพิมพ์ - การผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ ต้องใช้ห้องผ่าตัดและอุปกรณ์ที่ทันสมัย ในเมืองไทยทำได้ไม่กี่ที่ มีคนทำได้จำนวนไม่มาก - หลังการผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ ต้องกินยาควบคุมภูมิคุ้มกันไป'ตลอดชีวิต'และต้องตรวจอะไรอีกหลายอย่าง ซึ่งผู้ที่เปลี่ยนอวัยวะในเมืองไทยจะมีอยู่จำนวนนึง ... ถ้ามีคนไทยที่ได้รับการเปลี่ยนอวัยวะอย่างผิดกฎหมาย ก็เป็นไปได้ยากที่จะไม่มีใครรู้ใครเห็น - ที่สำคัญที่สุด ความสดของอวัยวะ ... เทคนิกที่จะทำให้อวัยวะสดใหม่พอที่จะนำไปปลูกถ่ายให้กับคนป่วยนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย ... การฆ่าคนแล้วเอาอวัยวะไปหลังจากคนๆนั้นตายแล้วเป็นสิ่งที่แทบเป็นไปไม่ได้ เพราะอวัยวะนั้นมักจะเสียคุณภาพและมีโอกาสที่จะเสียมาก ... ถ้าจะทำจริงๆน่าจะลักพาตัวไปจะง่ายกว่า - และจากข้อข้างบน ... การผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ ต้องทำการจับคู่อวัยวะของทั้งผู้ให้และผู้รับ ... ดังนั้นการจะลักอวัยวะ ต้องทำการตรวจเลือดของผู้ให้และผู้รับและจับคู่กันให้ได้ (ส่วนมากมักเป็นญาติกัน โอกาสจะเจอจากคนที่ไม่ใช่ญาตินั้นน้อย) การที่ไปดักฆ่าใครมั่วๆซั่วๆแล้วตัดอวัยวะไป จึงเป็นสิ่งที่ไม่น่าจะมีขบวนการใดงี่เง่าพอที่จะไปทำ(เพราะไม่คุ้มทุน) ที่มาของFwd : Fwdลักษณะนี้มีในอเมริกามาตั้งแต่ปี1998แล้วครับ จากคุณ : หมอแมว - [ 18 ต.ค. 50 18:39:22 ]

ความคิดเห็นที่ 2 2. การกินวิตามินC ร่วมกับการกินกุ้งทำให้ตายได้ เนื้อหาของFWDในไทย << เป็นเรื่องราวที่เกิดในไต้หวันโดยมีกรณีที่พบผู้หญิงตายโดยไม่ทราบสาเหตุและมีศาสตราจารย์คนนึงไปร่วมชันสูตร และก็บอกว่าผู้หญิงคนนี้ตายจากการที่กินกุ้งพร้อมกับวิตามินซี ซึ่งเข้าไปทำปฏิกริยากับสารหนูชนิดไม่มีพิษ As2O5 กลายเป็น As2O3 หรือสารหนูชนิดที่เป็นพิษทำให้ตายแบบเลือดไหลออกหมดตามทวาร วิเคราะห์FWD >> จับผิดได้หลายจุด - ข้อแรก ไม่มีรายงานทางการแพทย์ฉบับใดที่รายงานการเกิดพิษจากสารหนูจนถึงตาย จากการกินกุ้งพร้อมกับวิตามินซี ... ถ้ามันเป็นเรื่องที่ง่ายขนาดที่ศาสตราจารย์ทางการแพทย์ไต้หวันรู้ในพริบตาเดียว ก็น่าจะมีตำราหรือรายงานการแพทย์สักฉบับในโลกที่กล่าวถึง - กุ้งจะไปเอาสารหนูในระดับที่ฆ่าคนได้มาจากไหนโดยกุ้งไม่ตาย ... อย่าลืมว่าสารหนู(As) เป็นธาตุไม่ใช่สารประกอบ ดังนั้นไม่มีทางผสมสารใดๆแล้วบังเอิญกลายมาเป็นสารหนูได้ ถ้าไม่มีสารหนูเป็นตัวตั้งต้น - As2O5 จะเปลี่ยนเป็น As2O3ได้ ต้องใช้อุณหูมิ 300 องศาเซลเซียส - As2O3 หรือ อาร์เซนิกไตรออกไซด์ มีพิษก็จริง แต่พิษของมันถ้าเกิดเฉียบพลันจะก่อให้เกิดอาการท้องเสียรุนแรง อาเจียนมาก ... ไม่ใช่เลือดออกทุกทวาร - As2O5 หรืออาร์เซนิกเพนตาออกไซด์ก็มีพิษ กุ้งที่ไหนจะรับได้ ที่มาของFWD : พบFWDนี้ในinternet ตั้งแต่ปี2001 โดยเริ่มแรกจากข้อความสั้นๆและได้โดนพิสูจน์ว่ามั่วไปนานแล้ว แต่เมื่อเข้ามาในไทยในปี2007ก็ขยายความยาวของเนื้อหาและรายละเอียดหลายส่วนที่แก้ต่างข้อพิสูจน์เหล่านั้นไป จริงๆเป็นForward Mail ที่ไม่น่าเชื่อถืออันนึง แต่โชคไม่ดีที่มีสื่อบางแขนงเอาไปเผยแพร่โดยไม่ได้ทำการตรวจสอบให้ดี(ทั้งที่ยุคนี้การตรวจสอบข่าวสารทำได้ง่ายกว่าแต่ก่อนเยอะ หรือแค่ถามแพทย์ที่ทำงานให้กับองค์กรสื่อแห่งนั้นก็ยังได้) ซึ่งจากการเผยแพร่ของสื่อนั้น ยิ่งทำให้คนที่ไม่รู้เข้าใจไปว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริง จากคุณ : หมอแมว - [ 18 ต.ค. 50 18:40:07 ]

ความคิดเห็นที่ 3 3. รู้ไหม ถ้าคุณกำลังจะหัวใจวาย การไอสามารถช่วยคุณได้ เนื้อหาของFWD << เริ่มด้วยการสมมุติว่ากำลังขับรถกลับบ้านตอนเย็น จากนั้นก็เจ็บหน้าอกเกิดอาการหัวใจล้มเหลว ... ซึ่งรู้ว่าต้องช่วยด้วยการนวดหัวใจ แต่การนวดหัวใจ (CPR cardiopulmonary resuscitation)ต้องทำโดยคนอื่น แล้วถ้าคุณกำลังจะหัวใจหยุดเต้นใครจะช่วยได้ ... ในเนื้อหาอ้างว่าการผายปอดด้วยการไอ หรือนวดหัวใจด้วยการไอ (Cough CPR) เป็นสิ่งที่ถูกคิดค้นขึ้นโดยสถาบันการแพทย์และถูกบรรจุในหลักสูตร โดยให้ไอไปเรื่อยๆเป็นจังหวะเพื่อกระตุ้นหัวใจให้ทำงาน วิเคราะห์FWD >> - เมล์ดังกล่าวจะมีการอ้างสถาบันสุขภาพของอเมริกาหลายแห่ง แต่อันที่แพร่หลายในไทยจะอ้าง JOURNAL OF GENERAL HOSPITAL ROCHESTER และ American Heart Association ... ซึ่งสิ่งที่ค้นพบคือทั้งสองแห่งได้มีข้อความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ชัดเจนว่าไม่เคยมีการแนะนำดังกล่าว http://www.viahealth.org/body_rochester.cfm?id=329 อันแรกเป็นlinkของโรงพยาบาล Rochester ที่ยืนยันว่าไม่เคยมีการแนะนำดังกล่าวในวารสารของโรงพยาบาล และทางAmercan heart association หรือสมาคมโรงหัวใจสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นหัวเรือใหญ่ของการแพทย์ด้านหัวใจของโลก ก็ได้มีความเห็นในwebsite เกี่ยวกับเรื่องCough CPRไว้ดังนี้ครับ http://www.americanheart.org/presenter.jhtml?identifier=4535 ซึ่งสรุปใจความสั้นๆไว้ชัดเจนว่า - การนวดหัวใจด้วยการไอ มีใช้ก็เฉพาะกรณีที่กำลังทำการสวนหัวใจอยู่แล้วไปสะกิดโดนบางจุดจนเกิดหัวใจเต้นผิดจังหวะ ซึ่งแพทย์ที่สวนหัวใจจะสั่งให้คนไข้ไอ - ไม่เคยมีการสอนให้ทำCough CPR ในคำแนะนำสากลแก่ประชาชน(หรือบุคลากรทางการแพทย์ทั่วไป) นอกจากนี้ - อาการเจ็บหน้าอก เป็นอาการของหัวใจขาดเลือด Myocardial Iscemia หรือ Myocardial Infarct การแก้ไขคือ พยายามให้ผู้ที่มีอาการ อยู่นิ่งๆและหยุดกิจกรรมต่างๆ อมยาใต้ลิ้นเพื่อลดอาการเจ็บปวด และกินยาป้องกันเกร็ดเลือดแข็งตัว จากนั้นก็รีบไปโรงพยาบาล - การพยายามไอมากๆในคนที่มีอาการเจ็บหน้าอกของโรคหัวใจเป็นการออกแรง ซึ่งน่าจะให้ผลเสีย(ถึงตาย) มากกว่าผลดี - หัวใจเต้นผิดจังหวะที่ไม่มีสาเหตุแน่ชัดอื่นๆ ไม่ได้รักษาด้วยการไอ - แรงดันในช่องอกจากการไอ ไม่เพียงพอที่จะนวดหัวใจให้พ่นเลือดไปหล่อเลี้ยงร่างกายได้ - ถ้าหัวใจของใครสักคนหยุดเต้น ความดันเลือดจะตกลงจนสมองหยุดทำงาน ... ซึ่งรวดเร็วเกินกว่าที่สมองจะสั่งการให้ไอได้ทัน สรุปแล้วดูเหมือนกับว่านอกจากจะไม่มีประโยชน์แล้ว หากผู้ป่วยโรคหัวใจที่มีอาการเจ็บหน้าอกคนไหนเอาไปใช้ ก็อาจจะเกิดอันตรายได้มากกว่าที่จะเป็นประโยชน์ จากคุณ : หมอแมว - [ 18 ต.ค. 50 18:43:18 ]

ความคิดเห็นที่ 4 4. สูบบุหรี่ผิดด้าน ไปจุดเอาก้นกรองจะทำให้เป็นหมัน เนื้อหาของFWD << บอกว่าในก้นกรองบุหรี่มีสารเคมีที่ทำให้เป็นมะเร็งและทำให้เป็นหมัน วิเคราะห์FWD >> ค่อนข้างพิสูจน์ได้ง่าย - ก้นกรองบุหรี่ ทำมาจากสารพวกเซลลูโลส พูดง่ายๆว่าทำมาจากเยื่อไม้ ... จากนั้นก็เอามาทาสีข้างนอกเป็นสีน้ำตาล สีขาว ฯลฯ ดังนั้นสูบก้นกรองเข้าไปก็ไม่ได้มีอันตรายเพิ่มไปกว่าเดิม ที่จริง ก้นกรองเป็นส่วนที่ปลอดภัยที่สุดของบุหรี่ครับ - ก้นกรองบุหรี่ที่อันตราย คือก้นกรองบุหรี่แบบเก่าๆ ที่ทำมาจากแร่ใยหิน Asbestos สรุปแล้วมั่วมากครับ ดังนั้นจึงเห็นได้ว่าคนอ่านแล้วจับผิดได้ง่าย เมล์FWDนี้เลยไม่ค่อยแพร่หลายนัก ที่สำคัญ เจ้าสารที่ทำให้เป็นหมันและมะเร็ง อยู่ในตัวยาสูบ ไม่ใช่ก้นกรอง ดังนั้นถ้าใครสูบบุหรี่อยู่แล้วสูบผิดด้านก็ไม่ต้องกังวลครับ เพราะด้านที่สูบตามปกติ ก่อมะเร็งได้ง่ายกว่าก้นกรองเป็นพันเท่า จากคุณ : หมอแมว - [ 18 ต.ค. 50 18:46:03 ]

ความคิดเห็นที่ 5 5. กินฉี่หนูที่เปื้อนกระป๋องน้ำอัดลม ... ตาย!!! เนื้อหาของFWDในไทย << เมล์เก่าแก่นี้เริ่มตั้งแต่เตือนว่าการมีคนตายจากการกินน้ำอัดลมโดยไม่ได้เช็ดที่ปากกระป๋อง จึงกินฉี่หนูที่ติดตรงนั้นเข้าไป หลังจากนั้นก็ป่วยหนักและตาย ... ต่อมาก็เริ่มมีการกล่าวอ้างเพิ่มขึ้น มีทั้งบอกว่าต้องไปรักษาที่รพ. หมอบอกว่าเป็นโรคฉี่หนู ต้องส่งมารักษาที่กทม. เสียเงินเป็นล้าน , มีการกล่าวอ้างว่าฉี่หนูเฉยๆกินเข้าไปก็ตายได้ , หรือแม้แต่ระบุที่ท้ายของFwd เป็นเบอร์โทรศัพท์ของกองสาธารณสุข วิเคราะห์FWD >> เรื่องนี้ใครที่ทำงานด้านสาธารณสุข จะรู้ทันทีหลังจากอ่านว่า"มั่ว" , ใครที่บ้านมีหนูจะรู้ว่าเรื่องมันทะ:-)ๆ - โรคฉี่หนูชนิดรุนแรง จะมีอาการไข้สูงหนาวสั่น ปวดกล้ามเนื้อ ตัวเหลืองตาเหลือง ... ซึ่งอาการในเมล์มักจะเป็นอาการที่ไม่ใช่ - ฉี่หนูปกติ ต่อให้กินเข้าไปก็ไม่ตายครับ ฉี่หนูที่มีเชื้อกินเข้าไปโอกาสติดเชื้ออาจจะมีแต่น้อยมากๆ(ลงกระเพาะก็ตายไปเกือบหมด ถ้าจะติดก็คงจากแผลในปาก) ... จนถึงตอนนี้ผมก็ยังค้นหาเอกสารทางการแพทย์ที่บอกว่าฉี่หนูติดได้ง่ายๆจากการกินไม่พบเลย - บ้านใครมีหนู คงรู้นะครับว่าฉี่หนูแห้งๆกลิ่นมันขนาดไหน ใครจะกินได้ ที่มาของFWD นี้ มันกระจายในอเมริกามาตั้งแต่ปี 1998 ซึ่งอเมริกามีโรคฉี่หนูไม่มากเท่าเมืองไทย forwardเมล์นี้เลยค่อนข้างอยู่ยงคงกระพัน และถูกส่งไปส่งมาเรื่อยๆครับ จากคุณ : หมอแมว - [ 18 ต.ค. 50 18:48:40 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ....... อีก5เรื่อง ติดไว้ก่อนครับ -_-' ....... จากคุณ : หมอแมว - [ 18 ต.ค. 50 18:49:23 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 18 ต.ค. 50 19:07:11 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เงาแว๊บเลยครับ  ลุงหมอแมว จากคุณ : pattapon - [ 18 ต.ค. 50 19:18:28 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ยอดเยี่ยมครับ แฉได้ดีนักแล 80%ของเรื่องจากFWD เชื่อถือไม่ได้ ของผมใครส่งเมล์ประเภทนี้มาให้ ลบทิ้งทันที จากคุณ : ซามาโนสุเกะ - [ 18 ต.ค. 50 19:22:17 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เข้ามารอดูบ้าง กระทู้ดีๆ จากคุณ : AW Milan - [ 18 ต.ค. 50 19:23:37 ]

ความคิดเห็นที่ 11 มานั่งฟัง จากคุณ : ชะมดหวาน (apple_meppo) - [ 18 ต.ค. 50 19:28:01 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อ้าว รออีกห้านะครับ จากคุณ : Nisapus - [ 18 ต.ค. 50 19:28:35 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เอาอีกๆ จากคุณ : Queen Of Mousehole - [ 18 ต.ค. 50 19:33:26 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ร่วมแปะชื่อในบันทึกฉบับประวัติศาสตร์ไว้ด้วยคน จากคุณ : ksk - [ 18 ต.ค. 50 19:34:05 ]

ความคิดเห็นที่ 15 มายกขึ้นหิ้ง... จากคุณ : Lanoz - [ 18 ต.ค. 50 19:35:47 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สุดยอดค่ะ แบบนี้แหละที่ต้องการ!!!! จากคุณ : อยากเป็นคนที่ถูกรัก - [ 18 ต.ค. 50 19:35:47 A:124.121.22.137 X: TicketID:104613 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณมากครับหมอแมว จากคุณ : ChocolateMousse - [ 18 ต.ค. 50 19:36:49 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อีก 5 ข้อรอนานจะเสียสุขภาพไหมเนี่ย ^^ จากคุณ : โฮ่ง!~ (Popdogz) - [ 18 ต.ค. 50 19:43:09 ]

ความคิดเห็นที่ 19 จ๊าบบบบบบบ 1 vote ครับ ช่วงนี้มีแต่กระทู้ดีๆ จากคุณ : nOnG_WinZ - [ 18 ต.ค. 50 19:46:46 ]

ความคิดเห็นที่ 20 มารออีก 5 ข้อนะคะ เป็นกระทู้ที่รอคอยเลยนะเนี่ย จากคุณ : LadyVibo - [ 18 ต.ค. 50 19:56:21 ]

ความคิดเห็นที่ 21 FW mail ก็มีสาระได้ จากคุณ : สิงห์โตหัวฟู - [ 18 ต.ค. 50 20:05:13 ]

ความคิดเห็นที่ 22 วันนี้เพิ่งได้รับเมล์กุ้งกับวิตามินซีพอดี กระทู้ดีๆ มีประโยชน์ค่ะ จากคุณ : ke_ying - [ 18 ต.ค. 50 20:06:55 ]

ความคิดเห็นที่ 23 มีประโยชน์มากเลยหมอแมว *-* โหวตค่ะ จากคุณ : if-coz - [ 18 ต.ค. 50 20:10:37 ]

ความคิดเห็นที่ 24 Vote ครับ !!! จากคุณ : ^O^nioN - [ 18 ต.ค. 50 20:11:36 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ดีคับ โวตให้ จากคุณ : ชาลีฟ - [ 18 ต.ค. 50 20:14:27 ]

ความคิดเห็นที่ 26 สร้างสรรแถมเกิดประโยชน์อีก เอาไปทำFWD mailไว้ฆ่าFWD mailอันอื่นได้เลยนะเนี่ย จากคุณ : Headless Horseman - [ 18 ต.ค. 50 20:17:06 ]

ความคิดเห็นที่ 27 อีก 1 กระทู้ดีๆ จากคุณ : i_nam - [ 18 ต.ค. 50 20:18:51 ]

ความคิดเห็นที่ 28 จะรออ่านนะครับ จากคุณ : rithirong - [ 18 ต.ค. 50 20:20:15 ]

ความคิดเห็นที่ 29 อะเจ๊ย กดผิด!!! (ล้อเล่นครับ ... แฮะ แฮะ) จากคุณ : หมอแมว - [ 18 ต.ค. 50 20:21:40 ]

ความคิดเห็นที่ 30 โหวตโลดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด จากคุณ : NaCl - [ 18 ต.ค. 50 20:25:13 ]

ความคิดเห็นที่ 31  มาลงชื่ออ่านครับ.. จากคุณ : ต้นไม้สีแดง - [ 18 ต.ค. 50 20:30:44 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ต่อๆ ครับ ผมมาขอซื้อปาติหาน จากคุณ : sc24 Naresuan U. - [ 18 ต.ค. 50 20:35:38 ]

ความคิดเห็นที่ 33 โหวตค่า จากคุณ : Bubble_eis - [ 18 ต.ค. 50 20:44:45 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ดีครับ จากคุณ : Nake116 - [ 18 ต.ค. 50 20:45:56 ]

ความคิดเห็นที่ 35 1 vote จากคุณ : กฤตยฎีกา - [ 18 ต.ค. 50 20:48:39 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ปล.หวังว่าโปรดิวเซอร์บางรายการ คงไม่มาเอาอีก 9 ข้อที่เหลือไปออกรายการนะครับ จากคุณ : หมีเซอะ - [ 18 ต.ค. 50 21:06:03 ]

ความคิดเห็นที่ 37 อยากให้เขียนเรื่องฟอร์เวิร์ดเมลขอเลือดด้วยน่ะค่ะ เป็นจริงมากน้อยแค่ไหน จากคุณ : บ้าแฮร์รี่ - [ 18 ต.ค. 50 21:14:52 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เรามาเติมกันคนละเรื่องสองเรื่องใหมครับ ที่นึกออกตอนนี้ ก็ ใส่คอนเทคเลนส์ปิ้งบาบีคิว แล้วคอนเทคเลนส์ละลายติดตา ใครเคยได้อันนี้มั่ง ยังคิดอยู่ ขนาดคอนแทคเลนส์ละลาย แล้วหน้าตา ขนคิ้ว ขนตา มันจะเหลือหรือ จากคุณ : p_chusak2007 (p_chusak2007) - [ 18 ต.ค. 50 21:18:54 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณมากครับ คุณหมอแมว ขอโหวตให้นะครับ จากคุณ : threeS - [ 18 ต.ค. 50 21:29:42 ]

ความคิดเห็นที่ 40 มาเพิ่มสาระใส่สมองฮ่ะ จากคุณ : เลดี้มาเฟีย - [ 18 ต.ค. 50 21:29:55 ]

ความคิดเห็นที่ 41 มารอฟังกระทู้ครับ จากคุณ : logarithm - [ 18 ต.ค. 50 21:34:01 ]

ความคิดเห็นที่ 42 มาทายว่า จะมีน้ำ RO กินแล้ว จะทำให้แร่ธาตุในร่างกาย ถูกดูดซึมออกมาด้วยหรือเปล่า?? จากคุณ : .eAT - [ 18 ต.ค. 50 21:50:26 ]

ความคิดเห็นที่ 43 จะห้ามใจได้อย่างไร โวตตตตตตตตต จากคุณ : อีคิวศูนย์ - [ 18 ต.ค. 50 21:52:41 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เข้ามาโหวตครับ คนที่เชื่อๆ อยู่จะได้ตาสว่างซักกะที เหอ ๆ จากคุณ : Wish You Were Here - [ 18 ต.ค. 50 21:56:11 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เป็นกำลังใจให้ครับ คุณหมอเมี๊ยวๆ ^^ อย่างเราๆ ท่านๆ ก็ได้แค่เตือน แค่บอกกล่าวกันในอินเตอร์เน็ต หรือปากต่อปาก ในวงที่ไม่กว้างมาก แต่อย่างน้อยก็ได้เสนอสิ่งที่ถูกต้อง ได้แง่คิด และประโยชน์ ไม่ใช่แค่นำเสนอ ออกไปพล่อยๆ โดยไม่กลั่นกรอง พิจารณาความจริง จากคุณ : Zalhera - [ 18 ต.ค. 50 21:57:34 ]

ความคิดเห็นที่ 46 อิอิ นิตยสารหว้ากอคงต้องอาศัยหมอๆ ส่วนหนึ่งหละครับ จากคุณ : IRQ5 - [ 18 ต.ค. 50 22:05:55 A:203.146.63.182 X: TicketID:129004 ]

ความคิดเห็นที่ 47 โหวตจ้า ตอนนี้ประเด็นกินกุ้งกำลังฮอตเลยที่ออฟฟิศ -_-' เค้าเชื่อกัน เฮ้อ...  สงสัยต้องส่งกระทู้นี้ให้อ่านซะแล้ว จากคุณ : Yo_JungZ - [ 18 ต.ค. 50 22:22:07 ]

ความคิดเห็นที่ 48 โหวต จากคุณ : silverspider - [ 18 ต.ค. 50 22:23:20 ]

ความคิดเห็นที่ 49 แจ่มค่ะ ร่วมจิ้ม 1 โหวต รออีก 5 เรื่องค่ะ ^^ จากคุณ : เตียวเสี้ยน (b39kew) - [ 18 ต.ค. 50 22:26:25 ]

ความคิดเห็นที่ 50 จิ้ม 1 โหวตก่อนเลยครับ   จากคุณ : Rooter - [ 18 ต.ค. 50 22:30:51 ]

ความคิดเห็นที่ 51 โหวตให้ครับ แล้วรายการไหนที่ชอบเอา FW ไปออกละก็ เอาตัวนี้ไปออกจะดีกว่านะครับ จากคุณ : monjangja - [ 18 ต.ค. 50 22:37:07 ]

ความคิดเห็นที่ 52 โหวตๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : anakod - [ 18 ต.ค. 50 22:39:22 ]

ความคิดเห็นที่ 53 รอร้อรอ จากคุณ : รบมิพัก รักมิยั้ง - [ 18 ต.ค. 50 22:42:51 ]

ความคิดเห็นที่ 54 คิดถึงเรื่องเครื่องสำอางอันตราย แมลงวางไข่ใส่หน้าอก แล้วโดนไชเป็นรู รองเท้าแตะคีบกัดเท้าเป็นแผล ตกส้วมขาขาด คนตกลงไปตายในถังทำน้ำอัดลม แบบว่าเบื่อมากเลยค่ะ นี่ยังไม่รวมแมวบอนไซ, ไม่ฟอร์เวิร์ดต่อจะโดนปิด account email, ภาษีมูลค่าเพิ่มจะขึ้นเป็น 10 เปอร์เซ็นต์ บลาๆๆๆ เพื่อน สนิทเราเองทั้งน้านที่อุตส่าห์หวังดีส่งมา อยากจะเมลกลับไปด่าก็กระไร เลย ได้แต่ลบทิ้งแหละค่ะ จากคุณ : Am_Nuchi - [ 18 ต.ค. 50 22:44:18 ]

ความคิดเห็นที่ 55 มารอเรื่องที่เหลือค่ะ บวกกะหนึ่งโหวต จากคุณ : yatsuki - [ 18 ต.ค. 50 22:44:50 ]

ความคิดเห็นที่ 56 มาลงชื่อโหวตในกระทู้ดีๆเปี่ยมสาระ ^^ จากคุณ : Serefim - [ 18 ต.ค. 50 22:48:20 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ลุ้นว่ามีเรื่องแชมพูมีสาร SLS = มะเร็ง เรื่องกินโค้ก+เมนทอสแล้วตาย เรื่องลิปสติก+แหวนทอง ทดสอบปรอทรึเปล่า หุหุหุ จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 18 ต.ค. 50 22:48:37 ]

ความคิดเห็นที่ 58 สุดยอดดดดดดดดดดดดดดด เอาอีก เอาอีก เอาอีก เอาอีก จากคุณ : อยู่คนเดียวเปล่าเปลี่ยวใจ - [ 18 ต.ค. 50 22:54:30 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ขอแปะ+โหวตให้ครับ จากคุณ : xx SlipNOTE Kevin Theater xx - [ 18 ต.ค. 50 22:55:35 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เอาอีกครับ ๆ จากคุณ : chapicha - [ 18 ต.ค. 50 23:04:21 ]

ความคิดเห็นที่ 61 กระทู้ดีมีคุณภาพ จากคุณ : ผีหน้าคอม~ - [ 18 ต.ค. 50 23:20:53 ]

ความคิดเห็นที่ 62 แหล่มเลยครับหมอ จากคุณ : zmakqo10 - [ 18 ต.ค. 50 23:25:47 ]

ความคิดเห็นที่ 63 มาช่วยกันโพส แล้วส่งต่อเป็น FWD เอาไว้ลด traffic ในระบบกันครับ อย่าลืมเพิ่มเรื่อง ดูรายการ ผู้หญิงไร้สติ แล้วสมองฝ่อด้วย :-) จากคุณ : sunzilla - [ 18 ต.ค. 50 23:31:24 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ลงชื่อครับบ บ บ บ จากคุณ : ไม่มีสมาชิกชื่อนี้ - [ 18 ต.ค. 50 23:31:32 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ฮึ๋ยย้ากกกก.....ปูเสื่อรอฟังด้วยคน ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ จากคุณ : ginosty - [ 18 ต.ค. 50 23:36:57 ]

ความคิดเห็นที่ 66 เพิ่งได้มาสดๆเลยค่ะ มาขออนุญาตคุณหมอแมวนำเนื้อหาไปตอบเมลคนที่ส่งมานะคะ (ใส่เครดิตให้แล้วนะคะ) เป็นครั้งแรกที่ฟอร์เวิร์ดกลับกะเค้ามั่ง ปกติเจอเมลทำนองนี้ทีไรลบเกลี้ยง อิๆ จากคุณ : hotmeaw - [ 19 ต.ค. 50 00:09:32 ]

ความคิดเห็นที่ 67 เข้ามารอครับ จากคุณ : kunikun - [ 19 ต.ค. 50 00:39:28 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ปรบมือให้ คุณหมอแมวค่ะ อยากให้เมืองไทยมีเวปรวม hoax mail บ้างจังค่ะ ขึ้เกียจอ่านภาษาปะกิต ปล. แอบเดา อีกห้าเรื่องที่เหลือ จะมีเรื่อง Gengets บ้างไหมนา จากคุณ : Renka - [ 19 ต.ค. 50 01:17:33 ]

ความคิดเห็นที่ 69 เอาล่ะเว้ย... ถ้าใครส่ง Forward Mail มาให้เรา เราก็จะทำการ ส่งกระทู้นี้กลับไปหาซะ จะได้จบ ๆ เรื่องกันไป จากคุณ : tkl1982 - [ 19 ต.ค. 50 01:22:43 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ว้าววววววววว อย่างนี้เลยค่ะที่อยากเห็นในหว้ากอ ปลื้มๆๆๆๆๆ ขอบคุณคุณหมอแมวมากค่ะ ^^ ว่าแล้วก็โหวตตตตตต รออ่านเรื่องอื่นๆ อย่างใจจดใจจ่อค่ะ ปล.มีเรื่องมหันตภัยจากโค้ก อันที่มีตำรวจเอาโค้กไปล้างถนน เพราะล้างคราบเลือดได้ดีมั้ยคะ เห็นฟอเวิดกันมาห้าหกปีแล้ว นี่เมื่อเร็วๆ นี้มันวนกลับมาอีกแล้วค่ะ อ่านแล้วป่วย -*- จากคุณ : โยษิตา - [ 19 ต.ค. 50 01:33:31 ]

ความคิดเห็นที่ 71 เคยดูสารคดีนะคะ  มีเลือดออกทางทวารทั้ง7จนตายจริง ๆ ค่ะ  น่ากลัวมากเลย แต่เป็น.... โรคอีโบล่า -_-' จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 19 ต.ค. 50 01:36:35 ]

ความคิดเห็นที่ 72 โหวตครับ จากคุณ : คลิกที่นี่เพื่อส่งข้อความ - [ 19 ต.ค. 50 02:00:45 ]

ความคิดเห็นที่ 73 เยี่ยมมากครับ กระทู้นี้ ขอโหวตเลย สื่อต่างๆ น่าจะมีอะไรคิดซักหน่อยนะก่อนเอามาออก จะได้ไม่กลายเป็นตัวตลกไป จากคุณ : หมูกระเทียม+ไข่ดาว - [ 19 ต.ค. 50 02:43:32 ]

ความคิดเห็นที่ 74 เยี่ยมากครับกระทู้นี้  อยากได้ความกระจ่างเกี่ยวกับฟอเวิร์ดเมลมานานแล้ว ขออนุญาตกณอปเอาไปให้เพื่อนอ่านนะครับ จากคุณ : Humble - [ 19 ต.ค. 50 03:11:16 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ขออนุญาตไป forward ต่อนะคะ จากคุณ : ศรีธนา - [ 19 ต.ค. 50 05:04:28 ]

ความคิดเห็นที่ 76 เยี่ยมครับ จากคุณ : Freedom and Justice - [ 19 ต.ค. 50 05:35:07 ]

ความคิดเห็นที่ 77 มีประโยชน์จริงๆครับ โหวตครับ ขอสารภาพว่าบางอันผมเคยแอบเชื่อด้วยหละ :P จากคุณ : ชีริว - [ 19 ต.ค. 50 05:53:13 ]

ความคิดเห็นที่ 78 แบบนี้...ต้องโหวต จากคุณ : ลูกจ้างดีเด่น - [ 19 ต.ค. 50 07:47:06 ]

ความคิดเห็นที่ 79 เข้ามารอ จากคุณ : KYC - [ 19 ต.ค. 50 08:07:47 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ลงชื่อรอ จะเอไปทำ fwd mail อิอิ จากคุณ : bbiggy - [ 19 ต.ค. 50 08:34:18 ]

ความคิดเห็นที่ 81 มารอดู Fw เรื่องต่อไป แจ่มค่ะ จากคุณ : iamnid - [ 19 ต.ค. 50 08:36:03 ]

ความคิดเห็นที่ 82 เอาเลยพี่หมอ..... ผมชอบ... อ้อ.....แล้วก็ช่วยส่งลิงค์กระทู้นี้ไปให้รายการผู้หญิงถึงผู้หญิงดูหน่อย เผื่อจะได้ฉลาดขึ้นมาบ้าง..... จากคุณ : Sakurachan (Tomoeda) - [ 19 ต.ค. 50 08:39:39 ]

ความคิดเห็นที่ 83 เชื่อมะ.....อีกสักพัก กระทู้นี้จะกลายเป็น FW Mail ในอีกหนึ่งเดือนต่อมา..... จากคุณ : Sakurachan (Tomoeda) - [ 19 ต.ค. 50 08:40:37 ]

ความคิดเห็นที่ 84 เรียนถาม คุณหมอแมวครับ ใช่คนๆเดียวกับที่เขียนบทความใข MThai หรือป่าวครับ จากคุณ : นายโอ้นโต้น - [ 19 ต.ค. 50 08:49:17 ]

ความคิดเห็นที่ 85 เยี่ยมค่ะ จากคุณ : endimian - [ 19 ต.ค. 50 09:07:47 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ผมนั่งรออ่าน FW mail ละกันนะครับ อิอิ จากคุณ : ละอ่อน (ละอ่อนชายแดน) - [ 19 ต.ค. 50 09:08:32 ]

ความคิดเห็นที่ 87 จะได้เลิกถามกันสักที หุหุ จากคุณ : Desolation Angel - [ 19 ต.ค. 50 09:21:45 ]

ความคิดเห็นที่ 88 หมอแมว จะว่าอะไรไหมครับ ถ้าผมจะเอา แฉFw-mail ของหมอแมวไป ทำ Fw-mail ส่งให้รู้ทั่วๆ กันน่ะครับ ปล, 1 โหวต จากคุณ : vn, man - [ 19 ต.ค. 50 09:42:25 ]

ความคิดเห็นที่ 89 FW ออกไปเยอะๆก็ดีนะ เผื่อมันจะได้ไปถึงพวกทีวีรายการวิจารณญาณบกพร่องมั่ง จากคุณ : ari - [ 19 ต.ค. 50 10:04:14 A:210.213.11.194 X: TicketID:102543 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ^ ^ ^ ใครทำเป็น  forward mail  แล้ว รบกวน  forward มาให้มั่งสิคะ แบบว่าของเราพิมพ์ไทยแล้วมันชอบเป็นภาษาอมนุษย์อ่า จากคุณ : Madame Bovary - [ 19 ต.ค. 50 10:09:20 ]

ความคิดเห็นที่ 91 เข้ามาโหวต ขอบคุณครับ จากคุณ : หมูน้อยเบอร์7 - [ 19 ต.ค. 50 10:20:26 ]

ความคิดเห็นที่ 92 สุดๆ ผมส่งเมล์ยิงกันทั้งทีมที่ทำงาน ........ชอบกันจังเลย Forward mail  โดยไม่คิดเลยว่ามีเหตุผลรอรับอย่างไร? และผ่านขบวนการวิเคาระห์หาสาเหตุหรือไม่ ....  เปิดเสร็จเชื่อเลย ว่าจริง ........... ผมเลยสรุปว่าการศึกษาบ้านเรามีปัญหามากๆ 1 โหวตจากใจครับ จากคุณ : สะตอคุง - [ 19 ต.ค. 50 10:28:14 ]

ความคิดเห็นที่ 93 เอาเรื่อง SLS หน่อยแล้วกัน แต่ไม่ได้แฉครับ มาวางเรื่องไว้ให้คนอื่นแฉ 1. ------------------------------------------------------------------------------------- เดี๋ยวนี้สบู่เหลวได้รับความนิยมยิ่งขึ้น ด้วยเหตุผลของความสะดวกสบายเป็นสำคัญ แต่คุณรู้ไหมว่า สบู่เหลวที่เราใช้กันอยู่นั้นไม่ใช่สบู่แต่เป็นสารเคมีล้วนๆ! สบู่เหลวที่ดีจริงๆจะต้องมีส่วนผสมของเนื้อสบู่อย่างน้อย 25 % แล้วที่เหลือเป็นน้ำ แต่ความเป็นจริงแล้วไม่มีสบู่เหลวแบบนี้วางขายอยู่เลย เพราะผลิตภัณฑ์เกือบทุกชนิดที่วางขายอยู่นั้น เป็นแค่ใช้สารซักฟอกหรือดีเทอเจน ผสมกับสารเคมีสังเคราะห์อื่นๆ แล้วทำให้อยู่ในรูปของเหลว ซึ่งสารซักฟอกหรือดีเทอเจนก็คือสารเคมีหลัก ที่ใช้ในการผลิตแชมพู น้ำยาล้างจาน น้ำยาทำความสะอาดพื้น หรือแม้แต่น้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำนั่นเอง จะผิดกันก็แต่ว่าความเข้มข้นของสารซักฟอก ที่ใช้ทำสบู่เหลวมีความเจือจางกว่าเท่านั้น ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้สบู่เหลว คงไม่เกิดขึ้นในฉับพลันทันที แต่จะสะสมเป็นปัญหาในระยะยาวได้ เพราะสารเคมีเหล่านี้จะแทรกซึมลงไปในผิวหนัง อวัยวะภายใน และกระแสเลือดได้ทุกครั้งที่เราอาบน้ำ SLS หรือ โซเดียมลอริลซัลเฟต เป็นตัวอย่างหนึ่งของสารเคมีหลักที่มักใช้ในสบู่(คุณลองไปพลิกพวกผลิตภัณฑ์ซักล้างทุกอย่างดู จะเห็นส่วนผสมนี้จริงๆ บางทีใช้ชื่อว่าลอริล) และเป็นสารเคมีอันตราย หลายประเทศในยุโรปและอเมริกามีกฏหมายห้ามใช้แล้ว และบางประเทศก็จำกัดให้มีการใช้น้อยลง แต่ในบ้านเรากลับใช้กันอย่างแพร่หลาย ทั้งๆที่ SLS เป็นสารเคมีที่ดูดซึมผ่านผิวหนังได้ง่ายและรวดเร็ว สามารถสะสมอยู่ในดวงตา สมอง หัวใจ ตับ และก่อปัญหาในระยะยาว หากยิ่งมีการใช้ร่วมกับสารประกอบตระกูลอามีน ก็จะกลายเป็นสารก่อมะเร็งในที่สุด เพราะฉะนั้น เราอาจต้องถามตัวเองดูใหม่ ว่ามีความจำเป็นแค่ไหนที่จะต้องใช้สบู่เหลว (ซึ่งจริงๆแล้วคือสารเคมีล้วนๆ) แต่ถ้ายังคงต้องการที่จะใช้ การใช้สบู่เหลวสำหรับเด็กก็จะดีกว่า (ไม่ได้หมายความว่าปลอดภัย เพียงแต่มีสารเคมีเจือจางกว่าเท่านั้น) แต่ถ้าจะให้ดี การกลับไปใช้สบู่ก้อนจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด. ----------------------------------------------------------------------------------ถ้าท่านเป็นคนที่ไม่สนใจเรื่องสุขภาพเลยก็คงไม่ต้องอ่านบทความนี้ แต่ถ้าท่านเป็นคนหนึ่งที่ห่วงใยในสุขภาพ ท่านควรได้รับข้อมูลที่ผมจะได้บอกต่อไปนี้ อันตรายจากสารต่อไปนี้    Sodium Lauryl Sulfate(SLS) / Sodium Lauryl Ether Sulfate(SLES) เป็นสารชำระล้างราคาถูก ใช้เพื่อให้เกิดฟอง ซึ่งไม่ได้ใช้ใน แชมพู คอนดิชั่นเนอร์ และผลิตภัณฑ์ที่ให้ฟองในการอาบน้ำเท่านั้น (กรุณาดูฉลากของท่าน ตอนนี้ !) Sodium Lauryl Sulfate ยังใช้ในการล้างพื้นอู่ซ่อมรถยนต์ และทำความสะอาดเครื่องยนต์อีกด้วย สารนี้ใช้สำหรับทดสอบการระคายเคืองของผิว เพราะว่ามันทำลายการป้องกันผิว ตามธรรมชาติให้หมดไป และเป็นสาเหตุของการเกิดผื่น และการติดเชื้อ    ซึ่งมันสามารถสะสมอยู่ในเนื้อเยื่อ ได้เป็นเวลานานและดูดซึมผ่านผิวหนังได้ง่าย และเข้าสู่สมองและอวัยวะภายใน Sodium Lauryl Sulfate สามารถรวมตัวกับ สารไนเตรต ทำให้เกิดเป็นไนโตรซามีน(nitrosamine) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง    Aluminum compounds (Aluminum Zirconium Tetrachlorohydrex และAluminum Chlorohydrate) เป็นสารที่ใช้กันโดยทั่วไปใน ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย เพื่อควบคุมการขับเหงื่อ เมื่อไม่กี้ปีมานี้ ได้มีการคาดการณ์ว่า aluminum เกี่ยวข้องกับ โรค อัลไซเมอร์ เพราะว่าบางส่วนของคนไข้โรคนี้มีระดับ aluminum สูงกว่าปกติ ในสมองและอวัยวะภายใน เชื่อว่า aluminum จะขัดขวางการทำงานของ acetylcholine และคาดว่าในสมองที่มีacetylcholine ต่ำมีผลต่อการเปลี่ยนสภาพจิตใจและรวมถึงความสับสน และปริมาณความเป็นพิษสามารถซึมผ่านผิวหนังได้ นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการพิจารณาการเกี่ยวข้อง ระหว่างผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย และมะเร็งเต้านม โดยเชื่อว่า สารเคมีในผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย(รวมถึง aluminum และ paraben)สามารถเร่งการเจริญของโรคได้    Propylene Glycol (สารป้องกันการแข็งตัวในอุตสารกรรม) เป็นสารที่ทำให้สารรวมตัวกันเป็นเนื้อเดียว และสารกันเสีย ที่ใช้ในครีมทาผิว โลชั่นและ ตัวปรับสภาพผมเกือบทั้งหมด Propylene Glycol เป็นตัวทำละลายชนิดหนึ่ง ซึ่งมันสามารถซึมผ่านผิวหนังและเข้าสู่กระแสเลือดได้ และเป็นสาเหตุที่ทำให้ไตและตับได้รับอันตราย รวมถึงยังส่งเสริมให้ผิวแห้งและมีรอยย่น    ข้อมูลของสาร 3 ตัวนี้ ได้มาจากในอินเตอร์เน็ต ท่านสามารถหาข้อมูลได้เองโดยการ search คำ โดยใช้ website ก็ได้ ในสิ่งที่ผมอยากจะกล่าวก็คือ ท่านเคยได้สังเกตส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ สบู่ ยาสีฟัน แชมพู โลชั่น ที่ท่านอยู่ในปัจจุบันบางหรือไม่? ถ้าไม่เคยท่านก็ยังไม่เป็นผู้บริโภคที่ดี ท่านยังคงให้การโฆษณา เป็นตัวตัดสินใจในการเลือกใช้สินค้า เพียงแต่ท่านเปลี่ยนค่านิยมการใช้สินค้า ท่านก็จะได้คำตอบว่า &#8220;นี่หรือคือผลิตภัณฑ์ที่เราควรใช้?&#8221;    ผมได้ลองสำรวจส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์เหล่านี้พบว่า ในยาสีฟันตามทั่วไปที่ใช้กันอยู่ จะมีการบอกในส่วนประกอบสำคัญ และ สารควบคุมเกือบทุกยี่ห้อ ทำไมผู้ผลิตจึงไม่บอกส่วนประกอบทั้งหมด ผมก็ไม่สามารถบอกได้ แต่ท่านลองคิดดูเองก็แล้วกันว่าเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคหรือเปล่า? แต่ก็ยังดีใจเล็ก ๆ ที่บางยี่ห้อที่ค่อนข้างนิยม และที่เป็นชื่อไทย(ลองสำรวจดูได้) ได้มีการแสดงส่วนประกอบครบ แต่ก็เสียใจว่าทำไม ผู้ผลิตจึงใช้สาร SLS ในข้างต้นมาเป็นส่วนประกอบ ในสบู่เหลวยี่ห้อดังหลายยี่ห้อ รวมถึงสบู่เหลวสำหรับเด็ก พบว่า มีส่วนผสมของ SLS อยู่และบางยี่ห้อก็มีส่วนผสมของ Propylene Glycol(กล่าวข้างต้น) <br>    ในโฟมล้างหน้าหลายยี่ห้อที่ดังๆ ก็พบว่าส่วนประกอบของ SLS หรือไม่ก็ Propylene Glycol ในโลชั่นทาผิวก็พบว่ามีส่วนประกอบของ Propylene Glycol เป็นส่วนใหญ่ และในยาสระผมยี่ห้อดังมาก ก็พบว่ามีสาร SLS เป็นส่วนประกอบ ที่ผมตกใจมากที่สุดก็คือ ผลิตภัณฑ์ในการทำความสะอาดอุปกรณ์เด็กอ่อนยี่ห้อดังก็พบว่า มีสาร SLS เป็นส่วนประกอบ &#8220;ทำไมผู้ผลิตไม่ได้คิดถึงผลของผู้บริโภคที่ได้รับบ้างหรืออย่างไร&#8221;    ท่านอย่าเพิ่งไว้ใจ กับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มีสารที่เป็นอันตรายเหล่านี้ระบุอยู่บนฉลาก นั้นเป็นเพราะว่า ผู้ผลิตระบุเฉพาะสารสำคัญ ที่ใช้ในการโฆษณานั่นเอง เช่น ในยาสระผมยี่ห้อดังที่มีการนำวัตถุตามธรรมชาติมาสกัด ผู้ผลิตก็ระบุแค่เพียง ว่ามีสารที่สกัดจากสิ่งนั้นมาเท่านั้น ไม่ได้ระบุส่วนประกอบทั้งหมด ซึ่งสามารถพบได้ในผลิตภัณฑ์ยี่ห้อต่าง ๆ มากมาย เพราะเขารู้ว่าผู้บริโภคเมืองไทย ไม่ใส่ใจกับส่วนประกอบหรอก แต่สนใจแค่การโฆษณา และมีอีกสิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะแนะนำ ถึงผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้ระบุสารที่เป็นอันตราย    ท่านลองมองที่ราคาผลิตภัณฑ์ ที่ปริมาตรเดียวกัน ถ้าสินค้าที่ 1 มีการระบุสารที่เป็นอันตราย และมีราคาสูงกว่าหรือเท่า ๆ กันกับสินค้าที่ 2 ที่ไม่ได้ระบุสารที่เป็นอันตราย ท่านคิดว่าสินค้าที่ 2 จะมีหรือไม่มีสารที่เป็นอันตราย ?    ผมขอฝากไว้ให้ทุกท่านได้ลองพิจารณาถึงการใช้สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ของท่านด้วยก็แล้วกัน แล้วอย่าลืมดูส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ ที่ท่านใช้อยู่ในปัจจุบันด้วย เพราะว่าสารเหล่านี้ไม่ได้แสดงผลในวันนี้ หรือพรุ่งนี้แต่มันจะแสดงผลในอนาคตข้างหน้า ----------------------------------------------------------------------------- สารที่ถูกโจมตีทาง Forward mail นั้นได้แก่ 1. SLS (Sodium Lauryl Sulfate) 2. SLES (Sodium Lauryl Ether Sulfate) 3. PG (Propylene Glycol) และ PEG (Polyethylene Glycol) 4. Aluminum compounds (Aluminum Zirconium Tetrachlorohydrex และ Aluminum Chlorohydrate) 5. Triclosan 6. Paraben ไว้วันจันทร์ ถ้ายังไม่มีใครแฉเรื่องนี้ เดี๋ยวจะมาว่ากันละเอียดๆ ในกระทู้ใหม่ จากคุณ : Epinephrine - [ 19 ต.ค. 50 10:28:35 ]

ความคิดเห็นที่ 94 Vote!! จากคุณ : Mo&Mont - [ 19 ต.ค. 50 10:33:25 ]

ความคิดเห็นที่ 95 โหวตค่ะ แล้วต้องส่ง ลิงค์ นี้ไปให้รายการผุ้หญิงต่างๆ ด้วยค่ะ จากคุณ : primjang - [ 19 ต.ค. 50 10:35:57 ]

ความคิดเห็นที่ 96 1 โหวตครับ แล้วขอถามเพิ่มด้วยครับ เช่นพวก -ขวดน้ำที่แจกตอนเติมน้ำมันห้ามเอามาใช้ต่อ อาจตายได้ ? -ถ้าอยากกินเนื้อสัตว์   ควรกินเวลา   7.00 น - 9.00   น. เนื่องจากกระเพาะเรามีสภาพเป็นกรดสูงมากที่สุด   ดังนั้นมื้อเช้าจะจำเป็นมาก ๆ ถ้าอดมื้อเช้าไปนาน ๆ ขั้วกระเพาะเราจะเป็นปุ่มปม   และนานเข้า ๆ ก็กลายเป็นมะเร็งในกระเพาะ ? -ห้ามกินนมตอนเช้า   แทนข้าวเช้า   เนื่องจาก ตอนเช้ากระเพาะเป็นกรดสูงมาก   นึกสภาพดูหากเราบีบน้ำมะนาวลงในนม   จะเกิดปฏิกิริยาทางเคมี   กลายเป็นคอลลอยด์ มันไม่ย่อย นะจ๊ะ   ถ้าดื่มนมตอนท้องว่างแบบนี้ติดต่อกันเป็นประจำแทนข้าวเช้า   ระวังมะเร็งในไขกระดูกนะจ๊ะ   แต่ถ้าเป็นช่วงหลังอาหารเช้า   หรือ   ตอนบ่ายไปแล้ว   หรือตอนเย็นดื่มได้ตามปกติจ้า   มื้อเย็นอาจเป็นมื้อง่าย ๆ อย่างนม   กับไข่ก็ไม่ว่ากัน ? ******************** นึกออกจะหามาเพิ่มให้ช่วยตีแผ่ จากคุณ : หงส์เมืองเหนือ - [ 19 ต.ค. 50 10:44:33 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ชอบกระทู้นี้จัง..อ่านแล้วเพลินดีมีสาระค่ะ  ^.^ จากคุณ : เอื้องป่า - [ 19 ต.ค. 50 10:47:19 ]

ความคิดเห็นที่ 98 แฉเลยสิคะ ไม่ค่อยมีเวลามาเช็คบ่อยๆค่ะ ^^ Please Please... จากคุณ : .. (รักทุกคนค่ะ) - [ 19 ต.ค. 50 10:49:07 ]

ความคิดเห็นที่ 99 มาลงนามและเพื่อจะแจ้งให้ทราบว่า วันนี้ผมฉลาดขึ้นอีกแล้วครับท่าน จากคุณ : AJ_da_NR - [ 19 ต.ค. 50 11:05:05 ]

ความคิดเห็นที่ 100 100! ระวังนะครับ ทันทีที่บทความของหมอแมวโดนเอาไปทำ FWD ความน่าเชื่อถือของมันจะลดลงเหลือศูนย์ทันที แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 50 11:06:36 จากคุณ : ดุก - [ 19 ต.ค. 50 11:05:54 ]

ความคิดเห็นที่ 101 แล้ว FW mail ที่บอกว่าในหลวงทรงประสพอุบัติเหตุ จนทำให้เสียพระเนตรไป 1 ข้าง  จริงหรือป่าวครับ ตอนแรกผมไม่เคยรู้ พออ่านเจอก็ตกใจครับ จากคุณ : Ya[K]uNg - [ 19 ต.ค. 50 11:13:13 ]

ความคิดเห็นที่ 102 อ่าน จากคุณ : อ่านเฉยเฉย - [ 19 ต.ค. 50 11:14:32 ]

ความคิดเห็นที่ 103 มีประโยชน์มั้กๆ โหวดด้วย... จากคุณ : break147 - [ 19 ต.ค. 50 11:14:49 ]

ความคิดเห็นที่ 104 แจ๋วค่ะ... มากวาดถูบ้านแล้วก็เสริฟน้ำให้แขก.... จากคุณ : จิ้งจอกสาวฝึกหัด - [ 19 ต.ค. 50 11:25:15 ]

ความคิดเห็นที่ 105 สาระดีมีประโยชน์  หมอแมวนี่เคยไปโพสต์ที่ mthai เปล่าครับ แต่คิดว่าน่าจะใช่เพราะให้ความรู้แนวๆนี้ เหมือนกัน จากคุณ : คาถาป้องกันแห้ว - [ 19 ต.ค. 50 11:44:43 ]

ความคิดเห็นที่ 106 หะ  หะ  หะโหวต จากคุณ : allabouteve_guava - [ 19 ต.ค. 50 11:52:12 ]

ความคิดเห็นที่ 107 ลงชื่อดูหมอแฉ FW MAIL จากคุณ : ช่ง - [ 19 ต.ค. 50 11:53:26 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ตามมาจาก blog ทันเหตุการณ์ ดีมากเลยค่ะ ขอบคุณมากๆ รออ่านตอนต่อไป ส่วนมากเป็น fwd. mail เราจะไม่เชื่อไว้ก่อนค่ะ แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 50 12:13:10 จากคุณ : la-la-bell - [ 19 ต.ค. 50 12:05:09 ]

ความคิดเห็นที่ 109 ความคิดเห็นที่ 101 แล้ว FW mail ที่บอกว่าในหลวงทรงประสพอุบัติเหตุ จนทำให้เสียพระเนตรไป 1 ข้าง จริงหรือป่าวครับ ตอนแรกผมไม่เคยรู้ พออ่านเจอก็ตกใจครับ จากคุณ : Ya[K]uNg - [ 19 ต.ค. 50 11:13:13 ] เท่าที่รู้มา เรื่องนี้เกิดขึ้นนานแล้วนะครับ จากคุณ : 69 - [ 19 ต.ค. 50 12:08:00 A:203.155.99.242 X: TicketID:134802 ]

ความคิดเห็นที่ 110 ^ ^ ^ ต่อเนื่องจาก 109 ถามผู้เฒ่าผู้แก่แล้ว ท่านยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง มีพาดหัวข่าวจริงตอนปี 2491 จากคุณ : 69 - [ 19 ต.ค. 50 12:11:52 A:203.155.99.242 X: TicketID:134802 ]

ความคิดเห็นที่ 111 OK!!! จากคุณ : knine2five - [ 19 ต.ค. 50 12:18:49 ]

ความคิดเห็นที่ 112 #101 จริง 100% ครับ พระเนตรที่เห็นเป็นพระเนตรปลอม 1 ข้าง ทราบกันไว้เถอะครับว่าท่านทรงงานด้วยพระเนตรข้างเดียวมาตลอด แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 50 12:29:05 จากคุณ : Pigwidgeon - [ 19 ต.ค. 50 12:28:26 ]

ความคิดเห็นที่ 113 ฝากคุณ Epinephrine ลงเรื่อง sodium lauryl sulfate - sodium laureth sulfate หน่อยแล้วกันครับ ผมยังตีโจทย์เรื่องนั้นไม่แตกจริงๆ (ทั้งที่เป็นFwdที่น่าเอามาเขียนมากที่สุดอันนึงแท้ๆ) จากคุณ : หมอแมว - [ 19 ต.ค. 50 12:35:26 ]

ความคิดเห็นที่ 114 กระทู้น่าอ่านมากๆค่ะ ^^ จากคุณ : -->+:+โชยุ&วาซาบิจัง+:+<-- - [ 19 ต.ค. 50 12:41:14 ]

ความคิดเห็นที่ 115 #101 แต่ที่ผมอ่านจากหนังสือมา เป็นว่าพระองค์ท่านทรงประสบอุบัติเหตุจริง พระเนตรได้รับความกระทบกระเทือนมาก แต่ไม่ได้เสียพระเนตรไปนะครับ 1 โหวต!! จากคุณ : Maxymillion (Maxymillion) - [ 19 ต.ค. 50 14:23:19 ]

ความคิดเห็นที่ 116 sodium lauryl sulfate VS cancer http://www.snopes.com/inboxer/household/shampoo.asp ใครลองอ่านแล้วช่วยวิเคราะห์หน่อยครับ จากคุณ : Historicus - [ 19 ต.ค. 50 14:25:03 ]

ความคิดเห็นที่ 117 มาลงชื่อโหวตคับ แต่เรื่องในหลวงเนี่ยจริงเหรอคับ อยากรู้คับ จากคุณ : หมี (หมี MO) - [ 19 ต.ค. 50 14:30:13 ]

ความคิดเห็นที่ 118 พี่หมอแมวรีบมาต่อให้จบก่อนจะโดนเปลี่ยนประเด็นเหอะ ขอร้อง เรื่องในหลวงนะครับ ด้วยความเคารพนะ ถ้าอยากรู้จริงๆ แตกไปกระทู้อื่น หรือห้องอื่นก็ได้ ผมไม่อยากให้กระทู้ดีๆ แบบนี้โดนอุ้มนะ จากคุณ : ดุก - [ 19 ต.ค. 50 14:40:50 ]

ความคิดเห็นที่ 119 ช่ายยย ถ้าโดนเบี่ยงประเด็นนี่ โดนอุ้มแน่ๆ จากคุณ : ++SpY++ - [ 19 ต.ค. 50 14:53:40 ]

ความคิดเห็นที่ 120 ขอบคุณค๊าบบบ จากคุณ : SausageBunn - [ 19 ต.ค. 50 14:55:13 ]

ความคิดเห็นที่ 121 โหวตด้วยคนค่ะ เยี่ยมมากๆ จะได้เลิกกลัวเรื่องไม่เป็นเรื่องสักที ขอบคุณคุฯหมอแมวมากค่ะ จากคุณ : มวลหมู่เมฆ - [ 19 ต.ค. 50 15:00:32 ]

ความคิดเห็นที่ 122 สุดยอดครับ รออีกห้าข้อ จากคุณ : wizard_yoh - [ 19 ต.ค. 50 15:14:07 ]

ความคิดเห็นที่ 123 #54 ครับ ภาษีมูลค่าเพิ่มจริงๆ คือ 10% นะครับ ปัจจุบันลดราคาอยู่ จากคุณ : delabiere - [ 19 ต.ค. 50 15:35:07 ]

ความคิดเห็นที่ 124 เพิ่งรู้ว่าคนไม่รู้เรื่องพระเนตรของในหลวงมีเยอะเหมือนกันนะ ถ้าสงสัยมากแนะนำให้ไปอ่านพระราชประวัติครับ แล้วก็หารูปในหลวงมาสังเกตเอาเอง จบ จากคุณ : donutpla2 - [ 19 ต.ค. 50 16:31:55 ]

ความคิดเห็นที่ 125 รออ่านอีก 5 ข้อที่เหลือนะคะ จากคุณ : Flower_kiss - [ 19 ต.ค. 50 16:39:11 ]

ความคิดเห็นที่ 126 ขอบคุณหมอแมวครับ กระทู้ฉลาด ๆ อย่างงี้ ทำไมช่อง 3 ไม่เอาไปให้เหล่าหญิงสมองกลวงอ่านบ้างนะ ขอบเอา FWD Mail โง่ ๆ ไปอ่านออกทีวีเรื่อยเลย จากคุณ : ลักลั่นย้อนแย้ง - [ 19 ต.ค. 50 16:54:16 A:124.120.135.87 X: TicketID:151441 ]

ความคิดเห็นที่ 127 แว้บมาบอก พี่แมวครับ ผมเอากระทู้นี้ไปสอนน้องเรื่องการสืบค้นข้อมูลทางการแพทย์นะ ไม่รุ้น้องมันแอบอ่านไหม จากคุณ : Epinephrine - [ 19 ต.ค. 50 16:55:07 ]

ความคิดเห็นที่ 128 มาปูเสื่อรออ่านต่อค่ะ ... ^^ จากคุณ : s.o.s - [ 19 ต.ค. 50 16:59:24 ]

ความคิดเห็นที่ 129 นั่งรออีก 5 ข้อครับ จะได้ตวงไปพร้อมๆกันเลย จากคุณ : PUFF - [ 19 ต.ค. 50 16:59:31 ]

ความคิดเห็นที่ 130 ล่าสุดเลย ให้เครดิตพันทิพซะด้วย แต่ก็ขำเกินจะมีคนเชื่อนะ FW: มาม่ามีฤทธิ์ถ่ายพยาธิได้ เรื่องมาม่ามีฤทธิ์ถ่ายพยาธิได้ (อ่านไป อ่านมา มันก็ขำดีน่ะ ) ผลการวิจัยพบว่า เมื่อกินมาม่าเข้าไป พอมาม่าเดินทางไปถึงบริเวณที่มีพยาธิพยาธิจะมารุมกินมาม่า แต่เนื่องจากลักษณะเส้นมาม่า มีความคล้ายคลึงกับตัวพยาธิ ทำให้พยาธิสับสนไม่รู้ว่าอันไหนเป็นอาหารอันไหนเป็นพวกเดียวกัน จึงเกิดการกัดผิดตัว แทนที่จะไปกัดเส้นมาม่าดันไปกัดพวกเดียวกันเอง พยาธิตัวที่ถูกกัดจึงเกิดความแค้น เนื่องจากกำลังกินอยู่ดีๆ ดันโดนลอบกัดมันก็เลยกัดตอบ ทีนี้ก็เกิดเป็นโดมิโนเอฟเฟค พยาธิกัดกันเองเป็นพัลวันท! ำให้พยาธิล้มตายกันเกือบหมด ไอ้ต ัวที่เหลือก็ไม่กล้าออกมากินมาม่าอีก เพราะกลัวว่าจะเข้าใจผิด เกิดบาดหมางกันระหว่างเพื่อนฝูงก็เลยผอมโซ อดตายกันหมด ดังนั้นจึงสรุปผลการทำวิจัยว่า มาม่ามีฤทธิ์ในการถ่ายพยาธิออกจากร่างกายได้ ขอขอบคุณ ข้อมูลที่มีประโยชน์จาก เว็บไซต์ พันธุ์ทิพย์ดอทคอม เพื่อร่วมกันสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้บนโลกอินเตอร์เน็ต ผู้มีบทความทางด้านวิทยาศาสตร์น่ารู้ จากคุณ : delabiere - [ 19 ต.ค. 50 17:02:21 ]

ความคิดเห็นที่ 131 ู^ ^ ^ เวร ขำไม่ออกเลยครับ จากคุณ : Epinephrine - [ 19 ต.ค. 50 17:09:35 ]

ความคิดเห็นที่ 132 เข้ามาฮา#130... แหม พยาธิมีตาด้วยเว้ย ---*--- จริงๆน่าทำเรื่องอื่นๆที่ไม่เกี่ยวกะสุขภาพด้วยนะ ผมว่า จากคุณ : nothingman - [ 19 ต.ค. 50 18:24:04 ]

ความคิดเห็นที่ 133 บางเมล์ได้ตั้งแต่ปี 2000 และวนมาหาเราประมาณปีละ 2 ครั้ง แถมยังเปลี่ยนรูปแบบ จาก MS word ธรรมดา กลายเป็นเพิ่ม bold/ font color ตัวอักษร จนหนักสุดทำเป็น ppt ใส่รูป แต่งเติมให้น่าเชื่อถือ นึกแล้วกลุ้ม คนที่ fwd mail พวกนี้ยังโง่อยู่ได้ (แอบด่าเพื่อนตัวเองบางคน) บางอย่างเห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้ ก็ยังส่งกันต่อๆไปเรื่อยๆ เห้อ!! บางทีเราต้องส่งเมลล์กลับไปหาเพื่อนคนนั้นว่า ถ้าจะส่ง fwd mail อย่าส่งมาหาเรา เพราะเราขี้เกียจลบ กรุณาใช้สมอง ไม่ใช่สะดือคิดก่อนส่งค่ะ จากคุณ : Angel in Big City - [ 19 ต.ค. 50 19:04:15 ]

ความคิดเห็นที่ 134 ถามเรื่อง น้ำที่ ต้มด้วยไมโครเวฟ แล้วเอาไปรดต้นไม้ แล้วต้นไม้เหี่ยวตาย  ด้วยสิครับ ที่มันเป็น Fws mail รูป ต้นไม้ ค่อยๆ เหี่ยวตาย หน่ะครับ แล้วก็เป็นสูตร เคมี อะไรก็ไม่รู้  ประมาณว่า พอแผ่รังสี ไมโครเวฟ ลงไป ทำให้ อนุภาคของน้ำเปลี่ยนไป เอาไปรด น้ำต้นไม้แล้วต้นไม้เหี่ยวตายหน่ะครับ เพื่อนผมมันส่งมาให้ดู แล้วก็บอกว่า เลิก ต้มมาม่า ในไมโครเวฟ กินได้แล้วนะมรึง เดี๋ยวจะไม่ได้แก่ตาย มันยังไงเหรอครับ ผมลบทิ้งไปแล้วหล่ะ เพราะไม่เชื่อ จากคุณ : Geon37 - [ 19 ต.ค. 50 19:07:49 ]

ความคิดเห็นที่ 135 ... [ รวมบทความของหมอแมว ] http://www.mthai.com/webboard/7/136163.html จากคุณ : Mr. Fusion - [ 19 ต.ค. 50 19:15:37 ]

ความคิดเห็นที่ 136 เก็บเข้าคลังก่อน... แล้วก็ขออณุญาต เอาไปส่งต่อให้เพื่อนนะครับ แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 50 19:51:53 จากคุณ : jakkrissana - [ 19 ต.ค. 50 19:49:53 ]

ความคิดเห็นที่ 137 <------พี่หมอแมวครับ ขอร่วมแจมด้วยได้มั้ยอะครับ------> ความคิดเห็นที่ 96 ถ้า อยากกินเนื้อสัตว์   ควรกินเวลา   7.00 น - 9.00   น. เนื่องจากกระเพาะเรา มีสภาพเป็นกรดสูงมากที่สุดดังนั้นมื้อเช้าจะจำเป็นมาก ๆ ถ้าอดมื้อเช้าไปนาน ๆ ขั้วกระเพาะเราจะเป็นปุ่มปม   และนานเข้า ๆ ก็กลายเป็นมะเร็งในกระเพาะ ? สภาพความเป็นกรดในกะเพาะอาหารสูดสุดตอนไหน ผมไม่ทราบแต่ถ้ามีอาหาร ตกลงมาในท้อง เดี๋ยวกะเพาะก็หลั่งกรดมาเอง จริงๆแค่คุณนึกว่าหิวๆ อยากหา อะไรกิน กรดก็หลั่งออกมาแล้ว แต่ปริมาณเยอะน้้อยนั้นคงจะแล้วแต่บุคคล มากกว่า ส่วนที่ว่าอดมื้อเช้าไปนานๆแล้วจะเป็นมะเร็ง ดูเหมือนจะไกลความจริงไปหน่อย ส่วนใหญ่รายงานของ มะเร็งกะเพาะอาหารมาจากการ ดื่มเหล้าและสูบบุหรี่ เป็น หลักครับ ส่วนการอดอาหาร โรคกะเพาะก็คงจะถามหาเสียมากกว่า ห้าม กินนมตอนเช้า   แทนข้าวเช้า   เนื่องจาก ตอนเช้ากระเพาะเป็นกรดสูง มาก   นึกสภาพดูหากเราบีบน้ำมะนาวลงในนม   จะเกิดปฏิกิริยาทางเคมี   กลาย เป็นคอลลอยด์ มันไม่ย่อย นะจ๊ะ   ถ้าดื่มนมตอนท้องว่างแบบนี้ติดต่อกันเป็น ประจำแทนข้าวเช้า   ระวังมะเร็งในไขกระดูกนะจ๊ะ   แต่ถ้าเป็นช่วงหลังอาหาร เช้า   หรือ   ตอนบ่ายไปแล้ว   หรือตอนเย็นดื่มได้ตามปกติจ้า   มื้อเย็นอาจเป็น มื้อง่าย ๆ อย่างนม   กับไข่ก็ไม่ว่ากัน ต่อให้เป็น คอลลอย์ มันก็เกิดจากโปรตีนในนมเสียสภาพ แต่จากการที่มันเสีย สภาพนี่แหละครับ ทำให้มันคลายตัวออกแล้วเอนไซม์ในร่างกายเราก็จะย่อยได้ ง่ายขึ้น อีกอย่าง โปรตีนในนม เป็นโปรตีนที่ร่างกายนำไปใช้ได้เกิน 90% แล้วไม่ว่าเรา จะแปลรูปมันอย่างไร (เป็นโยเกิร์ต เป็นนมเปรี้ยว เป็นเวย์โปรตีน ชีส) มันก็ยังนำ ไปใช้ได้เกิน 90% อยู่ดีครับ ส่วนเกี่ยวกับมะเร็งในไขกระดูกไหม บอกได้เลยว่า ณ เวลานี้ไม่มีหลักฐาน ยืนยัน ความสัมพันธ์ดังกล่าวครับ แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 50 20:19:43 จากคุณ : V--Bank--V - [ 19 ต.ค. 50 20:15:07 ]

ความคิดเห็นที่ 138 ความคิดเห็นที่ 134 ถามเรื่อง น้ำที่ ต้มด้วยไมโครเวฟ แล้วเอาไปรดต้นไม้ แล้วต้นไม้เหี่ยวตาย ด้วยสิครับ ที่มันเป็น Fws mail รูป ต้นไม้ ค่อยๆ เหี่ยวตาย หน่ะครับ แล้วก็เป็นสูตร เคมี อะไรก็ไม่รู้  ประมาณว่า พอแผ่รังสี ไมโครเวฟ ลงไป ทำให้ อนุภาคของน้ำเปลี่ยนไป เอาไปรด น้ำต้นไม้แล้วต้นไม้เหี่ยวตายหน่ะครับ เพื่อนผมมันส่งมาให้ดู แล้วก็บอกว่า เลิก ต้มมาม่า ในไมโครเวฟ กินได้แล้วนะมรึง เดี๋ยวจะไม่ได้แก่ตาย มันยังไงเหรอครับ ผมลบทิ้งไปแล้วหล่ะ เพราะไม่เชื่อ จากคุณ : Geon37 - [ 19 ต.ค. 50 19:07:49 ] อยากให้นักฟิสิกส์มาตอบจัง พลังงานจากคลื่ยถ่ายให้วัตถุอื่นแล้วคลื่นไป ไหน แต่บอกได้เลยว่า ต้มน้ำแล้วราดต้นไม้แล้วเหี่ยวเนี่ย น้ำมันร้อนครับ จากคุณ : V--Bank--V - [ 19 ต.ค. 50 20:21:24 ]

ความคิดเห็นที่ 139 ขออนุญาต นำไปเป็น FWD ต่อนะครับ จากคุณ : oro - [ 19 ต.ค. 50 20:35:36 ]

ความคิดเห็นที่ 140 โหวตค่ะ จากคุณ : ENA Princess - [ 19 ต.ค. 50 21:59:42 ]

ความคิดเห็นที่ 141 ปูเสื่อนอนรออ่าน~ (n______n)/ จากคุณ : Anonymous =P - [ 20 ต.ค. 50 00:48:09 ]

ความคิดเห็นที่ 142 ขอบคุณมาก ๆ คะ จากคุณ : หนูเล็กในเมืองนางฟ้า - [ 20 ต.ค. 50 10:07:59 ]

ความคิดเห็นที่ 143 VOTE!! So good krubb จากคุณ : Arboramo - [ 20 ต.ค. 50 11:16:19 ]

ความคิดเห็นที่ 144 Voted !! จากคุณ : หมึกสด - [ 20 ต.ค. 50 13:33:55 ]

ความคิดเห็นที่ 145 แล้วอันนี้หละครับ ต้องอ่านนะ..เพราะห่วง > > >ผู้หญิงคนหนึ่งนั่งลงบนเบาะตัวหนึ่งในโรงหนังที่มีอะไรบางอย่างแทงขึ้นมาจากเบาะ > > >เธอลุกขึ้นเพื่อจะมองดูว่าเป็นอะไร > > >เธอพบว่าเป็นเข็มอันหนึ่งที่มีกระดาษเขียนติดไว้ว่าคุณติดเชื้อเอดส์เข้าแล้ว > > >รายงานจากศูนย์ควบคุมโรคของเมืองเมลเบอร์นแจ้งว่า > > >เกิดเหตุการณ์คล้ายกันนี้หลายครั้งในประเทศออสเตรเลีย > > >เข็มทุกอันพิสูจน์แล้วว่ามีเชื้อเอดส์ > > >นอกจากนี้ยังพบเข็มในช่องจ่ายเงินสดของเครื่องATM > > >เราจึงได้แต่เตือนให้ผู้ใช้เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษเกี่ยวกับเรื่องนี้ > > >ที่นั่งสาธารณะควรตรวจดูให้ดีก่อนที่จะนั่ง ประชาชน 17 > > >คนถูกแทงด้วยเข็มและติดเชื้อเอดส์ทางแถบชานเมืองทิศตะวันตกในเดือนที่ผ่านมา > > >ตรวจดูเก้าอี้นั่งการตรวจอย่างละเอียดโดยการมองด้วยสายตาก็น่าจะเพียงพอนอก > > >หนือจากนี้คุณสามารถช่วยส่งข่าวนี้ไปให้สมาชิก,คนในครอบครัวและเพื่อนที่คุณคิดว่า > > >เขาจะได้รับอันตรายจากการนั่งในที่สาธารณะได้ สำคัญมาก* > > >แค่คิดว่าจะช่วยชีวิตคนสักคนหนึ่งที่คุณไม่รู้จักหรือสำหรับคนที่คุณรักและห่วงใย > > >โดยสละเวลาเพียง 2-3วินาทีส่ง Mail นี้ต่อไปยังเพื่อนๆที่คุณรัก จากคุณ : Darksingha - [ 20 ต.ค. 50 14:18:40 ]

ความคิดเห็นที่ 146 เพิ่งได้เข้ามาอ่าน โหวต ทันทีึคับ แหม่ม มันน่าก๊อปส่ง Fw ย้อนทางจริงๆ เงอออ.... จากคุณ : Jet_XP - [ 20 ต.ค. 50 14:22:56 ]

ความคิดเห็นที่ 147 ขอบคุณมาก ๆ คะ จากคุณ : nonoisy - [ 20 ต.ค. 50 15:10:51 ]

ความคิดเห็นที่ 148 ความคิดเห็นที่ 96 -ขวดน้ำที่แจกตอนเติมน้ำมันห้ามเอามาใช้ต่อ อาจตายได้ ? เรื่องนี้น่าจริงคับ อ.ภาคเคมี วิศวะ จุฬา เคยเล่าให้ฟัง รู้สึกเหมือนสารเคลือบด้านในขวดมันจะละลายออกมา ประมาณนั้น จำไม่ค่อยได้ ไม่ได้อยู่คณะวิศวะ จากคุณ : Green Potion - [ 20 ต.ค. 50 15:55:01 ]

ความคิดเห็นที่ 149 ความคิดเห็นที่ 145   แล้วอันนี้หละครับ ต้องอ่านนะ..เพราะห่วง > > >ผู้หญิงคนหนึ่งนั่งลงบนเบาะตัวหนึ่งในโรงหนังที่มีอะไรบางอย่างแทงขึ้นมาจากเบาะ > > >เธอลุกขึ้นเพื่อจะมองดูว่าเป็นอะไร > > >เธอพบว่าเป็นเข็มอันหนึ่งที่มีกระดาษเขียนติดไว้ว่าคุณติดเชื้อเอดส์เข้าแล้ว > > >รายงานจากศูนย์ควบคุมโรคของเมืองเมลเบอร์นแจ้งว่า > > >เกิดเหตุการณ์คล้ายกันนี้หลายครั้งในประเทศออสเตรเลีย > > >เข็มทุกอันพิสูจน์แล้วว่ามีเชื้อเอดส์ > > >นอกจากนี้ยังพบเข็มในช่องจ่ายเงินสดของเครื่องATM > > >เราจึงได้แต่เตือนให้ผู้ใช้เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษเกี่ยวกับเรื่องนี้ > > >ที่นั่งสาธารณะควรตรวจดูให้ดีก่อนที่จะนั่ง ประชาชน 17 > > >คนถูกแทงด้วยเข็มและติดเชื้อเอดส์ทางแถบชานเมืองทิศตะวันตกในเดือนที่ผ่านมา > > >ตรวจดูเก้าอี้นั่งการตรวจอย่างละเอียดโดยการมองด้วยสายตาก็น่าจะเพียงพอนอก > > >หนือจากนี้คุณสามารถช่วยส่งข่าวนี้ไปให้สมาชิก,คนในครอบครัวและเพื่อนที่คุณคิดว่า > > >เขาจะได้รับอันตรายจากการนั่งในที่สาธารณะได้ สำคัญมาก* > > >แค่คิดว่าจะช่วยชีวิตคนสักคนหนึ่งที่คุณไม่รู้จักหรือสำหรับคนที่คุณรักและห่วงใย > > >โดยสละเวลาเพียง 2-3วินาทีส่ง Mail นี้ต่อไปยังเพื่อนๆที่คุณรัก จากคุณ : Darksingha HIV เป็นไวรัสที่ตายง่ายมากครับ ออกจากร่างกายคนมาโดยไม่มีพวกน้ำเลือด น้ำเหลือง น้ำกาม น้ำมูก และสารคัดหลั่งอื่น อะไรพวกนี้หล่อเลี้ยงแล้ว ไม่น่าเกิน 10 วินาทีก็ตายแล้วครับ ผมว่าเชื้ออย่างอื่นที่ติดปลายเข็มน่ากลัวกว่าเช่น บาดทะยัก น่ะ จากคุณ : V--Bank--V - [ 20 ต.ค. 50 15:58:16 ]

ความคิดเห็นที่ 150 ^ ^ Hepatitis B ด้วยฮะ  อยู่ได้เป็นเดือนๆ จากคุณ : Anonymous =P - [ 20 ต.ค. 50 16:28:01 ]

ความคิดเห็นที่ 151    ไม่รู้ทำไมชอบเชื่อแล้วชอบที่จะส่งต่อ Forward Mail กันจังโดยไม่คิด จากคุณ : WizardMadrid - [ 20 ต.ค. 50 16:36:18 ]

ความคิดเห็นที่ 152 โหวตให้แล้วนะครับกระทู้นี้คงทำให้ตาสว่างขึ้นได้เยอะ จากคุณ : Rokusho - [ 20 ต.ค. 50 16:58:11 ]

ความคิดเห็นที่ 153 โหวตให้แล้ว ชอบมากๆเลย หมอแมวรีบมาแฉเรื่องโกหกต่อโดยด่วน อยากอ่านต่อ จากคุณ : mirror man - [ 20 ต.ค. 50 16:58:43 ]

ความคิดเห็นที่ 154 ขอก๊อปกระทู้นี้ไปฟอเวิร์ดมั่งดีก่า จากคุณ : แอน (แอ่นแอ๊น) - [ 20 ต.ค. 50 18:08:25 ]

ความคิดเห็นที่ 155 ขอ copy ข้อความจากในกระทู้นะครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : PhanPang (kazaraki) - [ 20 ต.ค. 50 19:04:14 ]

ความคิดเห็นที่ 156 มีหลายเมล์ที่ไม่เป็นความจริงแต่คนก็เชื่อไปแล้ว ที่ทำงานเก่าเรา มีพี่คนนึงเป็นเนื้องอกในมดลูก แล้วแกดันไปอ่านเจอเมล์ว่า เป็นเพราะกินถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองเยอะ แกก็เลยหันมากินเนื้อหมู เนื้อไก่ เลิกเด็ดขาดถั่วเหลือง ซึ่งเราว่า มันน่ากลัวกว่าอีก เพราะหมูไก่สมัยนี้ฉีดสารเร่งโตทั้งนั้น ถั่วเหลืองอันตรายจริงหรือไม่ ไม่มีใครเอาหลักฐานมายืนยัน แต่เราว่า กินอะไรซ้ำๆ ก็เสี่ยงตายทั้งนั้นแหละว้า ประเทศไทยควรมีกฎหมายการฟอร์เวิร์ดเมล์นะว่า ห้ามลบที่มา ห้ามลบว่าฟอร์เวิร์ดต่อมาจากใคร จากคุณ : เบบี้โรส - [ 20 ต.ค. 50 20:32:02 ]

ความคิดเห็นที่ 157 โหวตเรียบร้อยแล้วคะ ทำFWส่งไปให้เพื่อนแล้วคะ คงไม่เป็นไรนะคะ เบื่อFWเหมือนกันแต่ได้รับมาก็ดีอย่างนะคะ ได้เห็นความคิดของคนสร้างขึ้น ว่าคิดอะไรแบบไหน แต่ขำFW มาม่าฆ่าพยาธิจิงๆเลยคะ จากคุณ : Freedom Freestyle - [ 20 ต.ค. 50 20:58:53 ]

ความคิดเห็นที่ 158 โหวตด้วยคนครับ ใครจะเอาไปส่งต่อ น่าจะตั้งชื่ออีเมลประมาณว่า "ฟอร์เวิดเมลแก้โง่" ประมาณนี้นะ ส่วนผม ตอนนี้กำลังเดือดร้อนมากเลย เพราะ Hotmail เขาจะเก็บตังค์แล้วครับ ฝากประกาศให้เพื่อนๆ ต่อๆ กันไปอีก 10 คนนะครับ ไม่งั้นคุณยายตาโบ๋จะมาเยี่ยม ใน คืน.... นี้ .... อี๊ ... อี๊ จากคุณ : ไอ้แอนนนนน - [ 20 ต.ค. 50 22:18:55 ]

ความคิดเห็นที่ 159 ตลกดี จากคุณ : นายปลาตีน - [ 20 ต.ค. 50 22:54:45 ]

ความคิดเห็นที่ 160 กระทู้ดี ๆ ต้องโหวต FWD MAIL ส่วนใหญ่นี่ แค่เห็นชื่อหัวข้อก็ลบทิ้งล่ะ สมัยเล่นเน็ตใหม่ ๆ เคยเจอแบบไหน ทุกวันนี้ก็ยังมีคนส่งมาให้อยู่ - -" จากคุณ : riar - [ 21 ต.ค. 50 00:16:22 ]

ความคิดเห็นที่ 161 โหวตครับ  โหวตตต จากคุณ : Zew - [ 21 ต.ค. 50 01:04:06 ]

ความคิดเห็นที่ 162 ตั้งท่ารออีกครึ่งอยู่นะคร้าบบบบ จากคุณ : -djP@T- - [ 21 ต.ค. 50 09:50:02 ]

ความคิดเห็นที่ 163 ได้ประโยชน์มากมาย ขอบคุณ คุณหมอแมวมากๆค่ะ เรื่องที่ คุณคห ที่ 96 มาบอก อ่านเจอจากมติชนเช่นกันค่ะ กระจ่างเพราะคำตอบจาก คุณ คห ที่ 137   ขอบคุณค่ะ นอกจากรายการทีวี ที่นำข่าวต่างๆไปอ่านโดยไม่ตรวจสอบแล้ว สื่อ นสพ น่าจะตรวจสอบ fw เมล์พวกนี้ก่อน เพราะคนดูคนอ่าน จำนวนมากไม่มีโอกาส หรือช่องทางจะตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ ด้วยตนเอง จากคุณ : ธาราฝัน - [ 21 ต.ค. 50 11:26:55 ]

ความคิดเห็นที่ 164 เอามาจากFWD MAIL เรื่อง ซื้อชุดชั้นในใหม่มาให้ซักก่อน จากคุณ : มนุษย์แหนม - [ 21 ต.ค. 50 14:52:29 ]

ความคิดเห็นที่ 165 แจ่มเลยครับ ขอนำไปทำFW mail นะครับ จะส่งกลับคนที่ชอบส่งเรื่องพรรค์นี้มาให้ จากคุณ : neopeax - [ 21 ต.ค. 50 15:00:18 ]

ความคิดเห็นที่ 166 164 ดูก็รู้แล้วว่า PS ใครวันจะรอให้หนอนแทะจนเป็นรูฟะ จากคุณ : darkside (discover_darkside) - [ 21 ต.ค. 50 15:45:53 ]

ความคิดเห็นที่ 167 มันเป็น รูป หน้าอก + ฝักบัวหลวงแห้งใช่มั้ยคะ -*- จากคุณ : Chi~Na nA - [ 21 ต.ค. 50 16:52:53 ]

ความคิดเห็นที่ 168 มาขอเรื่อง กระบองเพชร  ดูดซับรังสี  จากมอนิเตอร์ด้วยครับ จากคุณ : Zew - [ 21 ต.ค. 50 19:25:31 ]

ความคิดเห็นที่ 169 โหวต1จึ้ก จากคุณ : thaioil - [ 21 ต.ค. 50 20:11:09 ]

ความคิดเห็นที่ 170 แล้ว FW-mail อันนี้ ควรขำก่อนเชื่อหรือว่าเชื่อก่อนขำครับ เตือน ข้าวอันตราย งานวิจัยล่าสุด เตือน..! ระวังภัย ได้มีการวิจัยและพบข้อมูลที่น่าตื่นตระหนกเกี่ยวกับข้าวที่เรากินอยู่ทุกวันสมควรที่ จะให้ประชาชนชาวไทยได้ทราบโดยทั่วกัน...ดังนี้ 1. อาชญากรชาวไทยร้อยละ 98 นิยมบริโภคข้าวเป็นอาหารหลัก เป็นไปได้หรือไม่ว่าในข้าวจะมีสารสำคัญบางชนิด    เช่น complex carbohydrate จะมีฤทธิ์กระตุ้นต่อมจริตคิดร้าย (น่ากลัวมากครับ) 2. เยาวชนไทยร้อยละ 50 ซึ่งเติบโตมาในครอบครัวที่กินข้าววันละ 3 มื้อ มีผลการเรียนอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกึ่งกลางในชั้นเรียน 3. ในช่วงสมัยต้นรัตนโกสินทร์ ซึ่งยังไม่มีหม้อหุงข้าไฟฟ้าการหุงข้าวอย่างเปิดโล่ง ที่ชานเรือนและไอจากหม้อหุงข้าวสามารถแผ่กระจายไปทั่วบ้านเรือนพบว่า     อายุฉลี่ยของคนในยุคนั้นไม่เกิน 45 ปี ผิดกับคนรุ่นใหม่ที่หุงข้าวในภาชนะที่ปิดมิดชิด มีอายุเฉลี่ย ถึง 75 ปี 4. การฉกชิงวิ่งราวและการปล้นสดมภ์มักเกิดภายหลังการรับประทานข้าว ไม่เกิน24 ชั่วโมง 5. ผู้วิจัยได้ทดลองกรอกปากหนูทดลองด้วยข้าวสาร 1 กิโลกรัมต่อตัว ปรากฏว่าหนูทดลองตายเรียบ เรื่องนี้น่าวิตกมาก เพราะประชากรไทยบริโภคข้าวสารถึงปีละ 100 กิโลกรัมต่อคน 6. จากการสำรวจอย่างคร่าวๆพบว่าคนไทยที่กินข้าวทุกคนจะ เสียชีวิตภายใน 7 วัน (ระหว่างวันอาทิตย์ถึงวันเสาร์) 7. จากบันทึกของชาวถ้ำโบราณที่ยังไม่รู้จักปลูกข้าว อาศัยหัวเผือกหัวมันเป็นอาหาร พวกเขาไม่เคยป่วยหรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางเคร ื่องบินและโรคเอดส์เลยแม้แต่คนเดียว 8. ผู้วิจัยสามารถพิสูจน์ได้ว่า ข้าวมีฤทธิ์เป็นยาเสพติด โดยอาสาสมัครที่อดกินข้าว 12 ชั่วโมง จะมีอาการคล้ายกับคนลงแดง คือ หงุดหงิด น้ำกรดในกระเพาะหลั่งมาก     หากไม่ได้เสพข้าวเป็นเวลานาน อาจอ่อนเพลีย ตาขวาง พูดคำหยาบ และพยายามแหกกรงออกมาหาข้าวรัประทาน บางรายถึงขนาดร้องขอข้าวกินอย่างไม่ละอายต่อ บาปกรรม 9. ข้าวเป็นพาหะนำสารอื่นๆที่อัยตรายมากเข้าสู่ร่างกาย เช่น ขาหมู เนื้อย่าง แกงส้มไข่เจียว และอื่นๆ (หิววววววว) 10. ประชาชนบางคนที่กินข้าวติดต่อกันเป็นเวลานานๆ จะขาดความสามารถในการแยกแยะว่างานวิจัยชิ้นใด...น่าเชื่อถือ งานวิจัยชิ้นใด...ไร้สาระ      รวมทั้งข่าวการลอบสังหารบางข่าว เป็นเรื่องหลอกหลวงประชาชน ป.ล. ขออภัยล่วงหน้าถ้า คห นี้ทำให้ออกทะเล หรือ มีคนหิวข้าว จากคุณ : mancunian - [ 21 ต.ค. 50 20:16:38 ]

ความคิดเห็นที่ 171 ขอบคุณครับ ไว้จะเอาให้หลาย ๆ คนที่ทำงานดู เชื่อกันเหลือเกิน ไอ้ FW mail เนี่ย ว่าแล้วก็โหวต จากคุณ : RockCafe - [ 21 ต.ค. 50 20:20:58 ]

ความคิดเห็นที่ 172 ผมก็เบื่อเมล์ พวกนี้มากๆ โดยเฉพาะ พวกที่หวังดีแปลเมล์ ภาษาต่างประเทศ มาเป็นไทย เสียเวลาแปลแล้ว จะช่วยตรวจสอบก่อนก็ไม่ได้ เวลาเราตอบกลับไป ว่าเรื่องนี้ เนี่ย ไม่จริง คนส่งก็โกรธเราอีก ...เวรกรรม ที่หนักสุด มีน้องบางคน บอก หนูไม่รู้ หนูก็ส่งๆไปงั้นแหละ เฮ้อ... จากคุณ : Hoax (kiox) - [ 21 ต.ค. 50 21:03:57 ]

ความคิดเห็นที่ 173 ตอนแรกผมเชื่อเรื่อง เป็นโรคฉี่หนูเพราะกินเป็ปซี่ที่หนูมาฉี่ทิ้งไว้จนแห้ง จริงๆนะเนี่ย มาอ่านกระทู้นี้หายโง่เลย จากคุณ : jorm - [ 21 ต.ค. 50 21:22:10 ]

ความคิดเห็นที่ 174 *173  เหมือนกันเลย จากคุณ : ratmo_11 - [ 21 ต.ค. 50 21:39:45 ]

ความคิดเห็นที่ 175 เคยได้รับเมล รูปหน้าอกนั่นเหมือนกัน หยะแหยงมาก เลยไม่ดูดีๆ ว่ามันเป็นโฟโต้ชอป เชื่อซะ จากคุณ : Erika - [ 21 ต.ค. 50 22:33:55 ]

ความคิดเห็นที่ 176 กระทู้นี้ได้แตกเพิ่มไปที่ http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X5940947/X5940947.html -= ตีแผ่ Forward mail ลวงโลกที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ # 2=- จากคุณ : หมอแมว - [ 21 ต.ค. 50 23:32:30 ]

ความคิดเห็นที่ 177 ขออนุญาตทำเป็น fwd mail นะคะ จากคุณ : Hypocritus - [ 22 ต.ค. 50 00:20:58 ]

ความคิดเห็นที่ 178 เยี่ยมค่ะ โหวตให้ค่ะ >.<b จากคุณ : ตุปัดตุเป๋ - [ 22 ต.ค. 50 09:09:10 ]

ความคิดเห็นที่ 179 #145.. โรงหนังชานเมืองตะวันตกของเมลเบินที่ว่าน่าจะเป็นVillage Cinema Sunshine คับ ห่างจากบ้านผมไปแค่5นาทีเอง.. เลยไปบ่อย แต่ว่าไม่เคยได้ยินข่าวเข็มฉีดยาที่ว่านั่นคับ ถ้าไม่ใช่เรื่องหลอกลวงก็คงเป็นคดีเก่ามากๆที่เอามาใส่สีแต่งเป็นfwdเมลนะผมว่า เมลนี้จะมีมูลนิดนึงก็ตรงที่ว่าแถวนั้นมีพวกขี้ยาเยอะอยู่พอสมควรนี่แหละ แต่นะ.. ก่อนหนังจะฉายแต่ละรอบพนักงานเขาต้องมาทำความสะอาดโรงหนังก่อนคับ เก้าอี้ทุกตัวเขาต้องให้แน่ใจว่าไม่มีพวกเศษป็อปคอร์นหรืออะไรตกอยู่อะ โรงหนังนี้คนออกจะเยอะ  ข้างๆโรงหนังไป2นาทีก็มีสถานีตำรวจอยู่ ส่วนตัวผมว่าเป็นไปได้ยาก.. แก้ไขเมื่อ 22 ต.ค. 50 16:48:19 จากคุณ : k3v1n - [ 22 ต.ค. 50 11:56:53 ]

ความคิดเห็นที่ 180 โอ่ย ดูรูปหน้าอกนั่น ขนลุกไม่หายเลย ถึงจะรู้ว่ามันเป็นโฟโต้ชอปก็เถอะ ขอบคุณหมอแมวค่ะ ติดตามอ่านงานคุณหมอตลอดเลย ^^ จากคุณ : Claudia - [ 22 ต.ค. 50 12:22:02 ]

ความคิดเห็นที่ 181 มหิดลชี้อีเมลสยอง"ห้ามกินกุ้งพร้อมวิตามินซี"หลอกลวง http://www.komchadluek.net/2007/10/22/a001_164349.php?news_id=164349 ม.มหิดล ออกมายืนยันละ จากคุณ : THE_AR - [ 22 ต.ค. 50 18:49:52 ]

ความคิดเห็นที่ 182 ถ้างั้นคราวหน้าได้รับ FW mail ลักษณะนี้ ส่งให้คุณหมอแมวช่วยวิเคราะห์ดีกว่า ได้ไหมคะ จากคุณ : Pook-ก้า - [ 22 ต.ค. 50 20:41:51 ]

ความคิดเห็นที่ 183 โอ้ แจ่มมากครับ จากคุณ : jubchay - [ 22 ต.ค. 50 21:53:49 ]

ความคิดเห็นที่ 184 สุดยอดค่ะ โดนใจ โหวตๆ จากคุณ : Malalee - [ วันปิยมหาราช 00:27:23 ]

ความคิดเห็นที่ 185 ขอบคุณมากค่ะ เชื่อเรื่องฉี่หนูมาตลอดเลยอ่ะ ไม่กล้าดื่มกระป๋องน้ำอัดลมจากปากโดยตรงเลย ปล.ไม่น่าเห็นรูปหน้าอกเลย ขนลุก ลืมๆไปแล้วนะเนี่ย ตอนนั้นขนลุกอยู่หลายวันเลย ตอนนี้เป็นใหม่อีกแล้ว แง้ๆ จากคุณ : NaMeMo - [ วันปิยมหาราช 04:01:06 ]

ความคิดเห็นที่ 186 รูปหน้าอกน่ากลัวมากๆ ติดตาเลยค่ะ จากคุณ : <<Ayumi>> - [ 24 ต.ค. 50 14:00:58 ]

ความคิดเห็นที่ 187 เข้ามาชม จากคุณ : เสียงจากบ้านนา - [ 24 ต.ค. 50 14:18:37 ]

ความคิดเห็นที่ 188 เข้ามาอ่านครับ จากคุณ : ไม่หวั่นแม้วันมามาก - [ 24 ต.ค. 50 22:31:39 ]

ความคิดเห็นที่ 189 สาระดี มีความรู้เจ้า จากคุณ : ป้ามหาภัย - [ 25 ต.ค. 50 00:54:44 ]

ความคิดเห็นที่ 190 เพิ่งรู้เหมือนกันว่าคนไทยไม่รู้เรื่องในหลวงประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อตอนประทับอยู่สวิสเยอะมาก หนังสือพระราชประวัติ สารคดีพระราชประวัติมีกล่าวถึงเรื่องนี้โดยตลอด ส่วน Fw mail บางอันที่นำมาเสนอในนี้ก็เคยอ่านมาเหมือนกัน แต่ไม่เชื่อทั้งหมด บางอันก็ทำให้ไม่ประมาท เช่น ก่อนดื่มเครื่องดื่มกระป๋องก็จะเช็ดให้สะอาดก่อน เพราะไม่รู้ว่าก่อนหน้านั้แมลงสาบบินมาเกาะหรือเปล่า หรือคนขายล้างมือก่อนเอาไปแช๋ตู้เย็นไหม ถ้ามีทางเลือกก็ใช้หลอดอนามัย ส่วนอันสบู่เหลวกับข้าวติงต๊องมาก ขอบคุณที่มาตีแผ่ให้รู้ค่ะ จากคุณ : shili - [ 25 ต.ค. 50 13:45:29 A:121.7.73.191 X:165.21.155.116 TicketID:157305 ]

ความคิดเห็นที่ 191 ได้ความรู้ดี ๆ มีสาระ โหวตค่ะ จากคุณ : ฟิโลใบมะละกอ - [ 25 ต.ค. 50 14:28:41 ]

ความคิดเห็นที่ 192 vote จากคุณ : chem chem - [ 25 ต.ค. 50 23:12:31 ]

ความคิดเห็นที่ 193 อันตราย........อย่ากินข้าวปั้นตามร้าน เพราะไม่รู้ว่าคนขายเข้าส้วมมาก่อนรึปล่าว?.. จากคุณ : เด็กน้อยขี่ม้าก้านกล้วย - [ วันออกพรรษา 01:08:22 ]

ความคิดเห็นที่ 194 รูปน่าอก เห็นแล้ว อู้ว์ว์ว์ว์ จากคุณ : Alovera - [ วันออกพรรษา 09:29:31 ]

ความคิดเห็นที่ 195 เป็นประโยชน์มากๆๆ จากคุณ : To><ic - [ วันออกพรรษา 09:54:01 ]