คนเมืองร้อนเจริญยาก คนเมืองหนาวเจริญกว่าเพราะหนาวกว่าจริงหรือ
http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X5944472/X5944472.html
จากกระทู้นั้นเเละจากที่ผ่านมาเวลาเถียงกันว่าทำไมเมืองไทยถึงไม่เจริญก็มักจะบอกกันว่าสภาพภูมิอากาศเราดี อุดมสมบูรณ์ เลยไม่ต้องดิ้นรน อันนี้มันจริงหรือ
แล้วที่ว่าคนเมืองหนาวต้องดิ้นรน ไม่งั้นอดตายในหน้าหนาว เลยคิดค้นวิทยาการ เราว่าไม่น่าจะใช่ประเด็นหลักที่เค้าเจริญ
มันไม่ใช่ที่ตรรรกะข้อนี้ อาจมีผลบ้างเเต่ไม่มากนัก
พวกที่วิทยาการก้าวหน้าเเละเป็นรากฐานวิทยาการปัจจุบัน ก็คือกรีก โรมัน พวกนี้เป็นพวก เมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งเป็นพวกที่โชคดีที่สุดเเล้ว อากาศไม่หนาวเกินไป ไม่ร้อนเกินไป มีพืชผลอุดมสมบูรณ์ ทั้งมะกอก ส้ม มะนาวผัก
เเถมมีองุ่นให้หมักเป็นไวน์ ก๊งอีก หน้าหนาวก็ไม่หนาวเกินไป เมื่อกินอิ่ม ไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องปากท้อง บวกกับเค้ายกย่องการเรียนรุ้เเละการศึกษา
เเละมีอำนาจมากพอที่จะไม่ต้องกังวลเรื่องเป็นเมืองขึ้นใคร
ก็เลยมีเวลามาให้กับความบันเทิง รื่นเริง เเละการศึกษาหาความรู้
อย่าลืมว่าอารยธรรมที่เจริญของโลกเเล้วคิดค้นมาก่อนนี่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอันนี้เลย พวกเมโสโปรเตเมีย ลุ่มเเม่น้ำไทกริสยูเฟรติส ก็ไม่ได้หนาว ถึงจะเป็นทะเลทรายเเต่ก็อาหารสมบูรณ์ดีเพราะอยู่ลุ่มเเม่น้ำ จีนที่คิดค้นอะไรได้พอสมควร เเม้จะมีหน้าหนาวบางภูมิภาคเเต่การ มีฟืนกับอาหารหน้าหนาวไว้ตุน ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะต้องใช้เทคโลโลยีอะไร ของจีนผักก็เอากะหล่ำปลีตุนไม่ต้องใช้ตู้เย็นอีกต่างหาก เนื้อก็มีการทำเค็ม
พวกที่เเร้นเเค้นจากความหนาวจริง คือ พวก สเเกนดิเนเวีย พวกเอสกิโม เเทบไม่มีเเดดจะปลูกพืช หาฟืนมากันหนาวเเทบไม่ได้ ก็ไม่เห็นจะเป็นพวกเเรกๆที่คิดค้นวิทยาการอะไร เป็นพวกท้ายๆที่ตามหลังเค้ามา
ตามหลังพวกเมดิเตอร์เรเนียน เเถมป่าเถื่อนกว่าเค้าเมื่อก่อนด้วยซ้ำยังชีพด้วยโจรสลัดอยุ่เลย พวกที่ลำบากทางภูมิศาสตร์เเบบเดียวกันคือพวกทะเลทรายเร่ร่อนไม่ได้อยู่ในโอเอซิส เช่นพวกเบดูอิน ก็ไม่ได้คิดค้นอะไร หรือเเม้แต่ในไทยก็ตาม
พวกที่เเร้นเเค้นที่สุด เเทบอดตายสมัยก่อน คือภาคอิสานก็ไม่ได้มีวิทยาการมากอะไร
พวกที่เรายอมรับกันว่าไอคิวดีที่สุดคือยิว เห็นชอบบอกกันว่าเพราะ โดนกดขี่ ถ้าไม่ฉลาดก็ตาย ถ้าใช้ตรรกะอย่างนี้ พวกอเมริกันผิวดำที่รอดตายมา มิต้องเป็นพวกที่ฉลาดที่สุดในโลกหรือ เพราะว่าโดนกดขี่มามากกว่ายิวยังมีช่วงรุ่งโรจน์ เป็นพ่อค้าวานิช เป็นนายทุน เเต่อาฟริกา อดอยากยากเเค้นตลอด โดนกดขี่เป็นเมืองขึ้นตลอดพวกยิวเค้ามีวิธีการคิด การสอนการศึกษาที่ต่างจากพวกอื่น
ลองไปหาเรื่องสอนลุกอย่างยิวจนเป็นอัจฉริยะอ่านดูสิ กับพวกประวัตศาสตร์ยิว
หรือพวกอินคา เเม้เเต่เกาหลี โดนทั้ง จีนทั้งญี่ปุ่น กดขี่ก็ไม่ได้เจริญไปกว่า ตะวันตก ทั้งที่คนเกาหลี เเร้นเเค้น หนาว โดนกดขี่ขยัน เเต่ที่เจริญช้ากว่าตะวันเพราะเรื่องการศึกษาบวกกับเพื่อนร่วมภุมิภาคยังไม่เจริญถ้าเค้าไปอยุ่ใกล้ๆ ยุโรปก็เจริญเร็วกว่านี้ ความเจริญมันเหมือนโดมิโน่เหมือนกัน เเต่ก็ขึ้นกับว่าจะยอมรับสิ่งดีๆมาไม๊ พวกอเมริกา เป็นพวกมาจากอังกฤษก็เอาวิทยาการมา เเต่พวกอเมริกาใต้อยู่ติดอเมริกา ไม่เอาเเนวคิดมาก็ยากจนเหมือนเดิม
เราว่า key ที่สำคัญ ที่ทำให้ชาติเจริญ คิดค้นวิทยาการใหม่ๆได้ก็คือ " ทัศนะคติในการอบรมเลี้ยงดู เเละทัศนะคติในการดำเนินชีวิต" การให้ความสำคัญทางการศึกษาเเละการให้การศึกษากระจายโดยเท่าเทียมกัน การยกย่องการเรียนรุ้ การรักการอ่าน (เห็นชัดๆเลยพวกสิงคโปร์ไม่มีอะไรเลยยังรวยได้) การบันทึกวิทยาการเป็นลายลักษณ์อักษร การบันทึกประวัติศาสตร์ การคิดที่เป็นเหตเป็นผลมีตรรก เอาความรู้ของทุกๆที่มาต่อยอด การทำอะไรต้องทำเต็มที่ขยัน ทำให้เป็นเลิศเเละ เหลืออะไรเมื่อเราตายไป ไม่ใช่เเค่กินนอนสืบพันธ์เเล้วก็ตาย
ต่างหากที่เป็นคีเวิร์ดที่สำคัญที่ทำให้ชาติใดเจริญ
สิ่งนี้จะมีเหมือนกันในพวกที่เจริญเเล้วทั้ง พวกยุโรปตะวันตก ยิว ญี่ปุ่น จีน หรือ พวกเเขกพวกเเรกที่ฉลาดเรื่องคณิตศาสตร์ (เรขาคณิตเจริญในพวกเเขกมาก่อน)เสียดายพอมีเรื่องศาสนา ที่ห้ามการคิดเเบบมีตรรกะ ก็เลยหยุดชะงักความเจริญไป
วิทยาการหลายๆอย่างก้อพวกอินเดียคิดค้น เช่น เรื่องการสร้างเมือง การวางผังเมือง เช่นที่เมืองโมเฮนโจดาโร( คงสะกดผิด เเต่ขี้เกียจไปค้น ไปหากันเอาเองละกัน) เราคิดว่าที่ไม่เจริญต่อมาคงเพราะเรื่องความเเตกเเยกเรื่องศาสนา การเเบ่งชั้นวรรณะ )ปัจจุบันชาติไหน ที่ไม่ให้คุมกำเนิดจะมีปัญหาขาดทรัพยาการ เเละยากจนเกือบทุกราย
การจดบันทึก วิทยาการ ทำให้มันไม่หายไป จะเห็นว่าพวกไอยคุปต์มีกระดาษปาปิรุสทำง่ายใครก็ทำได้ เเล้วอักษรก็ไปจ้างเค้าเขียนได้มีช่างรับจ้าง คนก็นิยมกันในหลุมฝังศพ พบบันทึกเยอะเเยะเช่นเรื่องฤดุการเก็บเกี่ยว เเละบันทึกเรื่องทั่วไปคนธรรมดาก็มีกัน ไม่ว่าจะเขียนหรือสลัก คนไทยเรานั้น มีอักษรของตัวเองมาไม่นานเเละชาวบ้านไม่รู้หนังสือ หนังสือใบลายก็จำกัดเเค่พวกพระสงฆ์ กระดาษเป็นของเเพงที่พวกในวัง ขุนนางใช้กัน ( ศิลาจาลึกไม่ได้เก่าสมัยสุโขทัยเเน่นอน ลองเอาศิลาจาลึก ไปทำคาร์บอนสิบสี่ก็จะรู้ เเต่เรื่องนี้คงทำไม่ได้มันกระทบอะไรหลายอย่าง นี่ก็สะท้อน
ความคิดที่ไม่อิงความจริง เพราะเเม้เเต่สิ่งที่ตะวันตกเค้านับถือสูงสุด คือพระเยซู มีผ้าพันศพเเห่งตูริน เค้าก็ยังเอาไป ตรวจสอบอายุจนรู้ว่าเเหกตา การยอมรับความจริง คิดเเบบวิทยาศาสตร์ก็ทำให้เค้าเจริญเร็ว)
พวกเเขกมีอักษรลิ่ม พวกฝรั่งก็มีอักษรมานาน เเละ เค้าใช้บันทึกในชีวิตประจำวัน และวิทยาการ ของไทยเราคนธรรมดาเมื่อก่อนไม่รู้หนังสือหรอก เขียนได้เเต่นับขีดๆเวลาค้าขาย ยิ่งไม่ต้องพูดว่าจะไปอ่านวิทยาการอะไร ของไทยเราก็มีใบลาน เเต่มักจะใช้ไปในทาง ศาสนา เเละ การเรียนจะจำกัดเเต่ในวัดเเละในวัง การศึกษาไม่ได้รับความสำคัญหรือพวกชั้นสูงอาจ
สงวนไว้กลัวพวกไพร่จะฉลาด ปกครองลำบาก การได้ไปเรียนเมืองนอก สมัยก่อนก็สงวนไว้เเต่พวกลูกท่านหลานเธอ คนจีนนั้น จะเป็นใหญ่เป็นโตได้เค้าก็สอบจอหงวนเเข่งกัน ใครฉลาดก็ขยับฐานะได้ เเต่ของไทยไม่ได้เป็นอย่างนั้น
เป็นทาสกันมา ไม่ได้เรียน ไม่มีสิทธ์ค้าขายอย่างอิสระเหมือนพวกคนจีนด้วยซ้ำ ไม่เป็นทาสก็ทำนา การรับอารยธรรมนอกประเทศก็จำกัด(เรื่องนี้อ่านจาก ที่ลูกหลานพวกล่ำซำเค้าเขียนค่ะ ในเมื่อ เป็นทาส ก็ทำตามเจ้านาย เป็นไพร่ก็ต้องส่งส่วย จะเรียนก็ไม่มีโรงเรียน ไม่มีการสนับสนุนให้คิด เเล้วเราจะเอาเวลาเอาทัศนะคติที่ไหนไปคิด พวก กรีกพวกโรมันเค้ามีเพลโต โสเครติส
ของฝรั่งเค้าก็มีระบบland lord เหมือนเรา เเต่พอยกเลิก ก็เจริญเอาเจริญเอา สิ่งที่ทำให้เจริญช้ากว่าที่ควรของตะวันตก คือ ระบบศักดินาเเละ ศาสนจักรที่ไม่ยอมรับวิทยาศาสตร์ เเต่พอพ้นออกมาก็เจริญเอาเจริญเอา(ของเราพ.ศ.นี้ยัง จตุคามครองเมืองอยุ่เลย เศร้า)
จีนมีขงจื๊อ มีขงเบ้งอะไรก็ว่ากันไป ของเรามีอะไรล่ะศรีธนนชัยมั้ง ออกเเนวฉลาดเเกมโกง เอาเปรียบได้ถือว่าฉลาด )
ของเราไม่มีไอดอลทางความคิดเเบบนั้นเลยเเล้วคิดอะไรได้ก็หวงวิชากันซะจนสุญหายไปหมด
เอ้าไม่เป็นไร เราไม่ได้เป็นพวกเเรกที่คิด เเล้วทำไมญี่ปุ่นเมื่อก่อนก็พอๆกับเราเเล้วเจริญได้ละ ก็เค้ามีทัศนะคติที่เหมือนกันไงคือ ทำอะไรต้องทำให้ดีที่สุด ตายไปต้องมีผลงานอะไรไว้บ้างไม่ใช่เเค่กินนอน สืบพันธ์ เพราะถ้าพวกนี้เค้าคิดอย่างนี้ ตอนนี้เค้าก็ทำได้เพราะเค้ารวยกว่าเรา พวกญี่ปุ่นก็ค้าขายรวย พวกฝรั่งก็ล่าอาณานิคมรวย เเล้วทำไมเค้าไม่เห็นงอมืองอเท้ากินบุญเก่าเลย ยังคิดค้นอะไรอีก
ไอ้เรื่องเเอบเอางานเราไปจดสิทธิบัตรน่ะเลิกพูดเถอะ คนไทยเราก็เป็น อาจจะขี้โกงกว่าเค้าด้วย
เเล้วเค้าคิดอะไรที่เป็นตรรก เป็นวิทยาศาสตร์กว่าเรา จนตอนนี้เเล้วเรายังสอนให้ลูกกลัวผีกันอยู่เลย สอนไม่ให้เถียงผู้ใหญ่ เเต่พวกฝรั่งกับพวกยิว เค้าจะไม่สอนอะไรเเบบนั้นเค้าจะเถียงกันได้ด้วยเหตผล เอาเหตผลมาหักล้างกัน การถกกันคือ การฝึกสมองในการวิเคราะห์วิจารย์เด็กไทยห้ามสงสัย ถามมากคิดมากไม่ได้ ทำอะไรต้องทำตามที่ทำๆกันมาห้ามมีความคิดสร้างสรรค์ ผมต้องเเบบเดียวกัน
เสื้อผ้าต้องเเบบเดียวกัน เเก้โจทย์ต้องทำตามเเบบเดิมๆ เเหวกแนวไปจะหาว่าขวางโลก เเล้วเรายังตีเด็กกันอยุ่เลย เเม้เเต่เข้ามหาลัยยังมีว๊ากกันอยู่เลย นี่มันเป็นเผด็จการชัดๆ สอนให้เรายอมโดนกดขี่อย่างไม่เป็นธรรม( ตอนเรียนเราไม่ยอมถูกว๊าก พวกการว๊ากนี่ควรมีเเต่โรงเรียนทหารนะ )
พวกอังกฤษนี่เค้าปกป้องเด็กมากนะ ตอนหย่ากันใครก็ได้ที่พิสูจย์ว่า เลี้ยงลูกได้ดีกว่าจะได้สิทธ์เลี้ยงลูก เเละได้มรดกส่วนใหญ่ไป ใครเลี้ยงลูกให้ไม่มีเหตผลเช่นให้กลัวผี ก็อดเลี้ยงเด็ก ของเราไข่ทิ้งก็ไม่เห็นจะโดนอะไร
เราไม่ได้ยกย่องคนที่ความฉลาดเเต่ยกย่องคนที่ฐานะ เเละหลายคนก็ไม่ได้สนใจด้วยว่าฐานะต้องสร้างขึ้นมาเอง( ซึ่งจะได้ฐานะมาต้องสร้างศักยภาพ ด้วยตัวเอง)
หญิงยิว จะเเย่งกันเเต่งกับคนฉลาด มันก็เป็นการคัดสรรทางพันธุกรรม ฝรั่งเค้าก็ยกย่องคนเก่ง ใครอยากตอบสนองความต้องการทางสังคมขั้นสูงหรือself esteem ขั้นสูงก็ต้องเป็นคนเก่งที่ทำเพื่อสังคม พวกกอบโกยรวยเเล้วต้องไปสนับสนุนการศึกษาทันที พวกรอคกี้เฟลเร่อ บิล เกต วอร์เรน บัฟเฟต (ไอดอลของเรา)
พูดมาไม่ได้ประนามชาติเราเอง เเต่อยากชี้ข้อที่เราจะพัฒนาได้ต่างหาก จะพัฒนาคนรุ่นเราคงยาก ทั้งเเก่ทั้งดื้อเเล้วเราเองก็เป็น ก็ต้องเป็นคนรุ่นต่อไป เห็นต่างชาติเค้ามีโรงเรียนอบรมการเป็นเเม่กันเกลื่อน (จำประเทศไม่ได้เเล้ว) เราก็น่าจะเอาอย่างดีๆมา เอาง่ายๆเเค่รู้จิตวิทยาเด็ก เเค่รู้เรื่องโภชนาการเรื่องพัฒนาการทางสมอง พอที่จะไม่ทำให้เด็กเอ๋อ ได้รับสารอาหารครบถ้วนก็เพียงพอเเล้ว เลิกเหอะ ไอ้ที่ว่าอยู่ไฟต้องกินเเต่ข้าวกับพริกเกลือเนี่ย เด็กขาดสารอาหารเเล้วมันจะฉลาดได้ยังไง เเล้วโรงเรียนก็ไปดูว่าโรงเรียนพวกที่เค้าพัฒนาเค้ามีอะไรดีกว่าเรา เราถึงไม่เจริญอย่างเค้าก็ไอ้ระบบที่ให้เเต่จำไม่ได้ให้คิดไง ไม่ได้ลองทำจริง นั่นเเหละ ปัญหา อยากบอกว่าน้องเราอนุบาล โดนเเม่เลี้ยงให้เรียนพิเศษตัวต่อตัวมาเเต่อนุบาล จะบ้าตาย เเข่งขันกันขนาดนี้
มัน กีดกั้นพัฒนาการเด็กชัดๆ เราก็ทำอะไรไม่ได้ลูกเค้านิ
ท่องเท่าที่จำเป็นเเต่ให้คิดเป็น( เห็นพวกเราไปเรียนเมืองนอก ชอบบอกว่าเรียนดีกว่าฝรั่ง ก็ใช่สิ ท่องไม่รุ้กี่เที่ยว อ่านมากกว่าก็ทำข้อสอบได้ดีกว่าสิ เเต่คิดค้นอะไรใหม่ๆ ได้หรือเปล่า แน่ะเดี๋ยววก็ต้องบอกว่าเราไม่มีทุน เเล้วเมื่อก่อนน่ะ อเมริกาตอนเริ่มต้นมีทุนที่ไหน เกาหลีมีทุนที่ไหน ญี่ปุ่นเเรกๆมันเเพ้สงครามมีทุนที่ไหน พวกเรายังรวยกว่า เเต่เค้าใช้สมอง พัฒนามาจนมีทุน งบก็ไม่ได้ถูกพวกส.ส. อมไป )
ฝรั่งมันวัดไอคิวโดยเฉลี่ยอาจดีกว่าเรานิดหน่อย เเต่เค้าไม่ได้ให้คนโง่ครองประเทศ เป็นผุ้นำประเทศ (ยกเว้นบุชนะ ) นักการเมืองเราไม่ได้อยากจะพูด ส่วนใหญ่เจ้าเล่ย์เเต่ขาดปัญญาเเละคุณธรรม
เมืองอื่นครู กับนักวิทยาศาสตร์ต้องเป็นพวกหัวกะทิ แต่เมืองเราเป็นยังไงก็อย่างที่เห็น
เดี๋ยวนี้โจรขโมยก็ชุกชุม คนรวยบางคนก็เอาเปรียบคนจน คนจนบางคนก็ประกอบอาชญากรรม เมืองเรามันก็ถอยหลังทุกวัน เพราะเราหลายคน ขาด ปํญญา ขาดคุณธรรม
จริงๆมีตัวเเบบให้เลียนเเบบเเล้วก็เอาของเค้ามา ที่ไหนดีเรื่องอะไรก็เลียนเเบบส่วนดีๆ มา เราก็คงดีกว่านี้
เเล้วเดี๋ยวจะมีคนรักชาติมาบอกอีกว่า ชาติเราอะไรอะไรมันไม่ดีก็ไปอยุ่เมืองฝรั่งสิ ก็ไม่ใช่อย่างนั้น เรามีข้อดีข้อเสียอะไร ก็ควรรุ้ จะได้เเก้ไขได้ถูกจุด ไม่ใช่ตาบอดหุหนวกดีไปหมด รู้ข้อดีข้อเสียของชาติเรา ก็เหมือนรู้จุดเด่นจุดด้อยของตัวเอง จะได้พัฒนาให้ดีขึ้น ฝรั่งญึ่ปุ่นเค้าก็มีข้อเสียเค้า เราก็มีข้อเสียเรา ก็ปรับกันไป อะไรดีก็รับมา อะไรเเย่ก็ไม่ต้องไปเอาอย่างมัน
แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 50 09:36:49
จากคุณ :
^*^ROLITIA^*^
- [
25 ต.ค. 50 09:14:35
]