ความคิดเห็นที่ 1 เริ่มกันเลยครับ แอ่นแอ๊นนนนนนน ปฐมบทแห่งวงศ์เทพ ภายหลังจากเวลาแห่งความว่างเปล่า (chaos) ก็ได้มีเทพถือกำเนิดขึ้น หรือบางที่ก็บอกว่ากำเนิดจากเทพ Chaos (ความว่างเปล่ายังเป็นเทพได้เลยแฮะ) เทพที่กำเนิดขึ้นเบื้องแรกประกอบด้วย 1. ไกอา(Gaia) หรือแม่พระธรณี 2. อีรอส (Eros  หรือ ตัณหา (ที่มาของคำว่า Erotic) องค์นี้ตอนหลังไหงกลายมาเป็นกามเทพ (Cupid) ลูกของวีนัสอีกทีไปได้ก็ไม่ทราบ     (แทรกตรงนี้นิดนึง คือตำนานเทพของกรีกเนี่ยมันมีหลายเล่มบางเล่มบอกอย่าง บางเล่มบอกอีกอย่าง) 3. ทอร์ทารัส (Tartarus) หรือ นรก 4. อีรีบัส (Erebus) ความมืด 5. นิกซ์ (Nynx) กลางคืน Gaia ก็คือโลกนั่นเอง คำนี้แผลงเป็น Geo- ที่แปลว่าเกียวกับโลก พอเป็นภาษาโรมัน Gaia ก็กลายเป็น Terra คุ้นๆไหมครับ ใช่แล้วครับ terra ที่เปลว่าแผ่นดินนั่นเอง แผลงไปอีกนิดก็เป็น Terrain ที่แปลว่าภูมิประเทศ จากคุณ : กฤตยฎีกา - [ 25 ต.ค. 50 13:51:47 ]

ความคิดเห็นที่ 2 พอ พอ เดี๋ยวจะกลายเป็นห้องสมุดไปซะ กลับมาที่ตำนานกันต่อ หลังจากที่แม่พระธรณีกำเนิดขึ้นมาแล้ว ท้าวเธอก็ได้ให้กำเนิดเทพ Ouranos  ซึ่งเป็นเทพแห่งท้องฟ้าขึ้นมาโดยไม่ต้องอาศัยเทพใดๆ Ouranos  องค์นี้แหละครับที่เป็นที่มาของชื่อดาวยูเรนัส Uranus (เปลี่ยนภาษากรีกเป็นลาติน) เทพองค์นี้กรีกและโรมันเรียกเหมือนกันครับ แล้ว Uranus ก็ได้เป็นสถาปนาตัวเองเป็นราชาแห่งทวยเทพเป็นองค์แรก................. ไม่ต้องสงสัยครับ คือตอนนี้เทพไม่ได้้มีแค่ที่เล่ามาครับ ทาง Erebus และ Nynx แม้แต่ Chaos ก็ได้ให้กำเนิดเทพอื่นๆอีก แต่ที่ไม่ได้เล่าเพราะไม่เดี๋ยวจะนอกเรื่องจากเรื่องชื่อดาวเคราะห์ไปเยอะครับ แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 50 14:25:14 จากคุณ : กฤตยฎีกา - [ 25 ต.ค. 50 13:53:38 ]

ความคิดเห็นที่ 3 จากนั้น Uranus ก็ xxxx (เซนเซอร์) กับแม่ของตัวเองซึ่งก็คือ Gaia เกิดเป็นลูกหลานวงศ์เทพมากมาย (ถึงตรงนี้คงต้องบอกว่าในตำนานเทพกรีกเนี่ยเรื่องมั่วๆ ประมาณเนี้ย ไม่ว่าแม่กับลูก พ่อกับลูก หรือพี่กับน้องเนี่ยเยอะไปหมดครับ วุ่นแท้) มาถึงตอนเรื่องของยูเรนัสกับลูกๆครับ ลูกชุดเแรกของยูเรนัส เป็นยักษ์ 100 มือ 50 หัว มี 3 ตนดังนี้ 1. ไบอารีอุส ( Briareus ) 2. กายเอ็ส ( Gyes ) และ 3. คอททัส ( Cottus ) ชุดที่ 2 เป็นพวกยักษ์ตาเดียว หรือ ไซคลอป ( Cyclope ) 3 ตน ประกอบด้วย 1. อาเกส ( Arges) 2. สเตอโรเปส ( Steropes ) และ 3. บรอนเตส ( Brontes ) ลูกทั้ง 6 เนี่ย ยูเรนัสเห็นว่ามีหน้าตาหน้าเกลียด สงสัยจะอายชาวเทพด้วยกัน เลยจับไปขังไว้ในนรก Tartarrus เอ๊ะ..... Tartarus เนี่ยเป็นเทพไม่ใช่เหรอ ใช่ครับ แต่ในตำนานกรีกเนี่ย ชื่อเทพเป็นทั้งสถาที่ด้วยครับ เช่น ยูเรนัสก็ยังหมายถึงท้องฟ้าด้วย หลังจากนั้นเทพีไกอาก็ได้ให้กำเนิดเทพมาอีก 13 องค์ เป็นเทพชาย 6 รวมเรียกว่า เทพไททัน (Titans) เทพหญิง 7 องค์ รวมเรียกไททาไนด์ (Titanides) แต่บางที่ก็เรียกรวมหมดว่าเทพไททัน เทพเหล่านี้เกิดมาไม่ได้หน้าตาหน้าเกลียดเหมือนพวกพี่ๆยักษ์แลัวครับ คงจะโชคดีแล้วซี 555 ไม่ครับ ที่ไหนได้ ด้วยความที่ยูเรนัสกลัวพวกลูกจะมาแย่งอำนาจราชาแห่งเทพ เลยจัดการจับกินซะทีละองค์ตั้งแต่เกิด จนถึงองค์ที่ 14 คราวนี้พระเอกมาแล้วครับ เทพโครนัส Cronus (กรีก) โรมันจะเรียกเทพองค์นี่ว่า แซทเทิร์น (Saturn) ใช่แล้วครับชื่อของดาวเสาร์นั่นเอง จากคุณ : กฤตยฎีกา - [ 25 ต.ค. 50 13:55:37 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เมื่อโครนัสเกิดมา ด้วยความที่ไกอา คงทนเห็นลูกโดนจับกินไม่ไหวแล้ว พอยูเรนัสจะมาจับลูกกินไกอาก็เลยแอบเปลี่ยนเอาหินให้ยูเรนัสกินแทน โครนัสเลยรอดมาได้ ไกอาก็แอบเลี้ยงโครนัสไว้ไม่ให้ยูเรนัสรู้ จนกระทั่งโต คราวนี้ถึงเวลาที่โครนัสจะต้องช่วยพี่น้องแล้วครับ โครนัสรอเวลาที่ยูเรนัสจะมา xxx กับไกอา หลังจากยูเรนัสปฏิบัติกิจเสร็จโครนัสก็แอบออกมาตัด ไอ้นั่น ใช่ครับ ไอ้นั่นนั่นแหละ เอาไปทิ้งทะเล แล้วก็ผ่าท้องช่วยเทพไททันทั้ง 13 องค์ออกมา โหดจริงๆ จากนั้นก็สถาปนาตัวเองเป็นเทพราชาแทน กลับมาที่ยูเรนัส เทพก็คือเทพครับ ยูเรนัสไม่ตายหรอก แต่ไอ้นั่นไม่เหลือนะครับ อิอิ ด้วยความแค้น ยูเรนัสเลยแช่งโครนัสว่า ให้โครนัสโดนลูกแย่งบัลลังค์เหมือนกับที่ตัวเองโดน คำสาปแช่งจะสัมฤทธิ์ผลหรือไม่ คอยตามดูกันครับ จากคุณ : กฤตยฎีกา - [ 25 ต.ค. 50 13:59:37 ]

ความคิดเห็นที่ 5 วันนี้ขอแค่นี้ก่อนนะครับ ขอรอดูผลตอบรับครับ บางทีอาจโดนแจ้งลบด้วยมั้งครับนี่ เพราะจะว่าไปแล้วมันก็ไม่ได้เกียวกับวิทยาศาสตร์เท่าไหร่ ถ้ารอดจากการลบได้ แล้วมีคนสนใจ พรุ่งนี้จะมาเขียนต่อครับ แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 50 14:05:32 จากคุณ : กฤตยฎีกา - [ 25 ต.ค. 50 14:04:34 ]

ความคิดเห็นที่ 6 โหวต ดีกว่า อิอิ ขอบคุณครับ จากคุณ : pattapon - [ 25 ต.ค. 50 14:17:40 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถ่อมตัวจังเลยคุณกฤตยฎีกานี่ มันคือความรู้ครับ สิ่งที่เกี่ยวกับเอกภพนี่เป็นแรงจูงใจของผมให้ชอบวิทยาศาสตร์ตั้งแต่เด็กเลยนะครับ... จากคุณ : AbsolutelyTop - [ 25 ต.ค. 50 14:22:22 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อย่าเลยอย่า..... อย่าหยุดเขียนได้มั้ยมันขาดตอนแบบว่าชอบอย่างแรงครับพี่น้อง ต่อเลยครับต่อเลยอย่าให้มีโมโห 555 จากคุณ : ทองไม่รู้ร้อน (Pigusto) - [ 25 ต.ค. 50 15:00:48 ]

ความคิดเห็นที่ 9 รออ่าน อยู่นะครับ จากคุณ : รออะไร (Golgon) - [ 25 ต.ค. 50 15:01:59 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 25 ต.ค. 50 15:14:41 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณครับ จากคุณ : Autster - [ 25 ต.ค. 50 15:20:01 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อืม.. อ่า ... น่าสนใจครับ จากคุณ : ksk - [ 25 ต.ค. 50 15:48:19 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เอาอีก ๆ ๆ อิอิ ^^ จากคุณ : nutxnut - [ 25 ต.ค. 50 16:00:31 ]

ความคิดเห็นที่ 14 แหม อ่านแล้วอยากไปเล่นเกมส God of War จริงๆ จากคุณ : อิฐมอญ - [ 25 ต.ค. 50 16:07:28 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ผมก็เทพ เหมือนกันครับ จากคุณ : 127.0.0.1 (Thai_DeSeRT) - [ 25 ต.ค. 50 16:22:01 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณครับ กระทู้สาระ นานจะมีมาที แต่พักนี้ก็เริ่มมีบ่อยแล้วนะ จากคุณ : หมั่นไส้ - [ 25 ต.ค. 50 16:22:51 ]

ความคิดเห็นที่ 17 #14 คุณอิฐมอญ God of War เนี่ยผมก็อยากเล่นเหมือนกันครับ แต่ที่บ้านไม่มี PS2     กำลังรอว่าเมื่อไหร่จะลง PC (จะได้ลงไหมหว่า) จะได้เล่นกะเค้าซะทีครับ จากคุณ : กฤตยฎีกา - [ 25 ต.ค. 50 16:53:59 ]

ความคิดเห็นที่ 18 สั้นจังครับ - - เขียนทั้งที ขอยาวๆ จากคุณ : nOnG_WinZ - [ 25 ต.ค. 50 16:57:04 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อ่านะ ปูเสื่อรออ่านต่อละกันครับ หุๆ จากคุณ : vn, man - [ 25 ต.ค. 50 17:18:58 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้าผมสปอยในกระทู้นี้จะโกดมะเนี่ย อิอิ ^^ จากคุณ : จาจาบิงแปงร่างเป็นไอ้มดเขียว - [ 25 ต.ค. 50 17:23:49 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เทพนพเคราะห์ของอินเดีย จากคุณ : เมื่อไรจะหายเหงา - [ 25 ต.ค. 50 17:30:24 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ป.ล.รูปบน องค์ที่มีหัวเป็นงู คือพระราหูครับ ส่วนองค์ที่ท่อนล้องเป็นงู คือพระเกตุ จากคุณ : เมื่อไรจะหายเหงา - [ 25 ต.ค. 50 17:34:42 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ............... จากคุณ : เมื่อไรจะหายเหงา - [ 25 ต.ค. 50 17:38:41 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เมื่อเทพโครนัสชิงบัลลังค์จากยูเรนัสได้สำเร็จ ก็ได้แบ่งหน้าที่ต่างๆให้บรรดาเทพไททัน ทั้ง 13 รับผิดชอบ และเทพทั้งหลายเหล่านั้น ก็ต่างพากันจับคู่กันผลิตทายาทเทพ เว้นไว้แต่เทพีรีอา (Rhea) ซึ่งสวยที่สุด อันนี้โครนัสขอเองครับ อ้าวแน่นอนตัวเองใหญ่ก็ต้องได้ของดีที่สุดสิเนอะ เทพกรีกก็เหมือนมนุษย์ครับ อยู่ด้วยกันก็ต้องมีลูก พอเทพีรีอาท้อง เทพโครนัสก็นึกถึงคำสาปของยูเรนัสผู้พ่อ เพื่อเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม เมื่อเทพีรีอาคลอดบุตรออกมา โครนัสก็เลยจับกินซะ (เหมือนใครหว่า) รอบนี้โครนัส กินไปน้อยกว่ายูเรนัสครับ กินไปแค่ 5 จนถึงองค์ที่ 6 เทพีรีอา คงเพิ่งคืดไอ้ว่าปล่อยไว้อย่างนี้ไม่ดีแน่ เลยต้องไปปรึกษาผู้มีประสบการณ์ ไม่ใช่ใครที่ไหนครับ เทพีไกอานั่นเอง เทพีไกอาก็เลยช่วยหลานโดยการ......... ใช้มุกเดิมครับ แอบเปลี่ยนตัวเทพองค์น้อยกับก้อนหิน (ช่างไม่กลัวเทพโครนัสจะรู้ทันเลยเนาะ) แต่คราวนี้เพื่มมุกนิดหน่อย ซ่อนก้อนหินไว้ในผ้าอ้อมอีกที ข้างฝ่ายเทพโครนัส ครั้นรู้ว่าลูกองค์ที่ 6 คลอดออกมา ก็มาจับกิน เหมือนที่ผ่านมา แทนที่โครนัสจะเรียนรู้เปล่าครับ กินหินนผ้าอ้อมที่หลอกไว้เข้าไปโดยไม่รู้อะไรเลย คงเดาได้แล้วใช่ไหมครับ ว่าเทพองค์นี้เองคือเทพที่จะมาโค่นบัลลังค์ของโครนัสลง ใช่ครับ เทพองค์นี้ก็คือ Zeus (เซอุส หรือ ซุส) หรือในนามโรมันว่า Jupiter นั่นเอง แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 50 18:06:27 จากคุณ : กฤตยฎีกา - [ 25 ต.ค. 50 18:05:30 ]

ความคิดเห็นที่ 25 มารออ่าน จากคุณ : yo one - [ 25 ต.ค. 50 18:19:51 ]

ความคิดเห็นที่ 26 สั้นเมิ่ก อยากอ่านอีกค่า ไม่ได้ปาดแล้วใช่ปะคะ เห็นมีหลายคห แล้ว ลงชื่อเลยแล้วกัน รออ่านต่อค่า^^ จากคุณ : เตียวเสี้ยน (ชอนวอน) - [ 25 ต.ค. 50 19:28:02 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ลงชื่อนั่งรอ อยากอ่านต่อ ^ ^ จากคุณ : Alptraum - [ 25 ต.ค. 50 19:49:15 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ... มารออ่านครับ โหวตให้แล้วครับ จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 25 ต.ค. 50 19:50:21 ]

ความคิดเห็นที่ 29 คห . 14 อยากเล่นเหมื่อนกันครับ แต่เครื่องไม่ถึง...           .... จากคุณ : art anfield - [ 25 ต.ค. 50 19:51:24 ]

ความคิดเห็นที่ 30 รออ่านคับ จากคุณ : maninbox - [ 25 ต.ค. 50 20:26:01 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ปูเสื่อรอค่ะ จากคุณ : Tatjang - [ 25 ต.ค. 50 20:45:02 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ลงชื่อรอด้วยคนค่ะ ^^ จากคุณ : pongpei - [ 25 ต.ค. 50 21:19:32 ]

ความคิดเห็นที่ 33 -ทำไมมาแบบกระปิดกระปอย อ่านไม่สะใจเลยน่าจะก๊อปมาลงทีเดียวเลยได้รึเปล่าครับอ่านสนุกดี -ผมขอถามนิดนึงครับว่าแล้วเลือกอย่างไรถึงมาเป็นชื่อดาวแต่ละดวงซึ่งอ่านดูแล้วมันเป็นชื่อของเทพแล้วเอามาตั้งเป็นชื่อดาวใช่รึเปล่าครับ จากคุณ : Mr.june - [ 25 ต.ค. 50 21:23:04 ]

ความคิดเห็นที่ 34 มาโหวตแล้วก็รอ... จากคุณ : ERWA - [ 25 ต.ค. 50 21:26:36 ]

ความคิดเห็นที่ 35 รอฉันรอเธออยู่ จากคุณ : St.Kyo - [ 25 ต.ค. 50 22:07:15 ]

ความคิดเห็นที่ 36 หนุก ๆๆๆๆๆ แต่ทำไมพวกเทพพวกนี้ incest จังเลย ... นิสัยไม่ดีเนอะ จากคุณ : เศียรนาคา - [ 25 ต.ค. 50 22:53:58 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ใช่ incest มากๆ เลย เดี๋ยว Zeus ก็ไปแต่งงานกับ เทวีจูโน ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องสาว แปลงกายเป็นแพะ แกะ หรือวัวหว่า ให้เทวีจูโนบอกรักด้วยความเอ็นดูอีกตะหาก ------------------------------------------------------------------ คุณ art anfield กับ กฤตยฎีกา อยากเล่นเหรอ มาเล่นบ้านเค้าซิ 555+ ภาค 3 คงสนุกเนอะ หวังว่าคงได้เล่นอีก แต่ Heavenly sword เค้าลือกันว่าสนุกไม่แพ้กันนี่ นอกเรื่องและ จากคุณ : อิฐมอญ - [ 25 ต.ค. 50 23:21:35 ]

ความคิดเห็นที่ 38 อ่านเเล้วนึกถึง เซลเลอร์มูน  555555555555555555555555 จากคุณ : Atomic Secret - [ 25 ต.ค. 50 23:28:43 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เลเซอร์มูนยังพอไหว แต่ถ้า เลเซอร์ "มูล" ละก็ ... คงมีกลิ่มไหม้ผสมกับกิ่นตุ ๆ ของกากอาหาร ... คงไม่สุนทรีแน่ ๆ ... จากคุณ : เศียรนาคา - [ 25 ต.ค. 50 23:50:44 ]

ความคิดเห็นที่ 41 #33 -ทำไมมาแบบกระปิดกระปอยอ่านไม่สะใจเลยน่าจะก๊อปมาลงทีเดียวเลยได้รึเปล่าครับอ่านสนุกดี ผมไม่ได้ก๊อปจากที่ไหนมาครับ เรียบเรียงเอง จิ้มคีย์บอร์ดเอง พิมสัมผัสไม่เป็นครับ สิ่งที่มีคือความอยากเล่า ตอนแรกกะอยู่เหมือนกันว่าจะพิมพ์ให้ครบก่อนแล้วค่อยโพสทีเดียว แต่ใจร้อนไปหน่อยเลยพิมพ์ได้แค่นั้นครับ เมื่อวานนี้ ยังไงเดี๋ยววันนี้จะต่อให้จบครับ ถ้าทำให้หงุดหงิดกันผมต้องขอโทษด้วยครับ แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 50 10:14:17 จากคุณ : กฤตยฎีกา - [ วันออกพรรษา 10:11:38 ]

ความคิดเห็นที่ 42 คราวนี้ขอก๊อปมาแล้วกันครับ เด๊่ยวจะไม่ทันใจท่านผู้อ่าน จาก http://cupid.is.in.th/?md=content&ma=show&id=3 -------------------------------------- วันเวลาผ่านไป ซีอุสเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ แข็งแรง และฉลาดปราดเปรื่อง แล้วก็ถึงเวลาแห่งคำสาปแช่ง ซีอุสจู่โจมเข้าเล่นงานเพื่อยึดอำนาจจากโครนัส โครนัสเป็นฝ่ายพลาดท่าเสียทีพ่ายแพ้ และถูกจับตัวไว้ซีอุสจึงปรีกษากับเจ้าแม่รีอา บังคับให้เทพโครนัสดื่มน้ำสำรอกที่ มีทิส ธิดาของโอเชียนัส ปรุงขึ้น หลังจากดื่มน้ำสำรอกเข้าไป โครนัสก็สำรอกลูกๆที่เคย กลืนกินเข้าไปออกมา รวมทั้งหมด 5 องค์คือ 1. โปไซดอน (Poseidon) หรือ เนปจูน (Neptune) 2. ฮาเดส (Hades) หรือ พลูโต (Pluto) 3. เฮสเทีย (Hestia) หรือ เวสตา (Vesta) 4. ดีมิเตอร์ (Demeter) หรือ ซีรีส (Ceres) 5. ฮีรา (Hera) หรือ จูโน (Juno) (ชื่อแรกเป็นภาษากรีก ส่วนชื่อหลังเป็นภาษาโรมัน) และก้อนหินที่เข้าใจผิดคิดว่าเป็นซีอุสออกมาด้วย เทพทั้ง 5 ที่โครนัสสำรอกออกมานี้ 2 องค์แรกเป็นเทพบุตร ส่วน 3 องค์หลังเป็นเทพธิดานอกจากทั้งหมดจะไม่ตายแล้ว ยังเติบโต เป็นผู้ใหญ่อีกด้วย ซีอุสจึงตั้งตนขึ้นเป็นราชาแห่งทวยเทพ แต่หนทางครองบัลลังก์ก็ไม่ราบรื่น เนื่องจากเกิดศีกใหญ่หมายจะโค่นล้มพระองค์อีกหลายครั้งหลายคราว ศึกครั้งแรกคือ ศึกเทพไตตัน ซึ่งยังจงรักภักดีต่อโครนัสอยู่ ได้ยกทัพมาล้อมเขาโอลิมปัสไว้ จึงเกิดการขับเคี่ยวกันเป็นเวลาช้านาน พระองค์เห็นข้าศึกจำนวนมากแถามทรงพลังน่าเกรงขาม นึงหันไปญาติดีกับพวกยักษ์ไซคลอปส์ที่ยังถูกขังอยู่ในคุกทาร์ทะรัส โดยให้สัญญาว่า จะปล่อยพวกยักไซคลอปส์เป็นอิสระ ถ้าช่วยสร้างอาวุธสายฟ้าให้ เมื่อได้รับข้อเสนอที่ยุติธรรมดีเช่นนั้นพวกยักษ์ ก็ตกลงสร้างอาวุธอย่างเต็มกำลัง มหาเทพซีอุสใช้อาวุธไปรบกับพวกไตตัน เหล่าเทพไตตันจะพยายามร่วมแรงต้านอย่างไรก็ไม่สามารถสู้ได้ เทพไตตันบางองค์ได้ถูกจับขังไว้ในคุกทาร์ทะรัสอีกคราว ส่วนเทพโครนัสนั้นหนีไปยังต่างแดนและครองความ เป็นใหญ่ตลดไป ฝ่ายยักษ์ไซคลอปส์เมื่อถูกปลดปล่อยกลับแข็งข้อ นึงถูกปราบด้วยดาบสายฟ้า หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดศึกใหม่ เป็นอสูรที่มีหัวเป็นมังกร 100 หัว มีเปลวไฟพวยพุ่ง ชื่อว่า ไทฟอน ซึ่งถูกพระนางกีอาเนรมิตขึ้น เพื่อแก้แค้น ความน่ากลัวทำให้ เทพซีอุสและเหล่าทวยเทพพากันหนีไปอยู่ที่อียิปต์ และยังแปลงกายเป็นสัตว์ต่างๆ แต่ไม่นานเทพ ซีอุสก็ละอายใจต่อการกระทำของตนจึงกลับสู่เขาโอลิมปัสเพื่อต่อสู้กับอสูรไทฟอน จนสังหารได้ แต่ก็ต้องพบกับอสูรเอนเซลาดัส ที่พระนางกีอาเนรมิตขึ้นอีก มหาเทพซีอุสจึงต้องต่อสู้กับยักษ์อย่างสุดฝีมือ จนจับเอนเซลาดัสล่ามโซ่ขึงไว้ใต้ภูเขาเอตนาได้สำเร็จ แต่เอนเซลาดัสยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ พยายามดิ้นรน พร้อมกับคำราม บางคราวก็พ่นไฟ ทำให้เกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟเอตนาระเบิด บนเกาะซิสิลี หลังจากปราบศึกแล้วก็ไม่มีศึกใหญ่อะไรเกิดขึ้นอีก มหาเทพ ซีอุสก็ได้ครองบัลลังก์ราชาแห่งทวยเทพอีกครั้ง และจัดแจงแบ่งสันปันส่วนอำนาจให้บรรดาพี่ๆ โดยให้ -โปไซดอน ปกครองทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และแม่น้ำทั้งปวง -ฮาเดส ปกครองบาดาล หรือยมโลก ตลอดถึงคุก ทาร์ทะรัส -เฮสเทีย เป็นเทวีแห่งไฟ และความผาสุกในเคหสถาน -ดีมิเตอร์ เป็นเทวีแห่งธัญญาหาร -ธีรา เป็นเทวีผู้คุ้มครองการวิวาห์ แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 50 15:49:04 จากคุณ : กฤตยฎีกา - [ วันออกพรรษา 10:46:28 ]

ความคิดเห็นที่ 43 พลูโต จากคุณ : กฤตยฎีกา - [ วันออกพรรษา 10:48:49 ]

ความคิดเห็นที่ 44 วีนัส ดาวศุกร์หรือวีนัสเป็นชื่อโรมันของเทพีอโฟรไดท์ ซึ่งเป็นเทพีแห่งความงาม ตำนานการเกิดมีสองตำนานครับ อันแรก ตามมหากาพย์อิเลียดของโฮเมอร์เทพีอโฟรไดที่เป็นเทพธิดาของซูส เกิดกับนางอัปสรไดโอนี (Dione) ส่วนอันที่สองนี้ จำเรื่องที่ยูเรนัสโดนตัดไอ้นั่นได้ใช่ไหมครับ อโฟรไดท์ เกิดจากอวัยวะนั้นตกลงในทะเลเกิดพรายฟองกลายเป็นเทพีอโฟรไดท์ครับ คำว่า Aphros อันเป็นที่มาของชื่อเจ้าแม่ใน ภาษากรีกแปลว่า " ฟอง " แหล่งกำเนิดของเจ้าแม่อยู่ในทะเลแถว ๆ เกาะ ไซเธอรา ( Cythera ) จากนั้น เธอก็ถูกคลื่นซัดไปจนถึงเกาะ ไซพรัส ( Cyprus ) อาศัยเหตุนี้ เกาะทั้งสองจึงกลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เกี่ยวกับเจ้าแม่ และบางทีเจ้าแม่ก็มีชื่อเรียกตามชื่อเกาะทั้งสอง นี้ว่า ไซเธอเรีย (Cytherea) และ ไซเพรียน (Cyprian) ตามเรื่องที่เล่ากันแพร่หลายกล่าวว่า เมื่อเทพีอโฟรไดทีถูกคลื่นซัดไปติด ณ เกาะไซพรัสนั้นฤดูเทพีผู้รักษาทวารแห่งเขาโอลิมปัส ลงมารับพาเจ้าแม่ขึ้นไปยังเทพสภา เทพทุกคนในที่นั้นต่างตะลึงใน ความงามของเจ้าแม่ และต่างองค์ต่างก็อยากได้เจ้าแม่เป็นคู่ครอง แม้แต่ซูสเองก็อยากจะได้ แต่เจ้าแม่ไม่ยินดีด้วย ไท้เธอจึงโปรดประทานเจ้าแม่ให้แก่ ฮีฟีสทัส (Hephaestus) เทพรูปทรามขาเป๋เป็นบำเหน็จรางวัลทดแทนความชอบ ในการที่ฮีฟีสทัส ประกอบอสุนียบาตถวายและเป็นการลงโทษ เจ้าแม่ในเหตุที่ไม่ไยดีซูสไปในตัวด้วย แต่เทพองค์แรกที่เจ้าแม่พิศวาสและร่วมอภิรมย์ด้วยคือ เอรีส (Ares)หรือ มาร์ส (Mars)ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งการสงคราม เทพบุตรของซูสเทพบดี เกิดกับ เจ้าแม่ ฮีรา ได้เป็นชู้สู่หากับเทพีอโฟรไดท์ที่จนให้ประสูติบุตรสอง ธิดาหนึ่งรวมเป็นสาม มีนามตามลำดับว่า อีรอส (Eros)หรือ คิวพิด (Cupid)แอนติรอส (Anteros)เฮอร์ไมโอนี (Hermione)หรือ ฮาร์โมเนีย (Harmonia) จากคุณ : กฤตยฎีกา - [ วันออกพรรษา 11:54:28 ]

ความคิดเห็นที่ 45 มาถีง God of War ครับ เอเรส (Ares) หรือในภาษโรมัน   มาร์ส (Mars) คือบุตรของซุสกับ ฮีรา ฮีราเนี่ยเป็นพี่ของซุสเองที่โดนโครนัสกินน่ะครับ เทพีฮีราเนี่ยเป็นเมียหลวง เอเรสเป็นเทพแห่งสงคราม แต่เทพและมนุษย์ส่วนใหญ่ไม่ชอบเอเรส เว้นแต่ชาวโรมันเนื่องจากเป็นชาตินักรบ และชอบทำสงคราม ชาวโรมันเทิดทูนสดุดีเทพองค์นี้ยิ่งนัก ถึงกับอุปโลกน์ให้เป็นเทพบิดาของ โรมิวลัส (Romulus) ผู้สร้างกรุงโรม และพรรณาสรรเสริญเกียรติคุณของเธอนานัปการ ตรงกันข้ามกับชาวกรีก ซึ่งนอกจากจะไม่นิยมเลื่อมใสเทพองค์นี้แล้ว ยังถือว่า เธอเป็นเทพที่มีสันดานป่าเถื่อนดุร้าย ปราศจากความเมตตากรุณาเสียอีก ในมหากาพย์อิเลียด ซึ่งเป็นบทกวี เกี่ยวกับการ สงคราม แท้ ๆ เธอเป็นที่เกลียดชังตลอดเรื่อง นักกวีโฮเมอร์ถึงแก่ประณามเธอว่า "ยินดีในการประหัตประหาร มีมลทินด้วยเลือด เป็นอุบาทว์สำหรับมนุษย์ทั้งปวง" เมื่อสรุปตามสายตาของกรีกดังกล่าว โดยสำนวนปัจจุบัน เราจะเห็นว่า เอเรสคือ เทพอันธพาลของกรีก เอเรสเป็นโอรสขององค์เทพซูสกับฮีร่าเทวี และทรงเป็นโอรสที่เทพบิดาซูส ตรัสใส่หน้าเลยว่า "เจ้าเป็นที่น่าชังที่ สุดในบรรดาลูกของข้า ทั้งโหดร้าย ดื้อด้านเหมือนแม่เจ้าไม่ผิด!" ซึ่งวาทะประโยคนี้นับว่าวิจารณ์อุปนิสัยใจคอของ เอเรสได้ตรงเป็นที่สุด นอกจากโหดร้ายและดื้อดึง เอเรสยังบุ่มบ่าม โกรธง่าย และนิยมความรุนแรงมาก นับว่าเป็นอุปนิสัยที่ แตกต่างกับเจ้าแม่เอเธน่า มากซึ่งเป็นเทวีแห่งสงครามเหมือนกัน เอเธน่านั้นสุขุม เฉลียวฉลาดและกล้าหาญ จึงได้รับการ ยกย่องทั่วทุกหนแห่ง เป็นเหตุให้เอเรสเกิดจิตริษยาเอามาก เวลาพบกันทีไรจึงมักมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันเป็นประจำ มีครั้งสำคัญอยู่ครั้งหนึ่ง เมื่อไปพบกันกลางทางและมีเรื่องทะเลาะกัน อย่างเคย เทพเอเรสเกิดบันดาลโทสะ จึงขว้างจักรอันเรืองฤทธิ์แรงกล้าพอ ๆ กับอสนีบาตขององค์ซูสเทพบิดา เข้า ใส่เอเธน่า เจ้าแม่เอี้ยวหลบแล้วทรงยก เอาหินที่วางอยู่แถว ๆ นั้นขึ้นทุ่มตอบกลับไป หินก้อนนั้นมิใช่หินธรรมดา แต่เป็นหินที่ตั้งไว้เพื่อ แสดงเขตแดนของนคร หินนั้นกระทบถูกเอเรสเข้าให้ถึงกับทรุดลงกองกับพื้น ก่อนที่เทวีเอเธน่าจะกลับไปเจ้าแม่ยังกล่าวเยาะ ให้เจ็บใจเล่นด้วยว่า "เจ้างั่ง! เพียงแค่นี้ เจ้าก็เดาได้แล้วใช่ไหมว่าเรี่ยวแรงของเรามากขนาดไหน อย่าแหยมมารบกวน เราอีกต่อไปเลย!" เป็นที่น่าสังเกตอย่างหนึ่งเกี่ยวกับเอเรสองค์นี้ คือในฐานะที่เป็นเทพแห่งสงคราม ตามปกติหากรบที่ไหนต้องมีชัยที่นั่น แต่ผิดถนัดสำหรับเทพองค์นี้ หากว่าเอเรส รบที่ไหนปราชัยที่นั่นมากกว่า จนน่าประหลาดใจ นอกจากจะพ่ายแพ้แก่เทวีเอเธน่าแล้ว ยังแพ้มนุษย์อีกด้วย อาทิเช่น วีรบุรุษเฮอร์คิวลิส เคยสังหารโอรสของเอเรสมาแล้ว ครั้นผู้เป็นพ่อเข้าช่วยลูก ก็ถูกต่อยตีจนต้องหลบหนีขึ้นไปบนโอลิมปัสแทบไม่ทัน เมื่อนำเรื่องทูลฟ้องซูสเทพบดี ไท้เธอก็ตัดสินไกล่เกลี่ยให้เลิกรากันไป เนื่องจากแท้ที่จริง เฮอร์คิวลิสก็เป็นโอรสของไท้เธอเช่นเดียวกัน เพียงแต่มีมารดาเป็นมนุษย์สามัญ เทพเอเรสมักเสด็จไปไหน ๆ โดยรถศึกเทียมม้าฝีเท้าจัดมากมาย แสงเกราะและแสงศาตราวุธของเธอส่องแสงเจิดจ้าบาดตาผู้พบเห็น มีบริวารที่ติดสอยห้อยตามอยู่ 2 คนคือ เดมอส (Deimos) ซึ่งแปลว่าความสยดสยอง กับ โฟบอส (Phobos) แปลว่าความกลัว บริวารนี้บางตำนานกล่าวว่าเป็นโอรสของเทพเอเรส ในทาง ดาราศาสตร์เมื่อตั้งชื่อดาวอังคารว่า มาร์ส ตามชื่อเทพแห่งสงครามแล้ว ก็เลยตั้งชื่อดวงจันทร์บริวารทั้งสองของดาวอังคารว่า เดมอสกับโฟบอสตามตำนานไปด้วยเลย ในด้านความรักของเอเรสนั้นเร่รักไปเรื่อยเช่นเดียวกับเทพบุตรอื่น ๆ ในโอลิมปัส ไม่ได้ยกย่องใครเป็นชายา แต่มีเรื่องรักสำคัญของเอเรสอยู่ครั้งหนึ่งที่เกิดขึ้น ได้แก่การลักลอบเป็นชู้กับเทวีแห่งความงามและความรักนาม อโฟรไดท์ เมื่อเอเรสเป็นที่เกลียดชังของเทพและมนุษย์ (ชาวกรีก) เช่นนั้นพฤติการณ์ของเธอตอนเป็นชู้กับเทวี อโฟรไดท์จึงเป็นที่ครหารุนแรง และมวลเทพก็คอยจ้องจับผิดก็เพราะความมืดของราตรีกาลเป็นใจ ตราบใดเธอ หลบไปได้ก่อนดวงอาทิตย์ของอพอลโลไขแสง หากยังจับไม่ได้คาหนังคาเขา ตราบนั้นพฤติการณ์ของเธอ ก็ยังคง เป็นความลับ เธอเกรงกลัวอยู่ก็แต่แสงสว่าง ซึ่งเปรียบประดุจนักสืบของเทพอพอลโลเท่านั้น ถ้านักสืบนั้นแฉ พฤติการณ์ของเธอให้ประจักษ์แก่เทพอพอลโลแล้ว เทพอพอลโลก็คงจะนำความไปบอกแก่เทพฮีฟีสทัส ถึงกรณีที่เธอลักลอบกับเทวีอโฟรไดท์ เธอจึงวางยามไว้คนหนึ่งให้คอยปลุกเมื่อใกล้รุ่ง ผู้ทำหน้าที่นี้คือ หนุ่มน้อยชื่อว่า อเล็กไทรออน (Alectryon) ในคราวที่ความจะแตก อเล็กไทรออนหลับยามเพลินไปจนรุ่งเช้าเป็นเหตุให้อพอลโลเห็นเอเรสกับอโฟรไดที่นิทราหลับอยู่ด้วยกัน อพอลโลจึงนำความไปบอกแก่เทพฮีฟีสทัส ฮีฟีสทัสสานร่างแหเหล็กเตรียมไว้ก่อนแล้ว พอได้ความดังนั้นก็หอบ ร่างแหไปทอดครอบเอเรสกับอโฟรไดที่ไว้ให้เทพทั้งปวงมาดูและหัวเราะเยาะอย่างครื้นเครง แล้วจึงปล่อยไป ฝ่ายเอเรสได้รับ ความอัปยศอดสูท่ามกลางธารกำนัลยิ่งนัก จึงสาปอเล็กไทรออนให้กลายเป็นไก่ ทำหน้าที่คอยขันยามในเวลาใกล้รุ่งทุกคืน เป็นการลงโทษในการที่หลับยาม ด้วยเหตุนี้ไก่ผู้ทุกตัวที่เกิดขึ้นในโลก จึงสืบสกุลมาจากไก่อเล็กไทรออนตัวแรกนั้นทั้งสิ้น แก้ไขฮีราเป็นพี่ของซุสแล้วครับ เพลินไปหน่อย แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 50 14:08:59 แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 50 14:05:06 จากคุณ : กฤตยฎีกา - [ วันออกพรรษา 12:32:49 ]

ความคิดเห็นที่ 46 มาถึงดาวเคราะห์หลักดวงสุดท้าย ดาวพุธ หรือ Mercury องค์นี้กรีกจะเรียกว่า เฮอเมส (Hermes)         เฮอเมส(เมอคิวรี่) เป็นบุตรของเซอุสกับมายา (Maia) ธิดาของแอตลาสผู้แบกโลก มีลักษณะเด่นคือ รูปงาม เคลื่อนไหวได้รวดเร็ว ที่ข้อเท้า หมวก ไม้เท้ากายสิทธ์มีปีกที่ทำด้วยไม้จันทน์ หมวกและเกือกมีปีกของเฮอเมสนั้นเรียกว่า เพตตะซัส (Petasus) และ ทะเลเรีย (Talaria) เป็น ของที่ได้รับประทานจากซูสเทพบิดา ซึ่งโปรดให้เธอเป็นเทพพนักงานสื่อสารประจำพระองค์ ส่วนไม้ถือศักดิ์สิทธิ์เรียกว่า กะดูเซียส (Caduceus) เดิมเป็นของเทพอพอลโล เธอใช้ต้อนวัวควายในครอบครอง ครั้งหนึ่งเฮอเมสขโมยวัวของ เธอไปซ่อน อพอลโลรู้ระแคะระคายดังนั้นจึงมาทวงถามให้เทพภราดรคืนวัวให้แก่เธอ เฮอเมสในตอนนั้นยังเยาว์อยู่แท้ ๆ กลับย้อนถามอย่างหน้าตาเฉยว่า วัวอะไรที่ไหนกัน เธอไม่เคยเห็นและไม่เคยได้ยิน อพอลโลก็ไปฟ้องเทพบิดา ซูส ไกล่เกลี่ยให้เฮอเมสคืนวัวให้เจ้าของ อพอลโลได้วัวคืนแล้วก็ไม่ถือเทพผู้น้อง แม้ว่าวัวจะขาดจำนวนไป 2 ตัว เพราะ เฮอเมสเอาไปทำเครื่องสังเวยเสียแล้วก็ตาม เธอเห็นเฮอเมสมีพิณถือคันหนึ่งเรียกว่า ไลร์ (lyre) เป็นของเฮอเมส ประดิษฐ์ขึ้นเองด้วยกระดองเต่าก็อยากได้ จึงเอาไม้กะดูเซียสแลก ไม้ถือกะดูเซียสจึงเป็นของเฮอเมสด้วยเหตุฉะนี้ และถือ กันว่าเป็นสัญลักษณ์ของเฮอเมสแต่ครั้งนั้น ไม้กะดูเซียสนี้แต่เดิมเป็นไม้ถือมีปีกลุ่น ๆ ต่อมาเฮอเมสถือไปพบงู 2 ตัวกำลังต่อสู้กัน เธอเอาไม้ทิ่มเข้าในระหว่างกลางเพื่อห้าม ความวิวาท งูก็เลื้อยขึ้นมาพันอยู่กับไม้ โดยหันหัวเข้าหากัน ตั้งแต่นั้นมางูนี้ก็พันอยู่กับไม้ถือกะดูเซียสตลอดมา และไม้ถือกะดูเซียสก็ กลายเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นกลางด้วย ภายหลังได้ใช้เป็นสัญลักษณ์ของการแพทย์มาจนบัดนี้ เฮอเมสไม่แต่จะเป็นเทพพนักงานสื่อสารของซูสเท่านั้น หากยังเป็นเทพครองการเดินทาง การพาณิชย์ และตลาด เป็นที่บูชาของพวกหัวขโมย และมีหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์คอยนำวิญญาณคนตายไปสู่ยมโลกด้วยจนได้รับนามกร อีกชื่อหนึ่งว่า เฮอเมสไซโคปอมปัส (Hermes Psychopompus) สรุปว่าการสื่อสารและการเป็นคนกลางใน กิจการทุกอย่างตกเป็นภาระของเธอ หรืออยู่ในความสอดส่องของเธอทั้งสิ้น ส่วนการที่เธอเป็นที่นับถือบูชาของพวกขโมยก็คง เนื่องจากขโมยวัวของอพอลโลที่เล่ามาแล้วนั่นเอง สิ่งที่น่าแปลกประการหนึ่งในตัวของเฮอเมสก็คือ แม้ว่าเธอจะเป็นโอรสของซูสเทพบดีกับนาง เมยา (Maia) ซึ่ง เป็นอนุ แต่ทว่าทรงเป็นโอรสองค์เดียวของซูสที่ราชินีขี้หึงเทวีฮีร่าไม่เกลียดชัง กลับเรียกหาให้เฮอเมสอยู่ใกล้ ๆ ด้วยเสีย อีก ทั้งนี้อาจเป็นเพราะบุคลิกและนิสัยของเทพเฮอเมส ที่ชอบช่วยเหลือทุกคน ไม่ว่าจะเป็นทวยเทพด้วยกัน หรือมนุษย์ ธรรมดา อาทิเช่น ช่วยปราบยักษ์ร้ายฮิปโปไลตุล ช่วยองค์ซูสเทพบิดาให้พ้นจากพันธนาการของยักษ์ไทฟีอัส ช่วยอนุองค์ หนึ่งของเทพบิดา คือนางไอโอให้รอดตายด้วยการสังหารอาร์กัส อสูรพันตาของเจ้าแม่ฮีร่า และช่วยเหลือเลี้ยงดูไดโอนิซัส ในยามแรกถือกำเนิดขึ้นอีกด้วย ในด้านของมนุษย์นั้น เฮอเมสเคยช่วยเปอร์ซีอุสสังหารนางการ์กอนเทดูซ่า ช่วยเฮอร์คิวลิสในยามเดินทางสู่แดนบาดาล ช่วยโอดีสซีอัสให้รอดพ้นเงื้อมมือนางเซอร์ซี และช่วยให้เตเลมาดุสตามหาพ่อจนพบ เป็นต้น เฮอเมสก็เช่นเดียวกับเทพบุตรองค์อื่น ๆ ตรงที่ไม่ยกย่องเทวีหรือสตรีนางใดเป็นชายา แต่สมัครรักใคร่ไปเรื่อย ๆ นับไม่ถ้วน ว่ากันว่าการที่เธอชอบเสด็จลงไป ในแดนบาดาลบ่อย ๆ นั้นเป็นเพราะหลงเสน่ห์ของเทวีเพอร์เซโฟนีผู้เป็นชายา ของฮาเดส จ้าวแดนบาดาล ยามขึ้นมาสู่ผืนดินเฮอเมสก็รักกับสตรีมนุษย์มากหน้า ที่เป็นที่ กล่าวขานได้แก่ อคาคัลลิส (Acacallis) ผู้เป็นธิดาของท้าวไมนอส แห่งครีต เมื่อขึ้นไปสู่สวรรค์โอลิมปัสก็เกิดจิตพิศวาส กับเทวีในทำนองรักข้ามรุ่น โดยเฉพาะกับ เฮเคตี และอโฟร์ไดท์เทวี แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 50 15:39:13 จากคุณ : กฤตยฎีกา - [ วันออกพรรษา 12:54:44 ]

ความคิดเห็นที่ 47 phobus , phobia  = ความกลัว hydrophobia โรคกลัวน้ำ Deimos = ความสยดสยอง เฮร่า (จูโน) เป็นพี่สาวซุส จาก คห. 24 ,42 แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 50 14:01:21 จากคุณ : keab (keab_h) - [ วันออกพรรษา 13:58:07 ]

ความคิดเห็นที่ 48 กลับมาโหวตอีกรอบค่า ชอบๆ วันหลังเขียนอีกนะคะ^^ ป.ล.เคยสงสัยอยู่ว่าทำไมตราองค์การเภสัชฯ ถึงเป็นรูปงู ...เป็นแบบนี้นี่เอง จากคุณ : เตียวเสี้ยน (ชอนวอน) - [ วันออกพรรษา 15:21:13 ]

ความคิดเห็นที่ 49 อ่านจนงงหมดแล้ว ตกลงใครลูกใคร ใครพี่น้องใคร ใครเป็นลุง ใครเป็นป้า ใครเป็นหลาน ใครเป็นใคร แล้วผมเป็นใครล่ะเนี่ย จากคุณ : Ricardo Kaka - [ วันออกพรรษา 15:23:46 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ไม่รู้จักฉันไม่รู้จักเธอ จากคุณ : เด็กหนุ่มหัดหล่อ - [ วันออกพรรษา 15:33:55 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เทพของกรีกโบราณก็งี้ครับ ยุ่งเหยิงชุลมุนไปหมด นับญาติไม่ถูก เดี๋ยวพ่อได้กับลูก ลูกได้กับแม่ พี่น้องได้กันเอง คนโน้นได้คนนี้ ยุ่งเหยิงไปหมด โดยเฉพาะซูสนี่แหละตัวดี ไปมีลูกกับคนโน้นคนนี้จนยุ่งไปหมด จากคุณ : ซามาโนสุเกะ - [ วันออกพรรษา 16:15:43 ]

ความคิดเห็นที่ 52 สรุป พลังสายฟ้าของซุส มาจากอาวุธรึนี่ จากคุณ : Panda[D]rift - [ 28 ต.ค. 50 10:19:00 A:125.26.127.203 X: TicketID:138720 ]

ความคิดเห็นที่ 53 อ่านผ่านๆแล้ว โหวตให้ก่อน เดี๋ยวค่อยกลับมาอ่านอีกทีตอนมืดๆ ชอบค่ะสนุกดี นึกถึงต่วยตูนส์ จากคุณ : ลูกไก่พองลม - [ 28 ต.ค. 50 10:49:57 ]

ความคิดเห็นที่ 54 เมืองไทยก็เทพเยอะครับ lnw lกsียu นะครับ จากคุณ : Thedew - [ 28 ต.ค. 50 18:10:09 ]

ความคิดเห็นที่ 55 สนุกมากมายครับ . . จากคุณ : เหวเห้ว - [ 28 ต.ค. 50 22:13:10 ]

ความคิดเห็นที่ 56 สรุป ซูส กับ  เซอุส  นี่คนเดียวกันหรือเปล่า รู้สึกอ่านแล้วชื่อ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา  มายา เป็น เมยา - -" หรือผมมึนเอง จากคุณ : คนข้างๆ - [ 29 ต.ค. 50 01:15:50 ]

ความคิดเห็นที่ 57 Ref. 37 ตอนเป้นวัวนี่ตอนไปหา ยูโรปา นะเราว่า จากคุณ : Mdiic~* - [ 29 ต.ค. 50 03:55:16 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ... จากคุณ : เฒ่าเจ้าอุบาย - [ 29 ต.ค. 50 09:33:59 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ซูสกับซีอุส เนี่ยคน(หรือเทพหว่า)เดียวกันครับ ตอนแรกผมเขียนเองผมจะเรียกตามที่ผมชินน่ะครับ แต่ช่วงหลังก็อปมาบางจุดอาจจะหลงหูหลงตาไปบ้าง ต้องขอโทษครับ คือคนไทยเวลาเรียกชื่อเทพเหล่านี้จะเรียกกันหลายสำเนียงครับ เช่น Zeus ซุส ซูส เซอุส ซีอุส Gaia ไกอา เกียอา กีอา Hades ฮาเดส เฮเดส Maia ไมอา เมยา มายา Aphrodite อะโฟร์ไดท์ อโฟร์ไดที่ แต่มีองค์หนึ่งที่เรียกคล้ายกันแต่เป็นคนละองค์ Cronus โครนัส อันเนี้ยคือลูกของยูเรนัส พ่อของเซอุส Chronos โครนอส อันนี้เป็นเทพแห่งกาลเวลา เป็นที่มาของคำว่า Chronograph ในนาฬิกา Synchronous ที่แปลว่าตรงจังหวะกัน จากคุณ : กฤตยฎีกา - [ 29 ต.ค. 50 11:46:30 ]

ความคิดเห็นที่ 60 นึกถึงเวปคุณโซนิคทันใด d~_~b จากคุณ : Sakuder - [ 29 ต.ค. 50 14:13:01 ]

ความคิดเห็นที่ 61 อ่า ตอนเด็ก ๆ ชอบอ่านมาก ๆ ตำนานเทพเจ้ากรีกโรมัน เทพปกรณัมทั้งหลาย .... อ่านมาหลายรอบก็จำไม่ได้ว่าใครเป็นลูกใคร แต่ที่จำได้ก็วีรกามของแต่ละองค์นี่ละ มั่วกันดีจริง ๆ นี่ล่ะน๊า...ขนาดเทพ ยังไม่สามารถละซึ่ง กิเลส ตัณหา ราคะ ได้เลย แล้วหนุ่ม ๆ หว้ากอ คนเดินดินอย่างเรา ๆ นี่ ก็คงไม่ต่างกันหรอกมั้งคะ เนอะ ๆ จากคุณ : Madame Bovary - [ 29 ต.ค. 50 14:44:37 ]

ความคิดเห็นที่ 62 คิดถึงตอนเด็ก จะมีหนังสือเกี่ยวกับเทพกรีก ชอบมากๆ แต่รายละเอียดเยอะจนงง 55 จากคุณ : หมูจ้ำม่ำ - [ 29 ต.ค. 50 15:06:30 ]

ความคิดเห็นที่ 63 อ่านเพลินมากเลยค่ะ โหวตให้ด้วยคะ จากคุณ : primjang - [ 29 ต.ค. 50 15:17:33 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ขอบคุณ คุณกฤตยฎีกา ครับที่ชี้แจ้งให้ทราบ เดียวไปอ่านอีกรอบก่อน จากคุณ : คนข้างๆ - [ 29 ต.ค. 50 15:43:23 ]

ความคิดเห็นที่ 65 เคยอ่านหนังสือเทพนิยายกรีก อ่านซะมึนไปเลย เรื่องก็ประมาณกระทู้นี้น่ะแหละ รู้สึกว่าทวยเทพช่างเอาแต่ใจตัวเอง ไม่ค่อยมีศีลธรรมเท่าไหร่ เล่มนั้นให้คนอื่นไปแล้ว จากคุณ : autumn whispers - [ 29 ต.ค. 50 19:40:34 ]

ความคิดเห็นที่ 66 แล้วคำว่า cereal อาหารธัญญพืช มาจากชื่อเทพ Ceres รึเปล่าคะ จากคุณ : CutieAngel - [ 29 ต.ค. 50 21:25:22 ]

ความคิดเห็นที่ 67 สนุกมาก ๆ เลยคะ  ได้ความรู้ด้วย ขอบคุณนะคะ จากคุณ : หนูเล็กในเมืองนางฟ้า - [ 30 ต.ค. 50 08:07:46 ]

ความคิดเห็นที่ 68 หนุก ๆๆๆๆ อ่านไปงงไป โดยเฉพาะตอนที่เรียกเทพที่เป็นผู้ชายว่าเธอ อย่างในเรื่องของ Ares แต่ก็ชอบครับ ขอบคุณที่มีความรู้สนุกสนานมากฝากกัน จากคุณ : เศียรนาคา - [ 30 ต.ค. 50 08:42:39 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ชอบ ๆๆๆ ขอบพระคุณมากค่ะ โหวตก่อนเลย จากคุณ : biebie999 - [ 30 ต.ค. 50 08:55:27 ]

ความคิดเห็นที่ 70 น่าส่งคุณระเบียบรัตน์ไปจัดการให้ผัวเดียวเมียเดียว จะได้พอจำตำนานได้บ้าง เคยอ่านมาก็จำไม่ค่อยได้เพราะสับสน ความคิดเห็นที่ 44 ว่าการเกิดVenusหรือAphrodite มี2ตำนาน http://en.wikipedia.org/wiki/Aphrodite#Birth พลาโตว่าAphroditeมี2เทวี คนพี่เรียกUraniaเป็นลูกUranusหรือ Aphrodite Urania คนน้องเรียกPandemosเป็นลูกZeus and Dioneหรือ Aphrodite Pandemos Thus, according to Plato[6] Aphrodite is two goddesses, one older the other younger. The older, Urania, is the daughter of Uranus; the younger is named Pandemos, and is the daughter of Zeus and Dione. Pandemos is the common Aphrodite. The speech of Pausanias distinguishes two manifestations of Aphrodite, represented by the two stories: Aphrodite Ourania ("heavenly" Aphrodite), and Aphrodite Pandemos ("Common" Aphrodite). Thus, according to Plato[6] Aphrodite is two goddesses, one older the other younger. The older, Urania, is the daughter of Uranus; the younger is named Pandemos, and is the daughter of Zeus and Dione. Pandemos is the common Aphrodite. The speech of Pausanias distinguishes two manifestations of Aphrodite, represented by the two stories: Aphrodite Ourania ("heavenly" Aphrodite), and Aphrodite Pandemos ("Common" Aphrodite). รูป The Birth of Venus, Sandro Botticelli, c.1485 http://www.johnmitchell.org/venus.htm จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 30 ต.ค. 50 09:12:30 ]

ความคิดเห็นที่ 71 สามีของVenusหรือAphroditeคือ VolcanหรือHephaistos เทพแห่งไฟ ช่างตีเหล็กสร้างอาวุธให้เทพต่างๆ ที่มาของคำvolcanoภูเขาไฟ บางตำนานว่าเป็นลูกของZeus and Hera มีรูปร่างอัปลักษณ์ ขาพิการ รูป Vulcan Presenting Venus with Arms for Aeneas http://www.artunframed.com/francois_boucher_3.htm จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 30 ต.ค. 50 09:51:40 ]

ความคิดเห็นที่ 72 หลายวันก่อนดูรายการทศกัณฐ์ ถามว่าVenus de Miloถืออะไร http://en.wikipedia.org/wiki/Venus_de_Milo แกะสลักจากหินอ่อนที่ดังที่สุดในโลก ขุดพบที่เกาะไมโลทะเลอีเจี้ยน1820 ถูกนำไปฝรั่งเศส ปัจจุบันอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ สูง203ซม. แขน2ข้างแตกหายไป มือขวาจับผ้าที่ลุ่ยลงต่ำกว่าเอว มือซ้ายยกถือลูกแอ๊ปเปิ้ลทองคำ ซึ่งเจ้าชายปารีสตัดสินยกให้ เรื่องนี้ใครเคยอ่านคงทราบว่า เป็นต้นเหตุสงครามเมืองทรอย จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 30 ต.ค. 50 10:34:09 ]

ความคิดเห็นที่ 73 รูปปั้นนี้ ที่โรงเรียนเก่าก็มี ขนาดย่อม ตอนเด็ก ๆ แอบสงสัยว่าคงเพราะมีใครมาแย่งนาง ต่างคนต่างฉุดกระชากกันไปจนแขนนางขาด อืม...ที่แท้ก็ถือ แอปเปิลทองคำ "for the fairest" นี่เอง จากคุณ : Madame Bovary - [ 30 ต.ค. 50 11:12:50 ]

ความคิดเห็นที่ 74 http://en.wikipedia.org/wiki/Aphrodite#The_Judgement_of_Paris งานแต่งงานของPeleus and Thetisซึ่งจะเป็นพ่อแม่ของAchillesกาลต่อมา เชิญเทวาแลเทวีมางาน แต่มิได้เชิญเทวีErisจึงต้องการมาป่วนงานแต่ง โยนผลแอ๊ปเปิ้ลทองคำให้เหล่าเทวีและว่า แด่ผู้สิริโฉมงดงามที่สุดto the fairest เหล่าเทวีแย่งชิงผลแอ๊ปเปิ้ลทองคำ ต่างมิยอมให้ผู้ใดงดงามเกินหน้า นำไปให้Zeusตัดสิน Zeusคิดว่าตัดสินคงพบเคราะห์มากกว่าโชค จึงโยนให้เจ้าชายปารีสตัดสิน เทวีHeraบอกจะให้แผ่นดินAsia Minor เทวีAthenaบอกจะให้ปัญญา ชื่อเสียง รุ่งโรจน์ในการทำสงคราม เทวีAphroditeกระซิบข้างหูเจ้าชายว่า ท่านจะได้หญิงงามที่สุดในโลกมาเคียงกาย ที่สุดเจ้าชายตัดสินให้แก่เทวีAphrodite เหล่าเทวีอื่นจึงไม่พอใจ บันดาลให้เจ้าชายได้เฮเลนซึ่งมีสามีแล้ว นำไปสู่สงครามเมืองทรอย เป็นศึกชิงนางคล้ายเรื่อง รามเกียรติ์ รูป The Judgement of Paris, Peter Paul Rubens Oil on Wood  144,8 × 193,7 cm  ca 1632/3 National Gallery, London http://www.mlahanas.de/Greeks/Mythology/JudgementOfParisPeterPaulRubens.html จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 30 ต.ค. 50 13:25:05 ]

ความคิดเห็นที่ 75 เหอะๆ อ่านจนงง จากคุณ : ก้นกบ - [ 30 ต.ค. 50 15:51:28 ]

ความคิดเห็นที่ 76 หนุกดีอ่ะ อ่านไปอ่านมา หลับไปสามตลบ จากคุณ : นะจ๊ะ (Pollux_Castor) - [ 30 ต.ค. 50 23:00:58 ]

ความคิดเห็นที่ 77 อาเรสนั้นชาวกรีกจะไม่ชอบค่ะ คือต้องเข้าใจบริบทของคนกรีกนิดนึงว่า ค่อนข้างจะเกลียดสงคราม แต่ถ้าเป็นมาส์เนี่ย ชาวโรมันจะยกย่องนับถือมากค่ะ ปกรณัมแต่ละเรื่องเราต้องดูด้วยว่าผู้เขียนเป็นใคร แต่งในยุคสมัยใด บริบทสังคมเป็นแบบใด ต่อเกร็ดเล็กของซูสค่ะ มันเป็นวัฏจักรของท่านมหาเทพอ่านะ จริงๆซูสเนี่ยก็ได้รับคำทำนายค่ะว่าจะถูกdethroneโดยบุตรของตนเหมือนกัน ซึ่งคนที่รู้ความลับนี้คือเทพไททัน คนที่แอบจิ๊กไฟมาให้มนุษย์ชาติเรานี่ล่ะค่ะซึ่งก็คือโพรมิธูส รายละเอียดปลีกย่อยข้ามไป ข้ามไปถึงตอนหลังที่โพรมิธูสยอมแง้มๆความจริงว่า บุตรของนางพรายเธทิสนั้น จะยิ่งใหญ่กว่าบิดาของตน จากที่ซูสเคยเล็งๆนางไว้ เลยไม่กล้าแหยมค่ะ เลยไปยกให้พีลูสแทน บุตรที่ออกมาเลยเป็นอคิลลิส และนี่ก็เป็นสาเหตุว่าทำไมซูสถึงต้องคอยช่วยและเข้าข้างเธทิสกับอคิลลิส เอ๊ะเริ่มงงว่านี่มันห้องอาราย เอิ๊กๆๆ   พอดีร้อนวิชา พึ่งปิดคอร์สไป จากคุณ : แหนมมัด - [ 31 ต.ค. 50 01:06:13 ]

ความคิดเห็นที่ 78 มาเพิ่มอีกเกร็ด การที่ฮาเดส หรือ พลูโตนั้น ต้องไปคุมโลกแห่งความตาย เพราะแกจับฉลากได้ค่ะ- -" จากคุณ : แหนมมัด - [ 31 ต.ค. 50 01:11:58 ]

ความคิดเห็นที่ 79 อ่านแล้วนึกถึงการ์ตูน ศึกตำหนักเทพเจ้า หรืออารายซักเรื่องเนี่ย สนุกมาก อยากอ่านอีก เอิ๊กกก จากคุณ : whatever it is - [ 31 ต.ค. 50 15:55:41 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ชอบ ชอบ จากคุณ : โอครับ - [ 31 ต.ค. 50 19:04:40 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ชอบกระทู้นี้จังครับ แจ่มมาก จากคุณ : Necessary - [ 31 ต.ค. 50 21:10:14 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ผมก็ชอบงับ จากคุณ : Ryuzaki-L(EROS) (จักรพรรดิแดนรักทหารErosPhoenix) - [ 1 พ.ย. 50 05:36:40 ]

ความคิดเห็นที่ 83 เทพ  โหวตเลย จากคุณ : Darksingha - [ 1 พ.ย. 50 12:32:59 ]

ความคิดเห็นที่ 84 มุกฆ่าเด็กตามคำทำนายนี่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณเลยเชียว แล้วเด็กที่ไม่ตายมักกลับมาเล่นงานไอ้คนฆ่า ตั้งแต่โครโนส, โมเสส, ทรพี, ยันฤทธิ์หมัดดาวเหนือ เหอๆ... จากคุณ : ชีริว - [ 1 พ.ย. 50 13:32:11 ]

ความคิดเห็นที่ 85 โหวตค่ะ อ่านเพลินเลย ชอบมากๆ เทพปกรนัมเนี่ย จากคุณ : แมวน้อยสีน้ำตาล - [ 1 พ.ย. 50 19:17:19 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ขอบคุณจขกท. มากคะ ที่มาทบทวนความรู้อีกครั้ง เรื่องตำนานเทพกรีกนี่อ่านมาตั้งแต่เด็กเลย ชอบมากๆๆๆ เพิ่มเติม จูโน หรือ เฮร่า สุดท้ายก็แต่งกับ น้องชายของตัวเอง หรือ ซูส หรือ ซีอุส แล้วกลายเป็น มหาเทวีแห่งสวรรค์ไปนะคะ... แต่เนื่องจากซีอุสนั้น สุดแสนจะเจ้าชู้ เฮร่า จึงมีคาแรคเตอร์ประมาณว่าตามหึงไปเรื่อยเปื่อย แต่ก็นะ.... เรียกได้ว่าเหมือนชาวกรีกจะมีการเชื่อว่า "ไปว่าจะไปหยุดอยู่ที่ท่าเรือใด จะต้องมีภรรยาที่นั่น" ซึ่งเป็นความเชื่อเหมือนกับเทพซีอุส ไปที่ไหน มีลูกที่นั่น ลูกซีอุสหลักๆ ก็คือ อะเธน่า (เทพีแห่งปัญญา) อรีส (เทพีแห่งการต่อสู้) อพอลโล อะโปรอน (เทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์) อาร์ทีมิส (เทพีแห่งจันทรา) รักที่สุดก็คนนี้แหละะะะะ..... เฮอร์เมส (เทพสื่อสาร) อาเรส  (เทพแห่งสงคราม) เพอร์ซีโฟร์เน่  บุตรที่เกิดกับ ดีมิเตอร์ เทพีแห่งพสุธา กับซีอุส ตอนหลังไปเป็นมเหสีของเฮเดส ..... และอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน พระเจ้าจอร์จจจจจ ที่แน่ๆ ซีอุส  ฮาเดส และ โปไซดอน ไม่ถูกกันอย่างแน่นอนคะ พี่คนโตอย่างฮาเดส จะค่อนข้างนิ่ง แข็งแกร่ง คาแรคเตอร์คุมนรกกระมังคะ โปไซดอน น้องคนรอง จะค่อนข้าง เจ้าอารมณ์ในบางครั้ง ก่อให้เกิดคลื่นยักษ์น้ำท่วม ซีอุส น้องเล็ก ค่อนข้างเอาแต่ใจ (หรือเปล่า) เบาะแว้งกันบ่อยสุดๆ โดยเฉพาะ โปไซดอนกับซีอุส.... ไว้มาเล่าให้ฟังอีกนะคะ คุณ จขกท... จากคุณ : สิงห์ใต้เงาจันทร์ (ise...) - [ 2 พ.ย. 50 02:09:32 ]

ความคิดเห็นที่ 87 มาเรามาดูตอนที่โครนัสจะกลืนซุส แล้วถูกเปลี่ยนตัวเป็นก้อนหินกัน ดูตั้งแต่นาทีที่ 3.45 เป็นต้นไปนะ แรก ๆ มันมั่ว จากคุณ : อิฐมอญ - [ 2 พ.ย. 50 12:37:19 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ^^^ไปที่ไหน มีลูกที่นั่น เรียก1ตำบล1ผลิตภัณฑ์ จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 2 พ.ย. 50 12:37:20 ]

ความคิดเห็นที่ 89 สนุกครับ ชอบเหมือนกัน  ตะก่อนก็ชอบเล่นเกม Zeus-Master of olympus จากคุณ : EvaNe - [ 2 พ.ย. 50 16:52:56 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ไม่มีตำนาน Sun กับ Moon หรอครับ ^^ เคยสนใจสมัยเล่นเกมส์ ตอนนี้ลืมๆไปหมดแล้ว >< จากคุณ : Meta-Anima - [ 2 พ.ย. 50 20:21:40 ]

ความคิดเห็นที่ 91 มีตำนานของmoon divingอ่ะค่ะ เป็นที่รู้กันว่า เทพปกรนัมส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่ออธิบายปรากฎการร์ทางธรรมชาติ หรือเหตุการณ์ต่างๆที่เคยเกิดในอดีต เช่น ฤดูกาลของโลก ก็เปลี่ยนไปเพราะเรื่องของดีมีเทอร์ เพอเซโฟเน และฮาเดส การที่ดวงจันทร์หายไปจากท้องฟ้าก็ถูกอธิบายไว้ในเรื่องของเอนดิเมียนค่ะ สนใจจะฟังไหมอะคะ? จากคุณ : แหนมมัด - [ 3 พ.ย. 50 02:49:01 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ทำไมแต่ละภาพ ต้องทำแบบว่า เกือบหลุด ใส่ให้มันดีๆ ก็ไม่ได้ หรือไม่ใส่มันซะเลย จากคุณ : WhiteWolf - [ 3 พ.ย. 50 03:46:39 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ขอบคุณครับ อ่านแล้วสนุก + มึน ๆ นิดหน่อย แต่ฮาดีครับ กินลูกตัวเองได้ด้วยวุ้ย จากคุณ : เงินเดือนสามพันขับวอลโว่ - [ 3 พ.ย. 50 09:30:12 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ชอบมาก ๆ เลย ขอบคุณนะคะ สำหรับความรู้ที่ดีและสนุกมาก ๆ อย่างนี้ จากคุณ : believe - [ 3 พ.ย. 50 19:35:12 ]

ความคิดเห็นที่ 95 การที่ดวงจันทร์หายไปจากท้องฟ้าก็ถูกอธิบายไว้ในเรื่องของเอนดิเมียน ^ ^ ^ ชื่อ ของหน้ากาก ทักซิโด้ ในเซเลอร์มูน เหมือนเคยอ่านเหมือนกันค่ะ เเต่จำไม่ได้เเล้วว เหมือน มีใครถูกสาบให้หลับรึป่าวนะ ?? จากคุณ : Blue Clover - [ 4 พ.ย. 50 00:55:22 ]

ความคิดเห็นที่ 96 เอนดิเมียนค่ะที่ต้องหลับชั่วนิรันดร์ ดวงจันทร์จึงได้ดำดิ่งมาหาเอนดิเมียนทุกวัน จากคุณ : แหนมมัด - [ 4 พ.ย. 50 01:34:00 ]

ความคิดเห็นที่ 97 จขกท. น่ารักจังค่ะ ขอบคุณมากนะค่ะ สำหรับข้อมูลดี ๆ สนุก ๆ แบบนี้ จากคุณ : tawtar (tawkanchana) - [ 4 พ.ย. 50 04:48:54 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ขอบคุณครับ จากคุณ : jAMMes - [ 4 พ.ย. 50 21:13:18 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ขอบคุณครับ... จากคุณ : chapicha - [ 4 พ.ย. 50 23:52:14 ]

ความคิดเห็นที่ 100 ดี ดี โหวด ขอบคุณมากครับ จากคุณ : Mr.Golden (Mr.Golden) - [ 5 พ.ย. 50 15:39:45 ]

ความคิดเห็นที่ 101 ชอบครับ ๆ จากคุณ : kaazanova - [ 6 พ.ย. 50 21:28:33 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ขอบคุณคะ จากคุณ : Faux pas - [ 7 พ.ย. 50 15:45:18 ]