ความคิดเห็นที่ 1 ผมคิดได้ 10 ครับ....... แตกแรงก่อน แล้วจะเห็นว่ามี T ของเชือกสองเส้น บลาๆๆๆๆ จากคุณ : Mikegelo - [ 31 ต.ค. 50 18:59:57 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ดูเหมือนจะได้ 5 อ่ะค่ะ แหะ แต่ไม่ได้เรียนฟิสิกส์มาสองปีแล้ว ^^" คิดแบบ ... สมดุลย์แรงขึ้นกะแรงลงเท่ากัน ... จับใส่ sin60 คูณ 10 นิวตันเฉยๆไปซะแล้ว ="= (คิดน้อยๆ อิอิ) ไม่แน่ใจว่าถูกรึเปล่า ^^"a จากคุณ : alz - [ 31 ต.ค. 50 19:00:48 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เดาทีแรกครับ 20 คิดดูอีกที เดาใหม่ ขอตอบ 15 ครับ แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 50 19:10:17 จากคุณ : ช า ติ - [ 31 ต.ค. 50 19:01:41 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ผมว่า ตอบ 5*2=10 N นะ จาก แตกแรงเข้าแกน(มุม)เป็น cos แตกออกจากมุมเป็น sin จะได้ 10sin30 = 5 N sin30=1/2 แต่รอกผ่อนแรงไปครึ่งหนึ่ง - -* ข้อนี้ลืมคิด 555+ ก็เลยเอา2คูณกับ5 ผมคิดถูกป่ะ รอท่านต่อไปนะครับ แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 50 19:51:07 แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 50 19:09:12 จากคุณ : เด็กหลังเขาอ่ะครับ (deklunkkao) - [ 31 ต.ค. 50 19:06:56 ]

ความคิดเห็นที่ 5 10 ครับ แตกแรงได้5 ลอกทุ่นแรงได้ มีเชือก2ฝั่งตามรูป จากคุณ : Ukgrit - [ 31 ต.ค. 50 19:29:07 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เห็นไหมครับ สามคนตอบสามอย่างจริงๆ   ท่านที่คิดว่า "ต้องแตกแรง" ขอทราบเหตุผลที่ต้องแตกแรงครับ ก่อนตอบ กรุณาดูว่า เชือกนั้น มันคล้องรอกไปอีกด้านหนึ่งด้วย ผมเห็นว่า หลักการคิดแรงตึงเชือกคือ ต้องคิดว่าเชือกนั้นมีแรงตึงเท่ากันทั้งเส้น เมื่อเป็นดังนี้แล้ว ไม่น่าจะเป็นไปได้ ที่ มวล m จะน้อยกว่า 10 นิวตัน ................................................................................................ เอาหละ ถ้าเราไม่คิด แบบการแตกแรง เราจะคิดจากกฎของการอนุรักษ์พลังงาน  ได้ไหม? เช่นให้แรง 10 นิวตั้นนั้น เดินหน้าไป 2 เมตร แล้วรอกจะเคลื่อนที่ขึ้นไปเท่าใด   พอได้แล้วน่าจะหาคำตอบได้ไม่ยาก   ลองหาทางอื่นที่ไม่มีการแตกแรงดูครับ  น่าจะได้คำตอบอื่นที่แตกต่าง  จาก  5 นิวตัน หรือ 10 นิวตันได้ จากคุณ : น้าพร - [ 31 ต.ค. 50 19:31:07 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ผมคิดได้ 10 ครับ จากคุณ : ยังง่วงอยู่ - [ 31 ต.ค. 50 19:31:20 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ตอบ 10 N ครับ เพราะโจทย์บอกว่าเป็นรอกเดี่ยวเคลื่อนที่ รอกแบบนี้ผ่อนแรงครึ่งหนึ่งของ นน. วัตถุ แรงดึง = แรงวัตถุที่ถ่วง/2 พอได้แรงดึงเท่ากับ 5 N ก็คูณ2 จากการย้ายข้าง จากคุณ : palermos - [ 31 ต.ค. 50 19:31:20 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ลองดูเรื่องระบบรอกนะครับ http://www.thaigoodview.com/library/sss/studentshow/st2545/4-5/no17-18/d172rok.html จากคุณ : palermos - [ 31 ต.ค. 50 19:35:38 ]

ความคิดเห็นที่ 10 15 N จากคุณ : blindseer - [ 31 ต.ค. 50 19:48:11 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ก็เชือกด้านซ้าย มันเส้นเดียวกับด้านขวา ดังนั้น เชือกด้านซ้ายมีแรงดึงในแนวดิ่ง 10 นิวตัน ส่วนเชือกด้านขวามีแรงดึงในแนวดิ่ง = 10 sin30 = 5 นิวตัน รวมกันเป็น 15 นิวตัน  (มั้งนะครับ) จากคุณ : blindseer - [ 31 ต.ค. 50 19:50:32 ]

ความคิดเห็นที่ 12 *ข้อนี้ตอบ d. 20  ครับ ไม่ต้องแตกแรงน่ะครับตามโจทย์ให้องศาดักมาเฉยๆ w=2F w=2(10) w=20 จากคุณ : Din_E - [ 31 ต.ค. 50 19:53:55 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ที่จริงผมก็ลืมนึกถึงเรื่องรอกไปเลย แต่คิดไปคิดมาก็ยืนยัน ตอบ 10 ครับ เพราะรอกถูกบังคับให้เคลื่อนที่ในแนวดิ่งเท่านั้น แต่ถ้าไม่มีรางบังคับ คือรอกอิสระจะตอบ 20 ครับ จากคุณ : ยังง่วงอยู่ - [ 31 ต.ค. 50 20:01:35 ]

ความคิดเห็นที่ 14 15ครับฟันธง.. เชือกมีแรงเท่ากัน.. ดังนั้นแรงรวมที่มีทิศขึ้นคือ 10+10sin30 จากคุณ : pisity - [ 31 ต.ค. 50 20:02:57 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ท่านที่เห็นว่า ต้อง "แตกแรง" กรุณาดูรูปนี้นิดหนึ่งครับ ดูว่า รูปนี้ต้องแตกแรงหรือไม่ จากคุณ : น้าพร - [ 31 ต.ค. 50 20:14:52 ]

ความคิดเห็นที่ 16 # 15 นะครับ รอก ทุกตัว ไม่มีความฝืด มีมวลน้อยมาก รอก B เป็นรอกเดี่ยวเคลื่อนที่ โต๊ะที่มวล 1 Kg วางอยู่ไม่มีความฝืด  แล้วมวล m ทางซ้ายหนักกี่นิวตันครับ จากคุณ : น้าพร - [ 31 ต.ค. 50 20:17:30 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ตอบ 10 แรงดึงเชือกเฉียงๆ แตกออกได้ 2 แกน แตก y ได้ 5  แตก x ได้ 5รูท3 ถามเรื่องมวล นําหนักมันจะมีแต่แกน y เท่านั้น จึงต้องคิดเฉพาะแกน y ไม่ต้องสนใจแกน x เพราะไม่เกี่ยวกับมวล สมดุลกล แรงขึ้น = แรงลง จากคุณ : dakong - [ 31 ต.ค. 50 20:19:51 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ลองคิดวิธีอื่นได้ป่าวครับ  เช่น อิง กฏอนุรักษ์พลังงานครับ เพื่อเป็นการยืนยันคำตอบ โดยไม่เอาค่า sin cos tan มาเกี่ยวข้อง พอจะทำได้ป่าวครับ จากคุณ : น้าพร - [ 31 ต.ค. 50 20:20:11 ]

ความคิดเห็นที่ 19 #15 200เปล่าหว่า จากคุณ : blindseer - [ 31 ต.ค. 50 20:20:23 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เอ้า ..มาครั้งที่ 3 แล้ว สงสัยจะตอบ 20 แฮะ เพราะ จะใส่รางหรือไม่ใส่ รอกมันก็เคลื่อนที่ในแนวดิ่งอยู่ดี สงสัยจะ 20 จริง ๆ... ยิ่งคิดยิ่งลังเลแฮะ...แต่ผมว่า ไม่ 10 ก็  20 ครับ แน่นอน 5 กับ 15 ไม่น่าเป็นไปได้ จากคุณ : ยังง่วงอยู่ - [ 31 ต.ค. 50 20:22:30 ]

ความคิดเห็นที่ 21 คิดเหมือน 14 จากคุณ : UnExpected - [ 31 ต.ค. 50 20:24:45 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ข้อหนึ่งตอบ 15 ข้อสอง 15 ตอบ 200 ครับ แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 50 20:32:31 จากคุณ : JohnnieWalker - [ 31 ต.ค. 50 20:31:43 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ถ้ามุมเป็น 90 องศา กับ 0 องศา แล้วยกได้เท่ากันจึงจะตอบ 20 แต่ถ้าไม่เท่ากันก็ไม่ใช่ 20 แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 50 20:33:25 จากคุณ : freefeel - [ 31 ต.ค. 50 20:33:09 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ของ จขกท ตอบ 15 ส่วน ของ ข้อ 15 ตอบ 200 แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 50 20:39:42 จากคุณ : blindseer - [ 31 ต.ค. 50 20:35:11 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ปัญหานี้ไม่ได้ยุ่งยากขนาดต้องใช้สมการพลังงาน เขียน Free body Diagram ให้ถูก นิยามแรงดึงในเส้นเชือกเท่ากันเสมอ ก็ได้คำตอบแล้ว แต่มัน ม.ต้น จริงเรอะนี่ น้าพร ลองเขียน ฟรี บอดี้ ไดอะแกรม ดูสิครับ จากคุณ : Professor - [ 31 ต.ค. 50 20:44:45 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ที่แนะนำให้ใช้ สมการพลังงาน ก็เพื่อเป็นการ พิสูจน์ว่าแนวคิดที่ว่ามาถูกต้องหรือไม่ ถ้าถูกต้อง คำตอบจะได้เท่ากัน แล้วคุณ Professor คิดได้เท่าไหร่ครับ รูปใน #  15 นั้น ก็มีมุม 30 องศาเช่นกัน ทำไมเราไม่แตกแรงครับ ?  ในเมื่อเราจับมันตั้งขึ้น  ในแนวดิ่ง มันก็แทบจะเหมือนข้อ ในคำถาม ในกระทู้ทีเดียวเชียว แล้วแนวความคิดของ แรงตึงในเส้นเชือกต้องเท่ากันตลอดทั้งเส้นล่ะครับ ทำไมเราไม่นำมาคิดในข้อ กระทู้ครับ จากคุณ : น้าพร - [ 31 ต.ค. 50 20:57:22 ]

ความคิดเห็นที่ 27 .. แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 50 21:12:56 จากคุณ : blindseer - [ 31 ต.ค. 50 21:09:33 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ผมขอตอบว่า 15 N ครับ เพราะเป็นความคิดแวบแรกก่อนอ่านความเห็นอื่นๆ ผิดถูกไม่รู้แต่ผมเชื่อในสัญชาตญาณแรก จากคุณ : Autster - [ 31 ต.ค. 50 21:13:41 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ตามที่ผมคิดนะครับ ข้อแรก มันจะต้องมีแรง N ซึ่งเป็นแรงที่รางกระทําต่อรอกด้วยครับ นั้นทําให้มุม 30 องศามีความหมายขึ้นมาทันทีคับ และฝั่งซ้ายแรงขึ้น T ตามปกติคับ Zigma Fy = 0 10cos30 + 10 = W W = 15 N. จากคุณ : panuruj - [ 31 ต.ค. 50 21:27:06 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ลองดูวิธีที่ผมคิดนะครับ แรกทีเดียว ครั้งที่ทำโจทย์ ข้อนี้เมื่อ ปลายเดือน กค. ผมตอบ 10 นิวตัน มาวันนี้คิดใหม่ เออ เจอว่า ผมลืมเรื่องแรงตึงในเส้นเชือกไปคือแรง 10 นิวตัน พอมีแรงดึงทางซ้าย 10 นิวตัน แรงตึงในเส้นเชือกอีกด้านจะเป็น 10 นิวตันไปด้วย สองแรงนี้ ต่างพยุงมวล m ให้เคลื่อนที่ขึ้น  ทำให้มวล m มีแรงมาดึง  20 นิวตัน มาดูที่ตัวรอกครับ ถ้าเราดูใด้ดี จะเห็นว่าเชือกนั้นไม่ว่าจะโยงด้วยมุม 10 20 30 45 50 80 90 องศา ต่างร้อย รอกจากบนอ้อมลงล่าง เสมอ  และทำให้เชือกอีกด้านหนึ่ง มีแรงตึง 10 นิวตันไปด้วย สองแรงขึ้นมี 20 ดังนั้น แรงลงก็  20 ครับ มาดูวิธีคิดแบบ พลังงาน หรืองานกัน ผมลองเอา แรง10 นิวตัน คูณระยะทาง  2 เมตร ได้งาน  20 นิวตันเมตร มาดูว่าระยะที่เชือกถูกดึงไป 2 เมตร จะทำให้ เชือกด้านซ้ายสั้นลง 2 เมตรไปด้วย พอเชือกตัวบน สั้นลง 2 เมตร จะทำให้มวล m เคลื่อนที่ขึ้น  1 เมตร ตามกฎของรอกเดี่ยวเคลื่อนที่ วิธีนี้ เราจะได้ m x 1 = 10 x 2 ได้                    m =  20 นิวตันครับ   ไม่ทราบว่ามีใคร ได้คิดในแนวของ งานหรือพลังงานบ้างครับ หรือพอจะให้เหตุผลได้ไหมว่า ทำไม การคิดแบบใช้งานนี้ จึงได้ 20 นิวตัน ไม่ได้  10 หรือ 15 นิวตันครับ จากคุณ : น้าพร - [ 31 ต.ค. 50 21:31:18 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ถ้าได้ข้อสรุปแล้วช่วยฟันธงหน่อยนะ เดี๋ยววันหลังจะเข้ามาดู ขอหลับก่อน มึน -_- จากคุณ : ปอ.140 - [ 31 ต.ค. 50 21:39:13 A:125.24.66.82 X: TicketID:115671 ]

ความคิดเห็นที่ 32 น่าจะ 15 ครับ รอกเดี่ยวเคลื่อนที่ยังไงก็ผ่อนแรงได้มากกว่า 10 แต่แรงออกไปทางขวามากกว่าทางดิ่ง แรงจึงถูกลดลงมา ไม่ได้เต็ม 20 จากคุณ : kzytui - [ 31 ต.ค. 50 21:41:16 ]

ความคิดเห็นที่ 33 รอกแบบนี้จะผ่อนแรง ไปครึ่งหนึ่ง แรงตึงในเชือกทั้งสองด้าน = 10 N ดังนั้น ก้อนน้ำหนัก จึงเท่ากับ 2 x 10 = 20N จากคุณ : ekkie - [ 31 ต.ค. 50 21:42:28 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ครั้งที่ 4 สำหรับผม และมั่นใจว่าเป็นคำตอบสุดท้าย ถ้าไม่มีรางบังคับจะตอบ 20 ครับ แล้วเชือกจะไม่สามารถเอียง 30 องศา ข้างเดียวได้ด้วยในความเป็นจริงถ้าไม่มีรางบังคับ แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 50 22:00:17 จากคุณ : ยังง่วงอยู่ - [ 31 ต.ค. 50 21:54:57 ]

ความคิดเห็นที่ 35 คห#30 "มาดูวิธีคิดแบบ พลังงาน หรืองานกัน ผมลองเอา แรง10 นิวตัน คูณระยะทาง  2 เมตร ได้งาน  20 นิวตันเมตร มาดูว่าระยะที่เชือกถูกดึงไป 2 เมตร จะทำให้ เชือกด้านซ้ายสั้นลง 2 เมตรไปด้วย พอเชือกตัวบน สั้นลง 2 เมตร จะทำให้มวล m เคลื่อนที่ขึ้น  1 เมตร ตามกฎของรอกเดี่ยวเคลื่อนที่ วิธีนี้ เราจะได้ m x 1 = 10 x 2 ได้                    m =  20 นิวตันครับ  " ผมว่าไม่ใช่นะครับ ประการแรก ถ้าเชือกถูกดึงไป 2 เมตร มวล m น่าจะเคลื่อนขึ้นไป 2 เมตรด้วย ประการที่ 2 ฝั่งที่เป็นแรง ควรจะเป็นแรงที่มาจากเชือกทั้ง 2 เส้น นั่น คือ ระยะทางเท่ากัน แรงและน้ำหนัก ก็ต้องเท่ากันด้วย คห#15 รอก C เป็นรอกตายตัว จึงไม่ต้องแตกแรงครับ จากคุณ : ช า ติ - [ 31 ต.ค. 50 22:03:06 ]

ความคิดเห็นที่ 36 อย่าลืมตั้งข้อกำหนดให้โจทย์ครับ 1. รอกเบา  ไม่มีแรงเสียดทาน 2. เชือกเบา  แรงตึงเท่ากันทั้งเส้น 3. ไม่คิดแรงเสียดทางระหว่างแกนรอกกับราง 4. รอกเคลื่อนที่ขึ้นด้วยความเร็วคงที่ (เพื่อให้ F=0) ถ้าตามเงื่อนไขนี้ก็ฟันธงครับว่า 20 N  องศามีไว้ดักครับ เหตุผล -- ถ้าแตกแรง  คุณจะไม่สามารถเขียนเวกเตอร์ของแรงให้เป็นรูปสามเหลี่ยมปิดได้เลย จะทำมุมเท่าไหร่ไม่มีผลครับ  เพราะมุมเชือกในรูปแค่เปลี่ยนทิศทาง  ไม่มีผลต่อการผ่อนแรง จากคุณ : ROBOTMAN (ROBOTMAN10GHz) - [ 31 ต.ค. 50 22:03:07 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ไม่ 10 ก็ 20 อะ - -" ผมก็ไม่ัมั้นใจเท่าไร แบบว่าเลิกใช้นานแ้ล้ว ถ้าคิดแตกแรงมันจะได้ 5 ซึ่ง *2 กับรอกที่ผ่อนแรงจะได้ 10 แต่ถ้าคิดอีกแบบคิดไม่ต้องแตกแรง เนื่องจากเป็นรอก ก็เอา 10 ไปคิดเลย ก็ *2 เข้าไป ก็จะได้ 20 อะคับ จากคุณ : Jet_XP - [ 31 ต.ค. 50 22:43:25 ]

ความคิดเห็นที่ 38 .. 20 ถูกแล้วครับ คิดง่ายๆ ด้วยการต่อเชือกด้านที่ดึง ไปห้อยไว้ที่เพดาน โดยใช้หมุดยึด และหมุดนั้นสามารถรับแรงในแนวเฉียง 30 องศา 10 N ถึงมันจะอยู่ในมุมเฉียง ตรงหมุดนั้นก็รับแรงได้ 10 N ถ้าเกินกว่านั้น หมุนยึดก็จะหลุดออกมา นั่นก็คือ แรงดึงในเส้นเชือกก็คือ 10 N  โดยไม่สำคัญว่ามุมจะเป็นเท่าไหร่ เชือกอีกด้านก็มีแรง 10 N.   รวมแล้วก็เป็น 20N .. จากคุณ : ไม่เป็นดั่งใจ - [ 31 ต.ค. 50 22:48:53 ]

ความคิดเห็นที่ 39 .. อีกภาพหนึ่ง ภาพ A มีแรงดึง 10N ถามว่า วัตถุหนัก 1N จะไหลลงได้ไหม ตอบว่า ไม่ไหล เพราะมีแรง 10N ดึงไว้ ทั้งๆ ที่ถ้าแตกแรง แนวดิ่งมีแรงกระทำแค่ 0 ทำไมวัตถุไม่ไหลลงล่ะครับ เพราะกรณีแบบนี้ไม่ต้องใช้การแตกแรง ที่ต้องแตกแรงจะเหมือนกับรูปในความเห็นที่ 38  โดยไปแตกแรงตรงหมุดยึด เพื่อจะได้รู้ว่า เพดานรับแรงกระทำแนวดิ่งเป็นเท่าไหร่ และรับแรงแนวนอนเท่าไหร่ .. จากคุณ : ไม่เป็นดั่งใจ - [ 31 ต.ค. 50 22:59:11 ]

ความคิดเห็นที่ 40 หึหึ เห็นโจทย์แล้ว ยังงงว่า sin30 มันเท่ากับเท่าไหร่หว่า จากคุณ : รบมิพัก รักมิยั้ง - [ 31 ต.ค. 50 23:03:46 ]

ความคิดเห็นที่ 41 โจทย์กำหนดให้ไม่คิดแรงเสียดทานระหว่างแกนรอกกับรางเฉพาะในแนวเดียวกับรางเท่านั้นนะครับ แต่ในแนวตั้งฉากกับรางแกนรอกจะถูกผิวรางต้านไว้ให้เกิดสมดุลย์ของแรง ไม่งั้นมุมของเชือกทั้งสองด้านต้องเท่ากัน จะเอียงแค่ด้านเดียวไม่ได้ถ้าไม่มีรางบังคับการเคลื่อนที่ของรอก จากคุณ : freefeel - [ 31 ต.ค. 50 23:04:03 ]

ความคิดเห็นที่ 42 # 35 คุณชาติครับ ถ้าเป็นรอกเดี่ยวเคลื่อนที่ ถ้าเราดึงเชือกด้านหนึ่งไป 2 เมตร ตัวรอกจะขึ้นไป ครึ่งหนึ่งของสองเมตร เป็นอย่างนี้เสมอ ของรอกเดี่ยวเคลื่อนที่ครับ ทำให้ผมได้ที่มาของวิธีคิดครับ จากคุณ : น้าพร - [ 31 ต.ค. 50 23:04:40 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ข้อนี้ผมก็ถกกับลูกชายอยู่ครับ  เขาบอกว่าน่าจะแตกแรง ผมเห็นว่าไม่ต้องแตกครับ นี่เขาเกือบลง กทม. ไม่ได้ เพราะ รถไฟถูกเจาะล้อ เดินรถไม่ได้ ต้องรีบเปลี่ยนตั๋ว เป็นรถทัวร์ ถูกเงินไปอีก เกือบๆ สองร้อยครับ แต่ต้องนั่งแท๊กซี่แพง เพื่อไปเรียน แถวๆ  สุวรรณภูมิ จากคุณ : น้าพร - [ 31 ต.ค. 50 23:09:02 ]

ความคิดเห็นที่ 44 #39 ภาพ A ทั้งๆ ที่ถ้าแตกแรง แนวดิ่งมีแรงกระทำแค่ 0 ทำไมวัตถุไม่ไหลลงล่ะครับ เพราะไม่ได้มีแรง 0 ครับ Free Body ของมวล m มีแรงดึงในเส้นเชือกแนวดิ่ง 10 N เท่ากับน้ำหนักของมวล Free Body ของรอก มีแรงดึงในเส้นเชือกแนวดิ่งที่ใช้แขวนรอก และแรงดึงของเชือก 10 N ในแนวดิ่งที่เกิดจากน้ำหนักมวล ส่วนในแนวราบก็มีแรงดึงของเชือก 10 N ในแนวราบ ซึ่งต้องถูกต้านโดยแรงปฏิกิริยาที่แกนรอก จากคุณ : freefeel - [ 31 ต.ค. 50 23:13:09 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ลองดูนี่ซิครับ ถ้า องศาไม่มีความสำคัญต่อน้ำหนัก M ไม่ว่าองศาใดๆ เชือกจะขาดที่ มวลเท่ากันเสมอ เหมือนกับ แรง 10 N คือ ขีดจำกัดของเชือก แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 50 23:20:41 จากคุณ : ยังง่วงอยู่ - [ 31 ต.ค. 50 23:17:20 ]

ความคิดเห็นที่ 46 .. ความเห็นที่ 45   ถ้าเชือกยาวเท่ากัน เชือกจะขาดที่น้ำหนักเท่ากันเสมอครับ .. จากคุณ : ไม่เป็นดั่งใจ - [ 31 ต.ค. 50 23:28:56 ]

ความคิดเห็นที่ 47 # 45  เป็น model ที่ต่างจาก โจทย์ครับ ผมเห็นว่า ไม่สามารถใช้แนวคิดจาก model นี้มาอธิบาย รูปในโจทย์ได้ครับ ( ปล. ความเห็นของผมเอง ..... อาจผิดก็ได้) แต่เชื่อว่า น่าจะถูก  55555 !! ไม่ได้ตะแบงครับ แต่เห็นว่า ถ้ายึดหลักแรงตึงเชือกที่ผ่านรอก น่าจะทำให้ได้คำตอบโดยง่าย ลองคิดใหม่นะครับ คือ เอาแรง 10 นิวตัน มาดึง ให้อยู่ในแนวดิ่ง คือ ขนาดกับเส้นทางซ้ายมือ แล้วนิ่งไว้   อย่างนี้ทุกคน สามารถตอบได้โดยง่ายว่า มันคือ 10 + 10 = 20 ทีนี้ ถ้าเราลองค่อยๆ เลื่อนปลายเชือกทางขวามือลงมาประมาณ 10 องศาจากแนวดิ่ง ก็จะมีคำถามต่อมาว่า เราต้อง เพิ่มแรง ดึงเชือกเส้นขวามือหรือไม่ หรือว่าไม่ต้องเพิ่ม หลังจากนั้น ก็ค่อยๆ เลื่อนลงมาให้ได้  60 องศากับแนวดิ่ง ทำให้ได้  30 องศากับแนวระดับพอดี   ถามว่าวิธีนี้เราต้องเพิ่ม แรงขึ้นไปเรื่อยๆ ทุกวินาทีที่เลื่อนเชือกลงมาหรือไม่ หรือว่า ไม่ต้องเลื่อน จากคุณ : น้าพร - [ 31 ต.ค. 50 23:32:05 ]

ความคิดเห็นที่ 48 .. ความเห็นที่ 44 ผมไม่เข้าใจคำตอบในใจของคุณครับ คิดว่าน่าจะเห็นไปในทางเดียวกันกับผม คือ 20N (หรือเปล่า) เพราะถ้าไม่ใช่แบบเดียวกัน แสดงว่าในรูปตามความเห็นที่ 39 คุณอาจเข้าใจผิด แล้วลองมาแลกเปลี่ยนกันต่อนะครับ .. จากคุณ : ไม่เป็นดั่งใจ - [ 31 ต.ค. 50 23:32:45 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ถ้าจะใช้กฏอนุรักษ์พลังงาน ก็ต้องคิดถึงผลของรอกที่ไม่สามารถเคลื่อนที่อย่างอิสระจากแรงที่ดึงรอก เพราะว่ามีแรงต้านในแนวราบของรางกับแกนรอกอยู่ด้วย จากคุณ : freefeel - [ 31 ต.ค. 50 23:33:50 ]

ความคิดเห็นที่ 50 .. ความเห็นที่ 49 แม้ว่าโจทย์ข้อนี้ไม่มีราง หากดึงเชือกให้ยาวออกไป 2 เมตร วัตถุก็จะเคลื่อนขึ้นในแนวดิ่งเป็นระยะทาง 1 เมตร เสมอครับ แต่อาจเป็นแนวดิ่งที่ ขยับไปด้านขวา แต่ระยะทางแนวดิ่ง ก็ยังได้ระยะ 1 เมตร ในทุกมิติครับ .. แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 50 23:40:23 จากคุณ : ไม่เป็นดั่งใจ - [ 31 ต.ค. 50 23:39:25 ]

ความคิดเห็นที่ 51 กรณีของ #39 แรงดึงเท่ากันเสมอไม่ว่าปลายเชือกด้านขวาจะอยู่ในแนวใดก็เพราะว่ารอกไม่ได้เคลื่อนที่ ซึ่งแตกต่างจากโจทย์ของน้าพร ที่บอกว่าภาพ A แตกแรงแนวดิ่งมีแรงกระทำแค่ 0 แต่วัตถุไม่ไหลลงนั้นไม่ถูกต้องเพราะว่าจริงๆแล้วมีแรงดึงในเส้นเชือกที่แขวนรอก และถ้ารอกไม่ได้ถูกตรึงไว้เพื่อไม่ให้เคลื่อนที่ในแนวราบ (ตามโจย์ใช้รางตรึงไว้) จะไม่มีทางเกิดสมมดุลย์ได้ตามรูปนั้น แต่จะสมดุลย์เมื่อเชือกที่ใช้แขวนรอกทำมุม 45 องศา แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 50 23:52:11 จากคุณ : freefeel - [ 31 ต.ค. 50 23:43:22 ]

ความคิดเห็นที่ 52 .. ในโจทย์ข้อ 39  ผมสมมุติว่ามีแรงดึงแนวราบ 10N แต่น้ำหนักวัตถุมีเพียง 1 N ถามว่าแรงตึงในเส้นเชือกมีค่าเท่าไหร่ 1 N หรือ 10 N .. จากคุณ : ไม่เป็นดั่งใจ - [ 31 ต.ค. 50 23:45:57 ]

ความคิดเห็นที่ 53 กระผมช่วยเข้ามายืนยันครับว่าตอบ 15 ผมยืนยัน นั่งยัน นอนยันครับว่ายังไงก็ต้องแตกแรงข้อนี้ เพราะทิศทางการดึงมีผลต่อแรงที่ช่วยพยุงมวล สมมติผมมีโจทย์แบบเดียวกัน แต่ข้อนึงมุม0องศา อีกข้อมุม30 อีกข้อมุม 90 ถ้าเกิดว่าโจทย์ทั้ง3ข้อสามารถรับน้ำหนักมวลได้เท่ากันก็ต้องตอบ 20 ซึ่งหมายถึงดึงในแนวดิ่ง(90) แต่ตามจริงไม่ใช่ครับ ถ้าผมดึงโดยใช้มุม0 จะรับน้ำหนักมวลได้แค่10N แต่ถ้าดึงด้วยมุม90จะรับน้ำหนักมวลได้20N ดังนั้นสรุปว่ามุมมีผลด้วยครับ จึงต้องแตกแรง แตกแล้วได้แรงดึงขึ้น5 บวกกับแรงตึงเชือกด้านซ้าย10 เป็น 15N ถามว่าแล้วแรง 10cos30 ไปไหน มันก็ไปสมดุลกับแรงNของรางที่กระทำต่อรอกไงครับ จากคุณ : o (Omkoy) - [ 31 ต.ค. 50 23:59:52 ]

ความคิดเห็นที่ 54 .. ถ้าอย่างในภาพนี้ ถามว่า ภาพกลาง กับ ภาพด้านขวา  วัตถุจะไหลลงหรือไม่ .. จากคุณ : ไม่เป็นดั่งใจ - [ 1 พ.ย. 50 00:01:04 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ข้อนี้เป็นโจทย์ โอลิมปิค ม. ต้น คุณ freefeel คงเคยเห็นแล้ว ผมจำได้ว่า คุณ freefeel เอา ข้อ 3 มาเฉลยทีหนึ่ง น่าเสียดาย ผมจำการเฉลยของคุณ freefeel ไม่ได้ ผมก็ทำไว้ แต่ยาวและเยิ่นเย้อน่าดู ถ้ายังมี file อยู่ขอรบกวน เอามาแปะอีกทีครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : น้าพร - [ 1 พ.ย. 50 00:01:36 ]

ความคิดเห็นที่ 56 คุณ อมก๋อย Omkoy ครับ ถ้าแตกแรง แรงขวาขาขึ้นจะเป็น 5 นิวตัน มันไม่สมดุลย์ กับแรงซ้ายครับ   ระบบจะเคลื่อนไปทางใดทางหนึ่งหรือปล่าวครับ จากคุณ : น้าพร - [ 1 พ.ย. 50 00:04:47 ]

ความคิดเห็นที่ 57 .. ถ้าอาศัยการแตกแรง ตามความเห็นที่ 54 ในภาพด้านขวา นั่นแสดงว่า แรงดึงในเส้นเชือกแนวดิ่ง ที่ติดกับเพดาน มีค่าเป็น 0 ความจริงแล้วในเส้นเชือกจะมีแรงดึงเท่ากัน ไม่ได้เป็น 0 แม้ว่าเชือกจะดึงแนวราบ ไม่ต้องคิดถึงน้ำหนัก 20N หรอกครับ หากอาศัยการแตกแรงอย่างที่ว่าจริง เพียงแค่ 1 N  มันก็ไหลลงแล้ว ซึ่งมันไม่จริงครับ .. แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 50 00:12:30 จากคุณ : ไม่เป็นดั่งใจ - [ 1 พ.ย. 50 00:05:21 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ผมก็ไม่ได้ใช้นานแล้วนะจำได้ลางๆ ถ้าจะใช้กฏการอนุรักษ์ก็ใช้ได้ครับ มองที่มวล m ก็จะมีแรง m N กระทำ ได้ระยะในแนวดิ่งนี่โอเคครับอันนี้ แต่แรง 10N นี่ระยะใช่ที่คิดหรือครับ เพราะถ้าคิดตามความยาวเชือกที่ดึงนี่ ไม่ใช่นะครับ ต้องใช้ระยะจริงๆ ที่เคลื่อนที่ไปของแรง 10N ซึ่งมันจะได้ ระยะทางยาวกว่าที่เชือกดึงมาได้นะครับ ลองดูดีๆ จากคุณ : 5z (5Z) - [ 1 พ.ย. 50 00:08:00 ]

ความคิดเห็นที่ 59 แล้วทำไมแรงขาขึ้นด้านซ้ายกับด้านขวาต้องเท่ากันล่ะครับ สมมติให้ระบบอยู่ในสมดุล มวล15N จะสมดุลพอดีกับแรงขึ้น15N นะครับ แต่ตัวเชือกมีแรงดึง2ข้าง10N เท่ากัน ดังนั้นเชือกจะไม่เคลื่อนที่ไปไหนครับ จากคุณ : Omkoy - [ 1 พ.ย. 50 00:09:30 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ถ้าเกิดไม่มีราง แน่นอนครับรอกจะไหลมาทางขวาแน่นอน เพราะมีแรง10cos30อยู่ จะไหลมาจนเชือก2ข้างสมดุล จากคุณ : Omkoy - [ 1 พ.ย. 50 00:10:40 ]

ความคิดเห็นที่ 61 #52 ถ้าน้ำหนักถ่วง 1 N ดึงด้วยแรง 1 N วัตถุจะสมดุลย์(ไม่เคลื่อนที่) แรงดึงจะเท่ากับ 1 N แต่ถ้าดึงด้วยแรงมากกว่า 1 N มวลก็ไม่อยู่ในสมดุลย์ แต่จะเคลื่อนที่ขึ้นด้วยความเร่ง แรงดึงในเส้นเชือกก็ต้องเพิ่มตามแรงที่ดึงวัตถุขึ้นไปตามสมการ T=m(g+a) ถ้าวัตถุไม่เคลื่อนที่ a=0 จะได้ T=mg=1 N หรือถ้าแรงดึงน้อยกว่า 1 N มวลก็จตกลงมาด้วยความเร่งน้อยกว่า g เมื่อปล่อยเชือกแรงดึงเป็น 0 มวลก็ตกลงมาแบบ Free Fall ด้วยความเร่ง g จากคุณ : freefeel - [ 1 พ.ย. 50 00:14:02 ]

ความคิดเห็นที่ 62 .. #61 ใช่ครับ และนั่นเป็นเหตุผลว่า  การคิด FBD ต้องคิดตลอดทั้งสายเชือก  ไม่ใช่คิดตามมุมที่เปลี่ยนไปของเส้นเชือก ลองพิจารณาดูความเห็นที่ 54 ภาพขวามือสุด ว่าออกแรง 10N จะรับน้ำหนัก 1N  ไว้ไม่ไหวจริงหรือไม่ หากมันอยู่แนวราบเกินไป ลองคิดมุมประมาณ 0.01 องศา ดูสิครับ ลองกดเครื่องคิดเลขดู ว่าหากมีการแตกแรง จะรับน้ำหนักได้กี่มากน้อย แล้วลองพิจารณาเปรียบเทียบกับความเป็นจริงดูนะครับ .. แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 50 00:20:35 จากคุณ : ไม่เป็นดั่งใจ - [ 1 พ.ย. 50 00:17:00 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 1 พ.ย. 50 00:17:27 ]

ความคิดเห็นที่ 64 โจทย์ข้อ 3 ที่น้าพรอ้างถึงผมเองก็จำไม่ได้แล้วละครับ #54 สองภาพขวา ถ้ารอกไม่ถูกตรึงไว้มันเกิดรูปแบบนั้นไม่ได้หรอกครับ แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 50 00:22:26 จากคุณ : freefeel - [ 1 พ.ย. 50 00:19:53 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ช่วยดูรูปนี้หน่อยครับ กรณีที่ 1  ถ้าดึงเชือกขึ้นในแนวดิ่ง  1 เมตร รอกจะเคลื่อน ขึ้น 0.5 เมตร กรณีที่ 2  ถ้าดึงเชือกขึ้นในแนวนอน 1 เมตร รอกจะเคลื่อน ขึ้น 1 เมตร  ถูกไหมครับ กรณีที่ 3  ถ้าดึงเชือกขึ้นเฉียง 30 องศา 1 เมตร รอกจะเคลื่อน ขึ้น กี่ เมตร ? จากคุณ : ช า ติ - [ 1 พ.ย. 50 00:21:42 ]

ความคิดเห็นที่ 66 #54 ภาพกลางกับภาพขวา สมมติว่า รอกตรึงกับแกน แต่เคลื่อนที่อิสระในแนวดิ่ง วัตถุจะไหลลงครับ #57 .. "ถ้าอาศัยการแตกแรง ตามความเห็นที่ 54 ในภาพด้านขวา นั่นแสดงว่า แรงดึงในเส้นเชือกแนวดิ่ง ที่ติดกับเพดาน มีค่าเป็น 0 ความจริงแล้วในเส้นเชือกจะมีแรงดึงเท่ากัน ไม่ได้เป็น 0 แม้ว่าเชือกจะดึงแนวราบ ไม่ต้องคิดถึงน้ำหนัก 20N หรอกครับ หากอาศัยการแตกแรงอย่างที่ว่าจริง เพียงแค่ 1 N  มันก็ไหลลงแล้ว ซึ่งมันไม่จริงครับ" ข้อความที่ยกมา ผิดครับ เพราะ ในภาพขวาแรงสุทธิที่ดึงขึ้น เท่ากับ 10 N รับน้ำหนัก 1 N สบายๆ แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 50 00:30:43 จากคุณ : ช า ติ - [ 1 พ.ย. 50 00:26:15 ]

ความคิดเห็นที่ 67 อย่าคิดมาก  เรื่องนี้คิดง่ายๆ     ตอบ 15N น่ะถูกแล้ว อย่าลืม มันมีรางบังคับทิศทางของรอก เพราะฉะนั้น ทิศการดึง มีผลกระทบ ที่จะต้องแตกแรง จากคุณ : alphaK - [ 1 พ.ย. 50 00:31:06 ]

ความคิดเห็นที่ 68 สนุกดีความคิดหลากหลาย จากคุณ : ยังง่วงอยู่ - [ 1 พ.ย. 50 00:33:03 ]

ความคิดเห็นที่ 69 คุณชาติครับ ผมลองคิดแล้วครับ ไม่ว่าดึงอย่างไร รอกจะขึ้นไป 0.5 เมตรเสมอครับ ถ้าเป็นดึง แบบ A กะ  C มีข้อแม้ว่า ให้ดึงแล้วเลื่อนแนวแรงขึ้นไปพร้อมรอกด้วยครับ ไม่งั้น มันจะเฉลงมาครับ จากคุณ : น้าพร - [ 1 พ.ย. 50 00:34:44 ]

ความคิดเห็นที่ 70 จากภาพ #65 คิดตามกฏทรงพลังงาน กรณี ดึงขึ้นในแนวดิ่ง แรง 10 ดึงเชือก 1 เมตร เท่ากับ น้ำหนัก 20 เคลื่อนที่ ขึ้น 0.5 เมตร กรณี ดึงในแนวนอน แรง 10 ดึงเชือก 1 เมตร เท่ากับ น้ำหนัก 10 เคลื่อนที่ ขึ้น 1 เมตร จาก 2 กรณี ้เชื่อได้ว่า ถ้าดึงเฉียงๆ 30 องศา ระยะที่เคลื่อนที่ขึ้น ต้องอยู่ระหว่าง 0.5 - 1 เมตร สมมติ แรง 10 ดึงเชือก 1 เมตร  เท่ากับ น้ำหนัก 15 เคลื่อนที่ขึ้น 2/3 เมตร จากคุณ : ช า ติ - [ 1 พ.ย. 50 00:38:40 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ^^ ถ้าไม่แน่ใจก็น่าจะทดลองดูนะครับ จากคุณ : Horrible Member - [ 1 พ.ย. 50 00:40:28 ]

ความคิดเห็นที่ 72 คห.65ของคุณชาติครับ ถ้ารอกถูกตรึงโดยรางในแนวดิ่ง แล้วดึงเชือกในแนวนอน รอกจะไม่เคลื่อนที่ไปไหนเลยครับ คห.54 รูปขวาสุด ถ้ารอกไม่ถูกตรึงไว้ เมื่อดึงในแนวนอน รอกจะเซมาทางขวาด้วยความเร่งครับ จากคุณ : Omkoy - [ 1 พ.ย. 50 00:41:15 ]

ความคิดเห็นที่ 73 คุณ freefeel ครับ รูปข้อ 3 ครับ จากคุณ : น้าพร - [ 1 พ.ย. 50 00:43:00 ]

ความคิดเห็นที่ 74 #42 ขอบคุณน้าพรครับ ที่ช่วยแก้ให้ เรียนมานานเลยลืมไปซะสนิท #65 69 70 ผมว่าน่าคิดนะครับ ว่าวัตถุจะเคลื่อนที่ขึ้นเท่าไร เอาแค่ระยะทาง ไม่ต้องสนใจเรื่องแรง ใครมีอุปกรณ์ น่าทดลองดูนะครับ จากคุณ : ช า ติ - [ 1 พ.ย. 50 00:44:19 ]

ความคิดเห็นที่ 75 .. อืมม จริงด้วย  รางบังคับทำให้มันอยู่ในรูปแบบนั้นได้ ยอมจำนนต่อหลักฐานครับ 15 N  จริงๆ ด้วยครับ .. จากคุณ : ไม่เป็นดั่งใจ - [ 1 พ.ย. 50 00:44:35 ]

ความคิดเห็นที่ 76 กับปัญหาของคุณน้าพรนะครับ มาว่ากันเรื่องของการอนุรักษ์พลังงาน ผมลองวาดรูปให้ดูนะครับ พิจารณาที่มวล m เมื่อดึงได้ระยะ -x จะได้พลังงานคือ -mx ส่วนแรงดึง 10N ดึงได้ระยะตามรูปซึ่งเป็นเส้นสีน้ำเงิน จะได้ระยะเท่ากับ x*cos(30degree) = x*sqrt(3) แต่แรงดึงที่อยู่ตามแนวเส้นสีน้ำเงินต้องแตกแรงจะได้ 10N*cos(30degree) = 10N*(sqrt(3)/2 เพราะฉะนั้นจะได้พลังงานคือ (10N)*x*(3/2) = 15x ดังนั้นจากกฏอนุรักษ์พลังงานจะได้ว่า 15x - mx = 0 m = 15N จากคุณ : 5z (5Z) - [ 1 พ.ย. 50 00:44:53 ]

ความคิดเห็นที่ 77 #62 ถ้ากำหนดกำลังสูงสุดของเส้นลวดมาให้ ยิ่งลวดอยู่ในแนวราบก็ยิ่งรับแรงได้น้อยลง มุมต่างกันก็รับน้ำหนักได้ไม่เท่ากันถ้ากำลังในเส้นลวดเท่ากัน แบบเดียวกับการออกแบบสะพานแขวนยิ่งลวดสลิงขึงสะพานอยู่ในแนวราบมากเท่าไรก็ต้องใช้ขนาดสลิงใหญ่ขึ้น จากคุณ : freefeel - [ 1 พ.ย. 50 00:47:36 ]

ความคิดเห็นที่ 78 # 70 จาก 2 กรณี เชื่อได้ว่า ถ้าดึงเฉียงๆ 30 องศา ระยะที่เคลื่อนที่ขึ้น ต้องอยู่ระหว่าง 0.5 - 1 เมตร สมมติ แรง 10 ดึงเชือก 1 เมตร  เท่ากับ น้ำหนัก 15 เคลื่อนที่ขึ้น 2/3 เมตร .......................................................................................... ที่คุณชาติว่ามา ผมลองคิดดูแล้ว เห็นว่า ควรจะเป็น 0.5 เมตรครับ แต่เดี๋ยวพรุ่งนี้จะลองดึงเป็นของจริงดูครับ ว่าได้เท่าใด เพราะที่คิดมาคิดเอาทีละ 10 ซม. ในกระดาษครับ  นี่ง่วงแล้วครับ ขออนุญาต ไปงีบสัก 2 -3 ชั่วโมงก่อนครับ --------------------------------------------------------------- อากาศบ้านผมช่วงนี้เย็นมากครับ ไม่ต้องเปิดแอร์ น่าเสียดาย ห่มผ้าอย่างไรก็ไม่อุ่น คล้ายๆ ขาดอะไรไปสักอย่างหรือสักคนนี่แหละ ขอบคุณทุกท่านมากครับ เดี๋ยวอีก 2 -3 ชั่วโมงเจอกันอีกครั้งครับ จากคุณ : น้าพร - [ 1 พ.ย. 50 00:50:18 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ขอบคุณน้าพรครับ ถ้าถ่าย คลิป VDO มาอวด จะแจ๋วมากเลยครับ หรือเป็นภาพนิ่งก็ได้ ผมค่อนข้างมั่นใจว่า วัตถุจะเคลื่อนขึ้น 2/3 เมตร เดี๋ยวพรุ่งนี้ สายๆ ค่อยเข้ามาดูครับ #72 คุณ Omkoy รูปใน #65 เป็นรอกเดียวกับโจทย์ตั้งต้น เคลื่อนที่โดยอิสระในแนวดิ่งครับ แต่ไม่สามารถออกแนวข้างได้ แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 50 00:59:39 จากคุณ : ช า ติ - [ 1 พ.ย. 50 00:56:26 ]

ความคิดเห็นที่ 80 โจทย์ข้อ 3 เป็นการเคลื่อนที่ด้วยความเร่งคงที่ธรรมดา แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 50 01:23:18 จากคุณ : freefeel - [ 1 พ.ย. 50 01:21:58 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ขออธิบายบ้างนะครับ นั่งดูน้าทั้งสองอยู่นาน ลองอ่านโจทย์ดูนะครับ เค้าบอกว่ารอกเคลื่อนที่ได้แนวเดียวคือแนวดิ่ง!!! คิดง่ายๆคือ แรงที่ออกไปในแกน x ก็เพียงแค่ทำให้เกิด reaction ขึ้นที่รางของรอกเพียงเท่านั้น แรงที่ดึงจริงๆ คือแรงแกน Y นั่นคือ T+Tcos60 ลองคิดดูสมมติมีสิ่งของเคลื่อนที่ในแกน y ได้แกนเดียว แต่เราออกในแกน x เพียงแนวเดียว ดังนั้นแรงแกน x จึงไม่มีผลอะไร นอกจากทำให้เกิด reaction เท่านั้น จากคุณ : JohnnieWalker - [ 1 พ.ย. 50 03:15:41 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ช้าหน่อยแต่เข้ามายืนยันว่า 15 N ครับ จากคุณ : thetorque - [ 1 พ.ย. 50 04:44:23 ]

ความคิดเห็นที่ 83 กระทู้นี้สนุกมาก เถียงกันด้วยเหตุผล ดีครับ ...... จากคุณ : palermos - [ 1 พ.ย. 50 06:46:19 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ผมคำนวณ ได้ 15 ครับ ถ้าวาด free body diagram ผิด  คำตอบมันก็ผิด ถ้าลืมคิดแรงตึงในเชือกเท่ากัน คำตอบก็ผิดเหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 50 08:59:03 จากคุณ : Professor - [ 1 พ.ย. 50 08:58:16 ]

ความคิดเห็นที่ 85 รูป Free body diagram ครับ จากคุณ : Professor - [ 1 พ.ย. 50 09:00:13 ]

ความคิดเห็นที่ 86 คุณ  thetorque  เข้ามาแล้ว ให้คำตอบมาว่า เป็น 15  N ผมขอทราบวิธีคิด  + เหตุผล หน่อยครับ   ขอบคุณครับ แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 50 09:43:26 จากคุณ : น้าพร - [ 1 พ.ย. 50 09:16:04 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ทุกท่านที่เขียน Post เข้ามา ผมได้อ่านทั้งหมดครับ   ที่ไม่ตอบ ในทุก post เพราะเยอะมาก และมึนมากเช่นกันครับ เส้นทางที่ได้มา 15 N นั้น พอเข้าใจแล้ว แต่ยังติดอยู่ที่ ถ้าคิดเป็น กฎอนุรักษ์ พลังงาน จะได้ตัวเลข เป็นอย่างไรเท่านั้นครับ   ตัวเลขทางคณิตศาสตร์ ที่ท่านให้มา นั้น ก็เป็นเชิงคณิตศาสตร์ แต่ผมคิดได้อีกอย่าง (ที่ไม่ได้อิงคณิตศาสตร์) อิงจากการดึงเส้นเชือกครับ ที่พูดมานี่ไม่ได้ ปฏิเสธ การคิด เชิงเหตุผลนะครับ แต่กำลังหาวิธี หักล้างความคิด ที่ไม่เป็นจริง หรือหลงทางอยู่ครับ วันนี้จะลองหาของมาดึงดูครับ ว่าดึงด้วยมุมเอียงแล้ว ระยะ ของตุ้มน้ำหนัก m  จะเป็น 1/2  ของระยะเฉียงหรือไม่ ขอบคุณครับ จากคุณ : น้าพร - [ 1 พ.ย. 50 09:37:22 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ขอตอบบ้าง จากโจทก์ มันมีราง ทำให้ต้องแตกแรง 30องศา แต่ถ้าโจทก์ มันไม่มีราง ก็ไม่ต้องแตกแรงครับ จากคุณ : Lambert K. - [ 1 พ.ย. 50 10:20:05 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ผม ได้ขอความกรุณา อาจารย์ของผมมาช่วยดู ท่านได้ให้ความเห็นว่าอย่างนี้ครับ ............................................................... วิเคราะห์ 1.รอกเดี่ยวตายตัวน่าจะเปลี่ยนทิศทางของเรงเท่านั้น   2.ถ้าแรงทางด้านขวาขึ้นในแนวดิ่ง มวล m หนัก =20 N  (โจทย์น่าจะเจตนาให้ตอบ  20 N ตามแนวคิดในข้อ 1เพราะ    เป็นโจทย์  ม.ต้น  นักเรียนยังไม่ได้เรียนตรีโกณ ) 3.ในข้อนี้แรงเอียงถ้าตรงกลางไม่ใช่แกนเหล็กเชือก 2 ข้าง    น่าจะเอียง  เพราะมีแรง  Tcos30  ดึงมาทางขวาต้องหา    Tcos30  ไปทางซ้ายมาแก้เชือก 2  ข้างเอียงทั้งคู่ 4. เนื่องจากข้อนี้เป็นแกนเหล็ก  จะพิจารณาได้ว่า   แกน x;     F ที่แกนเหล็กดึงไปทางซ้าย = 10cos30   แกน y;                   F ขึ้น  =  Fลง                      10+10sin30 =  w                                      w = 15 นิวตัน 5. สรุปตอบ  w = 15 N ---ครูเพชร--- .................................................................. จากคุณ : น้าพร - [ 1 พ.ย. 50 10:29:46 ]

ความคิดเห็นที่ 90 เอาอีก จากคุณ : ยังง่วงอยู่ - [ 1 พ.ย. 50 10:35:21 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ถ้าระบบนิ่ง ไม่เคลื่อนที่  คิดว่าไม่ต้องแตกแรง ยกมือตอบ 20 นิวตัน อีกเสียง จากคุณ : =Lord Gary= - [ 1 พ.ย. 50 10:39:13 ]

ความคิดเห็นที่ 92 คงได้ขอสรุปเบื้องต้นแล้วครับ ขอรอคำอธิบายของคุณ thetorque อีกท่านหนึ่ง และเหลือวิธีการ ทดลองจริงของผมว่า เมื่อดึงเชือกในแนวเฉียงแล้ว ระยะ ของมวล m จะขึ้นไปในแนวดิ่งเท่าใด กระทู้นี้ น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดี ของการใช้หลักการเหตุผลมาอธิบายต่อกัน ไม่มีการทะเลาะ หรือเสียดสีกัน  น้องๆ หลานๆ ที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ ควรจดจำเป็นตัวอย่าง  การที่คนเราคิดไม่เหมือนกันนั้น มาจากปูมหลัง จากการเลี้ยงดู จากประสบการณ์และการเรียนรู้ รับรู้ที่ต่างกัน   ข้อสำคัญคือ อย่ายึดว่า ตัว Kru ถูก   แต่เราจะต้องยึดถึงหลักของเหตุและผลเป็นสำคัญ เมื่อมีความเชื่อไม่ถูกต้องอยู่ ซึ่งอาจจะเกิด จากการรับรู้ ที่ไม่ครบถ้วน เราต้องเปิดใจให้กว้าง เราต้องเรียนรู้ใหม่ คิดพิจารณาใหม่ แล้วสมองจะเกิดพัฒนาขึ้นอีกเป็นลำดับ จากคุณ : น้าพร - [ 1 พ.ย. 50 10:44:55 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ลองคิดเองก็ได้ จากคุณ : ยังง่วงอยู่ - [ 1 พ.ย. 50 11:01:01 ]

ความคิดเห็นที่ 94 คิดง่ายๆ คิดจากข้อเท็จจริงที่เด็กๆ ก็น่าจะรู้ "แรงในเชือก = เท่ากัน ตลอดเส้น" ไม่มีเชือกเส้นไหนหรอกครับ ที่แรงตึงในเส้น = ไม่เท่ากัน เชือกมันจะเอียง 20 องศา หรือ 30 องศา (ตามที่เขาหลอกให้ลงเหว) แรงตึงภายในเส้นเชื่อกก็ต้อง "เท่ากัน" ทุกจุด กรณีนี้ใช้เชือก 2 เส้น ช่วยกันแขวนน้ำหนัก ในเมื่อแรงตึงในเชื่อกหนึ่งเส้น = 10 N 2 เส้นเชือกช่วยกันยก m ได้สูงสุด = 20 N แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 50 11:05:31 จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 1 พ.ย. 50 11:02:27 ]

ความคิดเห็นที่ 95 มึนมาหนึ่งคืนเต็มๆ กับหลักของเหตุผล (อันไม่ใช่เรื่องของการคำนวณ เพราะการคำนวณในข้อนี้ไม่ยาก ที่ยากคือ จะใช้หลักการอะไรมาจับ แล้วมีเหตุผลอะไรมารองรับวิธีการที่ใช้นั้นต่างหาก) มาดูเรื่องเบาๆ  กันบ้างดีกว่าครับ ผมให้ความเห็นตามประสบการณ์ที่เคยเห็น เคยทำมาแล้วในกระทู้นี้ครับ เชื่อว่าคงเป็นประโยชน์ตามสมควร หรือรู้ไว้เป็นความรู้รอบตัวก็ยังดี http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X5969147/X5969147.html จากคุณ : น้าพร - [ 1 พ.ย. 50 11:02:40 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ถ้าตอบ 20 แล้วแรงที่รางยันรอกไว้ไม่ให้เคลื่อนมาทางขวาล่ะ มาจากไหนครับ เพราะถ้าไม่มีราง รอกก็ต้องมาทางขวา แต่นี่รางดันรอกไว้ ดังนั้น แรงจึงมาจากแรงดึงด้านขวาส่วนหนึ่ง (10 cos30) น่ะครับ ตอบ 15 ครับ จากคุณ : kzytui - [ 1 พ.ย. 50 11:49:35 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ทำไมถึงคิดว่ามุมไม่ใช่ปัญหากันครับ ? ถ้าเปลี่ยนเป็นตั้งฉากกับแกนY คิดว่ารอกจะเลื่อนกันหรือปล่าวครับ ? เค้่าบอกว่ารอกเคลื่อนที่ได้แกนเดียวนะครับ ลองคิดว่ามีก้องหินก้อนนึงอยู่ในรางกลวงเครื่องที่ขึ้นลงได้ อย่างอิสระ แต่รูด้านข้างเป็นรู ตามยาวขนานกับแกนY เอามือดึงตั้งฉากกับราง ตามรูป คิดว่าก้อนหินมันจะเคลื่อนขึ้นลงหรือปล่าวครับ |   | |   | |   | |   | |  X|(====== ดึงออกทางนี้ |   | |   | จากคุณ : JohnnieWalker - [ 1 พ.ย. 50 11:59:48 ]

ความคิดเห็นที่ 98 คุณน้าพรไปลากมาจากไหลมังทั้งทีก็มาล่ะครับ ลองเขียนสิ่งที่ทุกคนเห็นตรงกันว่าถูกชัวร์ 1. แรงตึงเชือกเท่ากันตลอดทั้งเส้น 2. ถึงโจทย์จะถามว่ามวลมากสุดเป็นเท่าไหร่ ผมว่าข้อนี้ก็คือหากรณีที่ระบบอยู่ในสมดุลแหละครับ (อันนี้ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าโจทย์จะบอกทำไมว่าให้มากที่สุด?) 3. ระบบอยู่ในสมดุล เขียน free body diagram แรงรวมของของทุกชิ้นเป็น 0 4. รอกไม่มีมวล และเชือกไม่มีมวล -> อันนี้เป็นอีกเงื่อนไขที่ทำให้แรงตึงในเชือกเท่ากันตลอดทั้งเส้น ไม่งั้นความเร่งเชิงมุมของรอกจะเป็น infinity จากหลักการที่ว่าสี่ข้อ free body ก็มีคนเขียนให้ดูในความเห็นบนๆแล้ว จะเห็นได้ว่า ไอ้รางที่มีอยู่ในโจทย์ มันมีหน้าที่ balance แรงแกนราบที่กระทำต่อรอก ไม่ว่าเท่าไหร่ก็ตาม ถือว่ากำแพงไม่มีวันพัง เราก็ไม่ต้องคิดแรงแกนราบครับ ส่วนที่บอกว่าแรงตึงเป็น 10 N มีเชือกสองด้าน ดังนั้นก็ต้องรวมเป็น 20 N อันนี้มันอันตรายตรงที่ว่า มันต้องดูด้วยครับว่าจุดที่เชือกสัมผัสรอกมันทำมุมเท่าไหร่ เวลาดูแรงต้องดูทิศด้วยครับ คำนวนแบบละเอียดคนอื่นทำให้ดูแล้วครับ ขอยืนยันอีกที ว่า 15 N ครับ ถ้าจะห้อยมวล 20 N แรงตึงเชือกจะต้องมากกว่า 10 N ครับ จากคุณ : thetorque - [ 1 พ.ย. 50 12:35:03 ]

ความคิดเห็นที่ 99 เข้ามาป่วน ยืมรูปคุณไม่เป็นดั่งใจหน่อย ถ้าระบบเป็นดังรูป (ซึ่งมีรางบังคับรอกให้อยู่ขึ้นลงในแนวดิ่ง) อยากรู้ว่าถ้าอยู่ๆรางหายไปรอกจะเริ่มเคลื่อนที่ไปทิศใด ถ้าระยะทางจากรอกไปถึงเพดานในตอนต้นไม่เท่ากัน ทิศทางเมื่อรางหายไปจะเหมือนกันไหม (ให้เชือกยาวเท่ากัน) แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 50 13:16:13 จากคุณ : KL - [ 1 พ.ย. 50 13:11:42 ]

ความคิดเห็นที่ 100 หลงเข้ามา น้ำตาจะไหล T_T ไม่รู็เรื่อง จากคุณ : Dont Be Serious - [ 1 พ.ย. 50 13:29:58 ]

ความคิดเห็นที่ 101 ครบ 100 แล้ว ก็ต้องสรุป และฟันธงแล้วครับ คำตอบ คือ 15  N  นับว่าเป็นการคิดที่ยากพอควรสำหรับเด็กม.3 วิธีคิดคือ 1.  ดูที่แรงหลัก คือ แรง ดึง 10 N ที่ดึงไปทางขวา ทิศเฉียงขึ้น 30 องศา แรงนี้ก่อให้เกิดผลสองอย่างคือ มีแรง กิริยากระทำที่ตัวรอก แล้วแรงนี้จะส่งผ่านรอกไปยังรางเหล็กอีกที คิดได้เป็นค่า cos30 ของแรง F ส่วนผลอย่างที่สอง เกิดขึ้นตามข้อ 2 2. จากการที่แรง 10 N ไม่ได้ดึงเป็นแนวดิ่ง ทำให้ แรงนั้นไม่ได้ส่งแรงทั้งหมด ขึ้นไป แต่ส่งแรงขึ้นไปเพียงส่วนหนึ่ง คิดได้จาก sin30 ของแรง F แรงใน ข้อ 1. จะทำให้เกิดแรงปฏิกิริยา ต่อรางเหล็กในทิศทางตรงกันข้าม เนื่องจากรางเหล็กไม่เคลื่อนที่ ดังนั้นผลรวมของแรงลัพธ์ ที่กระทำต่อรางเหล็กจึงเป็น  ศูนย์ แรงจากข้อ 2. เป็นแรงทิศขึ้นในแนวดิ่ง ได้ sin30 ของ 10 N มีค่าเป็น 5 N ระบบสมดุลพอดี มีแรงชี้ขึ้นในแนวดิ่ง 10 + 5 = 15 N แรงในทิศขึ้นนี้ ทำให้มวล  m ที่แขวนอยู่นั้น อยู่ในสภาวะสมดุล ทั้งสองแรงนี้เท่ากัน แรงขึ้น = แรงลง จึงได้  15 N ด้วย ตอบ ข้อ C 15 N แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 50 14:16:43 จากคุณ : น้าพร - [ 1 พ.ย. 50 14:12:39 ]

ความคิดเห็นที่ 102 1.  แรง 10N  เกิดจาก  m + แรงต้านของราง 2.  เชือกจึงรับแรง 10N+10N=20N ที่30องศา ( ยิ่งองศาน้อยยิ่งออกแรงมาก ) 3.  แต่ m มันอยู่แนวดิ่ง  จึงต้องหาแรงจริงในแนวดี่ง 4.  10sin30 = 5N   เชือกอีกด้าน 10N ด้วย    ดังนั้นแรงรวมคือ 15N 5.  ผมคิดตื้นไปหรือเปล่า ?? แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 50 14:59:07 จากคุณ : ตาเป๋า - [ 1 พ.ย. 50 14:20:19 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ส่วนการทดลองจริง ผมจะทำครับ เพื่อทดสอบอีกครั้ง ไม่ทราบว่าวันนี้จะเสร็จทันหรือปล่าวไม่ทราบ เพราะงานเข้ามาแล้ว เต็มมือเลยครับ ผมทำแน่ๆ ครับ ไม่ทิ้งไปดอกครับ (จะมีรูปถ่ายมาให้ดูด้วย) ส่วนจะถ่ายเป็นคลิปได้หรือไม่นั้น ผมจะลองดูครับ โทรศัพท์ หรือกล้องผม จะ work หรือปล่าวไม่รู้ ไม่เคยใช้สักที อย่างไรก็ตามต้องขอบคุณทุกท่านมากครับ ที่ได้เข้ามาตอบ โดยเฉพาะการบอกถึงวิธิคิด และหลักของการคิด ความจริงข้อนี้ คนที่เคย ทำโจทย์มามาก จะเห็นว่ามันหมูมาก ถ้าไม่หลงประเด็น หรือเอาของสองอย่างมาปนกัน ผมนั้น เอารอกเดียวตายตัว กะรอกเดี่ยวเคลื่อนที่ และ แรง ที่มีมุม 30 องศา มาปนกัน ทำให้คิดได้ตัวเลขที่ต่างกันไป มาเข้าใจแจ่มแจ้ง ก็ช่วงตีสี่เช้านี้ครับ ว่าลืม หรือข้ามอะไรไปบ้าง ขอบคุณอีกครั้งครับ จากคุณ : น้าพร - [ 1 พ.ย. 50 14:24:30 ]

ความคิดเห็นที่ 104 15 ครับ ป.ล. เดา จากคุณ : ธีรภัทร์2 - [ 1 พ.ย. 50 14:47:57 ]

ความคิดเห็นที่ 105 ... ตอบ 20N ครับ รอกไม่ได้ตรึงไว้ ไม่ต้องแตกแรง แรงตึงในเส้นเชือกเท่ากันทั้งเส้น จากคุณ : 73078 - [ 1 พ.ย. 50 15:41:35 A:124.120.184.128 X: TicketID:073078 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ... เปลี่ยนคำตอบเป็น 15 ด้วย ต้องเขียน FBDครับ จากคุณ : 73078 - [ 1 พ.ย. 50 15:55:44 A:124.120.184.128 X: TicketID:073078 ]

ความคิดเห็นที่ 107 ถ้าเป็นโจทย์ วิศวกรรม ไม่เขียน Free Body Diagram  ได้ 0 ทันที ไม่ดูคำตอบ เพราะการไม่เขียน ก็ทำให้หลงได้ง่ายๆ แบบนี้ แต่การสอนเขียน นี่มันอยู่ในชั้นปีหนึ่งวิศวะ สำหรับ ม.3 คงยากไปจริงๆ จากคุณ : Professor - [ 1 พ.ย. 50 16:00:58 ]

ความคิดเห็นที่ 108 คำตอบคือ 15N ครับ ที่ตอบว่า 10N เข้าใจว่าเพราะลืมว่าแรงตึงของเชือกจะเท่ากัน ที่ตอบว่า 20N  เข้าใจว่าเพราะคิดว่าองศาของมุมเชือกไม่มีผลต่อแรง แต่คนที่ตอบว่า 5N นี่ผมนึกไม่ออกจริงๆว่า เพราะว่าอะไร จากคุณ : Masala - [ 1 พ.ย. 50 16:37:20 ]

ความคิดเห็นที่ 109 บ่ต้องแตกนะจ้ะ จุดสัมผัสของเชือกตั้งฉากกะแกนรอกพอดี จากคุณ : นายคัน - [ 1 พ.ย. 50 18:26:20 ]

ความคิดเห็นที่ 110 ^^ แล้วจะติดตามชมการทดลองนะครับ จากคุณ : Horrible Member - [ 1 พ.ย. 50 18:33:31 ]

ความคิดเห็นที่ 111 http://en.wikipedia.org/wiki/Pulley Pulleys are used to change the direction of an applied force, transmit rotational motion, or realize a mechanical advantage in either a linear or rotational system of motion. ดังนั้นข้อนี้ไม่ต้องแตกแรง ตอบ 20 ครับ ฟันธง!!! จากคุณ : The Lover is loving - [ 1 พ.ย. 50 19:51:51 A:124.121.89.94 X: TicketID:147429 ]

ความคิดเห็นที่ 112 คิดได้ 15 ครับ จริงๆได้เท่าไหร่ครับ จากคุณ : V-FrIeNd - [ 1 พ.ย. 50 20:21:58 ]

ความคิดเห็นที่ 113 ตอบ 15 ครับ #111อันนั้นใช้ตอนลอกมันอิสระครับ แต่โจทย์ข้อนี้มีรางบังคับด้วยครับ จากคุณ : poomelle - [ 1 พ.ย. 50 21:06:05 ]

ความคิดเห็นที่ 114 ถ้าน้าพร มีเวลาทดลอง อยากเห็นระยะที่วัตถุเคลื่อนที่ขึ้นเมื่อ 1. ดึงขึ้นในแนวดิ่ง 2. ดึงในแนวตั้งฉาก 3. ดึงเป็นแนวเฉียงอย่างในโจทย์ หรือทำมุมหลายๆขนาด ขอรบกวน และ ขอบคุณล่วงหน้าครับ จากคุณ : ช า ติ - [ 1 พ.ย. 50 21:48:00 ]

ความคิดเห็นที่ 115 ผมว่า 15 นี่ล่ะ ดึงเชือกแรงในเส้นเชือก 10 N เส้นแนวดิ่งที่ยึดกับเพดานก็ต้อง 10N  ด้วย เพราะเป็นเชือกเส้นเดียวกัน แต่แรงที่ดึงด้านขวา 10 N มันไม่ได้อยู่ในแนวดิ่ง มันจึงเอามารวมกับเส้นในแนวดิ่งด้านซ้าย แบบ 10 + 10  เป็น 20 N ในแนวดิ่งไม่ได้ ก็ต้องเป็น 10(แนวดิ่ง) + 10sin30 (ทำให้เป็นแนวดิ่ง) ดังนั้นผมตอบ 15 ส่วน 10 cos 30 ก็จะเป็นส่วนที่รางต้องต้านไว้ ซึ่งแรงอยู่ในแกน X  ไม่ต้องคิด หากไม่มีราง เส้นด้านซ้ายมือก็จะไม่ทิ้งดิ่งลงมาตรงๆ แบบนี้แน่นอน จากคุณ : Ph - [ 1 พ.ย. 50 22:36:55 ]

ความคิดเห็นที่ 116    ตอบ 15N  ครับ ส่วนคนที่ตอบ 20 ผิดเพราะไม่ได้ใช้มุมในการคิดเชือกด้านขวา ซึ่งผิด เพราะเชือกด้านขวาต้องแตกแรงครับส่วนด้านซ้ายแรงดึง 10N อยู่แล้ว เพราะเชือกเส้นเดียวกันคล้องผ่านรอก แรงตึงต้องเท่ากัน คนที่ตอบ 10 ผิดเพราะไปแตกแรงทั้ง เส้นด้านขวาและซ้ายเพราะเชือกด้านซ้ายไม่ต้องแตกแรงเพราะมีรางบังคับอยู่ เชือกด้านซ้ายแรงดึง 10N อยู่แล้ว เพราะเชือกเส้นเดียวกันคล้องผ่านรอก แรงตึงต้องเท่ากัน จากคุณ : WizardMadrid - [ 1 พ.ย. 50 22:50:56 ]

ความคิดเห็นที่ 117 ไม่รู้นะ ผมคิดแบบนี้ ที่ภาวะสมดุล ผลรวมแรงที่ตัวรอก = ma = 0 จากคุณ : UnExpected - [ 1 พ.ย. 50 23:18:43 ]

ความคิดเห็นที่ 118 คห #65 ตรงมากครับ จากคุณ : mantis - [ 1 พ.ย. 50 23:21:21 A:161.200.255.162 X: ]

ความคิดเห็นที่ 119 ถ้าไม่มีราง แล้วดึง 10N ด้วยมุม 30 ก็เท่ากับยกได้แค่ 10N แบบนี้ครับ ทันทีที่ปล่อยให้หลุดจากราง รอกจะเลื่อนเฉียงมาทางขวา+ล่าง จนกระทั่งสมดุล มุมทั้งสองข้างจะเท่ากัน ถ้าดูอย่างนี้เชือกเส้นละ 10 N สองเส้นบน ด้านล่างยังยกได้แค่ 10N  เอง ไม่ใช่ 20 แน่นอน ดังนั้นเอามาบวกกันตรงๆ ไม่ได้ ต้องแตกแรงก่อนให้อยู่ในแนวดิ่ง แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 50 23:27:17 จากคุณ : Ph - [ 1 พ.ย. 50 23:21:46 ]

ความคิดเห็นที่ 120 #  114 คุณชาติครับ ผมจะทดลองทั้งหมดที่ว่ามา อาจเป็นวันพรุ่งนี้ หรือเสาร์อาทิตย์ นี้ครับ แล้วจะถ่ายรูปหรือ ถ่ายคลิปมา ครับ จากคุณ : น้าพร - [ 1 พ.ย. 50 23:30:24 ]

ความคิดเห็นที่ 121 จาก คห.99 ผมคิดว่า ถ้ารางหายไปปุ๊ป ก็น่าจะห้อยลงมาแบบนี้แล้วมุมก็เท่ากันสองด้าน (เส้นประคือหลังจากหลุดมาจากรางแล้ว) ถ้าเราพยายามปรับมุมด้านที่ถืออยู่ให้กว้างกว่าอีกด้่าน รอกก็จะเลื่อนชดเชยจนมุมเท่ากันอยู่ดี แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 50 23:33:38 แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 50 23:32:52 จากคุณ : Ph - [ 1 พ.ย. 50 23:30:32 ]

ความคิดเห็นที่ 122 ขอบคุณน้าพรอีกครั้งครับ รอดูอย่างใจจดใจจ่อ แต่เอาไว้มีเวลาว่างๆ ค่อยทำดีกว่า อย่าให้เป็นภาระเลยครับ ผมว่า ถึงเวลาน้าพรต้องทำ blog แล้วละครับ เอาไว้เก็บข้อมูลในกระทู้ดีๆหลายๆกระทู้ ที่น้าพรตั้งเอาไว้ครับ แก้ไขเมื่อ 02 พ.ย. 50 00:12:48 จากคุณ : ช า ติ - [ 2 พ.ย. 50 00:07:40 ]

ความคิดเห็นที่ 123 นั่งคิดต่ออีกสักพัก จาก คห.99 ถ้าเชือกยาวเท่ากัน แต่ระยะห่างจากเพดานไม่เท่ากัน เช่นสองรูปนี้ รอกมันก็เลื่อนไปทางล่างขวา แต่มุม x มันจะไม่เท่ากัน มุม x น่าจะมีขนาด = tan-1 ( D/(L-D) ) โดย D คือระยะห่างของรอกกับเพดาน L คือความยาวเชือกทั้งเส้น ใช่เหรือเปล่า ผมเริ่มมึนๆ ล่ะ ขอตัวไปนอนก่อนล่ะ จากคุณ : Ph - [ 2 พ.ย. 50 01:26:51 ]

ความคิดเห็นที่ 124 เรื่องตั้ง blog นี่ อยากตั้งเหมือนกันครับ แต่ทำไม่เป็นครับ คงไม่ยาก แต่ อยากให้เนื้อหาในนั้นกระชับ และมีรูปเยอะๆ โดยเฉพาะ ห้องชายคา ชอบถามเรื่องปั้มน้ำกันมาก ผมเคยซ่อม และเคยแก้ไขมาก่อน น่าจะเป็นประโยชน์ งานก่อสร้าง ก็พอมีประสบการณ์ ถ้ามี blog แล้ว น่าจะเป็นประโยชน์ต่อห้องชายคา อย่างยิ่ง เรื่อง ร้านอาหาร ทางเหนือ เชียงใหม่  ลำพูนลำปาง ก็มีเก็บไว้บ้าง เรื่อง สถานที่ท่องเที่ยวทางเหนือ ก็มีข้อมูลอยู่ เรื่อง เส้นทาง รถยนต์ ที่มีคนถามบ่อย เช่น จาก กทม ไป เชียงรายเส้นไหนดี  หรือ ร้านอาหารระหว่างทาง จาก  กทม ไปเชียงใหม่ ร้านไหนน่าแวะ อันนี้ผมก็พอมีข้อมูลอยู่บ้าง เพราะชอบขับรถ และแวะร้านข้างทางบ่อย พวกสถานที่ ที่คนอยากรู้ แต่อธิบายเส้นทางไปไม่ถูกนี่ ผมอ่านหลายทีแล้ว รู้สึกเวียนหัว ผมอยาก มีส่วนที่เก็บแผนที่ได้ด้วย จะได้เอามาแปะ ไว้ คนอ่านจะได้เข้าใจง่าย น่าเสียดายช่วงนี้ กล้องก็มาเสียซะอีก ค่าแบตเตอรี่ ก้อนละ 3,000 บาท ของ Sony ครับ ตัวกล้องซื้อมาร่วม 30,000 บาท ยังใช้ถ่ายไปไม่ถึง 200 รูปเลยครับ เงินที่เก็บได้ ก็เอาไปผ่อนลูกชายซะหมดแล้ว หลายครั้ง ผมเจอคำ ข้อความที่ถาม หรือที่ตอบอย่างนี้ครับ 1. ราคาไม่แพงดอก 2. ราคาไม่ต้องเป็นห่วง 2. ไม่ไกลหรอก เลี้ยวไปทางนี้แล้วอีกไม่นานก็ถึง 3. อยู่ในตัวเมือง หาง่าย บางคนถามว่า ขอทราบร้านอาหารอร่อยราคาไม่แพง บางคนถามว่า ขอทราบโรงแรมที่ไม่แพง บางคนถามว่า ขอทราบโรงแรมที่ราคาหลักร้อย (แต่ไม่บอกว่ากี่ร้อย) บางคนถามว่า ขอทราบโรงแรมที่คุณภาพสมราคา บางคนถามว่า ขอทราบร้านที่ขายของเก๋ๆ หน่อย (แล้วเก๋ของคนถาม กะเก๋ของคนตอบ เป็นตัวเดียวกันป่าว) ถามอย่างนี้ ตอบอย่างนี้ถ้ามาเรียนฟิสิกส์ อาจารย์คงปวดหัวน่าดู จากคุณ : น้าพร - [ 2 พ.ย. 50 01:28:10 ]

ความคิดเห็นที่ 125 โอ๊ย..ตายแล้ว.. ตอบกันเป็น ร้อยกว่าความเห็น.. :S อุตส่าห์ฟันธงไปแล้วนะเนี่ย จากคุณ : pisity - [ 2 พ.ย. 50 13:38:59 ]

ความคิดเห็นที่ 126 คณิตศาสตร์ ม.3 =  คนึกศาสตร์บัณฑิต                                              อายเด็กจัง........แฮ่ๆ จากคุณ : ตาเป๋า - [ 2 พ.ย. 50 15:26:32 ]

ความคิดเห็นที่ 127 15 จากคุณ : aLITTLEspaceAround7day - [ 2 พ.ย. 50 16:41:00 ]

ความคิดเห็นที่ 128 คุณ  pisity  # 125 ครับ หลักของ คำถามของผมคือ อยากทราบ วิธีคิด และหลักของเหตุผลของเส้นทางที่คิดมาได้อย่างนั้น ทั้งยังต้องหาเหตุผลมา ให้มากพอที่จะลบวิธีคิด หรือการคิดในแนวทางอื่นที่ไม่ถูกต้องอีก ผมเห็นว่า การอธิบายความในส่วนของการคิดนั้นสำคัญมาก การได้คำตอบเป็น 5 10 15 หรือ 20 นั้น เป็นเรื่องรอง  ส่วนสำคัญคือ เส้นทางของการคิด และเหตุผลของการไปสู่เส้นทางที่คิดมานั้นครับ จะเห็นว่า โดยหลายสิบ ความเห็น เป็นการอธิบายความ และการ หาเหตุผลมาอธิบายต่อกันโดยหลักของ ฟิสิกส์ทั้งนั้น ตรงนี้เป็นเรื่องสำคัญมากครับ สำคัญต่อกระบวนการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์มาก เราไม่ควร หยุดตรงที่ เมื่อเจอคำตอบที่ "คำนวณได้"  แล้วมันตรงกับเฉลย แต่ควรคิดต่อไปอีก ว่า ถ้าคิดในแนวทางอื่นบ้างล่ะ มันจะได้คำตอบ แบบเดียวกันนี้ไหม   ซึ่งจะช่วยให้เด็กๆ  มีพัฒนาการทางด้านการรู้จักคิดโดยรอบด้าน โดยถ้วนถี่มากขึ้น จะเป็นประโยชน์มากทีเดียว ขอบคุณครับ จากคุณ : น้าพร - [ 2 พ.ย. 50 20:49:50 ]

ความคิดเห็นที่ 129 เหมือนคุยกันว่าจะเอาข้อกำหนดเป็นแบบไหนเลย.. ถ้าทุกคนเข้าใจข้อกำหนดเดียวกัน.. ก็น่าจะตอบเหมือนกันแล้ว.. มันเป็นเรื่องตายตัวนี่นา.. ที่คุยกันเป็นเรื่องเป็นราว.. ผมว่า เพราะทุกคนเข้าใจโจทย์ไม่เหมือนกัน.. ถ้าทุกคนเข้าใจโจทย์ตรงกัน.. ผมว่า ..ไม่ต้องคุยกันร้อยกว่าความเห็นหรอก..ได้คำตอบเท่ากันหมด.. จากคุณ : pisity - [ 2 พ.ย. 50 23:56:26 ]

ความคิดเห็นที่ 130 โทษทีครับ.. อ่านสามบรรทัดสุดท้ายของ คห.129 ไม่ละเอียด.. วิธีคิดผมคือ.. ดูข้อกำหนดให้ชัดเจนก่อน.. ในที่นี้คือ.. มันเป็นเรื่องของการเคลื่อนที่.. การเคลื่อนที่มีสองอย่างคือ เคลื่อนที่ด้วยความเร่งเป็นศูนย์ กับเคลื่อนที่ด้วยความเร่งไม่เท่ากับศูนย์ กรณีนี้ น่าจะมีความเร่งเป็นศูนย์ (สมมติเอาเพราะเห็นเป็นโจทย์ ม.สาม) ดังนั้น.. สรุปได้ว่า แรงต้องสมดุลย์ การหาสมดุลย์.. เอ่อ.. เยิ่นเย้อไปไหมเนี่ย การหาสมดุลย์คือ ผลรวมแรงในแนวใดๆ ต้องเท่ากับ ศูนย์ (รวมแบบคิดเครื่องหมายทิศทาง) จากนั้นก็ทำให้ได้คำตอบอ่ะครับ ถ้าคิดในใจไม่ได้ก็ต้องเขียน free body diagram แบบที่ความเห็นข้างบนๆเขียนครับ จากคุณ : pisity - [ 3 พ.ย. 50 12:32:14 ]

ความคิดเห็นที่ 131 คุณ pisity ที่คุณว่ามานั้น มาจาก การมีประสบการณ์ในการทำโจทย์มาบ้างแล้ว จึงสามารถสรุปได้ ทีนี้ ถ้าจะลองคิดแบบ งานกับพลังงานดูบ้างล่ะ จะได้คำตอบแบบเดียวกันหรือไม่ ถ้าได้แบบเดียวกัน แสดงว่า ถูกต้อง ถ้าไม่ได้ แสดงว่า ต้องมีอะไรผิด หรือมีขั้นตอนไม่ถูกต้อง ที่บางท่านเขียนเป็น FBD มานั้น เพื่อให้คำอธิบายกระจ่างแจ้ง เป็นการ ให้เหตุผลกับบางท่านที่เห็นว่า เชือกกะรอกนั้น มันเปลี่ยนทิศของแนวแรงได้ คุณลองคิดแบบ งาน  พลังงานดูนะครับ อาจเห็นภาพอะไรที่แตกต่างออกไปได้ แม้ว่าโจทย์ไม่ได้บอกว่ามันเคลื่อนที่หรือไม่ เราสามารถให้มันเคลื่อนที่ด้วยความเร็วคงที่ได้ เมื่อมันเคลื่อนที่ เราก็สามารถ  คิดแบบ งาน กะพลังงานได้ ลองดูนะครับ  เป็นการตรวจคำตอบไปในตัว ที่ผมตั้งกระทู้นี้มา ไม่ได้หวังว่าจะได้ ตัวเลข 15 หรือ 20 เป็นคำตอบ ที่หวังคือ คำอธิบายโดยกระจ่าง ของเส้นทางของวิธีคิด และ อยากทราบเส้นทางอื่นตามหลักของฟิสิกส์ ว่า สามารถคิดแบบอื่นได้หรือไม่ สามารถหักล้างวิธีคิดที่ไม่ถูกต้องได้หรือไม่ ดังนั้นกระทู้นี้จึงยาว  และมีคนสนใจเข้ามาตอบ  มาอธิบายมากมาย เป็นการถกกันทางความคิด และการให้เหตุผล เพื่อความกระจ่าง มากกว่า การแสดง  "สมการทางฟิสิกส์" เฉยๆ ครับ จากคุณ : น้าพร - [ 3 พ.ย. 50 14:16:02 ]

ความคิดเห็นที่ 132 - -" ห่างหายจากฟิสิกส์ไป หกปี ความรู้ไม่เหลือแล้วเรา จากคุณ : --gIgEEg1g33-- - [ 3 พ.ย. 50 22:27:43 ]

ความคิดเห็นที่ 133 ในระบบที่หยุดนิ่งนี่ (Static) ในทางกลศาสตร์นี่ถือว่า งานเป็นศูนย์ จากโจทย์นี่ ถือว่าระบบไม่มีการเคลื่อนที่ FBD นี่เป็นวิธีที่ถูกและง่ายที่สุดแล้ว ซึ่งกฏของมันมีแค่ ผลรวมของ Fx=0 Fy=0 M=0 ถ้าจะเอาเรื่องพลังงานมาอธิบาย ต้องให้มันเคลื่อนที่ (Dynamic) ลองเปลี่ยโจทย์ใหม่ให้มันเคลื่อนที่ เชื่อว่าน่าจะมีใครมาอธิบายได้ สำหรับผมขอตัว เข้าหม้อมานานแล้ว จากคุณ : Chirayut - [ 4 พ.ย. 50 01:55:28 ]

ความคิดเห็นที่ 134 ผลรวมแรงเป็นศูนย์.. ดังนั้นเอาแรงคูณด้วยระยะการเคลื่อนที่.. (เป็นงาน) ก็ได้เป็นศูนย์ครับ จะแบ่งแรงเป็นแรงขึ้น แรงลง แรงเฉียง ก็จะรวมกันได้ศูนย์เหมือนกัน..เพราะว่า แรงเท่ากัน ต่างทิศ คูณระยะเดียวกัน.. เหมือน F1+F2+F3+..Fn=0 (F1*d+F2*d+F3*d+... Fn*d) ก็ต้องเท่ากับศูนย์ จากคุณ : pisity - [ 4 พ.ย. 50 20:13:17 ]