ความคิดเห็นที่ 1 เราว่าเป็นสถิติ จากคุณ : tanni - [ 8 พ.ย. 50 20:09:26 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เป็นวิชาสถิติ + จิตวิทยา + วาทศิลป์ในการพูดครับ ผมไม่อายหากจะบอกว่าตนเองมีงานอดิเรกเป็น หมอดู ใครๆ เรียกหมอดูได้ ไม่เคยบวชเรียน ไม่เคยต้องสอน อาจารย์ถามๆ ตอบๆ กันปากเปล่านี่แหละ เงินทองก็เก็บไม่เกิน 20 เพียงเพื่อจะให้รู้คุณค่าว่า ตรูมาดูให้นี่ลำบากนะ ไม่งั้นดูฟรีชีวิตท่านหาความสงบสุขลำบากมาก สำหรับผมมันไม่ต่างจากการแสดงมายากล กลทุกกล แบ่งเป็น สามส่วน 1. นักมายากลนำสิ่งธรรมดาออกมา 2. ทำให้มันไม่ธรรมดา เหนือธรรมชาติ เช่น หายไป ล่องหน ลอยได้ ออกมาจากจุดที่ออกมาไม่ได้ หายเข้าไปในสิ่งใดสิ่งนึงซึ่งดูเหมือนว่าจะกลับมาไม่ได้อีกแล้ว เช่นไพ่กลับสำรับไพ่ โยนกระดาษเข้ากองไฟ 3. นำสิ่งที่หายไปกลับมายังที่เดิม กลับสู่สภาพเดิม หมอดูก็เช่นกัน ทุกที่มีแบบคล้ายๆกัน 1. บอกสิ่งที่ท่านรู้ดี แต่หมอดูไม่ควรรู้ ราวกับหมอคนนั้นอ่านใจได้ โดยอาศัยเพียง วันเดือนปีเกิดหรือการเสียงทาย ดูสีหน้าแววตาบุคลิก ก็ทำนายได้ (นำของธรรมดาออกมาวาง) ดูอดีต ดูเรื่องราว ทักเรื่องที่มีแต่ท่านเท่านั้นที่รู้ ขนาดเพื่อนมันยังไม่รู้เลยว่า จริงๆ ตรูจีบน้องส้มเช้ง... รายเก่งๆ สามารถทายธนบัตรในกระเป๋าได้อย่างแม่นยำ แม้กระทั่งบอกจำนวนไฝที่ของลับเลยทีเดียว(จริงๆมีตำราดูนะ) 2. สร้างความเชื่อเหนือธรรมชาติ เช่นเล่าเรื่องราวเมื่อชาติที่แล้วของท่าน เล่าเรื่องโม้อำนาจวิเศษของตนเอง เล่าเกร็ดตำนานโหราศาสตร์ เรื่องตนเองเดินทางไปเขมรมากี่ปี อยู่ที่ใด หรือถามเพื่อนท่าน ทำนายทายทักเรื่องแรงๆ ที่หากผิดพลาดหมอดูอาจโดนถีบได้ เช่น ทักสาวว่าเคยข้องเกี่ยวกับการทำแท้ง หรือทักว่า มีองค์ ทักว่าเคยบนกับเทพไว้แล้วไม่ยอมแก้ เป็นต้น 3. ทำนาย หลังจากท่านๆ เชื่อไป 70% แล้ว ก็เริ่มทำนายอนาคต ซึ่งน้อยคนนักจะจดจำส่วนนี้ ทั้งๆ ที่ท่านแหละมาหาเพราะเรื่องนี้ มีอะไรถามหมด ยิ่งเป็นพวกโหรเขมรคนไทยยิ่งชอบ แล้วก็แนะนำให้สะเดาะห์เคราะห์ทำบุญตามแต่ละคน บ้างก็ซื้อเทียน ซื้อธูป บ้างก็บริจาค เก็บเงิน สารพัด แต่หากหมอดูดีๆ ก็จะให้คำปรึกษาด้วยครับ ส่วนที่สามนั้น เรายิ่งเชื่อในคนหรือตัวตนคนนั้นแล้ว ยิ่งทำตามมากขึ้น แนวโน้มก็จะดี หมอดูส่วนใหญ่มีอายุและมักเป็นคนสังคมจัด เพราะงั้นก็จะสามารถแก้ไขเรื่องของท่านได้ง่ายๆ (คงเพราะไม่ใช่เรื่องตัวเอง เราช่วยตัวเองตอนจมน้ำไม่ได้หรอก จริงมะ) การดูหมอถือเป็น การชดเชยความต้องการสิ่งเหนือธรรมชาติในใจเราครับ เราต้องการ เห็นอนาคต เราทุกคนชอบการคาดเดา หมอดูที่ฉลาดแต่ไม่มีอำนาจวิเศษจะจดจำคำพูดที่ทำให้แม่นเรียกว่า ทัก 10 คน ถูก 8 คนทีเดียว อยากจะบอกว่า คนไทย ผู้หญิงชอบดูดวงมากกว่าผู้ชาย ทว่าผู้ชายกลับแก้บนสะเดาะห์เคราะห์มากกว่า สมัยอยู่มหาลัยผมถือว่ารายได้จากผู้หญิงเยอะมาก แต่การปรึกษาของผู้ชายมากกว่าและมีโอกาสโทรกลับมาขอความเห็นซ้ำ เช่น บอกให้จุดธูป 9 ดอกก็ลืม โทรมาถามใหม่ ปากก็บอกไม่เชื่อๆ ไปวันๆ คนลองดีเยอะครับ ผมเองก็ไม่เห็นอะไรไปมากกว่าคุณ คนไม่เชื่อสุดท้ายก็ไม่เชื่อ สำหรับเจ้าของกระทู้ผมอยากจะบอกว่า มันก็แค่มายากล ผมก็ดูให้เพื่อนๆ เพื่อความสนุกและแก้ปัญหาให้เขา รับฟังเขา เหมือนใช้จิตวิทยาปรึกษา แก้ปัญหาไปเท่านั้น คนไทยหาจิตแพทย์น้อยครับ ก็รู้ว่าหมอดูมีดีมีเลว หมอดูเป็นศาสตร์ มีการจดบันทึกมาเป็น 1000 ปี เหมือนวิชาเล่นแร่แปรธาตุตอนนี้กลายเป็นเคมี ฮวงจุ้ยกลายเป็นวิชาสถปัตยกรรม วิชาโหราศาสตร์ก็คือวิชาสถิตินั่นเองครับ จากคุณ : มิ๊วๆ แมวพันปี - [ 8 พ.ย. 50 21:39:48 ]

ความคิดเห็นที่ 3 พูดมาได้ว่าไม่รู้อะไรไปมากกว่าผมเดี๋ยวเถอะ อ่านดูก็รู้ว่าคุณน่ะมีความรู้ดีถึงขั้นเก่งทีเดียว ตอบได้ดีครับชอบๆ แต่ที่ผมไม่เชื่อก็เพราะผมสังเกตมันบ่อยๆ ก็สรุปเอา มีหลายครั้งผมลองทำในสิ่งที่หลายคนว่าเป็นอัปมงคล แต่ก็ไม่มีอะไรแย่ตามมา เอถ้าอย่างนั้นที่เขาเชื่อก็ไม่ใช่แล้ว และพระพุทธเจ้าตรัสเกี่ยวกับความเชื่อว่าต้องไตร่ตรองให้จงหนัก และการทำนายทายทักเป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าเห็นว่าไม่ใช่หนทางพ้นทุกข์อย่างแท้จริง และเป็นสิ่งไม่บังควร แท้จริง คือ การกระทำ แท้จริงคือจิตใจ แท้จริงเหตุและผล ถึงกระนั้นที่แท้จริงอย่างที่สุดคือทุกอย่างไม่เที่ยง จากคุณ : สหายชาตรี (สหายชาตรี) - [ 8 พ.ย. 50 22:04:04 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เป็นวิชาหลักสถิติ ที่มีการเก็บข้อมูลมาเป็นพันๆมีมาประกอบการทำนาย คล้ายๆการสร้างแบบจำลองทำนายสิ่งต่างๆทางเศรษฐศาสตร์ เก็บข้อมูลรายปีหลายๆปี แล้วเอามาวิเคราะห์สร้างออกมาเป็นแบบจำลองที่ทำนายได้ใกล้เคียงกับความเป็นจริง แน่นอนว่ามันต้องมีผิดพลาด จากคุณ : ซามาโนสุเกะ - [ 8 พ.ย. 50 22:22:49 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เริ่มแล้ว.......เริ่มเข้าใจมากขึ้นขอบคุณครับ จากคุณ : สหายชาตรี (สหายชาตรี) - [ 8 พ.ย. 50 22:43:11 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เคยรับดูดวงไพ่ยิบซีเจ้าค่ะ  โดยหลักใช้สถิติจากการดูไพ่  แต่ที่เหลือจิตวิทยาเพราะดูแป๊ปเดียวก็เสร็จรายนึงไม่เกิน15นาทีเจ้า  แต่หลังจากนั้นบางคนก็จะพล่ามๆ ๆ ๆ เรื่องปัญหาชีวิต  เจอบ่อยๆก็จะชินและแนะนำได้ เช่น มีปัญหาจุกจิกทะเลาะเล็กน้อยกับสามี  เราก็...ให้ใจเย็นนะคะนิ่งนะคะแล้วสามีจะดีขึ้นเองค่ะต้องรอเวลาสักนิด ถ้ามีปัญหาเรื่องเรียนแต่ดูท่าแล้วไม่ตั้งใจเรียนเองติดเที่ยว  เราก็...ลำบากหน่อยนะคะแต่ถ้าพยายามจะฝ่าฟันอุปสรรคได้  แต่ต้องหลีกเลี่ยงอบายมุข เหล้า บุหรี่ หรืออื่นๆที่ไม่ดีค่ะจะช่วยให้ดวงดีขึ้นนะคะ  ไม่งั้นจะดึงดวงคุณให้ต่ำลง (ว่าเข้าไปนั่น -_-') ประมาณนี้แหละจ้า...สถิติ+จิตวิทยาที่เคยใช้อยู่ จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 9 พ.ย. 50 06:11:31 ]

ความคิดเห็นที่ 7 โหราศาสตร์ เป็นวิทยาศาสตร์หรือแค่การคาดเดา 1.เขาเอาอะไรมาเป็นบรรทัดฐาน เอาอะไรเป็นเกณฑ์ 2.เขาใช้สถิติหรือไม่ และมีวิธีคิดคำนวนอย่างไร 3.หรือเป็นเพียงการคาดเดา แบบกว้าง ๆ ประมาณว่าพูดอย่างไรก็ไม่ผิด  เช่น ตอนนี้เก็บเงินไม่ค่อยอยู่ ต้องประหยัดนะ พูดอย่างนี้ยังไงก็ไม่ผิด 4.จากประสบการณ์เพื่อนๆ คิดว่าโหราศาสตร์มีความแม่นยำจริงหรือไม่ 5.และถ้าแม่นยำจริงทำไมเราไม่บรรจุในแบบเรียน  หรือนำไปเป็นบรรทัดฐานในการทำกิจกรรมต่างๆในชีวิตประจำวันอย่างจริงๆจัง --------------------------------------------------------------- 1.  ถ้าหลักวิชาโหราศาสตร์ดวงดาว เค้าเอาสถิตินับแต่โบราณครับ จากการบันทึกเป็นพันๆปี และ อย่างทางภารตะจะเป็นตำราเรื่องของฤษีเป้นครูครับ ผมเองก็เป็นโหรครับ  เค้าว่ากันว่าคนจะเรียนเก่งโหรได้ ต้องเป็นผู้ที่วิชาเลือกเค้าด้วย    และผมก็ชอบมัน เรียนได้ไวด้วย 2.ตามข้อ 1 3 สำหรับผม โหราศาสตณ์ไม่ใช่เพียงการคาดเดา แต่น้อยคนนักที่จะเก่ง และเป็นผู้ที่ควรค่าแก่การเป็นโหร ควรค่าแก่การเป็นผู้ทำนายที่วิชาได้เลือกเค้าแล้ว(ไม่เต็มใจให้มาเลือกเท่าไรหรอกนะบางคนอะ)   ไม่ใช้การคาดเดาแน่ สำหรับโหรจริงๆ โหรบางคน ใช้หลักวิชาเรียนล้วนๆก็ทำนายได้เก่ง โหรบางคน ใช้หลักวิชาร่วมกับ"บางอย่างในตัว" ซึ่งกรณีนี้ผมเคยเจอของจริงแค่หนึ่งคนเท่านั้น(นอกนั้น ปลอมทั้งนั้น) แต่โดยมากโหรปลอมเยอะ พวกไม่รู้เรื่องอะไรเลย แล้วมาเป็นโหร รับทำนาย ทักมั่วๆไป(วิชาก็ไม่แม่น)   ให้เจ้าชะตาเครียดเล่นๆ เป็นวจีกรรมด้วย อย่างโหรดังที่คุณก็รู้ว่าใคร  วิชาไม่ได้เก่งอะไรเลย  แถมต่อให้เก่ง  การ"ผิดจรรยาบรรณที่เคร่งที่สุดของโหรสามข้อ"    จะทำให้วิชาเสื่อมครับ  ครูบาอาจารย์จะลงโทษ  อย่างใครล่ะ ในทีวีน่ะ  ออกมาฟันธงคนโน้นคนนี้คบกันไม่ได้ เลิกกันแน่นอน วิพากษ์วิจารณ์ดวงเค้าออกทีวีซะประจานเเลย  ทั้งๆที่เจ้าตัวไม่ได้"ขอ"ให้ดู โหรนี่ห้ามดูดวงที่เค้าไม่ได้ขอ ยิ่งเอามาพูดดวงเค้าออกสื่อด้วยยิ่งไม่ได้ เป็นกรรม และจรรยาบรรณสามข้อที่ต้องเคร่ง 1.ห้ามทายเรื่องตาย(เพราะเจ้าตัวจะทุกข์สาหัสถ้ารู้ว่าตายเมื่อไร) 2.ห้ามทายเรื่องลูก 3.ห้ามทายเรื่องผัวๆเมียๆที่มีปัญหา และให้มาตัดสินว่าจะคบต่อดีไหมหรือเลิกดี เท่าที่เห็น ผิดจรรยาบรรณกันหมด 555 **โหรแต่ละคน จะเก่งต่างด้านกันไปนะครับ ไม่ใช่โหรแท้ๆทุกคนจะเก่งทุกด้านทายได้ทุกด้าน บางคนเก่งเรื่องทายเงินกับรัก บางคนเก่งเรื่องการงาน   อย่างจารย์ผมคนนึง(แนะนำผมเล็กน้อยน่ะ)   เก่งทายเรื่องตายๆ ผมก็ให้เค้าทายนะ คือ "อนุญาตแล้ว" ก็ฟังเค้าทายมา ก็รู้ตัวว่าตายยังไง มะไร แต่ก็ไม่ซีเรียส ยังไงก็ตายอยู่ดีสักวัน 4.จากประสบการณ์โหรแม่นยำไหม   แม่น ถ้าให้โหรที่ดูเป็นดูจริงๆ หรือ ดูเองด้วย เพราะดวงตัวเอง ตัวเองจะรู้ว่าไปทำไรมา และดาวอะไรแทนเรื่องท่เราทำ และมันกำลังจะหมุนไปไหน แต่ส่วนมาก โหรเก๊ ไปนั่งฟังเค้าทักก็ยิ้มๆ  มันทายอะไรไม่ได้ตรงกับหลักวิชาเลย 5ข้อนี้แหละผมอยากตอบสุดๆ ที่ไม่บรรจุเรียนเป็นวิชาเพราะ 5.1โหรไม่ใช่ทุกคนจะเรียนได้แล้วเก่งจริง มันต้องเป็นผู้มีพรสวรรค์ (หมายถึงความสามารถพิเศษด้านนั้นๆ ไม่ใช่พรจากสวรรค์เบื้องบนนะ ไม่ได้สอนให้งมงายแบบนั้น) 5.2 ให้บรรจุลงแบบเรียนเด็ก   เด็กก็จะงมงายงมโข่งกับดูดวงไปเลยสิ เด็กจะใจอ่อนอยู่แล้ว จิตเค้าใสสะอาด โดยชักจูง เค้าจะไม่เชื่อตัวเอง จะเชื่อดวง แล้วทีนี้จะไม่เป็นอันทำอะไร   ลุ่มหลงวนมัวเมาไปเลย 5.3พระพุทธเจ้าสอนว่าโหราศาสตร์เป็นเดียรัจฉานวิชา(ประมาณนั้น)     แต่อันที่จริง วิชาทุกวิชา ศาสตร์ทุกศาสตร์นอกจากพระธรรม จัดเป็นเดียรัจฉานวิชาหมด   ในมุมมองผม โหรา จึงเป็นวิชาที่ไม่ใช่เดียรัจฉานวิชา แต่เป็นวิชาที่มีประโยชน์มากต่อการดำเนินชีวิต เพราะจะรู้ว่าอะไรเป้นยังไงต่อไป  อย่างล่าสุด ผมดูดวงหญิงคนนึงจะแต่งงาน  หมอดูให้ฤกษ์ 2 ธค   แต่ผมก็บอกว่า ทำให้ตาย จัดงานให้ตายไปเถอะ ไม่ได้แต่งหรอกก่อน 2 ธคน่ะ   แต่เธอแจกการ์ดแต่งไปแล้ว เหอๆ  อยู่ดีพ่อแม่เจ้าสาว ยกเลิกก่อน เคลียร์ไรกันไม่ได้ไม่รุ เพราะฉะนั้นโหราศาสตร์เป็นวิชาที่มีจริง ไม่ใช่จิตวิทยา(แต่ยอมรับว่าการทำนายต้องใช้จิตวิทยาร่วม ไม่ใช่ทายแรงๆไปให้เค้าใจเสีย ต้องรอมชอมใจคนฟังด้วย) เป็นวิชาศักดิ์สิทธิ์ที่สมัยโบราณมีแค่ในวังครับ */******แต่ ขอเน้นว่า โหรา เป็นวิชามีจริง  มีประโยชน์มากมหาศาล ถ้าใช้เป็น ******แต่ถ้าใช้ไม่เป็น ถึงขั้นดูดวงทุกวัน  เชื่อชนิดที่ว่าปักใจจนหลงเข้าไปในเงาของมันแบบเต็มดอก ไม่สนใจโลกจริง ไม่สนใจการกระทำใดๆเลย ดวงอย่างเดียว อันนี้โหราศาสตร์จะเป็นโทษมหันต์นะ คนๆนั้นจะไม่มีความสุขเลยทีเดียว เพราะรู้สิ่งร้ายๆในชีวิตหมด พระพุทธเจ้าสอนให้เรามีสติอยู่กับปัจจุบัน ไม่ใช่ดวง ไม่ใช่กรรมเก่า  ให้ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพราะอดีตแก้ไม่ได้ แต่สิ่งที่กำลังกระทำสิ แก้ไขได้ ส่วนคำพูดที่ว่าทุกอย่างอยู่ที่การกระทำ   มันทั้งผิดและถูก การกระทำมีผลลิขิตสุง แต่ บางอย่าง มันไม่สามารถขึ้นกับการกระทำเราคนเดียว เพราะฉะนั้นบางอย่าง  เราทำดีตอนนี้ก็ได้ ไม่ทำก้ไม่ได้ แต่บางอย่างทำแล้วก็ไม่ได้ เพราะกรรมเก่าขวาง เพราะฉะนั้นการกระทำปัจจุบันสำคัญ แต่กรรมอดีต(ดวง) ก็สำคัญที่จะต้องรู้เท่าทัน ว่า มันจะตามมาเลนงานเรา และ ดลให้เราทำนู่นนี่ไปตามชะตาหรือไม่ ผมพิสูจน์มาเยอะแล้วครับ โหร(ดูหมอมาเป็นร้อย ก่อนมาเรียนเอง)      ไสยศาสตร์ก็เคยเรียนเคยพิสูจน์   กล้าลองดี จนตอนนี้ ไม่เอาแระ  ไม่ใช่กลัว แต่ มันเสียเวลาทางโลก  เวลาสดใสในชีวิตวัยรุ่นครับ ส่วนท่านที่ตอบมาแล้ด้านบนว่าเคยเรียนมา   เคยเรียนโหรระบบภารตะหรือดวงดาวไหมครับ  ใช้วันเดือนปีเวลาเกิด  ถ้าเคยเรียนแล้วบอกว่ามันเป็นจิตวิทยาหลอกคนเล่นๆ ผมจะต้องขอสอบวิชาคุณหน่อยละ อิอิอิ จากคุณ : จักรพรรดิแดนรักทหารErosPhoenix - [ 9 พ.ย. 50 09:53:38 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ส่วนยิปซี ดูแรกๆมักจะแม่น แต่หลังๆจะเสีย เพราะคนส่วนใหญ่ ทำนายแล้วไม่เคารพบูชาหรือทำอะไรให้มันถูกต้อง มนก็จะเหมือนปรามาศเค้า(ครู)  ก็จะพาลเสียเอา ปล.เป็นหมอดู  แย่นะครับ คนที่เป็นโหรต่อให้เก่งเป้นเทพเจ้าก็เหอะ ถ้าทายถุก แม่น แก้ปัญหาให้เค้าได้  เจ้ากรรมนายเวรเค้าจะมาโกรธคุณแทนน่ะสิ ถ้าทายผิด เป้นวจีกรรม เพราะฉะนั้นถ้าไม่พร้อมจะรับผลของมัน ไม่จำเป็น ไม่แม่นพอ อย่าทำดีกว่า เป็นกรรมครับ อีกอย่าง คนมีพรสวรรค์และความพิเศษในตัวที่จะเป็นหมอดู  จะต้องมีข้อด้อยกว่าคนทั่วไปอยู่ ไม่มีอะไรดีอย่างเดียว เสียอย่างเดยีว ดีตรงนี้ มันจะไปขุดเอาตรงอื่นในตัวเราเสียแทน จากคุณ : จักรพรรดิแดนรักทหารErosPhoenix - [ 9 พ.ย. 50 09:56:46 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้ามันไม่ดีจริง ไม่มีอาชีพ"ปุโรหิต" "โหรหลวง" หรอกครับ พระพุทธเจ้าเคยทำนายให้คนอื่นนะ แต่ท่านพูดอ้อม ๆ เช่น กรณีพระเทวทัต มีคนบอกพระพุทธเจ้าว่าพระเทวทัตจะมาหา พระพุทธเจ้าบอกว่า พระเทวทัตจะไม่ได้มาหาอีก แล้วก็เป็นไปตามนั้น ครั้งนึงมีการใส่ร้ายพระพุทธเจ้าข้อหาฆ่าคนตาย แล้วพระพุทธเจ้าบอกสานุศิษย์ว่า"เรื่องจะเงียบภายใน7วัน" แล้วก็เป็นไปตามนั้น พระพุทธเจ้า ก็เคยทำพิธีต่ออายุนะ ครั้งนึงมีลูกของพราหมณ์2สามีภรรยา มีเพื่อนพราหมณ์อีกคนบอกว่าลูกท่านจะตายใน7วัน แล้วพราหมณ์สามีภรรยาก็ไปหาพระพุทธเจ้าให้ช่วยต่ออายุให้ เพราะมียักษ์บริวารท้าวเวสสุวัณจะมาจับเด็กกิน พราหมณ์เลยนิมนต์พระสงฆ์จำนวนหนึ่งมาทำพิธี และเด็กคนนั้นก็อายุยืน พ่อแม่เลยตั้งชื่อให้ว่า"อายุวัฒนกุมาร" ลืมบอก แล้วโหรดี ๆ เขาไม่มาป่าวประกาศหรอก ว่าดวงเมืองปีนี้ คนสำคัญตาย คนนั้นป่วย คนนี้ตาย ประเทศจะมีสงคราม เขาไม่มาป่าวประกาศหรอก แล้วไม่ควรนำมาบอกในโทรทัศน์ด้วย สมัยก่อนเรื่องดวงเมือง เขาทำนายแล้วให้เก็บเงียบในท้องพระโรง ห้ามปากมากไปพูดที่อื่นด้วย แล้วก็ให้ผู้ครองเมืองจัดการ หาทางแก้ไขเองครับ แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 50 11:04:38 จากคุณ : เมื่อไรจะหายเหงา - [ 9 พ.ย. 50 11:04:02 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ความรู้เพียบเลยครับ ดีจัง จากคุณ : phoenixia - [ 9 พ.ย. 50 11:28:46 ]

ความคิดเห็นที่ 12 โหร ยิ่งพวกเป็นพลังจิต ตาที่สามอะไรเนี่ย จะมาทำตัวดัง ตั้งสำนักแบบหมอลักษณ์หรือหมอหยองไม่ได้นะครับ ต้อง"สมถะ"ที่สุด และ ละกิเลส ละชื่อเสียงประมาณนั้น ไม่งั้นมันจะเสื่อมน่ะ จากคุณ : จักรพรรดิแดนรักทหารErosPhoenix - [ 9 พ.ย. 50 12:18:41 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อืม  ผมว่าเขาเอาสิ่งที่มนุษย์ทั่วไป มักจะทำ แต่เอามาบางส่วนสำหรับแต่ละคน ทำให้แต่ละคนถูกทำนายแตกต่างกัน แต่ที่จริงมันถูกต้องกับทุก ๆ คนนะแหล่ะ จากคุณ : อีคิวศูนย์ - [ 9 พ.ย. 50 12:19:07 ]

ความคิดเห็นที่ 14 รีพลาย 11 หายไปไหนอ่า จากคุณ : จักรพรรดิแดนรักทหารErosPhoenix - [ 9 พ.ย. 50 12:20:07 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ของเราเอง แต่ไม่รู้ทำไม มีแต่เรื่องโหราศาสตร์ แต่ถูกลบไปเสียนี่ อ๋อ....พอนึกออกแล้ว มีคำที่ทำให้คนอ่านขวัญอ่อน คือบอกว่าสมัยก่อนวิชานี้เป็นวิชาสำหรับคิงส์ เลยถูกลบมั๊ง (คิดอยู่ตั้งครึ่งวัน) จากคุณ : ชัยบาล - [ 9 พ.ย. 50 21:34:13 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขี้เกียจเขียนซ้ำแล้ว...เซ็ง จากคุณ : ชัยบาล - [ 9 พ.ย. 50 21:35:10 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เวรกรรม ทำไมกดไปแล้วไม่ขึ้น ใครลอคกระทู้ฤ จากคุณ : จักรพรรดิแดนรักทหารErosPhoenix - [ 9 พ.ย. 50 21:48:22 ]

ความคิดเห็นที่ 19 บางครั้งผมเคยลองทำสิ่งที่ทำให้อัปมงคล(ซวย)  คือ ตั้งใจเลยนะ แต่ก็ไม่มี่อะไรเกิดขึ้น   ที่ไม่เชื่อ    มีเหตุผลดังนี้ 1.ผมนี่มนุษย์จอมสังเกต  เห็นตัวอย่างแล้วมักจดจำ นำมาเปรียบเทียบกัน และหลายตัวอย่างปัจจัยเหมือนกัน ผลลัพธ์ต่างกัน 2.เชื่อว่าถ้าเราไม่เชื่อบางสิ่ง สิ่งนั้นก็จะไม่มีอิทธิพลต่อจิตใจเรา  เข้าใจว่าโหราศาสตร์มีผลต่อจิตใจล้วนๆ 3.เมื่อก่อนเชื่อ ราว 80 เดี๋ยวนี้ 1 %  ก็มากเกินไป  แล้วไปเจอหนังสือชื่อ....ปลาที่ว่ายในสนามฟุตบอล.....ของ  วินทร์  เลียววารินทร์  บ้าไปเลย ความเชื่อเมื่อเก่าก่อนถูกหมัดตรงครึ่งจมูกครึ่งปาก อะไรกันนี่ หรือว่าที่ผ่านมาเราเข้าใจผิดทั้งหมด ก็เลยต้องคิดใหม่   .............................ตามความเห็นของจักรพรรดิฯ  ผมก็เชื่อว่าสถานการณ์โดยทั่วไปเราไม่อาจกำหนด  แต่พระพุทธเจ้าตรัสว่า กรรมใดใครก่อฯ  ผมก็เข้าใจว่า กรรมเป็นของใครของมัน ก็เลยเข้าใจต่อไปอีกว่า  ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่  เราต้องเป็นเราที่อยู่แบบต้องคิด ต้องทำ ในสิ่งที่เหมาะที่ควร เรื่องดวงอะไรไม่สน  แม้ว่าจะมีอยู่จริงหรือไม่ก็ตาม.......ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเหตุให้...................                                                                          ต้องคิดใหม่ จากคุณ : สหายชาตรี - [ 10 พ.ย. 50 00:20:36 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ลองเปิดใจดูนะครับ ผมลองดูย้อนหลังหลายๆปี ผมว่ามันบอกแนวโน้มได้บ้างเหมือนกัน โปรแกรมฟรีต่างๆ อย่าไปเสียตังค์แพงๆ แต่ผมว่าก็เปลี่ยนได้ครับ แต่ต้องออกแรงทำอะไรไป อย่างช่วงที่ผ่านมาผมต้องการ การอยู่นิ่งเฉย ไม่โต้ตอบอะไรกับใคร เรื่องที่ร้ายมันเบาลงไปเยอะทีเดียว แต่ก็ยังมีอยู่ แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 50 01:30:28 จากคุณ : น้องหมาตัวนั้น - [ 10 พ.ย. 50 01:29:23 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขออภัยที่ความเห็นที่  19  ลืมใส่คำว่า  คุณ จักรพรรดิแดนรักทหาร ครับ ลืมคำว่า  คุณ  ครับ  ขออภัยด้วยอย่างยิ่งขอรับ จากคุณ : สหายชาตรี - [ 10 พ.ย. 50 08:10:20 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เมื่อก่อนไม่เชื่อครับ แถมชอบลองดีอีกด้วย คนที่เรียนจิตวิทยามาจะรู้ว่ามีคำพูดโดยรวมๆแบบกลางที่จะโดนคนฟังแน่ๆอยุ่ ยิ่งถ้าคนๆนั้นชำนาญในการใช้ภาษาบวกเข้าไป โอกาสเดาให้ใกล้เคียงมีสูง โดยเลือกที่จะเดาส่วนที่ค่อนข้างแน่ใจไว้ก่อน ถ้าเข้าลอคคนฟังจะเริ่มเชื่อทีนี้ตะล่อมทายต่อได้เลย เพราะแรกๆคนทายชอบให้ทายตัวเอง ยิ่งพูดแบบรู้ว่าเขาเป็นคนยังไง นิสัยยังไงนี้ โอ้โหรู้สึกแม่น ผมเองเคยใช้มุขเรื่องดูดวงแบบนี้บ่อยๆ ในสมัยเรียน เพราะสาวๆชอบดูดวง และทำให้เราุ้ข้อมูลเขาจากการพูดคุยมากขึ้น ทำให้เพื่อนๆหนุ่มนิยมไหว้วานมากๆ เพราะแบบนี้เลยไม่ค่อยเชื่อหมดุ ตามเหตุผลข้างต้น แต่ตอนหลังเชื่อ เพราะได้เจอของจริงที่สามารถทายแบบอัศจรรย์ใจ เพราะบางเรื่อง คนอื่นไม่รู้ แต่เรารู้คนเดียว และหลายเรื่องยังไม่เกิด แต่เมื่อรอสอบเหตุการณ์อยุ่ก็เกิดขึ้นจริง ไม่สามารถหาเหตุผลอื่นมาแย้งได้ คนที่ดุให้ผมบอกว่าวิชานี้มีอยุ่จริง เพียงแต่คนที่ไปหากินนั้น จะสามารถอ่านดวงได้แตกฉานขนาดไหน เดี๋ยวนี้ผมยังเลือกที่จะฟังหมอดูเป็นรายๆไป เพราะ ดวงมีอยู่ เพียงแต่คนอ่านดวงตีแตกหรือเปล่า ส่วนใหญ่คนที่ผมรู้จักว่าเก่งและแม่นกลับเป็นคนที่ไม่ได้ประกอบอาชีพหมอดู เขาจะเอาไว้ดูในบ้าน ในธุรกิจส่วนตัวเงียบๆ ถือเป็นวิชาประจำบ้านก็มี และก็หวงมากไม่ค่อยยอมบอกง่ายๆ เป็นเรื่องไม่น่าเชื่อพอสมควรครับ แต่ยังไงก็ตาม วิธีการใช้ชีวิตของเราเป็นเรื่องสำคัญสุดครับ พุทธศาสนาสอนว่ากรรมที่เรากระทำปัจจุบันนี้แหละชี้อนาคต และผมก็เชื่อว่าการกระทำในปัจจุบันของเรา มันมีผลต่ออนาคตของเรามากกว่า 70% ปล.เคยได้ยินว่า โหราศาสตร์ในเมืองนอกมีเรียนเป็นหลักสูตรปริญญาตรีนะครับ ใครทราบรายละเอียดช่วยมาแจงต่อด้วย จากคุณ : granun - [ 10 พ.ย. 50 13:14:35 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ผมเองก็ชอบดูให้ตัวเองครับ กับดูให้คนอื่นตามเวป ดูฟรีๆน่ะ คือช่วยคนด้วยและทบทวนปัญญาตนด้วย    แต่หลังๆชักจะมีคนมาดูมากเกิน   ผมนิสัยเสีย ดูได้ ดูดี แต่ มักจะดูตามอารมณ์ คือ มีจิตใจจะดูก็ดู ไม่มีอารมณ์ก็ไม่ดูซะงั้น เพราะถ้าไม่มีอารมณ์ดูแลวไปดูเมื่อไร ผมบอกได้ทันทีตั้งแต่เจ้าชะตายังไม่ตอบกลับผลการทำนายว่า ไม่แม่นแหงๆ มันเกี่ยวกับจิตผู้ทำนายด้วยงับ แล้วหมอดูที่เก่งๆมักจะไม่ไปทำตัวแบบในทีวีหรอก เพราะ มันผิดจรรยา ที่จะเอาดวงคนอื่นไปป่าวประกาศฉอดๆไปทั่วประเทศ จากคุณ : จักรพรรดิแดนรักทหารErosPhoenix - [ 12 พ.ย. 50 02:28:26 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เคยรู้ว่าในโรงเรียนนายทหารชั้นสูง (รร.เสธ.) ของกองทัพอากาศ มีสอนในหลักสูตรด้วย และเคยรู้ว่าที่เยอรมันมีหลักสูตรสอนทั้ง ในโรงเรียนปกติ และโรงเรียนทหาร โหราศาสตร์ยูเรเนียน เกิดมาจากเยอรมัน เคยอ่านหนังสือแปลมาจากยุทธการของเยอรมัน ในการต่อสู้กับฝ่ายพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยการดักทางด้วยโหราศาสตร์ จากคุณ : ชัยบาล - [ 12 พ.ย. 50 10:48:20 ]