ความคิดเห็นที่ 1 พลังงาน ลม จากคุณ : Atomic Secret - [ 12 พ.ย. 50 15:03:59 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ลมที่ไหน มาปั่นกังหันคับ แล้วมันพอทั้งจังหวัด ที่ตั้งของกังหัน ประเทศเราไม่ได้มีอากาศรุนแรงขนาดนั้น จากคุณ : Nitty.M - [ 12 พ.ย. 50 15:12:04 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เท่าที่รู้มา เทคโนโลยีไฟฟ้าที่เกี่ยวกับลม ส่วนใหญ่จะเป็นโนฮาวของประเทศที่มีกระแสลมแรง อเมริกา, ยุโรป เกือบทั้งหมด ซึ่งไม่สามารถนำมาใช้ให้ได้ผลสมบูรณ์ในไทยได้เพราะเราอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูต มีกระแสลมปานกลางตลอดปี แต่ถ้าเราสามารถพัฒนาเทคโนโลยีพลังลมของเราขึ้นมาเองได้ และได้รับการผลักดันจากทุกภาคส่วนของสังคมให้มีเป้าหมายร่วมกัน เชื่อว่าด้วยศักยภาพที่เรามีอยู่ เราสามารถตั้งเป้ายุติการใช้พลังงานจากฟอสซิลเพื่อผลิตไฟฟ้าได้ในเวลาอันไม่นานนัก โดยไม่ต้องพึ่งพาพลังงานที่สกปรกกว่าแบบนิวเคลียร์ แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 50 15:29:29 จากคุณ : อิ่มบุญครับ - [ 12 พ.ย. 50 15:27:11 ]

ความคิดเห็นที่ 4 กังหันลมเขาัมีชื่อเล่นว่า Bird's Guillotine ถ้ารณรงค์กันมากๆเดี๋ยวผมปลุกระดมนักอนุรักษ์สัตว์ไปประท้วงเอง ^^ คิดเล่นๆก็ร่วมมือกับจีน ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย วิจัย Space Elevator แล้วก็เอา Solar Cell ไปติดบนนั้น คอยส่งไฟฟ้ากลับมาก็พอครับ จากคุณ : Nexus - [ 12 พ.ย. 50 15:44:02 ]

ความคิดเห็นที่ 5 คุณอิ่มบุญคับ ผมเห็นด้วยนะ แตมันเป็นทฤษฎี ทำไม่ได้ แต่มันตรงไหนละคับ เทคโนโลยีจะดียังไง ที่ดีที่สุด คือปั่นแล้วไม่เสียพลังงานเลย เช่น รับจากลม ร้อย% กลายเป็นไฟร้อย% แตถ้า ต้นทุน คือลมมันน้อยมาก เช่น คุณทำงานได้เดือนละห้าพัน แม่คนจะไม่ใช้เลยซักบาท เก็บทุกเดือนยังไง  ก็ไม่พอที่จะซื้อเบนซ  ยี่สิบล้านภายในห้าปี แต่ถามว่านะตอนนั้น คุนมีเงินเยอะมั้ย คุณมีเยอะคับ อีกอย่างเป็นไปได้มั้ย ที่ไม่ใช้เงินเลยในห้าปีแม้ว่า โดยไม่มีเหตุกิเลสใดๆ ให้ใช้เงิน จะทำไงต้องเปลี่ยนงานที่มันได้เดือนละห้ามื่นใช่ปะถึงจะได้ ผมเทียบถึงว่ากรณีนี้ คุณหมายถึงลมที่แรงสุดไนไทย ดดยไม่คิดวันที่ไม่มีลม ประสิธฺภาพกังหันลดลง  แค่นี้ก็ยังไม่พอ เขตอำเภดเลยคับ ก็ไร้ค่า จะเอาสิบดอกเตอร์ ก็สร้างลมเทียมไม่ได้ เพราะบ้านเราไม่มีลมแรงขนาดนั้น นี่ขนาดยังไม่คิดด่าต้นทุนพลังงาน ว่าแพงมากมั้ย จากคุณ : Nitty.M - [ 12 พ.ย. 50 15:50:25 ]

ความคิดเห็นที่ 6 โอ้โห คุณ Nexus กว่าโครงการ Space Elevator จะสำเร็จ เราไม่ตายกันไปแล้วเหรอครับ จากคุณ : Autster - [ 12 พ.ย. 50 15:51:34 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอเหตุผลตามความจริงด้วยคับ ไม่เอาแค่คิดว่า หรือตามหนังสือ เพราะผมก็รู้ว่าประหยัดไฟ ยังไงก็ดีที่สุด แต่ก็ทำไม่ได้ ในความเปนจริง จากคุณ : Nitty.M - [ 12 พ.ย. 50 15:52:15 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อภัยนะคับ ถ้าผมเข้ามาก็จะค้าน เพื่อคนอื่นจะได้ หาข้อมูล มาค้านผมอีก มันจะได้ มีไอเดียและเหตุผล ที่คนมาอ่านก็จะได้อะไนบ้าง เนซัสครับ มันทำจิงแล้ว ส่งไฟยังไงคับ เพราผมเห็น ขนาดสถานีอวกาสยังอันเบอเรอใช่แค่ในยานนิดเดียว ของจิงคงเป็นเป้าล่ออุกาบาตอย่างดีเพราะมันคงโตมาก แล้วราคา ไม่น่าจะถูกกว่านิวเลคลียร์แน่ จากคุณ : Nitty.M - [ 12 พ.ย. 50 15:59:25 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ทุกวันนี้ก็ ซื้ไฟ ใช้มะช่ายเหรอ งับ จากคุณ : นายโอ้นโต้น - [ 12 พ.ย. 50 16:00:09 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ... รู้กันหรือยังว่า...ใน 10 ปีข้างหน้า เราต้องการไฟฟ้าเพิ่มเติมกันสักเท่าไร?    . ข้อมูลจาก แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ.2550-2564 (PDP 2007) ได้ประมาณการความต้องการไฟฟ้าเพิ่มไว้เป็น 3 แผน แผน H ในกรณีที่ต้องการมากที่สุด ต้องผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 36,790 MW แผน L ในกรณีที่ต้องการน้อยที่สุด ต้องผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 27,430 MW แผน B ในกรณีที่ต้องการระดับปกติ ต้องผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 31,790 MW ซึ่งในทั้ง 3 แผนนี้.... กำหนดให้มีโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ 4,000 MWe จำนวน 1 แห่ง โดยไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์จะมีสัดส่วนเฉลี่ยเพียง 12.67% เท่านั้น จะเห็นได้ว่า.... สัดส่วนของไฟฟ้าที่มาจากพลังงานนิวเคลียร์...มีจำนวนไม่มากเท่าใดนัก ยิ่งเมื่อนำมาคิดรวมกับ...จำนวนพลังงานไฟฟ้าทั้งระบบที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน จะยิ่งเป็นปริมาณสัดส่วนที่น้อยลงไปอีก หากเราต้องการจะหลีกเลี่ยง.....การก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ โดยที่จะไม่ก่อให้เกิด ภาวะการขาดแคลนพลังงานไฟฟ้าภายในประเทศ ......ก็ยังมีโอกาสเป็นไปได้ ... จากคุณ : nunimitr - [ 12 พ.ย. 50 16:31:24 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เริ่มต้นจากจุดเล็กๆ 1 จุด หลายๆจุดรวมกันก็เป็นสีๆๆๆได้ ตอนนี้ที่เราทำได้ ก็คือ ประหยัด เท่านั้นครับ ผมคิดว่าประเทศไทยตอนนี้รู้สึกป่วยเอาการเหมือนกัน หลายๆอย่างมาประจบเหมาะกัน น้ำมันแพง รถยนต์ก็ขายถูก ( ดาวน์ต่ำผ่อนยาว) คนก็แห่กันไปซื้อ หรือถ้าไม่มีเงินก็ไปขึ้นรถเมล์ แต่ก็รู้ๆกันอยู่ว่าเป็นยังไง ระบบการขนส่งห่วยแตกไม่พัฒนาเลย รถไฟฟ้ากว่าจะสร้างเสร็จก็นานแถมต้องทยอยๆกันสร้าง ( เงินน้อยต้องกู้เค้า แถมกู้ลำบากอีก) การเดินทางใช้เวลานานเพราะรถติด รถเยอะ  ระบบการขนส่งของเราก็แย่ ล้าหลัง คนขับรถเมล์ก็ดีมั่ง ไม่ดีมั่ง มีข่าวเหยียบกันตายก็บ่อย   อาจจะออกทะเลกันไปนิด แต่ผมก็คิดยังงี้จริงๆ มันเหมือนเป็นวัฏจักรที่มีผลกระทบต่อๆๆกันไป แต่ยังไงผมก็ยังอยู่ได้เรื่อยๆ ศรีทนได้ พลังงานตอนนี้ยังพอต่อการใช้ แต่วัตถุดิบที่นำมาผลิตยังเสี่ยงอยู่มาก เพราะเราพึ่งพาแต่ก๊าซธรรมชาติเป็นส่วนใหญ่  การที่จะทำโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เลย มันเป็นไปไม่ได้ ต้องศึกษาให้ดีก่อน แถมความคิดของคนไทย ส่วนใหญ่ยังไม่ยอมรับกับแนวคิดนี้ เพราะอะไรก็คิดเอาเอง.... แถมจะสร้างก็ต้องใช้เวลานานพอสมควร ผมสนับสนุนให้สร้างนะ ขอให้มีมาตรฐาน และความรับผิดชอบ ส่วน หน่วยงาน(โง่) หรืออะไรก็ตามแต่ ก็ลองคิดถึงอนาคตของชาติบ้าง ถ้าไม่ให้ทำก็ลองเสนอทางเลือกอื่นที่เข้าท่าสิ ไม่ใช่ห้ามๆๆๆอย่างเดียว จะลบก็ได้นะครับ มันคือความคิดเห็นที่ลมๆแล้งๆ น่าเบื่อหน่าย จากคุณ : คาถาป้องกันแห้ว - [ 12 พ.ย. 50 16:33:43 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณ คุณ Nitty.M มากครับ ที่ให้ความสนใจเสียงคัดค้านเล็กน้อยที่ผมมี    แต่อยากชี้แจงว่าถึงตอนนี้ กังหันลมของไทยที่คนไทยพัฒนาขึ้นมาให้เหมาะสมกับสภาพภูมิศาสตร์ของไทย ก็ได้ประสิทธิภาพที่แบบที่เรียกได้ว่าประสิทธิภาพเต็มร้อยและใช้งานจริงได้แล้ว    ออกตัวก่อนว่าผมเองก็ไม่ได้มีเอี่ยวอะไรกับผู้ผลิตกังหันลมไทยเจ้านี้นะครับ แต่ผมเพียงแต่อยากให้ช่วยกันพิจารณาว่ายังมีทางเลือกอื่นๆที่เป็นไปได้ในการเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ ลงทุนครั้งเดียวเหมือนกัน แต่ค่าบำรุงรักษาถูกกว่า ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะแก่ลูกหลานในอณาคต    ตัวผมเองในมือยังไม่มีตัวเลขอะไร แต่อยากให้คนที่มีตัวเลขในมือ ลองเอาตัวเลขมาเปรียบเทียบดู โดยส่วนตัวผมสมมุติว่าถ้าหากว่าเราสามารถตั้งกังหันลมสามแสนตัวเพื่อให้ได้กำลังผลิตไฟฟ้าเท่ากับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์หนึ่งโรง โดยที่ต้นทุนของกังหันลมสามแสนตัวนั้น เท่ากับต้นทุนในการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์หนึ่งโรงเช่นกัน ผมก็อยากสนับสนุนให้เราตั้งกังหันลมมากกว่า เพราะเหตุว่าในระยะยาวต้นทุนในการบำรุงรักษาจะถูกกว่ากันมาก ยังไม่นับรวมถึงมาตรการในการรักษาความปลอดภัยด้วย    โดยส่วนตัวขอออกตัวอีกนิดหนึ่งว่า ที่จริงผมเคยใช้ชื่ออื่นในห้องนี้เพื่อนำเสนอผลงานวิจัยเกี่ยวกับเรื่องพลังงานทางเลือก แบบว่าอยากได้ความเห็นน่ะครับ แต่เพื่อนๆในห้องนี้ก็ฮากันตรึม(อย่างที่นึกใว้เลย)กับไอเดียผม ก็เลยไม่ได้นำเสนออะไรอีก ตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนเตรียมขอจดสิทธิบัตรอยู่ ได้ผลรวบยอดสุดท้ายเป็นอย่างไรแล้วจะมาเล่าให้ฟังครับ    อีกส่วนหนึ่ง แค่เห็นบทเรียนที่เชอร์โนบิลเมื่อสิบกว่าปีก่อนแล้วผมแหยงครับ แม้แค่โอกาสที่มันจะเกิดขึ้นมีเพียง 0.01% ผมก็ไม่อยากให้ลูกหลานในอณาคตมันเสี่ยงกัน ทุกวันนี้พื้นที่ตรงนั้นไม่ทราบว่ากี่สิบกี่ร้อยตารางกิโลเมตร ยังใช้ทำประโยชน์อะไรไม่ได้เลยครับ    สุดท้ายนี้ ผมเองยังไงก็ยังอยากฟังข้อคิดเห็นจากฝ่ายสนับสนุนอยู่นะครับ สังคมเราเจริญขึ้นมาได้พอสมควรแล้วเพราะพวกเราทุกคนที่เป็นสมาชิกในสังคม ผิดถูกอย่างไรติติงทักท้วงได้ครับ ยินดีรับฟังคำติติงด้วยจิตใจผ่องใสครับ จากคุณ : อิ่มบุญครับ - [ 12 พ.ย. 50 16:42:18 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ลืมแปะลิ้งค์ครับ ขอโทษที http://lecturer.eng.chula.ac.th/fmessp/YouKnow/WF/windfarm.html อันนี้ของผู้ผลิตในไทยที่ผมกล่าวถึง รู้สึกว่าจะมีอยู่เจ้าเดียว อันที่จริงถ้าเราสนับสนุนให้มีหลายๆเจ้าแล้วออกเป็นกฎหมายให้มีมาตรฐานการผลิตเดียวกัน ผมเชื่อว่าราคาต่อหน่วยจะถูกลงได้อีกเยอะครับ http://thaiwindfarm.com/aticle1.html จากคุณ : อิ่มบุญครับ - [ 12 พ.ย. 50 16:53:13 ]

ความคิดเห็นที่ 14 คุณอิ่มบุญครับ ถ้ากังหันลมที่ว่า ถ้าสามารถพัฒนาโดยใช้ลมเพียงเล็กน้อยแต่สามารถผลิตได้มากพอสมควร และมีราคาถูก ผมว่าน่าจะมีนโยบาย ตั้งฟาร์มวินส์ (จากกระทู้ก่อนหน้านี้) ประจำหมู่บ้านเลย เอามารวมๆเป็นจุดๆเดียวกันแล้วทำสายส่งเข้าระบบสายส่งในหมู่บ้าน เก็บทุกบ้านในอัตราส่วนการใช้ไฟของแต่ละบ้าน (เหมือนมิตเตอร์วัดไฟ) หรือไม่ก็ติดมันทุกบ้านเลย (ผมชอบนะ ลงทุนครั้งเดียวได้ใช้ไฟฟรีตลอดชีวิต) ทีนี้ทุกคนก็จะพยายามใช้ไฟเท่าที่กังหันลมจะผลิตได้ (ถ้าต้องการเพิ่มก็ติดเพิ่ม)   เสียอย่างเดียว ติดเรื่องลมนี่สิ ตอนนี้มันยังทำให้เป็นยังที่คิดไม่ได้ ไม่ยังงั้น พลังงานนิวเคลียร์ไม่ต้องพูดถึง (กรณีติดตามบ้านนะครับ) สถานที่ใหญ่เช่นห้าง ฯลฯ ก็ใช้ระบบไฟฟ้าเหมือนเดิมไปก่อน แต่คิดๆดู บ้านเรือนก็เยอะนะครับรวมๆกันคงประหยัดไปเยอะ คงทุ่นการใช้พลังงานจากเดิมๆได้โขเลย จากคุณ : คาถาป้องกันแห้ว - [ 12 พ.ย. 50 16:59:38 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อันนี้เป็นลิ้งค์ข้อมูลเกี่ยวกับกระแสลมโดยเฉลี่ยทั้งปี http://www.tmd.go.th/climate/climate.php เอามาแปะให้ดูเฉยๆ เพราะระบบของผมไม้ได้พึ่งพาข้อมูลตัวนี้ แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 50 11:39:07 จากคุณ : อิ่มบุญครับ - [ 12 พ.ย. 50 17:03:39 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เรียนเพื่อนชาวเวบทุกคน ตอนนี้ กฟผ. เองก็กำลังทำงานหนักเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่คุณ คาถาป้องกันแห้ว เอ่ยถึงนะครับ ผมเห็นว่า ถ้าภาครัฐและเอกชนสนับสนุนกันให้จริงจังขึ้นไปอีก เชื่อว่าไม่เกินห้าปีนับจากนี้ ภาคชนบทของเราคงได้เลิกพึ่งพาพลังงานไฟฟ้าจากฟอสซิลโดยสิ้นเชิงนะครับ จากคุณ : อิ่มบุญครับ - [ 12 พ.ย. 50 17:08:45 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เอ่อ ผมไม่มีข้อมูลทางวิชาการนะครับ แต่ผมอ่านข้อคิดเห็นของเจ้าของกระทู้ตั้งแต่ข้อ 1-11 แล้ว ทำไมมันมีปัญหาในทุกทางออกเลยล่ะครับ ถ้าเปลี่ยนเป็นทุกปัญหามีทางออกไม่ดีกว่าเหรอครับ วันนี้เรายังไม่เจอทางออกแต่ในอนาคตหากเรายิ่งค้นคว้า เราก็จะเจอทางออกก็ได้นี่ครับ จากคุณ : oj_nui - [ 12 พ.ย. 50 17:13:51 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 12 พ.ย. 50 17:21:04 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นว่าคนผลิตเค้าบอกว่า กังหันเค้าต้องการกระแสลมต่ำสุดที่ 3-4 เมตร /s อย่างนั้น ริมทะเลบ้านเราก็ติดได้ทั้งหมด ในชนบทก็บนยอดเนิน - ปลายดอย ก็ติดได้หมด บริเวณใหนมีลมสมำเสมอ ก็ตั้งเป็น สามร้อย - สี่ร้อย หน่วย ให้เป็นวินด์ฟาร์ม เพื่อใช้งานทั้งจังหวัด อาจจะส่งไปขายจังหวัดข้างๆที่มีกระแสลมอ่อนกว่าแต่มีความต้องการไฟสูง มีความเป็นไปได้ครับ    ช่วยกันคิดนะครับ ถึงแม้เราจะทำให้มั่นใจได้เรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ แต่ถึงอย่างไรผมก็ไม่อยากให้ลูกหลานของเราไปเสี่ยงกับกากกัมมันตภาพรังสีอยู่ดีนะครับ ผิดพลาดอะไรขึ้นมาอนุชนรุ่นหลังเค้าจะว่าพวกเราได้ จากคุณ : อิ่มบุญครับ - [ 12 พ.ย. 50 17:24:34 ]

ความคิดเห็นที่ 20 กังหันลมที่ผลิตระดับ 4Gigawatt นี้จะสะสมพลังงานในรูปแบบใดก่อนนำมาใช้ครับ? เพราะเป็นพลังงานที่ต้อง Buffer ก่อนใช้งาน -สูบน้ำไปเก็บ -ผลิต H2 -Battery .... จากคุณ : ยัยปุย - [ 12 พ.ย. 50 17:26:36 ]

ความคิดเห็นที่ 21 นิวเคลียร์ใช้ไฟถูกเหรอ แต่ค่ากำจักกากราคาแพงมหาศาล ซึ่งเป็นราคาที่รุ่นลูกเราต้องจ่าย จขกท. ยอมเหรอ วันนี้ได้ใช้ไฟถูกจริง แต่ถึงรุ่นลูกจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าไฟ จากคุณ : S2O - [ 12 พ.ย. 50 18:39:48 A:124.120.160.48 X: TicketID:158886 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ผมชอบแนวคิดที่ออกแบบ ตัวเพิ่มแรงลมอะครับเท่ดี จากคุณ : OutBlazed_Gunner - [ 12 พ.ย. 50 19:16:38 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ถ้าแบบว่าให้ลดลงครึ่งหนึ่งนี่ผมว่าพอไหว โดยเอาไฟฟ้านี่แหละเป็นต้นทุน เช่นลงทุน 1000 w แต่สามารถผลิตพลังออกมาใหม่ได้ 2000w เป็นต้น ด้วยวิธีกลบางอย่าง พลังแบบฟรีจริงๆคงยาก อิ อิ อิ... จากคุณ : ไอ้หวัง - [ 12 พ.ย. 50 19:35:06 ]

ความคิดเห็นที่ 24 #21  ตอนนี้น่าจะเรื่องความมั่นคงทางพลังงานเป็นหลักน่ะครับ  ราคาเป็นเรื่องรอง กังหันลม อาจช่วยได้นิดหน่อย ไม่กี่ %  แต่มีก็ย่อมดี  แต่ก็ไม่พออยู่ดี ถ้าดูความมั่นคงให้พอเพียงกับความต้องการแล้ว  อาจต้องมีหลาย โรงด้วยซ้ำ จากคุณ : ยัยปุย - [ 12 พ.ย. 50 20:09:02 ]

ความคิดเห็นที่ 25 การจัดหากำลังผลิตไฟฟ้าใหม่แบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงปี 2550-2553 มีโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างรวม 7,885.25    เมกะวัตต์ ในจำนวนนี้เป็นโรงไฟฟ้าในความรับผิดชอบของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยจำนวน 2,840 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าใหม่จากผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (IPP) จำนวน 3,541.25 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) จำนวน 147.3 เมกะวัตต์ รับซื้อไฟฟ้าจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว 920 เมกะวัตต์ โครงการ CHP (ผลิตไฟฟ้าและไอน้ำ) จำนวน 355 เมกะวัตต์ และโครงการพลังงานหมุนเวียน (RPS) ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยผลิตเองอีก 81.7 เมกะวัตต์ ส่วนแผนการจัดหากำลังไฟฟ้าช่วงที่ 2 (พ.ศ.2554-2564) กระทรวงพลังงานวางแผน การรับซื้อไฟฟ้าในระยะ แรกจากผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่จำนวน 3,200 เมกะวัตต์ ที่มา http://www.energy.go.th/th/ipp/ipp02-notice.jpg จากคุณ : KYC - [ 12 พ.ย. 50 21:16:43 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ค่ากำจัดกากแพงมหาศาล ถามจริงเหอะมั่วเอาเองหรือปล่าว มีข้อมูลจริงๆน่ะหรือ ศึกษาหน่อยไหม หรือจะตะบี้ตะบันเชื่ออย่างนี้ จากคุณ : rdo - [ 12 พ.ย. 50 21:48:48 ]

ความคิดเห็นที่ 27 น่าจะเอาพลังานชีวมวลจากขยะเอามาทำก๊าซมีเทนมาปั่นไฟ ได้ประโยชน์สองต่อ ได้ไฟฟ้า กำจัดขยะ แต่คงต้องสร้างวินัยให้ชาวบ้านช่วยแยกประเภทขยะที่ย่อยได้-ไม่ได้ ให้ได้ครึ่งนึงของญี่ป่นก็ยังดี แต่พวกกรีนพีชจะยอมรึเปล่าอ่ะมีเทนเป็นก๊าซเรือนกระจก+ ไม่มีชาวบ้านคนไหนอยากให้มีกองขยะอยู่ใกล้บ้าน และนิสัยเสียของคนไทย...มักง่าย อย่าว่าแต่แยกประเภทขยะเลย แค่ลงถังขยะก็บุญแล้ว และสุดท้ายก็รัฐบาลไม่ส่งเสริมอย่างจริงจัง โครงการของในหลวงท่านพัฒนาไว้ก็ไม่ทำ เซ็ง จะเอานิวเคลียร์ให้ได้ แล้วกากนิวเคลียร์ล่ะจะเอาไปซุกกองขยะเหมือนแท่งโคบอลต์รึเปล่า ลืมกันรึยังครับที่คนเก็บขยะดันไปเจอเข้า ขนาดแท่งโคบอลต์ไม่กี่มัดยังไม่มีปัญญาจัดการเลยแล้ว กากนิวเครียร์วันละเป็นกิโล จะเอาไปทิ้งที่ไหน มีบริษิทรับไปจัดการ? ไม่เกิน3ปีคงได้เจอในอ่าวไทยชัวร์ เอาไปทิ้งในบ้านคนที่เสนอน่าจะดีกว่าเนอะ จากคุณ : Kimba - [ 12 พ.ย. 50 21:54:40 ]

ความคิดเห็นที่ 28 อิ่มบุญครับ ครับ พอจะแย้มๆงานวิจัยอีกรอบได้ไหมครับ ตกข่าว จากคุณ : หน้าน่วม - [ 12 พ.ย. 50 22:01:48 ]

ความคิดเห็นที่ 29 #26 คุณ rdo ^ ^ ค่าใช้จ่ายในการกำจัดกากเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ มันไม่ได้เฉพาะแพงมหาศาลอย่างเดียวนะครับ มันยังต้องใช้ระยะเวลาเป็นหมื่นเป็นแสนปีด้วย -------------------------------------------------------- อันนี้เรื่องค่าใช้จ่าย สหรัฐมีค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บกากเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ จำนวน 55,000 เมตริกตัน ในแหล่งจัดเก็บเทือกเขายูม่า $495 million http://www.whitehouse.gov/news/releases/2007/06/20070621-12.html อันนี้ระยะเวลาที่ต้องจัดเก็บกากปฏิกรณ์ Plutonium-239 “spent” fuel will remain hazardous to humans and other living beings for hundreds of thousands of years. Other radioisotopes will remain hazardous for millions of years. http://en.wikipedia.org/wiki/Nuclear_waste#Physics -------------------------------------------------------- ส่วนอันนี้.... กรรมวิธีกำจัดกากปฏิกรณ์ของพ่อค้ายูเรเนียมรายใหญ่ของโลก http://www.uic.com.au/wast.htm ผมชอบมากเลยนะข้อความนี้....เขารู้จักรับผิดชอบ Nuclear power is the only energy industry which takes full responsibility for all its wastes, and costs this into the product. จากคุณ : nunimitr - [ 12 พ.ย. 50 22:43:09 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เรียนคุณ คห.28      ต้องขออภัยเป็นอย่างสูงใว้ ณ.ที่นี้ครับ ไม่สามารถแย้มรายระเอียดได้เลย ขั้นตอนอยู่ระหว่างการเริ่มกระบวนการขอสิทธิบัตรคุ้มครองสิทธิ พูดอะไรไปในนี้จะมีผลในทางกฎหมาย แต่บอกได้เพียงว่าเป็นกรรมวิธีง่ายๆ ง่ายมาก ง่ายจนศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัยใหญ่ๆของโลกคิดไม่ถึงและไม่กล้าคิด แต่จะเป็นคำตอบทั้งหมดทั้งมวลของปัญหาทางด้านพลังงานทดแทนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสำหรับเพื่อใช้ในการผลิดกระแสไฟฟ้าครับ         ดังนั้นผลประโยชน์ตรงนี้จึงค่อนข้างสูงเป็นเงาตามตัวไปด้วย แต่ขอเรียนว่าไม่ใช่เหตุผลเรื่องผลประโยชน์ แต่เป็นการสงวนใว้เพื่อความคล่องตัวในการบริหารงานในอนาคตครับ        ที่สุดแล้วผมตั้งใจจะให้สิทธิคนไทยได้ใช้ของดีราคาถูกก่อน ส่วนของต่างชาติอาจจะได้ลดหย่อนจากราคาที่จ่ายในปัจจุบันเพียง 10 - 20% เท่านั้น แต่รับรองได้ว่าหลังจากได้สิทธิบัตรคุ้มครองสิทธิมาแล้วและได้เปิดตัวไปแล้ว ทั้งโลกจะหันมาใช้ระบบนี้ทั้งหมดครับ อาจกล่าวได้ว่าในที่สุด นี้คือการปฏิวัติอุตสาหกรรมพลังงานของโลก ก็พอจะพูดได้        สำหรับท่านที่สนใจ ขอความกรุณาลงชื่อใว้ในกล่องข้อความของผมนะครับ เพื่อว่าหลังจากผมได้รับสิทธิบัตรคุ้มครองสิ่งประดิษฐ์นี้แล้วจะได้ส่งสำเนาไปให้ชมกัน        ขอขอบคุณที่ให้ความสนใจครับ แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 50 01:39:19 จากคุณ : อิ่มบุญครับ - [ 12 พ.ย. 50 22:49:34 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เห็นวินด์ฟาร์มแล้วเสียว เกิดมีพวกบ้าลอบถอดใบพัดไปขายนี่ เห่อๆๆๆ ไฟดับทั้งอำเภอแน่ๆ จากคุณ : icy_CMU - [ 12 พ.ย. 50 23:47:02 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ชื่นชมคุณอิ่มบุญครับ  ถ้างานวิจัยออกมาแล้ว  คงช่วยประเทศไทยได้ไม่มากก็น้อย จากคุณ : Capillary - [ 12 พ.ย. 50 23:48:20 ]

ความคิดเห็นที่ 33 คุณอิ่มบุญครับ นี่ใช่คนเดียวกับ Mr. Energy รึป่าว จากคุณ : แมวบอส - [ 12 พ.ย. 50 23:54:45 ]

ความคิดเห็นที่ 34 1 พลังงานสะอาดต่างๆ เช่นลม น้ำ ประเทศเราแทบจะไม่สามารถมาใช้ได้เลยคับ คือ ได้เป็นแค่งานวิจัย แม้จะทุ่มงบยังไง เราก็สร้างไม่ได้ ภูมิประเทศบ้านเรา ไม่เอื้อเลยครับ ที่ไหนมีลมแรงและทำแล้วคุ้ม ถ้ารู้บอกผมด้วย 2 แม่น้ำบ้านเราเป็นสายสั่นๆ และ ความชันไม่มาก ยังไงพลังงานศักย์ปั่นไฟยังไงก็ไม่พอ อีกอย่างไม่มีที่สร้างเขื่อนแล้ว 3 แสงอาทิจย์ ก็รู้อยู่ แม้บ้านเราจะเมืองร้อน แต่มีเมฆซะ ร้อยวันในรอบปี แต่คนเราใช้วันทั้งปี แถมถ้าไม่ผิดนะ เกี่ยวกับต่ำแหน่งที่ตั้งของไทยด้วยเลยรับแสงได้ไม่เต็มที่ 4 พลังงานใต้พิภพ มองง่ายๆ บ้านเราไม่ได้อยู่รอยแนวต่อแผ่นดินไหว เช่นญี่ปุ่น อินโด มันไม่มัช่องใช้ความร้อนขึ้นมา มีแล้วที่ฝางแต่ก็แคาสถานีวิจัย 5 พลังงานชีวภาพ อย่างมากก็พระรอง แม้บ้านเราจะเป็นประเทศเกษตรกรรม มีของทิ้งจากพวกนี้ได้เยอะ แต่ยังไงก็ไม่พอ ต้องใช้ที่เท่าไรเพื่อ เพื่อจะผลิตมีเทน หรือ ไบโอดีเซล ^^ ^^ ^^ ^^ แล้วลองทำจริงๆ จังๆ ซักทียังล่ะ คิดว่าการที่เป็นอย่างนี้เกิดจากการไม่ร่วมมือกันของคนส่วนใหญ่ มัวแต่โทษนู่น โทษนี่ ไม่มีอันนั้น อันนี้ แล้วเมื่อไหร่มันจะพอ ถ้ายังไม่เริ่มแล้วเมื่อไหร่มันจะสำเร็จหล่ะ จากคุณ : gmrTbfk-ood - [ 13 พ.ย. 50 00:08:37 A:203.156.22.10 X: TicketID:153462 ]

ความคิดเห็นที่ 35 คุณอิ่มบุญคับ สมมุตนะครับเอาแคภูเก็ต เรามีชายฝั่งทะเลรอบเกาะ 200 กม มีด้านลมเข้าครึง่หนึง 100 km แล้วส่งก่อสร้างด้านนั้น 50 km ดังนั้นเหลือที่ตั้งลม 50 km ถามว่าถ้าตั้ง เต็มพื้นที่ 100% และมีลมทั้งปี ถามว่าจะพอทั้งภูเก็ต รึเปล่าครับ โดยใช้เทคโนโลยีตอนนี้ แบบที่ดีที่สุด คือผมเชื่อว่าลมยังไงก็เป็นได้แค่พลังงานทางเลือก คือไม่มีประเทศไหนที่จะพึ่งพลังงานประเภทนี้เกิน 20% ถ้าเป็นประเทศที่ใช่อุตสาหกรรมกอย่างเรา ใช่จะพอทั้งหมู่บ้านตามป่าเขาชายทะเล แต่อ่าลืม นะคับว่าทั้งอำเภอบางทีใชไฟน้อยกว่าโรงงานใหญ่หนึ่งโรงอีก เหตุผลนี้เช่นเดยวกับชีวภาพเลยคับ ผมสนบสนุนนะแต่ผมก็เชื่อว่ามันได้แค่พระรอง ใครพอจะหาข้อมูลได้บ้างว่าถ้าต้อนนั้นอีก 20 ปี สมมุติเราไม่มีนิวเคลียร์ อัตราส่วนการใช้พลังงานจะเป็นยังไง ถ้าคิดว่าการะประหยัดพลังงานทำไม่ได้ผลเช่นทุกวันนี้ จากคุณ : Nitty.M - [ 13 พ.ย. 50 00:09:25 ]

ความคิดเห็นที่ 36 nunimitr คับ อย่าลืมนะคับการทำแผนงานนี้ เค้าตั้ง point ก่อนแล้วว่า ต้องมีโรงานนิวเคลียร์ขนาดเล็กก่อนหนึ่งโรง ดังนั้นแม้ประเทศเราจะเริญใช้ไฟมากยังไง แผนนี้ก็เพิ่มไม่ได้เพราะ อะไรละคับ การต้านจากมวลชล และราคาก่อสร้าง ซึ่งตัวเลขนี้จะเป็นตัวเลขที่ดีที่สุดในสมมตฐานที่ว่า ไฟจากแหล่งอื่นๆ เข้าสู่ระบบได้ทัน ลองให้เข้าใช้หลักสากลเพิ่มหลักการกระจายความเสี่ยงการใช้พลังงาน บวกกับศักยภาพ ด้ายกายภาพของประเทศ จะพบว่า ตัวเลขจริงไม่ใช้ได้แนๆ มันต้องมากขึ้น ลองคิดเล่นๆดูครับ ถ้าอีกภายในสิบปีมีรัฐบาลที่ กลัวฐานเสียงบอกกว่า 4000 mw เราไม่เอาจากนิวเคลียร์ เราจะเอาจากอย่างอื่นแทน แล้วแผนนิวเคลียร์ก็ล้มไป แล้วพลังงานตัวอื่นไม่เข้าเป้า อะไรจะเกิด จากคุณ : Nitty.M - [ 13 พ.ย. 50 00:24:27 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณคุณ Nitty.M อีกครั้งครับ สำหรับความเห็นเพิ่มเติม     แต่อยากให้อดใจรออีกนิดนะครับ เพราะจากที่ผมได้ลองประมาณการคุณภาพของสิ่งที่ผมกำลังทำ เปรียบเทียบกับระบบกังหันลมธรรมดาที่เริ่มมีการติดตั้งใช้งานกันในตอนนี้ พบว่าของผมให้พลังงานไฟฟ้าที่เสถียรกว่า(เพราะไม่ได้มีข้อจำกัดเรื่องกระแสลมหรือความเร็วลม) และยืดหยุ่นมากกว่า อีกทั้งมีข้อจำกัดในเรื่องสถานที่ติดตั้งเพียงเล็กน้อยเท่านั้น    ผมวาง Schedule ใว้ตั้งแต่เริ่มจนสำเร็จโครงการใช้เวลาไม่เกินสองปีนับจากวันที่ได้รับสิทธิบัตรคุ้มครองครับ     แต่ก็อย่างที่เรียนให้ทราบแล้วนะครับ จำเป็นต้องได้รับสิทธิบัตรคุ้มครองก่อน หลังจากได้รับสิทธิบัตรคุ้มครองแล้วจากนั้นคงไม่ใช่เรื่องยากที่จะหาผู้ร่วมลงทุน และหลังจากโครงการเริ่มเดินหน้าไปแล้ว เรื่องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์คงจะถูกพับเก็บไปเองตามกลไกตลาดของอุปสงค์-อุปทาน จากคุณ : อิ่มบุญครับ - [ 13 พ.ย. 50 00:47:27 ]

ความคิดเห็นที่ 38 อีกนิดนึงครับ ในส่วนของเกาะภูเก็ตที่ยกตัวอย่างมา ที่จริงเท่าที่ทราบ มีการทดลองติดตั้งกังหันลมใช้กันมานานหลายสิบปีแล้วครับ(อยู่ส่วนใหนของเกาะผมก็จำไม่ได้) แต่ค่อนข้างจะไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากเทคโนโลยีที่ใช้เป็นของที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ซึ่ง(ถ้าจำไม่ผิด)ต้องการกำลังลมที่ 40 กม/ชม ขึ้นไป แล้วอันที่จริงแล้วสภาพทางภูมิศาสตร์ของประเทศไทย แทบจะไม่มีจุดใหนในประเทศที่มีกำลังลมสูงขนากนั้นอย่างสม่ำเสมอครับ        อดใจรออีกนิดครับ แล้วจะเห็นนวัตกรรมจากความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย จากคุณ : อิ่มบุญครับ - [ 13 พ.ย. 50 00:58:51 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ผิดพลาด แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 50 03:11:32 แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 50 03:10:53 จากคุณ : Flyingfox - [ 13 พ.ย. 50 03:10:00 ]

ความคิดเห็นที่ 40 จากสารคดี Discovery Channel น่าสนมากครับ ใช้พลังแสงทำให้เกิดความร้อน ลมเย็นจะพัดเข้ามา แล้วปั่นกังหัน แต่มันต้องใหญ่มากๆ กว้างหลายร้อยเมตร เหมาะกับเมืองไทย แดดแรงมากๆเลย รูปไม่สวย วาดเองครับ อิอิ จากคุณ : Flyingfox - [ 13 พ.ย. 50 03:12:54 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ก็ดับไฟเป็นโซนๆไปครับ  พอแน่ๆ พูดจริงๆน่ะ  เพราะยังไงก็สร้างอะไรไม่ได้ซักอย่างอยู่ดี การหลีกเลี่ยง โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในประเทศ ยังไงก็ไร้ประโยชน์   เพราะ เพื่อนบ้านเราเค้าทำแน่ๆ   หากมีปัญหา  ก็รับกรรมไปทั้งอาเซียน Amen จากคุณ : alphaK - [ 13 พ.ย. 50 05:30:50 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ถ้าท้ายที่สุดแล้ว เราพบว่าพลังงานสะอาดเหล่านั้น มันไม่พอกับความต้องการ คือจากผลวิจัยสถาบันที่เป็นกลาง  และเชื่อถือได้ คนที่ต่อต้านนิวเคลียร์ จะสามารถยอมรับมันได้หรือไม่ ผมกลัวเหมือนต้านเบียร์ช้างเข้าตลาดหุ้น พอเสร็จภารกิจ ก็ทิ้งไป โดยไม่ได้ตามผลต่อว่าที่เคยอ้างว่าถ้าช้างเข้าตลาดหุ้น เด็กจะกินเหล้าเยอะขึ้น แล้วตอนนี้คนเหล่านั้นไมม่เห็นมารนรรงค์ งดเหล้าต่อเลย จากคุณ : Nitty.M - [ 13 พ.ย. 50 07:29:51 ]

ความคิดเห็นที่ 43 พวกที่ไม่ยอมรับ ก็บอกว่าเสนอพลังงานทางเลือก ซึ่งแทบจะหวังไม่ได้เรย  ไม่งั้นฝรั่งคงไม่ดิ้นรนไปวิจัยฟิวชั่นให้เมื่อยตุ้มทำไม เรื่องพลังงานทางเลือกนั้น คงเพียงพอแค่สเกลเล็กๆเท่านั้น แต่คงเอามาเป็นพลังงานหลักไม่ได้ จากคุณ : alphaK - [ 13 พ.ย. 50 08:41:35 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ผมแสดงความเห็นรวมๆไปเลยนะครับ คห.40 ครับ   โรงแรกทำไปแล้วที่สเปนครับ ไม่ค่อยเวิร์คให้กำลังไฟน้อย นี่มีโครงการโรงที่สองที่ออสเตรเลียอีก ประมาณว่าพี่ศาสตราจารย์แกจะขอแก้มือว่างั้นเถอะ ................................................................................................ ส่วนของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์นั้น ผมอยากตั้งข้อสังเกตุว่าทำใมต่างชาติลุ้นกันตัวโก่ง เพื่อจะให้ไทยมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์สกปรกรุ่นเก่าแบบนี้ให้ได้ ทั้งๆที่โดยความจริงต่างชาติชั้นแนวหน้าพวกนี้ต่างก็กำลังขมักขเม่นกับการกำเนิดเกิดขึ้นของโครงการ ITER (นิดนึงครับ โครงการ ITER เป็นความร่วมมือของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นแนวหน้า 8 ประเทศ (G.8) เพื่อการผลิตไฟฟ้าโดยใช้ปฏิกริยานิวเคลียร์ฟิวชั่น(แบบที่เกิดบนดวงอาทิตย์)โดยมีวัตถุดิบคือน้ำทะเล โดยการแยกอตอมของไฮโดรเจนออกจากน้ำทะเล แล้วส่งอตอมของไฮโดรเจนไปทำปฏิกรินิวเคลียร์ฟิวชั่นอีกที ซึ่งเป็นระบบที่สะอาดใร้มลพิษโดยสิ้นเชิงไม่มีกากกัมมันตภาพรังสีเหลือรอดออกมาเพราะใช้ปฏิกริยานิวเคลียร์ลูกโซ่แบบแตกตัว ของเสียชนิดเดียวที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์แบบใหม่นี้ปล่อยออกมาคือ น้ำบริสุทธิ์,ไอน้ำบริสุทธิ์และอ้อกซิเจนบริสุทธิ์ครับ)      แต่ผมก็ยังขอสงวนข้อท้วงติงและต่อต้านโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แบบ ITER ด้วยเช่นกัน เนื่องจากผมไม่ทราบว่ากระบวนการควบคุมการทำปฏิกริยานิวเคลียร์แบบนี้ มนุษย์โลกเรามีเทคโลยีที่จะเข้าถึงการควบคุมมันได้จริงๆหรือปล่าว เพราะถ้ามีความผิดพลาดเกิดขึ้น แม้โอกาสจะมีเพียง 0.001 % ก็ตาม อย่าลืมนะครับว่าโลกนี้ประกอบไปด้วยน้ำ ร่างกายคุณร่างกายผมก็มีน้ำเป็นองค์ประกอบส่วนใหญ่เป็นน้ำ     0.001% ของความผิดพลาดที่เกิดขึ้น จะเปลี่ยนโลกนี้ให้กลายเป็นดวงอาทิตย์ดวงที่สองของระบบสุริยะครับ ร้ายแรงกว่าหายนะจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟิชชั่นแบบสกปรกแบบที่เทียบกันไม่ได้ มันหมายถึงอารธรรมของมนุษยชาติจะสูญสลายแบบไม่หลงเหลือหลักฐานว่าเคยมีมวลมนุษย์เกิดขึ้นมาในเอกภพนี้    ถ้ามีความผิดพลาดเกิดขึ้น ทุกๆอตอมของไฮโดรเจนบนโลกนี้จะเข้าสู่กระบวนการแตกตัวที่ให้พลังงานมหาศาล ทั้งคุณและผมต่างก็ประกอบไปด้วยไฮโดรเจนครับ ที่จริงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทุกชนิด ไม่เหมาะที่จะสร้างบนโลก แต่เหมาะที่จะออกไปสร้างในอวกาศมากกว่า เรียกว่าน้ำขันเดียวใช้เดินทางรอบดวงอาทิตย์สามสี่รอบได้สบายๆ    แต่อย่างน้อยถ้าวันนี้ยังมีลมหายใจกันอยู่ก็ค่อยๆช่วยกันคิดค่อยๆช่วยกันทำ แต่ก็เห็นด้วยที่ต้องรีบลงมือทำอะไรสักอย่างกันได้แล้วตอนนี้ เพียงแต่ผมไม่อยากให้ผลีผามไปกับตัวเลขของฝรั่งมันมาก คำตอบสุดท้ายที่ดีที่สุด อาจจะอยู่ใกล้ๆแค่นี้เอง เราอาจจะกำลังมองข้ามมันไปอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันอยู่ ก็เป็นได้    อยากได้ความเห็นเพิ่มเติมครับ และเหมือนเดิม "น้อมรับคำทักท้วงติติงด้วยจิตใจผ่องใสครับ" จากคุณ : อิ่มบุญครับ - [ 13 พ.ย. 50 09:04:04 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ... คุณ Nitty ถ้าคุณได้ติดตามความเห็นของผม...ในเรื่องการสร้างโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ในประเทศไทยมาตลอด     . คุณจะรู้ว่า....ผมนั้นเห็นด้วยกับการดำเนินการ เพราะว่า.....มันจำเป็นต้องมี และเมื่อมันจำเป็นต้องสร้าง....ผมเห็นว่าควรมีองค์ประกอบพื้นฐาน ดังนี้ 1) เป็นความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ อย่างถูกต้องตามทำนองคลองธรรมที่ควรเป็น 2) กระบวนการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องกับประชาชน เกี่ยวกับเหตุผล-ความจำเป็นที่ต้องดำเนินการ 3) กระบวนการให้ความรู้-ความจริง เกี่ยวกับพลังงานนิวเคลียร์และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นอย่างไม่ปิดบัง --------------------------------------------------------- เราทุกคนคงไม่อยากเห็นความวุ่นวาย-แตกแยกในสังคมไทยมากไปกว่านี้อีกแล้ว ความขัดแย้งในสังคม ไม่ว่ากรณี...โรงงานแทนทาลัม...โรงไฟฟ้าบ่อนอก-หินกรูด ท่อก๊าซไทย-พม่า...ท่อก๊าซไทย-มาเลเซีย ล้วนแต่เป็นตัวอย่างที่ดีของการพัฒนาที่..."ล้มเหลว" การมุ่งแต่จะพัฒนา....แต่ขาดการให้ความรู้-ความจริงแก่ประชาชน ขาดสำนึกในการมีส่วนร่วมของประชาชน.....ยังไงก็มีแต่ความวุ่นวาย วันนี้...ถ้าเรายังเป็น "สังคมอุดมปัญญา" ไม่ได้...ก็ต้องปล่อยวาง ให้คนที่มีอำนาจ-เงิน-ความรู้มากกว่า...เอารัดเอาเปรียบตลอดไป ... จากคุณ : nunimitr - [ 13 พ.ย. 50 09:24:03 ]

ความคิดเห็นที่ 47 อีกนิดนึงครับ      ส่วนที่เกี่ยวกับโครงการ ITER เตาปฏิกรณ์ชุดแรกสรุปกันแล้วว่าจะสร้างที่ฝรั่งเศสนะครับ      อีกส่วนหนึ่งการมาค้นคว้าทดลองสร้างโครงการแบบนี้บนพื้นผิวโลก เปรียบไปผมก็อยากจะบอกว่า ผมรู้สึกเหมือนกับเรายื่นระเบิดมือ M29 ให้เด็กสามขวบที่กำลังนั่งเล่นอยู่ในอ่างอาบน้ำนะครับ เมื่อไรที่เด็กเผลอดึงสลักออกได้เอง ก็ .. ตูม ครับ จากคุณ : อิ่มบุญครับ - [ 13 พ.ย. 50 09:48:19 ]

ความคิดเห็นที่ 48 คห12 คุณอิ่มบุญครับ เชอร์โนบิลเป็นโรงไฟฟ้าพลังไอนํ้าโดยใช้ถ่านหินมาก่อน พอเกิดการต่อต้านพลังงานถ่านหินขึ้น ทางรัฐบาลจึงทำการดัดแปลงโดยการรื้อเตาถ่านหินออก แล้วไปถอดเอาเตาปฏิกรณนิวเคลียร์จากเรือดำนํ้า ที่ปลดประจำการแล้วมาทำการดัดแปลง ติดตั่งเข้าไปมันก็มีมาตรฐานในระดับหนึ่ง แต่ถ้า เทียบกับมาตรฐานในตอนนี้แล้ว ถือว่าไม่ผ่าน ครับ ที่โรงงานประกอบรถยนต์ Ford ที่อังกฤษนั้นมี Wind Generator ขนาด 1200 MW อยู่ ภายในโรงงาน 2 ตัว ผมเห็นด้วยกับการที่ควรจะมี Wind Generator อยู่ตามแหล่งอุตสาหกรรม และ ท่าเรือ ทั่วประเทศ แล้วผมก็อยากให้ช่วยกันคิดด้วยว่าเมื่อเวลาผ่านไป 15 ปีแล้วประเทศไทยก็ยังจะมีอัตราเสี่ยงที่จะถูก ภัยคุกคามจากรังสีนิวเคลียร์เพิ่มขึ่นจากประเทศเพื่อนบ้านทั้ง 3 ของเราอยูดี ทุกๆท่านเคยถามตัวเองไหมว่าทำไม ประเทศที่รู้ว่าตนเองมีนํ้ามันดิบ และ ก๊าซธรรมชาติในปริมาณที่ มากมายอย่าง พม่า เขมร และ อีหร่าน ถึงขวนขวายที่จะมีพลังงานนิวเคลียร์ไว้ในครอบครอง ส่วนตัวผมนั้น มองออกแล้วว่าทำไม? ระบบในความเห็นที่ 40 นั้นนำไปสร้างที่ทุ่งกุลาท่าจะดี เสียแต่ว่าปล่องลมร้อนนั้นมีความจำเป็นที่ จะต้องสูงถึง 1 กิโลเมตรเพื่อที่จะรักษาความเร็วลมให้คงที่ทั้งกลางวัน และ กลางคืน และตัวระบบเอง ก็ก่อมลพิษทางแสงเป็นอย่างยิ่ง เนื่องมาจากกระจกที่ใช้สะท้อนแสงอาทิตย์ เพื่อไปสร้างความร้อน ที่ปล่อง จากคุณ : wiswa - [ 13 พ.ย. 50 11:22:14 ]

ความคิดเห็นที่ 49 พลังงานลมเป็นทางเลือกได้ครับ ประเทศไทยมีส่วนที่ติดทะเลมากกว่า 1000 กิโลเมตรซึ่งมีลมพัดค่อนข้างแรงตลอดปี สามารถนำมาใช้ได้แน่นอน  (ลมทะเลแรงนะครับและมีตลอดทั้งปี) อาจจะไม่สามารถผลิตนำมาขายได้ในระดับปริมาณมาก  แต่หากผลิตเพื่อมาใช้ในพื้นที่ท้องถิ่นอย่างภายในจังหวัดหรือภายในอำเภอสามารถใช้ได้ อย่าลืมว่าจริงๆ แล้วต้นทุนจากธรรมชาติเหล่านี้มีมูลค่าการผลิตที่ไม่สูงมาก เพียงแต่ Know How ทางด้านนี้เรายังน้อยมาก และตอนนี้จำได้ว่าก็มีคนอบรมการผลิตกังหันลมเพื่อนำไปผลิตเป็นไฟฟ้า   แต่ได้ปริมาณน้อยมากเพราะกังหันลมเล็ก  (เคยออกข่าวจำไม่ได้ว่าช่องไหน)  ถือว่าเป็นการเริ่มต้น  หากมาวิจัยพัฒนาจริงๆ จังเป็นไปได้แน่นอน จากคุณ : Control.A - [ 13 พ.ย. 50 11:30:52 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ฟิวชั่นคือการรวมตัวของอะตอมแต่ไม่ใช่ไฮโดรเจนปกตินะครับ มันคือไอโซโทปหนึ่งของไฮโดรเจนเท่านั้นครับ โดยการแยกดิวเทอเรี่ยมออกมาจากน้ำทะเลครับ ตัวน้ำทะเลและไฮโดรเจนเป็นธาตุที่เสถียรและไม่สามารถเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ได้ ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันครับ จากคุณ : [STYX] - [ 13 พ.ย. 50 11:30:52 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ในอนาคตอันใกล้ ไทยเรายังมีพลังงานไฟฟ้าจากเขื่อนน้ำเทินค่ะ อีกทั้งก๊าซจากพม่าอีกตั้งหลายหลุม รวมทั้งจากพื้นที่ร่วมไทยมาเลเซียด้วย คงไม่หมดเร็วเกินไปนะคะ แต่คิดเรื่องนิวเคลียร์ไว้ก่อนก็ดีนะคะ อิอิ จากคุณ : กรีย์นันท์ - [ 13 พ.ย. 50 11:53:41 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ตอนนี้ถ้าเป็นเรื่องของพลังงานหมุนเวียนในยุโรปเนี่ย เยอรมันนีก้าวหน้าไปมากแล้ว สัดส่วนของการใช้พลังงานจากลม ณ.ปัจจุบันมียอดเกิน 30% ของพลังงานทั้งหมดแล้ว และกำลังเติลโตเพิ่มขึ้นในระดับ Two Digit ทุกปีนะครับ หวังว่าคงจะพอนึกออกนะครับ ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นที่นั่น และขณะเดียวกันก็คงพอจะเดาได้นะครับว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นที่นี่ ที่ประเทศไทย ถ้าเรายังตะบี้ตะบันจะสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ให้ได้       ผมเคย bookmark ใว้เกี่ยวกับข้อมูลของเรื่องพลังงานทดแทนในยุโรป แต่ตอนนี้หาไม่เจอ (เนื่องจากข้อมูลมีมาก) รบกวนเสิชหาใน กูเกิ้ลเอานะครับ       ประเด็นสำคัญที่ผมอยากตั้งข้อสังเกตุคือ ในขณะที่โลกตะวันตกตอนนี้ แข่งขันกันขวนขวายหาแหล่งพลังงานทดแทนทุกรูปแบบที่จัดว่าสะอาด ไม่ว่าจะเป็น ITER หรือ Wind Farm แล้วทำใมอีกมือหนึ่งกลับพยายามยัดเยียดพลังงานนรกสกปรกๆมาให้เราทำ         หรือเพราะว่าวงจรอุบาทว์รอบใหม่จากหัวคิดชาติตะวันตกได้เริ่มขึ้นอีกแล้ว จำได้ใหมครับ รอบที่แล้วมากล่อมบรรพบุรุษเรา หลอกให้ซื้อเคมีเกษตรนาๆชนิดมาใช้ หลอกว่า"ปฏิวัติเขียว" แล้วไงครับ ผ่านไปได้ไม่นาน ไม่ถึงห้าสิบปี ไปป่าวประกาศกีดกันสินค้าเกษตรของเรา บอกว่าเต็มไปด้วยสารเคมี ถึงตอนนี้ถ้าไม่ใช้สารเคมีของเค้า ก็พาลที่พืชมันจะไม่งอกเอา คล้ายๆกับพืชของเรามันกลายพันธุ์ไปแล้ว บอกตรงๆว่าผมไม่ใว้ใจพวกนี้เลย      ถ้ามีความจริงใจต่อกันจริงก็มาสิ มาช่วยเราทำวิเคราะเรื่องวินด์ฟาร์ม บอกเราสิว่าให้รออีกนิดนึงใช้วินด์ฟาร์มไปก่อนสักห้าปี หลังจากเตาปฏิกรณ์ต้นแบบของ ITER ที่ฝรั่งเศสสร้างเสร็จแล้ว เดี๋ยวจะมาขายให้เราต่อ แพงกว่าเตานรกสกปรกๆเราก็จะซื้อ เพราะมันคุ้มค่าที่อนุชนรุ่นหลังจะได้ใช้ของดี สะอาด ปลอดภัย ต่อไปชั่วนิรันดร     เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ หวังใจว่าคงจะจุดประกายความคิดให้เพื่อนร่วมห้องได้บ้าง และถ้าข้อเขียนนี้ผิดพลาดประการใด ก็ยังยินดีน้อมรับคำตำหนิติเตียนด้วยจิตใจผ่องใสเช่นเดิมครับ         อันนี้ผมแปะมาให้ดูเล่นนะครับ ที่จริงมีแหล่งข้อมูลอีกมากมาย อยากให้ลองค้นดูครับ http://www.vcharkarn.com/include/article/showarticle.php?Aid=302 จากคุณ : อิ่มบุญครับ - [ 13 พ.ย. 50 12:20:35 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ปล. ยืนยันอีกทีครับว่า ศรีษะเด็ด เท้าขาด ผมก็ไม่เห็นด้วยและไม่เอาเตาปฏิกรณ์นรกสกปรกๆนั่น แน่นอนครับ อย่างน้อย หนึ่งเสียง .......................................................................................... ขอบคุณ คุณ wiswa ที่ช่วยแก้ไขข้อมูลครับ ขอบคุณ คุณ คห.50 ที่ช่วยแก้ไขข้อมูลครับ แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 50 13:08:55 แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 50 13:06:02 จากคุณ : อิ่มบุญครับ - [ 13 พ.ย. 50 12:31:11 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ก็ว่ากันปายยย . . . จากคุณ : อยู่คนเดียวเปล่าเปลี่ยวใจ - [ 13 พ.ย. 50 13:26:26 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ปัญหาของพลังงานทางเลือกก็คือ คุณภาพครับ คุณไม่สามารถบอกได้ว่า ลมจะพัดเมื่อไหร่ หรือ เมื่อไหร่แดดจะมา ดังนั้นพลังงานเหล่านี้จึงไม่เสถียรอย่างยิ่ง ถึงบอกว่าปั่นลงเก็บใส่แบต ก็ต้องมีปัญหาเรื่อง การสูญเสียพลังงานอีก ดังนั้นพลังงานความร้อนจึงเป็นทางเลือกหลักเสมอ เพราะพลังงานพวกนี้ ให้ตลอดเวลาและสม่ำเสมอ ปัจจุบันเราใช้ พลังงานความร้อนจากแก๊สธรรมชาติ เป็นหลัก และใช้พลังงาน จากน้ำเป็นพลังงานเสริมในช่วงเวลา พีคโหลด ดังนั้นในระยะใกล้ ผมสนับสนุนโรงไฟฟ้าถ่านหินครับ หลังจากนั้นอีกสัก 20 ปี ค่อยมาดูกันว่า โรงงานไฟฟ้าฟิวชั่นมีความเป็นไปได้แค่ไหน ตอนนั้นค่อยเลือก โรงไฟฟ้าฟิชชั่น (แต่ใจจริง อยากสร้างลิฟท์วงโคจรที่สุด) จากคุณ : Pongkm (Pongkm) - [ 13 พ.ย. 50 13:44:51 ]

ความคิดเห็นที่ 56 1. ITER นั่นรออีก 35-50 ปี ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ความต้องการใช้ไฟฟ้ารอได้ไหม? 2. พลังงานลม ถ้าลมไม่พัดจะทำยังไง มันเอาแน่เอานอนได้ขนาดไหน 3. ITER ใช้น้ำเป็นเชื้อเพลิง????????????   ถ้าผิดพลาดขึ้นมาระเบิดโลก!!!!!!!!!!!   ลองไปหาเรื่องของนิวเคลียร์ฟิวชันมาอ่านหน่อยเป็นยังไง ก่อนที่จะปล่อยให้จินตนาการเตลิดไปถึงไหนถึงไหน 4. เตาสกปรก????? มันสะอาดกว่าโรงไฟฟ้าถ่านหินซะอีกนะนั่น ส่วนผมไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่แฮะ เพราะผมรู้ว่าคนรุ่นหลังจะฉลาดกว่าคนรุ่นนี้ และคนรุ่นถัดไปจะฉลาดขึ้นเรื่อยๆ เรื่องการจัดเก็บเรื่องการทำลาย เรื่องการ Recycle เชื้อเพลิงนิวเคลียร์ ผมเชื่อมั่นว่ารุ่นลูกรุ่นหลานเราจะทำได้ครับ ดังนั้นก่อนที่จะไปกังวลถึงเรื่องรุ่นเหลน รุ่นโหลนในอีก 100 ปีข้างหน้า เรามากังวลกันก่อนดีกว่าว่าอีก 5 ปีข้างหน้า จะเอาไฟที่ไหนมาใช้กัน เพื่อที่ว่าประเทศไทยจะได้ไม่ล้าหลังเขาในอีก 100 ปีข้างหน้า ถ้าเรามัวแต่กังวลว่าเหลนโหลนจะลำบากก็พยายามพัฒนาประเทศกันวันนี้ตอนนี้เถอะครับ อย่ามัวแต่เตะถ่วงกันอยู่เลย ถามง่ายๆสั้นๆ โจทย์คือภายในสิบปี จงหาวิธีสร้างความมั่นคงทางพลังงานไฟฟ้าที่มีค่าใช้จ่ายเหมาะสม คุณจะมีคำตอบว่าอะไร? จากคุณ : Nexus - [ 13 พ.ย. 50 13:56:45 ]

ความคิดเห็นที่ 57 อ้อลืมบอกไป 35-50 ปีนั้นทดลองเสร็จนะครับ จากนั้นประเทศที่เข้าร่วมทดลองจะมีสิทธิได้ใช้เทคโนโลยีนั้นก่อน แล้วเขาค่อยเอามาขายประเทศอื่น ดังนั้นบวกไปได้เลยอีก 10-15 ปี หลังจากเขาทดลองสำเร็จ จากคุณ : Nexus - [ 13 พ.ย. 50 13:59:06 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ถึงแม้ผมจะไม่ใช่ จขกท. แต่ก็ขอขอบคุณสำหรับทุกๆความเห็นอีกครั้ง อยากจะคุยด้วยต่อ แต่เป็นห่วงว่าเดี๋ยวจะเผลอหลุดอะไรที่เป็น confidential ออกมา ส่วนของผมขอยุติการสนทนาใว้เพียงเท่านี้ และอีกภายในเวลาไม่ช้าไม่นาน คงได้เห็นนวัตกรรมที่ผมคิดค้นขึ้นมา ถึงตอนนั้นข้อถกเถียงเรื่องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในไทยก็คงตกไปเอง     ขอบคุณและสวัสดี เจอกันอีกในกระทู้อื่นครับ. ... .. . จากคุณ : อิ่มบุญครับ - [ 13 พ.ย. 50 14:09:20 ]

ความคิดเห็นที่ 59 อันนี้ก็ไม่เลว ยิงดาวเทียมขึ้นไปแล้วบีมลำไมโครเวฟลงมา แต่ว่าประเทศไทยไม่มีทั้งเงินและเทคโนโลยีขนาดนั้น นอกจากว่าจะลงขันกันหลายๆประเทศ แล้วขอความช่วยเหลือด้านเทกโนโลยีจากอเมริกา จีน หรือยุโรป http://en.wikipedia.org/wiki/Solar_power_satellite จากคุณ : Nexus - [ 13 พ.ย. 50 14:25:32 ]

ความคิดเห็นที่ 60 บางคนก็ฝันลมๆแล้งๆ ว่าจะมีพลังงานสะอาดใช้  แต่ในความเป็นจริงเรารอความฝันนั้นไม่ได้ บางคนอคติกับพลังงานนิวเคลียร์จนความคิดกระเจิดกระเจิง ออกแนวเพ้อเจ้อด้วยซ้ำ เข้าใจคำว่าความจำเป็นมั้ยครับ เรารอไม่ได้ภายใน15ปีนี้ ประเทศจะวิกฤตแน่นอน ก่อนอื่นต้องมีโครงการที่จะมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ซึ่งตอนนี้ก็มีแล้ว ต่อไปก็คือ การให้ความรู้ประชาชนเพื่อลดแรงต่อต้าน ต้องทำแน่อยู่แล้วไม่ต้องห่วง จากคุณ : alphaK - [ 13 พ.ย. 50 14:47:32 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ... จากคุณ : pattapon - [ 13 พ.ย. 50 18:11:20 ]

ความคิดเห็นที่ 62 สะอาดแค่ใหน โปรดดู คห.29 ครับ ครับ. .. . .. แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 50 18:36:58 จากคุณ : อิ่มบุญครับ - [ 13 พ.ย. 50 18:35:49 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ถ้าให้ผมเลือกเดินในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์กับโรงไฟฟ้าถ่านหินผมเลือกเดินในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ครับ ส่วน 29 นั้นถ้าหมายถึงกากและการจัดเก็บ ถ้าจัดเก็บให้เป็นเรื่องเป็นราวมันก็ไม่มีปัญหาอะไร คนที่ Paranoid กับเรื่องนี้ก็เหมือนกับบอกว่า ไฟฟ้ามันอันตรายนะ ถ้าโดนช๊อตล่ะถึงตาย ดังนั้นเราเลิกใช้ไฟฟ้ากันเถอะ น้ำมันมันอันตรายนะเกิดมันรั่วเวลาขนส่งขึ้นมาสภาพแวดล้อมมันจะเสียหายมาก ดังนั้นเราเลิกใช้น้ำมันกันเถอะ ุถ้าโรงงานผลิตสารเคมีมันรั่วออกมาคนคงตายเป็นร้อย ดังนั้นเราต้องห้ามตั้งโรงงานผลิตสารเคมี ตรรกะเหมือนกันดิกเลยครับ วันๆหนึ่งเขาขนย้ายสารกัมมันตรังสีเท่าไหร่? เคยมีข่าวรั่วไหลไหมในรอบยี่สิบปีที่ผ่านมา? ถ้าคุณคิดว่าคนไทยมันจะห่วยขนาดเป็นชาติแรกที่ทำให้เกิดปัญหาในรอบยี่สิบปี สามสิบปี ผมจะบอกว่าคุณมันดูถูกคนไทยไปหน่อยแล้ว ส่วนผมเชื่อมั่นในฝีมือคนไทย เชื่อว่าคนไทยทำได้ อ้อ คุณอิ่มบุญอย่าลืมตอบมาด้วยนะครับว่าจะแก้ปัญหายังไงให้มัน Practical, Cost Effective ถ้ามีอะไรก็บอกมาเลยขอแค่ว่าไม่ใช่เครื่องจักรไตรภาคีอะไรนั่นก็แล้วกัน ถ้าคุณทำได้จริงก็อนุโมทนาด้วย แต่ตอนนี้เท่าที่มีข้อมูลอยู่นี้ผมสนับสนุน Nuclear Power Plant แน่นอนว่าถ้าของคุณมันดีจริงผมก็สนับสนุน ป.ล. ผมมีเรื่องมาเล่าให้ฟัง ตอนนั้นผมเล่นการ์ดเมจิคสมัยที่ยังต้องสั่งจากเมืองนอกเข้ามา ผมเดินไปถามร้านหนึ่งเขาบอกซองละ 120 ผมเดินไปถามอีกร้านหนึ่งแกเกทับบอกว่าซองละ 100 เดียว ...... แต่ไม่มีของนะ จะเข้ามาเมื่อไหร่ไม่รู้ ผมอ่านกระทู้นี้แล้วนึกถึงเรื่องเก่าๆขึ้นมาได้ยังไงไม่รู้ "อย่าไปซื้อเลยร้านนั้นมันแำพง นี่ของผมใหม่กว่า ดีกว่า ถูกกว่า เทพกว่า แต่ยังไม่มีของนะรอไปก่อน ยังไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไหร่" ....... คนมันต้องใช้จะให้รอถึงเมื่อไหร่ ของมันไม่ใช่อยากได้แล้วจะซื้อได้เลย มันต้องใช้เวลา ถ้าเกิดรอแล้วรอเล่าแล้วมันกลายเป็น Hoax ขึ้นมาจะทำยังไง อ่ะเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับกระทู้จริงจริ๊ง มันเป็นเรื่องเก่าๆที่เอามาเล่าสู่กันฟังเท่านั้น จากคุณ : Nexus - [ 13 พ.ย. 50 20:33:37 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ครับ ... . น้อมใจรับฟังครับ . . . จากคุณ : อิ่มบุญครับ - [ 13 พ.ย. 50 20:39:27 ]

ความคิดเห็นที่ 65 เราไม่อยากใช้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เพราะกลัวคนไทยมักง่ายแล้วทำมันรั่ว เหรอคะ.. ไฟฟ้าอันตรายนะ โดนดูดนี่ถึงตายเชียวนะ อย่าใช้มันเลย... เหอๆ ของเสียจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ยังไงก็มีแน่ๆ และทำลายยาก แต่ก็มีวิธีกำจัด(ฝัง หรืออะไรก็เถอะ) ที่ได้มาตรฐาน และเขาก็ใช้กันทั่วไป ถ้าไม่มีน้ำมัน กับก๊าซธรรมชาติ ยังนึกไม่ออก ว่ากรุงเทพฯ จะเอาไฟฟ้าจากไหนมาใช้โรงงานอุตสาหกรรมใหญ่ๆจะใช้ไฟฟ้าจากไหน ถ้าตั้งธงไว้ว่าจะไม่เอานิวเคลียร์จริงๆ ก็ต้องพัฒนาพลังงานอื่นมาทดแทนพวกน้ำมัน ก๊าซ ถ่านหิน อย่างจริงจัง ที่เห็นๆคนค้าน ไม่เห็นบอก ว่าถ้าไม่เอา จะเอาอะไร ได้แต่รอน้ำมันหมดโลก คุณอิ่มบุญ ถ้าพลังงามลมใช้ได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพ ก็สนับสนุนค่ะ พยายามเข้านะคะ ทุกอย่างต้องมีจุดเริ่มต้น :) จากคุณ : dittaya - [ 14 พ.ย. 50 00:33:52 ]

ความคิดเห็นที่ 66 โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ อาจจะเป็น 1ใน10วิธีทำลายล้างระเบิดโลก http://www.livescience.com/technology/destroy_earth_mp.html จากคุณ : alphaK - [ 14 พ.ย. 50 06:25:16 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ขอโทษนะครับ ว่าจะไม่ออกความเห็นแล้ว แต่อดไม่ได้ ก็เลยขออนุญาตคัดลอกบทความของ Thai wind farm บางส่วนมาลงนะครับ VSPP หรือผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็กมาก คือผู้ผลิตไฟฟ้าที่มีกำลังผลิตไฟฟ้าต่ำกว่าหรือตั้งแต่ 10 เมกะวัตต์ลงมา กระทรวงพลังงาน ให้การส่งเสริมทั้งในรูปแบบผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็กที่ใช้พลังงานหมุเวียน (Renewable) ความคืบหน้าการเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (VSPP) ที่ใช้พลังงานหมุนเวียน ปัจจุบันมี VSPP ที่ใช้พลังงานหมุนเวียน ขายไฟฟ้าเข้าระบบแล้ว 23 ราย คิดเป็นปริมาณพลังไฟฟ้าประมาณ 13 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ ภายหลังการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายทั้งสองแห่งได้ออกประกาศให้ส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้าเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2550  ปัจจุบันมีโครงการที่ยื่นแบบคำขอจำหน่ายไฟฟ้าและการเชื่อมโยงระบบไฟฟ้า 35 ราย ปริมาณพลังไฟฟ้าเสนอขายรวม 187 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโครงการ VSPP ที่ใช้พลังงานหมุนเวียน จำนวน 33 โครงการ ปริมาณเสนอขายไฟฟ้าเข้าระบบ 179 เมกะวัตต์ และ VSPP ที่ใช้ระบบ Cogeneration จำนวน 2 โครงการ ปริมาณเสนอขายไฟฟ้าเข้าระบบ 8 เมกะวัตต์ ......................................................................................... ถ้าเราสามารถชักชวนให้เอกชนมาให้ความสนใจลงทุนกันอย่างจริงจัง จากที่มีในปัจจุบัน 33 โครงการ มีไฟฟ้าเข้าระบบ 179 เมกะวัตต์ // ผมคำนวนคร่าวๆถ้าภายในหนึ่งปีเราชักชวนเอกชนมาลงทุนขนาดเล็กเพิ่มเป็น 10 เท่า ก็เท่ากับเพิ่มขึ้นเป็น 330 โครงการ มีไฟฟ้าเข้าระบบ 1790 เมกะวัตต์  ถ้ารณรงค์กันจริงๆจังๆ ภายในสี่ปีข้างหน้า ก็จะ 1320 โครงการ มีไฟฟ้าเข้าระบบ 7160 เมกะวัตต์ มากพอเท่ากับโรงไฟฟ้านิเคลียร์ 1 โรง ภายในสี่ปี ถ้าผมคำนวนผิด ก็ช่วยทักท้วงด้วยนะครับ แต่อย่าบอกแค่ว่ามันเป็นไปไม่ได้ มันทำไม่ได้ แล้วก็จะดันทุรังสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ให้ได้ ค่อยๆเอาเหตุผลมาดูกัน ยังน้อมรับคำติเตียนด้วยความจริงใจครับ จากคุณ : อิ่มบุญครับ - [ 14 พ.ย. 50 10:26:26 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ฝากลิ้งค์นีใว้ดูครับ http://www.pantipmarket.com/view.php?id=W5780479 ระบบนี้รัฐแทบไม่ต้องลงทุนอะไร ถ้ามีติดตั้งกันทุกบ้านก็สามารถขายไฟ ให้ประเทศเพื่อนบ้านได้ด้วย แต่ผมยังไม่ได้คาดหวังถึงขนาดนั้น อายุของกังหันลม 20 ปี ถ้าลงทุนแล้วสามปีได้ทุนคืน ก็อีก 17 ปี คือ กำใลเนื้อๆครับสำหรับกังหันขนาด 20 กิโลวัตต์ ถ้าช่วยกันชักชวนภาคเอกชนให้หันมาสนใจตัวเลขพวกนี้จริงๆจังๆ ผมว่า ไม่มีใครใม่สนใจนะครับ เท่าที่ทราบ ปัจจุบัน กฟผ. ก็สนับสนุนในการรับซื้อเต็มที่ จากคุณ : อิ่มบุญครับ - [ 14 พ.ย. 50 11:42:13 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ที่สำคัญ อุปกรณ์ทุกชิ้นเราผลิตภายในประเทศได้เอง ไม่จำเป็นต้องมีการสั่งซื้อหรือนำเข้าใดๆ เป็นการสงวนเงินตราต่างประเทศ และกระตุ้นเศรษฐกิจภายใน ไปพร้อมๆกัน ยังขอยืนยันว่าไม่เอาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ครับ จากคุณ : อิ่มบุญครับ - [ 14 พ.ย. 50 12:02:15 ]

ความคิดเห็นที่ 70 คุณอิ่มบุญคับ แล้วบ้านเรา มีพื้นที่ ที่จะทำได้ถึงแน่นอนปะคับ ผมยังมึกภาพไม่ออกว่า ถ้าลมเฉี่อยๆ แบบชายทะเล มันจะทำให้กังหันหมุนติ้วๆ ได้ยังไง สมมุติหนึ่งกังหัน บ้าน หนึ่งหฒุ่บ้านต้องมี ร้อยกังหัน แต่หนึ่งบ้านหนึ่งกังหัน พอรึเปล่าคับ   ขนาดกังหันที่หมุน จากพลังง่นศักย์ของนำของเขือ่นยักษืต่างๆ ยังได้เป็นพลังงานเสริมตอน พีก เลยคับ แต่ถ้าจะรอลมแรงๆ อย่างมาก ก็ สอง ชม ต่อวัน มันไหวแน่หรือคับ ผมขอฝากนะคับ อนาคต ถ้างานคุณสำเร็จ คุณอาจได้ไปพูด ตามที่ต่างๆ คำพูดของคุณมันจะมีนำหนักมาก ยิ่งพลังานสะอาด พูดที่ไหนใครๆ ก็ เออออด้วย ไงจากคำถามผม ในความเห็นที่ผ่านมา ช่วยไปหาข้อมูล ด้วยนะคับ คือผมกลัวว่า มันจะกลายเป็นการให้ข้อมูลที่บิดเบือน เช่นที่คูณบอกว่า ตอนนี้ มี 33 โครงการ ได้ 200 เมกะวัตต์ ถ้า จะได้ 4000 เมกกะวัตต์ ต้องใช้ เท่ากับ 33*40 ประมาณ 1300 ที่ นะคับ สมมุติคุญหาได้พอ แต่ 4000 เมกกะวัตต์ เท่ากับ 10% ของความต้องการไฟฟ้าในอนาคต และมันจะน้อยไปเรื่อยๆ แต่ ลมจะมีข้อจำกัด ตามภูมิประเทศบ้านเรา ผมคิดงี้คับ จากคุณ : Nitty.M - [ 14 พ.ย. 50 13:07:39 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ถ้าถึงที่สุดจริงก็คง ตัวใครตัวมัน ครับ หมายถึง บ้านแต่ละหลังรับผิดชอบการใช้ไฟฟ้า หรือ ผลิตไฟฟ้าให้ตัวเอง บ้านไหนใช้มากก็ต้องหาทางผลิตให้ได้ มันก็จะเกิดการประหยัดไปเองครับ รัฐบาลคอยส่งแต่น้ำไปอย่างเดียวก็พอครับ ขาดไฟฟ้าอยู่ได้แต่ขาดน้ำอยู่ไม่ได้ครับ เมืองนอกเค้าเริ่มประหยัดน้ำกันแล้ว แต่ เมืองไทยมันใช้ตามอารมณ์กันอยู่เลย จากคุณ : ออกญามหาเท่ห์ - [ 14 พ.ย. 50 13:45:03 ]

ความคิดเห็นที่ 72 เอาคนที่ค้านการสร้าง นั่นละ  มาช่วยกัน  ปั่นไฟ แบบหนูถีบจักร  เลยครับ มาเข้าเวรกันเลย วันไหนลา ไม่ต้องใช้ไฟ  อิอิ ค้านกันดีนัก จากคุณ : HiPex - [ 14 พ.ย. 50 15:39:29 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ครับผม.... . . นึกถึงสภาพการใช้งานจริง กับสภาพของนโยของรัฐเมื่อถึงวันนั้นด้วยนะครับ      ผมกำลังมองถึงคล้ายๆกับที่เค้าคิดค่า FT ในปัจจุบัน แต่ให้มีเงื่อนไขดีกว่า คือสมมุติว่าบ้านหนึ่งหลัง ผลิตได้ 200 กิโลวัตต์ แต่มีการใช้ไฟไป 200 กิโลวัตต์เท่ากัน เป็นเวลาสามเดือนติดต่อกัน(ผมสมมุตินะครับ)ก็ให้ เป็นรางวัลเล็กๆน้อยๆไป ส่วนถ้าบ้านหลังใดมีกำลังการผลิต 200 กิโลวัตต์ แต่มีการใช้ไฟไป 400 กิโลวัตต์ ก็เก็บค่าไฟส่วนที่ใช้เกิน 200 กิโลวัตต์ ใน อัตราปรกติ แต่ถ้ามีการใช้ไป 600 กิโลวัตต์ ก็เก็บรวบยอดในอัตราบวกเพิ่ม อีก 50% ของอัตราปรกติ ประมาณว่าสร้างแรงจูงใจในการผลิต กับแรงจูงใจในการประหยัดไปพร้อมๆกัน      ส่วนของของรัฐก็รับผิดชอบในส่วนของช่วงเวลาที่มีการใช้ไฟพีคขึ้นมา ซึ่งจริงๆแล้วเราสามารถรับมือกับช่วงพีคได้ เพราะมันจะวนไปตามธรรม ชาติของมันอยู่แล้ว        ลองคิดดูง่ายๆถ้าเรามีระบบกังหันใช้กันเกือบทุกบ้าน ไม่ต้องทุกบ้าน เอา เพียงครึ่งเดียวก่อนก็พอ พอแปดโมงเช้าธุรกิจและอุตสาหกรรมเริ่มดำเนินการ ผลิต แต่บ้านพักอาศัยก็ชลอการใช้พลังงานไปด้วยเนื่องจากคนที่ใช้ไฟได้ ย้ายจากบ้านไปอยู่ในอุตสาหกรรม แต่ในขณะเดียวกันที่บ้านก็ยังคงผลิตไฟ อยู่มากบ้าง น้อยบ้างตามกำลังลมที่มี(อันนี้ก่อนติดตั้ง เราก็จะมีการสำรวจ ความเหมาะสมกันทางสถิติของกระแสลมจากกรมอุตุนิยมมาก่อนแล้ว) ก็จะเกิดการถ่ายเทกระแสไฟฟ้าจากบ้านเข้าสู่อุตสาหกรรมด้วยระบบสาย ส่งที่มีใช้กันอยู่ในปัจจุบัน      ส่วนตอนเย็นเมื่อธุรกิจและอุตสาหกรรมเลิกงานก็จะเริ่มมีการใช้ไฟน้อยลง ส่วนของบ้านก็จะเริ่มต้องการพลังงานไฟฟ้ามากขึ้นสลับกันไป      ประเด็นก็คือ ถ้าเรามีการคำนวนที่รอบคอบ แล้วรณรงค์และจูงใจให้ติดตั้ง ระบบกังหัน  ให้มากจนสามารถสร้างให้เกิดพลังงานส่วนเกินใว้อย่างน้อย ยี่สิบห้าถึงสามสิบเปอร์เซ็นต์ของการใช้ไฟปรกติ ถึงตอนนั้นเราก็จะถึงจุด ที่มีความมั่นคงทางด้านพลังงานครับ       สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ผมอยากให้เอาตัวเลขของพลังงานทางด้านโรงไฟฟ้า นิวเคลียร์มาดูกันด้วย ส่วนหนึ่งผมยังไม่เคยเห็นตัวเลขชัดๆเลยไม่กล้าวิพากษ์ วิจารณ์มากนัก แต่ถ้าให้เดา ตัวเลขในการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์คงจะอยู่ที่ ระดับแสนล้านบาท แล้วยังมีค่าใช้จ่ายในการนำเข้า uranium 325 อีกกิโลกรัมละเป็นแสนยูเอสดอลล่า (คงไม่มีใครบอกว่าเราสามารถผลิต uranium 325 ได้เอง) แล้วก็ค่ากำจัดกากกัมมันตภาพรังษีอีก หลายล้าน ยูเอสดอลล่าต่อเมตริคตัน โดยที่ไม่มีใครการันตีได้ว่าผู้จำหน่าย uranium 325 ในอนาคตจะไม่บีบคอขึ้นราคาตามใจชอบ และเช่นกันไม่มีใครการันตีได้ว่าผู้ รับกำจัดกากกัมมันตภาพรังษีจะไม่บีบคอขึ้นราคาตามใจชอบเหมือนกัน    หมายความว่าโดยรวมแล้วเรายังต้องพึ่งจมูกต่างชาติหายใจเช่นเดิม วันดี คืนร้ายในอนาคตถ้าเกิดกรณีพิพาททางด้านเศรษฐกิจระหว่างกันขึ้นมา (ซึ่งก็มีความเป็นไปได้)ลูกหลานอนุชนรุ่นหลังของเราก็จะต้องถูกบีบให้ยอม จำนนเพราะไม่มีอะไรไปต่อกรกับต่างชาติ ถึงตอนนั้นก็พวกเรานี่ละครับ ที่จะต้องถูกลูกหลานอนุชนรุ่นหลังเค้าก่นด่า   อยากให้เอาตัวเลขมาดูชัดๆครับ รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการรณรงค์ให้สังคม เห็นดีเห็นงามกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ด้วยนะครับ อยากรู้ว่าเค้าจ่ายค่าพีอาร์กัน เท่าไหร่   เผลอๆเฉพาะค่าพีอาร์ที่ใช้ในการรณรงค์ ก็อาจจะเพียงพอสำหรับการติดตั้ง ระบบกังหันทั้งประเทศแล้วนะครับ ขอดูตัวเลขครับ     ผิดตกขออภัย ผิดใจก็ขอโทษด้วย     น้อมรับคำทักท้วงติติงด้วยจิตใจที่อ่อนน้อมเช่นเดิมครับ แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 50 16:25:35 จากคุณ : อิ่มบุญครับ - [ 14 พ.ย. 50 16:16:42 ]

ความคิดเห็นที่ 74 อันนี้ข่าวจะทำโรงงานผลิตไฟฟ้ากำลังลม รวม 35 MW ราคา 1800 ล้านบาท ส่วนราคาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ราวๆ 1000-1500US$ ต่อ 1 KW ถ้า 4000 MW คิดที่ตัวเลขสูงสุดก็ราวๆ สองแสนล้านบาท ราคารวมพอๆกัน Wind power may come to South Bangkok Post Feb 10, 2007 by YUTHANA PRAIWAN Three Thai energy companies and a Japanese operator are teaming up to pioneer a 1.8-billion-baht wind-power project in southern Thailand. The three Thai participants are PTT Plc, Electricity Generating Plc (Egco), Wind Energy Generating Co (Wegco). They will join with Eurus Energy Japan Corp, the largest wind-power company in Japan, which is 60% owned by Tokyo Electric Company (Tepco). The four parties are scheduled to sign a memorandum of understanding on Feb 19 to collaborate in developing the project with a capacity of up to 35 megawatts, Southern Thailand was chosen as the location because it has higher winds than other regions of the country. The participants plan a detailed feasibility study as a follow-up to a preliminary report done by an independent wind power consultant from Denmark, which indicated good potential. The study will take about 18 months to complete and if the venture goes ahead, the country's first wind farm could be operational two years after that. The total project cost, if fully completed, is estimated at 1.8 billion baht. According to Egco president Visit Akaravinak, the area between Songkhla and Nakhon Si Thammarat is considered the prime location for the project. The partners have not yet worked out a shareholding structure for the project. However, Egco was ready to be a major shareholder if the wind farm proved commercially viable, Mr Visit said.The government is attempting to promote the use of more renewable energy in Thailand but the main focus so far has been on biomass projects. Wind power has not been high on the list of local options because of limited wind resources compared with countries such as Denmark and Britain. However, new technologies that make wind power generation cheaper, coupled with rising global energy costs, have lifted wind power into the mainstream of renewable energy. The National Energy Policy Council has approved subsidies for various alternative and renewable energy developments to encourage investments. For wind power, the government would subsidise electricity prices at 2.5 baht per unit (kilowatt/hour). PTT and Egco are leading energy companies in Thailand, while Wegco is a newly established company controlled by the Hua Kee Group, a major paper suppliers and one of the major shareholders in Bangkok Cogeneration Co, a 113-MW small power producer (SPP). ค่าใช้จ่ายต่างๆรวมค่าเชื้อเพลิง ค่าปิดโรงงาน ค่ากำจัดขยะนิวเคลียร์อยู่ที่  3.63 cents/KWHr ถึง 1.68 cents/KWHr http://nuclearinfo.net/Nuclearpower/WebHomeCostOfNuclearPower จากผลการศึกษาของ EU พบว่าต้นทุนทางธรรมชาติและอื่นๆ นิวเคลียร์ถูกกว่าแก๊สและถ่านหิน ส่วนพลังงานลมถูกกว่านิวเคลียร์ http://www.uic.com.au/nip08.htm แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 50 18:31:58 จากคุณ : Nexus - [ 14 พ.ย. 50 18:24:37 ]

ความคิดเห็นที่ 75 พลังงานลมไม่ต่อเนื่องและไม่มีความแน่นอน รวมทั้งใช้พื้นที่มากกว่า ถ้าเอาโมเดลของ Thai Wind Farm มาใช้ (160ไร่/10 Mw)เราต้องใช้พื้นที่ 64000 ไร่ (ติดทะเล?) เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า ตรงนี้คงต้องมาดูกันต่อไปว่ามีที่พอหรือเปล่า ก็ราวๆ 102.4 ตารางกิโลเมตร จากคุณ : Nexus - [ 14 พ.ย. 50 18:39:12 ]

ความคิดเห็นที่ 76 นี่แหละครับ..  . .   .     พอคุยมาถึงตรงนี้แล้วผมคันปาก อยากจะเอาสิ่งประดิษฐ์ของผมมา ให้ดูกันจะจะไปเลย แต่.. .. ก็นะ ผมมีความจำเป็นจริงๆครับ ไม่อาจแสดง ได้ ขอเวลาผมอีกนิดนึง    เอาเป็นว่าถ้าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไม่รีบตัดหน้าเกิดก่อนผมภายในปีครึ่งหรือ สองปีนี้ ผมกล้าเอาศรีษะเป็นประกันว่าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไม่ได้เกิดแน่นอน    ถ้างั้น เอาเป็นว่าผมไม่ค้านแล้วนะครับ ใครอยากจะเชียร์โรงไฟฟ้า นิวเคลียร์ก็เชียร์กันไป แล้วผมจะทำของผมไปเงียบๆ ถ้าเสร็จแล้วตอนเปิดตัว ก็จะขออนุญาตเรียนเชิญเพื่อนๆในห้องนี้ทุกคนมาชมกัน สรุปตามนั้นนะครับ        ถึงตอนนั้นค่อยมาดูกัน    ยังงัยก็ขอบคุณสำหรับข้อมูลตัวเลขครับ แต่ถ้าจะบอกว่าตราบที่โลก ยังคงหมุนไป สิ่งประดิษฐ์ของผมจะมีต้นทุนถูกกว่าการใช้กังหันพลังลม ธรรมดาทั่วไป แต่ให้พลังงานที่เสถียรกว่าและไม่มีวันหมด ก็ดูเหมือนผม จะคุยโวปล่าวๆ เอาใว้ผมส่งเทียบเชิญไปให้ แล้วพวกเราคงได้ดูกันเป็น กลุ่มแรก ขอบคุณครับ จากคุณ : อิ่มบุญครับ - [ 14 พ.ย. 50 20:46:05 ]

ความคิดเห็นที่ 77 เอ๊ะๆๆ "ตราบที่โลก ยังคงหมุนไป"   "พลังงานที่เสถียรกว่าและไม่มีวันหมด"   เย้ๆ เริ่มแย้มออกมาแล้ววว จากคุณ : หน้าน่วม - [ 14 พ.ย. 50 23:49:53 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ณ.ตอนนี้ ที่สบายใจก็มีแค่ว่า เสิชดูทั่วทั้งอินเตอร์เนท แล้วยังไม่พบว่า มีใครบนโลกเกทไอเดียแบบที่ผมกำลังซุ่มทำเครื่องต้นแบบเงียบๆในโรงรถ ตอนนี้นะครับ อยากจะเอามาอวดใจจะขาด แต่รอหน่อยนะครับ แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 50 07:26:00 จากคุณ : อิ่มบุญครับ - [ 15 พ.ย. 50 07:25:09 ]

ความคิดเห็นที่ 79 เอ่อ คงไม่ใช่ตรีเอกานุภาพนะครับ จากคุณ : [STYX] - [ 15 พ.ย. 50 07:31:06 ]

ความคิดเห็นที่ 80 อยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมอีกหน่อยเกี่ยวกับเรื่องสิทธิบัตร หรือถ้าใครเป็นตัวแทนการจดสิทธิบัตรอยู่แล้ว รบกวนช่วยแสดงตัวด้วยครับ (ติดปัญหาแค่ตรงนี้) จากคุณ : อิ่มบุญครับ - [ 15 พ.ย. 50 07:44:32 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ติดตามผลงานอยู่ครับ จากคุณ : chaos_r - [ 15 พ.ย. 50 20:15:35 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ตั้งใจทำเต็มที่ครับ ... . กะว่าจะให้เป็นเคสตัวอย่าง ที่จะจุดประกายให้คนรุ่นใหม่ หันมาสนใจประดิษฐ์อะไรที         คนทั่วไปที่ไม่รู้เรื่องเค้าหาว่าเรา บ้าๆ บอๆ แต่ในท้ายสุด เมื่อมันเวิร์ค เค้าก็จะเข้าใจกันไปเอง ขอบคุณครับ จากคุณ : อิ่มบุญครับ - [ 16 พ.ย. 50 15:48:51 ]