ความคิดเห็นที่ 1 double มันเอาไอดีไอเสียเข้าออกได้เร็วและคล่องกว่า single นั่นก็เพียงปัจจัยหนึ่งที่ทำให้แรง camshaft ก็มีส่วนนะคับ ผมก็สงสัยมานานว่า รถบ้านทั่วๆไป เครื่องเบนซิน รอบเครื่องมันก็ได้แค่ประมาณ 8000 รอบ (ใครเหยียบได้ถึงมั่งก็ไม่รู้) แล้วทำไมรถแข่ง มันทะลุหลักหมื่นได้ ก็เพราะ valve กับ cam นี่แหละ คร่าวๆว่า  ปกติส่วนใหญ่รถบ้านvalveมันจะถูกดึงให้ปิดด้วยสปริง พอรอบสูงๆ แม้แต่สปริงก็ยังเฉื่อยได้ ปิดห้องเผาไหม้ไม่ทัน ก็จะได้อยู่กันแค่นั้น(ประมาณ 6000-8000 รอบ) แต่พวกรถแข่ง valve จะถูกดึงปิดด้วยตัวของ cam เอง แบบว่ารอบสูงแค่ไหนก็ไม่หวั่น กุดึงvalve ปิดทันอยู่แล้วโว้ยยย หารูปมาประกอบยังไม่ได้เลย เหอะๆ จากคุณ : GUSTAV - [ วันพ่อแห่งชาติ 00:25:31 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อืม  ไม่นานมานี้ เพิ่งมีคนไปถามในห้องรัชดาเองครับ ลองไป search ดูน่ะครับ จากคุณ : Future is on my hand - [ วันพ่อแห่งชาติ 00:33:15 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ส่วนเคลื่อนที่น้อยกว่าครับ แคมอันเดียวต้องมีกระเดื่องไปกดวาล์ว แต่แคมคู่ ใช้ลูกเบี้ยวกดวาล์วไปตรงๆเลย ส่วนรถแรงต่างกัน เรื่ององศาไอดี ไอเสีย ระยะโอเวอร์แล็ปมีผลหมดครับ รถแข่งเขาเปลี่ยนสปิงวาล์วให้มีค่าแข็งขึ้นครับ พอรอบสุงวาล์วจะได้ปิดทัน จากคุณ : Sillything - [ วันพ่อแห่งชาติ 01:10:36 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ใช้ลมอัด วาวล์ก็มี.. เพราะ สปริงค์ จะมีค่า resonance ในตัวสปริงค์เอง ที่ความถี่สูงๆ จะมีปัญหาอยุ่ดี หลังๆก็มีการออกแบบให้ใช้ nitrogen อัดเข้าไปแทนสปริงค์วาวล์ ข้อเสียก็มีตรงที่มันหมดเร็วนี่แหละ เข้า pit ที่ก็ต้องเติมกันทีมั้ง.. ส่วนรอบเครื่องมันอยุ่ที่ อัตราส่วน ช่วงชัก:พื้นที่หัวลูกสุบ = กำลังอัด ฯลฯ และอีกหลายๆอย่างเลย แต่โดยส่วนมากก 3 อย่างหลักๆนี้เป็นตัวกำหนด ขอบเขตของรอบสูงสุดได้เลย ว่าจะลากได้ถึงไหน. จากคุณ : เหยียบเมฆ - [ วันพ่อแห่งชาติ 06:10:50 A:124.120.251.216 X: TicketID:161873 ]

ความคิดเห็นที่ 5 กายภาพก็ต่างกันแล้วครับ เปิดฝาครอบวาล์วขึ้นมา แค็มเดี่ยวมีอยู่แท่งเดียวอยู่ตรงกลาง มีราวลิ้นกับกระเดื่องวางเป็นตับอยู่ 2 ฝั่ง ชิ้นส่วนเยอะแยะ ดูบ้านๆ แต่พอมาดูแค็มคู่ หล่อกว่ากันเยอะครับ ฝั่งใครฝั่งมัน แยกงานกันทำ แคมเดี่ยวลูกเบี้ยวมันต้องกดวาล์วผ่านกระเดื่อง เสียแรง ไหนจะใช้ไปนานๆ กระเดื่องบางสูบมีความสึกหรอหรือระยะยกคลาดเคลื่อน เสียความแม่นยำ พอทำงานไม่ตรงตามที่กำหนดในบางสูบมันก็ออกอาการแล้ว โดยเฉพาะในรอบกลางกับสูง ส่วนแคมคู่ ลูกเบี้ยวกดลงบนถ้วยวาล์วที่อยู่ท้ายวาล์วโดยตรง ให้ความแม่นยำสูงกว่า ไม่ต้องผ่านตัวกลางใดๆ โอกาสเพี้ยนก็น้อยกว่า ให้การทำงานที่ราบลื่น ประสิทธิภาพก็ตามมาครับ จากคุณ : dragunov - [ วันพ่อแห่งชาติ 08:13:42 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เครื่อง SOHC ถ้ามี VTEC เข้ามาช่วยก็แรงไม่แพ้ DOHC เหมือนกัน แถมมาที่รอบต่ำกว่าและประหยัดกว่า พวก DOHC แรงจริง แต่กว่าจะมาก็รอบค่อนข้างสูง จากคุณ : Shoe_Shine - [ วันพ่อแห่งชาติ 09:31:37 ]

ความคิดเห็นที่ 7 จะ SOHC หรือ DOHC มันก็สามารถออกแบบให้กดวาล์วได้โดยไม่ต้องมีกระเดื่องกดวาล์ว เคยเห็น SOHC ที่กดวาล์วตรงๆ ในเครื่องดีเซลของ MAZDA ครับ หากเป็น SOHC และต้องการให้กดวาล์วตรงๆ ไม่มีกระเดื่องหรือ Rocker Arm มันค่อนข้างทำได้อยาก ไหนจะติดเรื่องรูปทรงของฝาสูบ การออกแบบห้องเผาไหม้ เส้นทางเดินของน้ำระบายความร้อน ฯลฯ อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ DOHC สามารถออกแบบรอบใช้งานให้สูงกว่าหรือแรงม้าสูงกว่าเครื่อง SOHC (แบบ BASIC ทั่วไป ไม่นับตระกูลแคมกระดิก) ที่ความจุกระบอกสูบเท่าๆกัน คือน้ำหนักของชิ้นส่วนของวาล์ว พอทำเป็น SOHC จำนวนวาล์วจะน้อยตัว ส่วนมากมักจะเป็น 2 วาล์ว ต่อสูบ ขนาดของวาล์วจะใหญ่โต ทำงานที่รอบสูงๆจะเกิดอาการวาล์วลอย สปริงดันปิดไม่ทันตัวเนื่องมาจากแรงเฉื่อย เพราะน้ำหนักมากนั่นเอง จึงพัฒนาต่อมาเป็น DOHC จากคุณ : jmcko - [ วันพ่อแห่งชาติ 11:12:58 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ยิ่งมีชิ้นส่วนกลไกมากยิ่งมีแรงเฉื่อยเยอะ  พอแรงเฉื่อยเยอะเราก็ต้องใช้แรงในการควบคุมมากขึ้น รถที่เครื่องใหญ่ๆ(มวลมาก)จึงเกิด loss มากกว่าเครื่องเล็กๆ(มวลน้อย)..........หรือถ้าความเร็วเครื่องคุณสูง วาล์วจะมีความเร่งสูงมากๆ ที่นี้ถ้าสปริงคุณมีค่า k น้อยเกินกว่าที่จะทำให้วาล์วกดติดกับผิวลูกเบี้ยวตลอดเวลาจะเกิดอาการที่เรียกว่า valve bounce (มันจะกระเด้งหลุดจากผิวแคม) จากคุณ : ROBOTMAN (ROBOTMAN10GHz) - [ วันพ่อแห่งชาติ 11:40:07 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ตามมาเก็บข้อมูล จากคุณ : PiGsPy - [ วันพ่อแห่งชาติ 20:06:05 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ม่ะ ตอบให้นะ SOHC = Single Over Head Camshaft DOHC = Double Over Head Camshaft ทั้งคู่อยู่ข้างบน ไม่ต้องมีกระเดื่องครับ โดยเทคโนโลยี่ปัจจุบัน มันอาจจะไม่แรงแตกต่างกันมาก แต่สมัยก่อนนั้น DOHC สามารถทำให้เครื่องมีประสิทธิภาพสูงกว่าได้เนื่องจาก สามารถออกแบบองศาการเปิดปิดวาล์วไอดีและไอเสียได้แม่นยำ และสามารถทำให้มัน overlap ได้ง่ายกว่า แหม.... มันต้องมีรูปถึงจะเข้าใจง่าย การที่วาล์วไอดีเปิดได้เร็วขึ้นกว่าเดิม จะทำให้ประจุไอดีได้มากขึ้น เนื่องจากอาศัยแรงดูดตอนที่คายไอเสียออกไปทางวาล์วไอเสียครับ แต่การทำให้ overlap กันมากเกินไป มันจะมีปัญหาในเครื่องรอบต่ำ สั่นเป็นเจ้าเข้าเลย แต่ถ้ารอบสูงล่ะก็ ลื่นไหลทะลุปรี๊ดและกินน้ำมันมหาศาล สมัยโบราณนานปี แต่งรถเฟียต Racing 2000 cc. มาก่อนครับ วิ่งทะลุ 200 มาแล้ว แต่ขอโทษ วิ่งธรรมดาๆ ในเมือง ล่อน้ำมันเข้าไป 4 กิโลเมตรต่อลิตร !!!!!!! ขายทิ้งไปหลายปีแล้วครับ เสียดายอยู่ จากคุณ : ดุ่ย - [ วันพ่อแห่งชาติ 22:45:48 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เครื่องใหญ่กว่ามากๆ ก็น่าจะแรงกว่า  ถ้าไม่งั้น ต้องออกแบบเครื่องให้รับซุปเปอร์น้ำมัน หรือ ซุปเปอร์ชารต์เจอร์ รึไม่ก็รอความรู้นาโนเทคในไทยพัฒนาสู่ประชาชน ในรูปแบบต่างๆ มากกว่านี้ จึงอาจจะมีผู้ที่มาตอบได้ดี ๆ จากคุณ : k (kongp) - [ 6 ธ.ค. 50 00:40:42 ]

ความคิดเห็นที่ 12 พอได้ไอเดียครับ K.Future is on my hand ....ผมเองแหละที่ไปถามในรัชดา แต่มันไม่กระจ่างได้ในเชิงวิชาการ แต่พอได้ว่า องศา มัน lift วาวล์ ได้มากขึ้น   เออ พอ มาที่นี่ ก็ได้ในเชิง วิชาการอีกนิด ว่า พื้นที่ overhead มันมาก ทำอะไรได้มาก K.ดุ่ย.... ผมว่า  fiat -Abaht mirafiori แน่ๆ เป็นรถ ที่ผมรัก จิงๆ  คับ จากคุณ : COALMAN - [ 6 ธ.ค. 50 07:21:13 ]

ความคิดเห็นที่ 13 FIAT เครื่อง 2 ลิตรที่เห็นนิยมเอามาแต่งยุคนั้นมี 131 Supermirafiori กับ 131 Racing ส่วนรุ่นตราแมงป่อง 131 Racing Volumetrico เครื่อง Supercharge 12 คันนั่นแค่ขับเดิมๆ โชว์ก็เท่แล้ว ผมว่าระยะยกวาล์วมันอยู่ที่ "จมูก" ของลูกเบี้ยวไม่ใช่หรือครับ จะแค็มแท่งเดียวหรือ 2 แท่งมันก็ทำได้เท่ากันนะ พอดีไม่ได้อ่านในรัชดาเสียด้วย หรือท่านๆ ว่าไงครับ? จากคุณ : dragunov - [ 6 ธ.ค. 50 08:20:37 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ถ้าเป็น SOHC วาวล์จะต้องเข้าแถวเรียงกับเป็นแถวตอนเรียงเดี่ยว สลับกันระหว่างไอดีและไอเสีย ทำให้การออกแบบฝาสูบและห้องเผาไหม้มีข้อจำกัด ว่า่ห้องเผาไหม้มักจะต้องออกมาเป็นทรงกระบอก ซึ่งจะมีผลต่อไปถึงการเผาไหม้ที่จะกระจายออกจากหัวเทียนได้ไม่ทั่ว และการประจุไอดี ไล่ไอเสีย ทำได้ไม่ดีเท่าแบบที่ DOHC ใช้ ส่วน DOHC สามารถเอาวาวล์ไอดีแยกไปเอียงๆไว้ข้างหนึ่ง และไอเสียก็ไปเอียงๆไว้อีกข้างหนึ่ง เป็นแถวตอนเรียงสอง ทำให้ออกแบบหน้องเผาไหม้ได้หลากหลายแบบกว่า แต่ที่ใช้กันมากก็แบบครึ่งทรงกลม ซึ่งทำให้การประจุไอดี ไล่ไอเสียดีขึ้น เพราะไอเสียจะไหลออกไปทางนึง แล้วไอดีก็ไหลเข้ามาจากอีกฟาก (Cross flow) ยิ่งถ้าใช้แคมโอเวอร์แลป ก็ยิ่ิ่งประจุได้ดีขึ้น SOHC จะวางวาวล์แบบ Cross flow ก็ได้ แต่จะต้องใช้บริการของกระเดื่องกดวาวล์ ซึ่ง คห. บนๆก็ว่าถึงปัญหาของการใช้กระเดื่องไปแล้ว รูปฝา BMW สี่วาวล์ DOHC จากคุณ : alan the lamb - [ 6 ธ.ค. 50 11:49:36 ]

ความคิดเห็นที่ 15 DOHC อีกรูป จากคุณ : alan the lamb - [ 6 ธ.ค. 50 11:51:25 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนจิงๆ ครับ เปลี่ยนแคมให้เปิดนาน ไม่พอใจ เอาไปจนถึง variable วาวล์ เลย แล้วมัน จะไปไหนอีกเนี่ย จากคุณ : COALMAN - [ 6 ธ.ค. 50 16:56:40 ]