ความคิดเห็นที่ 1 งงแหะ ถ้าแบบที่คุณว่าในอนาคตเราจะมี net-idol แทนครับ พวกข่าวรับทาง feed ทีวีก็อาจจะไปฉายผ่าน you tube แล้วมันไม่ใช่เสรีภาพตรงไหน เขามีสิทธิเลือกสิ่งที่เขาอยากรับรู้ ไม่ใช่สิ่งที่ทีวีอยากฉาย จากคุณ : house (panote_saechiew) - [ 8 ธ.ค. 50 11:34:00 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อย่ากลัวอนาคตครับ ถ้าหากว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้นจะทำให้สิ่งต่างๆ ดีขึ้น การ Hack โลกทั้งใบ ถ้าหากว่าเป็น Microsoft Windows นั้นพอจะเป็นไปได้ครับ แต่ถ้าหากว่าเป็นพวกระบบปฎบัติการเสรีซอฟแวร์ เช่น Linux , FreeBSD ฝันไปเลยครับ ว่าจะเป้นไปได้ เพราะระบบที่มีความแตกต่างกันมากมาย Hacker ก็เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา ไม่มีทางเดาใจคนทั้งโลกได้หรอกครับ จากคุณ : นายสาระแน - [ 8 ธ.ค. 50 11:42:15 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ผมว่ายังไงทีวีก็ยังต้องมี ขนาดสมันก่อนตอนมีทีวีขาวดำครั้งแรก ใครๆก็พูดว่าวิทยุจะหมดไป แต่ตอนนี้วิทยุก็ยังมีอยู่ แถมก็ยังฮิตอีกด้วย ถ้าทำออกมาดีๆ จากคุณ : yabeer - [ 8 ธ.ค. 50 13:10:25 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อืม..... การเปลี่ยนแปลงอาจจะดีขึ้นหรือแย่ลง อย่างน้อยเราก็ได้ก็ได้ทำสิ่งที่ต้องทำ และควรทำ จากคุณ : Epinephrine - [ 8 ธ.ค. 50 13:56:40 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ต้องให้คอมพิวเตอร์เข้าถึงทุกคนได้ก่อนแล้วค่อยกลัวครับ จากคุณ : Lancaster - [ 8 ธ.ค. 50 14:22:35 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ข้อความของคุณมันขัดแย้งในตัวเอง อย่ากลัวอิสระบนเนต กลัวพวกปิดกั้นอิสระบนเนตดีกว่า จากคุณ : ไม่มีสมาชิกชื่อนี้ - [ 8 ธ.ค. 50 14:54:24 ]

ความคิดเห็นที่ 7 .... มันเป็นไปได้ยาก   เพราะทุกอย่างมีกลไกในระบบของมันเอง       อย่างเช่น โฆษณา   TV  มีความน่าเชื่อถือซะจน  ไม่มีสื่อไหนจะเทียบเคียงได้เลย จากคุณ : DR บ๊อง - [ 8 ธ.ค. 50 15:07:19 ]

ความคิดเห็นที่ 8 มันเกี่ยวกับเสรีภาพตรงไหนอะคะ จากคุณ : -->+:+โชยุ&วาซาบิจัง+:+<-- - [ 8 ธ.ค. 50 16:40:09 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมว่าเป็นจุดเริ่มต้นมากกว่านะครับ อิสระภาพในข้อมูลข่าวสารเลยนะครับ คุณอยากท่องไปในโลกกว้าง หรือ จะอยู่แค่ในกล่องครับ จากคุณ : .............................. - [ 8 ธ.ค. 50 18:41:21 A:58.8.49.140 X: TicketID:087386 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ตอนทีโลกรู้จักโทรศัพท์เป็นครั้งแรก ก็มีพวกconservative ออกมาวิจารณ์ว่ า นับแต่นี้ไปมนุษย์จะไม่มีสัมพันธ์กันแล้ว เพราะใช้โทรศัพท์คุยกันอย่างเดียว ไม่เห็นหน้าค่าตาเลย จากคุณ : Roninkung - [ 8 ธ.ค. 50 19:19:16 ]

ความคิดเห็นที่ 11 internet เป็นแค่สื่อ อย่างหนึ่งครับ จากคุณ : นายโอ้นโต้น - [ 8 ธ.ค. 50 19:32:17 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 8 ธ.ค. 50 20:20:57 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ที่แน่ๆมันคือ internet >> torrent >> HDD พัง อารยธรรมล่มสลายเมื่อเกือบเดือนมานี่เอง อารายธรรมขนาด250gb หุหุ..... หายหมดเลยโหลดตั้งนาน T_T จากคุณ : life-x-zone - [ 8 ธ.ค. 50 21:38:45 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ปวดหัวครับ  อ่านแล้วนึกถึงความสับสนวุ่นวาย ใครใคร่ทำ ทำ ... ต่างคนต่างทำ  อยากทำอะไรก็ทำไปเพราะเทคโนโลยีเอื้ออำนวย คิดว่า  ถ้าดูหนังฟังเพลง  คงยอมรับได้แหละครับ แต่หากเป็นข่าวสารสำคัญๆ แหล่งข่าวต้องยืนยันตัวตนได้และเป็นที่ยอมรับ  ถ้าเปรียบกับคน  ก็ต้องเป็นคนที่มีหัวนอนปลายเท้า จากคุณ : เข้ามาจอบ - [ 8 ธ.ค. 50 22:04:38 ]

ความคิดเห็นที่ 15 internet จะเป็นสื่อในอีกทางเลือกหนึ่งเท่านั้นแหล่ะ ที่พอจะเทียบเคียงกันได้ ก็คือ สื่อสิ่งพิมพ์ แต่ก็ไม่ทั้งหมดหรอก สิ่งที่พอจะเห็นได้ชัด ก็คือ คอลัมนิสต์จะมีบทบาทน้อยลง หรือไม่มีเลย จากเดิมที่ผูกขาดการแสดงความเห็น ก็มีเว็บบอร์ดเข้ามาแทน ข้อเหนือกว่าของเว็บบอร์ดก็คือ เป็นการสื่อสารทางตรง โต้ตอบกันได้รวดเร็วในแบบ realtime ส่วนทีวี ดูจะเทียบเคียงกันยากนะ วิทยุก็ยังพอเทียบได้อยู่... จากคุณ : Murano - [ 8 ธ.ค. 50 22:58:08 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เนตมันนอนเองหลัง ดู หรือ ฟัง ไม่ได้ต้องคอยคลิก เมื่อ ดูหรือฟังจบ ถ้าจะเปลี่ยนอย่างมากก็แค่ย้าย TV + วิทยุ มาดู หรือ ฟังในเนตแทน เพราะบางครั้งคนเราก็อยากปล่อยตัวปล่อยใจ ให้ ทีวีหรือวิทยุ เล่าเรื่องของมัน จากคุณ : DevilDoll - [ 8 ธ.ค. 50 23:14:43 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่มองถึงหลักการตลาดเลยเหรอครับ คุณซื้อ Handycam มาทำรายการทางอินเทอร์เนต แล้วใครจะดูครับ ถ้าหนังของคุณ ไม่มีดาราที่เป็น Idol แล้วจะมีคนสนใจบริโภคหรือไม่..? จากคุณ : Angos - [ 9 ธ.ค. 50 00:30:44 ]

ความคิดเห็นที่ 18 #14 นั่นล่ะครับที่ผมอยากจะสื่อ.... #9 อิสระภาพจึงมีปริมาณมาก แต่ในแง่ความน่าเชื่อถือล่ะครับ.... #17 ผมพนันได้เลยว่าคุณไม่เคยนอนเอนหลังดู Youtube บนจอทีวี อิสระของโลกอยู่ที่ปลายนิ้ว ไม่มีใครไม่ชอบหรอกครับ เลือกสื่อทุกอย่างได้เอง.... ในไทยมีคนเขียน Blog หลายแสนคน มีเกินสิบคนที่กลายเป็น Website ยอดนิยม แล้วถ้ามี Handycam 5 หมื่นตัว เราก็มีรายการ TV เป็นหมื่นสถานี และมี 10 สถานีที่คนนิยม ถ้ามันโตจนถึงจุดที่ 4 สถานีนี้ Agency บางเจ้าศึกษามาแล้วว่าคุ้มค่าต่อการโปรโมทสินค้ามากกว่าทีวีล่ะ โฆษณาก็จะทุ่มลงไป เม็ดเงินเข้าบุคลากรก็เข้า บุคลากรเข้าคุณภาพก็เพิ่ม คนดูเพิ่ม ทุกอย่างเหมือนทีวีหมดเลยครับ ต่างกันตรงที่ ทีวีปัจจุบันมีหน่วยงานของรัฐดูแลควบคุม.... ถ้านึกภาพไม่ออก ลองนึกภาพ TV ปัจจุบัน ถ้าไม่อยู่ในอำนาจรัฐ อาจดีขึ้นตรงความเป็นเสรีเหมือน iTV (สมัยก่อนนะ) แต่ถ้า iTV โฆษณาเข้า คนดูติด แล้วขาดจรรยาบรรณล่ะ ? iTV บิดเบือนข่าวไม่ได้เพราะช่องอื่นๆเสนอตรงกัน แต่ถ้าในโลกที่ไม่มีใครรู้ว่าใครจริง ใครบิดเบือนล่ะครับ ? จากคุณ : Tire Tracks Studio - [ 9 ธ.ค. 50 01:52:27 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อืมๆ เข้าป่าๆ จากคุณ : atheist - [ 9 ธ.ค. 50 09:54:49 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คำพูดของเจ้าของกระทู้ขัดๆ กันเองนะครับ "อีก 20 ปีคงจะไม่มีดารา ไม่มีสถานีโทรทัศน์ ไม่มีนักร้อง ไม่มีสื่อสารมวลชน...." ถ้าคุณใช้ Handycam ถ่ายแฟนคุณ ลง Youtube หรือรายการออนไลน์ และมีคนดูมากๆ เมื่อได้รับความนิยม แฟนคุณก็จะกลายเป็นดารา อินเทอร์เนตก็จะกลายเป็นสถานีโทรทัศน์ และสื่อสารมวลชนไปอัตโนมัติ คนจะเริ่มสนใจแฟนคุณ และก็จะมีการติดต่อแฟนคุณไปออกรายการสัมภาษณ์ ในสถานีอินเทอร์เนตอีกช่องหนึ่ง อารยธรรมทุกอย่าง ไม่ได้ล่มสลายเลย แค่ยกตัวเองไปอยู่ในโลกดิจิตอล ในอนาคต เราอาจจะท่องอินเทอร์เนต ผ่านทางจอขนาดใหญ่คล้ายจอทีวี ซึ่งเลือกช่องได้เป็นหมื่นๆ ช่อง มันก็ไม่ต่างอะไรกับปัจจุบันเลย แค่คู่แข่งมากขึ้น การตลาดต้องหลากหลายมากขึ้น การตลาดแบบ Mass จะเริ่มลดความสำคัญลง และการตลาดแบบ One-to-one จะมีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนมากขึ้น อารยธรรมไม่ล่มสลาย แค่เปลี่ยนรูปแบบไปเท่านั้น.. รายการทีวียังอยู่ แต่จะกลายเป็นแบบเลือกรับชม ผ่านทางสื่อดิจิตอล ดารายังอยู่ แต่จะมีมากขึ้น และ Segmentation ตามกลุ่มที่ชื่นชอบมากขึ้น สื่อยังอยู่ แต่จะเปลี่ยนรูปแบบจาก Interruption Marketing เป็น Permission Marketing อันนี้ความเห็นส่วนตัวล้วนๆ ครับ มองจากแนวโน้มของปัจจุบัน.. จากคุณ : Angos - [ 9 ธ.ค. 50 12:59:05 ]

ความคิดเห็นที่ 21 #20 แบบนั้นมันจะไม่ใช่ดาราน่ะสิครับ มันจะเป็นใครก็ไม่รู้ที่ทำรายการที่สถานีนี้ เหมือนคนเขียน Blog นั่นแหละครับ ไปเดินตลาดสดเจอคน 100 คน มีคนรู้จักสองคน.... ดารา คือคนที่พูด ทำอะไรก็ตามแล้วได้รับความสนใจจากคนทั่วไป ถ้าสัญญา คุณากร พูดเรื่องเดียวกันกับใครก็ไม่รู้ของอีกสถานี คนก็ฟังสัญญามากกว่า แต่ถ้าอนาคตมันเป็นใครก็ไม่รู้ 20 คนล่ะ ? ไม่มีข่าวจากสรยุทธ์ มีแต่ข่าวจากใครก็ไม่รู้เต็มไปหมด.... โลกที่ไม่มีใครฟังใคร ไม่มีใครรู้ว่าอะไรคือ "ข้อมูลที่เป็นทา่งการ" ผมว่านั่นล่ะคือจุดเริ่มต้นของการล่มสลายที่ผมพูดถึงครับ.... ยกตัวอย่างง่ายๆเลย เมื่อวานนี้ รายการทีวีบอกว่าจุดพลุ 4 ทุ่ม ตอนนั้นผมไม่ทราบ ก็เช็ก Internet มีข่าวสองแหล่งคือ 19.30 กับ 21.00 (ความโกลาหลเริ่มตรงนี้แหละ) ถ้าีข่าวสารที่เป็นทางการไม่ทั่วถึงเท่า Internet (เพราะดันไปอยู่ช่อง 11) ผลก็คือรอบตัวผมมี 4-5 คน เกินครึ่งซะอีกครับ ที่ไม่ได้ดูทีวีแต่รู้จาก Internet และฟังจากคนที่อ่านจาก Internet ผมค่อนข้างแน่ใจว่าเกิน 30-40% ของคนในคืนนั้นมาผิดเวลาเพราะไม่รู้ข่าวสารที่เป็นทางการ เมื่อคืนบางคนต้องรถติดอยู่พระราม 4 เกิน 3 ชั่วโมง ขยับไปไหนไม่ได้เลย ถ้าทุกคนรู้ข้อมูลที่เป็นทางการหมด แทนที่จะมีสองทุ่มกว่า เขาก็มาสามทุ่มกว่า บนถนนอาจจะติดกันเหลือแค่ชั่วโมงเศษเท่านั้น.... มันเริ่มแล้วใช่มั้ยครับ.... จากคุณ : Tire Tracks Studio - [ 9 ธ.ค. 50 13:21:30 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ถ้าคนจำนวนมากจริงๆ มาชมรายการคุณ และชื่นชอบในแฟนคุณที่มาแสดง คุณยังจะบอกอีกหรือ ว่าไม่ใช่ดารา?? คุณนิยามคำว่าดาราว่าอย่างไร?? อินเทอร์เนตก็คือสื่อประเภทหนึ่ง.. แล้วถ้าอินเทอร์เนตมันมีข้อดีมากขึ้นแบบนี้แล้ว อารยธรรมจะล่มสลายอย่างไรครับ ทุกวันนี้ก็มีไอดอลจากอินเทอร์เนตหลายคนแล้ว ทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ และจะแปลกอย่างไร ถ้าในอนาคต ดาราจะดังเพราะอินเทอร์เนต อ่านข้อความของคุณยังไง ผมก็ไม่เห็นว่า อารยธรรมจะล่มสลายตรงไหน แค่เปลี่ยนช่องทางการเผยแพร่ เปลี่ยนรูปแบบการหาเงิน ก็เท่านั้น.. จากคุณ : Angos - [ 9 ธ.ค. 50 13:34:21 ]

ความคิดเห็นที่ 23 อนาคตอีก200ปีจะไม่มีผู้แทน ทุกคนจะลงคะแนนเสียงโดยตรงได้ทุกเรื่องในการกำหนดทิศทางสังคม จะเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง จากคุณ : จาก - [ 9 ธ.ค. 50 14:10:00 A:125.27.105.143 X: TicketID:159709 ]

ความคิดเห็นที่ 24 คห#23 อือม แล้วจะอยู่ถึงหรือครับ จากคุณ : ชื่อนี้ใช้ได้ - [ 9 ธ.ค. 50 14:45:32 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขอยกประโยคนี้มาอีกที.... โลกที่ไม่มีใครฟังใคร ไม่มีใครรู้ว่าอะไรคือ "ข้อมูลที่เป็นทา่งการ" ผมว่านั่นล่ะคือจุดเริ่มต้นของการล่มสลายที่ผมพูดถึงครับ.... ีสื่อที่คนเข้าถึงได้มากที่สุดในปัจจุบัน อยู่ในสังกัดสำนักนายกฯ ของกองทัพ ไม่ใช่นึกจะทำอะไรก็ทำครับ.... เงินมันซื้อความหลงผิดได้ ถ้าห้องราชดำเนินใน Pantip, ไฮทักษิณ, มหาลัยเที่ยงคืน, ผู้จัดการ เป็นสถานีที่ผมว่าล่ะ แล้วมีซัก 20 สถานีล่ะครับ ? ไม่มีการกลั่นกรอง ไม่มีการควบคุม อะไรจะเกิดขึ้น.... เรื่องดารา ช่างหัวมันก่อนก็ได้ครับ ผมอาจอธิบายไม่เคลียร์เอง.... จากคุณ : Tire Tracks Studio - [ 9 ธ.ค. 50 15:10:43 ]

ความคิดเห็นที่ 26 Who the hell wants to hear actors talk?"         -- H. M. Warner, Warner Brothers, 1927. "There is no reason anyone would want a computer in their home."         -- Ken Olson, president, chairman and founder of Digital Equipment Corp., 1977. จากคุณ : Mancantfly - [ 9 ธ.ค. 50 16:40:43 ]

ความคิดเห็นที่ 27 คุณ จขกท. คิดว่า ทีวีเดี๋ยวนี้มีการกลั่นกรองที่ดีแล้วหรือ?? คิดใหม่เถอะครับ เราถูกครอบงำด้วยสื่อไร้จรรยาบรรณมานมนานตั้งแต่ก่อนมีอินเทอร์เนตแล้วครับ ในทางกลับกัน อินเทอร์เนตสมัยนี้ กลับเป็นสื่อที่เปิดโปงการลวงโลกของสื่อต่างๆ มากกว่าเสียอีก เพราะคนทุกคน สามารถโต้ตอบและออกความเห็น ด้วยกลไลธรรมชาติ จากคุณ : Angos - [ 9 ธ.ค. 50 18:37:15 ]

ความคิดเห็นที่ 28 คำว่าอย่างเป็นทางการ ? เอาอะไรมาวัดครับ ข่าวต้องตรงกับรัฐบาล ต้องตรงกับกองทัพ อย่างนั้นถึงจะถือว่าเป็นทางการเหรอ? ความสำคัญของข่าวจริงๆแล้วก็คือ fact ครับ ต่อให้ข่าวมีมากมายหลายแหล่งข่าว แต่ถ้ามันเป็น fact มันก็เชื่อถือได้ครับ แล้วเรื่องเงินที่ซื้อสื่อเนี่ย ไม่ใช่ว่าจะไม่เกิดขึ้นกับ ทีวี วิทยุ หรือ หนังสือพิมพ์นะครับ เกิดมานานแล้ว ลองไปหาดูเอาก็ได้ จากคุณ : Mr.JoH (Mr.JoH) - [ 9 ธ.ค. 50 19:38:36 ]

ความคิดเห็นที่ 29 #28 อย่างน้อยสถานีของหน่วยงาน มันต้องมีความรับผิดชอบมากกว่าครับ เพราะถ้ามีอะไรผิดพลาดมันก็ตามตัวได้ หาคนรับผิดชอบได้ (เพียงแต่จะตามกันมั้ยเท่านั้น) สิ่งที่เลวร้ายที่สุดของสื่อทีวี เท่าที่ผมเห็นก็แค่ไม่นำเสนอตามความเป็นจริง ซึ่งก็ไม่้บ่อย.... สิ่งเลวร้ายใน Internet ที่ผมเห็นคือกรณี Youtube กับคลิปหมิ่นเบื้องสูงครับ.... มันไม่มีอะไรขาวสนิทหรอกครับ เพียงแต่ Internet นั้นเราควบคุมอะไรแทบไม่ได้เลย ใครนึกจะทำอะไรก็ทำ อย่างที่ผมพูดนั่นแหละครับ.... Website ที่มี Rating สูง ไม่ได้เป็นตัววัดว่าจะมีจริยธรรมสูง.... จากคุณ : Tire Tracks Studio - [ 9 ธ.ค. 50 20:52:07 ]

ความคิดเห็นที่ 30 #29 ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตมีการควบคุมได้ด้วยตัวของมันเองอยู่แล้ว อย่าห่วงจนเกินกว่าเหตุเลย.. ดาบมันมีสองคมเสมอ.. คุณรู้หรือไม่ ว่าทุกวันนี้ อะไรจริงอะไรเท็จ สถานีของหน่วยงาน คุณเชื่อมือเค้าหรือ?? คนรับผิดชอบ?? หาได้เหรอครับ แน่ใจหรือว่าไม่ใช่แพะ.. ทุกวันนี้ ไทยรัฐเป็นอย่างไร..? ผมว่าคุณมองโลกในแง่ดีเกินไปด้วยซ้ำ.. คนไทยหลายๆ คนมองไม่เห็นสภาพความเป็นจริงของสังคมหรอกครับ ถ้าคนส่วนใหญ่มองเห็นกัน ประเทศชาติคงไปไกลกว่านี้โขแล้ว.. ไม่เกี่ยวกับอินเทอร์เนต อย่าไปโทษ ถ้าจริยธรรมของคนมันไม่สูงพอ จะมีสื่อที่ดีแสนดีมาอีกกี่สิบแบบ ก็ไร้ค่า.. และคนก็จะดักดานอยู่เรื่อยไป ข้อดีของสื่อสองทางอย่างอินเทอร์เนต เมื่อมีอะไรไม่ชอบมาพากล ผู้บริโภคสามารถสื่อสารกันได้มากกว่าสื่อทางเดียวอย่างวิทยุ หรือทีวี ส่วนเรื่องจรรยาบรรณ เอ่อ.. ลืมๆ มันไปซะเถอะ ไม่ว่าจะสื่อไหนก็ตาม จากคุณ : Angos - [ 9 ธ.ค. 50 21:05:49 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ทำไมข่าวของกองทัพ  ของ รัฐบาล  ถึงต้องเป็นข่าวที่ "จริง" ที่สุด เสมอไปล่ะ ทำไมเราต้องเสพแต่ข่าวที่ "เขา" ป้อนให้เท่านั้น เคยดูเรื่อง V for vendetta ไหม ไปดูก่อน แล้วมา discuss กัน "ข่าวที่เป็นทางการ"  ที่คุณต้องการ อาจจะเป็นข่าวโกหกก็ได้นี่  ไม่มีอะไรรับประกันเลยว่า รัฐบาล  กองทัพ จะไม่ "โกหก" หรือ "สร้าง propaganda" คุณว่ารัฐบาลซัดดัม จะออกข่าวเรื่องฆ่าชาวเคิร์ทให้คนอิรัก ดูจริงๆเหรอ จะว่าไปก็เหมือนพวกอนุรักษ์นิยมกำลังหนีอนาคตนะ ว่าไหม ต่อต้านเทคโนโลยี เพราะเราไม่เข้าใจเทคโนโลยี เหมือนพวก นักบวชสมัยยุคกลาง พยายามเอาคนที่เล่นแร่แปรธาตุ (นักวิทยาศาสตร์ ?) ไปเผา เพราะหาว่าเป็นแม่มด แก้ไขเมื่อ 09 ธ.ค. 50 22:53:17 จากคุณ : ซามาร่า-ไม่เคยหลับ - [ 9 ธ.ค. 50 22:51:31 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ไปๆมาๆ ฟังดูน่าจะเป็นความกังวล  ของพวกที่ต้องการ "โกหก" , "หลอก" และ "propaganda"   มากกว่าความกังวลของประชาชนทั่วไปนะ เพราะถ้าเรามีสื่อมาก เราสามารถเทียบเคียงได้ ไม่จำเป็นที่จะต้องเชื่อข้อมูลในเว็บไซต์ทั้งหมด  ดูอย่างตอนเกิดสึนามิ ตอนแรกข่าวภาคเช้าไม่มีออกข่าวไรเลย  แล้วทำไมมีคนโพสกระทู้เพียบเลยล่ะ  ถ้าไม่มีอินเตอร์เน็ต กว่าคุณจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ตอนที่กองทัพนักข่าว ไปถึงแถวๆนั้น เกือบบ่าย ค่อนไปเย็น ถึงเห็นว่ามีคนตายเป็นพัน ผู้สูญเสียประโยชน์ คือพวกที่ต้องการ "โกหก" อะไรบางอย่าง โดยพยายามบอกว่าสิ่งที่พวกเขา "กระจาย" นั้นคือเรื่องจริง และไม่อยากให้รับรู้ "เรื่องจริง" จากทีอื่นมากกว่า จริงไหมล่ะ แก้ไขเมื่อ 09 ธ.ค. 50 22:58:52 จากคุณ : ซามาร่า-ไม่เคยหลับ - [ 9 ธ.ค. 50 22:58:09 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ถ้ามันเป็นที่นิยมกว่าสื่อจากส่วนกลาง ข่าวสารจะเร็วแน่ๆครับ แต่คงกระจัดกระจาย หาความจริงลำบากขึ้น เหมือนเรื่องพลุที่ผมยกตัวอย่างนั่นแหละครับ.... ถ้ามีสึนามิอีกครั้ง ผมจะค้นชื่อญาติที่อยู่ในพื้นที่ Web โน้นบอกให้เช็กโรงบาลนี้ ทางนี้ก็บอกให้ไปดูที่โน่น -_-" ดูทีวีก็ได้ครับ ถึงตัวเลขจะช้า แต่ครึ่งวันผ่านไปตัวเลขแต่ละช่องก็ใกล้เคีัยงกันมากขึ้นเรื่อยๆ และเป็นตัวเลขที่เชื่อถือได้ค่อนข้างมาก.... หรือถ้า Web ที่เป็นที่นิยมสูงสุด ถูก Hack ปล่อยข่าวโรงไฟฟ้าระเบิดพร้อมกัน 3 แห่งล่ะครับ ? หุ้นร่วงภายใน 30 นาที หัวโจกก็ไปช้อนซื้อ เปรมสิครับ.... หรือจำได้มั้ยครับว่าพรรคการเมืองบางพรรคปล่อยข่าวใน Internet ช่วงก่อนเลือกตั้งเมื่อสองปีก่อน เพื่อทำลายคะแนนเสียงพรรคตรงข้าม ถ้าเป็นสื่อที่มีหน่วยงานควบคุมมันทำไม่ได้หรอกครับ.... การหาประโยชน์ของการตื่นข่าว กรณีที่ผมพูดอาจจะมีโอกาสเกิดแค่ 1 ในพัน แต่ลองคิดดูว่ามันมี 1 ในพันอีกไม่รู้กี่พันกี่หมื่นแบบที่สามารถเกิดขึ้นได้ครับ.... จากคุณ : Tire Tracks Studio - [ วันรัฐธรรมนูญ 01:49:48 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ผมรู้สึกว่าคุณให้ความสำคัญกับหน่วยงานที่ควบคุมมากไปหน่อยนะครับ ตัวอย่างที่คุณยกมาทั้งหมด ที่คุณอ้างว่ามีโอกาสเกิดขึ้นได้บนinternet จริงๆแล้วมันก็สามารถเกิดขึ้นได้กับสื่อแบบเดิมเช่นกัน ส่วนเรื่องพรรคการเมือง ผมว่ามันอยู่ที่การพิจาณาของคนอ่านมากกว่า เพราะท้ายสุด เราที่เป็นคนอ่านข่าวก็ต้องตัดสินใจเลือกอยู่ดี ว่าจะเชื่อข่าวไหน ซึ่งตรงนี้สื่อบน internetจะได้เปรียบ เพราะมีหลายช่องทางให้เราเปรียบเทียบข้อมูล ขึ้นชื่อว่าเป็นข่าว ยังไงมันก็เป็น data ที่ผ่านการปรุงแต่งอยุ่แล้ว การที่เราฟังข่าวแล้วเชื่อเลยโดยไม่ไตร่ตรองเนี่ย ผมว่าค่อนข้างงี่เง่า ครับ แล้วก็อยากแนะนำอย่างที่ความเห็นบนๆแนะนำไว้ ให้ไปดูเรื่อง V for Venedda ครับ คุณจะรู้สีกได้เลยว่า สื่อที่มีองค์กรควบคุมน่ะ ไม่ใช่จะเป็นกลางเสมอไป จากคุณ : Mr.JoH - [ วันรัฐธรรมนูญ 05:06:22 ]

ความคิดเห็นที่ 35 #33 ไอ้ตอน tsunami มันมั่วเพราะคนระยาม..มันอยากได้ผลงาน+หวงก้างกลัวคนอื่นได้หน้าครับ.. ผมล่ะโคตร สงสัย ต้องการให้คนมารับศพได้เร็วต้องการ กระจายข้อมูลให้ติดตามยอดคนหายได้ แต่ทำไมหวงกันนักอ้างสารพัดเรื่องความปลอดภัยของข้อมุล ที่แท้ เรื่องทุเร่ดๆ ของวงการราชการ ตอนนี้ตายห่าไปแล้ว.. อย่างน้อยก็คนนึง..เพิ่งเผาไปปีก่อน จากคุณ : . . - [ วันรัฐธรรมนูญ 07:01:41 A:124.120.2.157 X: TicketID:161873 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ผมว่า จขกท กำลังหลงประเด็นหน่อยๆ ถ้าเรื่องอารยธรรมล่มสลายเนี่ย คงไม่เกี่ยว ดารา สถานีโทรทัศน์ นักร้อง สื่อ ทุกอย่างจะยังคงมีอยู่อีกนานแสนนาน แต่ถ้าความน่าเชื่อถือของสื่อน่ะ พอฟังขึ้น แต่อย่างที่บอกแหละ ทุกๆ สื่อมีพัฒนาการเสมอ อินเทอร์เนตยังถือว่าใหม่สำหรับเมืองไทย มันจะมีกลไกตลาดมาควบคุมในอนาคตแน่นอนครับ ไม่ต้องห่วงหรอก สื่อห่วย คนไม่เสพ มันก็อยู่ไม่ได้ ยกเว้นสื่อห่วย คนเสพ คนมันก็โง่ดักดาน ไม่ต่างอะไรกัน ทั้ง Online และ Offiline PS. เรื่องการปล่อยข่าวปลอมเพื่อโจมตีตลาดหุ้นมีมานานแล้วครับ แต่หลายๆ เคสที่ผ่านมา มีอินเทอร์เนตเป็นเครื่องมือที่ช่วยไขความกระจ่างได้อย่างรวดเร็ว จากคุณ : Angos - [ วันรัฐธรรมนูญ 11:19:58 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ยกตัวอย่างตลาดหุ้นก็ดีแล้วคุณ จะบอกให้นะว่า ถ้าตลาดหุ้นรับข่าวแต่จาก TV , Radio นักลงทุนจะไม่มีทางได้ข้อมูล update มากพอในการตัดสินใจ ปัจจุบันโปรดักส์ ประเภท Data ที่ใช้กันในวงการหลักทรัพย์ มีมากกว่าที่คุณเข้าใจ คนเล่นหุ้นได้อ่านแต่กระทู้ หรือ นั่งตาแป๋ว จ้องทีวี - Biznews - Reuters - Web Settrade - Web กระทิงเขียว - ห้องสินธร - วงในจาก Mar แต่ในมุมมองกลับกัน ถ้าข่าวมาจากแค่ ที่ใดที่หนึ่งแหล่งเดียว ไม่มีสามารถ Two way reconcile ได้ นั่นแหล่ะปัญหา จากคุณ : ซามาร่า-ไม่เคยหลับ (ซามาร่า-ไม่เคยหลับ) - [ วันรัฐธรรมนูญ 11:45:33 ]

ความคิดเห็นที่ 38 คุณต้องแยกแยะความจริง จากสมมุติฐานเบื้องต้นเสียก่อนว่า ข้อมูลข่าวสาร จาก กองทัพ และ รัฐบาล หรือ ผู้ทรงอิทธิพล ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องจริงเสมอไป  <---  อันนี้สำคัญมาก ไม่งั้นเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 คงไม่เกิดขึ้น   เพราะวิทยุปลุกระดมจากรัฐ  ถ้าตอนนั้นมี internet ย่อมมีที่ได้รับข้อมูลข่าวสารจากทางอื่นบ้าง และ เหตุการณ์จะไม่หันเหไปในทิศทางนั้น ไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้  ที่พม่า มีการฆ่ากันนองเลือด แต่รัฐบาลสลอค กลับบอกว่ามีพระตายแค่ 15 คน  ขณะที่ ศูนย์ข่าว "อิรวะดี"  และ Blog ของคน Local พม่า  ได้แอบถ่ายรูป คนตายเป็นกองๆ ถูกเผา ผ่านโทรศัพท์มือถือ เอาไปโพส ในเว็บให้พวกพม่าพลัดถิ่นในต่างประเทศเผยแพร่ ให้ชาวโลกรู้ความจริง ภาพนักข่าวญี่ปุ่นถูกจ่อยิง พวกเราจะไม่มีวันเห็นจะจะตาแบบนั้น ถ้าไม่มี Internet เพราะคงโดนรัฐบาลทหารพม่า กลบข่าวเสียสิ้น   ถ้าภาพนั้นเป็นภาพปลอม ที่มีคนจงใจทำขึ้น มันจะถูก Reconcile โดยธรรมชาติ กับภาพอื่นๆ ของคนอื่นๆ ในมุมกล้องอื่น   จริงไหม จากคุณ : ซามาร่า-ไม่เคยหลับ - [ วันรัฐธรรมนูญ 11:54:52 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ผมพลาดกระทู้นี้ไปได้อย่างไรกันนี่ เข้ามาอ่าน.. จากคุณ : Munch - [ วันรัฐธรรมนูญ 20:25:52 ]

ความคิดเห็นที่ 40 อืมครับ ขอบคุณทุกท่านครับ อย่างที่จั่วหัวไว้นั่นล่ะครับ ว่าเป็นความคิดในแง่ร้ายล้วนๆ.... ไม่ค่อยได้โพสสาระครับ ขอกระทู้นึงละกัน.... จากคุณ : Tire Tracks Studio - [ 12 ธ.ค. 50 18:40:58 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เป็นไปได้ยากครับ สมัยนี้มีทีวี ไม่ได้หมายความว่าคนจะเลิกฟังวิทยุ แต่ฟรีทีวีคงต้องมีคู่แข่งมากขึ้นแน่นอน ถึงเวลานั้นคนที่จะมาสร้างรายการที่คนสนใจติดตามดูทางอินเตอร์เน็ตก็คือคนกลุ่มเดิมนั่นแหละ แต่ที่ดีก็คือระบบเรทติ้งมั่วๆจะหายไป สถานีที่เป็นอินเตอร์เน็ตไซต์สามารถรู้ได้ด้วยตัวเองว่างานแต่ละชิ้นมีเรทติ้งคนดาวน์โหลดไปดูเท่าไหร่ จากคุณ : มังกรใจเย็น - [ 13 ธ.ค. 50 12:20:15 ]