ความคิดเห็นที่ 1 ไม่ใช่ครับ ยิ่งท่อเล็กลง จะยิ่งสูญเสียแรงดันไปกับแรงเสียดทานของผนังท่อ เรื่องนี้ขัดกับความรู้สึก เพราะว่าเวลาเราบีบปลายสายยาง จะเห็นน้ำพุ่งแรง แต่จริงๆ แล้วน้ำที่ดูเหมือนพุ่งแรงนั้น กลับได้ปริมาณน้ำน้อยกว่า ทดสอบง่ายๆ ถือสายยางให้น้ำไหลลงถัง เทียบกับบีบให้น้ำพุ่ง จับเวลาจนน้ำเต็มก็จะเห็นภาพได้โดยง่าย กรณีที่ใช้ปั๊ม 1 นิ้ว ควรใช้ท่อ "ไม่น้อยกว่า" 1 นิ้ว ถ้าสามารถขยายให้ใหญ่กว่า 1 นิ้วแล้วค่อยไปย่อตรงปลายก็ยิ่งดี แต่จะเปลืองค่าท่อมากขึ้น จากคุณ : จั๊กกะจี๋ - [ วันสิ้นปี 02:00:05 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ท่อน้ำที่เล็กลงมีส่วนเพิ่มกำลังดูดและส่งน้ำ >>>>>>>>> ใช่ครับ เหตุผล การสูบน้ำ ประกอบด้วย 2 อย่าง 1) Q  คือ Volume flow หน่วยเป็นลิตรต่อวินาที  [l/sec] 2) h  คือ head แรงส่ง  มีหน่วยเป็นเมตร  [m] เมื่อลดท่อให้เล็กลง มีผลเหมือน"หรี่วาล์ว" ทำให้ ==>  h สูงขึ้น ในขณะเดียวกัน  Q ลดลง แรงส่ง = function(แรงดูด) discharge เพิ่ม ===> suction ก็เพิ่ม ตอบ แรงดูด เพิ่ม ด้วย จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ วันสิ้นปี 05:21:39 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เมื่อลดขนาด discharge and suction ผลที่ตามมา คือ HP-required ลดลงด้วย คิด water power ได้ง่ายๆ ดังนี้ HP = 10 Q x h ในที่นี้ Q  หน่วยเป็น l/sec h   หน่วยเป็น m หมายเหตุ กลัวนักบัญชีจะมาแย้ง ต้องบอกเสียก่อน ผมบอกวิธีประมาณการณ์ ไม่ได้บอกว่าคำตอบจะได้เปะๆ นะครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ วันสิ้นปี 05:27:51 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เมื่อลดขนาด discharge and suction ผลที่ตามมา คือ HP-required ลดลงด้วย >>>>>>>> ข้อมูลนี้ มีประโยชน์ "ลดขนาดท่อส่ง หรือ หรี่วาล์ว ทำให้ปั้มกินแรงม้าลดลง " ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว พรรคพวกที่ทำงานบริษัทเดียวกัน เขาส่งงานที่ รพ จุฬา (ตึกที่ติดกับสถานเสาวภา) แต่สตาร์ทปั้มไม่ได้ มอเตอร์ตัวนี้สตาร์ทแบบ DOL พอเปิดสวิทช์ CB ก็ตัดทุกที จึงทดลองปั้มไม่ได้ วิศวกรที่ปรึกษาไปรอตรวจรับอยู่แล้ว กำหนดส่งงานต้องส่งภายในวันนี้ จะทำอย่างไรดี ? ผมผ่านไปช่วยเป็นกำลังใจ อิอิ ที่จริง ผมไปรับแฟนตึกแถวนั้น ก็แวะไปดู ผมนึกถึงข้อมูลข้างต้น จัดการบิดวาล์ว "หรี่วาล์วจนสุด" โดยวิธีนี้ HP-required จะต่ำที่สุด แล้วจึง Start  ===> คราวนี้ starting current ต่ำ ==> CB ก็ไม่ตัด ส่งงานได้ตามกำหนด ครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ วันสิ้นปี 05:46:39 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ถูกแล้วครับ การลดท่อดูด จะช่วยให้ดูดน้ำได้ดีขึ้น สามารถดูดน้ำจากบ่อน้ำได้ลึกขึ้น แต่ปริมาณน้ำที่ดูดจะได้น้อยลง เช่นเดียวกับที่เราใช้ปากดูด ดูดสายยาง ถ้าท่อสายยางใหญ่ไป แรงดูดจากปากจะไม่พอ ต้องลดขนาดสายยางลงครับ ส่วนการลดท่อส่ง จะช่วยให้ส่งน้ำได้สูงขึ้น ไกลขึ้น แต่ปริมาณน้ำที่ส่งจะลดลง เพราะท่อส่งที่เล็กกว่า ปริมาณน้ำในท่อจะน้อยกว่า น้ำหนักจึงเบากว่า แรงส่งของเครื่องจึงสามารถส่งน้ำขึ้นได้สูงกว่า และไกลกว่าครับ จากคุณ : บุญถิ่น - [ วันสิ้นปี 07:25:57 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อาจจะเพิ่มแรงดูด แต่ที่เสียตามมา คือ แรงส่ง ที่จะสูญเสียไปตามท่อ ยิ่งท่อ ล็ก เท่าไหร่ แรงฝืดจะเพิ่มตามเท่านั้น ยิ่งยาวมากๆ แรงฝืดก็จะ มหาศาล ตามความยาว ดังนั้น คุรต้องหาก่นว่าต้องการอะไร เช่นต้องการเก็บน้ำใส่ถัง ห่วงเรื่องปริมาณการใช้ ก็ต้อง ใช้ท่อใหญ่ แต่ถ้าจำเอาไปล้างรถต้องการน้ำแรง ก็บีบท่อลง ขึ้นกับสภาพการใช้งานว่าต้องการอะไรกันแน่ (ขุดวิชา hydrolic มาจกก้นเหว เลยนะเนี่ย -*-) จากคุณ : วัยละอ่อน - [ วันสิ้นปี 10:16:13 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณแทน จขกท. ครับ จากคุณ : จั๊กกะจี๋ - [ วันสิ้นปี 14:54:07 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เพิ่งใด้คําตอบ    ผมคิดและทดลองทําแล้ว   โดยท่อประปาเข้าบ้าน Main  4 หุน  พอผ่าน  Meter น้ำมาก็ขยายเป็น  2.50 นิ้วเลย เพื่อลดความต้านทานในท่อ  เดินเป็น Main ในบ้านทั้งหมด  และลดขนาดลงเมื่อจะต่อก็อกน้ำต่อไป ใด้ ผล ดีทีเดียวครับ  น้ำชั้น 2  แรงพอสมควร  แทบไม่ต้องใช้ปั้มน้ำเลย ท่านใดจะลองทําวิธีของผมก็ใด้นะครับ   ทําตอนวางท่อสร้างบ้านใหม่เลยก็ดีนะครับ จากคุณ : ลุงขาว (renangkull) - [ วันสิ้นปี 16:41:57 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ....   เรื่องน้ำ   .....   -  1. ท่อที่ใหญ่กว่า  ย่อมมีแรงต้านน้อยกว่า   ทั้งปริมาณน้ำย่อมมากกว่าและการกินไฟย่อมน้อยกว่า     .. แต่   -  2. เนื่องจาก  ใบพัดหรือกลไกล ของปั้มน้ำเอง ไม่ได้ทำงานแบบเส้นตรง   มันจะเป็นจังหวะถี่ๆ  คือ แบบดูด  100%  และดูดแบบไม่เต็ม  100%  ใน 1 วิ   อาจเกิดได้หลายครั้ง ( แล้วแต่ชนิดของปั้ม )           ท่อที่ยิ่งยาว  ย่อม ยิ่งมีผลมาก คือ น้ำหนักของน้ำเอง จะวิ่ง และเบรค    วิ่ง และเบรค    จึงส่งผลให้เครื่องทำงานหนัก และได้ปริมาณน้ำน้อยลง   -  3. วิธีแก้คือ ( หากเป็นปั้มถ้งพักแบบอัตโนมัต  จะส่งได้ไกล )  ควรเพิ่มถังพักแล้วบรรจุลม  เพื่อลดแรงกระแทกของน้ำ  ไม่ว่าจะเป็นทั้งทางดูด หรือส่ง  ( ขนาดถ้งพักขึ้นอยู่กับ ความยาวท่อ และขนาดปั้ม )   -  4.  ขออธิบายในกรณีของ  คห. 4   การหรื่วาวล์  จะไปทำให้ลดแรงส่ง ได้ปริมาณน้ำลดลง        และลดแรงสะท้อนกลับของน้ำในช่วงเบรค       อีกทั้งลิ้นวาวล์ที่หรี่  ยังช่วยลดแรงสะท้อนกลับของน้ำในช่วงเบรคอีกด้วย     คือ  เนื่องจากการสตาร์ทมอเตอร์จะกินไฟ  5 เท่าขึ้นไป ( โดยส่วนมาก )       แรงที่ส่งมวลน้ำในเสี้ยววินาทีนั้น ( เหมือนผลักของหนักออกไป )         ในเสี้ยววินาทีต่อมา เกิดการเบรค              และในเสี้ยววินาทีต่อมาก็จะดันมวลน้ำอีก           แต่กลับคล้ายๆ ว่าต้องเริ่มนับ 1 ใหม่      และวนอยู่อย่างนี้ จน กระแสไฟเกินแล้วตัดไฟตามมา     ครับ แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 50 17:01:57 จากคุณ : DR บ๊อง - [ วันสิ้นปี 16:56:02 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เห็นด้วยกับคิดเห็นที 1   ท่อยิ่งเล็กได้น้ำถึงที่หมายน้อยกว่า จากคุณ : suks (suks) - [ วันสิ้นปี 22:47:24 ]

ความคิดเห็นที่ 11 สวัสดีปีใหม่ครับทุกๆท่าน...เพิ่งจะใสก็ตอนนี้หละ...คือผมไม่กังวลเรื่องปริมาณน้ำต่อเวลาที่จะได้ จุดประสงค์คืออยากให้เครื่องขนาด1นิ้วตัวเดิมของผมมันสามารถมีแรงดูดน้ำได้จากบ่อที่อยู่ไกลๆ(ประมาณ50ม.)มาถึงตัวบ้านได้ โดยที่เราไม่ต้องไปตั้งปั๊มไว้ที่ปากบ่อ เพราะในสเปคเครื่องบอกว่าดูดได้ลึกแค่7เมตร แต่ส่งได้สูงเป็น20กว่าเมตร ดังนั้นแม้ต้องใช้เวลามากขึ้นสักหน่อยเพื่อจะเก็บกักน้ำปริมาตรเท่าเดิมได้ ผมก็พอใจแล้วครับ...ขอบคุณอีกครั้งครับ เดี๋ยวต้องเก็บเข้าbookmarkแล้ว..ข้อมูลสำคัญ แก้ไขเมื่อ 01 ม.ค. 51 07:11:59 จากคุณ : Mr5OBL - [ 1 ม.ค. 51 07:03:46 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ผมไม่กังวลเรื่องปริมาณน้ำต่อเวลาที่จะได้ >>>>>>>>> สวัสดีปีใหม่ ครับ ครับ ผมก็เข้าใจว่าคุณไม่สนใจ Q เท่าไร ดูจากกระทู้เก่าคุณ ประเด็นอยู่ที่ "ดูดได้ไกลเท่าไร" นี่แหละ อีกอย่างหนึ่งที่ว่า "เพราะในสเปคเครื่องบอกว่าดูดได้ลึกแค่7เมตร" ตัวนี้หมายถึง suction lift ไม่ใช่ดูดได้ไกล ครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 1 ม.ค. 51 07:57:53 ]

ความคิดเห็นที่ 13 แรงดูดน้ำได้จากบ่อที่อยู่ไกลๆ(ประมาณ50ม.)มาถึงตัวบ้านได้ >>>>>>>>>> ทำได้ก็จริง ในทางปฏิบัติ ไม่ค่อยดีครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 1 ม.ค. 51 08:00:08 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ท่อดูดไกลๆ ควรมี 1) ที่ปลายท่อดูดติด foot-valve กักน้ำไหลกลับ 2) ทำสามตาท่อดูด เพื่อ priming ก่อนจะเปิดปั้ม ตอนเด็กๆบ้านผมใช้น้ำบ่อ ติดตั้งปั้มดูดน้ำจากบ่อลึก 5 เมตร วันดีคืนดี foot valve รั่ว ดูดไม่ขึ้น ต้องกรอกน้ำใส่ท่อก่อนถึงดูดขึ้น ครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 1 ม.ค. 51 08:14:58 ]

ความคิดเห็นที่ 15 บ่อน้ำไกล 50 เมตร จุดเชื่อมต่อของท่อดูดต้องมีไม่ต่ำกว่า 15 จุด (โอกาสรั่วลมเข้า)  น้ำหนักน้ำในท่อดูดไม่น้อย  foot-valve มีโอกาสกักน้ำได้ไม่ 100 %  เกิดลมช่องว่างในท่อดูด  ทำให้ต้องไล่ลมบ่อย ไม่สดวกในการใช้งาน     สวัสดีปีใหม่ทุกท่านครับ จากคุณ : suks - [ 3 ม.ค. 51 20:36:21 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เข้ามารายงานผลครับ...ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ(อีกครั้ง)สำหรับทุกๆคำแนะนำ ซึ่งช่วยให้ผมได้ใช้ในการตัดสินใจ และได้ทำการแก้ไขปัญหาไปได้เรียบร้อยแล้ว...ผมขอให้ข้อมูลไว้เพื่ออาจเป็นประโยชน์ต่อท่านอื่นๆที่จะนำไปใช้งาน หรือเป็นหัวข้อวิเคราะห์กันต่อไป -เครื่องสูบน้ำที่ใช้งาน ยี่ห้อ Goldex IDB-35 350W. สเปคที่เห็นแปะไว้บนตัวเครื่องก็มี 1/2 HP 50Hz. 2850 rpm.  H.max=30m. Q.max=40 L/min. H.=40/5.5 m.  Q.= 5/40 L/min โดยผมทำการต่อข้อลดจาก 1 นิ้ว ไปใช้ท่อ 3/4 นิ้ว ทั้งทางดูดและส่งน้ำ และทำการเพิ่มสามทางมีตัวปิด เพื่อไว้ไล่อากาศในท่อที่ใกล้ตัวปั๊มและที่ใกล้ปลายท่อหัวดูดที่บ่อน้ำ (ตามคำแนะนำของเพื่อนสมาชิก) ระยะทางจากตัวปั๊มถึงบ่อน้ำประมาณ 50 เมตรกว่า เกือบ60เมตร เพราะใช้ท่อ PVC ไป13 ท่อนเต็มไม่นับเศษอีกประมาณ3เมตรที่หักมุม90 ตอนปลายเข้าหาบ่อในแนวราบ แล้วจึงหักมุมลงบ่อ90 ให้ปลายหัวดูดที่ทิ่มลงไปในบ่ออีกประมาน 2.5 เมตร หลังจากต่อท่อเสร็จ ก็ทำการใส่น้ำเข้าท่อ เพื่อไล่ลมออกจากท่อจนไม่มีฟองอากาศปุดขึ้นมาให้เห็นตรงสามทางไล่ลมทั้งสองที่แล้ว ก็ทำการปิดหัวสามทางไล่ลม เสร็จแล้วก็สตาร์ทเครื่องสูบน้ำ.. ตอนแรกก็ลุ้นน่าดูครับว่าจะทำงานได้ป่าว เพราะน้ำยังไม่ส่งขึ้นถัง(ประมาณ3เมตร)ทันทีทันใด ต้องรอสักแป๊บ ก็เป็นอันใช้ใด้ครับ  ซึ่งถังน้ำนี้ผมทำระบบกรองน้ำด้วยทรายเอาไว้คู่กันกับถังเก็บน้ำ จึงต้องมีน้ำคอยหล่อเลี้ยงให้ท่วมผิวทรายตลอดเวลาไม่ให้ผิวทรายแห้ง ตอนนี้ผมเลยเอาสวิทปิดเปิดอัตโนมัติไปติดตั้งที่ถังเก็บน้ำไว้ให้เครื่องมันทำงานเองตอนน้ำพร่องจากถัง ไม่ต้องรอเวลาแล้วเพราะมันมีน้ำค้างท่อเตรียมรอท่าไว้แล้ว พอสวิท์เปิดปั๊บ ก็มีน้ำพ่นเป็นฝอยลงถังกรองปุ๊บ ทำงานได้ดังใจนึกทุกประการ.....ขอบคุณอีกครั้งครับ สวัสดีปีใหม่ครับทุกๆท่าน จากคุณ : Mr5OBL - [ 5 ม.ค. 51 17:44:06 ]