ความคิดเห็นที่ 1 ร้านแว่นทุกร้านไม่ค่อยมีคนเข้าเท่าไหร ผมตัดร้านแว่นธรรมดารวมเลนส์แถวบ้านพันกว่าๆ วันก่อนว่างผ่านเข้าไปดูร้านที่คุณว่าแบบเดียวกันเปีะ สามพันสี่ร้อย เป็นสมาชิกลด 20% คนอาจจะเข้าเมื่อจำเป็นด้วยล่ะมั้ง จากคุณ : Jump.Jr - [ 7 ม.ค. 51 10:42:05 ]

ความคิดเห็นที่ 2 จะว่าไปก็ไม่เคยเห็นคนเข้าร้านแว่นตาทีละหลายๆคนนะ จากคุณ : KCrazy16 - [ 7 ม.ค. 51 10:59:46 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เรียน ความคิดเห็นที่ 2    เพื่อนผม เปิดร้าน ขายของชำ ตรงข้ามร้านแว่นท้อปเจริญ เลยครับ มันฟันธง เลย เดือนหนึ่งแทบไม่มีคน เข้าร้านเลย  เข้าร้าน นะ ครับ ไม่ใช่เข้าไปซื้อ จากคุณ : lazarn - [ 7 ม.ค. 51 11:02:36 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ต้นทุน 1-200 ขาย 5000 มันจะเจ๊งได้ไง จากคุณ : heck - [ 7 ม.ค. 51 11:08:31 A:203.155.125.178 X: TicketID:119117 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ความคิดเห็นที่ 5   ต้นทุน 1-200 ขาย 5000 มันจะเจ๊งได้ไง พูดก็ถูก ครับ แต่ มันไปเปิดในหมู่บ้าน ในตำบล ซึ่ง กำลังซื้อน้อย คนก็น้อย มันไม่แปลกหรือครับ แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 51 11:24:17 จากคุณ : lazarn - [ 7 ม.ค. 51 11:16:00 ]

ความคิดเห็นที่ 7 สงสัยเหมือนกันเลย เคยถามเค้าบอกว่า เปิดเยอะๆ จะได้ไม่โดนตัดราคา ประมาณว่า พยายามสร้างมาตรฐานราคา ผมก็ยัง งงอยุ่ดีว่าเค้าเอากำไรมาจากไหน จากคุณ : +One Side Love+ - [ 7 ม.ค. 51 11:24:14 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ข่าวลือคือ เป็นบริษัทเพื่อฟอกเงิน เงินของใคร หรือเงินอะไรนั้น เหลือจะคาดเดา ----- สินค้าที่ขายไม่มียี่่ห้อ ไม่มีเกรด ไม่น่าซื้อด้วยประการทั้งปวง จากคุณ : audy - [ 7 ม.ค. 51 11:43:31 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ... น่าจะถามสินธรนะ (เค้าจะตอบไหมหว่า??) ในกรุงเทพฯ บางสาขา นุ่งสั้นจริง ๆ   จากคุณ : ลงเรือกันเถอะ ... (SoundForce) - [ 7 ม.ค. 51 11:50:25 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ความคิดเห็นที่ 9  ขอโทษทุกท่าน ผม แว้บไป ถามที่สินธร แล้วเพราะจนด้วยเกล้าจริงๆ อยากรู้พวก พี่ๆ เขา มีความคิดยังไง กะ ให้กระทู้ นี่ พี่ๆ สองห้องคือหว้ากอ และ สินธร ช่วยๆกันออกความคิดเห้น ให้ แสงสว่างแก่ น้องๆอย่างผม และ ท่านที่สงสัยครับ แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 51 12:13:22 จากคุณ : lazarn - [ 7 ม.ค. 51 12:03:45 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เห็นกระทู้แล้ว ก็สงสัยด้วยคน เพราะที่บ้านเกิดก็มีสาขานึง เป็นอำเภอที่เล็กมากๆ ตอนแรกที่เห็นมาเปิดสาขาก็งงเหมือนกันว่า เปิดขายให้ใครหว่า กลับไปบ้าน ผ่านไปแถวนั้นก็ไม่เห็นมีคนเข้าร้านเลย อยู่ได้ไงน้อ.... จากคุณ : Johon - [ 7 ม.ค. 51 12:40:17 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ที่บ้านก็เป็นเหมือนกัน ผมก็สงสัย จากคุณ : " คุณชายช่างฝัน " - [ 7 ม.ค. 51 12:41:55 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ตามมาอ่านค่ะ จากสินทร (แค่ดูน่ะ ตอบเองมะได้อ่ะค่ะ อิอิ) เข้าใจว่าน่าจะลองถามห้องนี้ดู (กระทู้นี้ น่าจะมีผู้เข้าใจธุรกิจแว่น ดีพอสมควร) http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=27257 สำหรับ บริษัทนี้(ในกระทู้ลิ้งค์)ส่วนใหญ่เข้าใจว่าน่าจะเป็นธุรกิจเลนซ์ เป็นหลัก แต่ร้านแว่นนี่ ไม่ทราบเหมือนกันว่า กำไรขาดทุนเป็นอย่างไรค่ะ จากคุณ : 007-s - [ 7 ม.ค. 51 12:43:48 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คือการขายแว่นนี่กำไรมหาศาลจริงๆครับ ต้นทุนกรอบอันนึงราคาไม่กี่บาท ไปดูที่คลองถมโหลละไม่กี่ร้อย พอเอามาเข้าร้านเป็นอันละพันกว่าบาท ซื้อกรอบมาอันนึง ราคา700บาท คุณภาพโอเค รุ่นพี่ไปเจอร้านในห้าง รุ่นเดียวกันสี่พัน แต่ถ้าเป็นยี่ห้อดีๆ(ของผมมันยี่ห้อเลียนแบบนะ) ราคาถีบไปหมื่นกว่า เดือนๆนึงขายได้ไม่กี่สิบอันก็คุ้มแล้วครับ เราคงไม่ได้ไปดูร้านเค้าตลอดเวลาท่เปิดทุกวัน คนซื้อเฉลี่ยวันละไม่กี่อันก็คุ้มแล้ว แล้วไหนจะเค้าเป็นร้านใหญ่ ซื้อทีละเยอะๆต้นทุนลดไปอีก ไหนจะกำไรค่าเลนส์อีก คุ้มครับ จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 7 ม.ค. 51 12:45:22 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ตรงแถวที่อยู่ มี สองร้าน มองเข้าไป ก็เห็นมีแต่พนักงาน เหมือนไม่มีอะไรทำ พวกเธอนั่งมองดูคนเดินผ่านไป-มา สงสัยเหมือนกัน.. จากคุณ : iamnid - [ 7 ม.ค. 51 13:09:13 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อ่าว งง เลย อึ้ง ๆๆ @_@ จากคุณ : pattapon - [ 7 ม.ค. 51 13:14:43 ]

ความคิดเห็นที่ 20 สงสัยเหมือนกันค่ะ แถมแต่ละร้านที่เคยเห็นๆมา ได้เปิดร้านที่ทำเลดีอีกตะหาก ... จากคุณ : พึมพำ - [ 7 ม.ค. 51 13:21:17 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 7 ม.ค. 51 13:25:24 ]

ความคิดเห็นที่ 22 แต่แถวบ้านผมเจ๊งไปเรียบร้อยครับ แต่มีเจ้าใหม่ขึ้นมาแทนกำลังรอดูอยู่ว่าจะอยู่ได้นานแค่ไหน จากคุณ : คนข้างๆ - [ 7 ม.ค. 51 13:32:42 ]

ความคิดเห็นที่ 23 แถวที่ผมอยู่  ในตัวเมืองนะครับ ร้านแว่นนี้  เปิดร้านแข่งกับ 7-11 เลย เผลอ ๆ เยอะกว่าอีก มันจะเปิดอะไรกันนักกันหนาหว่า จากคุณ : ขุนไกรครับผม - [ 7 ม.ค. 51 13:37:45 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ผมไปซื้อคอนแทคเลนส์เป็นประจำครับ ไม่รุ้ว่าขายแพงกว่าที่อื่นป่าวอ่า จากคุณ : มือปราบบ๊วยเค็ม - [ 7 ม.ค. 51 13:39:49 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เมื่อวานผมซื้อแว่นไปให้มันใส่เลนส์ครับ ผ่านไปสองชั่วโมง มันโทรมาว่าช่างทำแว่นหัก ให้ซื้อแว่นใหม่ที่มัน เจอเข้าอย่างนี้ไม่รวยยังไงไหวครับ จากคุณ : Mo&Mont - [ 7 ม.ค. 51 13:55:06 ]

ความคิดเห็นที่ 26 บ้านผมตัดที่ หอแว่นอะ  ผมกะพ่อ 2คนนี่ เกือบ 2หมื่นและ(หอแว่นกรอบถูกสุดที่เคยเห็น 4-3000มั้ง +เลนส์อีกประมาณ 2500 แพงอิบอาย) แต่ตัดครั้งนึกใช้ไป 5-6 ปี(ใช้5ปี ค่าเสื่อมสภาพตกวัน5บาทกว่า เอง)  ก็ถือว่าไม่แพงอะ  แต่ถ้าติดแฟชั่นซื้อความถมดีแล้ว *********************** แต่ร้านพวกนี้บริการหลังการขายนี่สุดยอด  แว่นเพื่อน เอสปรี  มันทำ เหล็กตรงหมอนรองจมูกหัก   ร้านเปลี่ยนกรอบหน้าให้ใหม่ทั้งกรอบ แต่ขาเอาของเก่ามาใส่  ฟรี!!!! ไม่เสียตังสักบาท เดินผ่าน แว่นมัว เดินเอาไปให้เค้าล้างให้ ใสโคดๆ  ฟรี!!!!! วันนี้ดีคืนดี น๊อตหาย  แว่นขาโกร่ง  เอาไปดัด ไปใส่น๊อต ฟรี!!!! ซื้อร้านพวกนี่เหมือนซื้อประกันชั้น1 เลย เหอๆ แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 51 14:05:55 จากคุณ : 4s00s69s - [ 7 ม.ค. 51 14:04:29 ]

ความคิดเห็นที่ 27 จิงดิ แจ้งเบาะแส http://www.dsi.go.th/dsi/feed_show_index.jsp ด่วนๆ จากคุณ : nisas - [ 7 ม.ค. 51 14:08:44 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ถ้ารวยจริง งั้นเวปร้านแว่น ทำไมโดนปิดเยอะเลยล่ะครับ d~_~b จากคุณ : Sakuder - [ 7 ม.ค. 51 14:58:35 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เรียนคุณ ความคิดเห็นที่ 28 ต้นทุนทำเวป เอาต้นทุนมันเลยนะ จริงๆ ไม่ถึงกะแพง ถูกกว่า ตกแต่งร้านซะด้วย 1.โดเมน แพงสุด ก็ 6 ร้อย( ดอท คอม เน็ต นะ) 2. โฮสติ้ง กรณีแคทตาล้อก แบบแว่น สั่งซื้อได้ ปี หนึ่งไม่เกิน หมื่น ส่วนใหญ่หลักพันทั้งนั้น ไม่เกิน ห้าพัน 90% ของเวบขายของออนไลน์ ที่ยอดออเดอร์ไม่มากไม่ขึ้นหลักล้าน ต่อเดือน และยอด คลิ๊ก เป็น ล้านเพจ ต่อวัน  เขาไม่ ลงทุนวางเซิฟกันหรอก 3. ค่าออกแบบ อันนี้ ก็ไม่กี่ตัง อย่างมาก ก็ สองหมื่น 4. ตัวระบบ ตะกร้าสินค้า หรือ ระบบ ecomerse ตัวนี้ก็ มีตั้งแต่ฟรี ไปจนถึงหลัก พัน ส่วน ระบบตัดบัตรเคดิต ก็ วางเงินประกันแบงค์ สองแสน (แล้วแต่แบงค์ บางแบงค์ ห้าหมื่นก็มี ได้คืนเมื่อเลิกทำ) สรุป ไม่เกิน ห้าแสน (รวมไอ้ค่า ระบบบัตรเครดิตนะ(ซึ่ง บ้านเราส่วนใหญ่ จะเป็น mail order โอนผ่าน Bank มากกว่า (เพราะตลาดหลัก แว่น มันคนไทย ถ้าตัดบัตร คือ อำนวยความสะดวก ฝรั่งซะมากกว่า) คิดเองนะครับ เปิด ร้านสาขาหนึ่ง ลงทุน ค่า ติดตั้ง ค่าเช่า ค่าทำสัญญา ค่าตกแต่งร้าน เกินห้า แสน แน่ๆ แล้ว ไหน จะ ค่า พนักงาน ตีไป ว่า เจ็ดพัน ต่อ หัวต่อคน จ้างสี่คน เท่าไหร่ ค่าไฟ เท่าไหร่ แล้วกรณี เวบ มันหายไป ผม เคยไปดูสมัยสองปีก่อน เวบ มันมีแต่ แบนเนอร์ โฆษณา ไม่มีระบบ ขาย ผ่านบัตรไรหรอก (มันกลัวยุ่งยากตอน สรรพากรถามหาหรือเปล่า? ว่ารายได้มาจากทางไหน) แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 51 15:20:14 จากคุณ : lazarn (lazarn) - [ 7 ม.ค. 51 15:15:07 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เข้า กูเกิ้ล ตะกี้ หาชื่อแว่นท้อปเจริญไม่เจอ ไป เจอ มัน เข้า ไป ห้างใหญ่ จังซีลอนภูเก็ต โหย ค่าเช่า ในห้างเดือนกี่หมื่น ฟะเนี่ย   http://www.jungceylon.com/jungceylonprdetail.php?Page=1&id=64&cmonth=7&cyear=2007 http://www.jungceylon.com/fileupload/jungceylonpr/images1/newshop_1184936407.jpg จากคุณ : lazarn - [ 7 ม.ค. 51 15:18:11 ]

ความคิดเห็นที่ 31 อยากรู้เหมือนกันครับ  สงสัยมานานแล้ว ใครทราบบ้าง ร้านนี้จดทะเบียนในชื่ออะไรครับ จขกท.  ลองไปตั้งที่ห้องสีลมบ้างซิครับ ที่นั้นมีนักธุรกิจเยอะ อาจได้ความเห็นใหม่ๆเพิ่มเติม จากคุณ : may-mo - [ 7 ม.ค. 51 15:18:46 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เรียน ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณครับ ผมไป ตั้งกระทุ้แล้วครับ แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 51 15:38:09 จากคุณ : lazarn - [ 7 ม.ค. 51 15:30:22 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ผมก็สงสัยมานานแล้วครับ ไม่ต้องอำเภอเล็กๆหรอกครับ ในกรุงเทพนี่แหละ ไม่เห็นมีคนเลย ไม่ว่าสาขาไหน  มีแต่สาวชุดขาวนั่งไขว้ห้าง อยู่เฉยๆ ตลอดเวลา และหน้าร้านส่วนใหญ่จะมีป้ายติดว่ารับสมัครพนักงาน ผมว่าเค้าคงเงินเดินน้อยนะ เลยเข้าๆออกกันเป็นว่าเล่น เพราะจะกินค่าคอมก็ไม่ค่อยมีคนซื้อ แต่ผมว่าเค้าก็พยายามขายอยู่นะบางทีก็มี โปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 แต่กลายเป็นต้องซื้ออะไรไม่รู้ถึงแถม จากคุณ : HMC - [ 7 ม.ค. 51 15:58:39 ]

ความคิดเห็นที่ 34 #30 นี่ครับเว็ป  http://www.topcharoen.co.th/ จากคุณ : HMC - [ 7 ม.ค. 51 16:00:20 ]

ความคิดเห็นที่ 35 พนักงานน่ะเหรอ ตุ๊ดเยอะมาก ผมเจอมาสองครั้ง ครั้งแรกวัดสายตาตัดแว่นแล้ว พอไปรับปรากฎว่าเขาใส่เลนส์ให้สลับข้างกัน ใส่แล้วมันก็รู้สึกเคืองๆตา แต่ก็ยังทนไส่ขับรถเพราะไม่รู้  จนทนไม่ไหวก็เลยลองกลับแว่น โอ้ชัดใสแจ๋ว  พอแว่นเก่าเลนส์เป็นรอยก็เลยไปตัดอันใหม่อีกร้านเดิม ใส่แล้วก็รู้สึกรำคาญสายตา บอกไม่ถูก ก็ใช้จนเก่า คราวนี้ไปตัดร้านเล็กๆ เอาแว่นเก่าที่ใส่แล้วรำคาญให้เขาดู  เขาบอกว่าจุดกลางของเลนส์มันไม่ตรงกับตาดำ เฮ้อ ร้านใหญ่ จริงๆ ตัดมากี่ครั้งกี่ครั้ง ไม่เคยเห็นเขาวัดระยะห่างของตาสองข้างเลย แล้วมันจะไปวางจุดกลางของเลนส์ถูกได้ไงเน้อะ จากคุณ : rdo - [ 7 ม.ค. 51 16:13:11 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เรียน ความคิดเห็นที่ 34   http://www.topcharoen.co.th/   เจอ ความแปลก เวบนี้นิดนึง คือ สำนักงานใหญ่ ไม่มี เบอร์โทรติดต่อกลับ ให้แต่ Email (เหมือนกับพวก เวบใต้ดินขายแผ่นโป๊ เลย )    ส่วนหน้า About ไม่เจอ รูปประวัติกิจการ ว่า ดำเนินการโดยใคร มีประวัติมาอย่างไร    แปลกดี แท้     ถ้าเทียบกับเวบที่ถูก กฏหมาย อื่นๆ  นะ ลอง ลิส มาสัก ห้าเวบ จะเห็นได้เลย มันไม่เหมือนเวบ ปกติ จริงๆ www.thailand.com หน้า Contact www.ehotelbooking.com ด้านล่างมีที่อยุ่กะเบอร์โทร www.hotelthailand.com www.sanook.com   ฯลฯ จากคุณ : lazarn - [ 7 ม.ค. 51 16:39:16 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เคยได้ยินมาเหมือนกันว่า.... ไว้ฟอกเงิน ไม่รู้จริงเท็จยังไงเน้อ จากคุณ : noot (thangthai_ladypink) - [ 7 ม.ค. 51 16:39:25 ]

ความคิดเห็นที่ 39 กระทู้คุณน่าสนใจครับ....ผมก็สงสัยเหมือนกันครับ จากคุณ : meearse - [ 7 ม.ค. 51 17:13:03 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ขอโหวตได้ไหม...หุหุหุ จากคุณ : Shoe_Shine - [ 7 ม.ค. 51 17:24:18 ]

ความคิดเห็นที่ 41 น่าสงสารเค้านะ โดนคู่แข่งโจมตีอีกแล้ว สู้เค้าไม่ได้ เล่นอย่างนี้เลยเหรอ ช่วยพิจารณาให้ความเป็นธรรมเค้าด้วยนะ ฟังหูไว้หู จากคุณ : ลุงโถน - [ 7 ม.ค. 51 17:26:11 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ตาม link คุณ lazarn มาค่ะ ลองดูข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า บริษัท  แว่นท็อปเจริญ จำกัด เป็นบริษัทร้าง เข้าใจว่าเปลี่ยนชื่อ เลยตามไปดู  บริษัท  แว่นบิวตี้ฟูล จำกัด ยังมีตัวตนอยู่ ทุนจดทะเบียนเป็นร้อยล้าน (ชำระแล้ว) รายได้เป็นหลักร้อยล้าน ต้นทุนขายต่ำมากๆ เห็นทีจะจริงที่ว่าต้นทุนของแว่นถูก แต่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารสูงมากๆค่ะ ปี 48 49 ก็ยังมีกำไร จ่ายภาษีอยู่นะ ใครอยากหารายละเอียดเพิ่มเติม ไปหาดูเอง หวังว่าคงไม่ใช่รายการ discredit กันทางกระทู้นะคะ จากคุณ : saifan - [ 7 ม.ค. 51 17:44:08 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ความคิดเห็นที่ 41 สาบานต่อฟ้า เทพยาดา วัดพระแก้ว สิ่งสากลโลก ผมไม่ได้ 1. มีเอี่ยวกะร้านแว่นตา 2 ไม่ได้ เป็นคู่แข่งเขา 3.ไม่ได้ทำอะไร ทั้งสิ้น เกี่ยวกะแว่น 4ไม่มีญาติเปิดร้านขายแว่น ยี่ห้ออื่น รวมถึงผมก็ไม่เคยขาย 5. ไม่เคย เดือดร้อน เพราะ ร้านแว่น ร้านนี้ 6. ไม่เคยทุกข์ใจ เพราะแว่นตาร้านนี้ 7.  ไม่เคยอิจฉา แว่นตาร้านนี้   ถ้า ผม โกหก ข้อ 1 ข้อใด ขอ ให้ มีอันเป็นไป แต่ถ้าใคร ว่าผม และเจตนาไม่บริสุทธิ์ กะ ผม ไม่ว่า จาก เหตุ ก่อนอันใด ขอให้ โทษ นั้นตกที่เขาด้วย (มุขนี้ ดู จาก หนัง จักรๆ วงศ์ๆ ตอนเด็กๆ เอามา apply) จากคุณ : lazarn - [ 7 ม.ค. 51 17:48:52 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เรียน ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณครับ  แต่ทียังสงสัย ต้นทุน เขาต่ำ ติดดิน มากๆ แต่ไม่มีคนซื้อเลย เนี่ย มัน คือ อันใด สมมติ แว่น อันหนึ่ง กำไร 5 พัน  (เอาแบบเวอร์สุดแล้ว) ลูกจ้า  สัก  4 คน เขาจะ Cover คชจ ได้ เขาต้องขาย ได้อย่างต่ำ  สิบอันต่อเดือน เพราะทำเล เขา ทำเล ทอง ค่าเช่าต้องแพงแน่ๆ แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 51 17:57:01 จากคุณ : lazarn - [ 7 ม.ค. 51 17:51:07 ]

ความคิดเห็นที่ 45 กรอบไททาเนียม ใช้ทนดีครับ สีไม่ลอก ใช้มา จะ 4 ปีแล้ว คุ้มสุดๆ ของเขาดีจริงๆน่า จากคุณ : Ice-man - [ 7 ม.ค. 51 17:55:06 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณ คคหที่ 45 ครับ เดี่ยว คงรอท่านอื่น ช่วยๆ กัน แสดงความเห็น ผมก็อยากรู้เช่นกัน จากคุณ : lazarn - [ 7 ม.ค. 51 17:58:15 ]

ความคิดเห็นที่ 47 คห 29 ครับ ผมว่า คห 28 เขาคงไม่ได้หมายถึงเว็บร้านแว่นที่ขายแว่นหรอกนะครับ จากคุณ : กกกขขข - [ 7 ม.ค. 51 18:40:51 A:58.8.144.135 X: TicketID:137142 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ผมซื้อกรอบตามสำเพ็ง ประมาณ 100-300 บาทแล้วไปใส่เลนส์ที่ร้านธรรมดาๆ ใกล้ๆบ้าน เป็นร้านใหญ่พอดูในเมือง บริการหลังการขายก็ดีมากครับเพราะผมเอาไปเปลี่ยนจมูกแว่น ไปขันน็อต ไปล้าง ฟรีหมดครับ จากคุณ : golfy (golfyjstp) - [ 7 ม.ค. 51 18:47:35 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ท๊อปเจริญ กรุงเทพ มี 161 สาขา ภาคกลาง(ไม่รวมกรุงเทพ) มี 170 สาขา ภาคตะวันออก มี 63 สาขา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มี 106 สาขา ภาคเหนือมี 52 สาขา ภาคใต้ มี 69 สาขา เยอะมากๆมันจาเปิดแข่งกะ 7-11 แล้วมั้งเนี่ย ตัวอย่างตลาดซอยบ้านผม  มีร้านแว่น เกือบจะติดกัน(บล๊อคฟุตบาทเดียวกัน)อยู่ 3ร้าน ท๊อปเจริญ บิวตี้ฟลู กรุงไทยการแว่น  เหอๆ นี่ยังไม่รวมร้าน ในตลาด ที่เป็นของคนแถวนี้(ร้านบ้านๆไม่ใช่แฟรไช)  ตรงนั้นมี 7-11 สาขาเดียวเอง ทั้งๆที่ของกินน่าจะขายง่ายกว่า แว่นนะ  กำไรอาจจะถึง 80% เลยนะเนี่ยธุรกิจน่าจับเล่นมาก แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 51 18:58:37 จากคุณ : 4s00s69s - [ 7 ม.ค. 51 18:48:29 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ตามมาดูค่ะ..สงสัยเหมือนกันคะเพราะร้านแถวบ้านก็ไม่เห็นมีคนเข้าเหมือนกัน แล้วเค้าเอาที่ไหนจ่ายเงินเดือนพนักงานและค่าเช่าร้านเนี่ย..อยากรู้เหมือนกัน.. จากคุณ : ONOJung - [ 7 ม.ค. 51 18:51:06 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เราทำแว่นที่หอแว่นตลอด  อันหนึ่งใช้เกิน 5 ปี  บางอันใช้ 7-8 ปี  ใช้คุ้มเลย ส่วนท๊อปเจริญไม่เคยเข้า จากคุณ : ahriman - [ 7 ม.ค. 51 19:10:12 ]

ความคิดเห็นที่ 52 อยู่กรุงเทพนะคะ ใกล้บ้านที่สุดมี 2สาขา เดินไปสาขาแรกบ่อยๆเพราะไปซื้อขนมแถวนั้น ก็ไม่เห็นคนจะเข้ากันเลย สาขา2.ผ่านเดือนละ 3-4ครั้งเพราะอยู่ใกล้ธนาคารไปธนาคารน่ะค่ะ คนก็น้อยแต่ยังอยู่มาได้หลายปีมากๆแล้ว น่าจะ7ปีแล้วมั๊งติดถนนใหญ่ด้วย เราตัดแว่นที่สหกรณ์ บางลำภูอ่ะค่ะ กรอบ 500บาท เลนส์ 500บาท สั้น ยาว เอียง โหยยครบ..ตาจะเหล่อยู่แล้วเนี่ย แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 51 20:36:41 จากคุณ : แรงขับระดับ9 - [ 7 ม.ค. 51 20:30:28 ]

ความคิดเห็นที่ 53 อืมมม ไม่เคยสงสัยนะคะ แล้วก็ไม่ได้ยินข่าวลือแบบที่ว่านั้นด้วย ส่วนตัวเราเองก็มี แว่นนะ แต่ตัดกับร้านหมอที่บ้านเราเป็นขาประจำน่ะค่ะ ตอนนั้นเราตัด 2200 เลนส์ มัลติโค้ท ยังโดนแม่บ่นแทบตายว่าแพง แต่ของเค้าคุณภาพดีจริงนะ ตอนหลังเปลี่ยนมาใส่คอนแทคเลนส์ ก็เคยซื้อที่ร้าน top เจริญอยู่หนเดียวเองมั้ง สาขาใกล้บ้านีน่แหละ เลยคิดว่าที่เค้าอยู่ได้เพราะคนที่ใส่คอนแทคเลนส์ยี่ห้อ duna ค่ะ เพราะขายแค่ที่เค้าและบิวตี้ฟูลสองแห่งเท่านั้น จากคุณ : เทเลทับขี้ - [ 7 ม.ค. 51 20:41:59 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ถามมาได้ ถ้าไม่รวย จะมีตังจ้างพนักงงานมานั่งกินแอร์เล่นได้ไง จริงปะ รวย โคดดดดด เป็นคำตอบสุดท้าย จากคุณ : Dreamfish - [ 7 ม.ค. 51 21:02:41 ]

ความคิดเห็นที่ 55 แล้ว ตกลงแว่นท๊อปเจริญนี่จดทะเบียนในชื่ออะไร จะได้เช็คงบการเงินได้(ตามที่ คห. 42 บอกชื่อนี้เป็นบริษัทร้าง) ในเวปก็ไม่ได้บอกรายละเอียด สงสัยเหมือนกับ คห. 37(จขกท) ว่า จากคุณ : may-mo - [ 7 ม.ค. 51 21:24:33 ]

ความคิดเห็นที่ 56 อ่าวตกลงมันยังไงกันล่ะเนี้ย จากคุณ : แฟตโฟเบีย - [ 7 ม.ค. 51 21:28:38 ]

ความคิดเห็นที่ 57 กระทู้นี้น่าสนใจแฮะ สืบกันไปเรื่อยๆ นะ ผมจะมาตามอ่านอีก ตลาดพระประแดง มีท็อปเจริญ 2 ร้าน บิวตี้ฟูล 1 ร้าน นึกๆ ดู พนักกงานก็นั่งตบยุงกันบ่อยๆ ผมเคยหลวมตัวตัดที่ท็อปเจริญ 3,400 บาท  รู้สึกตัวเองเป็นควายไงไม่รู้ แว่นห่วยจริงๆ 2 เดือนสีตรงขาลอกหมดแล้ว ตอนนี้แว่นนั่นก็หายไปแล้ว ต่อไปจะไปตัดแถวท่าช้าง เค้าว่าถูกและดี จากคุณ : อิฐมอญ - [ 7 ม.ค. 51 21:50:29 ]

ความคิดเห็นที่ 58 คห 44 ... คือว่างบฯที่ดูมาน่ะ ไม่ได้แจกแจงละเอียดซะด้วยสิ หมายเหตุประกอบงบฯก็ไม่มี รายการก็แสดงไว้คร่าวๆ เพราะไม่ได้เป็นบริษัทในตลาดฯ เผอิญว่าตัวเลขไม่ใช่ของท็อปเจริญ แต่เป็นของอีกที่ที่สันนิษฐานกันในนี้ งบฯของบริษัทนั้นมีผู้สอบบัญชีรับรองค่ะ ส่วนเรื่องรายได้ อาจจะเฉลี่ยกันก็ได้ หมายถึง สาขาที่ขายได้มากก็ทำยอดไป สาขาที่ขายได้น้อยก็มียอดรายได้ต่ำ แต่รวมยอดมาเป็นตัวเลขของทั้งบริษัท แม้บางสาขาจะขาดทุน แต่โดยรวมบริษัทก็ยังอยู่ได้ เดาว่าอย่างนั้นนะ จากคุณ : saifan - [ 7 ม.ค. 51 22:08:13 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ซื้อคอนแทคฯประจำ ชอบ DUNA ครับ ใส่ง่าย B&L มันนิ่มเกิน บางทีหงุหงิดอทบจะปาทิ้งเลย ย้วยติดนิ้วอยู่ได้ จากคุณ : Non Member - [ 7 ม.ค. 51 22:12:12 A:58.8.187.114 X: TicketID:134655 ]

ความคิดเห็นที่ 60 #28 เข้าใจความหมายเดียวกับผมใช่ไหม ของเค้าดีมากๆ แต่สาขาไม่มี เวบก็เข้ายาก จะซื้อก็ยาก โอ้ย! กลุ้ม จากคุณ : amzo - [ 7 ม.ค. 51 22:38:18 ]

ความคิดเห็นที่ 61 มันต้องมีเบื้องหลังแน่นอน จากคุณ : kimijang - [ 7 ม.ค. 51 23:10:47 ]

ความคิดเห็นที่ 62 เรื่องจริงที่ผมทราบมาคือ ว่ากันด้วยเรื่องปัญหาทางด้านการมองเห็น ทางด้านสาธารณสุขของไทยในอดีตไม่มีผู้ดูแลด้านนี้โดยตรง ประเทศอื่นๆนั้นปัญหาด้านโรคตา และปัญหาด้านการมองเห็นจะแยกกันชัดเจน ปัญหาด้านการมองเห็น จะถูกดูแลโดย Doctor of Optometry   ส่วนปัญหาด้านโรคตา จะถูกดูแลโดย ophthalmologist หรือจักษุแพทย์ ดังนั้นในต่างประเทศนั้นผู้ที่มีปัญหาในการมองเห็นก็จะไปปรึกษา Doctor of optometry หรือเรียกอีกอย่างนึงว่า Optometrist ในประเทศไทยนั้นทั้งประเทศมี Optometrist ไม่เกิน 40 คน หากคิดจังหวัดละ 1 คน ยังไม่ไม่ครบทุกจังหวัดเลยครับ เท่าที่ทราบส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพ  ถ้าต่างจังหวัดเท่าที่ทราบ จังหวัดสตูลมี 1 คน , นครพนมมี 2 คน , โคราชมี 1 คน และสมุทรปราการ 1 คน อยู่ในร้านแว่นที่เปิดมานานแล้ว ในจังหวัดนั้นๆ  มิได้อยู่ในโรงพยาบาล หากอยากทราบคงต้องไปสอบถาม กันเอาเองครับ หากได้ลองวัดสายตากับ Optometrist สักครั้ง จะรู้เลยว่าเค้าเช็คสายตาให้เราละเอียดจริงๆ แต่เสียเวลาหน่อยนะ แล้วพวกคุณจะลืมร้านแว่นเดิมๆไปเลย กลับมาที่ประเด็นของ จขกท ดีกว่า ในความเห็นผมนะ ร้านแว่นที่สาขามากแทบทุกอำเภอที่ว่านั่นหละ ไม่ว่าจะเป็นท็อป , บิวตี้ , กุงทาย และอื่นๆ มาตรฐานอยู่ในเกณฑ์ต่ำนะในความคิดของผม ยังเทียบกับร้านแว่นเก่าแก่ทั่วไปในแต่ละจังหวัดไม่ได้เลย โดยผมมองจากประสบการณ์ การลองผิดลองถูก ผ่านมาหมดแล้ว ส่วนใหญ่เจ้าของร้านดำเนินการเอง ประสบการณ์ไม่ต่ำกว่า 10 ปี ส่วนร้านท็อป ใช้พนักงานในการดำเนินการ พนักงานเข้าๆออกๆ คิดดูเอาเองครับ  บางความเห็นที่บอกว่าเค้าต้นทุนต่ำผมก็ว่าจริงนะ ต่ำเฉพาะของที่เขาขายนะ เพราะเค้ามีสาขาหลายร้อยสาขาทั่วประเทศ การซื้อจำนวนมากในแต่ละครั้ง แน่นอนย่อมได้ในราคาที่ถูก แต่ที่ผมเคยไปสำรวจดู ร้านพวกนี้เค้าจะสั่งโรงงานผลิต ติดยี่ห้อของตัวเอง ดังนั้นนี่จึงเป็นเหตุผลที่ไปดูที่ร้านอื่นไม่มียี่ห้อนี้ เขาป้องกันการเช็คราคาไงครับ  ส่วนเรื่องเลนส์ คุณคิดว่าเลนส์ที่ ผลิตตามมาตราฐานยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น เมื่อเทียบกับจีน หรือเกาหลี คุณคิดว่ามาตรฐานเหมือนกันมั้ย แล้วราคาควรเป็นราคาเดียวกันมั้ย แล้วร้านท็อป คุณคิดว่าเค้าจะใช้เลนส์มาตรฐานไหนครับ ราคา ผมว่าต่างกันเป็นเท่าตัว แว่นโฆษณาว่าลด 50% มีของแถมอีกต่างหาก ขอถามหน่อยเถอะว่า ของแถมหนะอยากได้มั้ย ราคาของแถมเค้าบวกในราคาสินค้ารึยัง ใช่ของแถมจริงรึเปล่า เป็นไปได้มั้ยว่าสินค้านึงอยากขายซัก 100 บาท แบบมีกำไรเพียงพอ ที่จะจ่ายเงินเดือนพนักงานสาขาละ 4-5 คน คนละขั้นต่ำคง 6 พัน จ่ายค่าน้ำค่าไฟ จ่ายค่าเช่าตึกแถว เห็นว่าค่าเช่าเดือนนึงก็ไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นต่อ 1ห้อง ถ้าสองห้องก็เอาสองคุณ ถ้าห้องหัวมุมยิ่งแพง เราคงไม่ต้องสมมตินะว่าทุนเต้าเท่าไหร่ดี แล้วต้องติดราคาไว้เผื่อลด 50% บวกราคาของแถม บวกราคาค่าโฆษณา ทีวีนาทีละ 6 แสนบาท ไม่รู้โฆษณาไปกี่ร้อยล้าน ก็ต้องติดราคา 200 บาท ลด 50% แล้วเหลือ 100 บาท ต่อรองราคาไม่ได้แล้ว เพราะลดลงมา ครึ่งนึงแล้ว พนักงานเค้าพูดหยั่งงั้น   ถามจริงคนเดินเข้าร้านแว่น ไม่ใช่อยากได้แว่นซักอัน ที่ใส่แล้วมองชัด ดูสบายตา ไม่งง ไม่ปวดตา ไม่ปวดหัวคุณภาพดีๆ หรอกหรือ ก่อนเข้าร้านแว่น ไม่ลองถามคนที่รู้จักซัก 10 คน หน่อยเหรอ ว่าพวกเค้าทำแว่นที่ไหนกัน จากคุณ : GimMick - [ 7 ม.ค. 51 23:17:35 ]

ความคิดเห็นที่ 63 เมื่อเย้น ผมโทรถามเพื่อนอีกคน มันย้ายไป อยู่หาดใหญ่ มันบอก ที่หาดใหญ่ ก็แปลก ร้าน แว่นท้อปเจริญ กะ ร้านบิวตี้ฟูล มันเปิด ตรงกันข้ามกันเลย งง เลย 1. ธุรกิจ เจ้าของคนเดียวกัน เปิดแข่งกันเอง มันทำไปเพื่ออะไร 2.แล้ว ทำไม ต้อง แตกไลน์ธุรกิจ เดียวกัน แล้วประเภทธุรกิจ ก็เดียวกันอีก 3. จังหวัดอื่นๆ ถ้าพบเห็น ช่วยๆ กัน เสนอความเห็นด้วยครับ พอจะดู จุดแข็ง ของแว่น ร้านนี้ได้สองประเด็น 1. เขามี คอนเทคเลนส์ยี่ห้อ luna ซึ่งเขาผูกขาดคนเดียว (ไม่แน่ใจเข้าใจถูกไหม) 2. เขามีต้นทุนที่ต่ำมาก(มาตรฐานก้คงต่ำด้วยมังเพราะบางคนบอกได้ของไม่ค่อยดีแต่ราคาแพงเท่าคนอื่นมา(กรณีกรอบแว่น) สองข้อนี้ทำให้เขาอยู่ได้ แล้วเปิด สาขาได้ ผมว่า มัน แปลกๆ เหมือนกัน 3. เจ้าของ กิจการ แว่น ไม่เคยออกสื่อทีวี ไม่เคยลง นสพ ซึ่งมันผิดปกติ มาก ปกติรวยระดับ นี้ มันต้องออก อะไร แง้มๆ มาบ้าง ยกเว้น กรณีเดียวคือ * เลนส์ Luna ที่ว่า ดีที่สุดถูกที่สุดในประเทศ  เอ ทำไม เขา เน้น เลนส์ ตัวนี้เป้นจุดขายเลย ละ ในโฆษณาไม่บอกไปเลย ว่า แว่นท้อปเจริญ เราขาย เลนส์ Luna จะได้ไม่ต้อง มา  แจก ของ แจก ลด อีก ทุกๆ เดือน    ที่ตาม หลัก การตลาด(หรือเปล่า) เขาเรียก ว่า Product มีจุดแข็ง   ก้แปลก ไม่ ชู ตัว Product ให้ เป็น Main ของ ร้านไปเลย แต่ไปเน้น ลด 50% ไป เน้น ให้ลูกค้าเข้าใจ ว่า ตัวเขา มี Priceและ Promotiios  ถูก เป็นจุดแข็ง ซึ่ง ตามหลัก แล้ว ซึ่ง กรณี ไป เน้น Protmotions เขาจะมี คชจเพิ่ม ขึ้นในต้นุทุนอีก อยากได้ แบรนด์แว่น อื่น หรือ แว่นท้อปเจริญๆ มาอ่านจริงๆ จะได้ช่วยแชร์ความเห็น เพิ่ม มุมมองอื่นอีก แต่ ทุกท่าน ก็พูดได้ น่าสนใจ มาก ขอบคุณทุกความเห็น แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 51 00:58:40 แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 51 00:51:18 แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 51 00:50:29 แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 51 00:46:38 แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 51 00:44:34 จากคุณ : lazarn (lazarn) - [ 8 ม.ค. 51 00:38:37 ]

ความคิดเห็นที่ 64 คุณ lazarn ความจริงก็คือ เจ้าของท็อป กับ บิวตี้ เจ้าของนามสกุลเดียวกัน แต่ไม่ใช่ชื่อเดียวกัน ส่วนสาเหตุที่ต้องเปิดอีก 1 ยี่ห้อร้านก็เพราะ คุณลองนึกดูว่าคนคนนึงไปทำแว่นที่ท็อป แล้วใช้ไม่ได้ แน่นอนเค้าก็ไม่กลับไปท็อปแล้ว ทำแว่นครั้งต่อไป ก็มีโอกาสที่จะทำที่บิวตี้ เป็นไงครับ คนนึงโดนไป 2 รอบ กับร้านแว่นตระกูลเดียวกัน ส่วนคอนแทคเลนส์ ดูหน้า ที่เขาว่าดีที่สุดในโลก มันจะจริงไปได้ยังไง บริษัทคอนแทคเลนส์ยักษ์ใหญ่ของโลก ที่ตรายี่ห้อเขาขายทั่วโลก อาทิ Ciba vision , Johnson&johnson และ Baush&Lomb เขายังไม่คุยเลยว่าเขาดีที่สุด ยี่ห้อ ดูหน้า มันมีเฉพาะในไทย ตระกูลนี้เค้าไปจ้างโรงงานทำ คอนแทคเลนส์ยี่ห้อนึง ในประเทศใหญ่ๆ ทำในปริมาณมากๆ แล้วตั้งยี่ห้อขึ้นมาเอง ขายในร้านตัวเอง ร้านทั่วไปไม่มี ไม่สงสัยบ้างเหรอว่าถ้าของดีจริงทำไม จักษุแพทย์จึงไม่มีขายครับ จากคุณ : GimMick - [ 8 ม.ค. 51 00:53:13 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ขอบคุณ ความคิดเห็นที่ 64 ครับ จากคุณ : lazarn (lazarn) - [ 8 ม.ค. 51 01:02:09 ]

ความคิดเห็นที่ 66 มีคนรู้จัก ที่บ้านเปิดร้านแว่นตาอยู่ ต้นทุนสองร้อยขายห้าพันจริงๆ ก็ของมันจำเป็นสำหรับบางคนน่ะ เท่าไหร่ก็ต้องซื้อ ส่วนจะขายถูกลง ก็ไม่ใช่ว่าคนจะซื้อมากขึ้น (คนสายตาแย่ลงมากขึ้น) แต่ราคาถูกหรือแพง ขึ้นอยู่กับฝีมือช่างประกอบเลนส์ ฝีมือดีก็ทำแว่นใส่แล้วสบายตา คนขายหรือคนเชียร์แนะนำดี ช่วยเลือกแว่นทรงดีๆ ให้ ก็ช่วยเสริมบุคลิกได้ แนะนำเลนส์ดีๆ ให้ ก็ช่วยให้สวมใส่แว่นได้สบายขึ้น กำไรของแว่นตาก็คือค่าแรงและองค์ความรู้ของคนขายนั่นแหละ เคยตัดแว่นราคาพันกว่า ใส่ได้เดือนเดียวแล้วทิ้งเพราะปวดตาเนื่องจากประกอบเลนส์ไม่ดี ใส่แล้วหนักเกะกะ ไปตัดแว่นที่ร้านใหม่แพงกว่าอีกเท่านึง ใส่แล้วสบาย ไม่ล้า ต่อไปก็ผูกกับร้านเดิม เพราะเชื่อมือ โดยปกติ คนใส่แว่น มักจะเปลี่ยนแว่น ปีละครั้ง อันนี้คือประสบการณ์ของคนเคยใส่แว่นมาตั้งแต่เด็ก แต่ตอนนี้ใช้คอนแทกเลนส์ เพราะผมชอบทำแว่นพัง พอใช้คอนแทกเลนส์ เปลี่ยนมาหลายยี่ห้อ ลงท้ายก็ต้องเลือกยี่ห้อที่เหมาะกับตาเรามากที่สุด คราวนี้ ร้านไหนก็ได้  แต่ต้องสู้ราคา แพงขึ้นก็ต้องซื้อ มีโปรโมชั่นลดราคาก็ถือว่าโชคดี จากคุณ : นายเดชา - [ 8 ม.ค. 51 01:04:37 ]

ความคิดเห็นที่ 67 นายเดชาครับ ที่คุณกล่าวว่าทุน สองร้อยขายห้าพัน โดยสามัญสำนึกแล้วมันไม่ใช่นะครับ แว่นนะครับไม่ใช่ยาบ้า หรือเฮโรอีน ที่ว่าเป็นของหายาก  แว่นระดับราคาห้าพัน มันต้องเป็นแว่นแบรนด์เนมครับ พวก Gucci , Amani , Adidas เป็นต้น ระดับทุนสองร้อย มันก็คุณภาพตามแผงลอย หรือคลองถมครับ ไม่น่าเป็นไปได้ครับ  อาจเป็นไปได้กรณีเดียวคือ มันประทับยี่ห้อ Gucci แต่เป็นของปลอมครับ ซึ่งร้านแว่นที่มีจรรยาบรรณ และรักในวิชาชีพตนเอง หวังจะเปิดร้านไปนานๆ เค้าไม่ขายของแบบนี้หรอกครับ ขายของแบบนี้ เค้าเรียกตีหัวเข้าบ้านครับ แบบว่า ขายครั้งเดียว แล้วขายของคนนี้ไม่ได้อีกเลย คนค้าขายเค้าไม่ทำกันอย่างนี้หรอกครับ ยิ่งคุณบอกว่า เปลี่ยนแว่นทุกปี เค้าเลือกที่จะขายคุณปีละอัน จนกว่าคุณจะไม่ใส่แว่นดีกว่าครับ สมมติเครื่องเล่น DVD จีนแดงยี่ห้อ ชุงฮุย เป็นไงยี่ห้อแปลกมั้ยครับ จะมาขายราคาเดียวกับ Sony แล้วใครจะซื้อหละครับ ผู้บริโภคไม่โง่นะครับ ก็ระดับเราๆท่านๆ นี่แหละครับ มีสามัญสำนึกในการพิจารณา ซื้อสินค้ากันทุกคน จากคุณ : GimMick - [ 8 ม.ค. 51 01:36:15 ]

ความคิดเห็นที่ 68 แล้วคอนแทคเลนส์ยี่ห้อไหนแหล่มสุดละครับ จากคุณ : qerlic - [ 8 ม.ค. 51 02:10:16 ]

ความคิดเห็นที่ 69 เคยเสียค่าโง่กะเพื่อนอีกคนที่ท้อปเจริญค่ะ ไปซื้อคอนแทคเลนส์ของเค้า ครั้งแรกทั้งคู่ จำไม่ได้แล้วค่ะว่าแต่ละอันราคาเท่าไหร่ แต่จำได้ว่าออกมาจากร้าน เสียเบ็ดเสร็จไปคนละประมาณ 500 ได้ ก็มีเลนส์ดูหน้า + น้ำยาล้าง + ตลับ(ที่ขายแยกและมีราคา) เดือนต่อๆ มาก็ไปซื้อร้านอื่น ก็มีแต่พนักงานแนะนำยี่ห้อเนี้ยค่ะว่า ห้ามซื้อนะ ยี่ห้อนี้ ที่มีประสบการณ์ก็แค่นี้ค่ะ แต่ก็สงสัยอยู่เหมือนกันค่ะ ไมมันเงี๊ยบเงียบง่า จากคุณ : อุริ อุริ - [ 8 ม.ค. 51 02:24:15 ]

ความคิดเห็นที่ 70 57คุณอิฐมอญครับ ไปทำแถวท่าช้างระวังนิดนะครับ ตอนผมแว่นหายไปตัดมาแก้ขัด ใช้ไปสักพักเลนส์มันลอกๆน่ะครับ และถ้าจะให้ดีเอากรอบไปเองดีกว่า เพราะที่ร้านกรอบไม่ค่อยสวยและไม่ค่อยทนด้วย (หรือเพราะผมเลือกกรอบราคาประหยัดของเค้าก็ไม่รู้) 1. ธุรกิจ เจ้าของคนเดียวกัน เปิดแข่งกันเอง มันทำไปเพื่ออะไร มีคนตอบแล้วว่าแค่นามสกุลเดียวกัน 2.แล้ว ทำไม ต้อง แตกไลน์ธุรกิจ เดียวกัน แล้วประเภทธุรกิจ ก็เดียวกันอีก อย่างที่บางคนตอบไปว่าถ้าไม่ชอบร้านนี้ก็ไปอีกร้าน เค้าทำให้เกิดการเปรียบเทียบครับ เหมือนสินค้ายี่ห้อเดียวกันออกสินค้าคนละรุ่นกัน คนซื้อจะได้เทียบเอา หรืออย่างpanasonicกับnationalก็เจ้าของเดียวกัน แบบนี้ไม่ว่าคุณจะว่าร้านไหนดีกว่ากัน เข้าร้านไหนเงินก็เข้ากระเป๋าเค้าอยู่ดี พอจะดู จุดแข็ง ของแว่น ร้านนี้ได้สองประเด็น 2. เขามีต้นทุนที่ต่ำมาก(มาตรฐานก้คงต่ำด้วยมังเพราะบางคนบอกได้ของไม่ค่อยดีแต่ราคาแพงเท่าคนอื่นมา(กรณีกรอบแว่น) อันนี้ต้องดูเอาครับ ร้านแพงแต่ของไม่ดีมีเยอะแยะ ใช่ว่าจะเป็นแต่ที่นี่(ไม่ได้บอกของเค้าไม่ดีนะ แต่บอกว่าก็เหมือนๆกันแหละครับ) 3. เจ้าของ กิจการ แว่น ไม่เคยออกสื่อทีวี ไม่เคยลง นสพ ซึ่งมันผิดปกติ มาก ปกติรวยระดับ นี้ มันต้องออก อะไร แง้มๆ มาบ้าง หุหุคนรวยเงียบเยอะแยะไปครับ ทำไมเค้าต้องมาโพนทะนาว่ามีเงินเท่าไรแล้ว ถ้าคิดแบบนี้คุณเฉลี่ยวไม่ต้องออกทีวีทุกวันเลยหรอ ถ้าลองดูสถิติการเสียภาษี หรือบัญชีเงินฝากแล้ว คนไทยรวยเงียบเยอะมากๆครับ คุณGimMickครับ ผมเคยไปซื้อแว่นที่คลองถม(ยี่ห้อมาจากจีนทำเลียนแบบแว่นยี่ห้อดัง) อันละ700บาท ไปบอกรุ่นพี่ เค้าเลยไปดูในห้าง รุ่นเดียวกันนี่แหละสี่พัน ลดสุดๆแล้ว คุณว่ากำไรดีมั้ยครับ ขนาดว่าร้านที่ผมซื้อเค้าขายราคานี้ยังอยู่ได้ คุณว่าต้นทุนมันเท่าไหร่ล่ะ แล้วร้านแว่นนะครับ บ่ไจ้ร้านชำ ลูกค้าส่วนใหญ่ขาจรครับ หลายร้านก็กะฟันฉับให้ดับดิ้นไปเลย เพื่อนผมไปซื้อคอนแทคร้านนึงประจำ เค้าไม่เคยำได้เลย(อยากได้ลูกค้าประจำ?) และก็เป็นปกติที่เค้าจะขึ้นราคาสินค้าตลอดเวลา จนกว่าจะบอกราคาคราวก่อนไป การรักษาลูกค้าเก่าเป็นสิ่งที่ดีครับ แต่ร้านแว่น(ที่ไม่ใช่ร้านสาขา) มักจะมองว่าแว่นไม่ใช่สินค้าซื้อซ้ำบ่อยๆ เลยฟันกันแรง ถ้าคุณไปดูร้านแว่นจริงๆบ้าง จะเห็นเลยครับ ว่าแว่นส่วนใหญ่ในร้านก็เกรดคลองถมนั่นแหละ (เว้นแว่นยี่ห้อจริงๆ แต่ถามว่ามีปลอมไหม ก็บอกได้เลยว่ามี-แต่ผมไม่ได้ใช้นะ) พอเข้าร้านราคาต่ำๆก็พันสองพันแล้ว มันจะไม่กำไรหรอครับ เพราะในขณะที่คลองถมขายอันละไม่กี่สิบถึงไม่กี่ร้อย แล้วถ้าแว่นปลอมติดแบรนด์ ใครจะไปดูรู้ครับ??? ถ้าแว่นพังเราก็เอาไปซ่อมตามร้าน ไม่มีร้านไหนขอดูใบรับประกันแบบDVDหรอกครับ อันนี้ว่ากันตามประสบการณ์ที่ซื้อและดูร้านแว่นมาครับ แถมจากรุ่นพี่ที่ว่างๆต้องไปนั่งคุยกับร้านแว่นเค้าบอกมา (ดูโรคจิตมั้ยนี่ แต่เค้าชอบกรอบสวยๆ เลยไปนั่งคุยกับร้านแว่นบ่อยๆ) จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 8 ม.ค. 51 03:01:57 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ขอบคุณครับ ความคิดเห็นที่ 70   - ถ้าคุณไปดูร้านแว่นจริงๆบ้าง จะเห็นเลยครับ ว่าแว่นส่วนใหญ่ในร้านก็เกรดคลองถมนั่นแหละ (เว้นแว่นยี่ห้อจริงๆ แต่ถามว่ามีปลอมไหม ก็บอกได้เลยว่ามี-แต่ผมไม่ได้ใช้นะ) พอเข้าร้านราคาต่ำๆก็พันสองพันแล้ว มันจะไม่กำไรหรอครับ เพราะในขณะที่คลองถมขายอันละไม่กี่สิบถึงไม่กี่ร้อย ฟันกันฉับๆ ถ้า แบบนี้ มันผิด กฏหมาย ไหมเอ่ย คือ ตั้งราคาเข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภค ไหม ? หรือมันไม่คุ้มครอง คุ้มครองเฉพาะ อาหารและยา ครับ แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 51 03:08:40 จากคุณ : lazarn - [ 8 ม.ค. 51 03:07:15 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ตอบ 71 คิดว่า เอา"การหลอกลวงผู้บริโภค"เข้ามาจับคงไม่ได้น่ะ ราคาซื้อขาย ถือเป็นความพอใจตกลงกันระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย ใครจะไปรู้ว่า ต้นทุึนเขาเท่าไร ซื้อจากไหน (น่าจะเป็นความลับทางการค้า) เขาก็เอามาเพิ่มมูลค่าทางการตลาด โดยการทำร้านติดแอร์ ให้ดูดี มีอุปกรณ์สวยๆประกอบ มี จนท เอาอกเอาใจ ก็แค่นั้น ถึงจะเป็นสินค้า lot เดียวกับคลองถมก็เถอะ เขาจะตั้งราคาเท่าไรก็ได้ ตราบใดที่มีคนยอมซื้อ สินค้าหลายชนิด เป็นสินค้าีควบคุมราคา...แต่อันนี้ไม่ใช่ สินค้าหลายชนิด มีข้อบังคับเรื่องฉลาก...แต่อันนี้ไม่ใช่ สินค้าหลายชนิด มีข้อบังคับเรื่ององค์ประกอบ...แต่อันนี้ไม่ใช่ จากคุณ : *Cookies* - [ 8 ม.ค. 51 07:55:51 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ความคิดเห็นที่ 72 ขอบคุณครับ จากคุณ : lazarn (lazarn) - [ 8 ม.ค. 51 09:01:59 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ความเห็น 69 เหมือนผมเลยครับ ผมซื้อคอนแทคใส่ครั้งแรกสมัยเรียนก็ Duna ของท็อปเจริญเนี่ยแหละ ครั้งแรกโดนไป 500 กว่าบาท แถมคอนแทคก็ใส่แล้วเคืองตาอีก พอเปลี่ยนมาใส่ยี่ห้ออื่น สบายตากว่าเยอะ ถูกกว่าแบบคนละเรื่องเลยอ่ะ - -* แว่นสายตาผมก็ตัดตามร้านแว่นเนี่ยแหละ แต่ไม่ใช่เจ้าที่บอกนะ ก็เกือบ 4000 เหมือนกันอ่ะครับ ราคากรอบ + เลนส์ จากคุณ : ganblade - [ 8 ม.ค. 51 09:42:06 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ตอบคุณขอบฟ้าบูรพา สินค้าของปลอม กับสินค้าแท้นั้น เวลาเท่านั้นจะเป็นเครื่องพิสูจน์ครับ แว่นที่คุณภาพต่ำ ก็มักจะผุและลอกได้ง่าย จุดเชื่อมต่อ ไม่ดี บิดเบี้ยวง่าย หลุดง่าย เสียทรงง่าย ดังนั้นเวลาซื้อ ต้องอาศัยความเชื่อใจครับ ร้านเก่าแก่ในแต่ละจังหวัด อาชีพของเค้า เงินที่ได้จากการค้าขาย ก็เป็นเงินที่เค้าต้องนำไปใช้จ่าย ในชีวิตประจำวันของเค้า เค้าไม่น่าจะทำลายอาชีพตัวเอง โดยการฟันกำไรมากๆ แบบหวังขายครั้งเดียว เหมือนท็อป และบิวตี้ ลูกค้าที่ซื้อแว่นจริงๆ ไม่ใช่ลูกค้าจรหรอกครับ คนใส่แว่น เมื่อทำแว่น ยังไม่เคยเจอดีดี ใส่ไม่สบายตา ครั้งต่อไปเค้าก็เปลี่ยนร้านครับ แต่ที่เจอที่ทำดีดีแล้ว เค้าไม่เปลี่ยนร้านหรอกครับ   คนที่ใช้แว่นจะรู้ครับว่าร้านไหนดี หรือไม่ดี เพียงแต่ว่าเค้าจะเจอร้านที่ทำได้ดีรึเปล่าเท่านั้น ผมถึงบอกไงครับว่า ก่อนทำแว่น ให้ลองถามคนรู้จัก ซัก 10 คนก่อน ถ้าส่วนใหญ่บอกร้านไหน ร้านนั้นก็น่าจะดีครับ มิใช่ เห็นร้านไหน ตกแต่ง สวยงาม ก็เดินเข้าไป ก็หัวแบะออกมา เท่านั้นเอง ส่วนที่บอกว่าร้านแว่นส่วนใหญ่ ที่คุณภาพระดับคลองถม ถ้าหากส่วนใหญ่ในที่นี้หมายถึงร้านแว่นทั่วไป เห็นว่าน่าจะจริงครับ ร้านแว่นนั้นก็แบ่งเป็นหลายเกรดละครับ ร้านที่ไม่มีฝีมือ เขาก็ต้องใช้ราคาในการทำตลาด เมื่อมาเล่นเรื่องราคาแล้ว ตามหลักการตลาดเค้าก็คงต้องแสวงหาสินค้าที่ราคาต่ำมาขาย แน่นอนคุณภาพก็ต้องตามราคา  แต่ก็ใช่ว่านำคุณภาพต่ำมาขาย ในราคาสูงเกินคุณภาพ อย่างนี้เห็นตัวอย่างที่ร้านท็อปแล้วไงครับ ร้านแว่นที่มีฝีมือ เค้าแข่งกันที่คุณภาพ และการบริการครับ พวกคนรวยๆในแต่ละจังหวัด เค้าก็ไปทำแว่นกับร้านอีกเกรดนึง แต่ผมบอกได้เลยว่า ร้านแว่นที่คุณภาพสูงสุด ตามมาตราฐานสากล ก็คือร้านแว่นที่ตรวจวัดสายตาโดย Optometrist ครับ ร้านแว่นก็เหมือนกับร้านขายของอย่างอื่นครับ ที่ขายสินค้า เพื่อกลุ่มเป้าหมายใด ก็จะนำสินค้าเพื่อกลุ่มเป้าหมายนั้นมาขาย แว่น หากผมเปรียบเทียบง่ายๆ ก็เหมือนเสื้อผ้าครับ ผ้าเนื้อเดียวกัน การตัดเย็บปราณีตเหมือนกัน แต่ที่คอเสื้อ ติดคนละยี่ห้อ ราคาก็ต่างกันเป็นเท่าตัวได้ครับ หากเนื้อผ้าไม่ดี การตัดเย็บแบบเสื้อโหลอีก ราคาก็ต่ำครับ กรณีเสื้อเหลือง เสื้อชมพู น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดี คุณน่าจะเคยเลือกซื้อ ราคาก็ต่างกัน ในแต่ละเนื้อผ้า และการตัดเย็บ บางตัวผมดูก็เห็นแล้วว่าเย็บแล้วมีรอยย่นครับ ร้านแว่นนั้นต่างจากร้านที่ขายสินค้าแบบซื้อมาขายไปนะผมว่า กล่าวคือ มันมีเรื่องของการตรวจวัดสายตาเข้ามาเกี่ยวข้อง นั่นหมายถึงเรื่องของฝีมือ และความชำนาญ อีกทั้งยังมีเรื่องของมาตราฐานในการประกอบ ให้จุดโฟสของเลนส์ให้ตรงกลางตาดำ รวมถึงความปราณีตของเลนส์ที่ได้สัดส่วน เข้ารูปกับกรอบแว่นพอดี หลายคนคงเคยประสบปัญหาที่ทำแว่นมาแล้ว เลนส์หลุดง่ายเป็นต้น อีกหน่อยร้านแว่นที่เปิดในประเทศเท่าที่ผมทราบนั้นต้อง จบ Doctor of Optometry เท่านั้นจึงจะเปิดร้านได้ เหมือนร้านขายยาที่ต้องมีเภสัชกรครับ แต่ก็คงอีกนาน เพราะบุคคลกรยังไม่เพียงพอ จากคุณ : GimMick - [ 8 ม.ค. 51 10:05:38 ]

ความคิดเห็นที่ 76 อืม..... จากคุณ : อาว์เอ็ด - [ 8 ม.ค. 51 10:07:47 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ตอนนั่งรถเมล์ ได้ยินคนคุยกัน คนนึงมีลูกชายทำงานร้านขายแว่น (แต่ไม่ใช่ที่ท้อปเจริญนะ) เขาคุยอวดว่าเพิ่งไปตัดแว่นใหม่ที่ร้านที่ลูกชายเขาทำอยู่เนี่ย ได้ลด 50% เหลือแค่สี่พันกว่าเท่านั้น นอกจากเค้าแล้ว ลูกชายยังต้อนญาติๆหลายคนไปตัดแว่นที่ร้านด้วย ฟังแล้วเกือบเป็นลม เราตัดแว่นร้านเจ้าประจำ ไม่มีส่วนลดอะไรเลย แค่พันกว่าๆเท่านั้นเอง แล้วแว่นเทพอะไรกันตั้งเกือบหมื่น (ราคาก่อนลด 50%) จากที่สังเกตุดู ร้านแว่นพวกนี้จะรับสมัครพนักงานบ่อยมาก พอเอามาบวกกับที่ได้ยินข้างบน ก็ขอสรุปว่า พนักงานน่าจะได้เงินเดือนไม่มาก แต่เน้นที่ค่าคอม แล้วถ้าใครขายได้ไม่ถึงเป้า อาจจะถูกให้ออก พวกนี้ก็เลยต้องไปขอให้พ่อแม่ญาติพี่น้องเพื่อนฝูงมาตัดแว่นที่ร้าน จนไม่รู้ว่าจะต้อนใครมาเป็นลูกค้าได้อีก ทางร้านก็ให้ออก (คล้ายๆพวกขายตรง ขายประกัน คือ เน้นขายให้คนรู้จัก ถ้าขยายฐานลูกค้าแปลกหน้าไม่ได้ ก็จะต้องเลิกทำไปในที่สุด บริษัทก็มีแต่ได้ลูกเดียว) คิดว่าคงเป็นประมาณนี้แหละ จากคุณ : อยากตอบ - [ 8 ม.ค. 51 10:34:06 A:210.203.178.243 X: ]

ความคิดเห็นที่ 78 ที่พิโลกตลาด ค.ม.ต. ท๊อปเจริญกับบิวตี้ฟูล เปิดห่างกันไม่ถึง 500 เมตรครับขับรถผ่านทีไรก็เห็นพนักงานนั่งไขว่ห้างมองคนผ่านไปผ่านมาตลอด ที่กำแพงเพชรก็เหมือนกันครับ ไปธนาคารทีไรก็จะเห็นพนักงานนั่งคุยกันสบายใจตลอด อีกร้านก็เหมือนกัน คิดดูอยู่ ตจว.ตาสีตาสา จะไปตัดแว่นทีคงไม่ไปแบบแพงๆหรอกครับนอกจากจะมีเงินจริงๆแม่ผมก็ถือว่ามีเงินแต่แกก็ยังจ้างคนรู้จักตัดเอาเลยครับ ก็สงสัยมานานแล้วเหมือนกันครับว่าเค้ามีธุรกิจอย่างอื่นอีกหรือเปล่า เช่น ทำส่งต่างประเทศ หรือ Gucci Armani มาแอบจ้างให้พี่แกทำแว่นให้อิอิ ที่ผมสังเกตุบ่อยเพราะมันผ่านตาบ่อยน่ะครับ ติดไฟแดงทีไร ไปธนาคารทีไรก็เห็นประจำ มีแอบดูขาพนักงานบ้างก็แค่นั้น อุ๊บส์ จากคุณ : อิไต อิไต .... - [ 8 ม.ค. 51 10:39:55 A:125.24.182.233 X: ]

ความคิดเห็นที่ 79 มานั่งดูเค้าคุยกัน ^^ จากคุณ : -->+:+โชยุ&วาซาบิจัง+:+<-- - [ 8 ม.ค. 51 11:04:52 ]

ความคิดเห็นที่ 80 โหวว ระวังโดนอุ้มนะเนี่ย ๕๕๕ จากคุณ : รบมิพัก รักมิยั้ง - [ 8 ม.ค. 51 11:05:14 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ตอบคุณGimMick ตอนผมตัดผมถามความเห็นพี่ๆที่ถนัดด้านนี้ตลอดแหละครับ แต่เรื่องแบบนี้ก็ขึ้นกับทำเลด้วยครับ บางร้านที่แนะนำมาไกลสุดกู่(แถวบ้านเค้า) ผมคงไม่จำเป็นต้องไปถึงที่นั่นมั้งครับ และร้านแต่ละร้านที่ดูๆก็เป็นร้านมีระดับหมดครับ การจะดูคุณภาพของแว่นถ้าไม่เปลี่ยนแว่นบ่อยๆทำได้ยากครับ เพราะคงมีน้อยคนที่จะตัดแว่นมาจากคนละร้าน แล้วเอามาเทียบกันหลายๆอัน(แต่รุ่นพี่ผมมีเยอะจริงๆ บ้าไปแล้ว) ส่วนใหญ่เวลาไปถามว่าร้านไหนดี คนส่วนใหญ่ก็จะบอกร้านที่เคยไปตัด ซึ่งไอ้ที่ว่าดีนั้น ก็แค่ไม่เกิดปัญหาอะไร ไม่ใช่ว่าเลิศไปเลย เพราะเค้าก็ไม่มีตัวเปรียบเทียบ แล้วร้านค้าเค้าจะแข่งกันตรงไหนดีครับ ที่บอกว่าแว่นเกรดเดียวกับคลองถม ก็เป็นร้านดีที่หลายคนแนะนำด้วยซ้ำ และถ้าจะบอกว่าผมเข้าแต่ร้านประภทนี้ อย่าเข้าใจผิดนะครับ ส่วนตัวผมเลือกร้านตัดทั้งนั้น ผมไม่รู้ว่าเค้าเป็นDoctor of Optometry หรือปล่าวครับ รู้แต่จบดอกเตอร์เป็นอาจารย์หมออยู่มหิดลครับ ขนาดตำแหน่งที่พอจะเรียกได้ว่าเป็นเด็กฝึกงานสำหรับร้านทั่วไป แต่ที่นี่เค้าเป็นว่าที่นักศึกษาเกียรตินิยมมาฝึกเลยครับ แต่แว่นในร้านก็ยังเกรดคลองถมกับยี่ห้อทั่วไปคละๆกันอยู่ดีครับ อีกอย่างถ้าคุณภาพแว่นจะเสื่อม ผมก็ไม่เคยเห็นใครไปเคลมกับร้านสักที เคยรู้จักคนใส่แว่นไหมครับ แว่นอันละ4000ขาลอก เค้ายังไม่บ่นร้านเลย ถามว่าจะกลับไปร้านเดิมอีกไหม ผมไม่รู้ แต่ที่แน่ๆร้านฟันกำไรไปแล้วครับ Gimmick ร้านแว่นนั้นต่างจากร้านที่ขายสินค้าแบบซื้อมาขายไปนะผมว่า กล่าวคือ มันมีเรื่องของการตรวจวัดสายตาเข้ามาเกี่ยวข้อง นั่นหมายถึงเรื่องของฝีมือ และความชำนาญ อีกทั้งยังมีเรื่องของมาตราฐานในการประกอบ ให้จุดโฟสของเลนส์ให้ตรงกลางตาดำ รวมถึงความปราณีตของเลนส์ที่ได้สัดส่วน เข้ารูปกับกรอบแว่นพอดี ผมถกเรื่องต้นทุนและราคากรอบครับ ไม่จำเป็นว่าคนประกอบดีจะต้องขายกรอบดีไปด้วยครับ ตรงท่าช้างก็ประกอบดี บริการดี แต่กรอบแย่มาก แถมเลนส์ที่ประกอบมาก็ลอกแล้วด้วย ผมกลับไปทำอะไรได้หรอครับ อย่างมากไปคราวหน้าก็ซื้อกรอบไปเอง เลือกเลนส์ที่ดีกว่าเดิม เน้นอีกครั้ง ที่ตัดร้านนี้เพราะตอนนั้นแว่นหายครับ จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 8 ม.ค. 51 11:26:45 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ต้นทุนราคาเลนส์ ที่ใช้กันในร้านตัดแว่น เลนส์ธรรมดา ต้นทุนอยู่ที่ 5 บาท ที่ร้านขาย300-500 บาท เลนส์มัลติโคท ต้นทุนอยู่ที่ สิบกว่าบาท ที่ร้านขายกัน700-900 บาท ส่วนเลนส์ เกรดดีๆ ชนิดพิเศษ แบบบาง แบบเหนียว เคลือบสารชนิดพิเศษ กันยูวี ต้นทุนจะอยู่ที่หลักร้อย ถึงหลักพัน จากคุณ : make ends meet - [ 8 ม.ค. 51 11:32:05 ]

ความคิดเห็นที่ 83 เมื่อก่อนบ้านแม่ทำร้านตัดแว่น ญาติเจียร์เลนส์ครั้งแรกๆ แล้วทำพัง วิ่งขึ้นไปร้องไห้เลย ... เลนส์มันแพงมากๆ จากคุณ : perspeceviT - [ 8 ม.ค. 51 11:36:56 ]

ความคิดเห็นที่ 84 โห ถามโดนใจมากกกกกกกกก  เพิ่งคุยกับพี่ทำงานเมื่อวานซืนเอง ว่าสาขามันตั้งเยอะ กำไรจากไหน พนักงานเพียบ คนไม่มีเข้าร้านเลย ที่อำเภอปายก็มี ไม่มีคนเข้าเลย งงมาก มันอยู่ได้ไง แล้วโฆษณาทางสื่อต่างๆเยอะมากจริงๆ ลอด แลก แจกแถมให้วุ่นไปหมด แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 51 11:49:41 จากคุณ : phoenixia - [ 8 ม.ค. 51 11:47:55 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ในมหาวิทยาลัยรัฐแถวปทุมธานีก็มีร้านแว่นนี้เหมือนกันครับ เดิมทีเป็นสหกรณ์ ต่อมามีการปรับปรุงครั้งใหญ่ พอสร้างเสร็จจึงรู้ว่าเขาแบ่งพื้นที่บางส่วนให้เิปิดร้านแว่นนี้ เดินผ่านไปมาเห็นพนักงานนั่งหาวแล้วหาวอีก แทบไม่มีลูกค้าเลย สงสัยเรื่องการขยายสาขาของร้านนี้เหมือนกัน จากคุณ : Shoe_Shine - [ 8 ม.ค. 51 12:17:39 ]

ความคิดเห็นที่ 86 จะเหมือนกระทู้ขายตรงยี้ห้อนึงไหมเนี่ย จากคุณ : {M}-มดนะจ๊ะ - [ 8 ม.ค. 51 12:37:04 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ความเห็นส่วนตัว น่าจะเป็น Marketting รายได้หลักน่าจะมาจาก การเข้าไปขายตรงให้ผู้บริโภคมากกว่า เค้าน่าจะมีทีมงานเจาะไปตามบริษัท หรือหมู่บ้าน ขายแว่นเงินผ่อนมั้ง (จาก http://www.topcharoen.co.th/web/mobile.html ) หน้าร้าน+จำนวนสาขา ใช้สร้าง image ให้ Brand ไม่หวังพึ่งการขายจากหน้าร้าน ขอแค่เปิดให้มากที่สุด เพื่อให้ support ทีมขายเคลื่อนที่ได้ จากคุณ : ก๊อกก๊อกแก๊กแก๊ก - [ 8 ม.ค. 51 12:38:43 ]

ความคิดเห็นที่ 88 แต่ถ้าคิดคล่าวๆ สมมุติขายได้วันละอัน ตีซะหักต้นทุนที่ว่าถูกกัน คงได้สัก สามพัน เดือนหนึ่งก็ได้ประมาณ เก้าหมื่นถึงแสน หักค่าจ้างพนักงาน ตีซะสี่คน คนละหมื่น ก็เหลือตังค์ประมาณสี่ห้าหมื่น หักค่าโน่นค่านี่ อย่างน้อย ผมว่าก็ยังไม่น่าจะถึงกะควักเนื้อนะ ถ้าขายได้มากกว่านี้ ก็น่าจะเป็นกำไรแล้ว ไม่รู้จิ คิดแบบประมาณๆหมดเลย จากคุณ : bloodsteam - [ 8 ม.ค. 51 12:44:48 ]

ความคิดเห็นที่ 89 คิดในแง่ดีนะครับ จากประสบการณ์ที่ธุรกิจของผมก็โดนเพื่อนฝูงสงสัยว่า ผมขายยาบ้า หรือ เป็นมาเฟีย อยู่หลังฉากธุรกิจ โดนค่อนแคะมาตลอดว่าธุรกิจผมอยู่ได้ยังไงตั้ง 20 ปี ไม่ได้ร่ำรวย แต่มีเงินพอกินพอใช้ ธุรกิจก็ไม่เจ๊ง ... เจอแบบนี้เข้า ใครๆก็คงคิดในแง่ผิดกฎหมายไว้ก่อน ใครๆมาเห็นร้านของผม ต่างก็บอกว่าวันๆไม่เห็นมีคนเข้าร้านเลย แล้วจะเอาเงินมาจากไหน ค่าใช้จ่ายกินไปหมดแล้ว อีกทั้งผมก็เปิดๆปิดๆตามอารมณ์ คือว่าธุรกิจผม คือ ขายของเก่า ครับ คงจะพอยกตัวอย่างคล้ายๆแว่นตาได้เหมือนกัน เช่น กำไรต่อชิ้นสูง, ราคาขึ้นอยู่กับความพอใจ 2 ฝ่าย, ไม่มีกำหนดราคาแน่ชัด ทำไมผมถึงอยู่ได้ (เดาว่าคล้ายๆแว่นท็อป..) ? ยกตัวอย่างตามนี้ครับ 1. ผมเปิดร้านทุกวัน 9-18 น. ไม่มีวันหยุด แต่หยุดเมื่อไม่อยู่ เดือนนึงรวมประมาณ 25 วัน 2. คิดว่าวันๆนึงมีคนเดินเข้าร้านบ้าง บางวันก็ไม่มีเลย เฉลี่ยแล้วตกเดือนนึง 100 ครั้ง (4-5 ครั้ง/วัน) 3. คิดซะว่ามีคนที่ "ซื้อ" ไม่ใช่ "เดินดูเฉยๆ" แค่ 5% ก็พอแล้วครับ 4. 5% ที่ว่า ซื้อของ 1 ชิ้น บ้างก็ 2 ชิ้น จากเงื่อนไข 4 ข้อที่ว่า ... ผมยืนยันได้ว่า ธุรกิจของผมอยู่ได้ โชคดีๆหน่อย คือ 1 ในนั้นเป็นเศรษฐี ซื้อเยอะหน่อย เดือนนั้นปิดร้านทั้งเดือนก็ยังอยู่ได้ สรุป ... อย่าไปมองว่าร้านเค้าจะคึกคัก ลูกค้าเยอะหรือไม่อย่างไร ดูไม่ออกหรอกครับ อย่าไปดูถูกเค้าเลย มันไม่เป็นธรรมกับร้านเค้า ธุรกิจแต่ละอย่างมันก็มีวิธีของเค้าอยู่ครับ จากคุณ : ตัวตุ้ย - [ 8 ม.ค. 51 13:14:11 ]

ความคิดเห็นที่ 90 แว่นเนี่ย ตัวกรอบแว่น ขาแว่น มันมีเกรดของมัน แต่จำไม่ได้ว่าวัดยังไง เพื่อน  2 คนตัดแว่นจากท๊อปเจริญ น่าจะเป็นรุ่นเดียวกันแต่ความโก่งของขาแว่นมันไม่เท่ากัน ลองเอามาดัดๆ ดู อันนึงงอได้รูป อีกอันทำท่าเหมือจะหัก เลยต้องเอาไปเปลี่ยน ส่วนกำไรจากห้างพวกนี้มาจากไหนเหรอครับ ส่วนใหญ่เค้าก็จะมีพนักงานส่งไปตามบริษัทใหญ่ๆ อย่างออฟฟิศที่ผมทำงานก็ส่งมา 2 ครั้งในรอบ 6 เดือน มาวัดสายตาฟรี แต่ถ้าใครสายตาสั้นเค้าก็มีบริการตัดแว่นเลย มีใบสั่งซื้อสินค้า ใบจอง พอครบกำหนดก็ไปรับแว่น ส่วนใหญ่รายได้มาจากทางนี้ครับ เพราะบริษัทๆ หนึ่งสั่งกันทีหลายร้อยอัน ไม่ใช่หลักหน่วยหรือหลักสิบ แล้วนำต้นทุนมาหักแล้วคิดแต่กำไร x จำนวนคนสั่ง นั่นน่ะครับ ส่วนของสาขาต่างจังหวัด ร้านพวกนี้จะได้จากชาวต่างชาติเป็นหลัีก เพราะคนไทยส่วนใหญ่แว่นตัดกันทีเดียวแล้วเก็บเลย แต่คนต่างชาติบางคนมีแว่น 3-4 อัน เอาไว้ใส่ต่างสถานที่ เค้าก็สั่งตัด แล้วก็ไปตามบริษัทต่างๆ ด้วยไงครับ ส่วนฟอกเงิน.. ไม่ออกความเห็นล่ะกัน เพราะไม่รู้ว่ามีหรือไม่มี จากคุณ : อาจจะแก่ - [ 8 ม.ค. 51 13:20:00 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ตามมาอ่าน จากคุณ : cookiecompany - [ 8 ม.ค. 51 13:28:49 ]

ความคิดเห็นที่ 92 --* เอ่อ กระทู้แนะนำ ... จนได้ น๊อ... ส่วนตัวแล้ว ผมไม่ได้ตัดที่ ท๊อปเจริญ อ่ะครับ ไปตัดที่ บิ๊วตี้ฟูล  เพราะรู้สึกว่า บิวตี้ฟูล บริการดีกว่าแยะ .. จากคุณ : Nanoดะ - [ 8 ม.ค. 51 13:32:08 ]

ความคิดเห็นที่ 93 รายได้เค้าคงไม่ค่อยดีหรอกครับ ดูจากปริมาณผ้าที่เอามาตัดกะโปรงพนักงาน จากคุณ : . - [ 8 ม.ค. 51 13:57:42 A:222.123.8.68 X: TicketID:071691 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ไม่รู้ครับ รู้แต่ว่า สาวๆ พนักงานที่จะมาทำงานเนี่ยเคาคัดหน้าตา - สัดส่วนด้วยไหมอ่ะครับ เจอแต่ละคน สูงยาว - เข่าดี น่ามองมากๆเลยครับ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : parnitap - [ 8 ม.ค. 51 14:07:39 ]

ความคิดเห็นที่ 95 เอางี้ๆ เราจะเป็นผู้เสียสละ ไปสมัครเป็นพนักงานแล้วสืบให่เองนะ อิอิ จากคุณ : ม่ายบอก..เด๋วรู้ - [ 8 ม.ค. 51 14:45:06 A:161.200.255.162 X: ]

ความคิดเห็นที่ 96 น่าจะตามคห.77นะครับ เท่าที่ได้ยินมาจะแนวนั้นมากกว่า พอเป็นกระทู้แนะนำ ก็เตรียมห่วงยาง เรือชูชีพ ชุดว่ายน้ำให้พร้อม ออกทะเลโลด จากคุณ : ดีไม่ห่างเหิน - [ 8 ม.ค. 51 14:52:48 ]

ความคิดเห็นที่ 97 จริงค่ะ มักเห็นพนักงานใส่ชุดยูนิฟอร์มสีขาว นั่งคุยกันอยู่ในร้าน แถมบางทีก็เปิดเพลงดังเผื่อแผ่คนนอกร้านด้วย ลูกค้าก็ไม่มี ร้านไม่เจ๊งด้วย จากคุณ : เสียงจากบ้านนา - [ 8 ม.ค. 51 15:17:04 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ผมชอบพนักงานร้านนี้นะ  บางคนน่ารักดี เหมือนหญิงในเครื่องแบบ จากคุณ : harvardวิทยาคม - [ 8 ม.ค. 51 15:17:13 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ที่พันธทิพย์  ร้าน CD ทั้งหมด มี เจ้าใหญ่เพียง 2 เจ้า  ที่คลองถม เครื่องใช้ไฟฟ้า นาฬิกา  แว่นตา  ทั้งหมด  ร้านย่อย รับจาก ร้าน ซาปัว ยี่ปั่ว  เจ้าใหญ่จริงๆมี แค่ 2-3 เจ้า  แล้วก็ อยู่ตระกูลเดียวกันหมด จากคุณ : แดงชายน้อย - [ 8 ม.ค. 51 15:24:29 ]

ความคิดเห็นที่ 100 เคยได้ยินมาเหมือนกันครับว่าร้านแว่นตากับห้างทองเป็นแหล่งฟอกเงิน แต่ก็ไม่รู้หรอกครับว่าจริงหรือไม่ ตอนตัดแว่นอันแรกๆ ก็ตัดกับร้านเก่าแก่ในจังหวัด ทำดี ราคาถูก บริการดีกว่า ร้านพวกนี้เยอะ แต่อันปัจจุบัน ตัดกับกรุงไทย (ขออนุญาตเอ่ยชื่อยี่ห้อ) เจ้านี้เขาส่งพนักงานออกตามหน่วยราชการต่างๆ ก็หลอกล่อให้ตัดกับได้เกือบทั้งอบต.ล่ะ บางคนสองอันสามอันยังมี อันละไม่ต่ำกว่าสองสามพันทั้งนั้น (ของผมเกือบสี่พัน) มีทั้งระบบจ่ายเงินสด เงินผ่อน ผมจ่ายผ่อนเพราะตอนนั้นเงินช็อต (แต่อยากตัด เพราะแว่นอันเก่าแตกพอดี) ผมส่งเงินไปจ่ายที่นครสวรรค์ก็ยังคิดว่า พวกนี้มาไกลแฮะ มาหาลูกค้าอะไรถึงนี่ แต่ก็คงเหมือนๆ กับพวกหาบัตรเครดิต เพราะที่เข้ามาที่ทำงานผมนี่ มาจากเกือบจะทั่วประเทศไทย เดิสายหาลูกค้ากัน แต่แว่นของเจ้าท๊อปเจริญ กับบิวตี้ฟูลนี่ผมไม่เคยเห็นนะ ที่เคยตัดที่มหาวิทยาลัย ก็ไม่ใช่จะว่าไปก็สงสัยเหมือนกัน เพราะเดินผ่านไปดูสาวแถวร้านแว่นบ่อยๆ จากคุณ : รพินทร์ - [ 8 ม.ค. 51 15:37:46 ]

ความคิดเห็นที่ 101 ใส่แว่นมาเกือบ 20 ปี เคยตัดเจ้านี้อยู่บ่อยครั้ง เพิ่งจะสังเกตุ ว่ามันไม่ค่อยมีคนจริง ๆ ด้วย -*- จากคุณ : Killing Me Softly - [ 8 ม.ค. 51 15:44:10 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ผมตัดแว่นที่สุขุมวิท 71 ครับ เหตุผลคือลูกสาวเจ้าของร้านน่ารัก....อิอิ เปลี่ยนแว่นทุกครึ่งปีซื้อคอนเทค น้ำยาเกือบทุกเดือนนน ยอมมม อิอิ ขออนุญาตไม่บอกชื่อร้านนะครับ หวง จากคุณ : หมาหนังสือ - [ 8 ม.ค. 51 15:49:17 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ผมจะบอกให้ครับ...ว่ามีรายได้มาจากไหน ของท็อปนี่แหล่ะครับ...เดี่ยวนี้พนักงานเขาdirect saleกันหมดแล้ว ที่ทำงานผมจะเจอน้องๆพนักงานปีละครั้ง...เปลี่ยนแว่นใหม่ไหมครับ ใช่นานหรือยังค่ะพี หนูมีรุ่นใหม่มาให้ดู เลนส์รุ่นสุดยอดเลยถนอมสายตามาใหม่คะ... ขายแว่นสายตาหนึ่งอันราคา 2000 up ผมเคยดูตามตลาดนัดแบบรุ่นเหมือนกันแป๊ะเป็นแว่นสายตาด้วยเขาขายกันราคา199บาท ผมคิดต้นทุนการผลิตจริงคงไม่ถึง 100 บาทด้วยซ้ำกำไรไม่รู้กี่เท่ากี่เปอร์เซ็น  คนผลิตคนขายก็มีไม่กี่เจ้า ทุกครั้งที่มีการขายเขาไม่เคยให้ใบเสร็จรับเงินเลย ... ตรงนี้คือสิ่งผิดปรกติ จากคุณ : วิญญาณเทวดา - [ 8 ม.ค. 51 15:57:08 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ความลึกลับที่ดั้งจมูก จากคุณ : กกกขขข - [ 8 ม.ค. 51 16:19:53 A:58.8.144.206 X: TicketID:137142 ]

ความคิดเห็นที่ 105 คอนโดเราอยู่ตรงข้าม โรงเรียนสอนการแว่นตา (อยู่ในซอย แจ้งวัฒนะ 38 หรือซอย สากลแลนด์)   มีพนักงานมาเข้าคอร์สทุกเดือน คอร์สนึงเป็นร้อยคนได้   ใส่ชุดยูนิฟอร์มสีขาว มีแถบลายๆสีดำอ่ะค่ะ (บิวตี้ฟูลมั้ง) สงสัยอยู่ว่าเก็บค่าเข้าคอร์สรึเปล่า เท่าไหร่ สถานที่ก็กว้างดีค่ะ (พอดีไม่ได้ถ่ายรูปไว้) ก็สงสัยเหมือนจขกท. ตั้งแต่เห็นว่ามีโรงเรียนมาเปิดที่นี่ ทำไมพนักงานขายเยอะยังงี้...กี่รุ่นแล้วก็ไม่รู้ ยังคุยกับเพื่อนเลยว่า ร้านมันเฟื่องฟูขนาดนั้นเลยหรือ   เปิดสาขา รับพนง.เป็นว่าเล่น... พอดีไม่มีวิญญาณนักสืบมาเข้าสิง ขอไม่ลงไปสืบนะคะ   อีกอย่าง ไม่อยากให้เข้าข่ายทำลายคนอื่นอ่ะ ไว้ถ่ายรูปโรงเรียนแล้วจะมาโพสทีหล้งนะคะ จากคุณ : QWERTY (Beau VIBE) - [ 8 ม.ค. 51 16:50:23 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ต้นทุนราคาเลนส์ ที่ใช้กันในร้านตัดแว่น เลนส์ธรรมดา ต้นทุนอยู่ที่ 5 บาท ที่ร้านขาย300-500 บาท เลนส์มัลติโคท ต้นทุนอยู่ที่ สิบกว่าบาท ที่ร้านขายกัน700-900 บาท ส่วนเลนส์ เกรดดีๆ ชนิดพิเศษ แบบบาง แบบเหนียว เคลือบสารชนิดพิเศษ กันยูวี ต้นทุนจะอยู่ที่หลักร้อย ถึงหลักพัน จากคุณ : make ends meet ขอตอบคุณ make ends meet ผมว่าไม่มีทางเป็นไปได้เลยครับที่ทุน 5 บาท จะมาขาย 300-500 ได้ ทุน 10 กว่าบาท จะมาขาย 700-900 ได้ มันไม่ make sense ครับ คุณน่าจะได้ขอมูลมาผิด หรือว่าคิดเอาเองมากกว่านะครับผมว่า จากคุณ : GimMick - [ 8 ม.ค. 51 17:22:17 ]

ความคิดเห็นที่ 107 87 ตามนั้นครับ  ...มีญาติทำงานเป็นพนักงานขายที่ร้านคนหนึ่งครับ ส่วนใหญ่จะออกหาลูกค้าตามร้าน รึหมู่บ้านครับ เงินเดือนก็ได้มาจากส่วนนี้ซ่ะเยอะ เพราะเป็นระบบเงินผ่อน.. ....ฟอกงงฟอกเงินไม่รู้ครับ.. จากคุณ : สายลมอิสาน - [ 8 ม.ค. 51 17:22:27 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ซื้อกรอบแว่น หากไม่บ้ายี่ห้อ หรือแบรนด์เนม ผมแนะนำให้ซื้อของคุณภาพดี โดยไม่คำนึงถึงยี่ห้อครับ แล้วจะได้ของดีราคายุติธรรม สมเหตุสมผล ส่วนคนที่ชอบแบรนด์เนม ถ้าไม่แน่จริง ไม่รู้จริง มีโอกาสซื้อถูกของปลอมสูงมาก ผมหละสงสัยจริงๆเลย แค่เส้นลวดไม่กี่เส้น ดัดเป็นรูปแว่นแล้ว ราคาทำไมเป็นพัน ถามว่าต้องใช้แว่นมั้ย ก็คงต้องใช้ ไม่งั้นไม่เห็น หาร้านแว่นในพื้นที่ที่ตนเองอยู่อาศัย หรือใกล้ที่ทำงานดีกว่า มีปัญหาจะได้ไปใช้บริการหลังการขายได้ง่ายครับ ประเภทเพื่อนแนะนำว่าดี แถวบ้านเค้า แต่ไกลเรามาก ก็คงไม่ต้องดิ้นรนขนาดนั้นมั้งครับ ยกเว้นทำที่ไหนไม่เคยได้ดี ใส่ไม่เคยสบายตาเลย อาจจะต้องยอมไปไกลหน่อย หากร้านนั้นฝีมือจริงๆ ผมว่านะ ในแต่ละพื้นที่มันต้องมีบ้างแหละ ไอ้ร้านที่เปิดมานานแล้ว เจ้าของทำเอง ตรงนี้ผมเน้นครับ เพราะเจ้าของทำเอง เทียบกับ จ้างลูกน้องทำ ผมคิดว่าไม่เหมือนกันครับ การเอาใจใส่ลูกค้า ไม่เหมือนกัน แต่ละร้านส่วนใหญ่ ก็มีสินค้าในหลายระดับราคาครับ จากคุณ : GimMick - [ 8 ม.ค. 51 17:36:22 ]

ความคิดเห็นที่ 109 เท่าที่ผมมองนะ ผมมองว่าธุรกิจแว่นเป็นธุรกิจที่ดี ผมไม่ได้มองที่ว่ากำไรมากน้อยเท่าไหร่นะครับ ผมมองที่กลุ่มลูกค้ามากกว่า กลุ่มลูกค้าที่ต้องใช้แว่นครับ คนที่อายุถึง 40 แล้วจะรู้ครับว่า ยังไงก็ต้องใช้แว่น ไม่งั้นอ่านหนังสือไม่ชัด ต่อให้ในชีวิตนี้ตั้งแต่เด็กไม่เคยใช้แว่น แต่พอายุประมาณ 40 ยังไงก็ต้องใช้ ถ้ายังอยากจะอ่านหนังสือ แบบว่าหนีไม่ออกครับ 55555 ผมก็เลยมองว่า มันเป็นสินค้าที่ขายได้กับคนทุกคนครับ ไม่เหมือนสินค้าอื่นที่ขายได้เฉพาะบางคน ธุรกิจที่มีลูกค้ามากมายอย่างนี้ กำไรจะบ้าเลือดได้อย่างไรครับ ผมว่าราคาที่สุดมันต้องวิ่งไปสู่จุดสมดุลย์ ตามหลัก demand และ supply แต่ธุรกิจนี้เท่าที่ผมมอง มันมีข้อจำกัดตัวฉกาจที่คอยดักอยู่คือ ต้องวัดสายตาเป็น ไม่งั้นก็ขายของไม่ได้ เป็นอย่างเดียวไม่ได้ด้วย ต้องนำไปใส่ได้ดีด้วย ถ้าทำไม่ดีลูกค้าบอกกันปากต่อปาก ซักพักก็เจ๊ง ยกเว้นขายแว่นอย่างเดียว แล้วให้ไปเปลี่ยนเลนส์ที่อื่น   ยิ่งในอนาคตอันใกล้นี้คนที่จะมีสิทธิ์เปิดร้านแว่นได้ ไม่สิ คงต้องเรียกว่าคลีนิคสายตามั้ง 55555 ต้องจบ Doctor of optometry เท่านั้น   ถึงวันนั้นผู้บริโภคในไทยจะได้รับการคุ้มครองซักที จะได้มีมาตราฐานซักที มิฉนั้นผู้บริโภคอย่างเราจะไม่ทราบเลยว่า ร้านไหนมีมาตราฐาน  คำว่ามีมาตราฐาน มิใช่ต้องแพงเสมอไปนะครับ หากเกิดกันทัน ขอยกตัวอย่างคือ หมอฟันครับ  เมื่อก่อน หมอฟัน ก็เป็นช่างทำฟัน เหมือนช่างแว่นนี้แหละครับ พอมีคณะทันตแพทย์ เมื่อจบมา หน้าร้านเขาก็เขียนว่า ทันตแพทย์ปริญญา  ส่วนร้านทำฟันที่มีอยู่เดิม ก็ถูกให้ใช้ ชื่อว่า ทันตแพทย์ชั้น 2 ครับ  ทีนี้ก็แล้วแต่เราแล้วว่า จะทำฟันกับร้านไหนครับ จากคุณ : GimMick - [ 8 ม.ค. 51 18:06:25 ]

ความคิดเห็นที่ 110 ผมสั่งแว่นตากับร้านนี้ครับ http://www.weloveshopping.com/shop/s_product.php?groupproduct=214628&shopid=28970 ซื้อมา1600 บาท เข้าไปดูในร้านในตัวเมืองแบบคล้ายๆกัน ราคาอันตั้ง2500 ผมว่ากำไรเขาเยอะจิงๆ (ไม่ได้โฆษณานะครับ) จากคุณ : discover_darkside - [ 8 ม.ค. 51 18:08:38 ]

ความคิดเห็นที่ 111 http://www.topcharoen.co.th/web/about.html ผมว่าในเวบเค้าก็มีประวัตินะครับ มีเล่าที่มาที่ไปอยู่นะ ไปว่าเค้าเกินไปป่าวครับนั่น (เอ หรือมันเพิ่งมามีประวัติเอาตอนมีคนตั้งกระทู้นี้อ่ะ) จากคุณ : พาดกลอน - [ 8 ม.ค. 51 18:28:28 ]

ความคิดเห็นที่ 112 เออแฮะ about เค้า ไม่ได้ใหห้ความกระจ่างใดๆ ครับ แฮะๆ จากคุณ : พาดกลอน - [ 8 ม.ค. 51 18:29:57 ]

ความคิดเห็นที่ 113 เราไปตัดที่นี่สองสามครั้งอะนะ ก็เรื่อยๆ  เฉยๆ แต่บริการหลังการขายแหล่มจริงๆนะ แบบ  หลังๆแว่นน็อตหลุด  ก็ไม่ได้ซื้อจากที่ร้าน  แต่ก็เปลี่ยนให้ แต่แบบ  ตัดที่นี่สามสี่พัน ล่าสุดไปตัดแถวท่าพระจันทร์  พันนิดๆเองมั้ง  เลนส์โค้ด  ตัดแสง  บลาๆ จากคุณ : กางเกงเลสีน้ำเงิน - [ 8 ม.ค. 51 18:39:22 ]

ความคิดเห็นที่ 114 มีญาติทำร้านแว่นที่ต่างจังหวัดครับ เมื่อสิบปีก่อน เคยฝากเค้าซื้อเลนส์  ยี่ห้อ H....Y.... ที่ดังๆ เป็นเลนส์พลาสติก มัลติโค้ด เค้าคิดราคาทุน คู่ละ 60 บาทครับ เลยซื้อมาสามคู่ ตอนนี้ต้นทุนจะเท่าไหร่ไม่ทราบเหมือนกันครับ สิบปีก่อนเท่านั้นหนะ ญาติจะเข้ามา กทม ทุกสองสามเดือน มาซื้อกรอบจากร้านส่งที่คลองถม เป็นร้านตึกแถว ใครผ่านไปแถวนั้นลองมองๆ หาดู  ผมเคยไปด้วย กรอบมีตั้งแต่ราคา 50 บาท จนถึงแพงสุดก็ร้อยกว่าบาท ทั้งแบบขาสปริง มีตัวคลิปกันแดดให้ด้วย ตอนนั้นรู้สึกจะอันละ 120 บาทครับ ญาติซื้อไปเยอะๆ แล้วก็ไปตั้งราคากรอบหกเจ็ดร้อยมั่ง พันสองพันมั่ง แล้วแต่หน้าตาแว่น  ทั้งที่ราคาทุนพอๆ กัน  เดือนนึงขายได้ซักเจ็ดแปดอันก็พออยู่ได้แล้ว กรอบยี่ห้อแพงๆ เค้าก็มีครับ ไม่เคยถามว่ารับมาจากไหน ทุนเท่าไหร่เหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่กรอบคลองถมนี่แหละ   ซึ่งผมว่ามันก็ใช้ดีนะครับ ผมใช้มาห้าหกปี เปลี่ยนเลนส์ไปหลายครั้งแล้ว ก็ยังใช้ได้อยู่ แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 51 19:08:27 จากคุณ : ประกอบ - [ 8 ม.ค. 51 19:07:27 ]

ความคิดเห็นที่ 115 พนักงานแต่ละสาขานี่คัดมาแล้วทั้งนั้น หุหุ จากคุณ : oro - [ 8 ม.ค. 51 19:35:50 ]

ความคิดเห็นที่ 116 แต่เราว่าคอนแทกเลนส์ ดูน่า ใช้ดีนะ ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย คงแล้วแต่คนมั้ง จากคุณ : ลูกไม้ในสวนป่า - [ 8 ม.ค. 51 20:01:23 ]

ความคิดเห็นที่ 117 ผมชอบดูก้นพนักงานครับ จากคุณ : หัวหน้าห้อง ม.3/2 รุ่น34 - [ 8 ม.ค. 51 20:17:59 ]

ความคิดเห็นที่ 118 เคยได้ยินนาน(เกิน 7 ปี) แล้วว่า ร้านขายแว่นกะร้านขายยา กำไรกว่า 400% แล้วเคยคุยกะเจ้าของร้านแว่น เมื่อปีที่แล้วเอง เค้ามีร้านแว่นที่หัวหิน มีหลายสาขาเลยค่ะ แกบอกว่า แต่ก่อนอ่ะ ร้านแว่นจะกำไรดีมากอย่างที่เรารู้ แต่ตอนนี้ ตั้งแต่แว่นท๊อปเจริญ กะบิวตี้ฟูลมาเปิด เอาแว่นจีนแดง มาตัดราคา ทำให้ร้านแว่นได้รับผลกระทบมากๆ เราว่าราคาทุนต้องถูกมากๆแน่ ก็ของจีนอ่ะนะ แถมซื้อล็อตใหญ่ด้วย แล้วที่เค้าต้องมี 2 แบรนด์ ทำไมไม่ท็อปเจริญ อย่างเดียว? การแตกไลน์สินค้า เป็นหลักการตลาดพื้นฐานเลย เพื่อให้มีการแข่งขัน หลักการนี้ ทำให้คุณอภิรักษ์ สมัยตอนทำอยู่ที่ เลย์ ประสบความสำเร็จจนเลื่อนขั้น และโดนซื้อตัว เพราะหลักการนี้ หลักการเดียวเลย ตาม คห 30 รบกวนดูที่นี่เลยค่า http://www.tripadvisor.com/Search?returnTo=__2F__Travel__2D__g293920__2D__c10589__2F__Phuket%253AThailand__2E__html&geo=293920&q=optical+phuket ตามสถานที่ท่องเที่ยว จะมีร้านแว่นเยอะมากๆ เพราะเมืองนอก แว่นตาแพงมากๆ 4-5 หมื่นได้มั้ง แล้วก่อนเค้าจะมา เค้าเสิรชหาก่อนเลยค่ะ ไม่แปลกใจเลย ที่สถานที่ท่องเที่ยว จึงมีร้านแว่นเยอะมากๆ แม้จะต้องจ่ายค่าเช่าเดือนเป็นแสน รับทัวร์กรุ๊ปนึงก็กำไรเยอะแล้ว ฝรั่งที่เป็นลูกค้าเรานะ มาเมืองไทยทีนึง เค้าจะ ตัดแว่นตา ทำฟัน และตัดสูท ทุกปี ถูกกว่าที่โน่นเยอะ ข้อสังเกตุของบริษัท ฟอกเงินนะ - เปิดออฟฟิศ หรือร้านใหญ่ๆ - อยู่เงียบๆ ไม่โฆษณา ไม่มีโปรโมชั่น - เค้าจะไม่มาเซฟต้นทุนอะไรมาก - ปิดกิจการแล้วเปลี่ยนชื่อ ในลักษณะที่ไม่ใช่การหนีหนี้ จากข้อสังเกตุ และ คห ด้านบน อย่าไปว่าเค้าฟอกเงินเลย เราว่าน่าจะชื่นชมคนทำงาน ทำธุรกิจประสบความสำเร็จนะ แล้วเค้าก็เป็นคนไทย บริษัทไทยๆ ด้วย ไม่ใช่แฟรนไชน์ต่างชาติ หรือใช้เงินทุนต่างชาติ จากคุณ : bestinside - [ 8 ม.ค. 51 20:59:41 A:117.47.215.44 X: TicketID:126625 ]

ความคิดเห็นที่ 119 สมัยตอนเด็กๆ ตอนตายายจะตัดแว่น ส่วนใหญ่เค้าจะไปตัดกะหมอตา จักษุแพทย์อ่ะค่ะ เดี๋ยวนี้ เค้าไปตัดร้านแว่นพวกนี้กันหมดแล้ว สงสารหมอจัง ขาดรายได้เยอะเลย จากคุณ : bestinside - [ 8 ม.ค. 51 21:07:51 A:117.47.215.101 X: TicketID:126625 ]

ความคิดเห็นที่ 120 มันก็แค่การทำธุรกิจแบบนึงครับ  อย่าไปว่าเขาฟอกเงินเลย ผมเคยเฉียดธุรกิจแบบนี้เหมือนกัน จะแย้มให้ฟัง เปิดร้านนึง ไม่นับค่าเช่า ค่าพนักงาน เอาเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ สินค้า เครื่องมืออุปกรณ์ น่าจะประมาณ ล้านเศษ กำไรมากไหม  มากน้อยเป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องธุรกิจ กำไร ต้องคุ้มกับค่าใช้จ่าย ถึงจะอยู่ได้ ข้อสำคัญคือ ร้านพวกนี้ เจ้าของจะทำเอง ลงทุนเอง ไม่ให้แฟรนไซส์ เหตุเพราะ ระบบดีลเลอร์ จะทำให้โครงสร้างราคาเสีย ทุนร้อย ต้องขายสองพัน ถ้าผ่านดีลเลอร์ วันนึงมันก็ต้องมีคนขายสามร้อยจนได้ ถ้าคิดว่าร้านท้องถิ่น มีคุณภาพกว่าร้านแบบหลายสาขา ก็เป็นเรื่องดีสำหรับลูกค้า มีทางเลือกครับ ตามสะดวก จากคุณ : บาเยงนอง - [ 8 ม.ค. 51 22:09:19 ]

ความคิดเห็นที่ 121 เพราะสาวแว่นสึดยอดครับ เย้ย จากคุณ : แค่เนี้ยต้องให้บอก - [ 8 ม.ค. 51 22:17:32 ]

ความคิดเห็นที่ 122 อืม เคยแต่ถือถุงที่แถมมาเงินไม่มีซื้อ จากคุณ : อ่านเฉยเฉย - [ 8 ม.ค. 51 22:18:19 ]

ความคิดเห็นที่ 123 เราตัดแว่นที่บิวตี้ฟูลล์นะ...ขอบอกว่าบริการดีมากกกกกกกกกกกกกก ถึงจะแพงนะแต่การบริการของเค้านี่ดีนะคะ...บางทีแวะไปให้เช็คนู่นนิดนี่หน่อยก็เอาน้ำส้มมาให้กินทู้กที  บางที่เข้าไปเช็คไม่ถึง 3 นาทียังเอาน้ำมาให้กินอีก  55555555 มารยาทพนักงานขายอยู่ในขั้นเยี่ยมเลยค่ะ  ดูแลดีมาก  ประทับใจค่ะ จากคุณ : มาม่าต้มยำตอกไข่ใส่มะนาว - [ 8 ม.ค. 51 22:47:06 ]

ความคิดเห็นที่ 124 อ่านเพลินเลยแฮะ จากคุณ : drunk master - [ 8 ม.ค. 51 23:10:18 ]

ความคิดเห็นที่ 125 คุณGimmickครับ ถ้าเอาสิ่งที่รู้มาบอกแล้วคุณยังไม่เชื่อ เนื่องด้วยว่ามันดูไม่make senseสำหรับคุณ ทำไมคุณไม่ลองไปตีซี้กะเจ้าของร้านดูล่ะครับ บางร้านไปคุยดีๆเค้าก็บอกรายละเอียดพอสมควรเลยนะ (หรือเพราะปกติลูกค้าเข้าไม่บ่อยเลยเหงา?) อะไรที่เราไม่รู้ หรือดูเกินจริงสำหรับเรา มันไม่ได้หมายความว่ามันไม่มีจริงนี่ครับ ถ้าการศึกษาด้วยประสบการณ์(ของผู้อื่น)ไม่น่าเชื่อถือ (ดังที่พระพุทธเจ้าสอนว่า อย่าเชื่อเพราะถือตามกันมา อย่าเชื่อเพราะว่าเป็นผู้รู้ ให้ใช้ปัญญาไตร่ตรองดู) ก็ตั้งสมมติฐานแล้วทดสอบเอาเลยครับ ผมเชื่อว่าคุณจะได้ความเป็นจริง ในสิ่งที่เป็นจริงแน่นอนครับ แล้วคุณก็ตัดสินเอาจากปัญญาเลยว่ามันจริงไม่จริง (ปัญญา=ผมหมายว่า เข้าใจ,รู้แจ้งนะครับ ไม่ได้ประชดนะ) ปล.คนขายบางร้านสวยมากๆเลยจริงๆครับ แต่ที่คนจากอะไรหนอ จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 8 ม.ค. 51 23:55:41 ]

ความคิดเห็นที่ 126 ภาษาของ จขกท.นี่สุดteen จริงๆ...teen ต.เต่านะ ไม่ใช่ ท.ทหาร แบบว่า วัยรุ่นงงอ่ะ อ่านไม่รู้เรื่อง O_o" จากคุณ : กลับมาแล้วคนดี - [ 8 ม.ค. 51 23:57:35 ]

ความคิดเห็นที่ 127 เป็นไปได้ว่าเจ้าของร้านรวยมากจากสิ่งผิดกฎหมาย เปิดร้านเพื่อฟอกเงิน หุหุ ฟันธง!!!! จากคุณ : ป้าซื่อตรง - [ 9 ม.ค. 51 00:56:29 ]

ความคิดเห็นที่ 128 หลังจากอ่านกระทู้นี้แล้ว อยากไปสมัครเป็น พนักงานจังครับ ทั้งงานน้อย ทั้งสาวน่ารัก อิอิ^^ จากคุณ : totetote - [ 9 ม.ค. 51 01:56:56 ]

ความคิดเห็นที่ 129 เรียน ความคิดเห็นที่ 126 ไม่เข้าใจก็ไม่ต้องเข้ามาครับ ไม่ได้ บังคับนี่ครับ (มีพิมพ์ผิดบ้างแต่ผมเชื่อว่าผุ้ใหญ่ห้องนี้ อ่านแล้วเข้าใจ และปล่อยผ่านได้) จากคุณ : lazarn (lazarn) - [ 9 ม.ค. 51 02:38:28 ]

ความคิดเห็นที่ 130 อืม...  นึกว่าอะไรกัน กระทู้คนสายตาสั้นนี่เอง!!!  [- -"]!!! จากคุณ : ilovethisgames - [ 9 ม.ค. 51 05:16:01 ]

ความคิดเห็นที่ 131 มีเรื่องมาเล่าให้ฟังครับ เพื่อนผม  ไปตัดแว่นกับร้านนี่แหละ  หลายปีแล้ว พอดีมีญาติเป็นพนักงานหรือหุ้นส่วนนี่แหละ แล้วเขามีบัตรลดให้ 40 % (ถ้าจำไม่ผิด) ตอนไปตัด  ก็ยังไม่ได้แสดงบัตร ก็เลือกเอาชนิดที่ดีที่สุด  พอเสร็จแล้ว  ถึงเวลาจ่ายตังค์ ก็ยื่นบัตรลดให้ไปพร้อม เห็นเพื่อนบอกว่า  พนักงานกระฟัดกระเฟียดใหญ่เลย บอกว่าทำไมไม่เอามาแสดงก่อน แสดงว่า  สินค้าน่าจะมีสองระดับหรือเปล่า???? จากคุณ : ขุนไกรครับผม - [ 9 ม.ค. 51 09:19:01 ]

ความคิดเห็นที่ 132 เค้ารวยกับขายนาฬิกาครับ จากคุณ : PaND@_BIG - [ 9 ม.ค. 51 09:33:27 ]

ความคิดเห็นที่ 133 ราคาแว่นแพง ตัดแว่นไม่ดี พนักงานไม่ชำนาน ช่างไม่เก่ง แต่บริการหลังการขาย ผมให้ A+ ครับ ไม่ได้ซื้อแ่ว่นกับเขา เขายังรับซ่อมฟรีเลย.. อะไหล่ฟรีทุกอย่าง.. กำไรจากไหนหว่า.. เหอเหอ จากคุณ : บูจัง - [ 9 ม.ค. 51 09:40:32 ]

ความคิดเห็นที่ 134 แว่นอันแรกในชีวิตซื้อจากห้างแว่น โครตแพง แข็งแรงดีแต่รูปแบบไม่ค่อยโดนเพราะไม่ได้เลือกเอง แต่ปวดตา แว่นอันถัดมาไปตัดกับช่างตัดชื่อดังคนหนึ่ง แพง ไม่ทนทานเลนส์หลุดง่าย ปวดตา เลิกคบเลย แว่นอันถัดมาทำกับช่างอีกคน เหมือนอันที่สองทุกอย่างเลย เลิกคบ แว่นอันถัดมาซื้อจากร้านข้างทาง แว่นพร้อมเลนส์ 199 ก็งงว่าเฮ้ยราคานี้มีในโลกด้วยหรอด้วยหรอ ใส่แล้วดีทุกๆอย่าง หลังจากนั้นก็ฝากชีวิตไว้กับแว่น 199 ตลอด จะบุกป่าผ่าดงหักบิดงอยังไงก็ซื้อใหม่เลยไม่คิดมาก จากคุณ : Disorder - [ 9 ม.ค. 51 10:24:23 ]

ความคิดเห็นที่ 135 สรุป คือ..... 1.ฟอกเงิน 2.กำไรเยอะจริงๆๆ จากคุณ : พระจันทร์สีฟ้า - [ 9 ม.ค. 51 13:03:47 ]

ความคิดเห็นที่ 136 เรื่องอื่นไม่รู้ รู้เเต่ไปตัดครั้งเเรก แล้วโดนมันหลอกไป ห้าพัน.. สองวันลอกทั้งขา.. โง้ โง่.. จากคุณ : moutain black - [ 9 ม.ค. 51 13:17:36 ]

ความคิดเห็นที่ 137 อืม...ที่เมืองนครก็มีน่ะครับ วันๆเห็นแต่ สาวๆสวยๆ นั่งกันทำตาปริบๆทุกวันเลยครับ ที่สำคัญก็ไม่เคยเห็นลูกค้าเข้าร้านเลยนี่ครับ เอ่...แล้วเอากำไรมาจากที่ไหนกันหว่า...น่าสงสัยจังครับ.... จากคุณ : ร่า... (ไอ้ก้านยาว) - [ 9 ม.ค. 51 14:09:06 ]

ความคิดเห็นที่ 138 ขอยืนยันครับว่าเป็นธุรกิจถูกต้องไม่ใช่แหล่งฟอกเงินแน่นอน คำถามที่คาใจผมจะเฉลยให้เท่าที่รู้แล้วกัน พนักงานในร้านที่ดูเหมือนจะอยู่เฉยๆนั่นจริงครับ วันๆนั่งคุยนั่งเล่นกันสบายๆ มีลูกค้ามำตัดแว่นวันละ3-4ราย ขายแว่นกันแดดวันละตัว คอนแทควันละ10-20กล่องก็OKแล้วครับ งานค่อนข้างสบายจริงแหละ อยู่ในห้องแอร์ตลอด ไม่ต้องไปตากแดดตากลม ตัวพนักงานเมื่อก่อนจบม.6 ปวช. ปวส.ก็มี แต่เดี่ยวนี้รับแต่จบ ป.ตรีนะครับ มือใหม่เข้ามาทำงาน ก็มีการฝึกอบรมและทดสอบเลื่อนขั้นด้วย ถ้าไปเจอพนักงานที่ไม่ใช่ชุดขาวละก็ นั่นแหละ พวกเข้าใหม่ยังไม่ผ่านโปรครับ พอมีประสบการณ์ มีความรู้ความชำนาญ ผ่านการทดสอบเลื่อนขั้นได้ ก็จะมีการเลื่อนตำแหน่งไปเป็น พนักงานขาย พนักงานขายตรวจวัดสายตาได้ทำแว่นได้ ผู้ช่วยผู้จัดการ และผู้จัดการร้าน จริงๆมีช่างทำแว่นตาโดยเฉพาะด้วยนะครับ โดยมากจะอยู่หลังร้าน แต่ส่วนมากชอบมาคุยกันหน้าร้าน ก็มันเหงาน่ะ คอยทำเคสแว่นยากๆ แต่ช่างไม่ได้มีทุกร้านนะครับ ตอนนี้จะคอยประจำอยู่ร้านใหญ่ๆ เป็นฮับคอยทำแว่นให้ร้านในเขตนั้นๆอีกที ดังนั้นเรื่องมาตรฐานการทำแว่นตาก็สบายใจได้ ทีนี้ขอถามมั่งครับ คนธรรมดาไม่มีเส้นมีสาย ฐานะก็ไม่ค่อยดี เรียนสถาบันไม่ดัง เกรดก็ไม่สวย ประสบการณ์ไม่มี อยากจะฝันถึงงานดีๆ จะหาได้ที่ไหนหนอ อยากทำbankเหรอฝันไปเหอะ เริ่มต้นก็ต้องมาเป็นพนักงานขายนี่แหละ ที่มีโอกาสเปิดให้มากที่สุด จะไปอยู่ไหน ขายตรง(ที่ขายสินค้าจริงๆ)หรือประกันสารพัดอย่าง ไม่ต้องมีทุนก็จริงอยู่ แต่ค่าเดินทางต้องจ่ายเองนะครับรอดยากในระยะแรกๆที่ยังไม่เก่งงานขาย หรือไปเป็นพนักงานขายตามห้างร้านต่างๆดี อย่าง7-11ได้เท่าไรนะ ช.ม.ละ20มั้งครับไม่แน่ใจแต่น้อยมากๆ อย่างตามห้างเงินเดือนก็ไม่ได้มากเท่าไรหรอก แต่งตัวแต่งหน้าได้สวยสดใสก็จริงแต่ต้องยืนขาแข็งทั้งวันห้ามนั่งด้วย วันหยุดก็เลือกไม่ได้มีเวรมีคิวตามกำหนด หยุดติดต่อกันหลายวันก็ไม่ได้(พนักงานขายระดับล่างนะครับ) แต่ที่ท็อป เงินเดือนเริ่มต้นก้ใกล้หมื่นอยู่+คอมอีก ถ้าขายได้ตามstepร้าน นั่งๆนอนๆ ขายกันตามคิวไม่กดดันมาก สุขภาพจิตดีกว่า ไม่ต้องตากแดดหน้าดำ ไม่ต้องกระเสือกกระสนไปทำงานคนละมุมเมือง (บริษัทจะเลือกร้านที่อยู่ใกลที่พักให้ทำงานเสมอ) วันหยุดก็เลือกได้ ตกลงกันเองกับเพื่อนพนักงานในร้านได้เลย หยุดติดต่อกันก็ได้7วันสูงสุดมั้ง มีสวัสดิการให้คนโสดพักที่ร้านได้ด้วยแถม ราคาถูกมากๆ โอกาสก้าวหน้าในอาชีพก็มีชัดเจนเป็นStep ถ้าเป็นผู้จัดการร้านก็สามารถก้าวขึ้นไปทำงานในระดับบริหาร เป็นผู้จัดการเขตได้ด้วยนะครับ ผู้จัดการร้านที่ผมรู้จักหลายคนรายได้รวมประมาณ23000-25000ขึ้นกันทั้งนั้น (สาวๆสวยๆโสดๆด้วยละ อิอิ)มีระดับ40000-60000ก็มีอยู่หลายร้านนะครับ รายได้เรทนี้พออยู่ได้ไหมครับ มีรางวัลตามเป้าพาเที่ยวต่างประเทศด้วยนะ จีน มาเลย์ เขมร ๆลๆ ส่วนอัตราการturn overของพนักงานก็ธรรมดาครับ เมื่อมีคนมากอัตราการturn overของพนักงาน ก็มีมากเป็นธรรมดา แต่ส่วนมากจะออกในระดับไม่ผ่านโปร กันระดับพนักงานขายเป็นส่วนมาก สูงกว่านั้นออกยากมากครับ เพราะงานลงตัวดีเชี่ยวชาญแล้ว อยู่สบายแล้ว นอกจาก ไปทำงานเอง หรือโดนซื้อตัว(จากบริษัทอื่นนะครับไม่ใช่เสี่ย) หรือพวกทุจริตโดนไล่ออกก็มีนะจ๊ะ เดี่ยวมาว่ากันตรงประเด็นอื่นๆต่อนะครับ จากคุณ : kane - [ 9 ม.ค. 51 14:23:07 A:58.8.117.108 X: TicketID:165050 ]

ความคิดเห็นที่ 139 ^ ^ มีลูกค้ามำตัดแว่นวันละ3-4ราย ขายแว่นกันแดดวันละตัว คอนแทควันละ10-20กล่องก็OKแล้วครับ หยุดติดต่อกันก็ได้7วันสูงสุดมั้ง มีสวัสดิการให้คนโสดพักที่ร้านได้ด้วยแถม ราคาถูกมากๆ โอกาสก้าวหน้าในอาชีพก็มีชัดเจนเป็นStep ถ้าเป็นผู้จัดการร้านก็สามารถก้าวขึ้นไปทำงานในระดับบริหาร เป็นผู้จัดการเขตได้ด้วยนะครับ ผู้จัดการร้านที่ผมรู้จักหลายคนรายได้รวมประมาณ23000-25000ขึ้นกันทั้งนั้น (สาวๆสวยๆโสดๆด้วยละ อิอิ)มีระดับ40000-60000ก็มีอยู่หลายร้านนะครับ รายได้เรทนี้พออยู่ได้ไหมครับ มีรางวัลตามเป้าพาเที่ยวต่างประเทศด้วยนะ จีน มาเลย์ เขมร ๆลๆ **กำไรมันเยอะขนาด ให้ benefit พนักงานได้แบบนี้เลยเหรอ จากคุณ : Nisapus - [ 9 ม.ค. 51 15:24:12 ]

ความคิดเห็นที่ 140 นั่งอ่านเงียบๆมาตั้งนาน เจอคคห.138 เข้าไป ทนเงียบไม่ไหวแล้วครับ ขนาดระดับผู้จัดการร้าน ยัง 20,000.- up ถ้าระดับผู้จัดการเขตจะขนาดใหนเนี่ย?? เรียนวิศวะมาแทบล้มประดาตาย ทำงานได้วันละ 600.- รู้แบบนี้เข้าไป รู้สึกตัวเองเขางอกๆยังไงไม่รู้ --a Hm...ความรู้ทั่วไปเราก็พอมี ประสบการณ์ทำงานก็พอสมควร แถมใส่แว่น+รู้เรื่องสายตาขั้นพื้นฐานอยู่แล้ว... ไปสมัครเป็นผู้จัดการร้านแว่น TOP...  ดีกว่า ^^" จากคุณ : ไม่อยากเป็นแล้ว (ลูกจ้างดีเด่น) - [ 9 ม.ค. 51 15:51:06 ]

ความคิดเห็นที่ 141 รอพนักงานมาตอบบ้างน่าจะดีนะครับ เพื่อนๆคนไหนเป็นพนักงานร้านแว่น เปิดเผยตัวหน่อย จากคุณ : poohpisces - [ 9 ม.ค. 51 16:23:07 ]

ความคิดเห็นที่ 142 เรียน ความคิดเห็นที่ 138 มีลูกค้ามำตัดแว่นวันละ3-4ราย ขายแว่นกันแดดวันละตัว คอนแทควันละ10-20กล่องก็OKแล้วครับ บอกหน่อยครับ สาขา ไหน เอาภูธร นะ อย่าเอาตัวเมือง แว่นกันแดด ผม งง มีคน นิยมซื้ออันละพันสองพันไหม ผมเห็นซื้อ ในห้าง 99-199กรอบสวย อย่างสวยเลย  มันก็กัน UV ได้ (ไม่ปวดตา) ไปเดินชายทะเล หรือ ขับขี่รถ ก็ สบายๆ แว่น(กันแดด) ร้านนั้นอันละเท่าไหร่ หว่า วันละ ตัว ? อยากรู้จริงๆ สาขาไหน เพราะที่ เห็นๆ กัน มันตรงข้าม กับที่ คุณ พูด มากเลยครับ (ไม่ใช่แค่คนซื้อ นะ คนเข้าร้าน ก็ยังไม่เห็น) โดยความเคารพ ผมไม่ได้ดูหมิ่นคุณแต่ประการใด แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 51 16:40:12 จากคุณ : lazarn (lazarn) - [ 9 ม.ค. 51 16:38:35 ]

ความคิดเห็นที่ 143 ผมก็อ่านๆมา ไม่เห็นภาษาของ จขกท จะเข้าใจยากตรงไหนเลยครับ คุณกลับมาแล้วคนดี อยู่ดีๆจะเอาทีน (ไม่ใช่ตัว ท.หทาร นะ) ไปไห้เค้าอีก *ขอโทษที่นอกเรื่องนะครับ อยู่ๆก็รู้สึกฉุนแทน จขกท แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 51 17:52:39 จากคุณ : คิดไม่ออกหรอก - [ 9 ม.ค. 51 17:49:26 ]

ความคิดเห็นที่ 144 มาต่อนะครับ ถามถึงรายได้ผู้จัดการร้านโดยส่วนมากก็ได้ประมาณ20000upนั่นจริงครับ แต่เป็นกรณีที่สามารถทำยอดขายได้ ตามเป้าของแต่ละร้าน ซึ่งจะมีแตกต่างกันหลายระดับไม่เหมือนกัน คือเท่าที่รู้ต่ำสุด 80000-90000ก็ยังมี ไล่สูงขึ้นไปเรื่อยๆเป็น ประมาณ120000,150000...จนถึง300000-400000ก็มี แล้วแต่ทำเลของร้าน-กลุ่มลูกค้าในย่านนั้นๆ-คู่แข่ง-ความสามารถของพนักงาน อีกอันที่ผมได้ยินมาแต่ไม่แน่ใจ ในตัวเลข คือร้านที่มียอดขายสูงสุดของบริษัทจะอยู่ที่พัทยา ทำยอดได้ในช่วงพีค Hi seasonตอนฝรั่งมาได้เดือนละ หลายล้านบาทแต่นอกช่วงพีคก็ตกลงมาประมาณ300000-400000เหมือนกัน แต่ถ้ายอดขายของร้านไม่เข้าเป้ารายได้ผู้จัดการก็จะตกลงมา อย่างถ้าเข้าเป้าได้25000ก้จะหายไปเหลือรับแค่15000 พนักงานระดับรองลงมาในร้านก็จะลดลงด้วยเช่นกันแต่เป็นในอัตราส่วนที่น้อยกว่าผู้จัดการ ก็มีบ้างเหมือนกันแต่ไม่ค่อยบ่อย เพราะโดยมากยอดขายของแต่ละร้านจะค่อนข้างคงที่ประมาณการได้พอสมควร ยกเว้นว่าเกิดเหตุการณ์ไม่ปกติ อย่าง มีร้านคู่แข่งเปิดใหม่ มีห้างเปิดใหม่ ทิศทางการจราจรเปลี่ยนไป สภาพเศรษฐกิจตกต่ำ(อย่างตอนนี้)การโยกย้ายพนักงาน หรือผู้จัดการไปสาขาต่างๆ ต้องยอมรับนะครับว่าฝีมือ ประสบการณ์และความสามารถของแต่ละคนย่อมแตกต่างกัน ตัวผู้จัดการคนที่เก่งๆก็ย่อมได้โอกาสที่จะไปร้านกลุ่มที่ยอดขายสูงกว่าเสมอถ้ามีการโยกย้ายพนักงาน เพราะบริษัทก็ย่อมจะได้ ผลประโยชน์ที่ดีกว่าตามมาด้วยเช่นกันครับ ส่วนเป้าเที่ยวก็ไม่ใช่ว่าจะได้ง่ายๆนะครับ มีการสะสมทำแต้มเก็บคะแนนกันเป็นปี เลือกเอายอดคะแนนสูงสุดของทุกร้าน (ไม่ใช่ยอดขายเพราะระดับของร้านมีเป้าไม่เท่ากัน)ทั่วประเทศแล้วจัดอันดับเอา เช่น 1-30ไปจีน 31-60 ไปมาเลย์ ๆลๆ คนทำคะแนนต้นปีสูงๆตอนแรกก็ยังเคยตกอันดับตอนปลายปีอดไปก็มีอยู่เหมือนกันครับToT ถ้าอยากเป็นผู้จัดการเขาก็เปิดกว้าง จบตรีสาขาอะไรก็ได้มาสมัครเถอะครับ แต่ต้องเริ่มจากระดับพนักงานขายฝึกหัดเหมือนกัน แล้วถ้ามีความสามารถ ขายเก่ง บริการเลิศ บริหารจัดการดี ไม่ทุจริต สอบผ่านหลักสูตรการอบรมต่างๆ ได้ตามขั้นตอน ก็จะได้รับการพิจารณาให้เลื่อนตำแหน่งได้เองแหละครับ แต่ช้าก่อนไม่มีขึ้นปรู๊ดปร๊าดหรอกครับ หลายปีอยู่เหมือนกันน่า และถ้าไม่เจ๋งจริงเขาก็ไม่ให้ขึ้นแน่ๆ ไม่ง่ายหรอกครับ ก็เหมือนองค์กรอื่นๆนั่นละ ระดับราคาแว่นสายตากรอบเริ่มต้นสัก400-500ก็มีอยู่ ไปจนถึงของInter Brandราคาน่าตกใจ สูงสุดที่ผมเห็น คือ20000กว่าๆ Diorมั้ง แต่ที่ลูกค้านิยมซึ่งก็แล้วแต่ทำเลและกลุ่มลูกค้าด้วย ระดับราคาเริ่มต้นที่ลูกค้าจะเลือกคือ 1000-3000 จำนวนมากที่สุด ของแพงๆก็นานทีถึงจะขายได้หรือไม่ก็ลูกค้าฝรั่ง-ต่างชาติที่จะเลือกซื้อ ที่น่าสนใจคือกลุ่มลูกค้าที่แต่งตัวธรรมดามักนิยมของดีคุณภาพสูงแม้ราคาจะสูงก็ยังรับได้ แต่กลุ่มลูกค้าที่แต่งตัวดีหรือหรูหรามาก มักจะเลือกเอาถูกไว้ก่อนเสมอ คุณภาพไว้ทีหลัง ส่วนแว่นกันแดดถ้าbrandดีๆราคาซัก2000ขึ้น คุณภาพจะดีมาก ไม่ว่าจะเป็นความคงทนของตัวกรอบ ตัวเลนส์ อึดทนถึก เหมือนIBM Thinkpadจริงๆ แว่นกันแดดราคาต่ำๆ ถ้าลองใช้ควบคู่กันแล้วจะรู้ว่า ความสบายในการใส่ ความเหมาะเจาะพอดีกับโครงหน้า ทัศนวิสัยในการมอง การบิดเบือนของ ภาพที่เห็นนั้นแตกต่างกันมากๆ แว่นNonameแบกะดินไม่มีทางเทียบได้เลย ผมมีแว่นกันแดดnonameอยู่10กว่าตัวได้ ซึ่งก็ซื้อมาตามความเหมาะสมในการใช้งานบ้าง แฟชั่นบ้าง ข้อดีคือไม่ต้องห่วง ไม่ต้องถนอม ไม่ต้องเสียดายมาก ถ้าพัง ถ้าหายก็ช่างมันสบายใจดี แต่ตัวBrandที่ผมใช้ประจำมีอยู่2ตัว ก็ใช้งานได้ดีมาก แม้จะต้องคอยระวังหน่อยก็ยังOK Brandมีหลายระดับหลายราคานะครับ หลักก็คือถ้าคนทั่วไปจะเลือกแว่นอันเดียว ส่วนมากมักจะเลือกที่ให้คุณภาพเมื่อ เทียบกับราคาแล้วเหมาะสมที่สุด ยังมีเรื่องเลนส์มาด้วยถ้าเป็นแว่นสายตา อย่างมองใกล้(อ่านหนังสือ)มองไกล หรือ เลนส์โปรเกรสซีฟ(2In1มองใกล้มองไกลในเลนส์เดียวไร้รอยต่อ)ก็เป็นตัวเลือกของผู้ซื้อที่จะเลือกให้เหมาะกับเขาแหละครับ สาขาในต่างจังหวัดผมไม่รู้ครับ แต่สาขาในเมืองหรือในกทม.เป็นอย่างที่ผมบอกแน่นอน ยืนยันได้ คนว่างก็มีครับแต่ก็ไม่ทุกวันหรอก บางวันคนแน่นจนพนักงานแทบจะหาเวลาไปกินข้าวไม่ได้ก็มี เป็นเรื่องปกติของการค้าขายครับ 7-11 ยังมีช่วงเวลา ที่คนว่างเลย และสินคาก็ต่างกัน ระหว่างmassกับspecialist shopครับ แล้วผมจะมาต่อในเรื่องของbusinessอีกทีนะ จากคุณ : kane - [ 9 ม.ค. 51 18:03:26 A:58.8.129.78 X: TicketID:165050 ]

ความคิดเห็นที่ 145 รออ่านนะครับ... จากคุณ : drunk master - [ 9 ม.ค. 51 23:13:16 ]

ความคิดเห็นที่ 146 ไม่ได้อะไรอะท็อปเจริญหรอกนะ แต่ตอนนี้ผมซื้อคอนแทรคเลนส์กะท็อปเจริญอยู่อะ เมื่อก่อนนี้สั่งซื้อจากรัตนินท์ รายเดือนคู่ละ 800 อะ ซื้อที่ท็อปเจริญ 400 เองอะ เป็นยี่ห้อ Baush&Lomb เหมือนกันเลย มันควรถูกกว่านี้อีกหรอ? ถ้างั้นผมก็โดนฟัน2เด้งเลยดิ?? จากคุณ : Jesterz - [ 10 ม.ค. 51 01:17:04 ]

ความคิดเห็นที่ 147 รออ่านครับ จากคุณ : ไม่มีสมาชิกชื่อนี้ - [ 10 ม.ค. 51 01:20:58 ]

ความคิดเห็นที่ 148 รออ่านต่อครับ จากคุณ : nuchnin - [ 10 ม.ค. 51 01:27:52 ]

ความคิดเห็นที่ 149 เออ เราซื้อแว่นที่คลองถมอ่ะ อันล่ะ 20-120 บาท ทุกครั้ง แต่ละอัน ใช้ได้นานเกินปี แถมไม่ต่างอะไรกะที่เค้าขายกันเลย แล้วเอาไปเปลี่ยนเลนส์ร้านพวกนี้ ทุก 6 เดือน (เราควรจะเปลี่ยนเลนส์กันทุก 6 เดือนนะคะ เพื่อนๆ เพื่อสายตาที่ดี) แล้วก็นานๆที ใส่คอนแทกส์เลนส์แก้เบื่อ เราว่า ร้านเค้าก็น่าจะอยู่ได้นะคะ มีคนมาซื้อ วันละอันนึง ... ตก 3-5 พัน ตัดเลนส์เฉยๆ ไม่ซื้อกรอบ อีก วันละอัน เป็น ธรรมดาอันนึง โค้ดอันนึง รวมๆแล้วได้ 2000 ต่อวัน (ธรรมดา 500 โค้ด 1500) ซื้อคอนแทกส์ วันละ 1000 นึง รวมแล้ว วันนึง ได้ 8000 บาท เดือนนึง ก็น่าจะได้ 240000 บาท อันนี้ คือ รายได้ต่อ 1 สาขา ในเขตที่พอมีคนบ้าง แล้วคิดดูว่า สาขาที่อยู่ในห้าง วันๆมีคนตัดแว่น ซื้อคอนแทกส์ เยอะมากมาย น่าจะได้เป็น 10 เท่าของสาขาธรรมดา เอามาเฉลี่ยๆกัน น่าจะพอได้นะ แล้วก็ จะบอกอีกอย่างนึงค่ะ เราว่า ร้านแว่น ไม่เหมือนขายอย่างอื่นนะ เราว่า มันเหมือนร้านตัดผมอ่ะ คนที่เข้าร้านไป แปลว่า เข้าไปทำอะไรสักอย่างเลย คือ ... เข้าคือซื้อเลย แบบนี้อ่ะ เราว่า น้อยนะ ที่จะมีคนเดินเข้ามาดูเฉยๆ แล้วเดินออกไป ยกเว้นสาขาห้าง ที่มันเปิดโล่งมากๆ ดังนั้น ถ้าคุณพลาดการเห็นลูกค้าเค้าเข้าร้านไปคนนึง ก็หมายความว่า คุณไม่ได้เห็นรายรับเค้าไปทีนึงแล้วแหละ แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 51 16:54:03 จากคุณ : Bubble_eis - [ 10 ม.ค. 51 02:03:20 ]

ความคิดเห็นที่ 150 อืมมม...น่าคิด...แฮะ...ที่อุดร..ก็ เห็น มีคนเข้าอยู่ นา...อยู่ใกล้ๆ แบงค์กลางเมืองเลย... จากคุณ : ลิงจ๊ากจ๊าก - [ 10 ม.ค. 51 02:40:15 ]

ความคิดเห็นที่ 151 สงสัยด้วย แต่เก็บไว้ในใจอ่ะ เตรียมตังไปประกันพี่ๆๆ เวลาโดนฟ้อง (แซวเล่น) จากคุณ : เด็กอ้วน (nine_ichatta) - [ 10 ม.ค. 51 03:20:20 ]

ความคิดเห็นที่ 152 ฟ-อ-ก จากคุณ : มิมิแพนด้า - [ 10 ม.ค. 51 03:57:35 ]

ความคิดเห็นที่ 153 เคยเอาแว่นขาเป๋ไปให้ซ่อม พระเจ้า...เอากลับมา มันอ๊อกขาแว่นให้ค่ะ เป็นรอยไหม้สีน้ำตาลด้วย อ๊อกตรงรอยต่อ แว่นนั้นก็พับขาแว่นไม่ได้ข้างหนึ่งสิคะ คิดได้ไงวิธีนี้ ซ่อมแบบนี้กรูก็ซ่อมได้นะคะ จากคุณ : pankee - [ 10 ม.ค. 51 04:14:47 ]

ความคิดเห็นที่ 154 @kane แว่นตาในร้านดังกล่าว ไม่มี inter brand ขายนะครับ ไม่ต้องถึง Dior หรือ Gucci หรอก Benetton, Seiko, AO, Rayban แท้, ที่ร้านห้องแถวมีขาย ก็ยังไม่มีขายที่ร้านนี้ เพราะเค้าเอาของไม่มียี่ห้อ มาขายในราคาเท่าของมียี่ห้อ อยากลดเท่าไหรก็ลดได้ ปิดป้ายลด 50% ทั้งปีก็ยังได้ ----- จดหมายของสมาคมร้านค้าแว่นที่ส่งถึงสมาชิก ยังบอกให้เตือนลูกค้าถึงร้านดังกล่าวนี้เลย ----- การให้ค่าตอบแทนที่สูง แต่กลับมีการเข้าออกของพนักงานมาก แสดงถึงการทำการค้าแบบตีหัวเข้าบ้าน เน้นขายครั้งเดียวมากๆ (พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติ) พอขายไม่ได้ก็ต้องออกไป พนักงานขาย ช่าง ที่มาประจำก็ไม่มีประสบการณ์มากพอที่จะเก็บเกี่ยวความชำนาญได้ ทั้งหมดนี้รวมถึง Chain stores อื่นๆด้วย ไม่ว่ากรุงไทย หรือ หอแว่น ด้วยครับ ----- ตามความคิดเห็นด้านบน ผมเห็นด้วยว่าซื้อจากร้านเก่าแก่แถวบ้านจะได้แว่นที่ดีกว่า จากคุณ : audy - [ 10 ม.ค. 51 10:33:17 ]

ความคิดเห็นที่ 155 #146 ครับ Baush&Lomb เนี่ย soft lens รึเปล่าครับ หากใช่ก็ขอแสดงความเสียใจด้วย เพราะผมซื้อร้านแว่นประจำแถวบ้านผมแค่ 160 บาท (เมื่อก่อนแค่ 150 บาท) ร้านไหนขาย 200 ผมก็ว่าแพงแล้ว ปล. แบบคู่นะครับ ไม่ใช่แบบกล่อง เห็นคุณก็ลงรายละเอียดว่าแบบคู่??? จากคุณ : ganblade - [ 10 ม.ค. 51 10:47:06 ]

ความคิดเห็นที่ 156 โนคอมเม้นต์ครับ ^^ จากคุณ : Stay_Coolz``~ - [ 10 ม.ค. 51 11:21:49 ]

ความคิดเห็นที่ 157 เลนส์สายตาสั้นและยาว คู่นึง ต้นทุนไม่ถึง 20 บาทนี่ครับ จากคุณ : อาจารย์แมว - [ 10 ม.ค. 51 12:18:44 A:125.24.134.146 X: TicketID:137077 ]

ความคิดเห็นที่ 158 155#ครับ ของผมเป็นแบบเอียงด้วยครับ กล่องละ1200มี3คู่ ก็ตกคู่ละ400 แต่ผมรับได้นะเพราะเคยซื้อจากรัตตะ..... มันฟันผมคู่นึง800!!O_o จากคุณ : tum (Jesterz) - [ 10 ม.ค. 51 15:56:12 ]

ความคิดเห็นที่ 159 แฟนผม ไปตัดแว่นกับท้อปเจริญหาดใหญ่ แว่นอะไรฟะ 7500   ของอย่างนี้อยู่ที่ความพอใจ ผมยังบอกแฟนเลยว่า  "แว่นราคานี้ เรามีเงินอย่างเดียวซื้อไม่ได้นะ ต้องโง่ด้วย" จากคุณ : ผักสด (vegetable) - [ 10 ม.ค. 51 16:14:21 ]

ความคิดเห็นที่ 160 น้า เป็นครูสอนทำแว่นตาครับ เป้นสิบๆปีแล้วมั่ง แต่ก็ไม่ยักกะแนะนำให้ไปตัดกับร้านนี้สักที ไม่รู้ทำไม   แต่ชอบแนะนำให้ไปตัดกับร้านอื่นที่เป็นลูกศิษย์แก และให้บอกว่าเป็นหลานอาจารย์ จะได้ส่วนลด อิอิ ลป. มายืนยันอีกคนว่าเลนส์คู่นึง ต้นทุนไม่แพงครับ เท่าที่เคยจำได้ล่าสุด 86 บาท ไม่ถึง 100 อ่ะ จากคุณ : whutzy - [ 10 ม.ค. 51 17:56:52 ]

ความคิดเห็นที่ 161 ผมใส่แว่นมาหลายอันแล้ว ราคาพวกต่ำกว่า2000 รวมเลนส์ อายุการใช้งานไม่เกิน1ปี ก็ขึ้นเขียวแล้ว ตอนนี้เลยใส่ราคาค่อนช้างสูง ดูยี่ห้อด้วย เพื่อการใช้งานที่นานหน่อย และดูดี ก้เข้าใจว่ากำไรหลายเท่าตัว แต่เราก็ต้องจ่ายเพราะเราสายตาสั้น อิอิ แต่ท็อปเคยครั้งเดียวราคาโหดไปนิด จากคุณ : ลูกปัดคับ - [ 10 ม.ค. 51 17:59:01 ]

ความคิดเห็นที่ 162 ต่อกันอีกทีครับ 154 ลองไปดูที่ร้านเลยครับว่ามีไหม แว่น inter brandน่ะมีแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น dior ao rayban เพราะผมไปลองเลือกลองใส่มาหลายร้านแล้ว แต่ในกทม.นะ เรื่องร้านสาขาต่างจังหวัดผมตอบไม่ได้เพราะไม่คุ้นเคยจริงๆ แต่ในกทม.นี้มีแน่นอน และยังขอยืนยัน ว่าเป็นของแท้แน่นอนครับ คิดง่ายๆของปลอมคลองถมเจ้าของbrandคงขี้เกียจไปตามจับ เพราะจับได้ก็นิดหน่อย แถมสาวไปถึงต้นตอก็ยากแสนยาก ถ้าแว่นของร้านท็อปปลอมจริงๆ เขามาตามจับที่ร้านไม่ดีเหรอครับ จับได้แน่นอนแถมสาวไปถึงบริษัทใหญ่ได้แน่ๆ เพราะจดทะเบียน การค้าเป็นบริษัทถูกต้องตามกฎหมาย ลองคิดดูดีๆอีกทีนะครับว่าปลอมหรือเปล่า ส่วนinter brandอื่นๆจะมีกี่Brandผมคงบอกไม่ได้หมดครับ มันเยอะแยะมากมายใครจะไปจำได้หมด ที่เห็นและจำได้แน่นอนก็มีอีก อย่างreplay น่าจะมี amarniด้วย และมีbrandที่ร้านท็อปบอกยกเลิกการจำหน่ายก็มีคือ alen derlon เขายังเอาแว่นที่เหลือค้างในstock มาแจกพนักงานเลยครับ เพราะยกเลิกการขายbrandนี้ไปแล้ว เรื่องจดหมายผมไม่รู้ขอผ่าน เรื่องการเข้าออกของพนักงานผมบอกไปแล้วครับใน ท้าย คห138 ที่ออกในระดับพนักงานขาย คือพ้นโปรมาแล้ว ส่วนที่ผ่านการฝึกฝนฝึกอบรมทดสอบในหลักสูตรต่างๆจนได้เลื่อนตำแหน่งมาเป็น พนักงานขาย ตรวจวัดสายตาได้ทำแว่นได้ ผู้ช่วยผู้จัดการและผู้จัดการร้าน นั่นหาออกด้วยความสมัครใจจริงๆยากมากครับ เพราะลงตัวและเชี่ยวชาญกับงานมากแล้ว ที่ว่าการให้ค่าตอบแทนที่สูง แต่กลับมีการเข้าออกของพนักงานมาก แสดงถึงการทำการค้าแบบตีหัวเข้าบ้าน เน้นขายครั้งเดียวมากๆ (พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติ) พอขายไม่ได้ก็ต้องออกไป คุณเข้าใจผิดแล้วครับ ลุกค้าของร้าน95% ขึ้นไปคือฐานลูกค้าขาจรที่เดินwalk inเข้ามาในร้าน บริษัทนี้แทบไม่มีขายตรงเลยนอกจากจัดงานโปรโมทตาม งานEventต่างๆ ซึ่งการจัดบูทก็เพื่อเป็นการโปรโมทให้กับร้านในย่านนั้นๆเพื่อให้คนรู้จักซะมากกว่า ว่ามีร้านท็อป สาขาใหม่มาเปิดแล้วนะอยู่ที่นี่นะและร้านใหม่ก็ย่อมจะมีแว่นแบบใหม่ๆมาขายพร้อมด้วยราคาที่น่าดึงดูดใจมากเป็นพิเศษ การลากเอาครอบครัวหรือคนรู้จักมาบังคับซื้อนั่นเกือบจะไม่มีเลย แต่ไม่มีความจำเป็นในการทำอย่างนั้นแต่อย่างใด เพราะถ้าขายไม่ได้ตามเป้า เงินเดือนของพนักงานทุกคนก็ยังได้เหมือนเดิมครับ แต่ค่าคอมลดลงไปเท่านั้นเอง ไม่ใช่ว่าขายไม่ได้ตามเป้าแล้วจะถูกหักเงินเดือนซะเมื่อไร แล้วจะไปบังคับขายครอบครัวทำไมกันละครับ ถ้ายอดขายไม่ได้ตามเป้าจริงๆติดต่อกัน บริษัทก็จะเข้ามาดูว่าเพราะอะไร อย่างในตอนต้นๆ คห144 ถ้ามันแย่ลงเพราะปัจจัยภายนอกก็ปรับลดเป้าของร้านนั้นลงให้เหมาะสมกับความเป็นจริง ถ้าเพราะปัจจัยภายในร้าน ก็ปรับปรุงสินค้าให้เหมาะสมกับย่านนั้นๆ หรือโยกย้ายพนักงานให้ลงตัวมากกว่าเดิมครับ ร้านท็อปเขามีโรงเรียนสอนการทำแว่นตาของเขาเองนะครับ อยู่แจ้งวัฒนะเลยmakroไปหน่อยเอง เขาว่ากันว่าเป็นสถานบันเทิงเก่า จะเป็นเธคหรืออาบอบนวดก็ไม่แน่ใจ ลือกันว่ามีผีดุซะด้วยซิ ทางบริษัทเขา มีหลักสูตรการอบรมสำหรับพนักงานทุกระดับ และมีหอพักให้พนักงานที่มาจากต่างจังหวัดด้วยในตัวเสร็จสรรพ ดังนั้นหายห่วงเรื่องความรู้ความชำนาญเพราะกว่าเขาจะมาทำแว่นให้คุณๆกันได้ ต้องผ่านการอบรมการทดสอบมา เป็นขั้นๆหลายระดับชั้น ฝึกอบรมกันมาเลือดตาแทบกระเด็นไปเหมือนกัน พนักงานคนหนึ่งๆก็ต้องอบรมปีละหลายๆครั้งอยู่ อบรมและทดสอบกันมาคนละหลายๆปีครับ กว่าจะเลื่อนตำแหน่งได้ ดังนั้นประสบการณ์และความชำนาญต้องได้มาตรฐานครับ ถึงจะสอบผ่านหลักสูตรที่เขามีได้ ว่างๆลองไปเล็งดูใบประกาศๆ ในร้านดูครับ จะมีหัวข้อและรูปพนักงานคนนั้นติดไว้ด้วยเลย โดยมากมักจะติดไว้ในห้องวัดสายตา หรือแถวๆเคาเตอร์ ขอเขาดูแล้วถามเขาได้เลยครับ ว่าเป็นหลักสูตรอะไรของพนักงานคนไหน แต่อย่าแอบไปขอเบอร์มือถือนะเผื่อแฟนเขาดุ อิอิ แล้วมาต่อกันใหม่นะ จากคุณ : kane - [ 10 ม.ค. 51 18:12:57 A:58.8.120.98 X: TicketID:165050 ]

ความคิดเห็นที่ 163 เราตัดกับกรุงไทยการแว่นค่ะ เดี๋ยวนี้เค้าเดินสายหาลูกค้า ตามอาคาร สำนักงาน ต่างๆ นะคะ มีแบบผ่อนด้วย 0% ก็มีค่ะ ส่วนแว่นท๊อปเจริญ แถวบ้าน (ภูธรค่ะ) ถ้าตาไม่ฝาดก็เห็นสองสาขาเหมือนกัน ข้ามฟากถนน   คอนแทคเลนส์ บอชแอนด์ลอมป์ ราคาต่างจังหวัดคู่ 200 แน่นอนค่ะ ส่วนใน กทม. จะเริ่มต้นที่ 160 ค่ะ เวลาเราเข้ากรุงเทพ ก็ซื้อเป็นกล่องๆ เก็บไว้เลย ถูกดี ไม่ซื้อที่ท๊อบเจริญ เพราะคอนแทคยี่ห้อดูน่า ใส่ไม่ได้ค่ะ ไม่เกาะตา จากคุณ : ไม่รู้ใครถาม (หมาขี้เหงา) - [ 10 ม.ค. 51 21:10:57 ]

ความคิดเห็นที่ 164 มันกำไรจากเลนส์ครับ ผมเคยสั่งตัด HOYA ไม่ coat ย่อเลนส์ (ผมสั้น 600 หมายถึงสายตาอะนะ) ทอบเจริญเอา 2500 เดินไปร้านประจำจังหวัดข้างๆเป็นคุณลุงขาย เอา 500บาท เลนส์เหมือนกันเป๊ะ แถมย้อมสีชาให้ฟรี ฟันกำไรเต็มๆแบบนี้ขายได้วันละอันสองอันก็อยู่ได้แล้วครับ มิหนำซ้ำ แว่นมันเป็นของที่ไม่ได้ตัดกันทุกวัน นานๆจะตัดกันที ก็เลยฉวยโอกาสจากความ "ไม่รู้" ได้อย่างเต็มที่ จากคุณ : แมงสาบ - [ 10 ม.ค. 51 21:54:19 ]

ความคิดเห็นที่ 165 ผมเคยใช้ แว่น อันละ 199 ตามตลาดทั่วไป ปรากฎว่า ขาแว่นลอก เลอะติดหนังเลย แถมหนังตรงที่ถูกกับขาแว่น ก็ด้านอีก.... เลย ไม่ซื้อแบบนั้นอีก เข็ดมาก  เลย มาใช้บริการแว่นท็อปฯ ยอมเสีย 1-2 พัน ดีกว่า แถมล้าง + บริการฟรี ผม ว่าคุ้มกว่าเยอะ   ปล. บางทีเดินเล่นในห้าง ก็เข้าไปวัดสายตาฟรีได้ ไม่เสียเงิน  อันนั้นผมมองในมุม ที่ผมเจอมานะ... จากคุณ : โย่ (anotherhand) - [ 10 ม.ค. 51 23:45:19 ]

ความคิดเห็นที่ 166 บิวตี้ฟูลเชียงราย เดือนนึงขายคอนแท็คยังไม่ถึง สี่สิบคู่เลย แต่ก็อยู่ได้ ทำเลหัวมังกร ที่รู้เพราะว่าเวลาไปซื้อ duna จะให้เซ็นชื่ออะไรก็ไม่รู้ แล้วเราก็เห็นรายวื่อลูกค้า ในและเวลาที่มาซื้อด้วย วันนึงสิบคู่ ไม่มีทางถึงเด็ดขาด อาทิตย์นึงไม่รู้จะได้หรือเปล่า กำไรอะไรนักหนานะ เข้าข่ายค้ากำไรเกินควรหรือเปล่า แต่ก็เนอะ คู่แข่งขันน้อยราย ออกไปทางฮั้วกันรู้กันด้วยซ้ำ มันจะสะท้อนราคาตลาดที่แท้จริงได้ยังไง จากคุณ : SkillFull - [ 11 ม.ค. 51 00:48:38 ]

ความคิดเห็นที่ 167 เคยตัดแว่นที่ท็อปเจริญนี่หล่ะค่ะ  ไม่รู้ตัดให้เรายังไง ใส่ไปสองปีได้  สายตาเราทั้งสองข้างห่างกันเป็นโยชน์เลยค่ะ ทั้งๆที่ตอนแรกตัดก็ สองข้างพอๆกัน ตอนนี้เลยมีผล อนาคตอาจตาบอดได้ (จักษุร้านแว่นร้านหนึ่งบอก ไม่รู้จริงรึเปล่า ผู้ใดรู้ตอบทีค่ะ ) แถม ใส่แว่นก็ได้แบบ ไม่ตรงกับสายตาจริงๆ เพราะจะเกิดภาพซ้อนอ่ะค่ะ เลยต้องใส่ต่ำกว่าที่สั้นลงมาอีก เห้อออ ส่วนอีกเรื่องนี่ น้องสาวโดนมาค่ะ  น้องบ่นว่าปวดตา ปวดหัว มองไม่ค่อยชัด  แม่เค้าก็นึกว่า สายตาคงสั้นแน่ๆ แม่เค้าเลยพาไปตัดแว่นที่นี่หล่ะค่ะ เค้าก็วัดสายตา ก็บอกว่าสั้นจริงๆ แล้วทำการตัดแว่นให้ค่ะ พอน้องเราใส่แว่นไป สัดเกือบเดือน (ไม่รู้ว่ามันทนไปได้ไง)  น้องเค้าก็บ่นปวดหัว ปวดตามากกว่าเดิม แม่เค้าเลยพาไปหาหมอที่โรงพยาบาล ปรากฎว่า หมอถามว่า "ให้ลูกใส่แว่นทำไม สายตาก็ปกติ" ก็เลยเกิดอาการ (อีกเรื่อง ที่ตัดแว่นกับทอป  ขาแว่นเคยลอกด้วยค่ะ เป็นสีเขียวๆ  คนที่บ้านก็บอกเราอีกว่า ที่ลอกอ่ะ เหงื่อแกไปกัดมันแน่ๆ (เหงื่อเรามันเป็นกรดขนาดนั้นเรยยยย)) เข็ดๆๆๆค่ะ เข็ดกันทั้งครอบครัวกับร้านนี้แล้ว แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 51 01:43:45 จากคุณ : ดูดีมีชาติตระกูล - [ 11 ม.ค. 51 01:42:10 ]

ความคิดเห็นที่ 168 ตอบ #167 นะครับ ความเป็นจริงของผู้มีสายตา สั้นมากผิดปกติ ในอนาคตมีโอกาสสูญเสียการมองเห็นได้ เป็นเรื่องจริง เนื่องจาก เส้นประสาทตาของคนสายตาสั้นถูดยืดยาวออกด้วยลักษณะของกระบอกตาที่ยาวกว่าคนอื่น มีผลให้เส้นประสาทเหล่านั้น บางลง ท้าวความก่อนว่า หลักของการสายตาสั้น ทางการแพทย์บอกไว้ว่า "สายตาสั้นมีผลมาจากการรวมแสงที่เรติน่าของดวงตา อยู่ห่างกว่าจุดโฟกัสของเลนส์ตา นั่นคือ กระบอกลูกตายาวกว่าระยะที่ภาพสะท้อนในตาชัดเจนพอดี ทั้งนี้ เรตินาอยู่ติดกับผนังด้านในลูกตาส่วนท้าย เมื่อกระบอกลูกตายาวออกไป จึงทำให้ภาพที่ได้นั้นเบลอ ไม่ชัดเจน" ดังนั้นหากผู้มีสายตาสั้นไม่สามารถรักษาสภาพสายตาให้คงที่จนถึงเวลาที่กระบอกลูกตากลับมาในลักษณะปกติ (ที่เขาว่า สายตาจะยาวตอนแก่) อาจเป็นผลให้เส้นประสาทตาที่ยืดออกนั้น ขาดจากกันได้ และศัลยกรรมประสาท(ที่ผมรู้เมื่อ 8 ปีที่แล้ว) ไม่สามารถรักษา ต่อให้ติด หรือทำให้กลับมาใช้งานตามเดิมได้อีก ยังผลให้สูญเสียกานมองเห็นโดยสมบูรณ์ อนึ่ง การกระแทกอย่างรุนแรงจากภายนอก สามารถกระทบกระเทือนต่อเส้นประสาทตาได้เช่นกัน ผู้มีสายตาสั้นเกิน 900 แพทย์จะไม่แนะนำให้เล่นกีฬาที่มีการปะทะรุนแรงเด็ดขาด เพราอาจกระทบกระเทือนและมีอันตรายดังกล่าวได้ ดังนั้น คำตอบที่ # 167 ต้องการคือ "ถ้าไม่ได้รับการตัดแว่นให้ถูกต้องต่อสายตา จะทำให้สายตาไม่คงที่ ไม่หยุดเพิ่มความสั้นของสายตา และในอนาคตอาจตาบอดไดจริงครับ" ไม่ใช่ใส่เพื่อให้เห็นชัดเจนอย่างเดียวนะครับเพื่อน ๆ จากคุณ : ผ่านมาดูb-d - [ 11 ม.ค. 51 05:39:05 A:58.9.163.217 X: ]

ความคิดเห็นที่ 169 ตัดแว่นกับ top มาแล้ว 3 อัน ในช่วง 2 ปี  เพราะใกล้บ้านดี เปลี่ยนแว่นเพราะนอนทับขางอ  ดัดแล้วไม่ค่อยดีเหมือนเดิม ตัดครั้งละ 3000-4000 ไม่ค่อยเดือดร้อน บริการก็ใช้ได้  วัดสายตาได้เลย ไม่ต้องรอ เคยไปร้านอื่นๆ แล้ว ต้องรอ เพราะป๊าไปกินข้าวข้างนอก  เดี๋ยวค่อยมาใหม่ กรอบแว่น brandname แพงจริง  6000 up ไม่ค่อยกล้าจับ  เลยเอาธรรมดา ส่วน contact len ก็ duna เหมือนกัน  เมื่อก่อนมีแบบ 2 สัปดาห์ ผมใส่ได้เป็นเดือน ตอนนี้มีแต่แบบ monthly ผมใส่ได้ 6 สัปดาห์  เอาจนกว่าจะเคืองตาแหละ ร้านชอบให้กรอกชื่อที่อยู่ ตอนซื้อ len  ตอนหลังไม่เคยกรอกให้เลย  บอกไปว่า กรอกไปหลายทีแล้ว  ถ้าให้กรอกอีกจะไปซื้อร้านอื่น  ก็เลยไม่ต้องกรอกก็ได้ ... ก็เลยสงสัยว่า เราก็ใช้บริการเขาบ่อยนิ   กิจการก็เหมือนจะดี ทำไมไปว่าเขาฟอกเงินล่ะ ส่วนเรื่องบางร้านตัดแว่นไม่ดี  มัว ปวดหัว  ก็ต้องไปคอมเพลนกับร้าน   เหมือนหาหมอเรื่องไข้หวัด  กินยาแล้วไม่หาย ก็ต้องกลับไปหาอีกที  ผมว่าเรื่องปกตินะ  มีโอกาสเกิดขึ้นได้ ... เพื่อนผมเป็นลูกร้านแว่น อยู่ ตจว  บอกว่า แว่น 1 อัน กำไรเกิน 200% แต่ไม่บอกว่าเท่าไหร่   คือซื้อร้านไหนก็โดนฟันอยู่ดี  โดนมากหรือโดนน้อยเท่านั้น แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 51 10:46:06 แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 51 10:39:11 จากคุณ : เจลพริก - [ 11 ม.ค. 51 10:33:45 ]

ความคิดเห็นที่ 170 แฟนที่เป็นผู้ตรวจสอบบัญชี ตรวจพวกบริษัทขายแว่นตาเค้าบอกว่ากำไรเยอะจริงครับ ไม่ต่ำกว่า 400% นอกจากนี้ก็พวกนาฬิกาครับ กำไรไม่แพ้แว่นตาเช่นกัน....เรื่องฟอกเงินไม่รู้ ไม่อยากปรักปรำ จากคุณ : Jeoy - [ 11 ม.ค. 51 11:49:57 ]

ความคิดเห็นที่ 171 ผมว่าไม่น่าจะเป็นการฟอกเงินนะครับ ปัญหาสายตาผมว่ามีคนเป็นเยอะ น่าจะครึ่งๆได้ ยังไม่นับพวกที่สายตาปกติ แล้วใช้แว่นกันแดดนะครับ โดยประมาณแล้ว น่าจะเปลี่ยนแว่นทุกๆ 2-3 ปี เอาแค่มีส่วนแบ่งการตลาดแค่ 10% ผมว่าก็รวยแล้วครับ อย่างที่บอกๆกันมา แว่นกับเลนส์แต่ละอันนี่ต้นทุนต่ำมาก เมื่อเทียบกับราคาขาย ผมจึงไม่แปลกใจเลยที่จะอยู่ได้อย่างสบายๆ จากคุณ : sawatcafe - [ 11 ม.ค. 51 14:12:16 ]

ความคิดเห็นที่ 172 อื้ม.......  มีเหตุผล แต่ก้ยังสงสัยอยู่เหมือนเดิม จากคุณ : คนตรัง..ยังโสด - [ 11 ม.ค. 51 14:20:50 ]

ความคิดเห็นที่ 173 167เขียวๆแบบสนิมรึเปล่าครับ ถ้าใช่ก็เหงื่อน่ะแหละธรรมดามากๆ แว่นบางบริษัท(ผู้ผลิต)ชุบใหม่ให้ครับ คุ้นๆว่าร้านที่ผมทำแว่นบอกว่าเค้าส่งไปชุบให้ฟรีได้ ส่วนนอตหลุด ขาหัก ซ่อมแว่นนี่ร้านซ่อมฟรีนี่บอกตรงๆเลยนะว่าไม่แปลกใจ ตั้งแต่เกิดมาก็ทำแว่นร้านประจำร้านเดียวก็เห็นร้านซ่อมให้ตลอด ตอนแรกนึกว่ามันทำให้ทุกร้านซะอีก จากคุณ : donutpla2 - [ 11 ม.ค. 51 19:11:21 ]

ความคิดเห็นที่ 174 สงสัยเหมือนกัน เพราะผ่านทีไรก็เห็นไม่ค่อยมีคนอ่ะน่ะ เห็นแต่พนักงานนั่งอยู่4-5คน แต่เราก็ใช้คอนแทคเลนส์ของเค้าอยู่นะ Duna คู่ละ 195 บาท เค้าอยู่ได้เพราะคอนแทคเลนส์หรือเปล่า จากคุณ : Beingbig - [ 11 ม.ค. 51 21:51:48 ]

ความคิดเห็นที่ 175 ... ผม ก็ สง สัย นะ .. คือ แถวบ้านผม ... เห็น มา เปิด อยู่ ร้านหนึ่ง .. ... ค่า เช่า คง เดือนละประมาณ 1 หมื่น .... เวลา ผ่าน ไป 4-5 เดือนได้ ... ผม เห็น ป้าย "ปิดปรับปรุง" ผม คิดว่า เจ๊ง แล้ว ร้านแว่น ... วัน ๆ ไม่เห็น มีคนเข้า ... ที่ไหนได้ อีก 2 อาทิตย์ ขยายร้าน จาก 1 ห้อง เป็น 2 ห้อง ... ... ก็ คิด แบบ งง ๆ ว่า แว่น อันหนึ่ง คง กำไร เยอะ มาก ขาย วัน ละ อัน คงอยู่ ได้ .. จากคุณ : มกรา49 - [ 11 ม.ค. 51 23:20:34 ]

ความคิดเห็นที่ 176 เมื่อประมาณสิบกว่าปีก่อนเคยมีญาติ รับแว่นมาจากฮ่องกงครับ เอามาว่งตามร้านแว่นต่างๆ แว่นที่รับมาก็มีทุกยี่ห้อครับ แต่ละอันราคาประมาณ 100-150บาท ครับ ถามว่าทำไมมันถึงได้ขายแพงกันนัก คือถ้าขายถูกเขาก็อยู่กันไม่ได้หรอกครับ จากคุณ : อ้ายหมีเมา - [ 12 ม.ค. 51 01:06:49 ]

ความคิดเห็นที่ 177 ร้านพวกนี้จะขายของอย่างเดียว เพื่อนผมสั้น 25 มันยังจะให้ตัดอีก - - จากคุณ : Renzolution - [ 12 ม.ค. 51 01:41:38 ]

ความคิดเห็นที่ 178 . . . เดาทั้งนั้น . . . จากคุณ : MIG-ON-THE-WAY - [ 12 ม.ค. 51 03:56:13 ]

ความคิดเห็นที่ 179 ชลบุรีพวกร้านแว่นมักจะอยู่ในห้างครับ ผมตัดใต้ฟ้าการแว่นนะ มีของguess กะ levi อย่างguessมันลดค่าเฟรมให้50% รวมๆแล้วยังสามพันกว่า กำไรมันคงจะเยอะจริง จากคุณ : สายน้ำตะวันออก - [ 12 ม.ค. 51 06:27:14 ]

ความคิดเห็นที่ 180 ทราบมาว่า กำไรอันหนึ่งๆ อยู่ที่ประมาณ 300% ครับ เคยตัดสองที่ทีว่า ราคาแพงจริงๆครับ สินค้าก็งั้นออกจะโลว์ด้วยซ้ำ แต่บริการนี่สุดยอดเลยครับ ปัจุบันตัดกับอีกที่นึง สินค้าโอเค บริการก็โอ รับได้  แม้ว่าตัดแว่นครั้งนึง ต้องเดินทางหลาย ชม.ทีีเดียว (กทม.) จากคุณ : แว่นไร้ขอบ - [ 12 ม.ค. 51 12:26:10 ]

ความคิดเห็นที่ 181 เคยตัดครั้งหนึ่ง เฉพาะกรอบ ao เต็ม6500บาทลด50%เหลือ 3000กว่า ค่าเลนส์ แบบนี้ 700 ถ้า มัลติโคทหรืออะไรนี่แหละ เพิ่มเป็น 1500 รวมแล้ว5000 ยังคิดอยู่ทุกวันนี้ เราจ่ายแพงกว่าที่อื่นหรือปล่าว.... จากคุณ : ดอกหญ้าบนเขา - [ 12 ม.ค. 51 15:11:43 ]

ความคิดเห็นที่ 182 สงสัยมานานแล้วเหมือนกัน จากคุณ : maxibon - [ 12 ม.ค. 51 16:50:37 ]

ความคิดเห็นที่ 183 แถวโรงเรียนมีร้านนึง งงเหมือนกันมาเปิดทำไมแถวโรงเรียน แต่ก็คนซื้อเยอะนะ ส่วนใหญ่ซื้อคอนแทคเลนส์ จากคุณ : iczcream - [ 12 ม.ค. 51 18:24:52 ]

ความคิดเห็นที่ 184 เคยเสียค่่าโง่ ให้ ท้อปเจริญ 2 ครั้ง            ตอนอายุ 12 ไปตัดแว่นครั้งแรก สั้นไม่ถึง 100 เสียเงินไป 3000 เลนส์กระจก หนักมากกกกกก เลยเลิกใส่ จนโตแล้วถึงมารู้ว่าโดนฟันเละ            อีกครั้งไปซื้อ คอนแทคเลนส์ เราจะซื้อยี่ห้ออื่น แต่พนักงานบอกว่ามีขายแต่ยี่ห้อ Duna ต้องจำใจซื้อมา ใส่แล้วเจ็บตามาก เลนส์มันแข็ง บาดตา ราคาก็แพง ปล.แอบคิดเหมือนกันคะ ว่าเป็นธุรกิจฟอกเงิน จากคุณ : ohjin15 - [ 12 ม.ค. 51 20:24:12 ]