เด็กสายวิทย์ฯ ขอออกความเห็นหน่อยแล้วกัน จริงๆ ไม่เคยคิดว่าเด็กศิลป์โง่เลย ที่เก่งๆ ก็มีเยอะ แต่ที่หลายคนคิดอย่างนั้นอาจเป็นเพราะ
1. ในสมัยก่อน (ขอย้ำว่าสมัยก่อน) เด็กที่จบสายวิทย์ฯ มีหนทางที่จะไปประกอบอาชีพที่มีรายได้ดีกว่าเด็กสายศิลป์มาก อย่างหมอ วิศวะ รายได้ดีสุดๆ เทียบกับเด็กจบสายศิลป์สมัยก่อนที่จะไปเป็นอะไรได้บ้างละ เป็นครู เป็นเลขาฯ เป็นล่าม ฯลฯ (แต่ถ้าเป็นยุคนี้ที่คณะทางสายศิลป์หลายคณะบูมๆ อย่างนิเทศ เศรษฐศาสตร์ ภาษา บูม ก็เป็นอีกเรื่อง) ทำให้เด็กที่คิดว่าตัวเองพอเรียนสายวิทย์ฯ ได้หลายๆ คนก็จะพยายามตะกายเรียนวิทย์ฯ ไว้ก่อน เพื่อหวังอนาคตที่ดีกว่า (ทั้งที่บางคนดูแล้วเรียนสายศิลป์น่าจะรุ่งกว่าด้วยซ้ำ เหอๆ)
2. วิชาความรู้ทางสายวิทย์ฯ กับสายศิลป์มีความแตกต่างกันคือ สายวิทย์ฯ จำเป็นต้องมีการทดลอง ฝึกหัด ผ่านกระบวนการต่างๆ ที่ต้องมีการเรียนรู้ในห้องเรียนมาก ซึ่งคนที่ไม่ได้เรียนมายากที่จะเป็นได้ และยากที่จะเรียนได้ด้วยตัวเองด้วย เพราะบางเรื่องจำเป็นต้องใช้เครื่องไม้เครื่องมือหลายอย่างที่แพงโคตร คนธรรมดาๆ คงไม่ซื้อหามาเป็นของตัวเองแน่
ในขณะที่วิชาทางสายศิลป์ฯ อย่างภาษา กฎหมาย เศรษฐกิจ การเมือง ฯลฯ เป็นความรู้ที่พอจะสามารถศึกษาด้วยตัวเองได้ง่ายกว่า จึงทำให้เด็กสายวิทย์ฯ สามารถที่จะเรียนรู้วิชาทางสายศิลป์ได้ง่ายกว่าที่เด็กสายศิลป์จะข้ามไปเรียนรู้วิชาทางสายวิทย์
ดูง่ายๆ เลย คุณอาจจะเคยเห็นคุณหมอ คุณวิศวะ เขียนกาพย์กลอน เขียนนิยาย พูดภาษาต่างประเทศเป็นไฟ หรือแม้แต่ไปเป็นผู้บริหาร นักการเมือง ได้ดีพอๆ กับเด็กสายศิลป์ได้
แต่คงแทบไม่มีเด็กเรียนสายศิลป์คนไหนที่จะอาจหาญไปรักษาคนไข้แบบหมอ หรือคุมงานก่อสร้างคุมเครื่องจักรแบบวิศวกรแน่ (แม้แต่เด็กสายวิทย์ที่ไม่ได้เรียนหมอเรียนวิศวะ ก็ยังไม่สามารถเลย เหอๆ)
แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 51 13:07:39
แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 51 13:03:33
แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 51 12:42:33
แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 51 12:38:23
แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 51 12:35:10