ความคิดเห็นที่ 1 รายการผุ้หญิงถึงผู้หญิงเล่าต่อว่า สารนี้จะไปกระตุ้นให้เป็นมะเร็ง โดยขวดน้ำพลาสติกเป็นสาเหตุหนึ่ง ที่พวกเราใช้กันมาก โดยในพวกโลชั่นต่าง ก็มีสารพวกนี้ โดยให้ระมัดระวังไม่ให้มีสาร เมทิลพาราเบน ซึ่งกระตุ้นให้เป็นมะเร็งได้เช่นกัน จากคุณ : KCrazy16 - [ 23 ม.ค. 51 08:58:09 ]

ความคิดเห็นที่ 2 สารอินทรีย์ทั่วไปก็เป็นสารก่อมะเร็งเเหละครับ โดยเฉพาะโพลีเมอร์ ที่กรรมวิธีการผลิตไม่สะอาด ใส่สีสัน หรือผ่านกระบวนการให้ความร้อน สารดังกล่าวก็อาจจะหลุดติดมากับอาหาร หรือผลิตภัณฑ์ที่บรรจุมาอ่ะครับ พวก  เบนซีน  เเละอนุพันธ์ ของมันก็อันตรายครับ จากคุณ : Atomic Secret - [ 23 ม.ค. 51 09:24:03 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อยากรู้เหมือนกันว่าจริงมั๊ย ดูข่าวนี้แล้วก็สงสัย แล้วยุคนี้จะให้กินน้ำจากอะไรไม่ทราบ เพราะรู้สึกว่ากินจากอะไรก็อันตรายทั้งนั้น การระวังรักษาสุขภาพก็เป็นเรื่องดีอยู่แล้วแต่ทำไมผมถึงรู้สึกว่าข่าวนี้มันสร้างออกมาเพื่อทำให้คนหวาดกลัวมากกว่าเตือนภัยทางสุขภาพก็ไม่รู้  ยอมรับตรง ๆ ว่าผมเองดูข่าวนี้แล้วก็รู้สึกกลัวขึ้นมานิด ๆ แต่จะให้ทำไงได้ละก็ดื่มน้ำจากขวดพลาสติกทุกวัน อีกอย่าง เตือนผู้บริโภคนั้นก็จำเป็นอยู่ ทำไมไม่เห็นบอกผู้ผลิตบ้างให้หลีกเลี่ยงใช้สารนี้ในการผลิต ไม่เข้าใจ จากคุณ : Mr.Learning - [ 23 ม.ค. 51 09:25:10 ]

ความคิดเห็นที่ 4 http://www.pantip.com/cafe/isolate/topic/M4585782/M4585782.html เครดิตใครไม่รู้ ลิงค์เดี้ยงไปเเล้ว กระทู้สรุป สำหรับทุกกรณีเกี่ยวกับขวดพลาสติกใสบรรจุน้ำดื่ม ชนิด PET (กระทู้สาระครับ เข้ามาอ่านและส่งต่อด้วยนะครับ) นานๆ ผมจะมีกระทู้สาระกับเค้าสักที อิๆ แอบภูมิใจในตัวเองเป็นยิ่งนัก  : ) -------------------------------------- จากภาพประกอบข้างต้นนั้น (รับมาจากฟอร์เวิร์ดเมล) ได้อ้างถึง อันตรายจากการนำขวดบรรจุน้ำดื่ม, น้ำอัดลม ฯลฯ ชนิดใส หรือที่เรียกกันว่าขวด "เพท" (PET: Polyethylene Terephthalate) ที่ใช้แล้วมาบรรจุน้ำดื่มซ้ำอีกครั้ง  โดย PET จะมีสาร Diethyl hydroxylamine (DEHA) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง (carcinogen) ประกอบอยู่ด้วย  ทำให้ไม่สามารถนำขวดเหล่านั้นมาบรรจุน้ำดื่ม อาหารได้อีกครั้งถึงแม้จะมีการล้างทำความสะอาดอย่างดีแล้วก็ตาม  และยังย้ำอีกว่า "ขวด PET เป็นขวดที่ใช้ครั้งเดียวแล้วต้องทิ้ง" ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆให้ใช้เพียง 1- 2 วัน ไม่เกิน 1 สัปดาห์ ------------------------------------------------------- ภายในภาพประกอบที่ผมแนบมาด้วยมีลักษณะคล้ายๆกับการตัดจากสิ่งพิมพ์ แถมยังเอาตรากรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (Department of Environment Quality Promotion: DEQP)  มาแปะไว้ตรงมุมบนซ้ายของบทความอีกแน่ะ   กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม นี่เป็นหน่วยงานของราชการ  สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นะครับ  ---- อย่างนี้ ใครจะไม่เชื่อล่ะครับ -------------------------------------------------------- หลายคนคงได้รับฟอร์เวิร์ดเมลนี้กันมาแล้ว และก็คงตกอกตกใจกันยกใหญ่ เพราะไม่น้อยเลยที่ต่างก็ต้องเคยเอาขวดน้ำเหล่านั้นมากรอกน้ำไว้ดื่มซ้ำอีกครั้ง หลังจากที่น้ำในขวดที่ซื้อมาหมดไป --- กระแสข่าวนี้คงไม่ร้อนแรงแดงเถือก เหมือนกับหนอนน้อยหน้าใสต่างดาวที่พรั่งพรูลงมาเมื่อคราฝันพรำกระหน่ำซัด เพราะศัพท์แสงและแหล่งอ้างอิงที่มามันช่างดูหนักแน่นซะเหลือเกิน  แม้กระทั่งผมที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ อยู่ในสายงานที่ต้องเกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ ทดสอบ และวิจัยของราชการเองก็ตาม เมื่อได้รับทราบข่าวนี้ยังประหวั่นพรั่นพรึงในสมองอยู่ไม่น้อย   แต่ก่อนที่เชื่ออะไรอย่างน้อยก็ต้องขอตรวจสอบข้อมูลเสียก่อน เพราะใจนึงนั้นผมไม่เชื่อบทความที่ได้รับเท่าไรนัก  จะเป็นไปได้อย่างไรที่ขวดชนิดใสบรรจุน้ำดื่มที่วางขายกันเกร่อทั่วบ้านทั่วเมืองนั้น จะใช้ได้เพียงครั้งเดียว หากใช้เกินกว่านั้นจะก่อเกิดอันตรายถึงขั้นเป็นมะเร็งกระนั้นหรือ???  แล้วถ้างั้น เราซื้อน้ำขวดนึงมาแล้วดื่มๆไปซัก 3-4 วันก็ไม่หมด  ยังงี้เค้าก็ต้องโดนสารพิษในขวดไปซะแล้วสิครับ  ทั้งๆที่ขวดนั้นก็เพิ่งแกะและใหม่ซิงอยู่เลย ....... --------------------------------------------------------- ยาวเกินไปแล้ว  เดี๋ยวมาต่อครับ แต่ขอยืนยัน นอนยัน นั่งยัน  ตีลังกายัน เต้นยัน โยกยัน ณ ที่นี้เลยว่า การนำขวดพลาสติกชนิดใส (ขวด PET) กลับมาใช้ใหม่ด้วยการบรรจุน้ำดื่มนั้น  ไม่มีอันตรายใดๆทั้งสิ้น  ---ถ้าท่านล้างสะอาดแล้วนะครับ แล้วในขวดนั้นก็ต้องไม่มียาฆ่าแมลงที่ เมีย หรือผัว ที่รักของท่านแอบใส่ไว้ด้วยนะครับ ---------------------------------------------------------- เดี๋ยวเอาหลักฐานมายืนยัน ครับ เพราะกระทู้นี้ยาวไปแล้วเดี๋ยวไม่มีคนอ่านกันพอดี  รอแป๊ะครับ ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักกับ Polyethylene Terephthalate (PET) กันก่อนนะครับ PET เป็น โพลีเมอร์ชนิดหนึ่ง ก็คือพลาสติกชนิดหนึ่ง ได้จากการสังเคราะห์ สารตั้งต้นที่ชื่อ ethylene ภายใต้ภาวะ (condition) จำเพาะภาวะหนึ่ง ได้เป็นพลาสติกที่มีคุณสมบัติ ทนความร้อนได้ดีระดับนึง (ดีกว่า PVC หลายเท่า) สามารถนำมาบรรจุน้ำดื่ม และอาหารได้ โดยไม่มีอันตราย สำหรับ DEHA นั้น ผมไปค้นในเว็บ National Institute of Standard Methodology (NIST)  www.nist.gov ได้ความว่า  มีสารเคมี 2 ตัวที่ใช้ชื่อย่อซ้ำกันว่า DEHA คือ 1. diethyl hydroxylamine (DEHA) 2. diethylhexyl adipate (DEHA) ที่มา http://webbook.nist.gov/cgi/cbook.cgi?Name=deha&Units=SI 1. diethyl hydroxylamine (DEHA) นั้นบ้างก็เรียกว่า DEHP ซึ่งเป็นสารที่คนเข้าใจผิดเสมอว่าเป็น DEHA ใน PET มีการศึกษาความเป็นพิษของ DEHP อย่างเอิกเกริกอยู่แล้ว หาอ่านได้ทั่วไปโดยเฉพาะเอกสารตีพิมพ์ของ FDA สหรัฐ (สำหรับ FDA ไทย เหอๆ ผมมะทราบครับ เพราะเข้าไปเสิร์ชใน อย. ไทยแล้วมะเจอข้อมูลอ่ะ หรือผมโง่ก็ไม่รู้ เสิร์ชไม่เป็นเอง) ง่ายๆ เลยก็ www.fda.gov แล้ว พิมพ์คำว่า deha, dehp แค่นี้แหละครับ pdf. file ประมาณ 50 หน้าก็โชว์หราเลย  เท่าๆที่เข้าไปอ่าน  โอ้ ถ้าอยากให้เป็นพิษก็ต้องโดสสารพวกนี้เป็นกรัมๆแหละครับ  (สารบริสุทธิ์ปริมาณเป็นกรัมเนี่ย ถือว่าเยอะค่อดๆ เลยครับ) แล้วยังงี้มันจะเอาปริมาณจากไหนมาเป็นพิษได้ครับ  ถ้ามันออกมาเยอะขนาดนั้น คุณพี่คุณน้องจะต้องมองเห็นเป็นตะกอนคลั่กเลยครับ DEHP เนี่ยจัดเป็นสาร antioxidant ใช้ในอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ เช่น สี หรือแม้แต่พลาสติกเองก็มีครับ (ใน พีวีซี หรือแม้แต่อุปกรณ์การแพทย์  .... งั้นคนไข้คงตายกันทั้ง โรง'บาน) บาง research ยังอ้างว่า DEHP เป็น antitumors --ต้านเนื้องอก ด้วยนะครับ  --- อย่างเว่อร์ อันนนี้ผมไม่เชื่อเท่าไหร่ครับ  ที่มา http://www.ncbi.nlm.nih.gov/entrez/query.fcgi?db=pubmed&cmd=Retrieve&dopt=AbstractPlus&list_uids=4032493&query_hl=2&itool=pubmed_docsum 2. diethylhexyl adipate (DEHA) ซึ่งความจริงแล้วบทความใส่ร้าย พลาสติก PET ต้องกล่าวว่า DEHA นั้นคือ diethylhexyl adipate ซะมากกว่า DEHA ในข้อ 1.   และสารในข้อ 2. นี้จะเป็นพิษไปได้อย่างไรครับ ในเมื่อเป็นสารที่เติมลงไปในกระบวนการผลิตพลาสติกใสห่ออาหาร ที่ทำให้พลาสติกพวกนี้มีคุณสมบัติ ยืดได้ ทนแรงฉีกได้ (พวก แรปๆทั้งหลายอ่ะครับ) ที่มา http://www.foodsafety.gov/~dms/fdacplas.html   นอกจากนี้ FDA ของสหรัฐก็ได้ประกาศว่าถึงแม้จะพบว่าอาจมีการปนของ DEHA ออกมาเมื่อห่ออาหารประเภททอด หรืออาหารมันๆ แต่ปริมาณที่พบนั้น ต่ำมาก (Very low)   อย่างไรก็ดีในขั้นตอนการผลิตพลาสติกแรปอาหารนั้น ได้มีการกำหนดให้ใช้ DEHA ในปริมาณต่ำอยู่แล้วนั่นเอง และ DEHA ไม่ได้แสดงลักษณะใดๆที่เป็นลักษณะที่พอจะเรียกได้ว่าเป็นสารก่อมะเร็ง ที่มา http://www.foodsafety.gov/~dms/fdacplas.html ซึ่งสารทั้ง 2 ชนิดนี้ไม่ได้เป็นทั้ง 1) สารตั้งต้นหรือวัตถุดิบ (pre-cursor or raw materials)   2) ผลิตภัณฑ์ข้างเคียงที่เกิดจากกระบวนการผลิต PET (By product)   3) และไม่ได้เป็นสารที่เกิดขึ้นจากการย่อยสลายของ PET (decomposition products) ทั้งหมดทั้งมวลแล้ว ถ้าอยากอ่านด้วยตนเอง ได้เลยครับผมมีบรรณานุกรมให้ครับ ภาษาไทย http://update.se-ed.com/218/letter.htm ภาษาอังกฤษ http://www.envis-icpe.com/PET%20bottles%20are%20safe%20to%20use.pdf นอกจากนี้การกล่าวอ้างตรากรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมมาใช้นั้น ผิดกฎหมายนะครับ โดยเฉพาะการให้ข้อมูลที่ผิดๆแล้วด้วย (ผมเข้าไปเสิร์ชในเว็บกรมฯนี้แล้ว แต่ก็ไม่เห็นมีข้อความใดๆ เกี่ยวกับพิษภัยของ DEHA ที่ออกมาจากการใช้ขวด PET ซ้ำเลยครับ) จบครับ ขอบคุณที่ทนอ่านนะครับ จากคุณ : Chaos dragon - [ 23 ม.ค. 51 09:26:05 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ^ ^ ^ แจ่มครับ ขอบคุณมากครับ จากคุณ : เศียรนาคา - [ 23 ม.ค. 51 09:43:49 ]

ความคิดเห็นที่ 6 PET ใส น่ากลัวน้อยกว่ากระปุกเครื่องสำอางสีๆ เยอะนะครับผมว่า แต่รู้สึกว่าจะไม่ยอม FW เมล์ต่อๆกัน จากคุณ : IRQ5 - [ 23 ม.ค. 51 09:50:22 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ผมอ่านแล้วก็สงสัยเหมือนกัน ข่าวบอกว่า ถ้ากินจากขวดจะเป็นอันตราย แล้วมันต่างตรงไหนระหว่าง กินจากขวด กับเอาน้ำจากขวดเทลงแก้ว? หรือปากเราทำปฏิกิริยากับขวด เมื่อเช้าฟังก็ยิ่งงง ประมาณว่า การกระแทกก็สามารถทำให้สารอะไรซักตัวนั่นหลุดออกมาได้? จากคุณ : zeros - [ 23 ม.ค. 51 10:02:46 ]

ความคิดเห็นที่ 8 แล้วเเน่ใจได้อย่างไร ว่า PET ที่มาผลิตเป็นขวด นั้น มี purity ที่สูงพออะครับ เพราะเเต่ละโรงงานผลิตเม็ดพลาสติกนั้นถ้ามีสารปนเปื้อนมาก็เเย่ ลำพังสาร PET มันไม่เป็นพิษอยู่เเล้วครับ ที่เค้ากลัวกันคือพวกผ่านการรีไซเคิล หรือพลาสติกเกรดต่ำๆ จากคุณ : Atomic Secret - [ 23 ม.ค. 51 10:09:09 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมว่านักข่าวควรมีการสอบความรู้ความสามารถด้านวิทยาศาสตร์เพิ่มเติมด้วยนะ ไม่ใช่แค่สอบทักษะการใช้ภาษาอย่างเดียว ตอนนี้คนที่รับสาร คงแตกตื่นกันน่าดู ไม่วายต้องให้ทาง อย. ออกมาแก้ข่าวให้วุ่นอีก ปล. ไม่ใช่แค่นักข่าวเท่านั้นที่ควรมีความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ แต่คนที่ทำสารคดีวิทยาศาสตร์ก็เช่นกัน สองสามวันมานี้ดูสารคดีของ TPBS รู้ได้เลยว่าเนื้อหาไม่ได้แปลโดยคนที่มีความรู้เฉพาะด้าน เพราะบางครั้งศัพท์ที่ควรแปลให้เข้าใจก็ไม่แปล หรือแปลออกมาเป็นภาษาแปลกๆไม่ตรงความหมาย แล้วแบบนี้จะให้คนทั่วๆไปเข้าใจได้อย่างไร เพราะขนาดคนแปลยังไม่รู้เรื่องเลย จากคุณ : Philosophos - [ 23 ม.ค. 51 10:37:29 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอให้ช่วยกันโหวตนะครับ จะได้เลิกเอา FW มาออกข่าวซักทีน่าเบื่อ จากคุณ : monjangja - [ 23 ม.ค. 51 10:40:20 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ครับ คือความจริงผมก็จำได้ว่าเคยมีกระทู้ที่ไขปัญหาจาก fw.mail แต่หาไม่เจอ รวมถึงกระทู้นั้นมีหลายเรื่องราวมากๆ  รวมถึงเป็นประเด็นที่เกิดจากรายการทีวีชื่อดัง เยต้องการเปิดประเด็นใหม่ โชคดีที่มีคนเก็บข้อมุลไว้   ขอบคุณมากๆครับ จากคุณ : KCrazy16 - [ 23 ม.ค. 51 10:51:41 ]

ความคิดเห็นที่ 12 สรุปแล้วไม่อันตรายใช่มั้ยครับ = =" ดูข่าวแล้วกลัวเหมือนกัน เพราะดื่มน้ำจากขวดพลาสติกเกือบทุกวัน จากคุณ : หญิงหน้าเศร้า - [ 23 ม.ค. 51 11:24:49 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อย่ากังวลมากไป เพราะในชีวิตประจำวัน เราก็ใช้บรรจุภัณฑ์ด้านอาหารที่ทำจากพลาสติกมากมาย พลาสติกเกรดที่เอามาทำจะผ่านการวิจัยมาแล้วว่าสามารถใช้ได้ ซึ่งหากบรรจุภัณฑ์ถูกเก็บตามสภาวะที่กำหนดแล้ว ก็จะปลอดภัยต่อการบริโภค พลาสติกขนิดที่น่าจะเป็นห่วง คือ ชนิดที่ผ่านการใช้งานมาแล้วและนำมารีไซเคิลใช้ใหม่ เช่น ถุงหูหิ้วที่มีการเติมสีลงไป ซึ่งจะมีความบริสุทธิ์ต่ำและอาจจะมีสารตัวเติมเพื่อปรับแต่งสมบัติบางอย่างของพลาสติกตกค้างอยู่ เราควรให้ความรู้กับประชาชนมากกว่า ว่าไม่ควรนำมาใช้งานผิดประเภท เช่น เอามาใส่อาหาร เป็นต้น จากคุณ : dd (dandilion) - [ 23 ม.ค. 51 12:26:58 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ตอนนี้ไอคนที่คิดค้นฟอเวิดเมลพวกนี้ขึ้นคงนอนขำกลิ้งอยู่บ้านดูข่าวประโคมเรื่องพวกนี้อย่างสบายอารมณ์ จากคุณ : Omkoy - [ 23 ม.ค. 51 14:39:35 ]

ความคิดเห็นที่ 15 according to issue#4 Is it possible to be total toxic substance having been in the body? It may be accumulated for several times and enough for the cancer condition. จากคุณ : kiwiboyz - [ 23 ม.ค. 51 16:23:20 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เป็นอย่างไม่ต้องสงสัยครับ ถ้าเอามาเผาไฟน่ะ -*- จากคุณ : Sillything - [ 23 ม.ค. 51 16:38:23 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขวดพลาสติก เก่าเอามาใช้ ผมเคยโทรไปตามเบอร์ข้างขวดแล้ว เค้าบอก เค้าทำมาเพื่อใช้ครั้งเดียวใช้แล้วควรทิ้งไปเลย จากคุณ : HMC - [ 23 ม.ค. 51 16:56:01 ]

ความคิดเห็นที่ 18 วันก่อนรายการจุดเปลี่ยน ทาง ช่อง 9 เคยทำวิจัยเรื่องนี้ครับ สรุปได้ว่า ที่จะสกปรกและเป็นอันตรายคือ บริเวณปากขวด คอขวดที่สัมผัสกับปากคนดื่มครับ ที่ต้องทำความสะอาดให้ดีพอ ถ้าจะนำกลับมาใช้ ส่วนเรื่องอื่นๆ ไม่ได้เป็นตามที่ Fw Mail ว่าครับ จากคุณ : หมูน้อยเบอร์7 - [ 23 ม.ค. 51 17:19:57 ]

ความคิดเห็นที่ 19 "ขวดพลาสติก เก่าเอามาใช้ ผมเคยโทรไปตามเบอร์ข้างขวดแล้ว เค้าบอก เค้าทำมาเพื่อใช้ครั้งเดียวใช้แล้วควรทิ้งไปเลย" จะได้ซื้อขวดใหม่ของเค้าไงครับ อิอิ จากคุณ : Sir.ขงเบ้ง - [ 23 ม.ค. 51 18:14:06 ]

ความคิดเห็นที่ 20 กินๆไปเหอะ ยังไงเราก็ต้องตายสักวัน จริงไหม? ไม่มีไรนะคะ แค่ปลง - - จากคุณ : ตั๊กจัง - [ 23 ม.ค. 51 21:02:45 ]

ความคิดเห็นที่ 21 สอรายู๊ดดดด ด ด ด เอา fwd mail มาเป็นข่าวให้คนตกใจกันทั่วบ้านทั่วเมือง สมกับเป็นการเล่าข่าวจริงๆ ไม่ใช่การวิเคราะห์ข่าว น่าจะจัดอยู่ในหมวด น.13 เลยนะเนี่ย อีตอนหนอน cool fever ยังไม่แตกพออีกหรอครับเพ่ จากคุณ : A49 GTR34 - [ 23 ม.ค. 51 22:44:41 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ที่ว่าใช้แล้วทิ้ง เขาน่าจะหมายความว่า ไม่สามารถรีไซเคิลได้มากกว่า เรื่องขวดพลาสติก เท่าที่เคยอ่านมา รู้สึกมันมีเงื่อนไขอยู่นะ คือ ขวดที่ว่า ต้องเอาไปตากแดด พอร้อนได้ที่ สารเคมีก็จะหลุดออกมา... จากคุณ : Murano - [ 23 ม.ค. 51 23:01:02 ]

ความคิดเห็นที่ 23 กินทุกวันฮะ แต่ไม่คิดว่าจะตายเพราะไอขวดพลาสติกนี่หรอก  อย่างอื่นน่ากลัวว่าเยอะ จากคุณ : ผีแดงเบอร์20 - [ 24 ม.ค. 51 02:20:48 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ถ้าเป็นพลาสติกที่เป็น PVC เมื่อถูกความร้อนมากๆ จะมสารก่อมะเร็งออกมาครับ ขวดน้ำมันพืชสมัยก่อนๆ จึงเปลี่ยนเป็นขวด PET เนื่องจากขวดน้ำมันมักจะวางใกล้เตาไฟซึ่งมีความร้อนครับ อันนี้เป็นความรู้ที่ได้เรียนมาจริงๆ ไม่ใช่มาจาก forwarded mail ครับ จากคุณ : wong - [ 24 ม.ค. 51 08:24:08 A:203.144.212.77 X: TicketID:134645 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ถ้าจริงประเทศที่เจริญแล้ว ห้ามใช้แล้วครับ อย่างตอนนี้ สีtartrazineยกเลิกไปแล้วหลายประเทศแล้วครับ ต้องมานั่งปวดหัวใช้สีธรรมชาติที่แพงมากๆ แทน จากคุณ : ฮา1 - [ 24 ม.ค. 51 22:26:36 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขออนุญาตสรุปข้อมูลต่างๆ เท่าที่ข้าพเจ้าทราบอยู่ในขณะนี้ครับ. == forward mail เรื่องเด็กชาวดูไบตายจากการดื่มน้ำจากขวดพลาสติก == === English version === forward mail ฉบับภาษาอังกฤษที่เวียนอยู่ใน internet * http://www.mail-archive.com/smun65@yahoogroups.com/msg00101.html * http://www.dawn.com/2004/03/14/letted.htm จดหมายข่าวในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่มีเนื้อหาเหมือนกับใน forward mail ชนิดคำต่อคำ * http://www.britishschool.edu.om/newsletters/newsletterjune06.pdf (หน้า 4 หัวข้อเรื่อง Health & Safety) จดหมายข่าวจาก CUTS safety watch (CUTS = Consumer Unity & Trust Society), เนื้อหาโดยสรุปจะเหมือนกับใน forward mail, แต่ไม่ได้เหมือนกันแบบคำต่อคำ * http://www.cuts-international.org/pdf/beware3-04.pdf (หน้า 3 หัวข้อแรก) === Thai version === มีการแปลเป็นภาษาไทย แพร่หลายอยู่ในเว็บต่างๆ * http://astarlink.exteen.com/20050921/pet * http://variety.teenee.com/foodforbrain/457.html * http://gotoknow.org/blog/handyman/102203 === Thai version 2 === หนังสือพิมพ์สยามรัฐลงข่าวเรื่องเด็กชาวดูไบตายจากการดื่มน้ำจากขวดพลาสติก * สคบ. (สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค) นำข่าวจากสยามรัฐ ไปลงในวารสาร สคบ. * โบรชัวร์โฆษณา ขายของ ของ ทัปเปอร์แวร์ ได้ตัดข่าว สคบ. นี้มาลงในโบรชัวร์, และ แนะนำให้หันมาใช้ ทัปเปอร์แวร์ แทน. เทศบาลตำบลโกรกพระ และ สำนักงานพาณิชย์ยะลา คัดลอกข่าวจากวารสาร สคบ. ไปลงอีกต่อหนึ่ง * http://www.krokphra.go.th/news/sorkorbor/sorcorbor.htm * http://pcoc.moc.go.th/pcocsys/view_news.aspx?data_id=349&control_id=8&pv=95&view=1 === ข้อมูลอีกด้านหนึ่ง === ข้อมูลที่พยามยามหักล้างความน่าเชื่อถือ ของ forward mail, โดยอ้างวิทยานิพนธ์ของนักศึกษาผู้หนึ่ง * http://learners.in.th/blog/living-green/45281#91425 อีกข้อมูลที่มีการหักล้างในประเด็นของสาร DEHA * http://update.se-ed.com/218/letter.htm * http://pantip.com/cafe/wahkor/topic/X6261246/X6261246.html#4 * http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2007/10/X5940947/X5940947.html#3 ** ข้อมูลจาก url อันที่ 3 นี้จะต่างจาก 2 อันแรกตรงที่ url นี้บอกว่า Diethylhexyl adipate ใช้ในการผลิต PET ในขณะที่ 2 อันแรก บอกว่า Diethylhexyl adipate ไม่ได้ใช้ใน PET แต่ใช้ในฟิล์มพลาสติกใสที่ใช้ห่ออาหาร ในอีกกระทู้หนึ่ง * http://topicstock.pantip.com/lumpini/topicstock/2007/08/L5687973/L5687973.html == อันตรายจากสาร Bisphenol A ที่ใช้ในการผลิตขวด PET == ในกรณีของเด็กชาวดูไบตายที่กล่าวถึงใน forward mail ที่แพร่หลายนั้น, กล่าวถึงแต่เพียงสาร DEHA เท่านั้น.  ทั้งนี้มีบทความหนึ่งได้กล่าวถึงสารพิษที่ต่างออกไปคือ Bisphenol A * http://learners.in.th/blog/living-green/45281 * http://learners.in.th/blog/living-green/83016 ข้อมูลเรื่องสาร Bisphenol A ในขวดพลาสติก จาก wikipedia * http://en.wikipedia.org/wiki/Bisphenol_A#Identification_in_Plastics ยังไม่มีข้อมูลที่ออกมาแย้งเรื่องสาร Bisphenol A ได้อย่างชัดแจ้งเท่ากรณีของสาร DEHA มากนัก. ส่วนใหญ่จะเป็นการแย้งในประเด็นเรื่องความเข้มข้นของสารที่ปนเปื้อนออกมาอาจต่ำกว่าขีดอันตรายมาก, หรืออยู่ในระดับที่ยอมรับได้. จากคุณ : อานนท์ (อานนท์ ศรีเจริญชัย) - [ 26 ม.ค. 51 13:39:42 ]