ความคิดเห็นที่ 1 10 นิวตั้น นั่นมันแรง ครับ ไม่ใช่งานหรือพลังงาน และทิศทาง Action และ Reactionมันตรงข้ามกัน ถึงหักล้างกันได้พอดี ส่วน งาน หรือ พลังงานนั้น ต้องเป็น แรง X ระยะทาง ถึงได้เป็นงาน หรือพลังงาน จากคุณ : -=Jfk=- - [ 28 ม.ค. 51 15:32:01 ]

ความคิดเห็นที่ 2 งาน = แรงคูณระยะทางถูกค่ะ ในข้อนี้งานเป็น 0 แต่พลังงานไม่ใช่ เพราะ เราใช้พลังงานกับการดึงด้วยนี่คะ เราจึงสูญเสียพลังงาน ดังนั้น พลังงาน ไม่เป็นศูนย์แน่ๆ เข้าใจอย่างนี้ถูกไหมคะ คคห1 จากคุณ : มิ้นๆ (mint_la) - [ 28 ม.ค. 51 15:37:43 ]

ความคิดเห็นที่ 3 หรือขยายความก็คือ เราใช้พลังงานในการสร้างแรงใช่ไหมคะ ถ้าแรงเพิ่มแปลว่าต้องใช้พลังงานเพิ่ม แปลว่าพลังงานและแรงผันตามกัน จากคุณ : มิ้นๆ (mint_la) - [ 28 ม.ค. 51 15:42:39 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ยกตัวอย่าง มนุษย์A ผลักมนุษย์B มวลเท่า ทุกอย่างเท่า กรณี1 AผลักB ด้วยแรง10นิวตั้น (A ออกแรง Bไม่ออก)โดยเป็นการผลักแบบยืดหยุ่นสมบูรณ์ B จะreaction Bจะผลักใส่ A ด้วยแรง10 นิวตั้น เช่นกันทำให้ทั้งสองกระเด็นจากจุดผลักเป็นระยะทางเท่ากัน สมมุติกระเด็นไปคนละ10 เมตร (ระยะทางที่ได้เกิดจากพลังงานของA) กรณี2 เปลี่ยนใหม่เป็น AผลักB ด้วยแรง10นิวตั้น และ Bก็ผลัก Aเช่นกัน(ออกแรงทั้งคู่) ต่างจากกรณีแรกอย่างไร ระยะทางจะมากกว่าหรือไม่ (ระยะทางที่ได้เกิดจากพลังงานของทั้งA และ B) กรณีที่3 เพิ่ม จากกรณีที่1 นำพลังงานจากกรณีแรกมาใช้ในการเคลื่อนที่ล้วนๆ จะได้เท่ากับระยะทางของAอย่างเดียว หรือระยะทางของA+B ในกรณีที่1นะ แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 51 16:33:28 จากคุณ : มิ้นๆ (mint_la) - [ 28 ม.ค. 51 15:59:12 ]

ความคิดเห็นที่ 5 แรงเป็นเวกเตอร์ปล่าวครับ แบบว่ามีทิศทาง สมมตแอคชั่นมีทิศเป็นลบ รีแอคชั่นมีทิศเป็นบวก จากคุณ : ไกลคน - [ 28 ม.ค. 51 16:00:27 A:58.9.130.19 X: TicketID:162169 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อ.ที่สอนคอมค่ายโอฯท่านหนึี่งเคยสอน (- -"): นักเรียน...กฏนิวตันมีกี่ข้้อ... (^ ^) : 3 คับ (- -"): 4 นะ (^ ^) : แล้วอีกข้อเค้าว่ายังไงคับ(เกี่ยวไรกะคอมเนี่ย) (- -"): ข้อที่ 4  ..ต้องยอมเสียแรง...เพื่อให้ได้แรง... (^ ^) : .....แหะๆ คับๆ จากคุณ : มิ่งกลิ้ง - [ 28 ม.ค. 51 16:19:05 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คุ้นๆเหมือนเคยอ่านมาว่า แรง action กับ reaction ไม่สามารถหักล้างกันได้ค่ะ เพราะว่าแรงกระทำกันบนคนละวัตถุ  คนละตัวกัน เลยนำมาหักล้างหาแรงลัพธ์ไม่ได้ แต่ว่าขนาดจะเท่ากัน และมีทิศตรงกันข้าม ป.ล.ผิดถูกประการใดขออภัยด้วยงับ จากคุณ : น้องถั่วเหลือง - [ 28 ม.ค. 51 16:29:09 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ^ ^ ^ ถูกต้องแล้วครับ action ไม่หักล้างกับ react ไม่งั้นกระสวยอวกาศคงบินไม่ได้ -*- ส่วนเรื่องดึงต้นไม้ ผมขออธิบายว่าแรง10นิวตันที่คุณดึงต้นไม้ มันไปสมดุลกับแรงเสียดทานที่รากต้นไม้ยึดกับดินอยู่ แรงเสียดทานนี้เรียกว่าแรงเสียดทานสถิตย์ เกิดขึ้นเมื่อมีแรงมากระทำกับวัตถุแต่วัต:-)ังไม่เคลื่อนที่ พลังงานที่คุณเสียไปเพื่อเอาชนะแรงเสียดทานนั้น ไม่ได้สูญหายไปไหน และเมื่อคุณออกแรงมากถึงค่าหนึ่งที่แรงที่คุณดึงจะมากกว่าแรงเสียดทานสถิตย์สูงสุด ทำให้เกิดการเคลื่อนที่ของต้นไม้ขึ้น   จากที่ผมอธิบายนี้การที่ต้นไม้มีแรงเสียดทานก็เหมือนกับ reaction ที่ต้นไม้กระทำต่อคุณที่คุณไปดึงมัน ยิ่งออกแรงดึงมันมาก แรงเสียดทานของต้นไม้ก็ยิ่งมากไปด้วย จากคุณ : Omkoy - [ 28 ม.ค. 51 16:55:19 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คุณ Omkoy กล่าวถูกแล้ว แต่กระทู้นี้ไม่ได้ถามกฏข้อ1 ถามกฏข้อ3กันอยู่ค่ะ แรงเสียดทานและแรงปฏิกริยามันคนละตัวกันนะคะ ว่าแต่ว่าลืมคิดแรงเสียดทานที่เท้ารึป่าว แก้ไข ถ้าอย่างนั้นจากคคห.4จะต้องตอบว่าอย่างไร แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 51 18:26:06 แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 51 17:59:31 จากคุณ : มิ้นๆ (mint_la) - [ 28 ม.ค. 51 17:12:15 ]

ความคิดเห็นที่ 10 มันเป็นผลสืบเนื่องมาจากกฏข้อที่ 1 และกฎข้อที่สองครับ จากคุณ : T2005 - [ 28 ม.ค. 51 17:54:54 ]

ความคิดเห็นที่ 11 F = 0 F = ma 0 = ma    แน๊ จากคุณ : บ่าวจ่อย - [ 28 ม.ค. 51 19:49:36 ]

ความคิดเห็นที่ 12 กฎข้อ 3 ใช้ได้ในกรณี เคลื่อนที่ด้วยความเร็วคงที่ หรือ หยุดนิ่ง เท่านั้น แรงปฏิกิริยามันเป็นแรงอะไรก็ได้ครับ ขอให้มีทิศกลับกับแรงที่กระทำ คนผลักโต๊ะ(แต่ต้องไม่เลื่อน เพราะถ้าเลื่อนจะไม่สามารถใช้กฎข้อ 3) แรงกระทำ = แรงเสียดทาน   เพราะมีแรงเดียวที่สามารถเกิดขึ้นได้ในตอนนั้น ผมคิดว่ามันเป็นคนละระบบกันกับที่ mint_la เข้าใจ ระบบที่ไม่เกิดงานคือ การผลักวัตถุ ไม่เกี่ยวกับความรู้สึกส่วนตัวว่าเราผลักแล้วมันเหนื่อย เราเสียงานตาม คห.3 เราออกแรงกระทำอย่างต่อเนื่อง ทำให้กล้ามเนื้อมันเมื่อย แต่แรงมีค่าคงที่ คห.4 น่าจะใช้สมดุลโมเมนตัมอธิบายมากกว่า พอโยงไปกฎทรงพลังงานจะได้ว่าพลังงานรวมเป็นศูนย์ จากคุณ : dakong - [ 28 ม.ค. 51 22:10:33 ]

ความคิดเห็นที่ 13 "ความคิดเห็นที่ 2            งาน = แรงคูณระยะทางถูกค่ะ          ในข้อนี้งานเป็น 0          แต่พลังงานไม่ใช่ เพราะ เราใช้พลังงานกับการดึงด้วยนี่คะ เราจึงสูญ              เสียพลังงาน ดังนั้น พลังงาน ไม่เป็นศูนย์แน่ๆ " การดึงหรือผลักที่ไม่เกิดการเคลื่อนที่  ไม่นับเป็นงาน ดังที่ จขกท. บอก พลังงานกับงานมันหน่วยเดียวกัน คือ จูล หรือเรียกได้ว่าเป็นอันเดียวกัน     คนดึงต้นไม้ออกแรงดึงมันอยู่อย่างนั้น คนต้องเสียพลังงานในกล้ามเนื้อ แต่ output ยังเป็นศูนย์ เพราะยังยื้อกันอยู่ ไม่เคลื่อนที่ก็ไม่เกิดงาน     ผมนอนอยู่ชั้นสอง บ้านออกแรงพยุงผมไม่ให้ยุบหล่นลงชั้นล่าง บ้านสูญเสียพลังงานในการพยุงผมทั้งวันทั้งคืนหรืออาจยาวนานเป็นปี หรือหลายปี แต่บ้านไม่ยักกะหมดแรง แถมไม่ต้องกินอาหาร ไม่ต้องเติมน้ำมัน อย่างนี้เราจะคำนวณว่าบ้านออกแรง  ดังนั้นจะสรุปว่าพลังงานในการพยุงไม่เป็นศูนย์แน่ๆ ก็กระไรอยู่ โลกออกแรงดึงวัตถุต่างๆ บ้าน ตึก หิน แม้อยู่นิ่งๆ โลกก็ยังออกแรงดูดอยู่อย่างนั้นเป็นอย่างนั้นทั้งปีทั้งชาติ โลกสูญเสียพลังงานไหม จากคุณ : =Lord Gary= - [ 28 ม.ค. 51 22:12:45 ]

ความคิดเห็นที่ 14 มันไม่ได้เกิดงาน จึงไม่มีพลังงาน จากคุณ : weerahi - [ 29 ม.ค. 51 00:01:10 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ต่อยกำแพงแล้วเจ็บไงครับ คือ action = reaction จากคุณ : ผ่านมานานๆที (EITHER) - [ 29 ม.ค. 51 00:50:47 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ^ ^ ^ แต่ถ้าต่อยหน้า นักเลง โดยเฉพาะพวกที่จำชื่อพ่อไม่ได้ คนต่อยเจ็บมากกว่าคนถูกต่อย ในกรณีนี้ Action ไม่เท่ากับ Reaaction อ่ะเป่าคับ จากคุณ : Waterman (LN106) - [ 29 ม.ค. 51 01:54:00 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอแบบเคลียร์ๆซักคนได้ไหมคะ เท่าที่อ่านยังไม่ชัดเจนเลย ใครตอบคคห4 แบบชัวร์ๆซักคนได้ไหมคะ จากคุณ : มิ้นๆ (mint_la) - [ 29 ม.ค. 51 02:08:08 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ตอบคุณคคห.13 คุณ=Lord Gary= แล้วคุณว่า ถนนที่มีรถวิ่งพลุกพล่านกับถนนที่ไม่มีรถวิ่งผ่านเลยอันไหนจะพังเร็วกว่ากัน ในกรณีของโลก เข้าใจว่าเกิดแรงทุกๆฝั่ง เพราะโลกกลม และพลังงานไม่สูญหายไปจากโลกเนื่องจากโลกเป็นระบบปิด พลังงานจึงวนเวียนอยู่ในโลก แต่สำหรับตัวเราที่ใช้แรงดึงต้นไม้ คุณกำลังจะบอกว่าเราไม่ต้องใช้พลังงานในการดึงอย่างนั้นหรือ จากคุณ : มิ้นๆ (mint_la) - [ 29 ม.ค. 51 02:13:28 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ออกแรงดึงมันก็มีแรงต้าน  ไม่ได้งาน   เสียพลังงานฟรีๆเรียกว่าทำงานแต่ไม่ได้งานตามภาษาวิทย์ คุณเอาพลังงานที่เสียไปในการทำงานแล้วไม่ได้งานไปเกี่ยวข้องกับกฏของแรงมันก็งงกันไปใหญ่ ต้องแยกออกจากกันมันคนละส่วนอาหารเปลี่ยนเป็นพลังงานในร่างกายแล้วจ่ายไปดึงเชือกดึงต้นไม้ พลังงานไปอยู่ในเชือกและที่ต้นไม้เช่นเชือกตึง เปลือกไม้เคลียด ถ้ามีการเสียดสีก็เกิดความรอ้น เกิดเสียงพลังงานที่คุณจ่ายไปไม่หายไปไหนสิงสถิตย์อยู่ตามเชือกตามต้นไม้กระจายไปกับอากาศ ฯฯ เพียงแต่พลังงานที่คุณใช้ไปมันไม่เกิดงานตามหลักวิชาวิทยาศาสตร์เท่านั้นเอง แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 51 06:38:29 จากคุณ : ตาเป๋า - [ 29 ม.ค. 51 06:27:54 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คห # 4 1. A ผลัก B ถ้า B มีแรงต้านเท่ากันมันก็หายกันมันจะกระเด็นไปได้อย่างใร 2. ต่างคนต่างผลักมันก็อยู่ที่เดิม 3. ถ้าใช้ในทิศทางเดียวกันมันก็ A + B    คุณน่ะชอบคิดลึก จากคุณ : ตาเป๋า - [ 29 ม.ค. 51 08:23:49 ]

ความคิดเห็นที่ 21 แถม ถ้าขับรถด้วยความเร็ว 100 km/hr ด้วยความเร็วคงที่ อัตราเร่งจะเท่ากับ 0 แต่ทำไมชนกำแพงแล้วรถพังในเมื่อ f=ma a=0 f=0 เพราะตอนรถชนกำแพงปุ๊ปความเร็วจะลดลงอย่างรวดเร็วทำให้เกิด a เยอะมาก f ก็เลยมหาศาล รถก็เลยพัง ใช่ป่าวหว่า จากคุณ : น้องเจสซี่ - [ 29 ม.ค. 51 09:05:22 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ตาม ตาเป๋า #19 เลยครับ ยกเว้น #20 "คุณน่ะชอบคิดลึก" อันนี้ไม่เห็นด้วย เพราะนอกจากบั่นทอนกำลังใจแล้ว ยังขัดต่อกระบวนการเรียนรู้เชิงวิทย์ คิดลึกคิดไปเถอะ  ยิ่งลึกยิ่งเสียว...เอ้ย..(ไม่ใช่)...ยิ่งดี  เท่าที่มันสมองจะอำนวย หรือจนกว่าจะบ้ากันไปข้าง   พลังงานในกล้ามเนื้อที่สูญเสีย มันถ่ายทอดให้สิ่งต่างๆ รอบตัว ยิ่งดึงออกแรงมาก ดินยิ่งยุบลง พื้นโลกแอ่นท้องช้าง ก็เหมือนการกดสปริงที่รอวันเด้งกลับ แต่พื้นโลกหนามาก จึงแอ่นน้อย จริงๆ ผมก็ไม่รู้ว่าพลังงานมันหายไปไหนบ้าง ขอนั่งคิดก่อน จากคุณ : =Lord Gary= - [ 29 ม.ค. 51 10:02:51 ]

ความคิดเห็นที่ 23 สับสนๆ กฏนิวตั้น แบบย่อๆ จากกฏข้อที่1 ซิกม่าf=0  กรณีวัตถุนิ่งหรือความเร็วคงที่ จากกฏข้อที่2 ซิกม่าf=ma กรณีวัตถุมีความเร่ง และข้อ3 action = reac  กรณีวัตถุนิ่งหรือความเร็วคงที่ งงตรงกฏข้อที่3 action = reaction ผมว่ากฎข้อ3 อาจคือกฎข้อ1 เพราะข้อ3 action = reac ดังนั้น  action-reac = 0 หรือ กฏข้อที่1 ซิกม่าf=0 คงต้องพิจารณาว่าวัตถุอยู่นิ่งหรือเร็วคงที่ กับวัตถุมีความเร่ง เมื่อวัตถุอยู่นิ่งหรือเร็วคงที่ ผลรวมแรงย่อมเท่ากับศูนย์ หรือแรงหยินเท่ากับแรงหยาง หรือแรงดึงเท่าแรงผลัก หรือ action = reac จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 29 ม.ค. 51 10:47:11 ]

ความคิดเห็นที่ 24 #23 คุณ เมษ "ผมว่ากฎข้อ3 อาจคือกฎข้อ1 เพราะข้อ3 action = reac ดังนั้น  action-reac = 0 หรือ กฏข้อที่1 ซิกม่าf=0" ความเห็นบน ๆ ก่อนหน้านั้นบอกว่า action กับ reaction กระทำกับวัตถุคนละตัวกัน  ดังนั้นจะเอามาหักล้างกันไม่ได้ ซึ่งผมก้อเห็นด้วย จากคุณ : =Lord Gary= - [ 29 ม.ค. 51 11:19:44 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ตามความเข้าใจของผม แรง action กับ reaction น่าจะกระทำวัตถุเดียวกัน Equilibrium Means "Zero Acceleration"  สมดุลคือความเร่งเท่าศูนย์ http://sol.sci.uop.edu/~jfalward/physics17/chapter2/chapter2.html จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 29 ม.ค. 51 11:42:19 ]

ความคิดเห็นที่ 26 แรงกระทำต่อวัตถุเป็นเวคเตอร์ บวกลบกันได้ จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 29 ม.ค. 51 11:52:34 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ถ้าเข็นกล่องความเร็วคงที่ แรงผลักเท่าแรงฝืด กระทำต่อกล่อง จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 29 ม.ค. 51 11:56:35 ]

ความคิดเห็นที่ 28 งงตรงกฏข้อที่3 action = reaction หากเรา ใช้พลังงาน10นิวตั้นดึงเชือกที่ผูกกับต้นไม้ ต้นไม้ก็จะดึงเราด้วยแรงเท่ากัน เราดึง 10นิวตั้น  ต้นไม้ก็ดึง10นิวตั้น รวม 20 แล้วพลังงานมันเพิ่มมาได้ไง   นิวตันเป็นแรง ไม่ใช่พลังงาน แรงเป็นเวคเตอร์ บวกลบแบบเวคเตอร์ ดึงเชือกด้วยแรง10นิวตัน ต้นไม้ฝืนด้วยแรง10นิวตัน ต้นไม้อยู่นิ่ง แรงมีทิศตรงข้ามกัน บวกกันได้0นิวตัน จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 29 ม.ค. 51 12:14:42 ]

ความคิดเห็นที่ 29 กฎการเคลื่อนที่ของนิวตั้น 1 วัตถุอยู่นิ่งหรือความเร็วคงที่ เว้นแต่มีแรงกระทำ 2 แรงสุทธิเท่ามวลคูณความเร่ง 3 ทุกการกระทำมีปฏิกิริยาตรงข้ามเท่ากัน Newton's laws of motion http://en.wikipedia.org/wiki/Newton's_laws_of_motion 1 A physical body will remain at rest, or continue to move at a constant velocity, unless an external net force acts upon it. 2 The net force on a body is equal to its mass multiplied by its acceleration. 3 For every action there is an equal and opposite reaction. จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 29 ม.ค. 51 12:29:12 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ถ้าสับสน ตามความเห็นส่วนตัวนิวตั้นน่าจะเสนอกฎเคลื่อนที่ข้อเดียวข้อ2 แรงสุทธิที่กระทำเท่ามวลคูณความเร่ง เพราะกฎข้อ1และ3เกิดกรณีความเร่งเป็นศูนย์ 1 ความเร่งเป็นศูนย์ F = ma แรงสุทธิเป็นศูนย์ วัตถุอยู่นิ่งหรือเร็วคงที่ 3 แรงกระทำต่อวัตถุ แรงไปหน้าเท่าแรงไปหลัง แรงไปซ้ายเท่าแรงไปขวา แรงไปบนเท่าแรงไปล่าง หรือแรงทั้ง3มิติบวกลบกันเท่าศูนย์ F = ma แรงสุทธิเท่าศูนย์ มีมวล ความเร่งจึงเป็นศูนย์ จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 29 ม.ค. 51 12:51:12 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ผมกับแฟนนั่งบนเรือคนละลำ กลางบึง  อยู่ๆ ผมก็ออกแรงผลักเรือที่แฟนนั่งอยู่ให้ใหลเข้าฝั่ง ผลคือเรือที่แฟนผมนั่งถูกแรงผลัก  ใหลเข้าฝั่งตามแนวแรงของผม หรือเรียกว่า ตามแรง action ของผม ส่วนเรือที่ผมนั่ง ถูกแรง reaction จากเรื่อที่แฟนผมนั่ง   ทำให้เรือผมลอยละลิ่วออกไปกลางบึงใหญ่ (ต้องพายกลับมาเอง) ผมยังเห็นว่า action กับ  reaction กระทำกันคนละวัตถุ จากคุณ : =Lord Gary= - [ 29 ม.ค. 51 16:07:57 ]

ความคิดเห็นที่ 32 #31 ผมคิดลึกไปถึงการระเบิดอ่ะ  - -" ตอนนี้ในหัวมีแต่ กฎข้อที่สองของเทอร์โมฯ  เง้อออออ จากคุณ : Atomos'Bao - [ 29 ม.ค. 51 16:28:16 ]

ความคิดเห็นที่ 33 คห.#31 คุณ  Lord Gary คุณออกแรงผลักเรือ 2 ลำต่างหาก   เรือทั้งสองลำไม่เกี่ยวข้องกัน 1 ตอนคุณผลักเรือแฟนคุณตอนแรกเรือไม่ขยับเพราะเรือมีแรงต้านแรงจากคุณเมื่อออกแรงมากขึ้น  เรือก็เคลื่อนที่ด้วยอัตราเร่ง 2.เรือที่คุณนั่งก็เกิดเหตุการณ์เดียวกันเพียงแต่มันไปในทิศทางตรงข้าม 3.แรงที่ผลักเรือทั้งสองลำ = 1+2  เพราะทิศทางของแรงมันออกจากตัวคุณไปผลักเรือ 2 ลำ 4.คุณคงงงตรงทิศทางของเรือ กับ ทิศทางของแรง จากคุณ : ตาเป๋า - [ 29 ม.ค. 51 18:37:08 ]

ความคิดเห็นที่ 34 #33 คุณ ตาเป๋า แล้วแรง reaction ที่เรือแฟนผมมีขณะผมผลัก จะ apply กับวัตถุอันไหนล่ะครับ จากคุณ : =Lord Gary= - [ 29 ม.ค. 51 20:40:38 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เอาล่ะสิเริ่มเถียงกันเองแล้ว นู๋มิ้นจะทำยังไงดีล่ะเออ พ่อนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลาย ตอบทีละความเห็นละกันนะคะ และขอความกรุณาเข้ามาออกความเห็นกันเยอะๆนะคะ #19ถูก #20ตาเป๋าผิดค่ะ  งั้นแปลว่า การถูกผลักไม่ทำให้กระเด็นเหรอ เพราะทุกแรงย่อมมีแรงปฏิกริยา คุณสับสนอะไรเปล่าคะ ไม่เชื่อลองผลักเก้าอี้ หรือคอมก้อได้นะ แล้วดูว่ามันกระเด็นได้ป่าว #21 ผิดอย่างรุนแรง ขอแนะนำคุณไปหาตำราเรียนม4มาอ่านใหม่ (อธิบายให้ก็ได้ว่า คุณพูดถึงแรงและความเร็วคนละจุด แรงที่ต้องพิจารณาเมื่อควมเร็วคงที่ ความเร่งเป็น0คือแรงที่กระทำกับรถไม่ใช่รถกระทำกับกำแพงในที่นี้แปลว่าเมื่อความเร็วคงที่หมายถึงรถไม่มีการเร่งเครื่อง หรืออีกนัยหนึ่งคือรถไม่ต้องเผาผลาญน้ำมันและนำพลังงานไปขับเคลื่อนล้อทำให้เกิดทอร์ค และทอร์กก็ทำให้เกิดแรงตามมมา) #22 คุน Lora Gory พยายามเข้า #25 คุณเมษ จากรูปที่คุณหามามันก็ฟ้องในตัวมันเองว่าเป็นแรงที่ทำในวัตถุคนละก้อน #26 และ 27 ถูกต้อง #28 กลับไปดูคคห3 #30ผิด จาก#29 ข้อ3 ทุกการกระทำมีปฏิกิริยาตรงข้ามเท่ากัน นั่นไม่จำเป็นว่ามีความเร่งหรือไม่มี #31 ถูกต้อง #32 ผลักเรือลำเดียว แต่อีกแรงหนึ่งที่เกิดขึ้นคือreactionไงล่ะคะ  จากข้อ3 ของคคห29 แล้วท่านอื่นๆคิดว่าไงบ้าง จากคุณ : มิ้นๆ (mint_la) - [ 29 ม.ค. 51 22:20:38 ]

ความคิดเห็นที่ 36 #34คุณLord Gary แล้วแรง reaction ที่เรือแฟนผมมีขณะผมผลัก จะ apply กับวัตถุอันไหนล่ะครับ    ................................................... ตอนที่คุณยื่นมือออกไปผลักเรือแฟนคุณ พอมือคุณแตะเรือ  เรือมันก็แตะคุณ ac กับ reac เกิดตรงนี้  ตรงเรือกับมือคุณ   แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 51 03:35:39 จากคุณ : ตาเป๋า - [ 30 ม.ค. 51 00:09:11 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ตื่นแล้ว นอนแค่ 3 ชั่วโมงเองครับ สับสนที่ ค.ห.4 ของคุณมิ๊นนั่นแหละครับ งง  คุณต้องการทราบพลังงานที่ทำให้คนกระเด็น หรือต้องการทราบการกระทำของแรง       ทำไมไม่ให้ 2 คนนั้นออกแรงผ่านตัวกลางละครับ เช่นเอาแผ่นไม้อัดกั้นไว้ AผลักB ก็ผลักผ่านไม้อัด 2 คนจะกระเด็นไปไหนก็เรื่องของเขาผลลัพธ์ ของแรงอยู่ที่แผ่นไม้อัด  ก็เราพูดกันเรื่องแรงนี่นา    ยิ่งคิดถึงโจทย์คุณก็ยิ่งงง จากคุณ : ตาเป๋า - [ 30 ม.ค. 51 04:54:35 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ความคิดเห็นที่ 35 #25 คุณเมษ จากรูปที่คุณหามามันก็ฟ้องในตัวมันเองว่าเป็นแรงที่ทำในวัตถุคนละก้อน ความเห็นส่วนตัวยังคิดว่ารูปแสดงว่าแรงทำวัตถุก้อนเดียวกันนะครับ ต้องเข้าใจก่อนว่ารูปความคิดเห็นที่ 25ต้องการบอกว่ามีแรงทำวัตถุอยู่ แต่วัตถุอยู่นิ่ง คือไม่ขยับ สมดุลคือความเร่งเท่ากับศูนย์ เพราะฉะนั้นผลรวมของแรงเท่ากับศูนย์ ถ้ามีแรงดึงขึ้น X นิวตันก็มีแรงดึงลง X นิวตัน ในรูปแรงทำต่อหนังสือ มือ ตัวเด็ก หรือ action =reaction กรณีสมดุล จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 30 ม.ค. 51 08:22:35 ]

ความคิดเห็นที่ 39 #28 กลับไปดูคคห3 หากเรา ใช้พลังงาน10นิวตั้นดึงเชือกที่ผูกกับต้นไม้ ต้นไม้ก็จะดึงเราด้วยแรงเท่ากัน เราดึง 10นิวตั้นต้นไม้ก็ดึง10นิวตั้น รวม 20 แล้วพลังงานมันเพิ่มมาได้ไง   การดึงเชือก10นิวตัน ต้นไม้อยู่นิ่งผลรวมแรงเท่าศูนย์แสดงว่าต้นไม้ดันเชือก ด้วยแรง10นิวตันเช่นกัน แต่แรงทิศตรงข้ามกัน สรุปเชือกโดน2แรงกระทำ การบวกลบแรงเป็นเวคเตอร์ต้องนำทิศทางมาคิดด้วย ที่บอก10+10เป็น20 จึงไม่ถูกต้องครับ อย่างรูปข้างล่างช่อง2 ดึงด้วยแรง5นิวตัน2แรง ทิศตรงข้ามกัน ผลรวมแรงเป็น 0 นิวตัน ไม่ใช่ 10นิวตัน จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 30 ม.ค. 51 08:38:31 ]

ความคิดเห็นที่ 40 #30ผิด จาก#29 ข้อ3 ทุกการกระทำมีปฏิกิริยาตรงข้ามเท่ากัน นั่นไม่จำเป็นว่ามีความเร่งหรือไม่มี ตามความเข้าใจไม่ใช่ ทุกการกระทำมีปฏิกิริยาตรงข้ามเท่ากัน นั่นไม่จำเป็นว่ามีความเร่งหรือไม่มี ตามกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน action = reaction หมายถึงแรงเท่านั้น แรงกระทำเท่ากับแรงปฏิกิริยา กรณีไม่มีความเร่งเท่านั้น เรือคนละลำ กลางบึง  อยู่ๆ ผมก็ออกแรงผลักเรือที่แฟนนั่งอยู่ให้ใหลเข้าฝั่ง ผลคือเรือที่แฟนผมนั่งถูกแรงผลัก  ใหลเข้าฝั่งตามแนวแรงของผม ถ้า action = reaction ผมผลักด้วยแรง X เรือโต้กลับด้วยแรง X เรือไม่ควรเคลื่อนที่ เพราะแรงหักล้างกันไปพอดี ข้อเท็จจริงเรือเคลื่อนที่ เพราะฉะนั้นเรือโต้แรงผลักน้อยกว่า X จึงมีแรงสุทธิไม่เท่ากับศูนย์ เรือจึงมีความเร่งเคลื่อนที่ไป ข้อสรุปของผมคือ action = reaction ความเร่งต้องเป็นศูนย์ ถ้ามีความเร่งต้องมีแรงสุทธิไม่เป็นศูนย์  action ไม่เท่า reaction จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 30 ม.ค. 51 10:04:29 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ความเห็น 35#  มิ้นๆ "เอาล่ะสิเริ่มเถียงกันเองแล้ว นู๋มิ้นจะทำยังไงดีล่ะเออ พ่อนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลาย" เหอ ๆ เถียงกันเองในลักษณะ argument เพื่อแสวงหาความจริงให้ปรากฎ น่าส่งเสริมครับ ไม่ใช่เอะอะทีก็เออออห่อหมก ถ้าถูกก็ดีไป ถ้าผิดก็ออกทะเลยกขบวน ส่วนนู๋มิ้นๆ จะทำไงดี --ก็แค่ร่วมวง argument อีกคน ห้องนี้ยังมีที่ให้ยืนอีกเยอะนะเออ..ตั๋วนั่งผมจองนะ..อิอิ ตามกระทู้ต้นเรื่อง --พลังงานในกล้ามเนื้อหายไปไหนบ้าง(แบบชัดๆ ) ผมนั่งคิดจนป่านนี้ก็ยังไม่เจอ... จากคุณ : =Lord Gary= - [ 30 ม.ค. 51 10:20:45 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ความคิดเห็นที่ 3   ใช้พลังงานในการสร้างแรงใช่ไหมคะ ถ้าแรงเพิ่มแปลว่าต้องใช้พลังงานเพิ่ม แปลว่าพลังงานและแรงผันตามกัน ไม่เห็นด้วยประเด็นนี้ครับ แรงกับพลังงานเป็นเรื่องที่อาจไม่เกี่ยวข้องกันได้ เราอาจไม่ใช้พลังงานในการสร้างแรงก็ได้ เช่นแรงดึงดูดของโลก พลังงานต้องเคลื่อนต้านแรง แต่แรงดึงดูดมีโดยมิได้มาจากพลังงาน การต้านแรงดึงดูดต้องใช้พลังงานสร้างพลังงานศักย์ เมื่อคุณใช้พลังงานเคมีออกแรงดึงต้นไม้ คุณมิได้ก่อเกิดงานใดๆเลย ต้นไม้ก็มิได้ก่อเกิดงานใดๆเช่นกัน จึงมิได้มีพลังงานเกิดขึ้น Energy is required to move  against a force.   There are forces in nature, such as gravity, that exist without converting energy.   However, in order to move against the force due to gravity (perform work) some amount of energy needs to be transferred to gravitational potential energy (energy related to position in a  gravitational field). So, while you may be expending a lot of chemical energy in pushing against a wall you are not doing any work on the wall.   The wall is not doing any  work in pushing back against you and is not expending any energy.   The  wall is being a lot more efficient than you are :- ). http://www.newton.dep.anl.gov/askasci/phy00/phy00809.htm สรุปเสียแรงเปล่า ไม่ได้งาน จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 30 ม.ค. 51 10:29:51 ]

ความคิดเห็นที่ 43 พูดถึงพลังงานจะรู้สึกว่าต้องเคลื่อนไหว ต้องมีระยะทาง พลังงานจลย์ KE = 1/2*m*v^2  มีความเร็วv พลังงานศักย์ PE = Force * Distance  มีระยะทาง                  PE = mgh http://science.howstuffworks.com/fpte8.htm เมื่อต้นไม้ถูกดึงไม่เคลื่อนที่ ระยะทางคือศูนย์ ความเร็วคือศูนย์ การดึงต้นไม้ไม่ก่อเกิดพลังงานใดๆ แรงไม่จำเป็นต้องก่อให้เกิดพลังงานเสมอไป แรงอาจสูญเปล่าได้ ถามว่าพลังงานในกล้ามเนื้อหายไปไหนบ้าง ไม่ก่อให้เกิดงาน แต่คงเกิดความร้อนที่มือกับเชือก และเชือกกับต้นไม้ เพราะการดึงอาจเสียดสีกัน จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 30 ม.ค. 51 12:27:57 ]

ความคิดเห็นที่ 44 กฎข้อ3ของนิวตันน่าจะหมายถึง action = reaction แรงที่ทำจุดเดียวกัน เท่ากัน ในภาวะสมดุล http://hyperphysics.phy-astr.gsu.edu/Hbase/newt.html#nt3 จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 30 ม.ค. 51 13:02:35 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ีเดี๋ยวคุณมิ้นๆเข้ามาน่าจะสรุปได้นะครับ    เหลืออยู่เรี่องเดียวคือเรื่อง แรง action กับ reaction กระทำบนวัตถุเดียวกัน หรือคนละวัตถุ รวมกันได้หรือไม่ ซึ่งยังขัดแย้งกันอยู่หลายความเห็น   สำหรับผมเห็นตามคุณเมษครับ จากคุณ : ตาเป๋า - [ 30 ม.ค. 51 13:35:40 ]

ความคิดเห็นที่ 46 แรงคืออะไรที่อยากเปลี่ยนการเคลื่อนที่ของวัตถุ ถ้าเคลื่อนที่ก็เกิดงาน ถ้าไม่ก็ไม่เกิดงาน One of the foundation concepts of physics, a force may be thought of as any influence which tends to change the motion of an object. พูดถึงแรงพื้นฐานทั้ง4 ไม่ได้เกิดจากพลังงาน ดูเหมือนแรงคือธรรมชาติอะไรสักอย่าง Our present understanding is that there are four fundamental forces in the universe, the gravity force, the nuclear weak force, the electromagnetic force, and the nuclear strong force in ascending order of strength. http://hyperphysics.phy-astr.gsu.edu/Hbase/force.html จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 30 ม.ค. 51 14:07:13 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ความคิดเห็นที่ 3   เราใช้พลังงานในการสร้างแรงใช่ไหมคะ ใช่ พลังงานสร้างแรงได้เช่นเครื่องจักรไอน้ำ แต่แรงไม่จำเป็นต้องเกิดจากพลังงานเสมอไป แรงอาจมีอยู่แล้วในธรรมชาติ เช่นแรงโน้มถ่วง แรงแม่เหล็กไฟฟ้า ถ้าแรงเพิ่มแปลว่าต้องใช้พลังงานเพิ่ม แปลว่าพลังงานและแรงผันตามกัน แรงเพิ่มอาจไม่ต้องใช้พลังงานเพิ่มก็ได้ พลังงานกับแรงจึงไม่แปรตามกัน จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 30 ม.ค. 51 14:28:16 ]

ความคิดเห็นที่ 48 พลังงานกับแรงจึงไม่แปรตามกัน แรงคงที่ได้พลังงานเพิ่มขึ้นดังนี้ ของวางพื้นคาน ใช้แรง 1 กก.กดคานให้สูง 1 เมตรเป็นจุดสมดุล จุดฟัลครัมห่างแรงต่อของเป็น3 ยกของได้ 3 กก.พลังงานศักย์ 3X1 จุดฟัลครัมห่างแรงต่อของเป็น5 ยกของได้ 5 กก.พลังงานศักย์ 5X1 .... สามารถเพิ่มน้ำหนักของที่ยกสูง1เมตร นั่นคือได้พลังงานศักย์เพิ่มได้ ทั้งที่ใช้แรงเท่าเดิม จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 30 ม.ค. 51 15:48:22 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เมื่อแม่เหล็กผูกไว้กับโครงลอยคว้างในอวกาศ แรงที่ทำกับ M1 มีสองแรงคือ T1 กับ f2  ซึ่งตรงข้ามกันและหักล้างกันพอดี คำถามคือแรงคู่ไหนคือ action กับ reaction อันเนื่องมาจากแรงดึงดูดของแม่เหล็ก หรือจากอำนาจแม่เหล็กในความหมายของกฎนิวตันข้อที่สาม ระหว่าง - T1 กับ f2 - f1 กับ F2 - T2 กับ f1 ในความคิดของผม  f1 กับ F2 คือ คำตอบ และ แรงทั้งคู่กระทำกับวัตถุคนละชิ้นกัน จากคุณ : =Lord Gary= - [ 30 ม.ค. 51 16:56:41 ]

ความคิดเห็นที่ 50 http://hyperphysics.phy-astr.gsu.edu/Hbase/newt.html#nt3 ตัวอย่างรูปความคิดเห็นที่ 44 อิฐบนสปริงสมดุล แรงที่ทำต่อพื้นอิฐก้อนล่าง แรงสุทธิเท่าศูนย์ กฎข้อ3ทุกแรงเกิดเป็นคู่ Presuming that the blocks are supported and at equilibrium, then the net force on the system is zero. All the forces occur in Newton's third law pairs. แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 51 19:24:14 จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 30 ม.ค. 51 19:17:51 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ความคิดเห็นที่ 45   แรง action กับ reaction กระทำบนวัตถุเดียวกันหรือคนละวัตถุ หลังจากอ่านหลายๆเวป ถ้ากฎข้อ3ของนิวตันหมายถึงแรงต่อคนละวัตถุ ผมเข้าใจผิดในความเห็นต้นๆว่าเป็นวัตถุเดียวกัน แรงเกิดเป็นคู่ วัตถุAชนวัตถุBด้วยแรงF หรือวัตถุBชนวัตถุAด้วยแรง-F ดังสโลแกนว่า ทุกกิริยาเกิดปฏิกิริยาเท่ากันทิศตรงข้าม "Forces always occur in pairs. If object A exerts a force F on object B, then object B exerts an equal and opposite force –F on object A" or in slogan style: "Every action has an equal and opposite reaction" http://www.phy6.org/stargaze/Snewton3.htm จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 30 ม.ค. 51 20:17:16 ]

ความคิดเห็นที่ 52 กฎของนิวตั้นเสนอตามแนวเก่า พูดถึงมวลและแรง หลังนิวตั้น2ร้อยปี Ernst Mach ในเยอรมันพยายามตั้งสูตรที่วัดได้จริง โดยสรุปนิวตั้นเป็นกฎข้อเดียวว่า ถ้ามวลเป็นจุดชนกัน จะเร่งทิศตรงข้าม อัตราความเร่งเท่ากัน อ่านดีๆไม่พูดถึงมวลและแรง มีแต่ความเร่งที่วัดได้เท่านั้น Mach's formulation of Newton's laws Newton's laws were introduced here in the traditional way--through the concepts of mass and force (Newton actually formulated the second law in terms of momentum, not acceleration). Ernst Mach, who lived in Germany two centuries after Newton, tried to avoid new concept and formulate physics only in terms of what can be observed and measured. He argued that Newton's laws boil down to one law: "When two compact objects ("point masses" in phystalk) act on each other, they accelerate in opposite directions, and the ratio of their accelerations is always the same. " Read it again, if you will: no mention of force or mass, only of acceleration, which can be measured http://www.phy6.org/stargaze/Snewton3.htm จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 30 ม.ค. 51 20:34:14 ]

ความคิดเห็นที่ 53 กรณี 49 ที่ยกตัวอย่างมา เราควรจะแยกคิดเป็นส่วนๆเป็นเรื่องๆไป 1. แรงจากแม่เหล็ก 2 อัน มีทิศทางเดียวกันมันก็ควรจะบวกกันได้ 2. แรงนี้จะไปทำ action กับวัตถุใด ก็ไปพิจารณาที่วัตถุนั้น  เช่นไป action กับกำแพง   ด้านซ้ายมือ กำแพงก็จะ reaction ดว้ยแรงที่เท่ากันกับแรงแม่เหล็ก 2 อัน 3.ถ้าปล่อยให้แม่เหล็กวี่งเข้าหากันเหมือนรถวิ่งชนกันมันก็กลายเป็น 2 แรงบวกกระทำกับวัตถุ  แต่วัตถุนั้นเป็นตัวมันเองก็ต้องแยกไปคิดมันจะพัง จะเด้งเหมือนลูกเลียด หรือหยุดอยู่ตรงนั้น  มันมีปัจจัยอื่นๆมาเกี่ยวข้องก็ต้องคิดเป็นส่วนๆไป จากคุณ : ตาเป๋า - [ 30 ม.ค. 51 21:14:17 ]

ความคิดเห็นที่ 54 #38ดูดีๆ รูปหนังสือ แรงหนึ่งหนังสือทำกับพื้น แรงหนึ่งพื้นทำกับหนังสือ แรงกระทำคนละวัตถุกัน #39 ให้กลับไปคคห3ไม่ใช่ คคห1 #40 คำกล่าวไหนของนิวตันที่ว่า "แรงกระทำเท่ากับแรงปฏิกิริยา กรณีไม่มีความเร่งเท่านั้น " ในประโยคไม่มีคำนี้นี่คะ 3 For every action there is an equal and opposite reaction. เน้นว่า every action ที่คุณว่าเรือเคลื่อนที่นั่นคือเรือของคุณและเรือของแฟนต่างเคลื่อนที่แยกจากจุดผลัก ลองนึกภาพสเกตน้ำแข็ง คนผลักและคนโดนผลักต่างกระเด็นทั้งคู่ หมายถึง คนที่ถูกผลักถูกแรงaction กระทำ ส่วนคนที่ผลักถูกreacกระทำ เห็นได้ว่าแรงทั้ง2ทำกับวัตถุคนละก้อน #41 สู้เค้าคุณ Lord Gory #47 #48 คุณเมษ ที่ว่าผันตามกันน่ะค่ะ คือ ไม่รู้จะพูดอย่างไรดี คุณเมษคงรู้จักตัวแปรต้น ตัวแปรตามและตัวแปรควบคุมใช่ไหมคะ ในกรณีนี้หมายถึงตัวแปรอื่นๆ ต้องถูกควบคุมให้เท่ากัน  อยู่ในรูปแบบเดียวกัน ยังงี้ มิ้นเอาแรงไปเดิน แรงไปปั่นจักรยาน กับเอาแรงไปกระโดดกบ แล้วจะบอกว่าเอามาเปรียบเทียบได้อย่างไรมันคนละมาตรฐาน ดูจากคานของคุณ ในแต่ละกรณี ถ้าเพิ่มแรงกด พลังงานศักย์ย่อมเพิ่มเป็นธรรมดา #51เห็นด้วยค่ะ #49 คุณลืมระบุทิศของแรงตึงเชือก เนื่องจากแรงตึงเชือกมีทิศออกจากวัตถุ ในกรณีนี้ แรงตึงเชือกจะแบ่งได้2แรง แหงะ ง่วง พรุ่งนี้เด๋วมาแก้ไขให้ จากคุณ : มิ้นๆ (mint_la) - [ 31 ม.ค. 51 06:08:18 ]

ความคิดเห็นที่ 55 คุณมิ้นๆยังไม่เข้ามาเลย    ขอบ่นคนเดียวรอ ค.ห.อื่นๆเข้ามาสรุป 1.แรงเป็นพลังาน ไม่มีตัวตน ฯฯ  เช่น g   แม่เหล็ก  มีอัตราเร่งตลอดเวลา  gจะกระทำกับวัตถุทุกชนิด   แม่เหล็กทำกับวัตถุที่เป็นเหล็กฯฯ 2.เราโดน g กระทำอยู่ตลอดเวลา  เราจึงreaction กับ g อยู่ตลอดเวลา เราจึงกินอาหารทุก  วันเพื่อเปลี่ยนเป็นแรงมาสู้กับ g 3.เราสร้างแรงไดัโดยการ หด หรือ ขยายตัว  ของกล้ามเนื้อ   หรือการเปลี่ยนพลังงานอย่าง  อื่นมาเป็นแรง 4.เรานำแรงนั้นมาใช้ซึ่งเป็นไปตามกฏของแรงตามธรรมชาติซึ่งนิวตันค้นพบคนแรก 5.แรงที่เราสร้างขึ้นมาโดยการเคลื่อนที่วัตถุด้วยความเร่งมันไม่ดึงดูดกับอะไรเมื่อเทียบกับ g จึงรู้  ว่ามันมีแรงเท่าใดโดย เอา m คูณกับ a 6.เอาวัตถุที่มีอัตราเร่งมาชนกันเลยสับสนเรื่องแรง  ปนกับคุณสมบัติของวัตถุ   ......................................................                           อันนี้บ่นนะครับไม่สรุป จากคุณ : ตาเป๋า - [ 31 ม.ค. 51 08:17:16 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ความคิดเห็นที่ 54 ดูจากคานของคุณ ในแต่ละกรณี ถ้าเพิ่มแรงกด พลังงานศักย์ย่อมเพิ่มเป็นธรรมดา รูปจากความคิดเห็นที่ 48 ต้องการแสดงว่าแรงเท่าเดิม 1กก. จุดสมดุลสูงจากพื้น 1 เมตร แต่เปลี่ยนจุดฟัลครั้ม พลังงานศักย์เพิ่ม หมายถึง แรงเท่าเดิมได้พลังงานศักย์ต่างกัน พลังงานไม่แปรตามค่าของแรง ถ้ารู้จักการใช้แรง จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 31 ม.ค. 51 08:18:23 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ความคิดเห็นที่ 54 #39 ให้กลับไปคคห3ไม่ใช่ คคห1 คคห.1กับ3 อาจดูคล้ายกัน เป็นความสับสนเรื่องแรงกับพลังงาน แรงเป็นเวคเตอร์ พลังงานเป็นสเกล่าร์ อาจเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกัน แรงกับพลังงานอาจแปรตามกัน หรือไม่แปรตามกันก็ได้ แรงไม่จำเป็นต้องมาจากพลังงาน พลังงานไม่จำเป็นต้องมาจากแรง กลับไปที่คำถามแรกของจขกท. หากเรา ใช้พลังงาน10นิวตั้นดึงเชือกที่ผูกกับต้นไม้ ต้นไม้ก็จะดึงเราด้วยแรงเท่ากัน เราดึง 10นิวตั้น ต้นไม้ก็ดึง10นิวตั้น รวม 20 แล้วพลังงานมันเพิ่มมาได้ไง   หรือว่าเราดึง10 ต้นไม้แบ่งไป กลายเป็นเราดึง5ต้นไม้ดึง5ได้ 10 ความคิดเห็นที่ 1   10 นิวตั้น นั่นมันแรง ครับ ไม่ใช่งานหรือพลังงาน และทิศทาง Action และ Reactionมันตรงข้ามกัน ถึงหักล้างกันได้พอดี ส่วน งาน หรือ พลังงานนั้น ต้องเป็น แรง X ระยะทาง ถึงได้เป็นงาน หรือพลังงาน คำตอบความคิดเห็นที่ 1 น่าจะถูกต้องที่สุด จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 31 ม.ค. 51 08:39:27 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ความจริงปัญหาดึงต้นไม้ก็คล้ายผลักกำแพงของกระทู้นี้ http://www.newton.dep.anl.gov/askasci/phy00/phy00809.htm So, while you may be expending a lot of chemical energy in pushing against a wall you are not doing any work on the wall.  The wall is not doing any work in pushing back against you and is not expending any energy. ในที่นี้ต้นไม้หรือกำแพงไม่เคลื่อนที่ ไม่เกิดพลังงานศักย์พลังงานจลย์ จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 31 ม.ค. 51 09:08:13 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ความคิดเห็นที่ 54 #40 คำกล่าวไหนของนิวตันที่ว่า "แรงกระทำเท่ากับแรงปฏิกิริยา กรณีไม่มีความเร่งเท่านั้น " ในประโยคไม่มีคำนี้นี่คะ 3 For every action there is an equal and opposite reaction. http://en.wikipedia.org/wiki/Newton's_laws_of_motion ข้อเท็จจริงนิวตันไม่ได้เขียนว่า action = reaction หรือ 3 For every action there is an equal and opposite reaction. http://en.wikipedia.org/wiki/Newton's_laws_of_motion#Newton.27s_third_law:_law_of_reciprocal_actions นิวตันเขียนเป็นภาษาลาตินซึ่งแปลได้ว่า ทุกแรงเกิดเป็นคู่ ขนาดเท่ากันแต่ทิศตรงข้าม ภายหลังมีคนตีความเองว่า action = reaction Newton's third law: law of reciprocal actions Lex III: Actioni contrariam semper et æqualem esse reactionem: sive corporum duorum actiones in se mutuo semper esse æquales et in partes contrarias dirigi. All forces occur in pairs, and these two forces are equal in magnitude and opposite in direction. This law of motion is commonly paraphrased as: "To every action force there is an equal, but opposite, reaction force". ขอตีความเองบ้างว่านิวตั้นอาจเคยอ่านเต๋าเต็กเก็ง เรื่องหยินหยาง แรงมิอาจเกิดเดี่ยวๆได้ เมื่อเกิดแรงจะเกิดเป็นคู่เสมอ แรงหยินกับแรงหยาง จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 31 ม.ค. 51 09:34:41 ]

ความคิดเห็นที่ 60 http://hyperphysics.phy-astr.gsu.edu/Hbase/newt.html#nt3 ถ้าตีความกันจริงความคิดเห็นที่ 51ที่ว่าคนทั่วไปตามเวปจะบอกว่า action = reaction คือแรงกระทำต่อวัตถุคนละชิ้น แต่ถ้าตีความตามกฎข้อ3ของนิวตัน แรงคู่เกิดณจุดเดียวกัน กรณีเกิดแรงเช่นวัตถุมาชนกัน2ก้อน จุดที่ชนทั้ง2จุด จุดนึงมี2แรง รวมแล้ว4แรง ตามรูปข้างล่างสีเขียวแรงทำที่อิฐบล็อกมี2แรง สีแดงแรงทำต่อพื้นรองอิฐมี2แรง จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 31 ม.ค. 51 10:16:58 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ความคิดเห็นที่ 45   แรง action กับ reaction กระทำบนวัตถุเดียวกัน หรือคนละวัตถุ ความเห็นขณะนี้อาจตอบว่าผิดหรือถูกทั้งคู่ กฎข้อ3นิวตันว่าแรงเกิดเป็นคู่ ตีความว่าเกิดที่จุดเดียวกัน ที่เกิดแรง วัตถุ2ก้อนชนกันเกิดแรงคู่ที่จุดชนกัน ทิศแรงตรงข้ามกัน ความเห็นคือ แรง action,reaction เกิดที่จุดชนกัน หรือสัมผัสกัน จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 31 ม.ค. 51 10:44:13 ]

ความคิดเห็นที่ 62 โอ้ตาลาย ...มึนแล้ว   จากคุณ : =Lord Gary= - [ 31 ม.ค. 51 11:37:01 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ความคิดเห็นที่ 49 แรงคู่ไหนคือ action กับ reaction อันเนื่องมาจากแรงดึงดูดของแม่เหล็ก หรือจากอำนาจแม่เหล็กในความหมายของกฎนิวตันข้อที่สาม กฎข้อ3ของนิวตั้นจริง ไม่มีคำว่า action,reaction ตามความคิดเห็นที่ 59 นิวตันเขียนเป็นภาษาลาตินซึ่งแปลได้ว่า ทุกแรงเกิดเป็นคู่ ขนาดเท่ากันแต่ทิศตรงข้าม อาจแบ่งเป็นกำลังภายนอกกับกำลังภานในอย่างหนังจีน แรงตามความหมายของนิวตันที่เกิดจึงมีทั้งแรงภายนอกกับแรงภายใน วัตถุที่ชนกันเกิดแรงภายนอกเรียก external force ส่วนแรงโน้มถ่วงหรือแรงแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นแรงภายใน internal force http://hyperphysics.phy-astr.gsu.edu/Hbase/newt.html#nt3 นิวตั้นไม่ได้บอกว่าเกิดยังไง กฎข้อ3ว่าเกิดจากมวลดูดกัน แรงเท่ากัน ทิศตรงกันข้าม ไร้แรงสุทธิ จากแรงภายใน(กำลังภายใน) Without specifying the nature or origin of the forces on the two masses, Newton's 3rd law states that if they arise from the two masses themselves, they must be equal in magnitude but opposite in direction so that no net force arises from purely internal forces. ดังนั้นจึงไปที่กฎข้อ3ว่า ทุกแรงเกิดเป็นคู่ ขนาดเท่ากันแต่ทิศตรงข้าม ดาวดวงเล็กดูดดาวดวงใหญ่เท่ากับดวงใหญ่ดูดดวงเล็ก All forces occur in pairs, and these two forces are equal in magnitude and opposite in direction. จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 31 ม.ค. 51 11:45:16 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ความคิดเห็นที่ 49 แรงคู่ไหนคือ action กับ reaction อันเนื่องมาจากแรงดึงดูดของแม่เหล็ก หรือจากอำนาจแม่เหล็กในความหมายของกฎนิวตันข้อที่สาม แรงแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นแรงภายใน(internal force)ทำนองแรงโน้มถ่วง ไม่มีกระทบกระแทกแบบแรงภายนอก(external force) จึงไม่น่ามีแรง action,reaction จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 31 ม.ค. 51 13:35:32 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ความคิดเห็นที่ 54  #51เห็นด้วยค่ะ หลังจากอ่านหลายๆเวป ถ้ากฎข้อ3ของนิวตันหมายถึงแรงต่อคนละวัตถุ ผมเข้าใจผิดในความเห็นต้นๆว่าเป็นวัตถุเดียวกัน แรงคู่ที่เกิดตามกฎนิวตั้นข้อ3 กรณีแรงภายนอกหรือวัตถุ2ก้อนชนกัน แรงเกิดที่จุดชนกันหรือสัมผัสกันต่างหาก เพราะแรงคู่ภายนอกเกิดที่จุดเดียวกัน แต่แรงภายใน แรงคู่เกิดคนละจุด จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 31 ม.ค. 51 18:57:56 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ผมว่าที่จุดสัมผัสมันไม่น่าจะแยกว่าเป็นคนละวัตถุ    เอาอิฐมาวางซ้อนกันเราจะเห็นชัดว่ามันคนละก้อน แต่ถ้ามันติดกันเพราะมันประสานเป็นเนื้อเดียวเราจะให้เหตุผลว่ามันเป็นคนละก้อนได้หรือไม่ ผมก็ยังเห็นตามคุณเมษอยู่ว่าแรงกระทำต่อกันที่จุดสัมผัสโดยไม่คิดว่ามันคนละวัตถุ จากคุณ : ตาเป๋า - [ 1 ก.พ. 51 00:43:05 ]

ความคิดเห็นที่ 67 กรณีสเก็ทน้ำแข็ง   ขณะที่คนหนึ่งผลักอีกคนหนึ่งแล้วทั้งสองคนเคลื่อนที่ไป     แรงที่ทำให้ทั้งสองคนเคลื่อนที่ไปคือแรง action ส่วนแรง reaction มันไม่มีตั้งแต่จุดสัมผัส แยกออกจากกันแล้วครับ     ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่แรง reaction ทำให้วัตถุเคลื่อนที่ได้แล้วเราจะคำนาณแรงกันอย่างไร จากคุณ : ตาเป๋า - [ 1 ก.พ. 51 01:40:50 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ถึงทุกๆความเห็น ตอนนี้กระทู้เราตกมาอยู่ล่างๆแล้ว ท่านคิดว่าเราควรตั้งกระทู้ถามอีกรอบไหมคะ เพราะ ตอนนี้เห็นมีความคิดเห็นของคนแค่3-4คนเเองน่ะค่ะ จึงอยากได้ความคิดเห็นของท่าอื่นที่เข้ามาไม่ทันเนื่องจากกระทู้ตกลงไปมากแล้ว ท่านคิดว่าอย่างไรกันบ้างคะ จากคุณ : มิ้นๆ (mint_la) - [ 1 ก.พ. 51 06:06:19 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ความคิดเห็นที่ 67   กรณีสเก็ทน้ำแข็ง คนหนึ่งผลักอีกคนหนึ่งแล้วทั้งสองคนเคลื่อนที่ไป     แรงที่ทำให้ทั้งสองคนเคลื่อนที่ไปคือแรง action ส่วนแรง reaction มันไม่มี ตั้งแต่จุดสัมผัสแยกออกจากกันแล้วครับ All forces occur in pairs, and these two forces are equal in magnitude and opposite in direction. ทุกแรงเกิดเป็นคู่ ขนาดเท่ากันแต่ทิศตรงข้าม ตีความตามกฎข้อ3ของนิวตั้น การเอื้อมมือไปผลักจุดที่ผลักจะเกิดแรง เมื่อเกิดแรงจะเกิดเป็นคู่เสมอ ขนาดแรงเท่ากัน ทิศตรงข้าม ฟังดูก็คล้าย คำว่า action = reaction แต่ไม่เหมือนทีเดียว จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 1 ก.พ. 51 07:25:07 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ที่ว่าไม่เหมือนเพราะ ทุกแรงเกิดเป็นคู่ ขนาดเท่ากันแต่ทิศตรงข้าม หมายถึงเมื่อเกิดแรงจะไม่มีแรงเดี่ยว แต่จะเกิดทีละคู่ จุดที่เกิดแรงคู่กรณีวัตถุชนกัน ก็คือจุดสัมผัสหรือชนกัน ส่วน action = reaction เรามักคิดว่าเกิดแรงเดี่ยวก่อนคือแรงaction จากนั้นจึงตามมาด้วยแรงreaction ซึ่งไม่ตรงกับคำว่าแรงเกิดเป็นคู่ จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 1 ก.พ. 51 07:35:23 ]

ความคิดเห็นที่ 71 คุณมิ้นๆ กด "เก็บเข้าคลังกระทู้" ครับ เผื่อมีคนถามอีกจะได้หาได้ง่าย ไม่หายไปไหน ถ้าตอบทุกเดือนก็จะมีอายุยืนต่อไปอีกเป็นปีหรือหลายปี แต่ถ้าไม่มีใครตอบ จะถูกลบอัตโนมัติ นอกเสียจากจะเก็บเข้าคลังกระทู้ ซึ่งเข้าใจว่าต้องมีสมาชิกหลายคนกด ถึงจะยอมเก็บให้ครับ... จากคุณ : =Lord Gary= - [ 1 ก.พ. 51 09:13:52 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ใช่ครับ คุณ ตาเป๋า ที่ว่าแรงคู่ action reaction เกิดที่จุดสัมผัส แต่ผมยังยืนยันว่าเกิดคนละวัตถุ ผมชกกำแพง ---มือผมแตกเลือดออกซิบๆ ส่วนกำแพงยุบ กำแพงยุบเพราะถูกแรง action มือผมแตกได้แผล เพราะ แรง reaction เห็นได้ชัดว่า แรงทั้งคู่กระทำกันคนละวัตถุ คุณอาจบอกว่า มือผมแตกเพราะผมกระทำเอง เป็นเพราะแรงผมเอง ถ้าผมชกลม มือผมไม่แตกแน่ๆ จากคุณ : =Lord Gary= - [ 1 ก.พ. 51 09:26:39 ]

ความคิดเห็นที่ 73 อ้าว มาตอบกันเยอะแล้ว จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! - [ 1 ก.พ. 51 09:55:50 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ความคิดเห็นที่ 60 ประเด็นว่าแรง action,reaction เกิดที่ไหน ดูตามรูปอิฐสัมผัสพื้นรอง เมื่อดูจุดอิฐมี 2 แรง พื้นรองมี 2 แรง ดังนั้นถ้าคิดจุดสัมผัสหรือชนกันเป็น 2 จุดคือจุดละด้าน ต้องคิดคำนวนกัน 4 แรง จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 1 ก.พ. 51 10:03:47 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ในแง่คำนวนหรือปฎิบัติคงรวมจุดสัมผัสเป็นจุดเดียว เพื่อให้คิดแค่ 2 แรงจะง่ายกว่า จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 1 ก.พ. 51 10:09:29 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ลืมรูป จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 1 ก.พ. 51 10:10:28 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ผมตั้งกระทู้ใหม่แล้วครับแต่ว่าทำลิงค์ไม่เป็น   ลองไปฟังเหตุผลของคนอื่นๆบ้างครับตามคุณมิ้นๆว่า จากคุณ : ตาเป๋า - [ 1 ก.พ. 51 10:11:28 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ความคิดเห็นที่ 72   ใช่ครับ คุณ ตาเป๋า ที่ว่าแรงคู่ action reaction เกิดที่จุดสัมผัส แต่ผมยังยืนยันว่าเกิดคนละวัตถุ ผมชกกำแพง ---มือผมแตกเลือดออกซิบๆ ส่วนกำแพงยุบ กำแพงยุบเพราะถูกแรง action มือผมแตกได้แผล เพราะ แรง reaction ก็ใช่ครับ มือแตกกำแพงยุบด้วยแรงที่จุดสัมผัส เมื่อมือไม่สัมผัสกำแพง ก็ไม่เกิดแรงแล้ว ส่วนมือที่แตก กำแพงที่ยุบเป็นผลจากแรงที่จุดสัมผัส เห็นได้ชัดว่า แรงทั้งคู่กระทำกันคนละวัตถุ ใช่แรงทั้งคู่กระทำกันคนละวัตถุ ณจุดที่ชนหรือสัมผัส มือกับกำแพงแยกออก ไม่ถูกกันย่อมไม่เกิดแรง สรุป ไม่มีจุดสัมผัส ไม่เกิดแรง (กรณีแรงภายนอกexternal force) จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 1 ก.พ. 51 10:40:44 ]

ความคิดเห็นที่ 79 แตกจากกระทู้ข้างล่างนี้ http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X6292035/X6292035.html แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 51 11:39:18 จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 1 ก.พ. 51 11:38:21 ]

ความคิดเห็นที่ 80 เราขอแยกประเด็นไปยังความเห็นนี้นะคะ สนใจก็ตามเข้ามาตอบได้ เพราะกลัวว่ากระทู้อันนี้จะตกซะก่อน จากคุณ : mint_la - [ 2 ก.พ. 51 10:17:24 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 2 ก.พ. 51 19:19:37 ]

ความคิดเห็นที่ 82 กรอบของการมองครับ จากคุณ : คนเหมือนกัน (nonfarm) - [ 4 ก.พ. 51 18:07:52 ]