ความคิดเห็นที่ 1 เหมือนเคยผ่านตามาว่า... งูพิษจะเป็นสองรู แต่งูไม่มีพิษจะเป็นรอยฟันหลาย ๆ ซี่ จากคุณ : Lanoz - [ 9 ก.พ. 51 17:20:30 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เคยได้ยินว่าถ้ามันกัดโดยไม่ปล่อยพิษ แปลจะไม่บวมไม่อักเสบค่ะ รอผู้รู้มาเสริมอีกที จากคุณ : ลูกไก่พองลม - [ 9 ก.พ. 51 17:32:24 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คิดว่าอย่ารอให้ทราบเลยว่างูที่กัดนั้นปล่อยพิษหรือเปล่า รีบไปหาหมอดีกว่าค่ะ จากคุณ : น.ส.พังพอน - [ 9 ก.พ. 51 17:38:22 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ผมก็ไม่รู้อ่ะครับ ว่าเมื่อไหร่งูมันจะกัดปล่อยพิษหรือเมื่อไหร่มันจะกัดแต่ไม่ปล่อยพิษ ผมก็ใช้วิธีสังเกตอาการเอาอ่ะครับ ถ้ามีอาการผิดปรกติ ก็แสดงว่าได้รับพิษ ถ้าไม่มีอาการผิดปรกติ ก็แสดงว่าไม่ได้รับพิษ จากคุณ : chewzerng - [ 9 ก.พ. 51 17:52:57 ]

ความคิดเห็นที่ 5 สังเกตุจากรอยฟันครับ งูที่มีพิษ จะฉีดพิษออกทางเขี้ยว ถ้างูที่กัดมีพิษ จะมีรอยเขี้ยวลึก สองรู (หรือรูเดียวก็ได้ถ้ามันฟันหัก(อันนี้มั่ว - -") แต่ถ้าไม่ใช่งูพิษ จะเป็นรอยฟัน เล็กๆแทน พิษของงู แบ่งเป็น สามชนิด 1.พิษต่อระบบประสาท ทำให้เกิดอัมพาตของกล้ามเนื้อ ได้แก่ พิษของงูเห่า และงูจงอาง 2.พิษต่อระบบโลหิต ได้แก่ งูกะปะ งูแมวเซา 3.พิษต่อระบบกล้ามเนื้อ พิษจะทำลายเซลล์กล้ามเนื้อ ทำให้ปวดและบวม งูที่มีพิษชนิดนี้ได้แก่ งูที่อาศัยในทะเล ส่วนงูบางชนิดมีพิษที่ส่งผลทั้งสองระบบ เช่น งูสามเหลี่ยม ส่วนงูที่อาศัยในแหล่งน้ำจืด ไม่มีพิษครับ ปล.เด็กน้อยมาตอบผิดตรงไหนขออภัยด้วยครับ จากคุณ : Calypsol_Red - [ 9 ก.พ. 51 18:29:26 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ผมว่าดูจากบาดแผลไม่รู้หรอกครับ นอกจากจะปล่อยไว้ซักพักแล้วเกิดอาการบวมขึ้นที่แผล แต่ยังไงก็ต้ิองรีบไปหาหมอให้เร็วที่สุด จากคุณ : Evanescent - [ 9 ก.พ. 51 18:35:33 ]

ความคิดเห็นที่ 7 โดนงูกัดแล้วจะรออะไรกันอีกครับ ก็ปฐมพยาบาลแล้วรีบหาหมอครับ และอีกอย่าเพชรฆาต มันไม่ปล่อยโอกาสหรอกครับ (มีหรือจะไม่ใช้พิษ) จากคุณ : Yokovich - [ 9 ก.พ. 51 18:38:49 ]

ความคิดเห็นที่ 8 มันมีจริงครับ ดูจากสารคดีนะ เห็นมีไอ้พวกกล้าตาย เอาให้งุพิษกัด แต่บางครั้งมันก็ไม่ปล่อยพิษครับ จากคุณ : sir_Genesis - [ 9 ก.พ. 51 18:53:23 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เวลางูปล่อยพิษ สิ่งที่ออกมา สารที่มีฤทธิ์เป็นพิษสองกลุ่ม 1. กลุ่มเอนไซม์hyaluronidase ทำหน้าที่ย่อยเนื้อและทำลายเซลล์ของเหยื่อ พวกนี้เวลาโดนเข้าไปก็จะเกิดอาการบวมแดง เต่งตึง ปวด หรือถ้าโดนไปที่เนื้อส่วนปลายๆ เนื้ออาจจะเน่าดำ 2. กลุ่มพิษ เอาไว้ฆ่าเหยื่อ มีกลุ่ม3กลุ่มหลักๆ ตามความเห็น5 คือ มีพิษต่อระบบประสาท ระบบเลือด ระบบกล้ามเนื้อ งูแต่ละชนิดจะมีส่วนผสมของพิษที่แตกต่างกันออกไป แต่มักจะเด่นด้านใดด้านหนึ่ง ขึ้นกับชนิดของเหยื่อตามธรรมชาติของมันและลักษระการหากิน เช่นงูในกลุ่มงูเห่า จงอาง ... พิษ จะเป็นNeurotoxinซะส่วนใหญ่ แต่ก็มีส่วนประกอบของHematotoxinหรือระบบเลือดปนอยู่ด้วยแต่อยู่ในปริมาณที่น้อยกว่า ปัญหาคือ เราจะแยก Dry bite กัดหลอก กับ Wet bite กัดจริง อย่างไร ปัญหาแรก - เขี้ยว ความเข้าใจที่ว่างูพิษต้องมีเขี้ยว เป็นความเข้าใจที่ถูกบางส่วน เพราะงูพิษร้ายแรงถึงตาย ส่วนใหญ่มีเขี้ยว(บางชนิดก็พับเขี้ยวได้) แต่งูหลายชนิด ไม่มีเขี้ยว แต่ก็มีพิษ ดังนั้นไม่มีรอยเขี้ยวก็ไม่ได้ยืนยันว่าจะไม่มีพิษ แค่เป็ฯตัวช่วยให้อุ่นใจว่าตินที่กัดไม่น่าจะได้พิษมาก หรือไม่น่าจะได้พิษร้ายแรง ปัญหาที่สอง - Dry bite Wet bite ดูจากการบวมได้หรือไม่ ก็บอกยาก เพราะอาการบวม ขึ้นกับเรื่อง Enzyme Hyaluronidase ที่ย่อยเซลล์ ในภาวะปกติ เอนไซม์และสัดส่วนพิษ ควรจะมีในสัดส่วนคงที่ คือ ถ้าบวมมากก็พิษมาก ถ้าบวมน้อยก็พิษน้อย แต่ในบางกรณี จะไม่สัมพันธ์กัน เช่นกรณีงูพิษต่อระบบประสาท ... บางครั้งของที่เข้าไป ดันเป็น Neurotoxinล้วนๆ มีพิษต่อระบบประสาทโดยที่ไม่ทันได้ทำลายเนื้อเยื่อ ... ดังนั้นก็เลยจะพบได้บ่อยว่าคนที่งูเห่างูจงอางกัด บางคนไม่ทันมีอาการบวมแดง ก็หายใจไม่ออกน๊อคไปแล้ว ในทางกลับกัน งูที่มีพิษ Hematotoxic / cytotoxic เช่น งูเขียวหางไหม้ พวกนี้บางครั้งบวมมากมาย แต่เจาะเลือดไม่พบว่ามีพิษต่อระบบเลือดจนต้องให้เซรุ่ม ... ส่วนบางรายไม่บวมเลยคนไข้จะขอกลับบ้าน แต่เจาะเลือดแล้วเลือดไม่แข็.ตัว เกิดพิษระดับที่ต้องให้เซรุ่มก็มี ดังนั้นไม่ว่าการบวม หรือ รอยเขี้ยว ก็บอกได้ยากครับ จากคุณ : หมอแมว - [ 9 ก.พ. 51 19:13:55 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เชือกรัด ส่ง รพ. ให้เค้าจัการเรื่องเซรุ่ม ทางที่ดีฆ่างูหรือจับงูตัวนั้นไว้ด้วย จากคุณ : อาจจะแก่ - [ 9 ก.พ. 51 19:34:12 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เมืองไทย ผมไม่ทราบว่ามีการทดลองเรื่องกัดจริงกัดหลอกมากน้อยแค่ไหน แต่อย่างในต่างประเทศอย่างพวกอมเริกา พบว่างูหางกระดิ่ง กัดหลอกมากกว่าครึ่ง .... เรียกว่ากัด 100ครั้ง มีพิษปล่อยออกมาไม่ถึง 50ครั้ง (และพิษถึงตายไม่รู้ว่าจะถึงครึ่งของที่ปล่อยพิษหรือไม่) ในประสบการณ์ของรพ.ภาคกลาง ผู้ป่วยที่ถูกงูกัดมารพ.ผม ผมจับนอนรพ.ทุกรายด้วยเหตุผลจากความเห็นข้างบนคือไม่รู้ว่ามีพิษหรือไม่ มีให้เซรุ่ม น่าจะอยู่ที่ 1-2% ส่วนอีก 90กว่า% ไม่มีความจำเป็ฯต้องฉีดเซรุ่ม (ถ้าภาคอื่นน่าจะต่างออกไป) ทีนี้มาถึงเรื่องการปฐมพยาบาลครับ รัดหรือไม่รัด ลืมconceptเรื่องพิษเข้าหัวใจไปเลยครับ เพราะว่าจะรัดแน่นแค่ไหน พิษก็เข้าสู่หัวใจอยู่ดีผ่านทางระบบน้่ำเหลืองและเส้นเลือดดำลึก Deep vein ถ้ารัดแน่นๆ เลือดไม่ไปเลี้ยงแขนเลือดแดงไม่ไปเลี้ยงแขน หรือไปเลี้ยงน้อย ... แต่เลือดที่ขังที่ส่วนปลายจะไหลกลับพรั่งพรูสู่เส้นเลือดดำส่วนลึก ... พิษเข้าเร็วกว่าเดิม รัดปานกลางพอดีแบบขันชะเนาะแบบสมัยก่อนเรียนกัน มันก็จะไหลเข้าผ่านทางเส้นเลือดดำและน้ำเหลือง แต่ก็ช้าหน่อย ไม่รัด ก็ไหลกลับตามยถากรรม แล้วจะรัดไปทำไม คำตอบคือ เรารัดเพื่อซื้อเวลาครับเอาให้ถึงรพ. แล้วจะรัดแบบไหนดี ก็ต้องดูจุดประสงค์ของการปฐมพยาบาลจากพิษงูแต่ละชนิด พิษต่อระบบประสาท จะมีพิษทำให้กล้ามเนื้อการหายใจหยุดทำงาน ตายได้ในเวลาอันสั้น พิษต่อระบบเลือด จะมีพิษทำให้เลือดออกทั่วตัวได้ (ถ้าถึงตายคือพวกที่ออกในสมองหัวใจปอด) แต่พิษกลุ่มนี้ออกฤทธิ์ช้ากว่า ... นอกจากนั้น พิษกลุ่มนี้มักจะมาพร้อมกับการสูญเสียอวัยวะ เช่นเกิดเนื้อเน่าแขนขาเน่าต้องตัดทิ้ง ในกรณีพิษต่อระบบเลือดและเซลล์ ถ้าเรารัดขันชะเนาะ จะเกิดการบวมและอักเสบได้มากจากพิษที่ค้างในอวัยวะส่วนนั้น ผลคือรอดตายจากพิษงู แต่อาจจะโดนตัดแขนขา ... ดังนั้นถ้ามั่นใจว่าโดนงูกลุ่มมีพิษต่อระบบเลือดกล้ามเนื้อกัด อาจจะรัดแบบเหมือนใส่เฝือก คือให้อวัยวะส่วนนั้นอยู่กับที่ ไม่ต้องถึงกับขันชะเนาะ ถ้าเคลื่อนย้ายดีๆ ไปรพ. ก็พิจารณาว่าต้องฉีดเซรุ่มไหม ซึ่งก็มักจะทัน ในทางกลับกัน หากเป็นงูเห่ากัด เรากลัวเรื่องหยุดหายใจจนตาย จะเสียแขนเสียขาก็เป็นเรื่องรอง ดังนั้นการรัดก็ยังต้องรัดแบบขันชะเนาะไว้ก่อน ... เพราะรัดแบบขันชะเนาะก็ยังลดการกลับของพิษได้มากกว่าแบบให้อยู่นิ่งๆ จากคุณ : หมอแมว - [ 9 ก.พ. 51 19:45:54 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ปล. ถ้าเอางูมารพ. โปรดบอกให้ชัดเจนว่าตีงูนั้นตายหรือยัง บางทีเอาใส่มาในถุง บอกว่าตายแน่นอน พอเอาไปเปิดถุงก็เลื้อยขึ้นแขน ... หรือรายนึงหลอกผมว่างูตายแล้วเนื่องจากกลัวว่าผมจะไม่กล้าดูงู .... พอไปถึงดันบอกให้ผมเปิดฝาเอง สังหรณ์ใจเลยเตะถังดูปรากฎว่างูดิ้นโครมคราม (รู้สึกเปิดมาจะเป็นงูเห่าเพราะมีแม่เบี้ย ไม่ได้ตีมาด้วย ใช้วิธีเอาเชือกรัดแล้วหย่อนลงถังสี) ล่าสุดตีงูเหลือม(แล้วบอกว่าเป็นงูแมวเซา) ... บอกว่าตายแล้ว พอเขี่ยออกมาก็งับ ..... กระสอบ   จากคุณ : หมอแมว - [ 9 ก.พ. 51 19:50:45 ]

ความคิดเห็นที่ 13 นึกว่าหมอจะเจอแต่คนไข้นะเนี่ย ไม่คิดว่าจะต้องเจองูด้วย จากคุณ : ฟินจัง - [ 9 ก.พ. 51 20:08:19 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เจองูกัดปีที่แล้ว ตกใจกันหมด ตัวเองก็มึนๆ เพราะตัวมันเลื้อยเข้าป่าไปแล้ว ไปหาหมอลำบากมาก ร.พ. ใกล้ที่สุด ห่างไป ครึ่งชม. ระหว่างนั้นปวดขึ้นทุกที เริ่มน้ำตาไหล แต่คนอื่นก็ชวนคุยให้หัวเราะ ไปถึง หมอก็ใช้วิธีเจาะเลือดดูการแข็งตัว ของเรา 8นาที ไม่ถือว่าอันตราย ถ้าน้อยกว่านั้น คงเป็นพวกงูเห่า จงอาง  เจ็บเท้าอยู่ อาทิตย์นึง หมอว่า น่าจะเป็นงูกะปะ เพราะทางใต้ เป็นสวนยางเยอะ คนเจอกัดประจำ แต่เข็ดจนตาย รีบจับเครื่องมากรุงเทพ  ผ่านมา 3-4 เดือน เท้าข้างที่ถูกกัดเหมือนมีรอยใหม้ คันตลอด พิษมันคงหลงเหลือ อยู่กรุงเทพ แต่ไปให้งูกัดถึงสุราษฎร์  ทุกวันยังโดนแซวไม่หยุด จากคุณ : ด้วยดินสอและน้ำตา - [ 9 ก.พ. 51 22:55:16 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณมากๆเลยครับ... บางคนอาจจะเข้าใจคำถามผิด แต่ยังไงก็ขอบคุณนะครับ... จากคุณ : Cocopok - [ 10 ก.พ. 51 19:06:54 ]

ความคิดเห็นที่ 16 กรี๊ดแล้วก็ สลบให้เพื่อนมาแบกไปโรงพยาบาลครับ ไม่รู้หรอกว่าพิษมีหรือไม่มี จากคุณ : Lovedesigner - [ 10 ก.พ. 51 21:45:21 ]