ความคิดเห็นที่ 1 สมการต่างๆ ที่ใช้ในด้านวิศวะกรรม มันก็ มาจากคณิตศาสตร์ชั้นสูงนะครับ ว่าแต่สูงที่ว่าหนะ ระดับไหน จากคุณ : Sympho - [ 12 ก.พ. 51 03:02:52 ]

ความคิดเห็นที่ 2 การแก้ สมการ         มีประโยชน์จริง จากคุณ : sb*star - [ 12 ก.พ. 51 03:04:49 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เรียนพวกนี้ จะได้แนวคิดครับ ผมเองเคยเห็น คนหลายแบบ บางคนผู้ใหญ่ก็มี ไม่ได้เรียนหนังสือมามาก เวลาพูด เวลาคิด เราก็คิด ขอโทษเหอะมัน เหมือนกะ ประมาณว่า ไม่ได้รับการศึกษา มา แต่เขาอ่านรู้เรื่องนะ อ่านเหมือนรู้ ไปหลายเรื่อง ในสภากาแฟ แต่ ใครไปฟัง เหมือนๆ กะโง่ๆ ไงไม่รู้ หมั่นไส้อีกต่างหาก คณิตศาสตร์ ลึก ๆ มันให้ วิธีคิด แนวคิด ตรรกะ หลักการเหตุผลครับ อธิบายไม่ถูก เหมือนกัน จากคุณ : lazarn (lazarn) - [ 12 ก.พ. 51 03:06:51 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า(ผม)เรียนไปทำไม เพื่อนถามมืงเรียนจบไปมืงทำงานห่าไร ตอบไม่ได้ครับ แต่ทุกศาสตร์อ่ะ ผมว่าต้องมีสองข้อนี้ 1 เพื่อไม่ให้ศาสตร์นั้นสูญหาย 2 เพื่อพัฒนาศาสตร์นั้น จากคุณ : milchschokolade - [ 12 ก.พ. 51 03:25:15 ]

ความคิดเห็นที่ 5 มันอยู่กับคุณโดยที่คุณไม่รู้ตัว อย่างน้อยๆก็ตรรกศาสตร์ ถ้าขาดสิ่งนี้ ที่คุณเรียนไปสุดท้ายก็ได้แค่ไอ้โง่ที่ท่องตำราได้แต่เอามาคิดอะไรไม่ได้ จากคุณ : ไม่มีสมาชิกชื่อนี้ - [ 12 ก.พ. 51 03:33:14 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ผมคิดว่า เรียนเพื่อให้รู้ครับ แต่จะร้ไว้ทำอะไร มีหลายอย่าง ไม่ใช่คณิตศาสตร์อย่างเดียว วิชาอื่นด้วย เช่น ประถมเรียนบวก ลบ คูณ หาร เพื่อให้รู้เอาไว้ใช้ประโยชน์ประจำวันครับ โตขึ้นมาหน่อย ม.ต้น คณิตศาสตร์เริ่มยากขึ้นมา บางอย่างไม่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน ถามว่า อ้าว แล้วจะเรียนไปทำไม ก็ตอบเหมือนเดิม เรียนเพื่อให้รู้ ส่วนหนึ่งให้รู้ว่ามันยาก ให้รู้ว่าต่อไปมันต้องยากขึ้นแน่ๆ เราจะได้ตัดสินใจเลือกทางในอนาคตว่า จะเรียนต่อ หรือหาทางอย่างอื่นต่อไป พอมาม.ปลาย ก็เหมือนม.ต้นแหละครับ เรียนเพื่อเป็นพื้นฐานสำหรับระดับชั้นต่อไป และเพื่อให้รู้ว่ามันยาก ถ้าเรียนไม่ไหวก็จะได้หาทางเดินอย่างอื่นต่อไป ส่วนของมหาวิทยาลัย มาถึงขนาดนี้แล้ว วิชาเอกที่เรียน เชื่อว่าถ้าได้ทำงานตรงสาย ยังไงก็ได้ใช้แน่ๆล่ะครับ จากคุณ : หมั่นไส้ - [ 12 ก.พ. 51 05:00:58 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เราเรียนสถาปัตย์ เจอแคลคูลัส stat กับฟิสิกส์... ถ้าถามว่าเรียนทำไม ตอบให้ได้ว่า...จะได้ดรอปแล้วไปเรียนอีกรอบไงคะ -*- #10 เจอมาแล้วค่ะ อาจารย์ภาควิทยาศาสตร์มาสอน เขาว่าโดนอ.ด่ากันทุกปี เพราะไม่ค่อยจะมาเรียนวิชานอกภาคกัน แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 51 19:55:01 จากคุณ : ด๋อยด๋อย - [ 12 ก.พ. 51 06:57:57 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าเรียนแล้วคุณยังไม่รู้ว่าเรียนไปทำไม แสดงว่าคุณยัังไม่เข้าใจวิชาที่คุณเรียนนั้นๆ คณิตศาสตร์ ในการแก้ปัญหาทุกๆอย่าง ต้องใช้คณิตศาสตร์ทั้งนั้น ไม่ว่าคุณจะเรียนอะไร ถ้าคุณเรียน เศรษฐศาสตร์ forecasting Theory ก็ต้องใช้คณิตศาสตร์ คุณเรียนชีววิทยา หรือเคมี การเกิดหรือการทำปฏิกริยาก็ต้องใช้คณิตศาสตร์ในการคำนวณ ไม่ว่าจะเรียนอะไรถ้าคุณมีการทดสอบสุมมติฐาน เพื่อพิสูจนน์ว่า H =1 หรือ 0 แล้วล่ะก็ คุณต้องใช้คณิตศาสตร์ในการหาคำตอบ จากคุณ : kanoomtan - [ 12 ก.พ. 51 07:31:46 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เรียนมาก็คืนให้อาจารย์ ไปแล้ว...เกือบทุกวิชาครับ ยกเว้นวิชา ชีวิต.... จากคุณ : art anfield - [ 12 ก.พ. 51 07:41:44 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ^ ^ คห. 7 เรียนถาปัตย์ ไม่เรียนฟิสิกส์นี่ น่ากลัวนา Cal ก็ใช้คำนวนโครงสร้างเป็นต้น Stat ถ้าคุณเริ่มคิดจะเป็นเจ้าของกิจการ เดี๋ยวคงได้ใช้มั่งแหละ สรุป เรียนไปเหอะ วิชาเหล่านี้ดีต่ออนาคตคุณนาาา จากคุณ : c2k - [ 12 ก.พ. 51 07:53:18 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้า ตัดวิชา ที่เรียนไปแล้วไม่ใช้ เรียนไปทำไม  ผมว่าท่าจะเหลือแต่วิชา เพศศึกษา ในหลักสูตร  555 จากคุณ : ARMS STRONG - [ 12 ก.พ. 51 07:56:20 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เอาไว้ทำนายราคาหุ้นครับ หุๆๆๆ จากคุณ : afinancestudent - [ 12 ก.พ. 51 08:24:30 ]

ความคิดเห็นที่ 13 แต่ผมยังสงสัยทุกวันนี้ ผมจบวิทยาศาสตร์ คอมฯ แต่ตอนเรียน มีเรียน Botany กับ Zoology ด้วย ไม่รุว่าจะเรียนทำไม.. -"- จากคุณ : Meow-Meow (piggy_and_kitty) - [ 12 ก.พ. 51 08:59:42 ]

ความคิดเห็นที่ 14 จนกว่าจะถึงคราวจำเป็นต้องใช้ จึงจะพบว่ามันมีประโยชน์ แต่ลืมไปหมดแล้ว จากคุณ : ksk - [ 12 ก.พ. 51 09:09:06 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เป็นอุปกรณ์สำหรับยังชีพครับ มีไว้ทำข้อสอบได้ มีไว้ทำงานได้ มีไว้หากินได้ มีไว้สอนพิเศษได้ มีไว้เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ต้องการใช้งานจริง แต่จำเป็นต้องรู้หมดมั๊ย ???   เอาที่ใช้เป็นประจำก็ อยู่ตัวแล้วครับ อันไหนไม่เคยเจอเปิดตำราเอา ใช้งานจริง ไม่เหมือนกับเวลาเรียน  Open Book ได้ จากคุณ : joejo99 - [ 12 ก.พ. 51 09:33:38 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ลูกผมก็เคยถามว่าทำไมต้องเรียนบวกลบคูณหาร เพราะตอนทำงานก็เห็นผู้ใหญ่ใช้แต่เครื่องคิดเลขกัน แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 51 09:45:40 จากคุณ : freefeel - [ 12 ก.พ. 51 09:44:20 ]

ความคิดเห็นที่ 17 สำหรับผมมันสอนให้คิดเป็นครับ....จริงๆก็ไม่ได้ใช้เท่าไหร่หรอก  แต่จะได้มาโดยไม่รู้ตัวคือการคิดในแง่มุมต่างๆการหาวิธีการที่เหมาะสมต่างหากที่ผมได้ไปโดยไม่รู้ตัว  แรกๆก็ไม่ชอบมันตลอดเวลาที่เรียนมัน แต่พอออกไปใช้ชีวิตจริงๆถึงได้ค่อยๆรู้ว่าที่เรียนมาไม่เสียหาย จากคุณ : อมมือ - [ 12 ก.พ. 51 09:48:43 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เรียนไปเพื่ออะไร ตอบง่ายมากครับ เพื่อให้จบตามหลักสูตรที่มหาวิทยาลัยกำหนด เขาจะได้รับรองวิทยฐานะให้ จากคุณ : ศล - [ 12 ก.พ. 51 09:49:21 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เรียนเพื่อเอาไว้สอบ เพื่อให้มีคะแนน เพื่อให้จบ คงไม่ใช่ทุกคนหรอกที่ได้ใช้มันโดยตรง ทุกวันนี้ปวดหัวมากกับ differential intigrate อะไรไม่รุ ปวดหัว-*- จากคุณ : หมูรูนสุดหล่อ - [ 12 ก.พ. 51 10:07:23 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ลูกผมก็เคยถามว่าทำไมต้องเรียนบวกลบคูณหาร เพราะตอนทำงานก็เห็นผู้ใหญ่ใช้แต่เครื่องคิดเลขกัน ------------------------------------------------------------- ถ้าไม่เรียนรู้หลักการมาก่อน เราจะรู้ได้ไงว่าจะต้องกดยังไง แล้วผลลัพออกมานั้นถูกหรือไม่ ถ้าวันไหนไม่มีเครื่องใช้จะทำยังไง จากคุณ : WhiteWolf - [ 12 ก.พ. 51 10:37:01 ]

ความคิดเห็นที่ 21 กลุ่มนึง เรียนเพื่อรู้ รู้เพื่อรู้ ไม่มีอะไรบางกว่านั้น อีกหลุ่มนึง เรียนเพื่อรู้ รู้เพื่อประยุกต ถ้าไม่อยู่ในสองกลุ่มนี้คุณไม่ได้สนใจความรู้ในคณิตศาสตร์ หรือ คุณไม่ได้สนใจการประยุกต์ของคณิตศาสตร์ แล้วคุณสนใจอะไรในคณิตศาสตร์ ???? จากคุณ : เซียนแห่งmath - [ 12 ก.พ. 51 10:44:13 ]

ความคิดเห็นที่ 22 แล้วคุณจะรู้เหรอครับว่าโตมาต้องใช้อะไรมั่ง? จากคุณ : sace22 - [ 12 ก.พ. 51 10:53:18 ]

ความคิดเห็นที่ 23 #20 ขอบคุณสำหรับคำตอบ แต่ผมคงไม่เอาคำตอบแบบนั้นไปตอบเด็กหรอก จากคุณ : freefeel - [ 12 ก.พ. 51 11:15:34 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เวลาที่ต้องใช้ไอ้พวกนี้ มันจะมาตอนที่เราลืมมันไปแล้วครับ จากคุณ : ไม่งง (ไม่งงครับ ไม่งง) - [ 12 ก.พ. 51 11:24:42 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ปัญหาโลกแตกครับ เถียงกันมาไม่รู้จบรู้สิ้น จะดีที่สุดให้เจ้าของหลักสูตรเขียนหลักสูตรเองและสอนเองทั้งหมด แพทย์ก็สอนเคมีเอง วิศวะก็สอนสถิติเอง ฟิสิกส์ก็ให้สอนแคลคูลัสเอาเอง สื่อสารมวลชนก็สอนไฟฟ้าอิเลคทรอนิกส์เอาเอง สมมุติว่าทำได้นะ สงสัยยังไม่ถูกใจคนเรียนอยู่ดีแหละ จากคุณ : ตี้หลง - [ 12 ก.พ. 51 11:31:35 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เห็นด้วยกับคคห 3 คำพูดของคนไม่มีตรรกะ ฟังแล้วรู้เลย จากคุณ : ไฟล์ท B ทีน้ำเงิน - [ 12 ก.พ. 51 11:43:08 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ง่ายๆก่อนก็ เอาไว้ทำข้อสอบไง กระทรวงเค้าเผื่อไว้มั้งครับ เค้าต้องการให้เด็กมีการศึกษา มีอาชีพการงานที่ดี งานอาชีพ สูงๆ ส่วนใหญ่ก่อน ต้องใช้ของพวกนี้เป็นธรรมดา อาชีพที่ไม่ได้ใช้ก็พวก กรรมกร ทั่วไปไง บางทีในเรื่อง เศรษฐศาสตร์ แม่ค้าตลาด จำเป็นต้องใช้น่ะ จะได้มีความรู้เรื่อง อุปสงค์ อุปทาน และควบคู่ไปกับการติดตามข่าวสารบ้านเมือง ลองคิดดูน่ะว่า.... ประเทศไทย นำเข้าแรงานจากพม่า เพราะ คนสามารถหางานทำได้ มากไม่มีการว่างาน เลยจำเป็นต้องนำเขาแรงานก่อสร้างจากต่างประเทศ หรือ ว่า ประเทศไทยประสบปัญหา ว่างงาน เพราะคนไทยขาดความรู้ความสามารถ ทำให้ไม่จำเป็นต้อง พึ่งแรงาน กรรมกร จากพม่า ผมอธิบายยังงี้จะมีใครเข้าใจมั้ยน่า...... แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 51 13:18:01 จากคุณ : หวังดีน่ะเนี่ย (1812Overtureyoot) - [ 12 ก.พ. 51 13:14:50 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ... คุณอยากได้ปริญญาที่คุณเรียนละเปล่า ถ้าต้องการ สิ่งเหล่านี้เป็นองค์ประกอบที่ต้องผ่านให้ครบ จึงจะให้ปริญญาคุณได้ แม้ว่าคุณจะคิดว่ามันไม่ได้ใช้ในชีวิตของคุณซักเท่าไหร่ แต่ปริญญาที่คุณรับมา มันติดตัวคุณไปตลอดและมันก็เป็นตัวบอกว่าคุณได้ผ่านวิชาเหล่านี้มาแล้ว แม้ว่าทุกวันนี้จะจำไม่ได้ หรือไม่ได้ใช้ แต่คุณก็ได้ผ่านมันมาแล้ว ส่วนการที่จะได้ใช้มากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับว่า 1. งานของคุณต้องใช้มากแค่ไหน 2.คุณดึงมันมาประยุกต์ใช้กับวิธีการคิดต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน หรือเรื่องทั่ว ๆ ไปได้มากแค่ไหน จากคุณ : 73078 - [ 12 ก.พ. 51 13:33:37 A:124.120.186.165 X: TicketID:073078 ]

ความคิดเห็นที่ 29 # 3 คุณ : lazarn    ถ้าเราฟังคนที่รู้น้อยกว่าเราคุยกันเราจะรู้เลยว่าเขาโง่กว่าเรา    และในทำนองเดียวกันถ้าคนที่รู้มากกว่าเราฟังเราคุยกันเขาจะรู้เลยว่าเราโง่กว่าเขา    ไม่มีใครฉลาดไปทุกเรื่องบางเรื่องเราก็โง่บางเรื่องเราก็ฉลาดต้องพึ่งพาอาศัยกัน         ............................................    เรียนคณิตศาสตร์ชั้นสูงไปเพื่ออะไร?..เรียนเพื่อให้รู้หลักการและวิธีคิดเรื่องยุ่งยาก ให้รวดเร็ว ฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯ(ผู้ถามคงหมายถึงตั้งแต่ ลิมิต ขึ้นไป )    ยกตัวอย่างง่ายๆเอาแบบธรรมดา  1+2+3+4+5+6+7+8+9+10 ถ้าไม่มีหลักการคิด เราก็คงบวกกันตามธรรมดากว่าจะได้คำตอบเสียเวลามากและมีโอกาสผิดพลาดมาก จากคุณ : ตาเป๋า - [ 12 ก.พ. 51 13:37:05 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เรียนเพื่อสอบ... ผมหมายถึงเรียน(ตะ)กวดวิชาน่ะ... จากคุณ : ซายูบิ - [ 12 ก.พ. 51 13:37:50 ]

ความคิดเห็นที่ 31 คณิตศาสตร์ชั้นสูง  จิตใจชั้นต่ำ ก็เอาไปคดโกงชาวบ้านไงครับ หวย แชร์ลูกโซ่  สารพัด จากคุณ : อั้งเสาะ - [ 12 ก.พ. 51 15:57:05 ]

ความคิดเห็นที่ 32 #31 ชาวบ้านไม่ได้เรียนคณิตศาสตร์ชั้นสูง เลยโดนโกงไงล่ะ จากคุณ : ไม่มีสมาชิกชื่อนี้ - [ 12 ก.พ. 51 16:27:28 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ตอนนี้เลขที่เราใช้ประจำวันก็แค่คิดราคาต่างๆ ค่าใช้จ่ายต่างๆ แค่นี้เอง นอกนั้นทิ้ง ไปหมดแล้วละ จากคุณ : เทเลทับขี้ - [ 12 ก.พ. 51 21:11:06 ]

ความคิดเห็นที่ 34 คณิตศาสตร์ชั้นสูง ... สูงแค่ไหน? ถ้าแค่ระดับ ม.ปลาย ถือว่ายังไม่สูงเท่าไร คณิตศาสตร์ชั้นสูงจริงๆคือที่นักคณิตศาสตร์เขาคิดกัน ต้องบอกตรงๆว่า หลายๆเรื่อง"ไม่มีประโยชน์เลย" (ในตอนนี้ -- แต่ในอนาคต ไม่แน่) นักคณิตศาสตร์เขาไม่ได้คาดหวังว่างานของเขาจะต้องมีประโยชน์ต่อโลก เขาคิดเพื่อรู้ รู้แล้วก็มีความสุข ไม่มีอะไรมากกว่านั้น บางคนอาจเรียกว่า "การสำเร็จความใคร่ทางปัญญา" บางคนอาจเรียกว่า "การค้นหาความงดงามของคณิตศาสตร์" แม้แต่ G. H. Hardy นักคณิตศาสตร์ด้านทฤษฎีจำนวนที่โด่งดัง ยังเคยกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า งานของเขาเป็นคณิตศาสตร์บริสุทธิ์อย่างแท้จริง เพราะมันไม่มีประโยชน์อะไรต่อโลกเลย ไม่ว่าจะทั้งทางตรงหรือทางอ้อม ไม่ว่าจะดีหรือร้าย... แต่น่าเสียดายที่ผลงานของ Hardy กลับถูกนำไปใช้ประโยชน์อย่างในวงการฟิสิก์เรื่องควอนตัมฟิสิกส์อย่างแพร่หลาย งานของเขา"มีประโยชน์"เสียแล้ว ------- อ้างอิง http://en.wikipedia.org/wiki/G._H._Hardy Hardy preferred his work to be considered pure mathematics, perhaps because of his detestation of war and the military uses to which mathematics had been applied. He made several statements similar to that in his Apology:    "I have never done anything 'useful'. No discovery of mine has made, or is likely to make, directly or indirectly, for good or ill, the least difference to the amenity of the world." However, aside from formulating the Hardy-Weinberg principle in population genetics, his famous work on integer partitions with his collaborator Ramanujan, known as the Hardy-Ramanujan asymptotic formula, has been widely applied in physics to find quantum partition functions of atomic nuclei (first used by Niels Bohr) and to derive thermodynamic functions of non-interacting Bose-Einstein systems. Though Hardy wanted his maths to be "pure" and devoid of any application, much of his work has found applications in other branches of science. แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 51 10:13:54 แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 51 10:04:05 จากคุณ : Kitsune - [ 13 ก.พ. 51 02:41:57 ]

ความคิดเห็นที่ 35 คณิตศาสตร์คือธรรมชาติที่มีข้อพิสูจน์และให้เหตุผลได้ ยิ่งเรียนสูงยิ่งรู้ว่า 1+1 ไม่จำเป็นต้องเป็น 2 เสมอ . ดังนั้นสิ่งที่เราเรียนไปก็เพื่ออธิบายธรรมชาติ ว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น เป็นเช่นนั้นได้อย่างไร ยกตัวอย่าง ถ้าเราอยากรู่ว่าโลกกลมจริงหรือ ต้องใช้หลักคณิตศาสตร์หาใช่ กฏดาราศาสตร์ของใครบางคนหรือสมการทางฟิสิกส์ไม่ . . ไม่ใช้เรียนไปแล้วไม่รู้จะไปทำประโยชน์อะไร นั้นเป็นกระบวนการ Apply ของแต่ละคนครับ แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 51 15:29:17 จากคุณ : กีดกัน (กีดกัน) - [ 13 ก.พ. 51 15:24:16 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ตอนเรียนถาปัด เจอเเคล ฟิสิคส์ เลข เกือบเเย่ครับ ผ่านหวุดหวิด เรียนผ่านมาก็ส่งคืนอาจารย์หมดเเล้ว จากคุณ : bigwores - [ 13 ก.พ. 51 15:35:44 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ความจริงต่างๆทางวิทยาศาสตร์ เครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆที่ใช้อยู่ปัจจุบัน (รวมทั้งคอมพิวเตอร์ และ เครื่องคิดเลข) เครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ถ้าไม่มีคณิตศาสตร์ระดับสูง ก็ไม่เกิดขึ้น จากคุณ : Redder ครับ - [ 13 ก.พ. 51 16:37:48 ]

ความคิดเห็นที่ 38 We need the advance mathematics for formulating and solving the problem regarding everything you want to know. จากคุณ : kiwiboyz - [ 13 ก.พ. 51 17:23:49 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ตามความเข้าใจคิดว่า Abstract Mathematics มีเพื่อสร้างมาตรฐานทางความรู้ เพื่อศึกษาต่อในชั้นที่ เรื่องที่สูงกว่า ต่อไป และเมื่อกล่าวถึง Higher Mathematics จะเพิ่มเนื้อหาจากปกติ คิดว่าตรงที่สร้างความซับซ้อน และขยายมุมมอง ด้านนั้นๆ เช่น ใน Geometry เมื่อพิจารณา หนึ่งมิติ สองมิติ สามมิติ สี่มิติ ... N มิติ หรือ การนำ Polar Coordinate ไปเพิ่มความแปลกใหม่ให้กับ Native Geometry บางคนวงกลมอย่างเดียว บางคนก็เส้นตรงก็พอ แต่สมัยนี้ควรบวกเทคโนโลยีเข้าไปด้วย แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 51 22:55:11 จากคุณ : kongp (kongp) - [ 16 ก.พ. 51 02:38:25 ]