ความคิดเห็นที่ 1 ไม่ทราบครับ ผมเกิดไม่ทัน รอท่านอื่น จากคุณ : ปากหวาน - [ 20 ก.พ. 51 18:39:36 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เดี๋ยวก็มีคนเข้ามาตอบเชิงอิทธิปาฏิหาริย์จนได้ ช่วงนี้หว้ากอมีกระทู้ศาสนาเยอะ สำหรับหลักการโดยพื้นฐานเลย ก็คือ เสียงสามารถสะท้อนได้ ถ้ามีการจัดสถานที่พูดให้เหมาะสมครับ อย่างเวทีการแสดงละครของกรีกโบราณ ก็มีการสร้างอัฒจรรย์เป็นรูปครึ่งวงกลม หรือพาราโบลา เพื่อให้สะท้อนเสียงได้ดี โดยที่สเตจของผู้พูดเป็นจุดโฟกัสครับ ช่วงเวลาของพระพุทธเจ้า เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับสมัยกรีก ถ้าความรู้ความเข้าใจในวิศวกรรมการสร้างสถานที่ประชุมต่างๆ จะเผยแพร่ผ่านมาถึงทางนี้ก็ไม่แปลก จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! - [ 20 ก.พ. 51 18:40:22 ]

ความคิดเห็นที่ 3 http://en.wikipedia.org/wiki/Theater_%28structure%29#Ancient_Greece Theatre ที่เมืองเดลฟี กรีซ.. ปล.สิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ก็คือ มีชนอยู่สองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งมองท่านเป็นศาสดา ที่มีความพิเศษ เหนือกว่ามนุษย์ทั่วไป ในแง่ของอิทธิปาฏิหาริย์ แต่อีกกลุ่มมองท่านเป็นนักปราชญ์โบราณที่มีคุณูปการแก่มวลมนุษย์ ที่น่าเคารพ เช่นเดียวกับ อริสโตเติล โสเครตีส ธาเลส ปโตเลมี ขงจื๊อ เล่าจื๊อ ฯลฯ บางทีสิ่งต่างๆที่ผ่านกาลเวลามานาน ก็มีการเสริมเติมแต่งกันได้ เป็นต้นว่าเรื่องเสียง แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ เราจะใช้ชีวิตอย่างไรให้ไม่เป็นทุกข์มากกว่า แก้ไขเมื่อ 20 ก.พ. 51 18:48:38 จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! - [ 20 ก.พ. 51 18:44:10 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ใช้อิทธิฤทธิ์ครับมีอภินิหารเทศน์ให้คนห่างไปเป็น100ๆเมตรได้แม้จะออกเสียงแค่ในลำคอ  ถ้าไม่ยึดเรื่องอภินิหารก็คือพระพุทธเจ้าท่านมีกำลังเปล่งเสียงเยอะกว่าคนปกติครับ คนที่ไปเข้าเฝ้าไม่มีใครมานั่งคุยกันหรือแม้แต่จะหายใจดังๆใครๆก็อยากฟังธรรมจึงตั้งใจ  อาจมีการส่งต่อคำพูดไปอีกเป็นทอดๆก็ได้ เรื่องการเทศน์ของพระองค์เป็นเรื่องปาฏิหารย์พิสดารที่เล่าต่อกันมาหลายสมัยบางคนก็บอกว่าคนที่มาจากต่างถิ่นต่างแคว้นเวลาที่พระองค์จะแสดงธรรมจะได้ยินและเข้าใจเป็นภาษาเดียวกันหมด  เวลาล้อมวงฟังธรรมจะเห็นพระพักต์หันหน้าให้กับคนฟังทุกคน และท่านสามารถเนรมิตให้มีหลายพระองค์ได้ เวลาแสดงธรรมการกำหนดสมาธิหรือเดินจงกลม  รูปที่พระองค์เนรมิตก็จะเดินจงกลมให้ดูเป็นตัวอย่าง  คนนั่งฟังเทศน์จะอยู่ใกล้หรือไกลจะได้ยินเสียงเท่าๆกัน จากคุณ : harvardวิทยาคม - [ 20 ก.พ. 51 18:47:12 ]

ความคิดเห็นที่ 5 คนสองพันกว่าคนไม่ใช่เรื่องใหญ่ครับ แม่ทัพสมัยโบราณ สั่งการคนมากกว่านี้(โดยละเอียดไม่ได้ใช้สัญญาณธง)ยังได้เลยครับ อยู่ที่ว่าคนที่ฟังคุณ ตั้งใจพอไหม มีสมาธิ พอไหม แล้วถ้าคุณไม่เชื่อ คุณคิดว่าในสมัยโบราณ ผู้มีอำนาจสั่งการอย่างไรหละครับ สมัยพระพุทธองค์ ก็เริ่มเมื่อ 2500 กว่าปีที่แล้วนี่เอง ประวัติศาสตร์การกระทำการใหญ่ๆของมนุษย์มันมากกว่านั้นนะครับ ตกลง คุณ DigiTaL-KRASH!!! ก็ยังคงไม่เห็นด้วยกับความเชื่อ อีกต่อไป โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับศาสนา จากคุณ : WareZ - [ 20 ก.พ. 51 18:49:02 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ? เชื่อสิครับ เชื่อประมาณนี้ก็ถือว่าเชื่อนะ http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X6349639/X6349639.html#46 จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! - [ 20 ก.พ. 51 18:55:10 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอยกที่อาจารย์ DigiTaL-KRASH!!! ท่านโพสมาเลยแล้วกันครับ เชื่อ และเคารพแนวคิดในส่วนของแนวทางการใช้ชีวิต และจริยศาสตร์ครับ ---ดีแล้วครับ ผมก็เชื่อเช่นเดียวกับคุณ กำลังศึกษารวบรวมข้อมูล ในส่วนของอภิปรัชญา และเอกภพวิทยาครับ ---ขอข้อมูลก่อนโพสได้ไหมครับ กำลังจะเก็บข้อมูล เตรียมตัวเรียนเอกพอดี ไม่เชื่อในส่วนของปาฏิหาริย์ต่างๆครับ ---อันนี้เป็นส่วนเพิ่มเติมครับ เพื่อให้คนที่ยังเชื่อให้ปาฏิหาริย์ อย่าลืมนะครับศาสนาพุทธ เรียนรู้แบบขั้นบันได ต้องเผื่อไว้ให้บัวเหล่าอื่นเขาด้วย ...ขอเทพมังกรอวยชัย... ---อันนี้ไม่ทราบศาสนาใด ถ้าให้ผมคิดน่าจะศาสนาดราก้อนบอล ด้วยความเคารพครับ อาจารย์ DigiTaL-KRASH!!! จากคุณ : WareZ - [ 20 ก.พ. 51 19:04:59 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ผมอ่านหัวข้อกระทู้  ผมก็ คิดถึง ลำโพง เลย คับผม จากคุณ : ชลน่าน - [ 20 ก.พ. 51 19:08:58 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมว่ามาพูดกันในบริบทของหลักการเรื่องฟิสิกส์ของเสียงดีกว่าไหม ส่วนในบริบทเรื่องศาสนาน่าจะได้คุยในโต๊ะศาสนา มากกว่าในโต๊ะหว้ากอ ปล.1 ลองหากระทู้เรื่องศาสนาเทพมังกร ใน topicstock นะครับ ^^~ ปล.2 ยินดีจ้า เอ้าลองดูในลิงก์นะครับ สงสัยถามท่านอัครสาวกดอส กับชาวเทพมังกรท่านอื่นๆใน list http://xn--12c1czafac9b9bq7dxgrc.com/wiki/%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A3 ^ ^ V V แก้ไขเมื่อ 20 ก.พ. 51 21:21:12 จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! - [ 20 ก.พ. 51 19:10:37 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ถามเรื่อง ฟิสิกส์ของเสียงก็ตอบไปแล้วนี่ครับ ตอนนี้เลยสนใจศาสนา เทพมังกร ครับ จากคุณ : WareZ - [ 20 ก.พ. 51 19:20:04 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ในที่อันระโหฐาน แม้ถ้าคนหนึ่งหมื่นคนน้อมใจที่จะรับฟัง ก็จะได้ยินชัดทั่วกันทุกคนครับ จากคุณ : อิ่มบุญครับ (กัปตันสมหมาย) - [ 20 ก.พ. 51 19:22:12 ]

ความคิดเห็นที่ 12 สมัยก่อนไม่หนวกหูเหมือนเดี๋ยวนี้นะครับ  เคยไปป่าไหม ? เอ้า เขาชนไก่ก็ได้   ครูฝึกคนเดียว ตะโกนจากตีนเขา ได้ยินกันทั้งบางเลย จากคุณ : NaCl - [ 20 ก.พ. 51 19:50:05 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ตามที่เรียนมา พระภิกษุสงฆ์จำนวน1250รูปมาประชุมกัน พระภิกษุเหล่านั้นล้วนเป็นพระอรหันต์ทั้งสิ้น เหล่าภิกษุจึงได้ยินพระพุทธเจ้าแสดงธรรม โอวาทปาติโมกข์ อย่างชัดแจ้ง คิดว่านะ จากคุณ : Sir.ขงเบ้ง - [ 20 ก.พ. 51 19:58:30 ]

ความคิดเห็นที่ 14 (คิดเอาว่า)  การประชุมใหญ่ดังเช่นเหตุการณ์อันเป็นจาตุรงคสันนิบาตนี้อาจไม่ใช่มีได้บ่อยๆ  หรือเหตุการณ์นี้อาจเป็นการประชุมใหญ่ที่สุดที่มีขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ในสมัยพุทธกาลนั้นก็ได้  ในแง่สมาธิความตั้งใจและมารยาทของเหล่าบัณฑิตผู้เข้าร่วมประชุมดังกล่าวน่าจะถือว่าเป็นแบบอย่างที่ดีที่สุดของมนุษย์ได้เหตุการณ์หนึ่งทีเดียว  แต่ทั้งนี้ก็เป็นการเชื่อไปตามเหตุการณ์ที่สืบต่อกันมาดังกล่าวโดยมิได้เคร่งครัดหนักแน่นตามหลักกาลามสูตรในที่นี้น่ะครับ ส่วนการเทศนาต่อที่ประชุมโดยส่วนใหญ่อันเป็นสาวกหรือชาวบ้านทั่วไป คิดว่าน่าจะเป็นกลุ่มย่อยกว่ากันซึ่งน่าจะมีปัญหาน้อยกว่าการประชุมครั้งใหญ่ (แต่ในทางปฏิบัติ เหตุการณ์จาตุรงคสันนิบาตอาจมีความจอแจเอ็ดตะโรน้อยกว่าก็เป็นไปได้เหมือนกัน) ในแง่ความดังของเสียงที่ได้ยินควรแตกต่างกันไปตามระยะทาง (ยกเว้นทรงแสดงอิทธิเพื่อการได้ยิน หากมีจริง)  แต่เชื่อว่าทุกท่านในที่ประชุมสามารถรับสารพระโอวาทปาฏิโมกข์ที่ทรงสื่อ ได้ทั้งสิ้นครับ จากคุณ : ผู้ศึกษา - [ 20 ก.พ. 51 19:58:51 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ว่ากันว่าสมัยโบราณมีวิชาราชสีห์คำราม อ้าว เอาแบบวิทยาศาสตร์เหรอ ก็ต้องลองไปทดลองดูสิครับ ถ้าที่โรงเรียนมีห้องประชุมใหญ่จุคนซัก1000คน วันไหนที่เงียบๆไม่มีคนก็ลองไปทดลองกับเพื่อนๆดูว่าพูดหรือตะโกนอีกฟากหนึ่งแล้วเพื่อนที่อยู่อีกฟากจะได้ยินชัดมั้ย ต้องลองถึงจะรู้จริง จากคุณ : มังกรใจเย็น - [ 20 ก.พ. 51 20:17:52 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สงสัยได้ดีมากเลยครับ ผมว่าคงไม่ได้ยินหมดหรอกครับ ซึ่งก็ไม่เห็นแปลกอะไรนี่ครับ จากคุณ : อยู่คนเดียวเปล่าเปลี่ยวใจ - [ 20 ก.พ. 51 20:45:51 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ก็ต้องได้ยินหมดสิ ท่านเป็นพระพุทธเจ้า จากคุณ : ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ - [ 20 ก.พ. 51 20:49:58 A:222.123.132.149 X: TicketID:121133 ]

ความคิดเห็นที่ 18 คห 15 ที่เขาชนไก่ ครูฝึกคนเดียว สั่ง รด เป็นพัน ยังสั่งได้สบายๆเลยครับ อย่างงี้น่าจะเป็นการทดลองแล้วใช่ไหมครับ จากคุณ : WareZ - [ 20 ก.พ. 51 21:16:21 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ได้ยินไม่ได้ยินไม่รู้เป็นคนดีก็พอ จากคุณ : น้องเจสซี่ - [ 20 ก.พ. 51 21:16:24 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คุยห้องนี้น่าจะตอบอะไรที่มากกว่า...ได้้ยินเพราะเป็นพระพุทธเจ้านะคะ เราว่า ถ้าเงียบกันหมดก็น่าจะได้ยินนะ จากคุณ : pankee - [ 20 ก.พ. 51 21:16:57 ]

ความคิดเห็นที่ 21 .. คนพันคน ต้องการที่สักเท่าไหร่เชียว 1 คน ต่อ 1 ตารางเมตร 1 ไร่ จุได้ 1600 คน 1 ไร่ = 40m*40 m ถ้าพระพุทธเจ้าอยู่ตรงกลาง คนที่อยู่ไกลที่สุด ห่างออกไปเพียง 20 เมตร ถ้านั่งล้อมวง  รัศมี 20 เมตร  ก็มีพื้นที่ประมาณ 1200 ตารางเมตร (ก็นับว่าใกล้เคียงกัน) ก็นึกดูแล้วกัน 20 เมตรมันไกลไหม แต่ความจริง 1 คนไม่ได้กินพื้นที่ถึง 1 ตารางเมตรหรอก ตอนฟังเทศน์ ก็เห็นนั่งชิดๆ กันทั้งนั้น (โดยเฉพาะถ้ามีคนเยอะๆ) แล้วคิดดูว่า  พระพุทธเจ้าเป็นผู้พูด คนฟัง เป็นพระอรหันต์ จะมีเสียงคุยกันเหมือนในห้องเรียนสมัยนี้ไหม ไม่ต้องใช้อิทธิฤทธิ์  แค่พูดเบาๆ ก็ได้ยินทั่วกันแล้วครับ .. จากคุณ : ไม่เป็นดั่งใจ - [ 20 ก.พ. 51 21:59:02 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ผมก็ว่าฟังได้หมดทุกคนนะ แต่อาจจะมีการทวนคำเหมือนสวดมนต์เนี้ยแหละ ลองคิดดูความตั้งใจของพระสงฆ์ยุคแรกๆนะ ท่านไม่มีหนังสือ ไม่มีกระดาษไม่มีปากกา แต่ก็ใช้การสวนทวนสอบทานพระไตรปิฏกต่อๆกันมาหลายร้อยปีกว่าจะลอกลงบนสื่ออื่น ปล. WareZ คุณนับถือศาสนาอะไรครับ ทำไมอัตตาเยอะจัง คุยด้วยเหตุผลสนุกกว่านะครับ อย่าพยายามยัดเยียดความคิดกันเลย คุณมีเหตุผลคนก็รับฟังคุณเอง จากคุณ : จาก - [ 20 ก.พ. 51 21:59:59 A:58.64.103.208 X: TicketID:159709 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คน 1,250 คนนั่งรวมกลุ่มกัน ถ้านั่งชิดๆกันใช้พื้นที่ประมาณ 20x20 เมตร ถ้าห่างหน่อยก็ถึง 25x25 เมตร ระยะทางแค่นี้ได้ยินเสียงพูดกันได้สบาย แก้ไขเมื่อ 20 ก.พ. 51 23:54:25 จากคุณ : freefeel - [ 20 ก.พ. 51 22:13:17 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ยังนับว่า Basic มาก ถ้าเทียบกับโปรโตคอลสื่อสาร ที่พระอรหันต์ใช้ติดต่อกัน ทั้งหมด 1,250 รูป อภิญญาต่างๆ ก็แค่ระดับ Application ของการบรรลุฌาณ เอาวิทยาศาสตร์ ณ ปัจจุบันไปเทียบ นับว่ายังล้าหลังกว่ากันเยอะ ทฤษฎีรองรับยังไม่เพียงพอ จนอาจจะสรุปแค่ตรงนั้นว่ามันไม่จริง .. เป็นไปไม่ได้ จากคุณ : อั๋น ทรงวุฒิ - [ 20 ก.พ. 51 23:10:59 ]

ความคิดเห็นที่ 25 โดยส่วนตัวคิดว่า ถ้าจำนวนผู้ฟังธรรม หลักพันคน ลำพังเสียงของมนุษย์ที่ไม่มีลักษณะมหาบุรุษ + ความเงียบสงัด + การจัดที่นั่งลักษณะรูปครึ่งวงกลม อย่างที่อ.DigiTaL-KRASH!!! บอกไว้ + อย่างที่บางท่านบอกไว้ว่า ครูฝึก รด. / แม่ทัพนายกองที่บัญชาการรบ ก็ยังสั่งการกันได้ แม้ขณะอยู่สมรภูมิรบ ฉะนั้น ผู้ฟังธรรม หลักพันคน ก็สมควรได้ยินพุทธโอวาท ชัดเจนนะครับ แต่ถ้าจำนวนผู้ฟังธรรม มีหลายหมื่นหลายแสน หรือหลายล้านคน (ในบางพุทธกาล การแสดงโอวาทปาติโมกข์ มีภิกษุอรหันต์มากกว่าพุทธกาลนี้ครับ ) ถ้าเป็นชาวพุทธ ก็มักมองไปที่พุทธานุภาพ กันอยู่แล้ว แต่หากไม่พูดเรื่องพุทธานุภาพ ปาฏิหาริย์ เคยมีผู้ที่อธิบายเชิงวิทยาศาสตร์ โดยโยงถึงเรื่อง ฉัพพรรณรังสี หรือ รัศมี ๖ สีที่แผ่ออกจากพระวรกาย ๑ วา เป็นปกติ คือ อาศัยแสง(แห่งรัศมี) เป็นพาหนะให้เสียง เดินทางไปถึงผู้ฟังที่อยู่ไกลมาก  ๆ ได้ คือ ทรงเปล่งรัศมี(แสง) ออกไปให้ถึงผู้ฟังที่อยู่ไกล ๆ แล้วฝากเสียงไปกับแสง เมื่อแสงถึงคนที่อยู่ไกล เสียงก็ไปถึงด้วย ไม่ งง นะครับ ผมไม่ใช่นักฟิสิกส์ วิทยาศาสตร์ ก็ไม่ทราบว่า คำอธิบายหลักการที่ว่า ฝากเสียงไปกับแสง   พอเป็นไปได้หรือไม่อย่างไรครับ ป.ล. แวะมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ประเทืองความรู้ ครับ จากคุณ : deedang - [ 20 ก.พ. 51 23:12:31 ]

ความคิดเห็นที่ 26 แล้วมีคนนับจำนวนไว้ด้วยหรอครับ จากคุณ : natong - [ 20 ก.พ. 51 23:17:10 ]

ความคิดเห็นที่ 27 สมมติพระสงฆ์นั่งชิดกันล้อมพระพุทธเจ้าเป็นวงกลม ผมลองนั่งขัดสมาธิ พื้นที่การนั่ง 0.7 x 0.6 เมตร วงแรกรัศมี 1 m คิดเป็นความยาว 2*3.14*1 = 6.28 m นั่งได้ 6.28/0.7 = 9 รูป วง 2 รัศมี 1+0.6 = 1.6 m คิดเป็นความยาว 2*3.14*1.6 = 10.05 m นั่งได้ 10.05/0.7 = 14 คน รวม 2 วง = 23 รูป ลองใช้ excel คำนวณ โดยวิธีเดียวกัน วงที่ 20 รัศมี 11.8 m ... รวม 20 วง นั่งได้ 1090 รูป . . . วงที่ 27 รัศมี 16 m ... รวม 27 วง นั่งได้ 1982 รูป . . . วงที่ 34 รัศมี 20.2 m ... รวม 34 วง นั่งได้ 3138 รูป (คำนวณโดยไม่ปัดเศษตัวเลขอาจน้อยกว่านี้แต่มากกว่า 3000 รูปแน่นอน) 12 เมตร, 16 เมตร, 20 เมตร เป็นระยะที่ไม่ไกลเลย ถ้าตั้งใจฟังไม่มีเสียงรบกวน พูดดังหน่อย ไม่ต้องตะโกนก็ได้ยินทั่วกัน จากคุณ : wichaphon1 - [ 20 ก.พ. 51 23:19:06 ]

ความคิดเห็นที่ 28 นักร้องโอเปร่ายังสามารถร้องให้คนได้ยินทั้งโรงละครใหญ่ๆได้เลย จากคุณ : Chaos dragon - [ 20 ก.พ. 51 23:38:48 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ปากปิด หูเปิด ปากเปิด หูปิด จากคุณ : ทองเปลว - [ 21 ก.พ. 51 00:09:31 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ผมไปอ่านมาแล้วครับ    ถ้าผู้ใดมาถึงทีหลังแล้วอยู่วงนอก คนข้างหน้าจะบอกมาเป็นทอดๆ ว่าท่านเทศน์พระสูตรไหน กล่าวถึงอะไร คนหน้าที่หูไม่ดีจะใช้วิธีอ่านปากเอาครับถือว่าใกล้เคียง  พระพุทธองค์ท่านเคยติงพระรูปหนึ่งว่าทำไมไม่เข้ามานั่งใกล้ๆจะได้สดับฟังธรรมของพระองค์ได้ชัดๆ มีพระรูปหนึ่งท่านบอกว่าพระรูปนั้นไปกินกระเทียมมากลัวมีกลิ่น เลยเป็นที่มาของการห้ามกินกระเทียม นอกจากจะเป็นโรคอะไร    ด้วยเหตุที่พระรูปนั้นนั่งไกลถือว่าไกลเสียงธรรม(ได้ยินไม่ถนัด) จากคุณ : harvardวิทยาคม - [ 21 ก.พ. 51 00:38:16 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ฟังแล้วบอกเป็นทอดๆ ไม่น่าจะเป็นไปได้ เสียงที่บอกมาเป็นทอดๆ จะไม่ไปกลบเสียงของพระพุทธเจ้าหรือ ลองจินตนาการดู จากคุณ : wichaphon1 - [ 21 ก.พ. 51 00:56:15 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เรียน จขกท. เขาอาจจะมีเทคโนโลยีอะไรบางอย่าง ที่บัดนี้สูญหายไปแล้วก็ได้ ขนาดโบราณสถานต่าง ๆ ยังจมอยู่ในดินและหไต้ทรายแทบทั้งนั้น ที่เห็นในภายหลังปัจจุบันนี้ก็ล้วนแต่ต้องขุดขึ้นมาแทบทั้งนั้น ส่วนที่ว่าเสียงได้ยิน ไปวงกว้างได้อย่างไรนั้น เราเคยไปทัวร์อินเดียและไปที่ปราสาทเก่าแก่มาก ๆ หลังหนึ่ง เขามีหอประชุมที่ไม่มีผนังกั้น มีแต่หลังคาแบบชั้นเดียวแต่แผ่ออกไปกว้างมาก ๆ แล้วให้เราไปยืนด้านนอกสุก ส่วนไกด์ยืนด้านในสุด เรียกว่ายืนคนละมุมกับไกด์อย่และไกลกันมาก ๆ แล้วไกด็เอาไม้ขีดจุดที่ข้างกล่องดังฟู่ หูเราก็ได้ยินเสียงชัดเจน โดยเขาไม่ได้ใช้ไมโครโฟนหรือเครื่องขายนเสียงช่วยแต่อย่างใด เสริจแล้วเขาบอกให้มองดูที่เพดานก็เป็นเป็นตะปุ่มตะป่ำเต็มไปหมด เขาบอกว่าเป็นเทคโนโลยีของคนโบราณทำเสียงสะท้องต่อกันเป็นลูกโซ่ ผ่านตะปุ่มตะป่ำบนเพดานนั่นแหละ จึงทำให้คนอยู่ในวงกว้างจำนวนมาก ๆ ได้ยินเสียงคนพูดแบบเบา ๆ ได้ชัดเจนเท่า ๆ กันและพร้อม ๆ กันหมดหมด ส่วนในพื้นที่เปิดโล่ง ก็ยังไม่เคยเห็นและยังตอบไม่ได้ ขอให้ท่านโชคดี จากคุณ : kongsilp2000 - [ 21 ก.พ. 51 01:27:03 ]

ความคิดเห็นที่ 33 สมัย2500ปีที่แล้ว ผมว่าเสียงรบกสนยังไม่มาก อีกทั้งผู้เข้าร่วม น่าจะมีใจจดจ่อกับสิ่งที่จะฟัง เลยไม่น่าเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์แบบในห้องสัมมนาในปัจจุบัน เมื่อยู่ในความสงัด พระพุทธเจ้าตรัสเบาๆก็น่าจะได้ยินกันทั่วแล้วครับ คาดการณ์เอาเองล้วนๆนะครับ แต่ตามต่างจังหวัดช่วงเย็นๆก็เงียบมากแล้วนะ ย้อนไปช่วง2500ปีที่แล้วผมว่าน่าจะสงัดเลยทีเดียว จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 21 ก.พ. 51 02:14:46 ]

ความคิดเห็นที่ 34 คลื่นเสียง ก็เหมือนกับคลื่นอื่นๆ ถ้ามีแรงต้านทานน้อยก็ไปได้ไกล ถ้าในวงรัศมี 20-30เมตร ที่เงียบสงบ ไม่มีเสียงอื่นรบกวน ได้ยินครับ .............................................................................. ....เคยเห็นการทดลองอันหนึ่ง ............................ ใช้จาน รูปคลึ่งวงกลม ตั้งห่างกัน ประมาณ30เมตร หันหน้าเข้าหากัน ให้คนสองคน ยืนหันหน้าเข้าหาจาน แล้วคุยกัน เบาๆ สามารถคุยกันได้ครับ .............................................................................. เป็นเรื่องธรรมชาติของคลื่น ............................................................................. อีกอัน นะครับ เมื่อพูดใส่กรวย ก้นเปิด เสียงจะดังไปไกลกว่าเดิม เหมือนลำโพง นะครับ ต้นกำเนิดเสียง เป็นขดลวด ครงกลาง ถ้าเปิดโดยไม่มีปากรวย แทบไม่ได้ยิน แต่ถ้ามีปากกรวย ก็ได้ยิน ............................................................................ จากคุณ : Stalwart - [ 21 ก.พ. 51 02:41:14 ]

ความคิดเห็นที่ 35 คิดเหมือนคุณ DigiTaL-KRASH!!! ค่ะ ^^ เราว่าไม่ใช่เรื่องแปลก หอประชุมโรงเรียนที่เราเคยอยู่จุคนได้ห้าร้อยกว่าคน ถ้าทุกคนเงียบจริงๆ คนพูดไม่ต้องใช้ไมค์ ก็ได้ยินกันทุกคนค่ะ จากคุณ : Kitsune - [ 21 ก.พ. 51 03:20:13 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ที่พระพุทธเจ้าทรงเทศนาคือสวนลุมพินีวัน(ป่ามะม่วง)นะครับ เข้าใจว่า เป็นสถานที่สำหรับเทศน์โดยเฉพาะ จึงไม่แปลกอะไร ส่วนปาฏิหารย์ต่างๆ เป็นระดับความรู้ของผู้นั้น ผมเชื่อว่าศาสนาพุทธเป็นปรัชญามากกว่า... จากคุณ : เด็กน้อยขี่ม้าก้านกล้วย - [ 21 ก.พ. 51 04:28:07 ]

ความคิดเห็นที่ 37 มาดูและเห็นด้วยกับหลายๆท่านครับ จากคุณ : เชษฐา - [ 21 ก.พ. 51 05:50:41 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เป็นไปไม่ได้หรอกครับ ที่คนนั่งไกลๆ จะได้ยินชัดเจนเท่าเทียมกัน สังเกตในห้องเรียนซิครับ ชั่วโมงที่อาจารย์เก่งๆมาบรรยาย พวกผมแย่งเก้าอี้หน้าชั้นกันทุกที ระหว่างฟังบรรยาย ลองเหลียวหน้าไปมองด้านหลังห้องซิครับ นั่งก้มหน้าบ้าง นั่งหลับบ้าง หัวเราะกันบ้าง ... ตถาตา ... อย่างนี้นี่เอง ธรรมชาติเป็นอย่างนี้ ... เชื่อเถอะ ในสมัยพุทธกาล ก็ไม่มีเหตุที่จะข้อยกเว้น ครับ สรุป ... พระพุทธเจ้าเทศน์ให้คนหมู่มากฟัง... คนฟังได้ยิน ความชัดเจนไม่เท่ากันครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 21 ก.พ. 51 05:59:10 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ไม่มีกระดาษไม่มีปากกา แต่ก็ใช้การสวนทวนสอบทานพระไตรปิฏกต่อๆกันมาหลายร้อยปีกว่าจะลอกลงบนสื่ออื่น >>>>>> จริงครับ  "การสอบทาน" ทำให้พระไตรปิฎกมีความถูกต้องสมบูรณ์ ผมเคยฟังคำตอบท่านเสถียรพงศ์ อธิบายเรื่องนี้ มองอีกแง่หนึ่ง "การสอบทาน" เป็นเครื่องยืนยันว่า "การรับฟัง" ได้ยินไม่ชัด ไม่ชัดเท่ากันทุกคน จึงต้องสอบทาน ครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 21 ก.พ. 51 06:07:55 ]

ความคิดเห็นที่ 40 คิดเหมือน #13 ครับ พระอรหันต์ทั้งนั้นนะครับ ต่างคนต่างบรรลุแล้ว   ระดับนี้ แค่ขยิบตา ก็รู้ใจกันแล้วครับ   ไม่ต้องพูดเลยยังได้ จากคุณ : tamrong - [ 21 ก.พ. 51 08:30:08 ]

ความคิดเห็นที่ 41 1.คิดเหมือนคุณดิจิครับ 2.ใช้หลักการของจิตวิทยามวลชน ทุกคนจดจ่อตั้งใจฟังในเรื่องเดียวกัน 3.อิภินิหาร ไม่ขอพูดถึง...เพราะไม่มีอะไรมาพิสูจน์ จากคุณ : Cryptomnesia - [ 21 ก.พ. 51 08:42:40 ]

ความคิดเห็นที่ 42 บรรยากาศในป่าโปร่งที่เทศนาคงเงียบสงัดมาก และยังมีต้นไม้ที่ล้อมรอบที่สามารถสะท้อนเสียงให้ไปได้ไกลกว่าปรกติ ลักษณะอย่างนี้พูดปรกติ100เมตรก็ได้ยิน จากคุณ : กบ - [ 21 ก.พ. 51 09:45:58 A:58.64.86.130 X: TicketID:111025 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ ได้ยินได้อย่างไร แต่น่าจะเป็น เข้าใจได้อย่างไร ตะหาก เรื่องขนาดของพื้นที่ ไม่น่าสงสัยหรอกครับ กว้างคูณยาว สามสิบสี่สิบเมตร พระสงฆ์พันสองร้อยห้าสิบรูปนั่งฟังกันอย่างสำรวมในป่าอันสงัด ทำไมจะไม่ได้ยิน คงคล้ายกับบรรยากาศลานหินโค้ง ที่สวนโมกข์หรือวัดชลประทานนั่นแหละ บางครั้งไมค์ดับ ท่านพุทธทาส ท่านปัญญาก็เทศน์ต่อโดยไม่พึ่งไมค์ ก็ได้ยินกันทั่ว แต่จุดที่น่าสงสัยก็คือ ในอินเดีย มีภาษาที่ต่างกัน หลายร้อยภาษา การที่พระพุทธเจ้าแสดงธรรมเป็นภาษาบาลี ให้กับพระผู้ฟังที่มิได้มีภาษาแม่เป็นบาลี จะทำให้ พระทุกรูปเข้าถึงอรหันต์เมื่อได้ฟังธรรมด้วยภาษาที่ไม่ค่อยเข้าใจได้กระนั้นหรือ ผมเป็นคนกรุงเทพ บางครั้งยังฟังพระชาวเหนือพูดไม่เข้าใจเลยครับ จากคุณ : karawara - [ 21 ก.พ. 51 10:01:54 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ความเงียบและสมาธิครับ  เมื่อภิกษุทั้งหลายรอฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าจะอยู่ในอาการที่สงบนิ่งจิตตั้งสมาธิจดจ่ออยู่กับคำสอนทั้งสองสิ่งประกอบกันจะเสริมให้การรับฟังดีขึ้นอีกหลายเท่า  ในสมัยนั้นยังได้มีบันทึกถึงครั้งพระเจ้าประเสนธิโกศลไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้ายังเอ่ยปากด้วยความประหลาดใจว่าเหตใดท่ามกลางหมู่สงฆ์จำนวนนับพันแต่กลับเงียบสงัดยิ่งราวกับไม่มีใครอยู่เลย เรื่องความเงียบและสมาธิในการฟังนี้เคยมีการทดสอบกันในวงการเครื่องเสียงถึงความสามารถในการได้ยินและแยกแยะของมนุษย์พบว่า ในห้องที่เงียบสนิทและมืดสนิทคนสามารถได้ยินเสียงเข็มตกพื้นห่างไปหลายเมตรได้ ทั้งยังระบุระยะและทิศทางได้อีกด้วย ส่วนประสบการณ์ของผมเคยเข้าไปนั่งสมาธิในถ้ำแห่งหนึ่งกับเพื่อน4คนดับไฟจนมืดมิดมองไม่เห็นอะไรเลย แต่ผมก็ยังจับตำแหน่งของเพื่อนแต่ละคนที่อยู่ห่างออกไปได้จากเสียงลมหายใจของแต่ละคน ใครสนใจก็ลองดูได้ครับมันเหลือเชื่อจริงๆ จากคุณ : งบน้อย - [ 21 ก.พ. 51 10:14:58 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ถ้าเป็นสถานที่เงียบสนิท เสียงนาฬิกาเดินยังได้ยินเลยครับ และยิ่งสมัยก่อนไม่มีแตร hella ไม่มีเครื่องบินบินผ่านหัว ไม่มีเด็กแวนส์ ผมว่าพูดธรรมดาๆก็ได้ยินแล้วครับ จากคุณ : Alien From Mars - [ 21 ก.พ. 51 10:43:44 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ตอบคุณ TicketID:159709 ครับ WareZ คุณนับถือศาสนาอะไรครับ ทำไมอัตตาเยอะจัง คุยด้วยเหตุผลสนุกกว่านะครับ อย่าพยายามยัดเยียดความคิดกันเลย คุณมีเหตุผลคนก็รับฟังคุณเอง ---ตอนนี้ผมนับถือศาสนาพุทธครับ ---ขอบคุณมากครับที่แนะนำและตักเตือน ต่อไปจะพยายามปรับปรุงครับ จากคุณ : WareZ - [ 21 ก.พ. 51 11:05:02 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เอาข้อเท็จจริงมายืนยันอีกด้านประกอบ ตอนผมบวช ออกธุดงก์ พระร่วม 200 กว่ารูป แยกย้ายกระจายกันไปทั่วเขา ในวันสวดปาติโมกข์ ทุกรูปมารวมกันที่ลานหินกลางป่า ฟังสวดพระปาติโมกข์ ระยะห่างประมาณ 20-25 เมตร ผมนั่งอยู่หลังเกือบท้ายๆ เงียบสงัด และได้ยินทั่วถึงกันชัดเจนครับ เพราะฉะนั้นถ้าระยะ 20-25 ม.โดยรอบจุพระได้เท่าไหร่ก็ต้องได้ยินแน่ๆครับ มีข้อแม้ว่าต้องเงียบ ตั้งใจฟังด้วย จากคุณ : granun - [ 21 ก.พ. 51 11:10:14 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ผมว่า จริงๆ คนมาฟังเทศน์ ทีนึง ก็ไม่น่าจะเกิน 2 - 300 คนหรอกครับ ยิ่งเทศน์ในป่ามะม่วง แล้ว ไม่มีอะไรสะท้องเสียงได้เลย เสียงกระจายตัวไปหมด...... ดังนั้น ถ้าบอกว่า มีคนมาฟังมากมาย ให้ถือว่า เป็นการเสริมแต่งบารมี และ เพิ่มความน่าเชื่อถือ ของคนรุ่นหลังๆ ครับ..... ยังไงซะ พระพุทธเจ้า ท่านก็เป็นมนุษย์ธรรมดา นี่แหละครับ แต่...ศาสนา ยังไงๆ ก็ต้องให้เกี่ยวกับปาฏิหารย์ หรือ เรื่องเหนือธรรมชาติ ให้ได้........เพราะ ถ้าทำอะไรเหมือนคนธรรมดา จะกลายเป็นเหมือน ขงจื๊อ ไปซะงั้น เป็นได้แค่ ลักธิ เพราะ ไม่มีใครมาเพิ่มปาฏิหารย์ให้ขงจื๊อภายหลังครับ.... สมัยนี้ ศาสนา จะเกิดยาก เพราะ ปาฏิหารย์ โดนจับผิดหมด.....กลายเป็นพวกหลอกลวงต้มตุ๋นไปซะงั้น... ศาสนา เกิดไม่ได้ ถ้ามีมีปาฏิหารย์ ปาฏิหารย์ เกิดในยุคนี้ไม่ได้ เพราะมีวิทยาศาสตร์ จากคุณ : น้ำปลาเดือนห้าโดนแบน - [ 21 ก.พ. 51 11:14:59 A:124.120.164.13 X: TicketID:147879 ]

ความคิดเห็นที่ 49 #43 พระทุกรูป เป็นพระอรหันต์ที่พระพุทธเจ้าทรงผนวชให้ ถ้าเทียบปัจจุบันก็น่าระเกินระดับด๊อกเตอร์ขึ้นไปแล้ว เรื่องภาษาคงไม่มีปัญหาแล้วหล่ะครับ จากคุณ : Buff_Power - [ 21 ก.พ. 51 11:15:38 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ทำไมต้องดูถูกคนคิดไม่เหมือนเราว่าเป็นบัวเหล่าอื่นด้วยอ่ะ? จากคุณ : จาจาบิงแปงร่างเป็นไอ้มดเขียว - [ 21 ก.พ. 51 12:34:49 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เรียนคุณ karawara ภาษาที่พระพุทธใช้ตรัสสอนเป็นภาษาท้องถิ่นตามแต่ที่พระองค์เสด็จไป ห้ามลืมว่าคนเราปัจจุบันบางคนก็สามารถพูดได้หลายภาษา พระพุทธเจ้าก็เช่นกัน ภาษาที่ใช้จดจำคำสอนหรือภาษาที่ใช้บันทึกคำสอนเรียกว่า ภาษาบาลี เช่น ถ้าภาษาไทยถูกใช้ในการบันทึกคำสอนภาษาไทยก็จะถูกเรียกว่า ภาษาบาลี เหมือนกับต้นไม้ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้จะถูกเรียกว่า ต้นโพธิเป็นต้น เรียน น้ำปลาเดือนห้าโดนแบน  อย่าพึ่งด่วยสรุปดีกว่าไหมครับ ลองไปศึกษาดูก่อนดีไหม ว่าเมื่อ 2550 ปีก่อนคนเขาคิดอะไรกัน ทำไมจึงมาฟังธรรมของพระพุทธเจ้ามากมาย ปาฏิหาริย์ สิ่งที่น่าอัศจรรย์, เรื่องที่น่าอัศจรรย์,       การกระทำที่ให้บังเกิดผลเป็นอัศจรรย์ มี ๓ คือ           ๑. อิทธิปาฏิหาริย์ แสดงฤทธิ์ได้เป็นอัศจรรย์           ๒. อาเทศนาปาฏิหาริย์ ทายใจได้เป็นอัศจรรย์           ๓. อนุสาสนีปาฏิหาริย์ คำสอนมีผลจริงเป็นอัศจรรย์ ใน ๓ อย่างนี้ ข้อสุดท้ายดีเยี่ยมเป็นประเสริฐ พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ http://www.84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=ปาฏิหาริย์ อนุสาสนีปาฏิหาริย์ เกิดในยุคนี้ได้ ถึงแม้มีวิทยาศาสตร์ แก้ไขเมื่อ 21 ก.พ. 51 13:05:07 จากคุณ : wichaphon1 - [ 21 ก.พ. 51 13:03:40 ]

ความคิดเห็นที่ 52 สบาย ๆ ครับ เชื่อไหมว่าผมก็ทำได้ และทุกคนก็ทำได้ครับ ผู้ชม 1250 คน กับคนพูดที่เรียนด้านละคอนเวทีมาก่อน การควบคุมลม การเปล่งเสียงจากภายใน ทำให้คนพันเศษ ๆ ได้ยิน สมมติในพื้นที่แคบ ๆ รับรองว่าสบาย ๆ ถ้าเป็นพระพุทธเจ้า และพระระดับสูงอีก 1250 รูป ผมว่าไม่มีปัญหาหรอกครับ :) จากคุณ : cookiecompany - [ 21 ก.พ. 51 13:07:10 ]

ความคิดเห็นที่ 53 อืม เป็นกระทู้ธรรมะ + วิทยาศาสตร์ แฮะ กระผมขออนุญาต แสดงการคำนวณ จำนวน พระอรหันต์ 1,250 องค์ ตามที่เคยได้อ่านมาบ้าง ดังนี้ 1. ลูกศิษย์ ชฎิล 3 พี่น้อง   1.1 ลูกศิษย์ อุรุเวลกัสสป                  500  องค์   1.2 ลูกศิษย์ นทีกัสสป                      300  องค์   1.3 ลูกศิษย์ คยากัสสป                     200  องค์ 2. ลูกศิษย์  พระสารีบุตร-พระโมคัลลานะ 250  องค์                                      รวม =     1,250  องค์ จะเห็นว่ายังไม่ได้นับรวม ตัว ชฎิล 3 พี่น้อง พระสารีบุตร พระโมคัลลานะ และ ปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 เลยครับ คาดว่าขณะนั้น คงอยู่ที่อื่น จากคุณ : ศาลายา - [ 21 ก.พ. 51 13:25:31 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ถ้าเป็นคนวิทยาศาสตร์จัด ก็จะตัดเรื่องปาฏิหารย์ออกไปแล้วก็จะอธิบายอะไรไม่ได้อีกจำนวนมาก หรือมิฉะนั้นก็จะสันนิษฐานออกไปอย่างลมๆแล้งๆ ไม่มีข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์รองรับ ทั้งยังกลับกลายเป็นว่า ศาสดาของชาวพุทธไม่มีความสามารถแสดงปาฏิหาย์ได้ วิทยาศาสตร์ปัจจุบันยังเหมือนทารก จะไปเข้าใจกระบวนการทำงานของปาฏิหารย์ได้อย่างไร แต่ที่ไม่จริงก็มี แต่การมีของไม่จริงมิได้เป็นเครื่องพิสูจน์ยืนยันว่า ของจริงไม่มี จากคุณ : ต้องฉลาดกว่าวิทยาศาสตร์ - [ 21 ก.พ. 51 13:48:34 A:203.113.60.75 X: TicketID:150751 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 21 ก.พ. 51 14:57:31 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เขาฟังด้วยจิตค่ะ จากคุณ : เสียงจากบ้านนา - [ 21 ก.พ. 51 15:14:18 ]

ความคิดเห็นที่ 57 คนมีศรัทธาจะฟังก็จะมีสมาธิ ตั้งใจฟังและเงียบ ไม่ส่งเสียงคุยกันจ้อกแจ้กจอแจเหมือนพวกเราเวลาฟังพระเทศน์ เพราะพากันคิดว่าแค่เราคุยคนเดียวคงไม่เป็นอะไรน่ะ จากคุณ : satitp - [ 21 ก.พ. 51 15:39:14 ]

ความคิดเห็นที่ 58 พระพุทธองค์สั่งสอนอยู่หลายสิบปี ทำไมต้องได้ยินพร้อมกันวันนั้นด้วย ถ้าไม่ได้ยินก็ไม่เห็นจะเป็นปัญหาอะไร มีการจดบันทึกอยู่แล้ว มีพระไตรปิฎก อย่าไปเน้นปาฏิหาริย์ เน้นที่ปัญญา น่าจะเป็น พุทธ มากกว่า #47น่าจะชัดว่าไม่มีปัญหาน่าจะได้ยินเป็นส่วนใหญ่ จริงๆเรืองแปลกกว่าคือพระเยซู ทรงสอนแค่ไม่กี่วันไม่กี่คำเอง อันนี้เน้นปาฏิหาริย์ เน้นที่ศรัทธา อันนี้เป็นแบบ คริสต์ จากคุณ : หูฝาด - [ 21 ก.พ. 51 16:13:27 A:58.64.71.79 X: TicketID:137190 ]

ความคิดเห็นที่ 59 คุณเอ๋ย ... ไม่เคยดูหนังบ้างหรือไร???  หนังสงครามกี่เรื่อง ที่แสดงให้เห็นว่า  ในสนามรบ (ซึ่งมันเงียบกริบ)  เสียงคนคุยกันเบาๆ เสียงกระซิบ เสียงกระแอม เสียงถอนใจ ฯลฯ  ห่างไป 200-300 เมตรด้วยซ้ำ! ยัีงได้ยินเลย (แม้จับใจความไม่ได้ถนัด) จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 21 ก.พ. 51 17:21:19 ]

ความคิดเห็นที่ 60 คิดว่า คห บนๆ เขาคำนวณไว้ชัดแล้วนะ ว่า คนธรรมดาก็ทำได้ จากคุณ : Deckard - [ 21 ก.พ. 51 18:09:22 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เพิ่งเข้ามาอ่านครับ ตอบกระทู้ กันได้แง่คิด มุมมองกว้างไกลดี เอาแง่คิดจากท่านๆที่แสดงความเห็นมาคิดต่อ ผมคิดแบบคนรู้น้อย ผมว่าหูของคนสมัยก่อนมีประสิทธิภาพการได้ยินดี กว่าคนสมัยนี้ จำได้ว่าคนเก่าคนแก่ รุนทวด รุ่นยายผม ท่านท่านอายุยืนกันมาก แม้ช่วงบั้นปลาย หูยังได้ยินดีมากมาย ประมาณใครกระซิบอะไรได้ยินครบ ห้ามเมาท์ท่านแม้จะมีระยะห่างมากแล้ว คิดเอาเองว่าสมัยก่อนมลภาวะทางเสียง และ สิ่งทำลายประสาทหู ไม่มีมากเหมือนสมัยนี้ ถามดูเถอะสมัยนี้ใครไม่เคยใส่หูฟัง แค่รับโทรศัพท์ มือถือฟังสนทนาตอบโต้สัก 2นาทีขึ้นไป หูจะเริ่มชาฉิ่งแล้ว ยิ่งเดินอยู่ตามถนนในเมืองหลวงแล้วต้องรับโทรศัพท์ฟังไม่รู้เรื่องเลย เสียงรถดังสนั่น มลพิษทางเสียงมีมากทีเดียว คนสมัยก่อนน่าจะมีสมรรถภาพหูดี ฟังได้ดีเต็มร้อย สภาพแวดล้อม ไม่มีมลภาวะทางเสียงมากเท่านี้ เป็นปัจจัยเสริมการได้ยินเข้าไปอีก ยิ่งได้อยู่กับ อภิมหาบุรุษ คงต้องตั้งใจ จดจ่อฟังมากขึ้นไปอีก เทศนาของพระองค์น่าจะได้ยินกันทั่ว เรื่องสนามรบ แสดงละครบนเวที ร้องโอเปร่า อารมณ์กับความดังของคนพูด/แสดง/ ร้อง น่าจะเปล่งเสียงออกมาได้ให้คนหมู่มากยินได้ไม่สงสัย การเทศนา ระดับเสียง อารมณ์น่าจะต่างกันนะครับ จำได้ว่าเคยไปวังแขกที่นึง ตุรกี ห้องหับที่ไว้คุยงานกิจการบ้านเมืองจะเป็นเรื่องลับสำคัญ ห้องมีผนังแน่นหนา 1ชั้น กำแพงห้องทั้งสี่ด้านต้องมีน้ำพุ น้ำตก ล้อมห้องเพื่อให้น้ำไหลน้ำตกกระทบส่งเสียงกลบเสียงสาระที่คุยกันจากห้อง หูคนสมัยก่อนต้องไวดีมากมายนะครับผมว่า แก้ไขเมื่อ 21 ก.พ. 51 18:27:23 จากคุณ : kinglear - [ 21 ก.พ. 51 18:19:08 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ต้องดูเรื่องลมด้วยครับ ถ้าพระพุทธเจ้าอยู่เหนือลมก็ได้ยินกันทั้งหมด จากคุณ : นักกวีกะวาด - [ 21 ก.พ. 51 19:35:54 ]

ความคิดเห็นที่ 63 พระอรหันต์ 1250 รูป มาประชุมโดยมิได้นัดหมาย ทั้งหมดต่างได้อภิญญา 6 จากคุณ : natong - [ 21 ก.พ. 51 20:40:43 ]

ความคิดเห็นที่ 64 อภิญญา 6 จากอานาปานุสติ .....จะเกิดเมื่อ... 1. ในชาติก่อนๆต้องได้ อภิญญา 5 มาก่อน 2. ในชาติที่จะเอาอภิญญา 6 ก่อนเป็นพระอรหันต์ ต้องได้ฌาณ 4 จากอานาปานุสติก่อน เพื่อให้อภิญญา 5 ที่เคยได้ในชาติที่แล้วกลับคืนมา (ที่จริงแล้วฌาณ 4 จากกรรมฐานกองไหนก็ได้ไม่จำเป็นต้องอานาปานุสติ) 3. เป็นพระอรหันต์ จะได้อาสวักขญาณ มาเป็นตัวที่ 6 เรียกว่าอภิญญา 6 จากคุณ : natong - [ 21 ก.พ. 51 20:41:25 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ถ้าไม่เคยฝึกมาในชาติก่อนๆ แล้วอยากได้อภิญญา 6 ในชาตินี้ ต้องฝึกอภิญญา 5ใหม่หมดครับ แล้วอภิญญา 5 จะไม่สามารถได้จากอานาปานุสติด้วย ต้องไปฝึกกรรมฐานกองอื่นๆ เช่น กสิณทั้ง 10 กอง เป็นต้น เนื่องจากอภิญญาส่วนใหญ่จะฝึกได้ต้องมีพื้นกสิณ 10 แน่นก่อน หลังจากได้อภิญญา 5 แล้ว ค่อยยกจิตขึ้นวิปัสนาญาณตัดกิเลสให้หมด เป็นพระอรหันต์ก็จะได้อภิญญา 6 จากคุณ : natong - [ 21 ก.พ. 51 20:42:01 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ถ้าคุณไม่เคยเจอพระอรหันต์ก็อย่าคิดเรื่องอื่นเลยครับ ต่อให้อายสไตร์เจอพระอรหันต์ก็ใบ้กินแน่นอน ขอท้า   ปาฎิหารคือสิ่งที่คนทั่วไปทำไม่ได้   แต่จริงๆคือธรรมชาติ มีอยู่ในศาสนาพุทธ ทีนี้พวกทำไม่ได้ ก็ต่อต้าน แล้วถอยห่างไปสู่โลกวัตถุที่ทำอะไรแสนง่ายๆ จากคุณ : natong - [ 21 ก.พ. 51 20:45:13 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ไอน์สไตน์(Einstein) อายสไตร์(Eyestire) จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! - [ 21 ก.พ. 51 21:37:17 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ผมเข้ามาติดตามอ่านต่อครับ.... ขอร่วมแสดงความคิดเห็นนอกเหนือจากคห.ที่กล่าวมาแล้ว เป็นไปได้ไหมว่าคนโบราณรูปร่างใหญ่โต กระบอกเสียงก็ใหญ่ตาม ตรงนี้อาจมีผลเสริมให้เสียงที่เปล่งออกมาดังกว่าคนปัจจุบันก็เป็นได้ ต้นไม้ที่ขึ้นอยู่โดยรอบลานเทศน์อาจเป็นแหล่งสะท้อนเสียงให้ก้องกังวาลขึ้นไปอีก (พยายามตอบแนววิทย์ครับ) จากคุณ : ตุ่น - [ 21 ก.พ. 51 23:46:57 A:58.9.139.203 X: TicketID:115608 ]

ความคิดเห็นที่ 69 บาง คห ก็รู้อยู่ว่าเป็นห้องวิทย์แต่ดันมาตอบแบบศาสนา ที่ จขกท ตั้งมาเพื่อให้วิเคราะห์กันแบบศาสนา เพราะเป็นศาสนาของตัวเองเลยต้องเข้าข้างไว้ก่อน "วิเคราะห์แล้วตอบแบบวิทย์สิครับ" จากคุณ : เมก้าซาวะหมายเลข154 - [ 22 ก.พ. 51 00:39:54 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ^^^ ถ้าจะมาแสดงความเห็นแบบศาสนาจ๋าคงไม่เป็นไรมั้งครับ ถือว่าท่านๆมาแลกความคิดความอ่านกัน มาคุยมาคิดเปิดสมองกันนะครับ จากคุณ : kinglear - [ 22 ก.พ. 51 01:18:03 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ผมว่าได้ยินหมดนะ พระท่านก็บอกแล้วว่าเป็นพระอรหันต์หมด(ไม่มีเสียงคุยกันแน่ๆ) ป่ามะม่วงตอนกลางดึก(เงียบแน่ๆ่ คนโตมาจากบ้านป่าคงรู้ดี) 1.พระ 1,250 เผื่อเป็น 1,300 2.ถ้่า 1 ใช้พื้นที่ 1 ตารางเมตร 3.ถ้่า 1,300 จะใช้พื้นที่ 1,300 ตารางเมตร 4.จากสูตร pr2 5.จะได้รัศมี ~ 20.34 เมตร เผื่อเป็น 21 เมตร    ได้ยินแน่ แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 51 02:13:55 แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 51 02:08:00 จากคุณ : เลอนัก - [ 22 ก.พ. 51 02:06:46 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ไม่เห็นมีใครพูดถึงสภาพอคูสติกของป่ามะม่วงเลย เรื่องนี้พวก  Sound Engineer เขารู้ดีครับ วิธีนึง ก็นั่งตรงจุดบัพ ของคลื่นสิครับ ไม่ต้องแออัดด้วย จากคุณ : โต้ บ้านกุดขนวน - [ 22 ก.พ. 51 02:32:59 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ใช้จิตครับ  คนเราถ้าฝึกจิต จะทำอะไรก็ได้ครับ เหาะเหิรเิดินอากาศเหยียบน้ำทะเลจืดฟันไม่เข้ายิงไม่ออก อยากไปไหนก็วาป(หรืออ่านว่าวอปหว่า"warp")ไปครับ ไม่ต้องเดินให้เมื่อยตุ้ม  ประกอบกับสมัยนั้น คนเก่งๆเยอะครับ  คิดดูครับ เด็ก 5 ขวบยังเป็นพระอรหันต์ได้เล้ย  นับประสาอาไรกับแค่ พูดให้คนฟังเยอะๆ หมูๆครับหมูๆ   ใครจะเถียงแนะนำให้ไปอ่านพระไตรปิฎกได้ครับ  หนังสือชุดนี้เขียนมาตั้ง 2500 ปีก่อนแล้วเพราะฉะนั้น ผมฟันธงว่าเป็นเรื่องจริงแน่นอน  ใครกล้าเถียงผม เดี๋ยวได้ตกนรกนะครับ  จะต้องโดนเหล็กแหลมทิ่มปากไป 2500 โกฏปีครับ จากคุณ : กุลิลิ - [ 22 ก.พ. 51 02:57:33 ]

ความคิดเห็นที่ 74 แหมคุณ กุลิลิ ประชดซะ น่าตื่นเต้นเหมือนกันนะครับ คนที่ได้ฟัง อัตตาหิ อัตโนนาโถ ก็บรรลุธรรมได้เลย ผมอ่านแล้วอ่านอีก ลองแล้ว ลองอีก ก็ยังไม่ไปถึงไหน หรือว่าบารมีเรามันน้อย ต้องสะสมกันอีกนาน เฮ้อ จากคุณ : WareZ - [ 22 ก.พ. 51 05:51:23 ]

ความคิดเห็นที่ 75 เข้ามายืนยันตามตาม คห.73 อีกทีครับ จากคุณ : พุทธมามกะ (กัปตันสมหมาย) - [ 22 ก.พ. 51 07:53:15 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ตามหลักฐานที่ปรากฎในอรรถกถา อรรถกถา มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ มหายมกวรรค จูฬตัณหาสังขยสูตร ว่าด้วยข้อปฏิบัติธรรมเป็นที่สิ้นตัณหา อรรถกถาจูฬตัณหาสังขยสูตร มีข้อความตอนหนึ่ง  ว่าดังนี้-..               จริงอยู่ เมื่อพระพุทธเจ้าทั้งหลายทรงแสดงธรรมอยู่อันบริษัทในที่สุดแห่งจักรวาล ย่อมได้ยินพระสุรเสียงเป็นอันเดียวกัน. แต่เลยที่สุดแห่งบริษัทแล้ว พระสุรเสียงจะไม่แผ่ไปในภายนอกแม้สักองคุลี เพราะเหตุไร มธุรกถาเห็นปานนี้จึงไม่มีประโยชน์. (ซึ่งหมายความว่า  แม้จะทรงแสดงธรรมกับพุทธบริษัทตลอดจักรวาล  ทุกคนจะได้ยินเสียงของพระพุทธเจ้าชัดเหมือนกันหมด  และเสียง(พระสุรเสียร)ของพระพุทธเจ้าจะไม่เลยไปกว่าที่มีคนฟัง  เช่น มีคนฟังสองคน  เสียงของพระพุทธองค์ก็จะมีคนได้ยินเพียงเท่านั้น  เท่านั้น)   อ่านทั้งหมด พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๒  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๔ มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ ๗. จูฬตัณหาสังขยสูตร ว่าด้วยข้อปฏิบัติธรรมเป็นที่สิ้นตัณหา เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๒  บรรทัดที่ ๗๙๑๕ - ๘๐๔๐.  หน้าที่  ๓๒๕ - ๓๒๙. http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=12&A=7915&Z=8040&pagebreak=0             ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=12&i=433 แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 51 10:38:33 แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 51 10:37:34 จากคุณ : SpiritWithin_HolyStream - [ 22 ก.พ. 51 10:36:23 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ผมว่าพระพุทธเจ้าคงไม่ตะโกน แน่นอน ลองนึกภาพ การเทศน์แบบ ตะโกนๆ คงไม่น่าฟังเท่าไหร่ น่าจะพูดธรรมดา หรือ พูดด้วยเสียงดังประมาณนึง แต่คงไม่ตะโกนแน่ๆ จากคุณ : WareZ - [ 22 ก.พ. 51 13:17:02 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ใช้สบง ตากแดดให้แห้งๆ แข็งๆ แล้วม้วนเป็นวงกลมหน้าจั่ว ระยะพอประมาณ จ้างเด็กวัดมาคนหนึ่ง มานั่งจับไว้ แล้วพูด....เสียงก้องคำรามไปทั่วป่า... จากคุณ : art anfield - [ 22 ก.พ. 51 16:07:00 ]

ความคิดเห็นที่ 79 จริงๆคนแค่พันสองพันคน ถ้าเงียบๆก็ได้ยินนะ ไม่ต้องใช้ Microphone เลย ไม่เห็นแปลกตรงไหน ส่วนเรื่องภาษา ก็มีพระวินัยบัญญัติไว้ว่าให้สั่งสอนเป็นภาษาพื้นเมือง ดังนั้นพระพุทธเจ้าเทศน์ที่ไหนก็คงใช้ภาษาท้องถิ่นนั้นๆ บริเวณที่พระพุทธเจ้าสั่งสอนก็ไม่ได้กินอาณาเขตกว้างไกลนัก ความแตกต่างทางภาษาคงมีไม่มากนักหรอก  อีกทั้งพระพุทธเจ้าก่อนบวชได้รับการศึกษามาในวรรณะกษัตริย์ ที่ต้องเรียนทั้งบู้ทั้งบุ๋น เรื่องภาษาไม่น่าจะเป็นปัญหา จากคุณ : Nexus - [ 22 ก.พ. 51 16:43:09 ]

ความคิดเห็นที่ 80 คนที่มีพลังปอดดีๆ ฝึกควบคุมการหายใจ ตะเบ๊งเสียงได้ไกลมากนะครับ เหมือนพวกแม่ทัพ นักรบ สมัยโบราณ จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน - [ 23 ก.พ. 51 03:40:34 ]

ความคิดเห็นที่ 81 โปรเจคเสียงมั้งคะ^^" แบบพวกละครเวทีฝึกกัน จากคุณ : marvolo - [ 23 ก.พ. 51 04:58:36 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ปาฏิหาริย์ หรือ อวิชา ระวังด้วยนะ #47เค้าเป็นพยานแล้วว่าเป็นไปได้จริง ปาฏิหาริย์ บางทีเค้าเอาไว้อธิบายเรืองที่เราไม่รู้ ก็เท่านั้นเอง.. จากคุณ : หูฝาด - [ 23 ก.พ. 51 09:47:48 A:58.64.71.79 X: TicketID:137190 ]

ความคิดเห็นที่ 83 เชื่อว่าสามารถทำให้ได้ยินได้ แต่คงต้องตะโกน แต่ผมไม่เชื่อว่าท่านจะตะโกนเทศน์ มันผิดวิสัย จากคุณ : เกรียนศักดิ์ - [ 23 ก.พ. 51 11:46:49 A:71.202.49.135 X: TicketID:161509 ]

ความคิดเห็นที่ 84 คาดว่า1250รูปได้ยินแน่นอนเนื่องจากเงียบ พระพุทธเจ้าเทศน์โดยใช้ภาษาบาลีไม้ได้พูดแบบธรรมดาเหมือนร้องเพลงเลยได้ยินอ่ะครับเหมือนบทสวดพระก็ได้ยินชัดเปล่งเสียงได้ดังกว่าพูดปรกตินะครับ จากคุณ : เวลาวาเลเวลา - [ 24 ก.พ. 51 01:06:47 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ถ้าสักพันกว่าๆ ประมาณหอประชุมหรือโรงละครใหญ่ๆ สบายมากค่ะ ลองมาแล้ว จากคุณ : scarlett - [ 24 ก.พ. 51 08:57:05 ]

ความคิดเห็นที่ 86 จะได้ยินชัดหมด ก็ไม่เห็นแปลก ตราบใดที่เรายังไม่รู้แจ้งเห็นจริงเหมือนพระพุทธเจ้า ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะไปสงสัยว่า อิทธิปาฏิหาริย์ต่างๆ ที่พระพุทธเจ้า หรือสาวกของพระองค์ที่ทรงแสดงนั้น เป็นจริงหรือไม่ (เพราะไม่ได้มีส่วนทำให้ละกิเลสได้) และต่อให้ผู้นั้นบรรลุแล้วก็ตาม ผู้นั้นก็คงไม่ยึดถือเอาอิทธิปาฏิหาริย์เหล่านั้นเป็นสาระเช่นกัน สุดท้าย ก็จะเหลือคนที่ไม่รู้ว่าจริงๆ พระพุทธเจ้าสอนอะไร มานั่งเถียงกันว่า ปาฏิหาริย์ของพระสาวก หรือพระพุทธเจ้านั้นมันมีจริงหรือเปล่า หรือมันทำได้อย่างไร ...อืม คงคล้ายๆ คนตาบอดคลำช้างนั่นเอง อีกนิด ถึงคนที่คิดว่า ศาสนาพุทธ เป็นวิทยาศาสตร์ คุณเคยลองคิดอย่างจริงจังบ้างไหม ว่ามันเป็นจริงอย่างนั้นหรือไม่ แค่เป้าหมายก็ต่างกันแล้ว ศาสนาพุทธเป็นไปเพื่อความพ้นทุกข์ แต่วิทยาศาสตร์ คือการตอบสนองความอยากรู้ของมนุษย์ ดังนั้นวิทยาศาสตร์ไม่ได้คำนึงถึงภาพรวม แต่ใช้วิธีการอันเป็นระบบแยกส่วน เพื่อศึกษาสิ่งหนึ่งสิ่งใด แต่ศาสนาพุทธ ใช้การคิดแบบองค์รวม อันนี้ขยายความไม่ได้ เพราะความรู้ไม่ถึงจริงๆ จากคุณ : molecule - [ 4 มี.ค. 51 15:01:17 A:124.121.39.24 X: TicketID:011978 ]