ความคิดเห็นที่ 7
เคย save มาจากไหนไม่ทราบ นานมาแล้ว
-----------------------------------------------------------------------------------------
คุณวันฉัตร ผดุงรัตน์ จบการศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์ จากสถายันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ช่วงแรกของการทำงานนั้น คุณวันฉัตร ได้เข้าทำงานในตำแหน่งวิศวกรเครื่องมือแพทย์ ต่อมาจึงได้เปลี่ยนงานมาทำที่ฝ่ายการตลาด บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) รับผิดชอบงานเกี่ยวกับ Application Solfware ในแผนก Space Control ซึ่งเป็นงานที่ต้องประยุกต์และประมวณความคิดทังด้านการตลาดและทางด้านเทคโนโลยีไปพร้อมๆ กัน หลังจากนั้นประมาณ 2 ปี ก็ย้ายไปอยู่ในแผนกคอมพิวเตอร์ ในฝ่าย System Programmer
ประมาณปี 2538 หลังจากออกจากงานที่บริษัทการบินไทยแล้ว คุณวันฉัตรก็ได้ลงหุ้นกับเพื่อนเปิดบริษัท Trader นำเข้าสินค้าเกี่ยวกับ Computer accessories ช่วงเวลานั้นอินเทอร์เน็ต เริ่มมีผู้นำมาใช้ในเมืองไทย คุณวันฉัตรเห็นว่าอินเทอร์เน็ตช่วยลดต้นทุนในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าหรือ Suppliers ต่างๆ เช่นลดค่ากระดาษ ค่าโทรศัพท์ ค่าโทรสาร ประโยชนอีกอย่างหนึ่งที่อินเทอร์เน็ตมีคือ เป็นเครื่องมือที่ช่วยเสริมช่องทางการตลาดให้กว้างและง่ายขึ้น ช่วยเปิดช่องทางการค้าสู่ตลาดสากลโดยใช้ต้นทุนที่ตำและประหยัดเวลา ณ. จุดนั้นเองทำให้คุณวันฉัตร เกิดแรงบัลดาลใจให้ทำการศึกษาเว็บไซต์ต่างๆ อย่างจริงจัง
เมื่อคุณวันฉัตร ได้ลองใช้บริการและศึกษาเว็บไซต์ต่างๆ พอสมควรแล้ว สิ่งหนึ่งที่คุณวันฉัตรสังเกตุเห็นคือ ช่วงนั้นไม่มีเว็บไซต์ภาษาไทยเลย จุดนี้เองทำให้เกิดแนวคิดในการจัดทำเว็บไซต์ภาษาไทยขึ้นมาเพื่อคนที่ไม่เชี่ยวชาญภาษาอังกฤษเท่าใดนัก สามารถใช้บริการเว็บไซต์ภาษาไทยได้ง่ายขึ้น
อีกแนวคว่มคิดหนึ่งเรื่องรูปแบบเว็บไซต์ที่คุณวันฉัตรอยากทำคือ การทำเว็บไซตในรูปแบบ e-Magazine เป็นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาสาระให้สำหรับผู้ที่ชอบการอ่าน ข้อดีของเว็บไซต์ในรูปแบบ e-Magazine คือจะเป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมเนื้อหาสาระสำหรับผู้ที่รักการอ่าน โดยไม่ต้องเสียเงินไปซื้อหนังสือ และไม่ต้องรอคอยนานกว่าหนังสือแต่ละเล่มจะได้วางแผง เพราะหนังสือแต่ละเล่มจะได้วางแผงได้ต้องเสียเวลาจากกระบวนการหรือขั้นตอนต่างๆ เช่น กระบวนการพิมพ์ กระบวนการจัดส่ง เพราะฉะนั้นถ้ามีเว็บไซต์ในรูปแบบ e-Magazineขึ้นมาแล้วก็สามารถช่วยให้ผู้อ่านมีความสะดวกในการค้นหา และรับข้อมูลข่าวสารได้เร็วขึ้นเพราะขั้นตอนต่างๆ ได้ถูกขจัดออกไป จุดนี้เองทำให้เว็บไซต์ Pantip.com เกิดขึ้นมาภายใต้รูปแบบ Web Magazine Thai version
ในช่วงแรกของการเปิดเว็บไซต์ Pantip .com ได้ใช้ free space ของ Geocities.com โดยใช้โปรแกรม Notepad ในการทำเว็บ ต่อมาเว็บไซต์ Pantip.com ได้เปลี่ยนมาเช่า Host ของประเทศสหรัฐอเมริกา ในราคา 50 ดอลล่าร์ต่อเดือน จนถึงปัจจุบัน Pantip.com หันมาเช่า Host ไทย ของ Internet Thailand โดยใช้บ้านของตัวเองทำ office จากวันที่เริ่มทำงานถึงปัจจุบันรวมระยะเวลา 7 ปี
ปัญหาที่พบในช่วงแรก
รูปแบบการทำพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในช่วงแรกนั้น ยังไม่ประสบผลสำเร็จเท่าท่ควรโดยคุณวันฉัตรคิดว่าเกิดมาจาก 2 สาเหตุ คือ
1. อินเทอร์เน็ตนั้น มีความเป็น Interactive สูงที่มีจุดเด่นในเรื่องความสามารถในการสื่อสารแบบ 2 ทาง Two ways communication แต่เว็บไซต์ในรูปแบบ e-Magazine ในช่วงแรกนั้นเป็นเพียงการนำเสนอข้อมูลสู่ผู้อ่านเพียงอย่างเดียว ไม่มีการรับข้อมูลกลับ ซึ่งก็เท่ากับว่าไม่ได้ใช้ประโยชน์ของอินเทอร์เน็ตอย่างเต็มประสิทธิภาพ
2. ความผิดพลาดเรื่องแนวคิดในการหาร่ยได้จากค่าโฆษณา เนื่อวจากคุณวันฉัตร มองกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของ Pantip ว่าเป็นร้านเล็กๆ เช่น ร้านขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ในห้างพันธ์ทิพย โดยคิดว่าร้านเล้กๆ เหล่านั้นไม่น่าจะสนใจในการที่จะไปซื้อโฆษณาราคาแพงๆ ของสื่อนิตยสาร หรือ สื่ออื่นๆ เหตุผลนี้น่าจะทำให้โฆษณาในเว็บไซต์ของ Pantip ที่มีราคาไม่แพงมากนักเป็นที่สนใจสำหรับลูก้าเป้าหมายเหล่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ร้านค้าเหล่านั้น เขาไม่ได้ให้ความสนใจในการลงโฆษณาใดๆ เลย เพราะพวกเขาคิดว่าการโฆษณาไม่มีความจำเป็น เขาคิดเพียงว่าแค่เขาหาทำเลดีๆ จัดร้านให้น่าสนใจกเพียงพอแล้วสำหรับการดึงลูกค้า นอกจากนั้น ผู้ประกอบการในตอนนั้นยังไม่เข้าใจการเข้าใจการทำงานของอินเทอร์เน็ตมากนั้น และยังไม่เป็นที่นิยมและแพร่หลายเท่าปัจจุบัน
การบริหารงานในปัจจุบัน
ปัจจุบันมีพนักงานบริหารเว็บไซต์ของพันธุทิพย์ทั้งหมด 15 คน โดยแบ่งงานออกเป็น 2 แผนก ดังนี้
1. แผนกแนวหน้า โดยแยกออกเป็น 3 ส่วนดังนี้
- ผู้ดูแล Cafe Zone
- ผู้ดูแล Technical Zone
- ผู้ดูแล Pantip Market
2. แผนกกองหลัง จะเป็นฝ่าย support เช่น เขียนโปรแกนม ทำกราฟฟิค และคอยดูแลกระทู้ต่างๆ
การตลาดของ Pantip.com
* Target Group Pantip.com มีอัตราการเติบโตของจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกล่มของนักศึกษา และผู้ที่อยู่มนวัยทำงานตอนต้น ซึ่งเป็นกลุ่มสมาชิกที่ใหญ่ที่สุด
* Competitors คุณวันฉัตรมองว่าเว็บไซต์กลุ่มเล็กๆ ที่ใช้ Free Webboard เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวมากและมีจำนวนมากในปัจจุบัน
* Market Strategy กลยุทธ์ทางการตลาดของ Pantip.com คือให้ความสำคัญในคุณภาพของเนื้อหาให้มากที่สุด
* Marketing Goal คุณวันฉัตรอยากให้ Pantip เป็นเว็บไซต์ Non Profit โดยอยากทำเว็บไซต์ที่ให้บริการประชาชนโดยไม่หวังผลกำไร เป็นเว็บไซต์เพื่อสังคม การหารายได้นั้นจะใช้การหารายได้จากทางอื่น เข้า มาช่วยในการให้บริการเว็บไซต์ เช่น การขายโปรแกรมที่ทางพันธุ์ทิพย์เขียนขึ้นมาเอง เป็นต้น
* Marketing Objective วัตถุประสงค์ของ Pantip.com ที่คุณวันฉัตรต้องการคือ ทำ Pantip.com ให้เป็น First Webboard สำหรับผู้ที่จะใช้อินเทอร์เน็ต
* Key Success Factor สำหรับ Key Success Factor ของ Pantop.com คุณวันฉัตรให้ความเห็นว่า คงจะเป็นเพราะเว็บไซต์ Pantip.com สามารถสร้างกระบวนการสื่อสารระหว่างกันของหมู่สมาชิกให้เข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดและความรู้ซึ่งกันและกันได้ เหมือนสร้างชุมชนจะมีความชอบเหมือนกัน โดย www.Pantip.com ได้ให้บริการแบ่งชุมชนให้สมาชิกออกเป็นห้องสนทนาต่างๆ โดยใช้คำ เช่น "มุม" TECHNICAL ZONE , "โต๊ะ" CAFE , "ห้อง" LIVECHAT เป็นต้น เพื่อที่สมาชิกจะสามารถเลือกเข้าไปพบปะพูดคุยในเนื้อหาที่ตรงใจ ซึ่ง Concept นี้เอง ก่อให้เกิดผลตอบรับอย่างกว้างขวางและประสบผลสำเร็จอย่างมาก ปัจจุบันนี้มีผู้เข้าชมมากถึง 90,000 คน/วัน ซึ่งต่างจากช่วงแรกที่มีผู้เช้าชมเพียง 1,500 คน/วัน เท่านั้น
ปัจจัยที่ทำให้เว็บไซต์ Pantip.com ประสบความสำเร็จ
* เป็นผู้ริเริ่มทำเว็บไซต์เป็นภาษาไทย
* มีการปรับปรุงเนื้อหาเนื้อหาให้ตรงกับความต้องการของผู้เข้าชมเว็บไซต์ตลอดเวลา
* ยึดหลักความน่าเชื่อถือและมัคุณภาพในการประกอบธุรกิจทาง Internet
* สร้างความแตกต่างในรูปแบบและเนื้อหาเมื่อเทียบกับเว็บไซต์อื่น ๆ
ปัญหาที่พบ
* ปัญหาที่ Pantip.com เคยเจอในเรื่องจรรยาบรรณของผู้ใช้ Internet ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของตัวป่วนตามกระทู้ต่างๆ แต่ทาง Pantip.com มีวิธีการจัดการกับตัวป่วนเหล่านี้โดยเช็คจาก IP Address ว่าเป็นของใคร และสามารถสั่งลบกระทู้ที่มาจาก IP Address นี้ เวลานี้ได้พร้อมทั้งหมดเวลาเดียว
* มีปัญหาเรื่อง Host บ้างเป็นบางครั้ง
มุมมองการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย
คุณวันฉัตรมองว่า การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของไทยในปัจจบันนี้ คนหันมาใช้อินทอร์เน็ตมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้อินเทอร์เน็ต เพื่อการพาณิชย์ ผู้บริโภคมีความมั่นใจที่จะทำการซื้อขายสินค้าและบริหารผ่านอินเทอร์เน็ตมาก ขึ้น เช่น ผู้บริโภคกล้าที่จะชำระค่าสินค้าผ่านอินเทอร์เน็ต เพราะสามรถเช็คการมีตัวตนของผู้ประกอบการได้ การที่กรมพัฒนาธรกิจการค้าเปิดให้ผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์มาขึ้นท ะเบียนพาณิชย์ เป็นสิ่งที่ดีอย่างมากที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทยและ ผู้บริโภคมีความั่นใจในการประกอบทำธุรกิจการค้าผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งในเรื่องความน่าเชื่อถือนั้นมีความสำคัญต่อการพัฒนาวงการพาณิชย์อิเล็กท รอนิกส์ไทยเป็นอย่างมาก เพราะผู้บริโภคทั้งไทยและเทศมีความมั่นใจในการซื้อสินค้าหรือบริการโดยไม่ถู กโกงหรือถ้าเกิดมีปัญหาก็สามารถหาคนรับผิดชอบได้
แนวทางที่อยากให้ภาครัฐช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย
คุณวันฉัตรมีความเห็นว่า ภาครัฐควรจะส่งเสริมและให้ความรู้เกี่ยวกับการทำพาณิชย์อิเล็้กทรอนิกส์แก่ผ ู้ประกอบการให้ความรู้พื้นฐานการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ประกอบการทำการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างมีประสิท ธิภาพและยั่งยืน เพราะในปัจจุบันการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ใช่เรื่องไกลตัว หรือเฉพาะคนในวงการ IT เท่านั้น แทบทุกธุรกิจในโลกยุคโลกาภิวัฒน์นี้ ล้วนใช้อินเทอร์เน็ตเป็นช่องการทำการตลาดสู่โลกกว้างซึ่งจะมีผลย้อนกลับทางเ ศรษฐกิจภาพรวมของประเทศเช่นกัน
จากคุณ :
กระเทืองแก่ (Mascagni)
- [
7 มี.ค. 51 09:42:08
]
|
|
|