ความคิดเห็นที่ 9
High Color คือสี 16 บิตนะครับ แล้ว True Color (สีสมจริง) คือระดับ 24 บิตขึ้นไป ส่วนค่าที่ตั้งใน monitor นั้นมันระดับ Lowest Medium highest ครับ ไม่เกี่ยวกับ High color หรือ True color
bit ของสีหมายถึงสี R G B รวม กัน
16 บิตสี คือ แดง 5 บิต + เขียว 6 บิต + น้ำเงิน 5 บิต (เพราะตามนุษย์ไวต่อสีเขียวมากกว่า) จะแสดงสีได้เท่ากับ 25 x 26 x 25 คือ 65,536 สี
ส่วนสี 24 บิตเท่าที่อ่านบทความจากซักที่ เค้าบอกว่าเติม alpha channel (ความโปร่งแสง)ไปอีกอัน จะช่วยให้ประมวลผลได้เร็วขึ้น เพราะไม่ต้องเสียเวลาแปลงบิตอีกที (วิธีการผมจำไม่ได้แน่นอนนะครับ ตรงนี้อาจจะผิด) เลยไม่มีการใช้สี 24 บิตกัน จะไปใช้ที่ 32 บิตสีเลย คือ แดง 8 บิต เขียว 8 บิต น้ำเงิน 8 บิต และอัลฟ่าอีก 8 บิต จะแสดงสีได้ 256 x 256 x 256 คือ 16.7 ล้านสี (อีก 8 บิตใช้เติมเต็ม)
ซึ่งการใช้สี 32 บิต แบบนี้ มันไม่ใช่ความลึก 32 บิตสีจริง ๆ อย่างที่ควรจะเป็นคือ 4 พันล้านสี เป็นแค่การเติม alpha channel เข้ามา ทำให้คนเข้าใจผิดกัน ซึ่ง 32 บิตนี้ ก็คือสีแบบ 24 บิตนั่นเอง
ส่วนจอ LCD ทั่ว ๆ ไป จะแสดงสีได้ประมาณ 2 แสนสี (18 บิต) แล้วทำการอัพเสกลไปเป็น 16.7 ล้านสี ทำให้แสดงสีได้ไม่สมจริง ซึ่ง LCD ที่แสดงสีได้ 16.7 ล้านสีจริง ๆ จะมีราคาสูงมาก เช่นพวก Apple Cinema, Eizo, Nec, Dell ที่พาเนลเป็น ips หรือจอใหม่ ๆ ทีใช้ LED ให้กำเนิดแสง ที่ราคาเหยียบแสน หรือจอ CRT ที่แสดงสีได้มากกว่า 16.7 ล้านสี
ดังนั้นการจะสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของคุณภาพของภาพได้ขึ้นกับปัจจัยคือ การตั้งค่าการ์ดจอ + คุณภาพของจอภาพ + คุณภาพของรูปภาพ ถ้า 3 อย่างนี้อย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่มีคุณภาพพอที่จะสังเกตความลึกของสีได้ เราเปลี่ยนไปใช้ค่าไหนก็จะไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงครับ
จากคุณ :
noraneko
- [
13 มี.ค. 51 16:33:21
]
|
|
|