ความคิดเห็นที่ 1 ก่อนจะไปถึงเรื่องธุรกิจที่พูด ขอวกกลับมารเรื่องของ "กระบวนการในการหุงยาง หรือวิธี Pyrolysis " ซักนิด   ซึ่งเป็นวิธีการสำคัญที่เราใช้ในการกลั่นน้ำมัน กระบวนการ Pyrolysis เป็นกระบวนการย่อยสลายโมเลกุลด้วยความร้อนในบรรยากาศที่ปราศจากออกซิเจน เพื่อเปลี่ยนชีวมวลซึ่งมีองค์ประกอบหลักคือ คาร์บอน ไฮโดรเจน และออกซิเจน ให้กลายเป็นก๊าซที่เผาไหม้ได้ ได้แก่ ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) ก๊าซไฮโดรเจน (H2) และก๊าซมีเทน (CH4) โดยกระบวนการดังกล่าว เป็นการเผาไหม้อินทรียสารแบบจำกัดปริมาณออกซิเจน ทำให้เกิดการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ เพื่อผลิตก๊าซและน้ำมัน งง...มั้ยครับ..??  ผมและครอบครัว ฟังสามบรรทัดนี้ปุ๊บ ก็มองหน้ากันเลิ่กลั่ก โดยเฉพาะอาเตี่ย  เริ่มมีเสียงครางออกมาเบาๆ  "ลื้อพูดอะไร อั้วไม่เข้าใจ.."   ซึ่งหากพูดภาษาคนแบบบ้านๆ ของผมก็ต้องบอกว่า กระบวนการนี้ มันคือกระบวนการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบทางเคมีของยางรถยนต์   โดยให้ผ่านความร้อนระดับสูงมากๆ ในสภาวะที่เราควบคุมอากาศ หรือว่า ไร้อากาศนั่นแหละ  ซึ่งพอยางรถยนต์ได้รับอุณหภูมิสูงๆ แบบนี้ หายใจไม่ออกอีกตะหาก (ไม่มีออกซิเจน) องค์ประกอบทางเคมีของยางที่ส่วนใหญ่เป็นคาร์บอนเริ่มระเหย ซึ่งจะกลายเป็นก๊าซ และถ้าเราเอามันไปทำควบแน่น มันก็จะกลายเป็น "น้ำมัน" ที่เราต้องการครับ แต่จากขั้นตอนแรก จนถึงขั้นตอนสุดท้าย เราฟังดูง่ายๆ แต่เอาเข้าจริงๆ มันไม่ได้ง่ายเลยครับ !! จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:26:31 ]

ความคิดเห็นที่ 2 พอได้รับฟังข้อมูลคร่าว เราก็ต้องมาหาข้อมูลเอาเอง เพื่อประกอบการตัดสินใจ ซึ่งจากการศึกษาการวิจัยภายในประเทศ ยิ่งทำให้ผมได้เปิดกะลารู้ว่า บ้านเราได้มีการวิจัยเรื่องการเผายางรถยนต์เพื่อเอาน้ำมันมาใช้เป็นเชื้อเพลิงแล้ว หนึ่งในงานวิจัยนั้น มีงานวิจัยเรื่อง "โครงการนำยางรถยนต์ที่ใช้แล้ว มาเปลี่ยนเป็นผลิตภัณฑ์ตั้งต้นที่มีคุณค่าด้วยวิธีการไพโรไลซิส" ผลงานการศึกษาของ ผศ.ดร.ศิริรัตน์ จิตการค้า และ รศ.ดร.รัตนวรรณ มกรพันธ์ จากวิทยาลัยปิโตรเลียมและปิโตรเคมี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย   ซึ่งถืออำนวยประโยชน์ในการศึกษาของผมมากมาย กระบวนแปรรูปยางรถยนต์เก่ามาเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงมี 3 ลักษณะด้วยกัน 1.กระบวนการ "Pyrolysys" ซึ่งก็คือการย่อยสลายโมเลกุลด้วยความร้อนในบรรยากาศที่ปราศจากออกซิเจน เพื่อผลิตก๊าซและน้ำมัน 2.Gasification คือกระบวนการย่อยสลายโมเลกุลด้วยความร้อน เพื่อผลิตก๊าซสังเคราะห์ (ไฮโดรเจนกับคาร์บอนมอนอกไซด์) 3.Liquefaction คือการย่อยสลายโมเลกุลด้วยความร้อนร่วมกับใช้ตัวทำละลาย (หรือของเหลวที่ไม่ใช่น้ำ) เพื่อผลิตน้ำมันเป็นผลิตภัณฑ์หลัก ทั้ง 3 กระบวนการถูกเรียกรวมกันว่า "PGL Process" อย่างไรก็ตาม กระบวนการไพโลไรซิสเป็นกระบวนการที่มีการใช้มากที่สุดในโลก เนื่องจากมีความยุ่งยากน้อยกว่ากระบวนการอื่นๆ กระบวนการ PGL ได้มีมานานแล้วหลายประเทศ ในช่วงปี 1995 มีประเทศอังกฤษ บัลแกเรีย อิตาลี เยอรมัน แคนาดา และสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกา มีโครงการลักษณะนี้กระจายอยู่หลายรัฐถึง 21 โครงการด้วยกัน พอหลังปี 1995 มีประเทศฝรั่งเศส อินเดีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน และญี่ปุ่น ที่นำกระบวนการ PGL มาใช้ *คณะวิจัยจากวิทยาลัยปิโตรเลียมและปิโตรเคมี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:27:38 ]

ความคิดเห็นที่ 3 *** ทำไมยางจึงมีน้ำมัน *** น้ำมันเป็นสารไฮโดรคาร์บอนที่ต่อกันเป็นสายโซ่ ไม่สำคัญนักซึ่งหากนำผลิตภัณฑ์ ที่มีองค์ประกอบไฮโดรคาร์บอนสายโซ่ขนาดใหญ่ เช่น ยางรถยนต์มาทำปฏิกิริยาให้สายโซ่เหล่านั้นแตกออก ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นก็จะทำให้น้ำมันออกมาได้ โดยใช้วิธีการเผาในเตาปฏิกรณ์ที่มีสภาพไร้อากาศ หรือที่เรียกว่ากระบวนการไพโรไลซิส "ผลิตภัณฑ์ขั้นแรก" ที่ได้มีดังนี้คือ 1.ก๊าซเชื้อเพลิง 2.น้ำมัน 3.คาร์บอนแบล็ก 4.ลวดเหล็ก โดยเฉพาะในส่วนที่เป็นน้ำมัน พบว่ามีค่าความร้อนสูงกว่า ถ่านหินโดยทั่วไป และคุณภาพก่อนการปรับปรุงก็อยู่ในช่วงของน้ำมันเตาและน้ำมันดีเซล *อุปกรณ์วิจัยกระบวนการไพโรไลซิส จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:28:20 ]

ความคิดเห็นที่ 4 *** คุณภาพของน้ำมันที่ได้ *** การไพโรไลซิสยางรถยนต์ทำให้ได้น้ำมันดิบที่มีคุณภาพดีกว่าน้ำมันที่ขุดเจาะ เนื่องจากไม่มีการปนเปื้อนยางมะตอยและโลหะหนัก ทำให้น้ำมันมีลักษณะเป็นยางเหลว และใสกว่า ซึ่งสามารถนำไปแยกเป็นน้ำมันชนิดต่างๆ ได้ตามลำดับจุดเดือดและขนาดของโมเลกุล คือน้ำมันเบนซิน น้ำมันก๊าด น้ำมันดีเซล และน้ำมันเตา รวมถึงก๊าซชนิดต่างๆ ในสัดส่วนที่ต่างกัน ชนิดของน้ำมันที่ได้มากที่สุด คือน้ำมันเตา ซึ่งใช้เป็นเชื้อเพลิงเตาเผาในโรงงานอุตสาหกรรมเท่านั้น หากมีการเพิ่มสัดส่วนน้ำมันตัวอื่นๆ ที่มีคุณค่าในเชิงพาณิชย์ เช่น น้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล ก็สามารถนำมาใช้เป็นพลังงานทดแทน หรือนำไปผสมกับน้ำมันดิบเพื่อลดการนำเข้าน้ำมันดิบจาก ต่างประเทศได้ จึงเป็นที่มาของการทำวิจัยก็เพื่อเพิ่มสัดส่วนน้ำมันที่มีคุณค่าเชิงพาณิชย์ให้มากขึ้น โดยการใส่ตัวเร่งปฏิกิริยาเข้าไปในกระบวนการไพโรไลซิส จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:29:10 ]

ความคิดเห็นที่ 5 *** การวิจัย และการทำธุรกิจเกี่ยวกับการเผายางเอาน้ำมันในประเทศไทย เป็นอย่างไร " ที่ผ่านมาการทำไพโรไลซิสยางรถยนต์ในประเทศไทยมีการทำวิจัยอยู่บ้าง แต่ยังไม่ปรากฏเครื่องต้นแบบระดับสาธิตและระดับเต็มรูปแบบ และยังไม่ปรากฏว่า มีการซื้อเทคโนโลยีจากต่างประเทศมาผลิต หรือมีการคำนวณเพื่อศึกษา ความคุ้มทุนในเชิงพาณิชย์ โดยใช้สภาวะและปัจจัยต่างๆ ของประเทศไทยอย่างจริงจัง จากข้อมูลที่ค้นหา แม้จะมีประโยชน์ในการศึกษารูปแบบ กระบวนการ แต่ก็เป็นเพียงระดับเบื้องต้นเท่านั้น  ผมจำเป็นต้องไปหาคลำเอง ลองผิดถูกเอง จึงจะเริ่มเข้าที่เข้าทาง แต่กว่าจะได้ข้อมูลเหล่านี้ ธุรกิจบ่อน้ำมันร้อยล้าน ของผมก็ขับเคลื่อนไปแล้ว  55555 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:29:56 ]

ความคิดเห็นที่ 6 กลางเดือนตุลาคม 2549 บ้านผมเริ่มทำการวางแผนที่จะเตาหุงยาง เพื่อดึงเอา"น้ำมัน" ออกมา  ซึ่งสิ่งแรกที่ต้องให้ความสำคัญมากคือ   สถานที่ในการดำเนินการ เพราะจากการศึกษา ฟังเขาเล่ามา และพอจะเดาได้ว่า การเผายางจะมีสิ่งไม่พึงประสงค์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเขม่า กลิ่น ฯลฯ  จึงตัดสินใจเลือกเอาบ่อทรายของครอบครัว ซึ่งอยู่ไกลชุมชน มาทำเป็นเตาผลิต ขนาดของพื้นที่ที่พยายามเจียดมามากที่สุด อยู่ที่ประมาณ 2 ตารางกิโลเมตร ไว้เผื่อนำวัตถุดิบหลัก ก็คือ ยางเก่า มาเก็บไว้ด้วย เตาหุงยาง พร้อมปล่องคู่  ตอนแรกปล่องสูงแค่สองเมตรกว่าๆ ลองหุงดูปรากฏว่า ควันมันลอยต่ำเกินไป จนต้องเปลี่ยนความสูงมากขึ้นเป็น 7 เมตร แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 21:49:12 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:30:41 ]

ความคิดเห็นที่ 7 บ่อทรายที่ห่างไกลจากแหล่งชุมชน ถูกทำเป็นที่กองยางเก่าที่รับซื้อมา  การรับซื้อยางเก่า มีทั้งออกไปรับซื้อเอง และมีคนนำมาส่งให้  จำนวนที่รับต่อครั้งจะอยู่ประมาณ 50-70 ตัน ซึ่งอัตราการซื้อขายจะขอพูดในตอนท้ายครับ แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 21:49:43 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:32:09 ]

ความคิดเห็นที่ 8 กระโจมคนงาน ใช้ดูแลเตา แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 21:50:31 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:32:26 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ยางที่เตรียมนำมาหุง จะถูกปาดเอาแก้มยางออก แยกไว้เป็นสัดส่วน แล้วทำการมัด แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 21:51:00 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:32:41 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แก้มยางที่ถูกปาดออกแล้วก็แยกไว้เช่นกัน แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 21:51:17 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:32:54 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ***ยางประเภทไหนบ้างที่ใช้หุงน้ำมันได้ *** จากการศึกษาพบว่ายางเกือบทุกชนิด รวมถึงพลาสติกนั้น เป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอนอย่างหนึ่งเช่นเดียวกับน้ำมัน ซึ่งสามารถนำมาเผาเอาน้ำมันได้ทั้งสิ้น   ในเตาเผาที่ทำอยู่จึงประกอบด้วยยางประเภทต่างๆ นอกเหนือจากยางรถยนต์ ยางใน เป็นต้น แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 21:52:19 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:33:15 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เศษชิ้นส่วนที่ทำจากยางก็สามารถนำมาใช้ได้เช่นกัน แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 21:53:09 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:33:39 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ลักษณะเตาเผา เป็นเตาก่อเอง ใช้แรงงานคนก่อ ช่างเหล็ก ช่างเชื่อม ตลอดทั้งโครงการ ไม่เกิน 10 คน ใช้เวลาทั้งสิ้นในการดำเนินการก่อเตาอย่างเดียว 2 เดือน  รูปแบบของเตาเป็นรูปแบบเตาเก่าที่มังกรจีนเพื่อนเตี่ยเอามาให้ดู แต่จากที่บ้านผมทำงานด้านการหลอมโลหะมานาน จึงเห็นจุดบกพร่องบางอย่าง เลยทำการแก้ไขตัวเตาใหม่  แต่ก็ยังเป็นแบบชาวบ้านๆ อยู่ดี  - -" แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 21:53:43 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:33:54 ]

ความคิดเห็นที่ 14 หนึ่งเตาประกอบไปด้วย  6 หลุมนึ่ง  โดย ปากหลุมมีขนาด 1.50 เมตร สูง 2.5 เมตร เป็นท่อโลหะม้วนหนาหล่อด้วยคอนกรีตทนไฟ สามารถใส่ยางได้คิดเป็นน้ำหนักประมาณ 300 -500 กิโลกรัมต่อหลุม หรือแล้วแต่ขนาดของยางที่ใส่ แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 21:53:59 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:34:14 ]

ความคิดเห็นที่ 15 กระบวนการ Pyrolysis เป็นการทำในสภาวะจำกัดออกซิเจน จึงเป็นเป็นต้องออกแบบการดักออกซิเจนให้เข้าในตัวถังขณะปิดให้น้อยที่สุด เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพมากที่สุด แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 21:54:37 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:34:38 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สภาพหลุมขณะทำการหุงยาง  ถูกอบโดยปราศจากออกซิเจนในระบบปิดภายในอุณหภูมิประมาณ 400 องศาเซลเซียส ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นแก๊สคาร์บอนมอนอกไซด์ แก๊สมีเทน ไอน้ำมันร้อน และถ่าน แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 21:55:41 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:34:58 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ตัวเตาก่อจากอิฐมอญ อิฐมวลเบา และอิฐทนไฟ แยากไปในแต่ละจุด  ซึ่งการออกแบบคำนวนระบบ และทิศทางการกระจายไอร้อนให้แผ่ไปทั่วเตา และตัวถังหุง  เพราะนี่ไม่ใช่การย่างเตา แต่เป็นการส่งไอเข้าไป คล้ายกับการอบ แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 21:55:57 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:35:15 ]

ความคิดเห็นที่ 18 การใส่เชื้อเพลิงไม่จำเป็นที่จะต้องใส่เข้าไปด้านใน เพียงแต่นำส่งเข้าด้านหน้าเตา แล้วใช้ก้นหอยเป่าลมร้อนเข้าไป ก็เพียงพอ แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 21:56:40 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:36:13 ]

ความคิดเห็นที่ 19 สภาพเตาร้อยล้าน ของกระพ้มครับ...   555  ยิ่งใหญ่มาก แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 21:56:59 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:36:34 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ความร้อนถูกกระจายไปทั่วเตาด้วยก้นหอยตัวจิ๋ว แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 21:57:36 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:36:50 ]

ความคิดเห็นที่ 21 โดยมีพนักงานคอยยืนใส่ไฟตลอดเวลา  ซึ่งถ้าใครสังเกตุ  จะมีปลายสายด้านซ้าย จะมีเปลวไฟพุ่งมาด้วย นั่นเป็นสายแก๊สที่เราช่วยให้ความร้อนนอกจากการใช้ถ่านครับ   สงสัยมั้ยครับ  ถ่านเชื้อเพลิง และ ก๊าซ ที่ได้  เรานำมาจากแหล่งไหนกัน.... ?   เดี๋ยวจะบอกครับ แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 21:58:13 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:37:19 ]

ความคิดเห็นที่ 22 หลังจากที่ยางโดนหุงจนคาร์บอนระเหยกลายเป็นก๊าซ พุ่งสู่จมูกท่อที่ทำต่อไว้ จากนั้น ก๊าซจะถูกดำเนินไปตามท่อที่เราหล่อน้ำไว้ครับ   เป็นทฤษฏีการกลั่นง่ายๆ ที่มีมานานแล้ว  ก๊าซ เกิดการควบแน่นกลายเป็นของเหลว ซึ่งของเหลวที่ได้ ไม่ใช่น้ำเปล่าแน่ๆ   แต่มันเป็นน้ำมันครับ... แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 21:58:27 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:37:41 ]

ความคิดเห็นที่ 23 จุดควบแน่นก๊าซ เป็นท่อเหล็กยาวประมาณ 15 เมตร หล่อด้วยน้ำตลอดทาง แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 22:01:05 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:38:06 ]

ความคิดเห็นที่ 24 จากนั้นจึงเข้าสู่ช่วงสุดท้าย คือ ถังพักน้ำมัน แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 22:02:03 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:38:25 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ลักษณะของถังพัก ถูกต่อลงมาจากท่อควบแน่น ไหลลงสู่ท่อพัก ซึ่งทำระบบกรองภายใน ให้น้ำมันที่ได้สะอาดในระดับนึง แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 22:02:29 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:38:45 ]

ความคิดเห็นที่ 26 จากนั้นก็ปล่อยลงสู่ถังพักในหลุม ก่อนจะถูกดูดไปที่ถังน้ำมันขนาดยักษ์ต่อไป แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 22:05:25 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:39:05 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เอาเครื่องปั้มมาดูดขึ้นไปที่ถังยักษ์ขนาด 15000 ลิตร x 2 ใบ  เฉพาะค่าถัง 2 ใบนี้ ก็หลายหมื่นแล้วครับ เห็นเก่าแบบนี้ก็เถอะ แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 22:06:38 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:39:23 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ย้อนกลับมาที่ท่อควบแน่น หลังจากที่ส่งน้ำมันลงไปแล้ว แน่นอนว่ายังต้องมีก๊าซที่ยังไม่ควบแน่หลงเหลืออยู่แน่นอน  แล้วเราจะทำอย่างไรกับมันดี แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 22:06:51 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:39:49 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เราทำการเด้งท่อกลับด้านบน ย้อนไปที่หน้าเตาอีกครั้ง แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 22:07:04 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:40:07 ]

ความคิดเห็นที่ 30 จากนั้นทำการต่อสายออก เพื่อใช้เป็นก๊าซเชื้อเพลิง ในการให้ความร้อนแทนที่จะใช้ความร้อนจากถ่านอย่างเดียว แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 22:07:31 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:40:24 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ซึ่งไฟที่ได้จากก๊าซนี้ ขอบอกว่าแรงมากๆ  หากหยิบออกมาชู เปลวไฟจะสูงมาก เหมือน flamethrower เราดีๆ นี่เอง แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 22:07:46 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:40:49 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ระยะเวลาในการหุง ที่ทดลองมาหลายแบบ ที่เหมาะสมสำหรับเตาและความร้อนขนาดนี้อยู่ที่ประมาณ 12 ชั่วโมง เมื่อถึงเวลา พนักงานช่วยกันชักรอกเอายางที่ถูกหุงแล้วออกมาจากหลุม แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 22:08:39 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:41:07 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ยางที่คาร์บอนได้ละเหยออกไป มีลักษณะร่วน แตกเป็นผง และแยกตัวกับใยเหล็ก แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 22:08:55 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:41:34 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ตะแกรงใส่ยางที่นำขึ้นจากหลุม ถูกเทออก จะเห็นว่ายางมันร่วนจนเราสามารถแกะใยเหล็กออกมาได้ง่ายมาก แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 22:09:21 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:41:53 ]

ความคิดเห็นที่ 35 มันกรอบจริงๆ นะครับ   ใครต้องการอบหมู หรือต้องการเปลี่ยนสภาพศพให้เป็นสแนคเจ๊ค ก็สามารถบอกได้ครับ แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 22:09:46 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:42:16 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เศษยางร่อนออกมาหลังจากโดนกระบวนการ Pyrolysis  ทายสิครับ เอามาทำอะไร.... ใช่ครับ   เราเอามาใช้เป็นถ่าน เพื่อเผาเป็นเชื้อเพลิงในเตานั่นเอง   ตรงนี้คงสามารถตอบข้อสงสัยได้แล้วนะครับ ว่า เชื้อเพลิงที่ใช้ในการเผา เราได้จากอะไร    เราได้จากตัวของมันเอง  โดยที่ได้ผลิตภัณฑ์แถมเป็นน้ำมัน โดยไม่ต้องเสียค่าเชื้อเพลิงใดๆ เพิ่มแต่อย่างใดครับ แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 22:10:07 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:42:35 ]

ความคิดเห็นที่ 37 นอกจากนี้ ผลพลอยได้ที่แถมมาอีกสิ่งนึงก็คือ นี่ครับ... "ใยเหล็ก" ของยางที่เผาแล้ว  เป็นลวดเหล็กคุณภาพดี ที่เราสามารถในไปขายได้อีก  ซึ่งปัจจุบัน ทุกเดือนจะมีโรงงานมารับซื้อไปเอง โดยให้กิโลกรัมละ 12.50 บาท   อันนี้กระซิบบอกว่า เฉพาะขายลวดเหล็กนี่ ก็ได้ประมาณ 8 หมื่นบาทต่อเดือนแล้วครับ ลองคำนวนดูว่า เดือนนึงต้องเผายางกี่ตันเอ่ย แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 22:10:29 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:42:59 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ใยเหล็กในยางรถ ไม่ได้เป็นแค่เส้นลวดบางๆ เท่านั้น  ในยางรถใหญ่ยักษ์ ลวดจะถูกเพิ่มขนาดเป็นเส้นลวดหนาเตอะ เพิ่มความแกร่งให้ล้อ และเพิ่งราคาในการขายต่อให้กระผมด้วยครับ แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 22:10:46 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:43:48 ]

ความคิดเห็นที่ 39 คนงานมัดลวดเก็บไว้เตรียมขายโรงงาน แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 22:10:59 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:44:06 ]

ความคิดเห็นที่ 40 และสิ่งที่หลายๆ คนสงสัย ผลิตภัณฑ์สุดท้ายที่ได้  และเป็นผลิตภัณฑ์ที่คิดว่าไม่น่าจะออกมาได้  "น้ำมัน" จากท่อควบแน่น น้ำมันก็เริ่มไหลตกลงมา จากหยด สองหยด กลายเป็นไหลเป็นสาย ไม่หยุด แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 22:11:28 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:44:25 ]

ความคิดเห็นที่ 41 สีน้ำมันที่ได้ เขียวเข้ม ออกดำ กลิ่นต้องปรับปรุง เพราะมันเหม็นเหมือนเบนซิน แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 22:11:54 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:44:52 ]

ความคิดเห็นที่ 42 รองจากท่อกรอง แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 22:12:08 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:45:16 ]

ความคิดเห็นที่ 43 สีน้ำมันที่ได้ เป็นไงครับ  ดำสะใจ.. แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 22:12:24 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:45:42 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เครื่องมือที่บ้านก็ไม่มี  จะลองจุดเพื่อดูการวาบไฟ ของน้ำมันที่ได้ คงต้องใช้การคะเนเอาแทน จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:46:00 ]

ความคิดเห็นที่ 45 การวาบไฟของน้ำมันที่ได้ ไม่ไวเท่าน้ำมันเบนซิน แต่ได้ความเร็วเท่ากับน้ำมันโซล่า หรือดีเซลที่ใช้ๆ กัน ซึ่งตรงกับงานวิจัยที่บอกว่า อยู่ในช่วงของน้ำมันเตาและน้ำมันดีเซล จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:46:20 ]

ความคิดเห็นที่ 46 น้ำมันทั้งหมดถูกพักไปเก็บในถังขนาดใหญ่ เตรียมส่งขายโรงงาน     น้ำมันที่ได้ตัวนี้ เคยส่งไปตรวจทีนึงแล้วถูกจัดอยู่ในรูปของน้ำมันเตา แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 22:16:59 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:46:39 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เต็มถังครับ จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:47:02 ]

ความคิดเห็นที่ 48 คนงานเตรียมดูดใส่ถัง 200 ลิตรเตรียมส่งโรงงาน แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 22:14:44 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:47:19 ]

ความคิดเห็นที่ 49 กองถัง 200 ลิตรที่ใช้ส่งลำเลียงไปตามโรงงาน ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ เป็นโรงงานที่ต้องใช้น้ำมันเตาเป็นเชื้อเพลิงในการการผลิต เช่น โรงงานทำอาหาร โรงหล่อ โรงหลอม โรงานเซรามิค  ซึ่งแต่ก่อนรับน้ำมันเตาจากโรงกลั่น แต่เมื่อน้ำมันในตลาดโลกแพงขึ้น ราคาของน้ำมันเตาจึงเพิ่มตาม  ทำให้สินค้าของเราเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่เค้าเลือกใช้บริการ แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 22:16:41 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:47:53 ]

ความคิดเห็นที่ 50 **** ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และผลตอบแทน **** หากไม่พูดตรงนี้ ก็คงขาดข้อมูลในการตัดสินใจไปเยอะ   ในการดำเนินธุรกิจประเภทนี้ สิ่งที่ต้องใช้มากสุดคงเป็นเงินทุน และ "ใจต้องถึง" ด้วยครับ เพราะมันเป็นธุรกิจที่ใหม่พอสมควร เตาที่ท่านเห็นๆ  เตาเป็นเตาแรกที่ทำขึ้น ผิดถูกปรับแก้หลายรอบ แต่ก็ยังไม่ดีเท่าที่ควร  สนนราคาใบนี้ อยู่ประมาณ 1 ล้านบาท  เห็นว่ามันมีไรแค่นี้ก็เหอะ ยางเก่าหมดสภาพ  วัตถุดิบหลัก อันนี้แล้วแต่ตกลงราคา สมัยก่อนให้ฟรีก็ยังได้  แต่เดี๋ยวนี้เริ่มมีคนรู้ทัน ค่าแรง ค่าจิปาถะ อันนี้ไม่เท่าไหร่ครับ ตัวผลตอบแทน  ผมไม่ขอบอกเป็นตัวเงิน แต่ให้ไปคำนวนเอาเอง   ยางรถยนต์ที่ได้จากการหุง  เวลา 1 รอบ 12 ชม. น้ำหนักประมาณ   3  ตัน จะให้น้ำมันประมาณ  800-1000 ลิตร ราคาน้ำมันเตาที่ส่งปัจจุบัน คิดตามจำนวนที่ส่ง โดยสนนราคาส่งประมาณ 11.50 - 13 บาท ต่อหนึ่งลิตร เหล็กเส้น จากการเผายาง  ตกเดือนละประมาณ 8 ตัน ในราคารับซื้อ กิโลกรัมละ 12.50 บาท *** คำเตือน *** การลงทุนมีความเสี่ยง  ผู้ลงทุนไม่ควรดื่มวันละสองขวด... *** อ้างอิง ข้อมูลเพิ่มเติม *** ท่านใดสนใจศึกษา การหุงยางเป็นน้ำมันด้วยวิธีการนี้ สามารถค้นหาได้จาก http://researchers.in.th/blog/tire/124 http://www.hs1an.org/index.php?option=com_content&task=view&id=484&Itemid=2 สุดท้ายนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สิ่งที่เล่ามาจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ บ้างไม่มากก็น้อย  แต่กระนั้นก็ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกนิดหน่อย จะเอามาเล่าต่อไปครับ สวัสดีครับ แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 22:17:48 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 17:48:29 ]

ความคิดเห็นที่ 51 น่าสนใจมากครับ แล้วในตอนนี้มีผู้ที่ทำธุระกิจแบบนี้อยู่มากหรือน้อยขนาดใหนครับ การหาวัตถุดิบยังจะหาง่ายอยู่มั้ย ถ้ามีการทำน้ำมันกันอย่างแพร่หลาย แหล่งวัตถุดิบหลักหามาจากที่ใหนครับ การจัดการเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมนี่มีเท่าที่เห็นก็เพียงพอเหรอครับ หรือว่ายังอยู่ในช่วงศึกษาผลกระทบกันอยู่ จากคุณ : Wirelessly - [ 16 มี.ค. 51 17:58:08 ]

ความคิดเห็นที่ 52 เยี่ยมครับ โหวตๆ จากคุณ : บ่าวจ่อย - [ 16 มี.ค. 51 18:00:48 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ขอบคุณครับ จากคุณ : ผมยาว - [ 16 มี.ค. 51 18:09:35 ]

ความคิดเห็นที่ 54 สุดยอดค๊าบบ จากคุณ : >>คุณบูม<< - [ 16 มี.ค. 51 18:09:37 ]

ความคิดเห็นที่ 55 เยี่ยมครับ เสียแต่รูปเยอะไปหน่อยกว่าจะโหลดเสร็จ T-T ถ้าแบ่งครึ่งทำสัก 2 ภาค น่าจะดีสำหรับคนที่คอมห่วยเนตช้า จากคุณ : Philosophos - [ 16 มี.ค. 51 18:14:10 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ยอดเยี่ยมครับ โหวตๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : ปุ้ม ครับ - [ 16 มี.ค. 51 18:19:50 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ถ้าเอาไปต่อยอดเขียนแปลนทำให้มีมาตรฐานกว่านี้ น่าจะเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุนได้ที่เยอะทีเดียว เขียนพิมพ์เขียวขาย.... จากคุณ : Mr.june - [ 16 มี.ค. 51 18:33:53 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ขอบคุณครับ แต่ขอ เฮ้อ จากคุณ : โอซารัน - [ 16 มี.ค. 51 19:07:36 ]

ความคิดเห็นที่ 59 สุดยอดจริงๆครับ จากคุณ : PICCANINNY'S DAD - [ 16 มี.ค. 51 19:18:08 ]

ความคิดเห็นที่ 60 โอ๊ะ โอออ   ยังงี้พลาสติกก็หุงได้ใช่มั้ยครับ  งั้นก็ไม่ต้องกลัวเรื่องพลาสติกล้นโลกแล้วน่ะสิ   ออ แล้วโฟมหุงได้มั้ยครับ ป.ล.ผมยังกังวลเรื่องก๊าซที่เกิดจากการเผาไหม้น่ะครับ  ควันมันดำหรือเปล่าอะ จากคุณ : foduck - [ 16 มี.ค. 51 19:30:57 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ซูฮกด้วยคนคร้าบ เก่งจังเลยพ่อคู้ณณณ ทำกันมากี่ปีครับนิ นานน่าดูเลย จากคุณ : LivingMachine - [ 16 มี.ค. 51 19:34:17 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ขอถามนิดนึงครับแล้วควันที่มีออกมานั้นมีกลิ่นแบบเผายางไหมอะครับแล้วจะมีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมไหมอะครับถ้าจำนวนที่ทำเพิ่มมากขึ้น จากคุณ : งุงิซัง (งุงิซัง) - [ 16 มี.ค. 51 19:49:51 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ขอบคุณสำหรับคำถามครับ ธุรกิจการหุงน้ำมันจากยางนี้ เท่าที่ได้คุย และสำรวจดู มีผู้สนใจประกอบการหลายเจ้าแล้วนะครับ ซึ่งกระจายไปในแต่ละพื้นที่ เช่น ลพบุรี สระบุรี และที่เห็นว่ากำลังจะก่อสร้างใหญ่ที่นึงก็อุดรครับ *** เรื่องของยาง*** สำหรับคำถามเรื่องของวัตถุดิบที่ใช้นั้น ต้องบอกว่ามีมากมายครับ จากรายงานวิจัยบอกไว้ว่า ปริมาณยางรถเก่า เฉพาะบ้านเรามีประมาณ 1.7 ล้านตันต่อปีทีเดียว    ในการรับซื้อยาง ผมจะมีคนไปรับซื้อทั้งจากแหล่ง และมีผู้มาส่ง ซึ่งราคาจะต่างกันนิดหน่อย ตามแต่จะตกลงกัน และมีบางแห่งก็ให้ขนไปได้ฟรีๆ เช่นกัน  อย่างในจังหวัดนครปฐมที่ผมทำอยู่ หรือใกล้เคียงอย่าง ราชบุรี กาญจนบุรี ถือเป็นแหล่งที่มีอู่รถ โรงประกอบรถอยู่มากมาย ตรงนี้ถือเป็นจุดแข็งครับ จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 19:50:19 ]

ความคิดเห็นที่ 64 *** ปัญหาเรื่องมลภาวะ *** อันนี้ต้องขอบอกว่า  สุดๆ เหมือนกันครับ  ไหนจะรับทั้งศึกนอก และศึกใน  ศึกในคือการกำหนดวินัย และความปลอดภัยให้กับลูกน้อง ในเรื่องการทำงาน ต้องสวมหน้ากาก ต้องมีอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย  ซึ่งธุรกิจนี้ใหม่ ชาวบ้านไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเห็น และย่อมที่จะมองไม่เห็นภัยเป็นธรรมดา ถามว่ากลิ่นที่ได้จากการเผายางเหม็นหรือไม่  ต้องแยกเป็นสองส่วนครับ  ถ้าเราเอายางรถยนต์ปกติไปเผา เหม็นแน่ๆ และเขม่าดำ  แต่การหุงยาง เป็นการอบยาง ซึ่งจะไม่มีควันออกมา มีเพียงแก๊สที่ออกมาแล้วทำการควบแน่น ส่วนของควันที่ออกมานั้น หลักๆ ออกมาจากการเอาเศษถ่านยางไปเผาครับ  ซึ่งตรงนี้ได้คุยกับทาง อบต.เพื่อของเสนอให้ตั้งเป็นโรงงานฯ ไปเลย  แต่ยังอยู่ในช่วงศึกษาอยู่ครับ แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 22:18:06 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 19:55:48 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ระบบเข้าใจง่ายดีครับ เห็นผมที่จับต้องได้ จากคุณ : John-an7 - [ 16 มี.ค. 51 20:05:06 ]

ความคิดเห็นที่ 66 โหวตคร้าบ แต่ทำไมต้องตัดแก้มยางแยกไว้ด้วยเหรอครับ จากคุณ : lollynut - [ 16 มี.ค. 51 20:13:07 ]

ความคิดเห็นที่ 67 **** ขั้นตอนต่อไปต่อจากนี้ **** ตอนนี้ 1 เตา 6 หลุม ที่ใช้อยู่ เริ่มทำงานได้ไม่พอกับจำนวนยางที่เราเอามากองไว้แล้วครับ  มีแผนที่จะขยับขยาย เพื่อให้สามารถหุงยางได้มากกว่านี้ ซึ่งจากปัญหาที่พบหลายๆ อย่างของเตา คงจะเอาไปแก้ และออกแบบให้เตาที่สอง มีประสิทธิภาพดีกว่า และปลอดภัยกว่าที่เป็นอยู่   ซึ่งในการแก้ไข บางครั้งอาจต้องขอคำแนะนำจากเพื่อนๆ ที่มีความรู้ในด้านต่างๆ ช่วยเหลือ   วิธีการแก้ไขคร่าวๆ บางอย่างที่คิดไว้คือ 1. เรื่องของท่อแก๊ส ที่แยกออกมาจากท่อควบแน่น  ผมคิดว่าจะดำน้ำลงไปอีกรอบเพื่อควบแน่นก๊าซส่วนที่เหลือให้หมด  ก่อนจะออกไปเป็นก๊าซครั้งสุดท้าย ซึ่งน่าที่จะได้ปริมาณเพิ่มขึ้นกว่าเดิม 2. ปรับเปลี่ยนแรงดันไฟ  อุณหภูมิให้สูงขึ้น   เพื่อที่จะก่อให้เกิดการ Turn Over ของยางในการย่างให้บ่อยขึ้น แต่วิธีนี้ยังไม่แน่ใจในความปลอดภัย และคุณภาพของน้ำมันเท่าไหร่ 3. ปล่องอากาศ เป็นควันพิษที่มีสารประกอบโลหะหนักมากมาย  เตาใหม่จะรวมจากสองเตาเป็นหนึ่ง แล้วจะต่อปล่องลงน้ำ เพื่อควบแน่นควันอีกที  อันนี้ก็ไม่แน่ใจกับผลที่เกิด 4. การเพิ่มคุณภาพ และปริมาณของน้ำมัน โดยใช้ตัวเร่งปฏิกริยา     วิธีนี้เป็นวิธีที่สนใจมากที่สุด และติดตามมาตลอด  เพราะจากงานวิจัยหากเราสามารถนำตัวเร่งมาใส่ ก็จะส่งผลให้ช่วยเพิ่มคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ได้ จากนี้ ผลพลอยได้ที่เกิดจากการใช้ตัวเร่งปฏิกิริยาคือ การช่วยให้ผลิตกากได้น้อยลง และลดมลพิษบางตัวที่เกิดจากสารปนเปื้อนมากับวัตถุดิบได้   แต่ในปัจจุบันยังต้องอาศัยนักวิจัย เข้ามาเพื่อช่วยในการวิจัย คิดค้นสูตรในการเริ่งปฏิกริยา เพื่อให้สามารถแยกน้ำมันที่ได้ออกเป็นประเภทต่างๆ ได้อีก  ซึ่งตรงนี้ เรายังตามหลังประเทศอื่นๆ มาก ตัวอย่างเช่น ไต้หวันสามารถผลิตเบนซินจากขยะพลาสติกและยางรถได้สูงสุดถึง   50%  ของน้ำมันที่ผลิตได้  แต่ไม่ได้เปิดเผยว่าใช้อะไรเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา  ซึ่งถือเป็นความลับสุดยอด ต่อไป คงต้องอาศัยเพื่อนๆ มาช่วยกันละครับ แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 22:13:48 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 20:13:13 ]

ความคิดเห็นที่ 68 เจ๋งดีครับ จากคุณ : hoheno3 - [ 16 มี.ค. 51 20:16:14 ]

ความคิดเห็นที่ 69 น่าจะมีวิธีที่ทำให้น้ำที่หล่อมันเย็นนะครับ จะได้ไม่ต้องมีส่วนที่ยังไม่ควบแน่นหลงเหลืออยู่ อันนี้แนะนำแบบไม่รู้อะไรเลยนะครับ แฮะๆ -*- จากคุณ : lollynut - [ 16 มี.ค. 51 20:21:15 ]

ความคิดเห็นที่ 70 โหวตครับ มิน่าหายหน้าหายตาๆจากเฉลิมไทยเสียนาน ไปซุ่มเป็นเถ้าแก่นี่เอง จากคุณ : Nexus - [ 16 มี.ค. 51 20:38:55 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ยางสังเคราะห์ ใช้กระบวนการนี้ได้มั้ยครับ แก้ไขเมื่อ 16 มี.ค. 51 20:45:07 จากคุณ : nickyagape - [ 16 มี.ค. 51 20:39:25 ]

ความคิดเห็นที่ 72 เห็นหลายคนถามเรื่องของ "แก้มยาง"  ตัดทำไม...?? มีใครตอบได้มั้ยครับ .... ************ สวัสดีคุณ Nexus ครับ  หายจากเฉลิมไทยไปนาน เพราะมีธุระมากมายครับ  แต่ก็ยังคงติดตามสิ่งที่รักอยู่เช่นเดิม  แล้วท่าน Nexus เป็นอย่างไรบ้าง  อากาศที่จีนหายหนาวรึยัง  ว่างๆ ขอนัดมากินกาแฟที่ฝั่งฮ่องกงบ้างนะครับ... จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 20:45:42 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ขอบคุณมากครับที่นำมาแบ่งปัน จากคุณ : Vader Airline - [ 16 มี.ค. 51 20:59:07 ]

ความคิดเห็นที่ 74 แก้มยางนี่คือ ตัดแล้ว ไม่เอาส่วนนี้ไปผ่านกระบวนการเลยใช่มั้ยครับ ผมเดานะครับ ผมว่าส่วนี้มันน่าจะทำจากยางสังเคราะห์เลยไม่เอาไปเผา เพราะจะได้สิ่งเจือปนอื่น ผมเดาเลยนะเนี่ย กลัวผิดจัง จากคุณ : nickyagape - [ 16 มี.ค. 51 21:04:17 ]

ความคิดเห็นที่ 75 งั้นอีกไม่นานจะมีอาชีพอีกอาชีพเกิดในสังคมไทยแน่ นั้นคือ "แก็งขโมยยาง" .... จากคุณ : ghost in the anime - [ 16 มี.ค. 51 21:04:54 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ^ ^ แหงมๆเลยง่า จากคุณ : lollynut - [ 16 มี.ค. 51 21:07:55 ]

ความคิดเห็นที่ 77 - เห็นเตาเผาศพ  จะเอาควันไฟที่ได้มาเข้าห้องเผาที่ 2 อีกต่างหาก - มีความร้อนที่เหลือเกินจากระบบพอนำไปต้มน้ำปั่นไฟได้ไหมครับ? จากคุณ : ยัยปุย - [ 16 มี.ค. 51 21:12:22 ]

ความคิดเห็นที่ 78 แก้มยางน่าจะตัดเพราะมีใยเหล็กอยู่มาก สะดวกในการคัดแยก จากคุณ : ม้าไม้เมืองทรอย - [ 16 มี.ค. 51 21:27:55 ]

ความคิดเห็นที่ 79 **** ปาดแก้มยางทำไม **** เป็นคำถามที่เพื่อนๆ ถามกันมาเยอะ   จริงๆ แล้วไม่มีอะไรมากครับ คำตอบของคุณ ม้าไม้เมืองทรอยใกล้เคียง แต่ยังไม่เข้าเป้า   แก้มยางเป็นส่วนที่เป็นใยเหล็กเยอะมาก เพราะเป็นส่วนรับน้ำหนังของล้อรถ ยางคงรูปได้เพราะส่วนนี้  พอเราปาดแก้มออก จะเห็นว่าเรามัดยางให้ติดกันได้เยอะ   เพื่ออะไรครับ ก็จะได้ใส่เตาได้เยอะไงครับ  ไม่งั้นใส่ยางทั้งเส้น เราจะใส่ได้ไม่กี่เส้นเอง.. -------- คำถามของคุณ "ยายปุย" ความร้อนที่เหลือตรงนี้ยังไม่ได้คิดครับ  เพราะมันเป็นการเผาเตาให้ร้อน ยังคิดไม่ออกว่าจะเอามาต้มน้ำเพื่ออะไรดี   มีอะไรแนะนำได้ก็ขอความกรุณาครับ จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 16 มี.ค. 51 21:34:19 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ต้มไปปั้น turbine ไหวรึปล่าวครับ ปั่นไฟต่อ เหอๆ จากคุณ : oro - [ 16 มี.ค. 51 22:16:44 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ว้าวๆๆๆ แนวคิดดีมากครับ ช่วงเริ่มแรกใช่มั๊ยครับ เลยดูเหมือนจะเป็นระบบอัตโนมือซะส่วนใหญ่ แต่แหม....เฉพาะค่าเหล็กเส้นที่ขายได้มันก็ครอบคลุมต้นทุนค่าจ้างแรงงานแล้วมั้งครับ เพิ่มนิดนึงครับ ระบบน้ำหล่อเย็นถ้าออกแบบให้น้ำหล่อเย็นมีการหมุนเวียนอยู่ตลอดเวลา โดยอาจให้อุณหภูมน้ำเข้าซัก 30-33 องศา แล้วน้ำออกอยู่ที่ 45-50 องศา โดยน้ำขาออกจะไปแลกเปลี่ยนความร้อนกับอากาศอีกที โดยใช้ใบพัดช่วย แบบเดียวกับ coolong tower ของโรงไฟฟ้านะครับ ผลดีคือไอน้ำมันที่ยังไม่ควบแน่นที่คุณป้อนกลับเข้าเตา จะควบแน่นลงมากยิ่งขึ้น ส่วนเรื่องความร้อนที่เหลือนั้นก็ต้องมาคำนวนอีกทีละครับว่าเพียงพอต่อการ generate steam ได้กี่ตันต่อชั่วโมง ถ้านำมาปั่น steam tubine ได้ไฟฟ้ามาเลี้ยงตัวโรงงานก็น่าสนใจนะครับ แต่ค่าตัวของ steam turbine และ generator ก็แพงเอาเรื่องอยู่นะครับ แก้ไขเมื่อ 16 มี.ค. 51 22:59:11 จากคุณ : Dare More - [ 16 มี.ค. 51 22:52:18 ]

ความคิดเห็นที่ 82 เลิศ เผายางได้ถ่าน ก็เอาถ่านไปใช้ต่อ คุ้นๆ เหมือนเครื่องอะไรน๊า โหวตๆๆๆๆๆ จากคุณ : อิฐมอญ - [ 16 มี.ค. 51 22:53:55 ]

ความคิดเห็นที่ 83 เยี่ยมเลยครับ จากคุณ : bigwores - [ 16 มี.ค. 51 22:54:56 ]

ความคิดเห็นที่ 84 รวยแล้ว... รวยแล้ว... จากคุณ : Caramelman#21 - [ 16 มี.ค. 51 22:58:01 ]

ความคิดเห็นที่ 85 เจ๋งสุดยอด คนไทยเราทำได้ โหวตให้ครับ หวังว่าจะมีโรงงานทำยางมารีไซเคิลแบบนี้อีกนะครับ จะได้ลดค่าใช้จ่านด้านน้ำมันได้โขเลยทีเดียว จากคุณ : คาถาป้องกันแห้ว - [ 16 มี.ค. 51 23:00:51 ]

ความคิดเห็นที่ 86 กล้องอ่ะ เอาไปล้าง CMOS บ้างก็ดีนะคร้าบบบ.... ฝุ่นแยะเลย.... เดี๋ยวยุให้รายการทีวีไปสัมภาษณ์ดีกว่า..... จากคุณ : โจนาธาน ลิฟวิงสตัน - [ 16 มี.ค. 51 23:17:17 ]

ความคิดเห็นที่ 87 งั้นแก้มยางที่ปาดออกมา เอาไปทำอะไรต่ออ่ะครับ เพื่อที่จะเอาใยเหล็กออกมาหรือ ปาดจนได้เยอะๆ แล้วนำไปหุงรวมกันอีกที จากคุณ : Proximitron - [ 16 มี.ค. 51 23:19:46 ]

ความคิดเห็นที่ 88 งั้นอีกไม่นานจะมีอาชีพอีกอาชีพเกิดในสังคมไทยแน่ นั้นคือ "แก็งขโมยยาง" ....  - อย่าพูดเป็นเล่นไปนะครับ เมื่อก่อนนะ เวลาเปลี่ยนยางในรถมอไซค์ ยางในก็จะกองไว้หน้าร้านนะแหละ รกๆ หน่อยค่อยเก็บทีนึง พอมีพวกซาเล้งบอกว่า ให้ตัดเอาจุ๊บลบออกเพราะขายได้ตัวละบาท ก็โอเคตัดเก็บไปเรื่อยๆ ส่วนยางในก็ยังกองหน้าร้านไม่หาย แต่ช่วงหลังมานี่ มาเปิดร้านทีไรยางในที่กองไว้หายหมดทุกที ตอนหลังถึงได้รู้ว่า มีการรับซื้อยางในรถมอไซค์เหมือนกันครับ เอาเฉพาะยางในไม่เอายางนอก (เอาไปทำอะไรหว่า) อะไหล่เก่ามอไซค์นี่ ไม่ว่าน้ำมันเครื่อง, ฝักผ้าเบรก, แบต, จุ๊บลม, ยางใน, วงล้อ, เศษเหล็ก, กระป๋องน้ำมันเครื่อง ฯ ขายได้หมดเลยแฮะ 66666 จากคุณ : monsungja - [ 16 มี.ค. 51 23:25:07 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ไม่แนะนำให้ลงรูปที่ถ่ายติดคนงานมาด้วย แล้วก็กองวัสดุต่างๆโดยเฉพาะวัสดุหลังเผา(รูป36) เพราะเดี๋ยวนี้กม.ด้านนี้มีข้อบังคับเยอะมากครับ ไม่เกี่ยงว่ากิจการใหญ่หรือเล็กด้วย (ซึ่งหลายๆข้อแม้แต่โรงงานใหญ่ๆก็ไม่สามารถทำให้ถูกเป๊ะได้ครับ) ตอนนี้ี่ผมเข้าใจว่าไม่ถูกแน่ๆหลายอย่างมากครับ ถ้าจนท.แรงงานหรือสิ่งแวดล้อมมาเห็นจะไม่ค่อยดีกับจขกทนะครับ สำคัญที่สุดตอนนี้คือต้องขอใบอนุญาตประกอบโรงงานด่วนครับ จากคุณ : ด้วยความเคารพ - [ 16 มี.ค. 51 23:33:58 A:202.91.18.192 X: TicketID:003184 ]

ความคิดเห็นที่ 90 แจ๋วจริง สุดยอดเลยครับ จากคุณ : ReNaris - [ 16 มี.ค. 51 23:54:49 ]

ความคิดเห็นที่ 91 เก่งมากครับ เข้ามาดูด้วยความชื่นชม จากคุณ : Protector - [ 17 มี.ค. 51 00:00:52 ]

ความคิดเห็นที่ 92 เจ๋งมากๆครับ จากคุณ : o_musachi - [ 17 มี.ค. 51 00:26:20 ]

ความคิดเห็นที่ 93 นับถือๆ จากคุณ : AIScript - [ 17 มี.ค. 51 00:45:15 ]

ความคิดเห็นที่ 94 wow จากคุณ : nisas - [ 17 มี.ค. 51 00:46:21 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ^ อ่านจบแว่บแรกคิดเหมือน rep 89 เลย เนื่องด้วยว่าเป็นธุรกิจใหม่มากๆ ผมว่าถ้าเป็นไปได้ยังไม่อยากให้เรื่องมันดังมากน่ะครับ   ค่อนข้างเป็นห่วงเจ้าของกระทู้ในเรื่องตัวบทกฏหมายจังเลยครับ plant ที่อุดร นี่สร้างที่ไหนใครเป็นเจ้าของหรือครับ เผื่อได้ที่ฝึกงานดีๆ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้จขกท สร้างสรรค์ผลงานดีๆที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติต่อไปครับ แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 51 00:51:01 จากคุณ : เย้ (Operation aRmageddon) - [ 17 มี.ค. 51 00:48:11 ]

ความคิดเห็นที่ 96 โหวต ๆ จากคุณ : Zew - [ 17 มี.ค. 51 01:01:14 ]

ความคิดเห็นที่ 97 เข้ามาชื่นชม จขกท ค่ะ จากคุณ : Co-Arrange - [ 17 มี.ค. 51 01:21:27 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ จขกท ตอบได้ชัดเจนมากครับ หายสงสัยเลย ผมขอแค่มีการจัดการระบบให้ดูดีและมีระเบียบขึ้น ผมคิดว่าธุระกิจนี้ต้องไปได้สวยแน่นอนเลยครับ ทำให้เป็นเรื่องเป็นราว และกำหนดมาตรฐานขึ้นมาเพื่อรองรับธุระกิจตัวนี้ ไม่แน่ว่า ไทยอาจจะเป็น ผู้รับซื้อยางรถยนต์ใช้แล้วรายใหญ่ของภูมิภาคนี้เลยก็ได้นะครับ และอาจมีธุระกิจที่ต่อเนื่องจากการผลิตเกิดขึ้นอีกหลายอย่าง ผมขอเอาใจช่วย จขกท นะครับ จากคุณ : Wirelessly - [ 17 มี.ค. 51 02:00:11 ]

ความคิดเห็นที่ 99 สุดยอดเลยยครับ ของไกล้ตัวเหลือทิ้งที่หลายคนไม่ทราบถึงประโยชน์มัน น่าส่งกบนอกกะลา ไปลุย เนาะ อิอิ จากคุณ : Jet_XP - [ 17 มี.ค. 51 02:33:09 ]

ความคิดเห็นที่ 100 เข้าวินมาเป็นคนที่ 100 .. เจ๋งครับ กดโหวตแบบไม่ต้องสงสัย จากคุณ : s m l xl - [ 17 มี.ค. 51 06:13:38 ]

ความคิดเห็นที่ 101 ดีมากเลย เอายางมาเป็นน้ำมัน ถ้ามีเงินทุนเยอะกว่านี้ สนับสนุนให้สร้างเป็นโรงงานมาตรฐานนะครับ เรื่อง ควัน , กลิ่น , แก๊ส ต้องควบคุมให้ไปตามกฏหมายสิ่งแวดล้อม เพราะเดี๋ยวจะโดนพวก ยักษ์เขียว มาร้องให้ปิดโรงงานเปล่าๆ.... จากคุณ : น้ำปลาเดือนห้า - [ 17 มี.ค. 51 08:39:13 ]

ความคิดเห็นที่ 102 เจ๋งมากครับ จากคุณ : DoraeMa - [ 17 มี.ค. 51 09:01:04 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ความร้อนเอาไปปั่นไฟต่อน่าจะได้กระมังครับ ผมเองก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้คงเสนอความคิดเห็นไม่ได้มากนัก อ้อ นักวิจัยจากสถาบันปิโตรนี่ อาจารย์สุดาอยู่ด้วยหรือเปล่าครับ ถ้าจะมาฮ่องกงเมื่อไหร่ก็ติดต่อมาได้เลยครับ ปกติ เสาร์-อาทิตย์ ผมก็ว่างๆอยู่แล้ว จากคุณ : Nexus - [ 17 มี.ค. 51 09:30:25 ]

ความคิดเห็นที่ 104 แนะนำให้ออกแบบระบบให้ดี  ขั้นนี้อาจทดลอง วิจัยไปพร้อมกันด้วยครับ แล้วพอคุณได้คำตอบที่คาดว่า จะให้ผลการผลิตที่ดี และการจัดการมลพิษครบวงจร อย่าให้เหลืออะไรทิ้งแล้ว ก็ลงทุนเลยครับ ทำเป็นโรงงานมาตรฐานเลยครับ รับรอง เป็นเสี่ยรวยเละ แน่ๆ ครับ แล้วเอาตังมาแบ่งกันช่วยใช้ มั่งเน้อ จากคุณ : NaCl - [ 17 มี.ค. 51 10:43:13 ]

ความคิดเห็นที่ 105 น่าสนใจมากเลยครับ นึกไม่ถึงว่าจะสามารถดึงเอาน้ำมันออกมาจากยางล้อรถยนต์ได้ มูลค่าทั้งน้ำมันแล้วเหล็ก สูงทีเดียวครับ เหลือแต่ว่าจะมีผลกระทบในเรื่องของ ก๊าซที่เป็นพิษ และฝุ่นละออง เท่านั้นที่ผมยังไม่ทราบว่าจะเป็นปัญหาบ้างหรือไม่ หวังว่าไม่เป็นปัญหานะครับ จากคุณ : ksk - [ 17 มี.ค. 51 11:18:04 ]

ความคิดเห็นที่ 106 สะ สะ สุดยอดไปเลยครับพี่น้อง  เป็นกำลังใจให้หาตัวเร่งปฏิกริยาได้เร็วๆน่ะครับ   อยากให้รัฐบวมสนับสนุนเรื่องนี้จัง เพื่อจะทำให้ราคาน้ำมันถูกลงได้บ้าง อ้าวเห้ย.......ตื่นๆๆ จากคุณ : Atomos'Bao - [ 17 มี.ค. 51 11:18:52 ]

ความคิดเห็นที่ 107 อันนี้ซิของจริง กว่าพลังงาน ตรีเอกานุภาพซะอีก จากคุณ : จิ๊กโก๋หมู (จิ๊กโก๋หมู) - [ 17 มี.ค. 51 11:43:16 ]

ความคิดเห็นที่ 108 แก๊สเสียที่ออกมามีอุณหภูมิสูงไหมครับ ผมคุ้นๆว่ามีวิธีง่ายๆในการกำจัดมลพิษอยู่วิธีหนึ่งคือการผ่านแก๊สเข้าไปในสารละลาย  วิธี่นี้น่าจะง่ายถูกและสะดวกที่สุดสำหรับโรงงานที่เพิ่งเริ่มก่อสร้างแบบของคุณ  แต่ผมจำได้คร่าวๆจริงๆไม่แน่ใจว่าเขาใช้สารละลายอะไร ให้เดาน่าจะเป็นน้ำปูนใสเพราะราคาถูก และ Ca น่าจะจับกับ SO2(ที่คาดว่าน่าจะมีอยู่เยอะพอสมควรจาก S ในยาง รวมทั้งมีอันตรายสูงด้วย) กลายเป็น CaSO4(ตกตะกอน)(เดาล้วนๆ แค่เคยได้ยินมาแว่วๆว่ามีวิธีนี้อยู่) ส่วนน้ำหล่อเย็นเห็นด้วยที่น่าจะให้มี Cooling tower ทำแบบง่ายๆก็ได้คือปั๊มน้ำขึ้นไปที่หอคอยและให้ตกลงมาเป็นฝอยๆ ผ่านทางรูเล็กๆ (ตอนน้ำตกลงให้หอคอยโปร่งๆให้อากาศไปแลกเปลี่ยนความร้อนกับน้ำ) แค่นั้นก็น่าจะเพียงพอ(สำหรับการเริ่มต้น) วิธีนี้ที่โรงงานที่ผมเคยทำงานได้น้ำอุณหภูมิ 20 กว่าๆองศาเหมือนกัน(ขออภัยจำข้อมูลเป๊ะๆไม่ได้) แนะนำเพิ่มว่าคุณน่าจะไปติดต่อขอใช้ เครื่องวัดฟลูแก๊สมาวัด แก๊สเสียของคุณ มหาลัยใหญ่น่าจะมีหมด แต่ที่จุฬามีแน่นอน(เคยยืมอาจารย์มาใช้ ปีนขึ้นไปวัดบนปากปล่องเองเลย หน้าดำเมี่ยม 555) ข้อมูลว่ามีแก๊สอะไรอยู่บ้างจะบอกคุณได้หลายอย่างเลย  เช่นอุณหภูมิเผาไหม้เหมาะสมหรือยัง  ต้องใส่อะไรเพิ่มหรือเปล่า(เช่นอากาศ หรืออากาศมากไป (%excess air))  มีมลภาวะแค่ไหน และอื่นๆ  เพื่อให้คุณเปลี่ยนเศษยางทุกอณูของคุณเป็นความร้อนได้คุ้มจริงๆ จริงๆมีอีกเยอะเพราะโรงงานเพิ่งสร้างแต่ตอนนี้นึกออกแค่นี้ครับ ไม่แน่ใจว่าข้อมูลของผมจะเอาไปใช้กับโรงงานคุณได้แค่ไหน แต่ก็พอจะพูดได้แค่นี้(ตามความรู้อันน้อยนิด) จากคุณ : vrpanda - [ 17 มี.ค. 51 11:49:35 ]

ความคิดเห็นที่ 109 ยอดเยี่ยมมากครับ ... นับถือ .. จากคุณ : ทุ่มเท - [ 17 มี.ค. 51 12:25:59 ]

ความคิดเห็นที่ 110 ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ + รูปเยอะดีครับ ไม่แน่ใจว่าเป็นไปได้ไหม เช่น ออกแบบกระบวนการให้สามารถรองรับวัตถุดิบที่นอกเหนือจากยางรถยนต์ได้ด้วย เช่น พวกพลาสติกเหลือใช้ จากคุณ : lekhaew - [ 17 มี.ค. 51 12:53:13 ]

ความคิดเห็นที่ 111 โคตรจะแจ่มเลยท่าน สุดยอด จากคุณ : Kawpod - [ 17 มี.ค. 51 13:24:03 ]

ความคิดเห็นที่ 112 เก่งอ่า จากคุณ : อ่านเฉยเฉย - [ 17 มี.ค. 51 13:33:23 ]

ความคิดเห็นที่ 114 เยียมมากครับ ได้ประโยชน์หลายต่อ จากคุณ : u5canoe - [ 17 มี.ค. 51 14:05:32 ]

ความคิดเห็นที่ 115 เยี่ยมครับ... จากคุณ : PiGsPy - [ 17 มี.ค. 51 14:16:58 ]

ความคิดเห็นที่ 116 กลัวถูกหาว่าดัดจริต แต่ก็เป็นห่วงเรื่องมลภาวะและสุขภาพของคนงานครับ แต่ก็ขอชื่นชมกับการลงมือทำครับ จากคุณ : 512 - [ 17 มี.ค. 51 14:21:55 A:75.32.144.200 X: TicketID:031931 ]

ความคิดเห็นที่ 117 " Pyrolysis ยาง และพลาสติก" เคยได้ยินโครงการลักษณะนี้มาหลายทีละ ทั้ง ราชการ และ เอกชน ดีใจจังที่มีคนทำได้จริงในเชิง "ธุรกิจ"   จากคุณ : suttimon - [ 17 มี.ค. 51 14:45:19 ]

ความคิดเห็นที่ 118 เจ๋งครับ จากคุณ : PPC 50 - [ 17 มี.ค. 51 14:46:18 A:161.200.255.162 X: TicketID:161888 ]

ความคิดเห็นที่ 119 แจ่มแจ๋ว เยี่ยมยอดครับ น่าส่งเสริมให้เป็นบุคคลตัวอย่าง อยากให้ผู้รู้ช่วยให้ความกระจ่างเกี่ยวกับข้อกฏหมาย ดังที่ #89 และ #95 ว่า เชื่อว่าทุกคนอยากทำให้ถูกกฏหมาย  ถ้ามีข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับนักคิดไทย ที่ไม่มีรั้วสถาบันการศึกษาคลุมหัวอยู่ ได้คำนึงไว้บ้างก็จะดีนะ (และก็ไม่ค่อยเห็นด้วยกับ กฏหมายที่เอื้อประโยชน์ให้ประเทศไทย ได้พัฒนาตนเองให้มีอนาคตไม่มากนัก ที่สามารถทำเป็นรูปธรรมได้ และผู้มีอิธิพลบางกลุ่ม ที่ชอบใช้กฏหมายทำมาหากินได้ประโยชน์เต็มๆ) จากคุณ : khanasri - [ 17 มี.ค. 51 15:17:04 ]

ความคิดเห็นที่ 120 ถ้าเป็นพวกพลาสติก มันสามารถเอามาแยกเป็นน้ำมันได้ไหมอะคับ จากคุณ : Jet_XP - [ 17 มี.ค. 51 15:18:10 ]

ความคิดเห็นที่ 121 .....โหวตคับ...... จากคุณ : คาซีโอเพย่า. - [ 17 มี.ค. 51 15:22:28 ]

ความคิดเห็นที่ 122 ที่บ้านเราไม่เป็นที่รู้จักเท่าไหร่ เพราะนายทุนที่ซื้อน้ำมันจากต่างประเทศ มากลั่น เค้าไม่ยอมให้เราทำน้ำมันกันเองหรอกครับ ไม่งั้นเค้าก็เจ๊งอ่ะจิ จากคุณ : poonpol99@yahoo.com - [ 17 มี.ค. 51 15:25:34 A:124.120.229.154 X: TicketID:113635 ]

ความคิดเห็นที่ 123 แถวบ้านคนหนีหมดยัง จากคุณ : กรีน - [ 17 มี.ค. 51 15:32:29 A:125.27.91.21 X: TicketID:102386 ]

ความคิดเห็นที่ 124 นี่สิ InW ตัวจริง ไมใช่แบบเกรียนเครื่องตุ๋นเป็ดพะัโล้ บ่อน้ำมันแห่งอนาคตใหม่ของประัเทศไทย ก้าวไกลโชติช่วงชัชวาล ขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จครั้งนี้ด้วย โหวตครับ จากคุณ : Mr. อนารยชน - [ 17 มี.ค. 51 15:42:09 ]

ความคิดเห็นที่ 125 ชื่นชมครับ และหวังว่าคงจะไม่ถูกกลั่นแกล้งจากหน่วยงานรัฐ และผู้มีอิทธิพล ผมหวังแค่นั้นล่ะ ไม่ถึงกับต้องขอความช่วยเหลือหรอก ขอแนะนำนิดนึงครับ เรื่องควบแน่น การควบแน่นจะทำได้ดี เมื่ออุณหภูมิก๊าซต่างกับพื้นผิวมากๆ ยกตัวอย่าง แก้วน้ำเย็น จะมีไอน้ำเกาะแค่เป็นฝ้า แต่ถ้าน้ำแข็งจะเป็นหยดมากกว่า ดังนั้นการที่จะเอาก๊าซที่เย็นแล้วมาควบแน่นอีกทีคงไม่ได้ผลเท่าไหร่ น่าจะคิดว่าทำยังไงให้ก๊าซร้อนจัด เจอกับท่อเย็นๆ ให้เร็ว และมากที่สุด กรณีนี้ผมคิดออกได้ วิธี ดังนี้ 1. ทำให้น้ำหล่อเย็น เย็นมากๆ โดย - ป้องกันแสงแดดส่อง - ใช้ใบพัดตีน้ำ กังหันลมก็ได้ หรือถ้าแรงดันของก๊าซมากพอ ก็ต่อกับแกนเทอร์บาย ลักษณะเดียวกับเทอร์โบในรถยนต์ เอามาปั่นใบพัดได้ - เพิ่มพื้นที่ผิวน้ำ เช่น ทำสระน้ำกว้างๆ หรือใช้ผ้ามุ้งจุ่มชายลงไปในน้ำ ให้ผ้าดูดน้ำขึ้นมาแล้วระเหย - ใส่สารละลาย ทำให้น้ำระเหยเร็วขึ้น ดึงความร้อนไปใช้ในการระเหย แล้วตัวน้ำเองจะเย็นลง - ติดคอมเพรสเซอร์ทำความเย็นซะเลย ค่าไฟคุ้มหรือเปล่า 2. เพิ่มพื้นที่สัมผัส - ลดขนาดท่อที่นำก๊าซร้อนมาอาบน้ำให้เล็กลง แต่เพิ่มจำนวนท่อมากขึ้น โดยอาจใช้ท่อเล็กลง อาจเหลือเพียงเท่าปลายก้อย หรือจะผ่านรังผึ้งแบบแอร์เลยจะดีมาก แนะนำให้ศึกษาระบบของแอร์ และหม้อน้ำเพิ่มเติมครับ จุดประสงค์หลักคือทำให้ก๊าซร้อนจัด เจอกับท่อเย็นจัดเท่านั้นเอง อย่างไรก็ตาม ถ้าแนวคิดนี้มีประโยชน์ อย่าลืมเป็นเจ้าภาพงานมีทติ้งซักครั้งนะครับ จากคุณ : จั๊กกะจี๋ - [ 17 มี.ค. 51 15:47:55 ]

ความคิดเห็นที่ 126 พี่ใจถึงมากๆเลยนะเนี่ย ^^ จากคุณ : pattapon - [ 17 มี.ค. 51 18:07:28 ]

ความคิดเห็นที่ 127 ขอบคุณทุกความเห็นที่เป็นประโยชน์ในการพัฒนาเตาครับ   วันนี้ไปดูเตามา ได้ลองสังเกตุในส่วนที่เพื่อนๆ ให้ความเป็นห่วงและ แนะนำมา ***** เรื่องของมลพิษ และความปลอดภัย***** ตอนนี้ได้ทำการคุยกับทาง อบต. เจ้าของพื้นที่  ซึ่งจะเป็นผู้ดูแล ซึ่ง ทางอบต.ก็แนะนำว่า ให้เดินเรื่องเป็นโรงงาน จะเลือกว่าเป็นโรงงานรีไซเคิลยางเก่า หรือ หรือโรงงานกลั่นก็ได้  แต่เราจะต้องเสียภาษีส่วนที่เรียกว่า เป็นโรงงานประเภทที่ "ประกอบกิจการที่น่ารังเกียจ" อะไรประมาณนี้ล่ะครับ   นอกจากนี้ยังต้องคิดแก้ไขปัญหาเรื่องควันดำ ที่เกิดจากการเผากากยางเพื่อเป็นเชื้อเพลิง   ซึ่งตรงนี้อยากทราบเป็นความรู้ว่า โรงกลั่นใหญ่ๆ  มีการกลั่นแล้วควันของก๊าซ ที่เหลือ เค้าระบายอย่างไร  มีการเผาไหม้ที่สมบูรณ์หรือไม่ครับ.. ?? ******* การปรับปรุงเตา *******   แนวคิดเรื่องการนำพลังงานความร้อนจากเตามาใช้ในการต้มน้ำเพื่อปั่นกระแสไฟของเพื่อนๆ เป็นแนวคิดที่น่าสนใจมาก   แต่จากที่ลองหาข้อมูลแล้ว ระบบ steam turbine ก็มีค่าใช้จ่ายพอสมควร แต่ถ้าในระยะยาวน่าจะคุ้มดีครับ จากในรูป ต้องออกแบบเตาใหม่ โดยใส่แผงท่อรับความร้อน (Economizer) เข้าไปในเตา ซึ่งตรงนี้ ขนาดแผงคงใหญ่นิด ไม่งั้นเจอความร้อนนานๆ ไม่รู้จะละลายรึปล่าว ท่อแยกก๊าซด้านบน จากเดิมที่ต่อเด้งกลับ จะดำน้ำเด้งไปอีกรอบ เพื่อควบอีกรอบ  แต่สมาชิกบางท่านบอก อาจจะไม่มีผลอะไรมากนัก อันนี้คงต้องศึกษาอีกรอบ ********************** สำหรับคำถามที่เพื่อนๆ สมาชิกถามทิ้งไว้นะครับ *** ถ้าเป็นพวกพลาสติก มันสามารถเอามาแยกเป็นน้ำมันได้ไหม *** ได้ครับ  พลาสติกถือเป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอนเหมือนกับน้ำมัน แต่ว่าปัจจุบันราคาพลาสติกเก่า เทียบตามน้ำหนัก จะแพงกว่ายางรถยนต์หลายเท่าทีเดียว การเอามากลั่นถ้าไม่ทำระดับใหญ่จริงๆ ก็ไม่คุ้มครับ แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 51 22:13:11 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 17 มี.ค. 51 20:42:37 ]

ความคิดเห็นที่ 128 ตามมาให้กำลังใจ จากห้อง @japan ครับ  อิอิอิ หายไปนาน นึกว่าเจ็บป่วยเป็นอะไรหรือเปล่า? ตอนนี้รู้แล้วว่าหายไปไหนมา ค่อยสบายใจหน่อยครับ ปล. ป้าพนอจันถามถึงตลอดนะครับ จากคุณ : T-E-N-A - [ 17 มี.ค. 51 21:00:34 ]

ความคิดเห็นที่ 129 ที่บ้านผมก็เป็นเตาเผาถ่าน นั่นก็คือเผาไม้เอาถ่านไปขาย นั่นแหละ สิ่งที่ได้นอกเหนือจากถ่าน คือน้ำมัน ที่เกิดจากไม้ อันนี้เห็นพ่อบอกว่าเอาไว้ฉีดต้นไม้ใล่แมลงได้ ตามที่เข้าใจ เป็นเต้าลักษณะเยวกันคือใช้ หุง ด้วยอุณหภูมิ ไม่ใช่เผา จะกลับไปบอกพ่อว่าถ้าเอายางเก่าๆไปเผา เราจะได้เหล็กเส้นด้วยน้า แล้วก็ได้ถ่านยางป่นๆมาใช้ จากคุณ : zigma-x - [ 17 มี.ค. 51 21:27:09 ]

ความคิดเห็นที่ 130 โหวตให้ด้วยความยินดียิ่ง จากคุณ : chem chem - [ 17 มี.ค. 51 21:48:25 ]

ความคิดเห็นที่ 131 จากคุณ : PUMPKINbig - [ 17 มี.ค. 51 21:57:26 ]

ความคิดเห็นที่ 132 หลังจากที๋ได้เขียนบทความนี้ลง  มีเพื่อนๆ หลายๆ ท่านได้ให้ความสนใจเป็นจำนวนมากครับ  จำนวนไม่น้อย ส่งข้อความหลังไมค์มา และเมล์มา  มีทั้งที่ให้ข้อคิดและเสนอแนะสิ่งน่าสนใจหลายๆ อย่าง รวมถึงขอข้อมูลเพิ่มเติม  ซึ่งผมจะทยอยตอบให้เท่าที่จะตอบได้นะครับ ส่วนเพื่อนๆ ที่มีความประสงค์จะเดินทางมาเยี่ยมชมสถานที่  จริงๆ แล้วยินดีครับ  แต่ตอนนี้อยากให้เตามีมาตรฐาน และมีระบบที่ดีกว่านี้ก่อน  อีกใจนึงก็กลัวว่า  ในบรรดาเพื่อนๆ ที่อยากมาดู  จะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจหรือไม่   จึงอยากปรับปรุงให้เรียบร้อยก่อนดีกว่าครับ และมีบางท่านซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับยาง ได้เข้ามาเตือนว่า  การให้ข้อมูลแบบนี้ อาจทำให้พวกเราซึ่งเป็นผู้ที่ต้องการยางรถยนต์เก่า อาจหาวัตถุดิบได้ยากขึ้น  แต่ผมอยากยืนยันคำเดิมคือ ต้องการที่จะเล่าประสบการณ์ และกระบวนการในการทำน้ำมันเตาแบบนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ใหม่มากๆ สำหรับเมืองไทย   ควรจะมีการส่งเสริมให้มีการทำเป็นกระบวนการที่มาตรฐาน ก็จะช่วยในเรื่องของการลดขยะจากยาง รวมถึงประหยัดการนำเข้าเชื้อเพลิงได้พอสมควรเลยทีเดียว ***** เศษยางไปสู่ถ่านอัดแท่ง ***** มีคนมาเสนอให้ทำการอัดเศษถ่านที่หุงแล้ว เป็นแท่งแบบถ่านบาร์บีคิว เป็นความคิดที่เคยคิดไว้ครับ ซึ่งหากทำใช้เองคงไม่มีปัญหา ช่วยลดฝุ่นละอองจากถ่านป่นได้  แต่หากมีการใช้ผิดวัตถุประสงค์ นำไปย่างหมูกะทะล่ะก็ อันนี้คงไม่ดีแน่ๆ    แต่จากคำแนะนำทำให้มองถึงเรื่อง หากเรานำผงถ่านมาอัดแท่ง ส่งให้โรงงานที่ใช้ถ่านเป็นเชื้อเพลิงก็น่าจะขายได้เหมือนกัน ไม่ทราบเพื่อนๆ คิดว่าอย่างไรครับ.. จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 17 มี.ค. 51 22:09:30 ]

ความคิดเห็นที่ 133 สุดยอดครับ ทำให้ถูกกฏหมายทั้งหมดก่อน ลงทุนเพิ่มนะครับ เสียดายโอกาสครับ เป็นกำลังใจครับ จากคุณ : LED - [ 17 มี.ค. 51 22:29:33 ]

ความคิดเห็นที่ 134 โหวตให้ครับ จากสมาชิกห้องราชดำเนินครับ จากคุณ : schwinnsree - [ 17 มี.ค. 51 22:50:35 ]

ความคิดเห็นที่ 135 สุกยอก โหวตให้อีกหนึ่งจึ๊ก จากคุณ : แมวเกาะ - [ 17 มี.ค. 51 23:56:00 ]

ความคิดเห็นที่ 136 ถ้าทำถูกกฏหมายหมด สงสัยต้นทุน พุ่งกระฉูดแน่ๆครับ เหมือนกิจการรถบรรทุกที่เคยฟังๆมา ตอนแรกๆทำ มีรถสิบล้อ5คันกำไรตรึม พอหลังๆ มีรถ30คันกำไรแทบหาไม่เจอแถมขาดทุนอีก แนะนำ ทำแบบlow profile  high profit พอมีเงินมากๆ ทำใหญ่มากๆทีเดียวเลยดีกว่าครับ จากคุณ : ฮา1 - [ 18 มี.ค. 51 00:02:35 ]

ความคิดเห็นที่ 137 มาเป็นกำลังใจให้ครับ สุดยอดจริงๆ นับถือในความกล้าครับ ^^ จากคุณ : Sim Lim - [ 18 มี.ค. 51 00:10:53 ]

ความคิดเห็นที่ 138 เยี่ยมจริงๆ ครับ นี่ไม่ใช่แค่มีทุนอย่างเดียว แต่ใจต้องถึงและมีปัญญาด้วย อย่างไรก็ตาม ก็น่าเป็นห่วงเรื่องต้นทุนที่ต้องเพิ่มขึ้นในอนาคต ถ้าทำให้ทุกอย่างถูกต้องตามระเบียบกฏหมายโรงงาน ความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม รวมถึงราคาวัตถุดิบด้วย ภัยจากพวกขี้อิจฉาก็เยอะด้วย นอกเรื่องนิดนึง สมัยนี้ ผมมองไม่ค่อยเห็นประโยชน์ของโรงงานเผาขยะหรือโรงไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจากขยะเท่าไหร่ ในเมื่อขยะเกือบทั้งหมด ที่ไม่เป็นวัตถุมีพิษอันตรายสามารถนำมาแปรรูปได้อย่างคุ้มค่า ให้ผลตอบแทนที่ดี ป.ล. อ่านตอนแรก นึกว่ามาแบบเดียวกับกระทู้ heat pump ตุ๋นเป็ดซะอีก ว่าแต่ว่า อย่าลืมไปจดสิทธิบัตรนะครับ จากคุณ : นายเดชา - [ 18 มี.ค. 51 01:07:19 ]

ความคิดเห็นที่ 139 ขอบคุณครับที่ นำความรู้ใหม่ๆ มาเผยแพร่ เป็นธุรกิจที่น่าสนใจมากๆ จากคุณ : Renzolution - [ 18 มี.ค. 51 01:10:09 ]

ความคิดเห็นที่ 140 โรงงานรับ ก็ดีเลยสิ จากคุณ : แมวไม่กินปลา - [ 18 มี.ค. 51 01:41:25 ]

ความคิดเห็นที่ 141 อย่าให้ผุดขึ้นมาเหมือนตอเห็ดเลย ไม่งั้นมีแกีงขโมยยางจริงๆ แน่ ชื่นชม จขกท. ครับ เจ๋งจริงกล้าเสี่ยงกล้าลงทุน จากคุณ : อาจจะแก่ - [ 18 มี.ค. 51 03:00:31 ]

ความคิดเห็นที่ 142 เคยคุยกับลูกพี่ลูกน้องที่สนิท  เมื่อ 3ปีก่อน เป็นด๊อกเตอร์ด้านเคมีโพลิเมอร์ เป็นอาจารย์ที่จุฬา เดาว่า  น่าจะเป็นหัวหน้าคณะศึกษาเรื่องนี้ที่จุฬา ศึกษาเรื่องสกัดน้ำมันจากยางรถยนต์ ดร.รัตนวรรณ (นามสกุลใหม่จำไม่ได้) ตอนฟังยังอยากทำธุรกิจนี้เหมือนกัน  เพราะช่วยลดของเสีย แต่ไม่แน่ใจว่า  ตนเองจะขลุกกับเศษซากของเก่า ฝุ่นเยอะๆ พอเห็นภาพของ จขกท.  รู้เลยว่า  ตนยังลุยไม่พอแน่นอน จากคุณ : มิมิแพนด้า - [ 18 มี.ค. 51 03:13:29 ]

ความคิดเห็นที่ 143 อยากถามนิดนึงครับ ใช้วิธีไหนในการกำจัด ฝุ่นผงพิษ ตกข้างครับ แล้วในกระบวนการเผา ใช้วิธีไหนในการกำจัดก๊าซพิษครับ แล้วถ้าปล่อยคนงานทำงานโดยใช้แค่ผ้าขาวม้ามาปิดหน้า คนงานอายุสั้นแน่ครับ น่าจะปรับปรุงหน่อยน่ะครับ ----------------------------- เริ่มต้นได้สุดยอดแล้วครับ ตอนนี้ถึงเวลาพัฒนาไปอีกขั้นสู่ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและคนงาน ด้วยความเคารพครับ จากคุณ : kanoomtan - [ 18 มี.ค. 51 04:57:54 ]

ความคิดเห็นที่ 145 ยอดไปเลยครับ จากคุณ : {M}-มดนะจ๊ะ - [ 18 มี.ค. 51 08:40:55 ]

ความคิดเห็นที่ 146 ^ ^ ความเห็นที่ 144 หว้ากอยังมีเกรียนหลงอยู่อีกหรือนี่ มือไม่พายอย่าเอาเท้าราน้ำสิครับ ข้อความบ่งบอกระดับสติปัญญาชัดเจนเลย เกรียนชัดๆ -*- เกรียนบัตรผ่านอีกต่างหาก ทั้งยกตนข่มท่าน คุยโวโอ้อวด มีดีก็เอามาโพสท์ อย่ามัวแต่ปากดี คุณเจ้าของกระทู้เขาตั้งกระทู้ด้วยเจตนาดี ลงข้อมูลที่เป็นคุณประโยชน์แก่ส่วนรวม ยังจะมาชักใบให้เรือเสียอีก เดี๋ยวปั๊ดตบเกรียนแตก -*- ปล. พิมพ์ให้มันถูกๆ ก่อนจะมาโชว์โง่ว่าคนอื่นนะครับ จากคุณ : plankton - [ 18 มี.ค. 51 10:01:59 ]

ความคิดเห็นที่ 147 ความคิดเห็นที่ 144 ผมว่าคุณเองซะอีกนะที่ประจานตัวเอง จากคุณ : golden fish - [ 18 มี.ค. 51 10:03:42 ]

ความคิดเห็นที่ 148 สุดยอดมาก จขกท.ขอชื่นชมครับ จากคุณ : zakai - [ 18 มี.ค. 51 10:37:21 ]

ความคิดเห็นที่ 149 คหที่ 144  คุณก้านกฤษณา เขานำเสนอเป็นวิทยาทานให้คนคนอื่นเขารู้ แล้วที่ว่า พ่อคูณทำมา 4-5 ปีคงมีมาตราฐานกว่านี้ก็นำเสนอหน่อย ให้คนไม่ค่อยรุ้อย่างผมได้เปิดหูเปิดตา ด้วยครับ แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 51 11:47:54 จากคุณ : yodio - [ 18 มี.ค. 51 11:47:00 ]

ความคิดเห็นที่ 150 ยอดเยี่ยมครับ นำสิ่งเหลือใช้มาทำให้เกิดประโยชน์ และรายได้ จากคุณ : ท๊อกแท็ก - [ 18 มี.ค. 51 12:13:07 ]

ความคิดเห็นที่ 151 ไม่ต้องกดลบ คห 144 หรอกค่ะ งัดกันด้วยหลักฐานแล้วฟ้องด้วยรูปจะดีกว่านะคะ ^^ ป.ล. เพิ่งจะรู้ว่ายางเอามาแปรรูปเป็นน้ำมันได้ด้วยแฮะ สุดยอด จากคุณ : ผุ๋งผิ๋ง - [ 18 มี.ค. 51 12:17:18 ]

ความคิดเห็นที่ 152 ผมว่า คูร 144 ถ้าทำได้ดีกว่า ก็แนะนำเขาสิครับ หรือกลัวคู่แข่ง? ผมคงไม่มีโอกาสได้ทำธุรกิจ นี้ หรือได้ทำงานเกี่ยวกับโรงงานลักษณะนี้ก็ไม่รู้ เพราะยังเรียนไม่จบด๊อกสักที บ้านก็ไม่มีเงินนัก แต่ขอเสนอ ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมนะครับ เท่าที่ดู จะเห็นว่า มลพิษด้านอากาศที่ออกมาจะมีที่มา หลักๆ สองที่นะครับ 1. ก็ ถ่านที่ใช้เผา 2. ก็ก๊าซที่เหลือ ที่ไม่ได้ควบแน่น คุณบอกว่า ก๊าซที่เหลือออกมาติดไฟดี ดังนั้น ผมคิดว่า ถ้า มันควบแน่นได้ อาจทำให้ น้ำมัน ที่คุณกลั่นได้ คุณภาพสูงขึ้นนะครับ การปรับปรุงวิธีการควบแน่นแบบคห 125 คุณจั๊กกะจี๋ อาจทำให้ กลั่นได้ดีขึ้น ด้านมลพิษ การเผายาง แน่นอน มีก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ SO2 มหาศาลเลยครับ ขอแนะนำจุดนี้ด้วยละกันครับ เพราะถ้ามีคนเดือดร้อนเพราะก๊าซนี้ คุณโดนปิดแน่ เสียดายครับ การรีไซเคิลดีๆ แบบนี้ อันตรายของมันก็คือ ก๊าซนี้ + ไอน้ำในอากาศ กลายเป็น “กรดซัลฟูริก (H2SO4)” ทำให้เกิดฝนกรด ทำลาย สิ่งมีชีวิต ที่โดนแน่นอน ต้นไม้ตาย การเกษตรเสียหาย สำหรับคน ก็กัดกร่อน ทำลายได้ทุกเส้นทางในร่างกายของเรา ทั้งอาการระคายเคืองผิวหนัง  แสบตา  แสบจมูก  ปอด บางคนเป็นมากถึงขนาดนัยน์ตาอักเสบ  หลอดลมอักเสบเรื้อรัง   บางครั้งทำลายเนื้อเยื่อปอด จนลามกลายเป็นมะเร็งได้ โดยทั่วไป การเผา ควรทำเป็นระบบ ที่ควบคุมทางผ่านของอากาศได้ครับ เช่น อากาศเข้าทางปั๊มหอยโข่งของคุณ แล้วก็ไหลไปทาง ออก อาจไปผ่าน เครือ่งอะไรสักอย่างที่ผลิต ไฟฟ้าจากความร้อนได้ (นำความร้อนไปใช้ประโยชน์ก่อน) จะได้เอาไฟฟ้าที่ได้มาใช้ในโรงงานต่อ จากนั้น ก็ผ่านมวลอากาศนี้ต่อไปยัง  สารละลาย CaCO3 SO2 จะ ทำปฏิกิริยากับ CaCO3 กลายเป็น CaSO4 ซึ่งก็คือ แร่ยิปซัม นั่นเอง เราไม่ได้ใช้ แต่ขายต่อได้ รายละเอียดต้องไปลองหาดูครับ อีกเรื่อง คือ น้ำมัน ครับ  ระวังการรั่วไหล ลงสู่ดิน นี่ก็อันตรายครับ เพราะมันย่อยสลายช้า อาจลงไปแหล่งน้ำได้ ต่างประเทศมีกรณีเยอะครับ เป็นกรณีที่ซึมไปแหล่งน้ำใต้ดิน คนที่ใช้น้ำบาดาล น้ำใต้ดิน ก็จะเจอคราบน้ำมัน แน่นอนว่า สารก่อมะเร็งทั้งนั้น ฟ้องกันกระจายครับ (คงไม่มีใครเฉยๆ ถ้าน้ำที่ตัวเองใช้ปนเปื้อนด้วยคราบน้ำมัน) เสียน้ำมัน เสียเงิน เสียค่าชดใช้อีก ถ่านอัดแท่ง ไอเดียแจ๋วเลยครับ  แต่ คงต้องลองก่อนว่า ถ่านนี้เผาแล้ว มีก๊าซพิษออกมาหรือเปล่า เป็นกำลังใจครับ ฝากด้านสิ่งแวดล้อมด้วยครับ แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 51 13:00:22 จากคุณ : GreenEyes - [ 18 มี.ค. 51 12:55:44 ]

ความคิดเห็นที่ 153 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 18 มี.ค. 51 12:57:01 ]

ความคิดเห็นที่ 154 ผมแนะนำให้ลบรูปและอย่าใบ้ที่อยู่ของคุณครับ เพราะกิจการของคุณปล่อยมลพิษทุกด้านเลย คุณทำเงินได้และลดขยะไปด้วย้นั่นดีแล้ว แต่มลพิษที่มีต่อชุมชนรอบข้างนั่นไม่ดีนะครับ อยู่เงียบๆก่อนครับ อย่าพึ่งโปรโมทมาก เก็บตังค์ไปเรื่อยๆ แล้วเอาไปทำประเด็นสิ่งแวดล้อมให้ถูกก่อนครับ หน่วยงานรัฐคงหาคุณไม่เจอครับ แต่อาจถูกชาวบ้านใกล้เคียงร้องเรียนได้นะครับถ้าคุณปล่อยควันออกจนเดือดร้อนเค้า และคุณเองก็คงไม่อยากให้ลูกคุณดมควันที่คุณทำใช่ไหม การทำกิจการคุณให้ผ่านมาตรฐานสิ่งแวดล้อมและข้อบังคับต่างๆนี่มันเจ็บปวดสำหรับผู้ประกอบการนะครับ เพราะเงินลงทุนในการบำบัดมลพิษต่างๆมันแพง คุณคงไม่อยากลงทุน แต่คุณก็คงไม่อยากให้ประเทศเรามีแต่ปล่องควันดำคอยทำลายสุขภาพลูกหลานคุณด้วย คุณก็ทำงานคุณเงียบๆ เก็บเงินไปก่อน และก็หาความรู้ด้านมลพิษต่างๆที่คุณต้องจัดการไปด้วยเลย ด้านมลพิษทางอากาศ ดิน น้ำ พอมีเงินลงทุนเพิ่ม ก็ลองไปปรึกษาอาจารย์มหาลัยใหญ่ๆใกล้ๆที่คุณอยู่ก็ได้ครับ ที่มีคณะพวกวิดวะวิดยาสิ่งแวดล้อม แล้วหาเบอร์อาจารย์ซักคนจากเวบ แล้วโทรไปขอคำปรึกษาดู, มหาลัยก็ได้ case จริงๆไว้ทำงาน คุณก็ได้โรงงานที่ไม่ทำร้ายใคร แถมยังเป็นที่ให้คนอื่นมาดูงานได้ด้วยนะครับ ส่วนเรื่องกฏข้อบังคับหรือเงินสนับสนุนต่างๆ ลองดูจากเวบหรือโทรไปสำนักแผนและนโยบายสิ่งแวดล้อม, กรมโรงงานอุตสาหกรรมดูนะครับ ว่ากิจการแบบคุณนี่เข้าข่ายต้องทำอะไรบ้าง ^^ จากคุณ : FreW - [ 18 มี.ค. 51 13:01:41 A:58.8.121.214 X: TicketID:114681 ]

ความคิดเห็นที่ 155 เรื่องการกรอง ไอเสีย ครับ ที่ผมเคยอยู่โรงงาน หลอมทองแดง ครับ ( นานมาละ ) เขาจะทำให้ บริมาณควันที่ออกจากท่อนั้น ผ่านกระบวนการฉีดน้ำเพื่อสกัดผงฝุ่นที่กระจายควันไฟ โดยจะอัดน้ำขึ้นไปประมาณ 30 - 35 เมตร และ ใช้หัวฉีด ฉีดละอองน้ำในกลุ่มควัน เป็นชั้น ๆ และปล่อยละอองน้ำที่ไปจับตัวฝุ่นในควันไฟ ให้ตกลงด้านล่าง และ และมีใยสังเคราะห์กรอง ฝุ่นและนำน้ำไปใช้ใหม่ โดยความสูงนั้น 10 - 120 เมตร อาจติดตั้ง ได้เพียง 1 หัว ก็เพียงพอแล้วครับ ( การลงทุนค่อนข้างสูง ถ้าจำไม่ผิด โรงงานเก่าเสียไป 3 - 4 ล้าน ) สำหรับปล่อง 35 เมตร ครับ ( 3 หัวฉีด มั้งจำไม่ได้อะ ) ให้ทาง จขกท ไปศึกษาพวกโรงงานหลอมต่าง ๆ จะได้ประโยชน์ อย่างมากครับ โดยเฉพาะในนิคมอุตสาหกรรม เพราะเขาจะได้ระบบ ISO14000 ค่อนข้างจะพัฒนาไปไกลแล้วครับ ในการกำจัดมลพิษทางฝุ่น และทำให้ไม่มีปัญหาการร้องเรียน เรื่องมลพิษด้วยครับ ส่วนเรื่องการเผาไหม้สมบูรณ์ อย่างไรก็คงต้องมีไอเสีย ครับ ( ถึงแม้จะน้อยก็ตาม ) จากคุณ : S (Master' S) - [ 18 มี.ค. 51 13:04:25 ]

ความคิดเห็นที่ 156 ตอนสมัย ม.5 (ตอนนี้ขึ้นปี 4) มีโอกาสไปงานที่อิมแพ็คอารีน่า แล้วเจอบูธเล็กๆ บูธหนึ่ง ไม่ค่อยมีคนเดินไปดูมากนัก มีแต่เราและเพื่อน 2 คน อาประจำบูธแนะนำให้รู้จักการผลิตน้ำมันจากยางรถยนตร์ เรากับเพื่อนก็แปลกใจมาก คุณอาคนนั้นบอกว่า อีกหน่อยน้ำมันจะหมดโลก ราคาจะสูงขึ้น เลยได้มีการคิดค้น น้ำมันจากยางรถยนตร์ขึ้นมาทดแทน แต่ตอนนี้อยู่ระหว่างการวิจัย และเริ่มต้น เราก็เลยถามว่ามีหน่อยงานใดสนับสนุนบ้างคะ คุณอาก็ตอบว่าอยู่ในระหว่างการวิจัย และพัฒนา แล้วเรากับเพื่อนก็จดข้อมูล และเดินออกจากบูธนั้น แต่พอเราไปบอกพ่อ-แม่ ว่าเดี๋ยวจะมี น้ำมันจากยางรถยนตร์ด้วยล่ะ ก็ไม่เห็นมีคนเชื่อเลย แต่ตอนนี้คงมีคนเชื่อแล้ว-----เย่-*- จากคุณ : ธารวรี - [ 18 มี.ค. 51 16:36:05 ]

ความคิดเห็นที่ 157 ถ้าเอายางดิบ (ยางแผ่น) จากต้นยางมาเข้ากระบวนการจะเป็นอย่างไรบ้างครับ จากคุณ : =Por= - [ 18 มี.ค. 51 16:56:31 ]

ความคิดเห็นที่ 158 จดทะเบียนหรือยังครับ ถ้ายัง คงไม่ได้จดง่ายๆ คงต้องปรับปรุงอะไรหลายๆอย่าง แค่มีวัตถุไวไฟไว้ในครอบครองสี่ห้าพันลิตรยังลำบาก นี่เก็บไว้ทีเป็นหมื่น แถมยังใช้กระบวนการในการผลิตขั้นสูงแบบ ยังไงดีล่ะ แบบออกจะลูกทุ่งหน่อย ยังไงก็ขอให้ยึดหลัก "ปลอดภัยไว้ก่อนนะครับ" จากคุณ : SkillFull - [ 18 มี.ค. 51 18:30:51 ]

ความคิดเห็นที่ 159 กฏหมายระบุให้ อุตสาหกรรมกลั่นนำมันปิโตรเลียมทุกขนาด ต้องทำ EIA ไม่แน่ใจว่าในกรณีของคุณจะเข้าข่ายด้วยหรือปล่าว ดังนั้นเลือกระหว่างโรงงานรีไซเคิลยางเก่า หรือ หรือโรงงานกลั่น แนะว่าควรเลือก โรงงานรีไซเคิลยางเก่า น่าจะดีกว่า โครงการหรือกิจกรรมที่ต้องการจัดทำ EIA http://www.onep.go.th/eia/T_data/T_size.html ส่วนมาตรฐานอากาศเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม http://www.pcd.go.th/info_serv/reg_std_airsnd03.html เพิ่มเติม กฏหมายเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิงครับ http://www.doeb.go.th/law/law.html แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 51 18:56:47 จากคุณ : KYC - [ 18 มี.ค. 51 18:40:53 ]

ความคิดเห็นที่ 160 อ่า ถ้าปรับปรุงกระบวนการกลั่น แยกชั้นอุณหภูมิเหมือนโรงกลั่นจริง  น่าจะได้ดีเซล หรือเบนซินออกมานะครับ แต่อาจจะไม่มากนัก หากปรับกระบวนการดีๆ อาจปรึกษานักเคมี ทดลองหาคะตะลิสต์ หากว่าสามารถแตกโมเลกุลให้เล็กๆ ได้ น้ำมันที่ได้เกรดก็จะสูงมากขึ้นด้วย เช่น อาจจะได้เบนซินสัก 20-50% ทีนี้ละรวยๆๆ  อิอิ หว้ากอก็มีนักเคมีนะครับบบบ แต่แอบหลบอยู่อ่ะ จานกี้ๆๆๆ  ออกมาเหอะ อย่าแอบๆ รู้นะว่าอ่านอยู่ จากคุณ : NaCl - [ 18 มี.ค. 51 18:50:06 ]

ความคิดเห็นที่ 161 อ่านแล้วก็ปิ๊งเลยครับ  กระบวนการหุงยาง   - แก๊สเหลือ เอาไปเป็นไฟ แถมได้ถ่านอีกต่างหาก - ควันที่ออกมา จากการหุงยาง  น่าจะเอาไปทำไรได้บ้างนะครับ  อย่าง หมุนใบพัด ชักน้ำมาหล่อเย็น ให้เกิดการควบแน่น ตรงที่ หล่อน้ำ อ่ะครับ รูปที่ 22 ,23 เห็นในรูป ของเจ้าของกระทู้ มีบ่อน้ำอยู่ใกล้ๆ  ชักน้ำมาหล่อเย็น  จะดีกว่า น้ำขัง หรือเปล่าครับ - เหมือนการทดลองวิทยาศาสตร์ตอนสมัยมัธยมเลยนะครับ เพียงแต่ วิทยาการ และ สเกลงานใหญ่กว่ามากๆ   นับถือๆ  ขอให้เจ้าของกระทู้ เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานนะครับ แจ่มสุดๆ จากคุณ : NuyPond - [ 18 มี.ค. 51 20:28:59 ]

ความคิดเห็นที่ 162 สุดยอดๆๆ เลยครับ ไอเดีย ดีกว่า ไบโอดีเซล เยอะมากมายครับ เหอๆๆ จากคุณ : vn, man - [ 18 มี.ค. 51 21:26:00 ]

ความคิดเห็นที่ 163 เข้ามาดู จากคุณ : THE_AR - [ 18 มี.ค. 51 21:57:48 ]

ความคิดเห็นที่ 164 สงวนลิขสิทธิ์มั้ยครับ หุหุ จากคุณ : แพ้เป็นพระ ชนะเป็นแชมป์ - [ 19 มี.ค. 51 00:39:03 ]

ความคิดเห็นที่ 165 http://www.radio.in.th/images/news/Clash_resize.jpg เล่นๆนะๆๆ จากคุณ : NONE - [ 19 มี.ค. 51 08:44:23 A:117.47.65.105 X: ]

ความคิดเห็นที่ 166 [URL=http://imageshack.us][IMG]http://img233.imageshack.us/img233/8664/theclash03ut8.gif[/IMG][/URL] จากคุณ : NONE - [ 19 มี.ค. 51 08:46:46 A:117.47.65.105 X: ]

ความคิดเห็นที่ 167 cdd จากคุณ : d - [ 19 มี.ค. 51 08:50:34 A:117.47.65.105 X: ]

ความคิดเห็นที่ 168 กำลังเทสอยู๋อ่ะนะๆๆ <a href="http://imageshack.us"><img src="http://img229.imageshack.us/img229/3750/theclash03mr7.gif" border="0" alt="Image Hosted by ImageShack.us"/></a><br/> จากคุณ : d - [ 19 มี.ค. 51 08:55:48 A:117.47.65.105 X: ]

ความคิดเห็นที่ 169 ผมส่งลิงค์รูปมาให้ดูแล้วน่ะ จาก ความเห็นที่ 144 ที่คุณลบทิ้งไป นำลิงค์ที่ให้ไปวางใน Address คงรู้จักนะครับ http://img229.imageshack.us/img229/4691/30233752cz9.jpg http://img216.imageshack.us/img216/312/93245338tu6.jpg http://img229.imageshack.us/img229/9247/3cjt2.jpg http://img216.imageshack.us/img216/2011/42486085pl9.jpg http://img233.imageshack.us/img233/3599/89083439kz9.jpg http://img216.imageshack.us/img216/9365/88127834ds1.jpg http://img233.imageshack.us/img233/8345/57786866te0.jpg อันนี้ของแท้ ที่เราเตือนคุณเพราะ เราโรงงาน ที่มาตราฐาน สงสารคนที่ไม่มาตราฐานแต่เอามาโชว์ ให้คนด่า ว่าเป็นมลพิษ จากคุณ : คนรู้จริง - [ 19 มี.ค. 51 09:05:33 A:117.47.65.105 X: ]

ความคิดเห็นที่ 170 โชว์เสร็จแล้ว ก้อไปได้แล้วนะครับ คห. 169 จากคุณ : ARMS STRONG - [ 19 มี.ค. 51 09:56:42 ]

ความคิดเห็นที่ 171 คห 169 ทำไมรูปเล็กจัง ดูแล้วไม่รู้อะไรเป็นอะไร จากคุณ : yodio - [ 19 มี.ค. 51 11:02:08 ]

ความคิดเห็นที่ 172 กำลังสงสัย  ว่าเกิดอะไรขึ้น กับ คห.ที่ 144  ที่หายไป เพราะผมกลับมาไม่ทัน แต่พอได้เห็นภาพที่ คห.ที่ 169 ส่งมาก็พอที่จะอนุมานได้ว่ามีอะไร *** การแปรรูปยางรถยนต์เก่า เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงโดยกระบวนการ Pyrolysis แบบชาวบ้านๆ***   น่าจะเป็นบทความที่มีคำตอบอยู่ในตัวของมันเองอยู่แล้ว นั่นคือ เป็นการทำกิจการที่ชาวบ้าน หรือคนที่มีความรู้ และทุนที่น้อยนิดอย่างผม พอจะเอื้อมมือไปถึงได้  คงจะไม่สามารถไปเทียบกับระบบอุตสาหกรรมขนาดนี้ได้    เหมือนกับชาวบ้านต้มเหล้า จะเอามาเทียบกับโรงงานสุราได้อย่างไร จริงมั้ยครับ โรงงานแบบที่ คห.169 นำมาแสดง ในประเทศไทยยังมีไม่กี่โรง และแต่ละโรงมีการลงทุนที่สูงมาก การลงทุนไม่ต่ำกว่า 20-50 ล้านบาท  โดยอุปกรณ์บางส่วนต้องนำเข้าจากต่างประเทศ แบบนี้อาเตี่ยดีดลูกคิดแล้ว ขอถอยดีกว่า...    ผมรู้สึกดีใจที่มีคนประกอบกิจการด้านนี้อย่างมีมาตรฐานแบบ คห.ที่ 169 และผมก็ไม่รู้สึกไม่จำเป็นที่จะต้องได้รับ"ความสงสาร"   จากใครเลยครับ   กลับรู้สึกภูมิใจมากกว่า เพราะสิ่งที่ได้รับกลับมา เป็นคำแนะนำที่มีค่ายิ่ง เป็นกำลังใจที่มีค่ามากมายจากเพื่อนๆ ในหว้ากอ    อีกทั้งการนำข้อความรูปภาพพวกนี้ เป็นการเอามาลงด้วยความสมัครใจ และต้องการให้เป็นวิทยาทานให้กับผู้ที่สนใจ หรืออยากจะศึกษาเรื่องใหม่ๆ แบบนี้    และอยากจะขอร้องให้ผู้ที่มีประสบการณ์ หรือแม้แต่ประกอบกิจการด้านนี้ มาร่วมออกความเห็น หรือแชร์ประสบการณ์  น่าจะทำให้เกิดประโยชน์มากกว่ามาเถียงกันว่า โรงงานไหนดีกว่ากัน  ผมว่ามันไร้สาระน่ะครับ เดี๋ยวคราวต่อไป ผมจะมาพูดถึงน้ำมันที่ได้จากการหลั่นจากเตาลูกทุ่งนี้ครับ ว่าเราเอาไปทำอะไรบ้าง ------------ ปล. น้องๆ นักศึกษาปี 4 คณะเคมีหลายๆ คนที่ขอข้อมูลมาทางหลังไมค์ เพื่อเอาไปทำโปรเจ็ค  ตอนนี้ผมกำลังเริ่มทยอยๆ ส่งให้นะครับ  เดี๋ยวอาทิตย์หน้าจะหาโอกาสไปที่คณะปิโตรจุฬา หากใครสนใจไป อาจจะนัดไปเจอกันที่โน่นก็ได้ครับผม " .......เทียนที่นำไปจุดเทียนเล่มอื่น จะไม่สูญเสียความสว่างของตัวเอง แต่จะทำให้ห้องสว่างไสวยิ่งขึ้น...."   และยิ่งถ้าเป็นน้ำมันด้วยแล้ว...... ไม่ได้สว่างอย่างเดียว  "รวย" ด้วยครับ    55555 ก้านกฤษณา.. แก้ไขเมื่อ 19 มี.ค. 51 11:37:36 จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 19 มี.ค. 51 11:36:23 ]

ความคิดเห็นที่ 173 ชื่นชมจริงๆครับ จากคุณ : new426 - [ 19 มี.ค. 51 14:09:11 ]

ความคิดเห็นที่ 174 ถึงตรงนี้แล้วยังไงผมก็เข้าใจคุณเจ้าของกระทู้ แต่............ ผมอยากจะบอกจากใจจริงๆ เลยน่ะครับ อุตสาหกรรมที่คุณเจ้าของกระทู้กำลังทำอยู่ อันตรายเกินไปสำหรับคำว่า บ้านๆ แล้วครับ สารพิษที่ปล่อยออกมา แค่ ตระกูล S ก็หนักแล้วสำหรับคนแถวนั้น ีนี่ยังไม่คิดพวกโลหะหนักที่ต้องได้จากการเผายาง การเจือปนของน้ำมันในชั้นดิน การควบคุมมลมิษ เหล่านี้ค่อนข้างสำคัญน่ะครับ ชีวิตคนงานของคุณเองก็คงมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่า การรีไซเคิลแจ๋วๆ แบบนี้เป็นแน่แท้ อย่างไรซะ ผมก็อยากให้คำนึงถึงตรงนี้บ้าง คุณเองทำอุตสาหกรรมตรงนี้ ผมคงไม่ต้องบอกว่า อะไรที่อันตรายหรือไม่อันตราย คุณรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้ว แค่การปล่อยให้คนงาน ไปเผายางโดยใช้แค่ผ้าขาวม้าปิดหน้า นี่อายุพวกเค้าก็สั้นไปเยอะแล้ว คือผมเกรงคนจะเอาอย่างเจ้าของกระทู้กันเยอะ แล้วสภาำพแวดล้อมแทนที่จะได้รีไซเคิล กับจะยิ่งดิ่งลงเหว หวังว่าคงเข้าใจครับ ---------------------------------------------------------------- ด้วยความเคารพครับ จากคุณ : kanoomtan - [ 19 มี.ค. 51 14:48:21 ]

ความคิดเห็นที่ 175 การพัฒนาจากศูนย์เนี่ยละครับ ที่จะทำให้รู้จริง รู้ถูกต้อง และพัฒนาได้อย่างยั่งยืน ส่วนการซื้อเขามา แล้วทำตาม โดยไม่มีการศึกษาวิจัยเอง ทำไปเท่าไรๆ ก็เป็นทาสฝรั่ง ครับ มันไม่บอกเราก็ตาย เราอยากรู้ ก็ต้องซื้อ  เช่น ซื้อคะตะไลเซอร์ ที่เป็นความลับของเขา ซื้ออะไห่ลเครื่องจักร ที่มันจดสิทธิบัตรไว้ ถึงแม้ตามฝรั่ง มันจะดูหรู ดูดี ก็ตาม แต่ การเริ่มสร้างด้วยตัวเอง น่าภูมิใจ และ เกิดภูมิปัญญาของไทยเองทั้งหมด ไม่ต้องพึ่งใคร จากคุณ : NaCl - [ 19 มี.ค. 51 14:50:23 ]

ความคิดเห็นที่ 176 ขอให้เจ้าของกระทู้ รีบค้นคว้าวิจัยเพิ่มเติม เพื่อความสมบูรณ์ของระบบ และมาตรฐาน รวมทั้งการจัดการมลพิษ ประสิทธิภาพการแปรรูป ให้ได้เปอร์เซนต์น้ำมันที่มีราคาสูง จะรอชมผลงานต่อไป ครับบ จากคุณ : NaCl - [ 19 มี.ค. 51 14:52:50 ]

ความคิดเห็นที่ 177 ชื่นชมจ้า เป็นกำลังใจให้พัฒนาสินค้ามีคุณภาพนะครับ ทั้งนี้ ให้ระวังเรื่อง EIA เวลาจดทะเบียนเป็นโรงงานนะครับ เพราะดูๆแล้วไม่น่าจะมีใครให้ผ่าน EIA ง่ายๆ ถ้ามีงานวิจัยเรื่องการลดมลพิษราคาถูก หรือทำระบบเองได้คงดีไม่น้อยครับ อ่านๆดูระบบละอองน้ำกรองกากน่าจะช่วยได้นะครับ ยิ่งควันลอยต่ำถ้าทำระบบแนวนอนไม่รู้จะเวิร์คมั้ยครับ จากคุณ : คนโง่ว์ - [ 19 มี.ค. 51 15:24:06 ]

ความคิดเห็นที่ 178 เคยทำเป็นโปรเจคตอนป ตรี แต่ห่วยกว่า จขกท ซักล้านเท่าได้ แคตตาลิสต์ก็ใช้แล้วแต่ก็ไม่ได้เรื่องเหมือนเดิม อายเลยเรา งานห่วยสุดๆๆ จากคุณ : Rap_Girl - [ 19 มี.ค. 51 19:59:49 ]

ความคิดเห็นที่ 179 โอ้อลังการงานสร้าง จากคุณ : ธีรภัทร์2 - [ 19 มี.ค. 51 22:46:15 ]

ความคิดเห็นที่ 180 จากคุณ : ลูกอมรสหญ้าอ่อน - [ 19 มี.ค. 51 22:54:54 ]

ความคิดเห็นที่ 181 ทางภาคอื่นๆที่จุฬาก็มีการวิจัยได้สักพักแล้วเหมือนกันน่ะครับ  ภาคที่ผมเรียนก็มีการทำวิจัยมาได้สักพักแล้ว  เพื่อนผมหลายคนก็ทำโปรเจคทางด้านนี้ แต่ที่วิทยาลัยปิโตรฯ จะก้าวหน้าที่สุดในด้านนี้ ผมลองนึกๆดูว่าเคยได้ยินที่ไหนน๊า Pyrolysis นี่  นึกไปนึกมา อ่อเคยได้ฟังเพื่อนมันพรีเซนต์โปรเจคตอนปี 4 นี่เอง ปล. ที่ผมเดาไว้ใน 108# ถูกด้วย  ขอบคุณ 152# ครับที่ช่วยอธิบาย ^_^ จากคุณ : vrpanda - [ 20 มี.ค. 51 03:46:53 ]

ความคิดเห็นที่ 182 เยี่ยม จริงๆ ครับ ลดภาระ ของโลกใบนี้ได้อีกทางหนึ่ง ชื่นชมที่สุดครับ จากคุณ : eping - [ 20 มี.ค. 51 10:36:28 ]

ความคิดเห็นที่ 183 เข้ามาอึ้งครับ (OAO) จากคุณ : monboy01 - [ 20 มี.ค. 51 11:04:29 ]

ความคิดเห็นที่ 184 ขอชื่นชม ที่เอาความรู้ และสิ่งดีๆ มาแบ่งปันกันครับ ขอให้พัฒนาได้ดี ยิ่งๆ ขึ้นไปนะครับ โลกที่น่าอยู่... สังคมที่ดี...   ไม่มีขาย อยากได้...   ต้องช่วยกันสร้าง โดยเริ่มจาก...   ตัวเราเอง...   เดี๋ยวนี้ จากคุณ : Phoenixนิลมังกร - [ 20 มี.ค. 51 12:27:47 ]

ความคิดเห็นที่ 185 ดีมากครับ ผมเห็นของต่างประเทศ ยางเก่าก้เอาไปกองไว้เฉยๆ เยอะมากๆ ไม่ได้ทำไร วันดีคืนดีไฟไหม้สะอีก เฮอๆ จากคุณ : Sir.ขงเบ้ง - [ 20 มี.ค. 51 12:42:18 ]

ความคิดเห็นที่ 186 เยี่ยมไปเลยครับ จขกท แบ่งปันความรู้ให้กันแบบชาวบ้านๆ ปรบมือให้กำลังใจนะครับ จากคุณ : คุณพ่อน้องจุ้นแซ่จ้าน (mang+por) - [ 20 มี.ค. 51 13:40:08 ]