ลูกยิงฟรีคิกของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในนัดที่เจอกับโบลตันที่ผ่านมา
ลูกมันส่ายได้อย่างอัศจรรย์มาก
ดูวีดีโอคลิปได้ที่
http://www.super-goal.info/vdo_clip.php?id=315
มีคนวิเคราะห์ไว้แล้วที่
http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=81952&postdays=0&postorder=asc&start=30
--------------
คุณ Yavimaya เค้าว่า
ผมว่าเวลาโด้ยิง ผมว่าเค้าเอาหลังเท้าเตะเข้ากลางบอล แล้วลากเท้าตาม
ถ้าไม่ลากเท้าตาม บอลจะไม่หมุน จะพุ่งตามวิถี ที่ออกจากเท้า แรงกดลงด้านล่างจะมีเพียงแรงดึงดูดเท้านั้น
( ในกรณีที่เท้ากระทบกลางลูก )
ทีีนี้เวลาลากเท้าตามบอลเนี่ย บอลมันจะหมุนไปข้างหน้า
ถ้้าพิจารณาถึงกลศาสตร์์ของไหล ในที่นี้คือลำอากาศ แล้วลองมาเทียบกับลูกบอลดู
เวลาบอลหมุนไปข้างหน้า ให้พิจารณา 2 ระบบแยกออกจากกัน
- อากาศภายนอกด้านบนจะเคลื่อนที่สวนทางกับพื้นผิวลูกบอล เมื่อพิจารณาระบบแล้ว จะพบว่าอากาศด้านบนเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสัมพัทธ์สูงกว่าด้านล่าง
- ในขณะที่อากาศด้านล่างลูกที่เคลื่อนที่ตามพื้นผิวลูก ซึ่งจะมีความเร็วสัมพัทธ์ของระบบต่ำกว่าด้านล่าง
ดังนั้น อากาศด้านบนและล่างจะไหลเมื่อเทียบกับพื้นผิวด้วยความเร็วที่ไม่เท่ากัน
ความแตกต่างตรงนี้จะทำให้เกิดแรงกดอากาศที่ไม่เท่ากันจากด้านบนและด้านล่าง
แรงกดนี้ทำหน้าที่เป็นความเร่งให้กับวัตถุในแนวดิ่งร่วมกับแรงดึงดูด
ทำให้ลูกบอลจะถูกกดลงด้านล่างด้วยความเร่ง จนมุดต่ำลงจนสังเกตได้ในที่สุด
( ณ เวลา t0 ก็เกิดความเร่งด้านเดียวกับแรงดึงดูดเหมือนกัน แต่อาจจะยังสังเกตไม่เห็น จนเวลาผ่านไป )
--------------
ส่วนคุณ Nut the Duck แย้งว่า
การอธิบายฟิสิกส์ของการเตะลูกปั่นโค้งนั้นโดยมากจะคิดกันไปตามแนวคิดที่ว่า เป็นผลมาจากอากาศไหลวนนอกลูกบอล
แต่ผมมองว่า การเตะบอล โดยเฉพาะการเตะแรงๆ จะทำให้ลูกบอลบิดเบี้ยว และมันจะยังไม่ได้คืนรูปเป็นทรงกลมในทันทีนะครับ ลูกบอลจะบิดเบี้ยวไปมาด้วย อธิบายได้ว่า ในลูกบอลซึ่งมีอากาศอัดอยู่เต็มด้วย เมื่อด้านหนึ่งถูกเตะอย่างแรงจนบุบลงไป เกิดคลื่นอัดอากาศภายในลูกบอลด้านที่ถูกเตะแล้วคลื่นนั้นก็เคลื่อนไปที่อีกฟากหนึ่งของลูกบอล หน้าคลื่นจะทำให้ผิวบอลบิดเบี้ยวด้วยส่วนหนึ่ง แต่คลื่นอีกส่วน (ซึ่งน่าจะเป็นส่วนใหญ่) จะสะท้อนกลับไปในลูกบอล การเคลื่อนที่ของคลื่นอัดอากาศภายในลูกบอล บวกกับอาการบิดเบี้ยวของลูกบอล จะทำให้เกิดคลื่น (เหมือนจะ)นิ่ง ที่ปั่นป่วนไปมาภายในลูกบอล ถ้าพิจารณาแรงอัดที่คลื่นปั่นป่วนในลูกบอลที่กระทำจากผิวภายใน จะเห็นได้ว่านี่แหละเป็นแรงที่ทำให้เกิดการบิดเบี้ยวของวิถีลูกบอล
ลองสังเกตดูได้ครับ หากทดลองเตะบอลตรงๆ ไม่ได้ปั่นไซด์ โดยเตะแรงๆ ไปตรงๆ นั่นแหละ บางครั้งลูกบอลจะพุ่งแปลกๆ คือ เหมือนความเร็วไม่คงที่ เหมือนกับพุ่ง-หยุด-พุ่ง-หยุดสลับกันไปมาได้ด้วย อาการแบบนี้ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยฟิสิกส์อากาศภายนอกลูกบอล (ก็บอลมันไม่หมุนนี่หว่า...) อาการพุ่งๆ หยุดๆ แบบนี้จะมีจังหวะสอดคล้องกับ resonance ของลูกบอล ซึ่งจะแรงสุด (ค่า Q สูงสุด) เมื่อเตะได้แรงสอดคล้องกับค่า resonance ของลูกบอลครับ
อากาศอัดภายในและลูกบอลบิดเบี้ยวนี่ยิ่งถ้ามีการใส่สปินเข้าไปด้วย แน่นอนก็จะทำให้เกิดฟิสิกส์จากอากาศภายนอกด้วย ก็ยิ่งส่งผลให้เกิดวิถีโค้งขึ้นไปอีก
ผมไม่ได้คิดว่าคำอธิบายด้วยฟิสิกส์จากอากาศภายนอกนั้นใช้ไม่ได้ แต่คิดว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของบอลวิถีโค้ง จะเป็นคำอธิบายที่ดีเมื่อปั่นโค้งเบาๆ โดยที่บอลไม่เสียรูปทรง หรือคืนรูปทรงกลับมาได้เร็วมากๆ (สังเกตได้จากการลองเตะบอลเบาๆ ปั่นเวอร์ๆ มันก็โค้งอยู่ แต่ก็โค้งไม่มากนัก แสดงว่าฟิสิกส์อากาศภายนอกก็ใช้ได้เหมือนกัน)
กรณีของเจ๊ดโด้ ผมคิดว่าเกิดจากการเตะแรงมากๆ แล้วแรงมันไป match กับ resonance ของลูกบอลพอดี ยิ่งบอลหมุนไปด้วยทำให้คลื่นปั่นป่วนที่เกิดจากคลื่นอัดอากาศภายในลูกบอลไม่ได้ปั่นป่วนแบบมั่วซั่ว แต่ปั่นป่วนแบบถูกกำหนดทิศทางเฉลี่ย (group velocity) ด้วยการหมุนของลูกบอล ให้นั่งจินตนาการก็อาจจะเกิด พายุ cyclone ลูกน้อยๆ ภายในลูกบอล แล้วคลื่นอัดอากาศมันไปอัดด้านหนึ่งของลูกบอลซ้ำๆ กันมากกว่าทิศทางอื่น ก็เลยทำให้บอลโค้งด้วยแรงด้วย ครับ...
--------------
คุณ AooH เสริมว่า
ในกรณีบอลหมุนของคุณ Nut the Duck ผมว่าพิจารณา แรงต้านอากาศจะดีกว่านะครับ เพราะถ้าคิดตามหลักของแรงดัน ด้านที่อากาศไหลผ่านเร็วกว่า แรงดันจะต่ำกว่า จะทำให้เกิดแรงยก ไม่ใช่แรงมุดตัว
จากคุณ :
Oakyman
- [
21 มี.ค. 51 10:25:03
]