ความคิดเห็นที่ 1 นกมานอพยพแล้ว เค้าถึงไปเก็บไม่ช่ายหรอ จากคุณ : ~OtaKuคุง~ - [ 11 เม.ย. 51 16:49:19 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าจำไม่ผิด รังนก = น้ำลายของนก ใช่มั้ยครับ v v จากคุณ : คุณซัมซุง - [ 11 เม.ย. 51 16:51:21 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เท่าที่เคยเห็น  พวกผึ้งก็จะพยายามไปเกาะอยู่ที่เดิมอ่ะครับ กิ่งเดิมไม่อยู่แล้ว  มันพยายามไปเกาะอยู่กิ่งใกล้เคียง ตอนนั้นรู้สึกเสียใจนิดๆเหมือนกัน  มีผึ้งรังขนาดกลางอยู่บนต้นไม้ในเขตบ้าน มุมมองผมต่อผึ้งนั้นเป็นไปในทางลบอยู่แล้ว  คือ กลัว อ่ะ ต่อมามีกลุ่มเด็ก(แก่นๆ) เดินผ่านมาเห็น แล้วขอเข้าไปเอาผึ้งได้ไหม  ผมก็ยินดีเลย  เด็กแก่นๆก็เอาบุหรี่มาสูด แล้วพ่นใส่ท่อพีวีซีไปใส่รัง  ไม่ถึงมวลด้วยซ้ำ  มันก็ช่างกล้าปีนเข้าไปหา เอามีดขึ้นไปตัดกิ่งเลย  จนกระทั่งรังร่วงลงมา แต่ไม่ถึงพื้นเพราะติดกิ่งอื่น  แต่เพื่อนคนอื่นก็เอามือเอื้อมจับได้ (ช่างกล้า) แต่ผึ้งก็ไม่ทำไร กระทั่งผึ้งหายเมามั้ง  ก็บินอยู่กระจายบริเวณนั้น  บางส่วนก็ไปเกาะใกล้ๆกิ่งเดิม แต่บางตัว สองสามตัว บินเข้าบ้านผม(ไม่รู้เข้าทางไหน แต่ออกไม่ได้เพราะติดมุ้งลวด) เป็นเหตุให้คนในบ้านผมเอาไม้ตีแมลงวันมามีมันตายเสีย เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกสงสารในสิ่งที่ผมกลัวมาตลอด - -! จากคุณ : สมภพ เจ้าเก่า - [ 11 เม.ย. 51 16:55:46 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ตามข้างบน นกมันจะสร้างรังใหม่เป็นช่วงๆ เค้าเก็บรัง ร้างมันมาใช้ มีตั้งแต่ รังที่มันสร้างครั้งแรกๆ ขาวสะอาด จนกระทั่งพวกรังที่สร้างครั้งหลังๆ สำรอกเสมหะมีเลือดปน ส่วนผึ้ง พอเราตีแตก นางพญา ก็พาลูกน้อง ย้ายไปสร้างรังใหม่ แต่ตัวอ่อน มักจะตายติดกับรัง ถ้ายังไม่ตายก็มาตายตอนคนเอามาย่างกินนี่แหละ จากคุณ : -=Jfk=- - [ 11 เม.ย. 51 17:11:13 ]

ความคิดเห็นที่ 6 รังนกมาจากนกแอ่น (sweflet) ไม่ใช่มาจากนกนางแอ่น (swollow) รังนกนางแอ่นทำมาจากดินโคลนหรือเศษพืชครับ ส่วนนกแอ่นนั้น รังอาจทำมาจากน้ำลายอย่างเดียว(อันนี้คือที่เราเอามากินกันครับ)หรือมีวัสดุอื่นร่วมด้วย (เช่น ขนนก เศษพืชเล็กๆ) โดยใช้น้ำลายเป็นตัวยึดหรือเชื่อม ความเชื่อที่ว่ายิ่งเก็บรังมันมากเท่าไหร่ สีรังจะเปลี่ยนจากขาวกลายเป็นแดงเพื่อนกมันกระอักเลือดออกมา ความเชื่อนี้ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด สีของรังขึ้นอยู่กับความชื้นในบริเวณถ้ำนั้นครับ จากคุณ : Due_n - [ 11 เม.ย. 51 17:13:28 ]

ความคิดเห็นที่ 7 นกแอ่นมักจะกลับมาทำรังที่เดิม (ซึ่งก็ใช้เวลานานอยู่) หลังจากโดนสอยรังไปครับ ส่วนผึ้งนั้นแล้วแต่มติข้างมากของประชากรในรังว่าจะย้ายหรือจะสร้างอยู่ที่เดิม จากคุณ : Due_n - [ 11 เม.ย. 51 17:16:26 ]

ความคิดเห็นที่ 8 นกนางแอ่นจะสร้างรังจากน้ำลาย เมื่อตอนที่มันจะวางไข่ หากเราไปเก็บรังมันก่อนที่จะวางไข่ มันก็จะสร้างใหม่ แต่ปกถ้ามันไม่ได้ใช้รังเพื่อเลี้ยงลูก มันก็คงเกาะตามผา ส่วนผึ้ง ถ้ารังถูกตีไปแล้ว มันคงจะวนเวียนตามหานางพญาแถวๆ นั้น จนกว่าจะหมดแรงตายไป ถ้าเจอก็ร่วมกันสร้างรังใหม่ จากคุณ : WhiteWolf - [ 11 เม.ย. 51 17:23:53 ]

ความคิดเห็นที่ 9 รังอะไรก็ตามมันเป็นบ้านของสัตว์พวกนั้น คนไปกระเทาะเอารังมันมากินก็ช่างจะไม่มีความสงสารเห็นใจเพื่อนร่วมโลกมั่งเลย เรายอมรับว่าอ่อนไหวกับเรื่องพวกนี้นะคะ เหมือนมีคนจุดไฟหรือขุดบ้านที่เราอยู่ไป แล้วตัวเราเองจะไปอยู่ไหนได้ สงสารมันน่ะ ของกินในโลกนี้ก็มีตั้งเยอะ อดอยากอะไรนักหนาถึงต้องไปเบียดเบียนรังของสัตว์พวกนี้ จากคุณ : เสียงจากบ้านนา - [ 11 เม.ย. 51 17:42:17 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อ้าว เรื่องสำรอกเป็นเลือด นี่ไม่จริงเหรอครับ คุณ Due_N ผมหลงเชื่อคน ที่เค้าเก็บ และร้านขาย ที่บรรยายให้ฟัง มาตลอด ดีนะ ได้ เซียน Bio  อย่างคุณ Due_N มาแก้ให้ ขอบคุณคับ จากคุณ : -=Jfk=- - [ 11 เม.ย. 51 18:06:47 ]

ความคิดเห็นที่ 11 รังผึ้งนี่กินกันอิ่มเลยครับ ไม่ใช่ของกินเอาความเชื่ออะไร เหมือนเรากินแมลงทั่วไป จากคุณ : atheist - [ 11 เม.ย. 51 18:40:00 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เชื่อไม่เชื่อ  ก็จงรับรู้ พฤติกรรมการสร้างรังของนก นกสร้างรังเพื่อวางไข่   การจะได้รังที่ยังสะอาดและสวยๆอยู่  สร้างแล้วต้องเก็บเลย ถือว่าเป็นรังชั้นดี แล้วพ่อนกแม่นก ไม่มีที่วางไข่ ก็ต้องสร้างใหม่ใช่ไหม การทำธุรกิจ   ไม่มีความเห็นใจหรือสงสารหรอกค่ะ ไม่ต้องเชื่อก็ได้  คิดเอานะ จากคุณ : เพลงพันทาง - [ 11 เม.ย. 51 18:46:19 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เดี่ยวก่อนนะครับ สีของรังนกขึ้นอยู่กับความชื้นนี่หมายความว่ายังไงหรือครับ มันคงไม่ใช่ราสีส้มหรอกนะ จากคุณ : donutpla2 - [ 11 เม.ย. 51 18:58:14 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อย่างที่คุณเพลงพันทางบอกนะครับ  นกกลุ่มนี้มีความสามารถในการสร้างรังใหม่ทดแทนตลอดเมื่อรังทุกทำลายหรือโดยสอยไปก่อน โดยที่รังไข่นั้นต้องยังไม่มีไข่ หลายประเทศกำหนดให้มีการเก็บรังนกได้ 2-6 ครั้งต่อฤดูกาล และก็ปล่อยให้นกได้เลี้ยงลูกบ้างนิดหน่อย  น่าสงสารพ่อแม่นกอยู่ดีครับ   ส่วนเรื่องสีนั้น ถ้ำไหนที่มีความชื้นสูงหรือมีน้ำหยดลงรัง ไม่ว่ารังที่เท่าไหร่ มันก็มีสีแดงครับ สีแดงก็มาจากสีสนิทที่เกิดจากแร่เหล็กบริเวณผนังถ้ำอ่ะครับ จากคุณ : Due_n - [ 11 เม.ย. 51 19:14:53 ]

ความคิดเห็นที่ 15 จากเวป http://www.ryt9.com/news/1995-03-22/16415606 ทำเนียบรัฐบาล--22 มี.ค.--บิสนิวส์        คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติอากรรังนกอีแอ่น พ.ศ. .... ตามที่กระ-ทรวงการคลังเสนอและให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วให้นำเสนอคณะกรรม-การประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป โดยมีสาระสำคัญดังนี้        1. โอนอำนาจการจัดเก็บอากรรังนกจากเดิมเป็นของกรมสรรพากรไปให้จังหวัด และให้รายได้เป็นของท้องถิ่นตามแหล่งกำเนิด แทนที่จะเข้าเป็นรายได้แผ่นดินเช่นในปัจจุบัน        2. ปรับปรุงวิธีการให้สัมปทานจัดเก็บรังนกอีแอ่นจากเดิมเป็นอำนาจของกรมสรรพากร ไปเป็นของจังหวัดในรูปของคณะกรรมการฯ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน       3.กำหนดระยะเวลาในการเก็บรังนกอีแอ่นให้ไม่เกินปีละสามครั้ง เพื่อป้องกันมิให้เป็นอัน-ตรายต่อตัวนก       4.ให้มีบทกำหนดโทษกรณีซื้อขายหรือมี รังนกเลือด ไว้ในครอบครอง พร้อมทั้งปรับปรุงบทกำ-หนดโทษให้สูงขึ้น เพื่อให้เหมาะสมกับภาวะการณ์ปัจจุบัน        5.เปลี่ยนแปลงรัฐมนตรีผู้มีอำนาจรักษาการจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นรัฐ-มนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย        ทั้งนี้คณะรัฐมนตรีมีข้อสังเกตเพิ่มเติมว่าการเรียงมาตราและการปรับปรุงอำนาจของระดับจังหวัดยังไม่ชัดเจน จึงเห็นสมควรให้ส่งร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาตามข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีต่อไป        --ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 21 มีนาคม 2538-- เป็นความรู้ค่ะ จากคุณ : เพลงพันทาง - [ 11 เม.ย. 51 19:18:22 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : i love my boss - [ 11 เม.ย. 51 19:22:53 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เรื่องนกแอ่นกินรัง และสีของรังนั้น สามารถหาอ่านได้จากที่นี่ครับ http://www.biotec.or.th/biotechnology-th/newsdetail.asp?id=3414  อ.ประทีป ด้วงแค เขียนไว้เป็นความรู้ครับ แก้ไขเมื่อ 11 เม.ย. 51 19:35:42 จากคุณ : Due_n - [ 11 เม.ย. 51 19:34:24 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณ คุณ Due_n ค่ะสำหรับความรู้ดีๆ เรื่องสีของรัง เกิดจากสาเหตุนั้นก็เป็นได้ค่ะ แต่ธุรกิจนี้ สัมปทาน มันหลักเป็นพันล้าน อย่างไรเราก็เชื่อว่า ถ้าไม่มีมูล คงไม่ร่างเป็นพระราชบัญญัติ และเราเชื่อว่า ถึงไม่รับประทานรังนก  เราก็คงมีชีวิตยืนยาวได้ เราเห็นด้วยกับคุณ Due_n ว่า ไม่ว่าอย่างไร นกก็น่าสงสารอยู่ดี จากคุณ : เพลงพันทาง - [ 11 เม.ย. 51 19:40:19 ]

ความคิดเห็นที่ 19 รังนกสีแดง  ที่ฟอร์เวิร์ดเมล์บอกว่าเป็นรังนกเกรดเลือด   จริงๆมันคือสีสนิม...เอิ๊ก ฟอร์เวิร์ดเมล์นี่มีอะไรจริงบ้างหว่า?? จากคุณ : ไม่งงครับ ไม่งง - [ 11 เม.ย. 51 19:48:24 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ฟอร์เวิร์ดเมล์  เป็นเรื่องจริงค่ะ รังนกเลือด แต่ก่อนมีเยอะ แต่หลังจากออก พรบ. ก็ยังมีอยู่ แต่ไม่เยอะเท่าเมื่อก่อน เป็นสาเหตุว่า ทำไม รังนก  ถึงแพงขึ้น จากคุณ : เพลงพันทาง - [ 11 เม.ย. 51 19:54:00 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณสำหรับลิงค์ใน17ครับ มีประโยชน์มาก จากคุณ : donutpla2 - [ 11 เม.ย. 51 20:05:50 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เราว่า เอารังมันมากิน แต่ตัวมันไม่ตาย ก็ยังดีกว่ากินหมูกินไก่นะ เพราะแบบนั้นต้องเอาชีวิตมันทั้งชีวิตเลยอะ จากคุณ : ปฏิจจสมุปบาท (ปฏิจจสมุปบาท) - [ 12 เม.ย. 51 01:13:33 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คุณ เพลงพันทาง เข้าใจผิดแล้วล่ะค่ะ รังนกเลือด ไม่ได้หมายความว่า มันเป็นเลือดจริงๆ แค่มีสีเหมือนเลือดเท่านั้นเอง คำที่แสดงถึงลักษณะออกแนว อุปมาอุปไม เฉยๆค่ะ สำหรับคำว่า รังนกเลือด ส่วนข้อมูลอื่นๆ เขาก็แค่ใส่เข้ามาเพื่อให้ฟังดูน่าสงสาร ดูมีราคา ได้มาด้วยความยากลำบาก ถ้าบอกว่า มันเป็นเพียงแค่สีสนิม เหล่าคนที่นิยมรักสุขภาพก็อาจจะมองดูต้อยต่ำลงทันทีเลย คุณ เพลงพันทาง ลองไปดูข้อมูล รังนกเลือดได้จาก บริษัทที่ขายรังนกเลยดีกว่าค่ะ เขาทำธุรกิจใหญ่กว่าระดับชาวบ้าน ชาวเกาะ ดังนั้นการมาพูดหลอกลวงลูกค้า จึงไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเขา การนำเสนอข้อมูลจริงจะดีที่สุด ซึ่งต่างจากชาวบ้าน ชาวเกาะ ที่จะเพิ่มมูลค่าด้วยการสร้างเรื่องให้คนหลงเชื่อ http://www.siambirdsnest.com/birdsnest.php ผลิตภัณฑ์รังนกแดง หรือ รังนกเลือด เนื้อรังนกจะมีสีแดงเข้มเหมือนเลือด ซึ่งยังมีลูกค้าบางคนเชื่อว่ารังนกแดงเกิดจากนกคายเลือดออกมา ทำรังจึงเป็นสีแดง แต่ความจริงรังนกแดงมีเฉพาะถ้ำที่มีผนังสีแดง ซึ่งเกิดจากแร่ธาตุตามธรรมชาติ และเมื่อนกไปทำรังบริเวณดังกล่าวรังนกที่ได้จึงมีสีแดง เนื้อรังนกแดงมีความเหนียว ใช้เวลาแช่น้ำ และ ตุ๋นนานกว่ารังนกประเภทอื่น หากลูกค้าต้องการ ประหยัดเวลาในการปรุง ควรใช้หม้อตุ๋นแบบควบคุมแรงดัน จะทำให้ได้เนื้อรังนกแดงพองตัวมากและใช้เวลาในการตุ๋นน้อยลง ส่วนตัวเราคิดว่า คุณ เพลงพันทาง ควรจะตรวจสอบข้อมูลก่อนนำมาเสนอ เพราะไม่งั้นมันก็เหมือนการเผยแพร่ความเข้าใจผิดๆอย่างที่ พวก FWD:mail ทำกัน ทีสำคัญ เมื่อคุณ Due_n นำข้อมูลที่ถูกต้องมาให้ คุณก็ยังไปค้านเขาอีก โดยยังไม่เข้าใจถึงความหมายจริงๆ เห็นด้วยว่า ไม่ควรค่ะ ปล. ลืมตอบ จขกท เลย อืม ถ้าเป็นผึ้ง ถ้าหากนางพญาไม่ตาย ก็จะไปสร้างรังใหม่ แต่ถ้านางพญาตาย ผึ้งส่วนมากก็จะตายอยู่แถวน้นน่ะ เพราะโดนรมควัน การจะไปขอเข้ากับรังใหม่ ในสังคมผึ้งเกิดได้ยาก แต่บางทีก็อาจจรวมกลุ่มกันได้ ส่วนรังร้างที่ย้ายรังไปแล้ว มักไม่มีน้ำหวานเหลือ และก็จะแห้งตกจากกิ่งไม้เอง   แก้ไขเมื่อ 12 เม.ย. 51 01:20:57 แก้ไขเมื่อ 12 เม.ย. 51 01:18:50 จากคุณ : ขี้เหงา...เอาแต่ใจ - [ 12 เม.ย. 51 01:15:53 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ++23 กรุณา อ่านคห.ที่ 15 ก่อนที่จะมาต่อว่าใคร อย่าเอาคำว่า Foward Mail ที่ความเห็นอื่นๆ นำมาอ้างอย่างโน้นอย่างนี้ เขาตราเป็น พระราชบัญญัติ ออกมา  เป็น กฏหมายคุ้มครองเลยนะ กรุณาอ่านให้ถ้วนถี่ ก่อนจะต่อว่าใคร เราค้านก็ด้วยเหตุและผล  อย่าเอาความเป็นคนรู้จัก มาสนับสนุนกันผิดๆ เราเข้ามาเอาความรู้มาให้  ไม่ได้ต้องการมาทะเลาะกับใคร ถือว่าสงเคราะห์ copy  มาให้อ่านอีกที  จะได้ไม่ต้องหานะ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ จากเวป http://www.ryt9.com/news/1995-03-22/16415606 ทำเนียบรัฐบาล--22 มี.ค.--บิสนิวส์       คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติอากรรังนกอีแอ่น พ.ศ. .... ตามที่กระ-ทรวงการคลังเสนอและให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วให้นำเสนอคณะกรรม-การประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป โดยมีสาระสำคัญดังนี้       1. โอนอำนาจการจัดเก็บอากรรังนกจากเดิมเป็นของกรมสรรพากรไปให้จังหวัด และให้รายได้เป็นของท้องถิ่นตามแหล่งกำเนิด แทนที่จะเข้าเป็นรายได้แผ่นดินเช่นในปัจจุบัน       2. ปรับปรุงวิธีการให้สัมปทานจัดเก็บรังนกอีแอ่นจากเดิมเป็นอำนาจของกรมสรรพากร ไปเป็นของจังหวัดในรูปของคณะกรรมการฯ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน      3.กำหนดระยะเวลาในการเก็บรังนกอีแอ่นให้ไม่เกินปีละสามครั้ง เพื่อป้องกันมิให้   เป็นอัน-ตรายต่อตัวนก      4.ให้มีบทกำหนดโทษกรณีซื้อขายหรือมี รังนกเลือด ไว้ในครอบครอง พร้อมทั้งปรับปรุงบทกำ-หนดโทษให้สูงขึ้น เพื่อให้เหมาะสมกับภาวะการณ์ปัจจุบัน       5.เปลี่ยนแปลงรัฐมนตรีผู้มีอำนาจรักษาการจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นรัฐ-มนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย       ทั้งนี้คณะรัฐมนตรีมีข้อสังเกตเพิ่มเติมว่าการเรียงมาตราและการปรับปรุงอำนาจของระดับจังหวัดยังไม่ชัดเจน จึงเห็นสมควรให้ส่งร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาตามข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีต่อไป       --ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 21 มีนาคม 2538-- ใจกว้างกันหน่อยนะคะ  เราไม่ได้มาชวนหาเรื่อง แต่คำที่คุณ ขี้เหงา...เอาแต่ใจ  เขียน มันไม่เปิดใจรับคนอื่นเลย   แล้วอีกอย่าง ธุรกิจนี้  เงินมันสะพัด  ใครจะเขียนอย่างไร ที่ไหนก็ได้ ให้มันดูดี  เราคงไม่มาตอบคุณแล้ว  อยากเถียงอะไรก็เชิญ แต่กะอีแค่  รังนกโดนความชื้นถ้ำ  สีสนิมย้อมกลายเป็นสีแดง  คงไม่มีใครเอามา ตราพระราชบัญญัติ หรอกค่ะ แก้ไขเมื่อ 12 เม.ย. 51 06:19:48 จากคุณ : เพลงพันทาง - [ 12 เม.ย. 51 06:17:20 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ค้าขาย  นายทุน ผลประโยชน์ ???? >>> http://www.siambirdsnest.com/birdsnest.php แก้ไขเมื่อ 12 เม.ย. 51 06:55:20 จากคุณ : เพลงพันทาง - [ 12 เม.ย. 51 06:54:31 ]

ความคิดเห็นที่ 26 http://www.actsthai.com/basket.asp?proid=RBN-0008&submit=Detail&pg=4&select1= นายชลอกล่าวถึงการคัดแยกรังนกแต่ละประเภทว่าจะแบ่งออกเป็นหลายเกรด เกรดที่ดีที่สุดคือรังนกที่เกิดจากการคายน้ำลายออกมาทำรังของนกนางแอ่นครั้งแรก รังนกที่ได้จะมีขนาดใหญ่และขาวสะอาด ซึ่งจะมีราคาต่อกิโลกรัมในระดับท้องถิ่นประมาณ 82,000 บาทหากแบ่งขายเป็นกรัมจะตก 100 กรัมต่อราคา 6,200 บาท หากเป็นการเก็บรังนกครั้งที่สองและสาม คุณภาพก็จะลดหลั่นกันไป รวมไปถึงอาจจะมีสิ่งปลอมปนมากขึ้นเช่นขี้นก หรือขนนก ซึ่งจะทำให้ราคาลดต่ำลงไปอีกตามสัดส่วน สำหรับการจัดเก็บรังนกจะไม่เก็บทุกครั้งที่นกทำรัง เพราะต้องให้โอกาสแม่นกได้ออกไข่ฟักลูกสืบเผ่าพันธุ์ด้วย ส่วนใหญ่พอแม่นกคายน้ำลายออกมาทำรังจนเป็นสีแดง ซึ่งก็คือเลือดของแม่นกที่กลั่นออกมาแทนน้ำลายก็จะหยุดเก็บทันที ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ใครอยากกิน กินไป  ใครอยากขาย ขายไป ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ขอให้คนหว้ากอ  เที่ยวสงกรานต์ สนุกสนาน และปลอดภัยจากอุบัติเหตุนะคะ จากคุณ : เพลงพันทาง - [ 12 เม.ย. 51 07:30:13 ]

ความคิดเห็นที่ 27 พระราชบัญญัติอากรรังนกอีแอ่น พ.ศ. 2540 ................................ มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้ให้เรียกว่า "พระราชบัญญัติอากรรังนกอีแอ่น พ.ศ. 2540 มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป [รก.2540/56ก/1/14 ตุลาคม 2540] มาตรา 3 ให้ยกเลิกพระราชบัญญัติอากรรังนกอีแอ่น พุทธศักราช 2482 มาตรา 4 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดชุมพร จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดพัทลุง จังหวัดกระบี่ จังหวัดตรัง จังหวัดพังงา จังหวัดสตูล และจังหวัดตราด ส่วนในจังหวัดอื่นจะใช้บังคับ เมื่อใดให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา มาตรา 5 ในพระราชบัญญัตินี้ "นกอีแอ่น" หมายความว่า นกอีแอ่นชนิดที่ใช้กินรัง "รังนก" หมายความว่า รังนกอีแอ่น "ราชการส่วนท้องถิ่น" หมายความว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล สุขาภิบาล องค์การบริหารส่วนตำบล และราชการส่วนท้องถิ่นอื่น ตามที่กฎหมายกำหนด "คณะกรรมการ" หมายความว่า คณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บ อากรรังนกอีแอ่น อ่านรายละเอียดได้จาก http://www.thailocaladmin.go.th/upload/schemaID[8]/1417_21.pdf ------------ สุขสันต์วันสงกรานต์ทุกท่านนะครับ แก้ไขเมื่อ 12 เม.ย. 51 09:21:04 แก้ไขเมื่อ 12 เม.ย. 51 09:10:15 จากคุณ : Due_n - [ 12 เม.ย. 51 09:08:03 ]

ความคิดเห็นที่ 28 คุณเพลงพันทาง เข้าใจอะไรผิดรึเปล่าครับ ทุกคนเห็นตรงกันว่า การเก็บรังนกเป็นการรังแกนก และน่าสงสารแม่นก การออกมาบอกว่าเรื่องรังนกเลือดเป็นเรื่องของความเชื่อ มันก็ไม่ได้ทำให้การรังแกนกเป็นความชอบธรรมไปเลย นอกจากนั้นผมกลับมองว่า ทำให้ราคารังนกเลือดตกด้วยซ้ำไป คนสนับสนุนการค้ารังนกไม่พูดแบบนี้หรอกครับ เรื่อง พรบ ผมไม่ค่อยเชื่อครับ ผมว่าบางทีรัฐบาลก็ไม่ค่อยได้รู้อะไร เข้าทำนองคนใช้ไม่ได้ร่าง คนร่างไม่ได้ใช้ จากคุณ : house (panote_saechiew) - [ 12 เม.ย. 51 09:50:00 ]

ความคิดเห็นที่ 29 พรบ.  เอามาใช้เป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ไม่ได้นะครับ ว่า "รังนกเลือด  แปลว่า รังนักที่มีเลือดปน" เพราะว่า หลักฐาน ทางวิทยาศาสตร์ ที่ว่าด้วยเรื่อง สีของถ้ำนั้น ชัดเจนกว่ามาก และคำว่ารังนกเลือด ใน พรบ มันอาจจะอุปมาอุปไมย แทนคำว่า "รังนกอีแอ่นที่มีสีแดง" ก็เป็นได้ครับ จากคุณ : Koraja - [ 12 เม.ย. 51 11:02:13 ]

ความคิดเห็นที่ 30 # 27 เอาคร่าวๆนะคะ คุณต้องเอา พรบ. ป่าไม้ คุ้มครองสัตว์ป่าประกอบด้วยค่ะ  มีในหลายๆเว็ป # 28 เอาคร่าวๆ เหมือนกัน เราไม่เคยพูดว่าใคร มีความเห็นไม่ตรงเรื่อง ความสงสารนก   ย้อนไปดู คห.18 ของเรา ไม่เคยตัดสินใคร ถ้าเราไม่ได้คุยต่อหน้าค่ะ ส่วนเรื่อง  พรบ.  ถ้าเป็นความคิด นักวิทยาศาสตร์ ก็แล้วแต่คุณค่ะ แล้วถ้าเป็นรังนกเลือด ก็ถูกอีกที่คุณบอกว่า นักธุรกิจใหญ่ๆ จะเอา เรื่องทารุณสัตว์ มาดิสเครดิตตัวเองทำไม เหมือนลิงค์ใน คห.29 http://www.siambirdsnest.com/birdsnest.php บอกแล้วค่ะ ใครๆ ก็ต้องรักษาผลประโยชน์ตัวเอง # 29 เอาคร่าวๆ อีกเหมือนกัน  อุปมาอุปไมย วิทยาศาสตร์แนวไหนคะ ไม่เป็นไร  คุณลองหาเหตุผลว่า  ทำไม รังนกเลือด ในแบบของคุณ ถึงต้องขนาดกำหนด บทลงโทษ นะคะ สำหรับ ความรู้หร้องหว้ากอ เราคงต้องพิจารณาเชื่อเป็นรายบุคคลไปเสียแล้ว เพราะดูท่า จะหวังไม่ได้อะไรมากมาย  ลองเปิดใจพิจารณาดีๆนะคะ ก็นึกว่า.....มีแต่......เฉลิมไทยไหลตามน้ำ   แต่ก็พอเข้าใจเพราะ กระทู้นี้ค่ะ   http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X6510027/X6510027.html จบค่ะ  เชิญ  ไหลกันตามสบายค่ะ ปล. ขอโทษเจ้าของกระทู้ ที่ กระทู้ ถูกเบี่ยงเบนโดยไม่ได้เจตนานะคะ จากคุณ : เพลงพันทาง - [ 12 เม.ย. 51 11:26:46 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ตัว พรบ.  ใน #27 ("พระราชบัญญัติอากรรังนกอีแอ่น พ.ศ. 2540" ชื่อตรงกับที่คุณเพลงพันทางอนุเคราะห์) นั้นเนื้อหาก็ไม่มีคำว่า "รังนกเลือด" อยู่เลย  และมันก็ไม่มีบทลงโทษเหมือนกับใน พรบ. ที่คุณเพลงพันทางให้มาด้วยครับ ถ้าเข้าใจคาดเคลื่อนยังไง คุณเพลงพันทางก็ช่วยยกหรือหยิบข้อกฏหมายมาให้ดูหน่อยนะครับ (ขออย่าให้ไปหาอ่านเองหรือเอาข่าวมาแปะ จักขอบคุณเป็นอย่างสูงครับ) จะได้เข้าใจกันถูกต้องทุกมุมมอง  ^^ แก้ไขเมื่อ 12 เม.ย. 51 12:01:03 จากคุณ : Due_n - [ 12 เม.ย. 51 11:52:50 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ++พรบ. ตัวนั้นเราก็เจอค่ะ ฉบับ 2540  แต่ โบ้ยไปโบ้ยมาเฉไปเฉมา จนน่ารำคาญ คุณ DUE_N คะ เหนื่อยแล้วค่ะ   สงกรานต์ แทนที่จะมีความสุขมีเรื่องดีๆ เอาเป็นว่าเราผิดเอง   -ความเข้าใจ   คือ   ในแบบสีถ้ำ ก็มี และในแบบทารุณสัตว์ก็มี พอตราเป็นกฎหมาย  คุณลองคิดว่าเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ ให้ประเทศ ใครจะเขียนมันตรงๆ เป็นทางลบ  ก็ต้องเลี่ยงคำพูด ในแง่ทารุณสัตว์ออกไป โบ้ย ให้ไปรวมอยู่ใน พรบ. ป่าไม้และคุ้มครองสัตว์ เค้าไม่พูดกันตรงๆหรอกค่ะ  ดีที่ยังมีฉบับร่างหลุดรอดมาให้เห็น และความเห็นนี้ ก็เป็นความเห็นสุดท้ายที่เราจะตอบคุณ ไม่ต้องเรียกถามอะไรแล้ว เพราะเราจะไม่ตอบ  ยอมรับว่า อธิบายอะไร ให้คนเข้าใจยาก ต้องหาเหตุผลจนถึงที่สุดนี่มันเหนื่อยค่ะ ย้ำ  ธุรกิจมูลค่าเป็นพันล้าน   ถ้ามีเรื่องทารุณสัตว์  เข้ามาเกี่ยว ใครเสียผลประโยชน์บ้าง เอาเป็นว่าคุณไม่ต้องเชื่อเราก็ได้ค่ะ   จบนะคะ จากคุณ : เพลงพันทาง - [ 12 เม.ย. 51 12:08:00 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ก็คงไม่ใช่ไหลครับ คุณเพลงพันทาง เพราะเรื่องรังนกสีแดงผมก็พึ่งได้ยินที่นี่แต่ว่า 1. นักกฏหมาย ไม่ใช่นักชีววิทยา ผมเลือกเชื่อนักชีววิทยามากกว่าในเรื่องแบบนี้ 2. จาก 1 พรบ ไม่ได้ยืนยันความถูกต้องทางวิทยาศาสตร์ มันสะท้อนสิ่งที่ผู้ร่างเชื่อว่าถูก 3. ที่คุณใช้เป็นฉบับร่าง แต่ที่คุณ Due_n นำมาเสนอมันไม่มีเรื่องนี้แล้ว 4. ผมค้นเพิ่ม เจอ http://www.qqbirdnest.com/birdnest_facts.html ตรงกับที่คุณ due_n ว่าไว้ ส่วน http://cat.inist.fr/?aModele=afficheN&cpsidt=17105754 ก็บอกว่าองค์ประกอบของรังนกทั้งสองสีนั้นเหมือนกัน ตอนนี้ผมอยากได้ รายงานทางวิทยาศาสตร์ที่มีกาีรพบองค์ประกอบของเลือดในรังครับ มันจะช่วยให้ข้อโต้แย้งคุณมีน้ำหนักขึ้นมาก ปล ตอนนี้ผมก็ยังค้นอยู่นะ -*- จากคุณ : house (panote_saechiew) - [ 12 เม.ย. 51 12:14:29 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขออนุญาตเพิ่มเติมให้เล็กน้อย พี่ Due_n เป็นนักชีวะวิทยาที่ มีความรู้ (โดยเฉพาะเรื่อแมลงปอ ^^) ดีมาก แล้วพี่ Due_n ก็ไม่ได้มีเอี่ยวกับนักธุรกิจขายรังนกอยู่แล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องเข้าข้างนี่ครับ ตอนนี้เหมือนกับว่า พี่ Due_n นำเสนอข้อมูลวิชาการ แต่คุณเพลงพันทาง เอากฎหมายที่ตราขึ้นด้วยใครก็ไม่รู้ เหตุผลเพราะอะไรก็ไม่ทราบ มาอ้างถึง พอในกฎหมายไม่มีอะไร คุณก็บอกว่า พรบ. มันห่วย... อื่ม... ครับ จากคุณ : nOnG_WinZ - [ 12 เม.ย. 51 17:57:38 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เสริมอีกนิด คนที่คุณกำลังเถียงโดยเอาข้อทางกฎหมายมาวิเคราะห์เอง คุณกำลังสู้กับ นักชีววิทยาตัวจริงเสียงจริงที่นำเสนอข้อเท็จจริงอยู่นะครับคุณเพลงพันทาง... กล้าพูดเพราะรู้จักเป็นการส่วนตัวครับ แก้ไขเมื่อ 12 เม.ย. 51 23:46:33 แก้ไขเมื่อ 12 เม.ย. 51 18:03:39 จากคุณ : nOnG_WinZ - [ 12 เม.ย. 51 18:02:43 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เข้ามาอ่านค่ะ สงสารเจ้าของรังที่ถูกทำร้ายด้วยคนค่ะ แต่ยังไงสุขสันต์วันสงกรานนะคะทุก ๆ คน ขอให้เย็น ๆ เปียก ๆ ค่ะ อิอิ จากคุณ : ThatsNoon - [ 12 เม.ย. 51 18:36:37 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ตกลงยังไงกันแน่ แล้วคุณเพลงพันทาง เคยเห็นตอนที่นกกระอักเลือดเพื่อสร้างรังไหมครับ จากคุณ : Azuret - [ 12 เม.ย. 51 18:49:40 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ที่นี่หว้ากอ ไม่ไหลตามน้ำครับ เถียงกันด้วยเหตุผล ข้อมูลซะส่วนมาก จะมีแต่ ออกทะเล.... จากคุณ : HaPp - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 00:23:51 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ไม่เห็นมีใครบอกซักคำว่า พรบ มันผิด แต่เขามาขยายความของคำว่า  รังนกเลือด ให้คุณเพลงพันทางเข้าใจกัน ในลิงค์ที่ให้ไป คือ ให้ไปอ่านส่วนประกอบของคำว่า  รังนกเลือด   คุณเพลงพันทาง หลงประเด็นไปไหนกันเนี่ย คุณบอก รังนกเลือด คือ รังนกที่เกิดจากเลือดในน้ำลายของนก  งั้นเอาหลักฐานมาพิสูจน์กันซิ  อย่ายกแต่คำพูดลอยๆ  นี่ห้องหว้ากอ เชื่อกันตามหลักวิทยาศาสตร์และเหตุผล   กฏหมายเขาตีความ รังนกเลือด ยังไง คุณก็ไปหาหลักฐานมา  ถ้ารังนกที่เลอะสารเคมีจนเป็นสีแดงล่ะ  เขาเรียกรังนกเลือดหรือเปล่า คำอุปมาอุปไม มีเยอะแยะ เหมือนคำว่า ประจำเดือน ทำไมต้องเรียก ประจำเดือนล่ะ เรียกกันตรงๆไปเลยได้ไหม  เลือดจากมดลูก  มันก็แค่แสดงให้เห็นว่า เราจะเข้าใจคำว่า ประจำเดือนได้ ก็ต้องเข้าใจความหมายของมันก่อน คุณเพลงพันทาง ยังไม่เข้าใจคำว่า รังนกเลือดเลย  ลองไปค้นหาเอกสารทางวิทยาศาสตร์ดูก่อน  เน้นนะว่า วิทยาศาสตร์ ถ้าพวกเมล์ทั้งหลายไม่เอา อีกอย่างนักกฏหมายเขาตีความ เขียนแค่คำว่า รังนกเลือด แต่ยังไม่เห็นมีส่วนไหนที่เขียนส่วนประกอบกันไปเลยว่า รังนกที่มีส่วนผสมของเลือดนก คุณเพลงพันทางอย่ามาโยงอ้างไปเลย ส่วนที่กำหนดบทลงโทษเนี่ย ตัดไม้สัก มันก็ผิดเหมือนกัน ขนาดขึ้นในบ้านตัวเอง  บทลงโทษไม่ได้ขึ้นกับความทารุณ แต่เขาแค่จะอนุรักษ์ไว้  ไม่มีใครเขียนกฏหมายโดยใช้ความรู้สึกส่วนตัวหรอก  แล้วงานวิทยาศาสตร์ก็เช่นกัน  มีก็แต่ข้อเท็จจริง บอกจริงๆนะ ลองกลับไปถามอาจารย์ที่สอนชีววิทยา คุณมาเลยก็ได้  เผลอๆถามแบบนี้ไป อาจารย์แกอาจจะแซว อยากเรียกเกรดคืนเลยมั้ง  เรียนมาแทบไม่ได้ใช้ความรู้ที่ให้ไป คุณเข้าใจคำว่า ตีความไหม เหมือนกับมีกฏเขียนไว้ว่า  ห้ามเดินลัดสนาม  ปรับ 500 อ้าว แล้วถ้าไม่เดินล่ะ วิ่ง กระโดด ขี่จักรยาน ลัดสนาม ผิดกฏไหม เขาก็ต้องมาดูเจตนากันอีก จุดประสงค์คืออะไร อ้อ อยากสงวนพื้นที่ อยากรักษาหญ้า แม้จะทำกริยาต่างๆกันนอกเหนือจากที่ห้าม แต่ถ้าทำลายจุดประสงค์ก็โดนปรับหมด แก้ไขเมื่อ 13 เม.ย. 51 20:36:09 จากคุณ : ขี้เหงา...เอาแต่ใจ - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 20:33:18 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ก็นึกว่า.....มีแต่......เฉลิมไทยไหลตามน้ำ   จบค่ะ  เชิญ  ไหลกันตามสบายค่ะ และความเห็นนี้ ก็เป็นความเห็นสุดท้ายที่เราจะตอบคุณ ไม่ต้องเรียกถามอะไรแล้ว เพราะเราจะไม่ตอบ  ยอมรับว่า อธิบายอะไร ให้คนเข้าใจยาก ต้องหาเหตุผลจนถึงที่สุดนี่มันเหนื่อยค่ะ น่าเสียดายถ้าเพลงพันทางจะไม่กลับมาอ่านกระทู้นี้อีกแล้ว... 1. ไหลตามน้ำของคุณคืออะไร ผมเห็นแต่ละคนในกระทู้นี้โต้กันด้วยเหตุผลทั้งนั้น (ทำยังกับเด็กสู้แพ้แล้ววิ่งหนีไปฟ้องแม่) 2. อธิบายให้คนเข้าใจยากอะไรกัน ไม่คิดมั่งว่าไอ้ที่คุณแปะๆมาให้เนี่ยมันสู้ความคิดเห็น(ข้อเท็จจริง)ของเขาไม่ได้ ...บ่นฉลองสงกรานต์ จากคุณ : แจ็คฟรอสต์ - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 22:55:31 ]