ความคิดเห็นที่ 1 ไม่เกี่ยวกับรายได้ต่อเดือนเลยครับ จากคุณ : Mr.Yokee - [ 20 เม.ย. 51 21:42:20 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อยู่ที่ความหน้าใหญ่ของทั้ง 2 ฝ่าย ตะหากคับ จากคุณ : Mr.Yokee - [ 20 เม.ย. 51 21:44:19 ]

ความคิดเห็นที่ 3 แล้วแต่ศรัทธา จากคุณ : ขอทาน (กรุณาเก็บให้พ้นมือเด็ก) - [ 20 เม.ย. 51 21:46:43 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เกี่ยวกับความหน้าตาแต่ละฝ่ายครับ ถ้าทางบ้านทั้งคู่ไม่อยู่ในสังคมอวดกันก้อไม่เป็นไร รู้อย่างเดียว แถวบ้านผม ไม่ล้มวัว ก้อ ต้องล้มหมู จากคุณ : IRQ5 - [ 20 เม.ย. 51 21:52:57 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ให้มากสุด 2 หมื่นบอกว่า ถ้ารักผมมันน้อยกว่าเงินที่ให้ ผมจะพาลูกสาวท่านหนีซะ :P จากคุณ : อาจจะแก่ - [ 20 เม.ย. 51 21:56:34 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แล้วแต่ความพอใจของ พ่อ แม่ เจ้าสาวครับ จ้าวบาวไม่พอใจ ยินดีคืนเงิน จากคุณ : 1812Overtureyoot - [ 20 เม.ย. 51 22:13:35 ]

ความคิดเห็นที่ 7 . . . ตามตกลง . . . จากคุณ : MIG-ON-THE-WAY - [ 20 เม.ย. 51 22:15:13 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าให้พอเป็นพิธี เยอะหน่อยก็ไม่ว่า แต่ถ้าให้แล้วเอาไปเลยนี่สิ คงต้องน้อยๆ ไว้ก่อน ไม่งั้นอาจจะได้พิสูจน์ความรักด้วยการกัดก้อนเกลือกิน จากคุณ : oppertunity - [ 20 เม.ย. 51 22:18:10 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เงินกินยังไม่มี  เอาเงินที่ไหนแต่งดี? จากคุณ : คนจนผู้ยิ่งใหญ่ - [ 20 เม.ย. 51 22:30:33 ]

ความคิดเห็นที่ 10 5-6 เท่า ตีให้แต่งงานตอนอายุเฉลี่ย 26-28 อายุการทำงานน่าจะราวๆ 4 - 5 ปี หักค่าใช้จ่ายประจำออกครึ่งหนึ่ง หักภาระที่ต้องส่งทางบ้าน-รวมเงินเก็บ และอื่นๆ ผมให้ได้ไม่เกิน 5 - 6 เท่าของเงินเดือน ให้มากกว่านั้นไม่ไหว คนรุ่นเราถือว่าเป็นรุ่นแซนด์วิชครับ คือต้องเลี้ยงพ่อ-แม่(ตามวัฒนธรรมเก่า) และต้องเตรียมตัวไว้เลี้ยงตัวเองตอนแก่(ตามวัฒนธรรมใหม่) ก็ต้องทำใจกันหน่อย จากคุณ : Nexus - [ 20 เม.ย. 51 22:33:53 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ตอนเเรกโดนไป15 เท่า ต่อรองเหลือ 7 เท่าของเงินเดือน จากคุณ : Chaos dragon - [ 20 เม.ย. 51 22:56:14 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ^ ^ ^ คุณ Nexus ลืมเลี้ยงลูกด้วยนะครับ ก่อนหน้านี้ ม.๖ ก็พอ เดวนี้ ต้องป.เอกเท่านั้น ไม่แซนวิชแล้ว ครับ แล้วก็หันไปทำงานเก็บเงินกันต่อไป จากคุณ : ว่าจะหนีไปบวชแล้ว (debud) - [ 20 เม.ย. 51 22:58:57 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ชอบคำว่ารุ่นแซนวิซจัง  เห็นด้วยสุดๆ 555 จากคุณ : แกงจืดวุ้นเส้น - [ 20 เม.ย. 51 23:05:02 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ---------------รักแท้แพ้พาหนี--------------- จากคุณ : Air_graphic - [ 20 เม.ย. 51 23:14:43 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ฮ่าๆ รุ่นแซนวิช จากคุณ : NaTArT - [ 20 เม.ย. 51 23:18:10 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เอ.. ผมรุ่นแซนวิช ด้วยป่าวหว่า จากคุณ : คาถาป้องกันแห้ว - [ 20 เม.ย. 51 23:34:12 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เกี่ยวกับฐานะครอบครัว มากกว่าเงินเดือนครับ คนเงินเดือน2หมื่น บางคนบ้านรวยเป็นร้อยล้าน บางคนต้องดูแลครอบครัวอีกหลายชีวิต จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน - [ 21 เม.ย. 51 00:26:19 ]

ความคิดเห็นที่ 18 5-10 เท่า  จัดงานแต่ง ยังไม่พอเลยพี่น้อง จากคุณ : i-sho - [ 21 เม.ย. 51 03:18:05 ]

ความคิดเห็นที่ 19 งานแต่ง น่าเบื่อครับ ไม่มีแหวกแนวแบบที่น้าเน็กบอกเลยเหรอ แต่ไอประเภท ในน้ำ บนฟ้า ฯลฯ รับไม่ได้ครับ- -'' จากคุณ : ซายูบิ - [ 21 เม.ย. 51 08:13:02 ]

ความคิดเห็นที่ 20 สงสัยนะครับ คนที่โหวตว่า 70-100 เท่าเนี่ย กะแต่งตอนอายุเท่าไหร่ครับ? จากคุณ : Nexus - [ 21 เม.ย. 51 08:37:31 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ผมรายได้ต่อเดือนหมื่นนิด ๆ แต่สินสอดว่าที่เจ้าสาวผม 1 แสน กับทอง 3 บาท ถ้ามีมากกว่านี้ ก็จะให้มากกว่านี้ ถึงคุณค่าของเขา จะตีเป็นตัวเงินไม่ได้ แต่ก็ต้องไม่น้อย จนน่าเกลียด เป็นหน้าเป็นตาให้พ่อแม่เขา และพ่อแม่ของเราด้วย จากคุณ : AW Milan - [ 21 เม.ย. 51 08:41:58 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เราว่ามันตีแบบนั้นไม่ได้หรอกค่ะ  อย่างอากงว่า 2หมื่นเนี่ย  บางคนรวยเป็นล้าน  แต่บางคนต้องดูแลทั้งครอบครัว  พ่อแม่พี่น้องปู่ย่าตายาย ฯลฯ แต่สำหรับเรานะ  เราดูเฉพาะตัวผู้ชายคนเดียวค่ะ  ถ้าสินสอด3ล้านแล้วต้องขอพ่อขอแม่นี่เราก็บ๊ายบายอะ  ขนาดมันจะเอาภรรเมียยังต้องขอเงินพ่อแม่เนี่ย  อีกหน่อยจะดูแลเราได้ยังไง แล้วอีกคนสินสอด3หมื่น  แต่เอาเงินเก็บตัวเอง  ค่างานแต่งก็ของตัวเองหมด  ไม่ขอใคร ไม่กู้หนี้ยืมสิน  เราเลือกคนนี้มากกว่านะคะ จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 21 เม.ย. 51 09:12:17 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เหมาะสมกับอะไรครับ ตัวแปรแต่ละคนไม่เหมือนกันนะ จากคุณ : Pixzz - [ 21 เม.ย. 51 09:22:59 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ทอง 10 บาท เงิน 4 แสน รวมแล้วก็ 5 แสน เกิน 10 เท่าไปโขเลย ถ้าเป้นแบบนี้ไม่ขอพ่อ ขอแม่ กว่าจะได้แต่ก็ 40 ปลายๆ จะ 50 นั้นแหละครับ จากคุณ : Ice-man - [ 21 เม.ย. 51 10:00:23 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ผมว่าน่าจะกำหนดเงื่อนไขให้แน่นกว่าในหัวข้อกระทู้หน่อย น่าจะหมายความว่า ถ้าสร้างเนื้อสร้างตัวเองไม่ต้องขอเงินพ่อ-แม่ จากคุณ : Nexus - [ 21 เม.ย. 51 10:09:06 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ระบบมนุษย์เงินเดือนอาจจะล่มสลายในรุ่นต่อๆไป ถ้าพ่อแม่หมดสมบัติ จากคุณ : อาจารย์แมว - [ 21 เม.ย. 51 10:33:15 A:125.24.131.194 X: TicketID:137077 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เงินสินสอดก็เหมือนตัววัดแหละครับ ว่าเราเก็บเงินได้พอจะสร้างครอบครัวรึยัง ไม่ใช่มีเงินเก็บแค่หมื่นแล้วอยากจะแต่งงาน อนาคตจะเหลือเหรอ ถ้าผมมีลูกสาวก็คงคิด ผมว่าสมัยนี้สักแสน-2แสนก็น่าจะเหมาะสม เพราะส่วนมากผู้ใหญ่เค้าก็ให้คืนเอาไปใว้ตั้งตัวกันแหละครับ รวมๆญาติมางานใส่ซองแล้วส่วนมากก็จัดงานฟรี ไม่ก็เหลือเงินอีกนิดหน่อยใว้ใช้อะครับ จากคุณ : โอพ่อพระ - [ 21 เม.ย. 51 10:48:34 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ของผม ค่าจัดงาน 1 แสน ค่าสินสอด 2 แสน + ทอง 10 บาท(ประมาณ 12 หมื่นในตอนนั้น 3 ปีที่แล้ว ) รวมๆ แล้ว จ่ายไป 5 แสนกว่าๆ.....กับเวลาจัดงาน 3 วัน สองคืน...T-T ... เก็บเงินตูมาตั้ง 10 ปีนะเฟ้ย...... เชื่อไหม ทุกวันนี้ ผมยังไม่รู้เลยว่าค่าจัดงานจ่ายอะไรไปเท่าไหร่บ้าง เพราะ แม่ยายเป็นคนจ่ายตังค์ ผมเป็นคนออกตังค์ (คนจ่ายไม่ได้ออก คนออกไม่ได้จ่าย)  ???? ซองก็ไม่ได้สักกะบาท แม่ยายเก็บหมด...?????? จบงานแต่ง เป็นหนี้บาน เพราะ รถต้องเอาไปเข้าไฟแนนซ์ โน๊ตบุ๊คต้องเอาไปขาย ทองต้องเอาไปจำนำ(ขายไม่ได้ของตระกูล) T-T เพิ่งจะมาหมดหนี้เมื่อต้นปีนี่เอง... พูดๆแล้ว ชีช้ำกะหล่ำปลี ???? แต่งสาวคนนึง ทำไมมันต้องใช้เงินเยอะขนาดนี้วะ....ทำงานเก็บเงินมาตั้งแต่ 18 - 28 ได้แค่ สามแสน+รถมือสอง 1 คัน มีลูกชายจะสอนลูกให้ดูแม่ผู้หญิงก่อนนะเว้ย...ว่าหน้าใหญ่ขนาดไหน ถ้าใหญ่มาก ก็ไม่ต้องเอา.. งานผมเลี้ยงตั้งหมู่บ้าน...40 โต๊ะ..แต่ใส่ซองคนละ 100 แถม 1 ซองมากิน 5 คนเท่ากับโต๊ะจีน คนละ 20 บาท....แม่ม...ถูกกว่ากินข้าวแกงปากซอยอีก.....แถมขนเหล้าเบียร์กลับไปคนละลัง ครึ่งลัง ????? กลองยาวนำขบวนแห่....จ้างมา 5 พัน ตีโป้งๆ 1 ชม.กลับ.....ผมบอกไม่เอา แต่ แม่ยายจะเอาให้ได้ กรรม...เงินตูนะเฟ้ย.... ทำงานเก็บเงินมาตั้งแต่ได้วันละ 160 บาท เงินน่ะมันหายาก...แต่ใช้น่ะมันง่าย(ก็แหง๋สิ ไม่ใช่เงินคุณแม่ยายทีหว่า) อย่าให้นึกเลย แค้น.......อะจ๊ากกกกกกกกกกกกกกก ปล. ผมไม่ได้ใช้เงินพ่อแม่ สักกะบาท เงินผม 100% ...อยากจะร้องไห้....กว่าจะเก็บได้ขนาดนี้...T-T แก้ไขเมื่อ 21 เม.ย. 51 11:03:44 จากคุณ : น้ำปลาเดือนห้า - [ 21 เม.ย. 51 11:01:55 ]

ความคิดเห็นที่ 30 นั่นแหละ  เราคิดเหมือนคุณน้ำปลาเดือนห้าค่ะ  แต่งงานสินสอดอะไรกันจะขนาดนั้น  ถ้าบอกว่าอยากให้ผู้ชายดูแลลูกตัวเองได้  ให้ผู้ชายเอาเงินก้อนนั้นไปลงทุน  หรือเก็บไว้เผื่ออนาคตดีกว่ามาละลายกับการแต่งงานแค่ไม่กี่วันน่ะ จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 21 เม.ย. 51 11:09:25 ]

ความคิดเห็นที่ 31 อืม......ชีวิตผมก็คงจะคล้ายๆ คุณน้ำปลาเดือนห้านะเนี่ย ต่างกันเพียงยังไม่แต่ง   ปีนี้กะถอยรถออกมาก่อน ไม่งั้นแม่ยายไม่ยกลูกสาวให้  หาว่าเอาลูกเค้า ไปตากแดดตากลม(บนมอไซค์) ........ ปีหน้าก็ต้องหาเงินสินสอดอีก.......... ขั้นต่ำแสนนึง maximum ไม่จำกัด .... ยังไม่รวมทองนะ  ยิ่งทองเดี๋ยวนี้ราคาไม่ใช่เล่นเลย .....แต่แถวบ้านผมดีกว่า นิดนึงตรงที่ค่าใช้จ่ายงานแต่งฝ่ายเจ้าสาวต้องออกเอง  เจ้าบ่าวขนสินสอดไปอย่างเดียว........... ปล...ถ้าไม่มีงานการเป็นหลักแหล่งสินสอดจะแพงกว่านี้อีก......เพราะแม่ยายกลัวลูกสาวจะอดตายซะก่อน เพราะเจ้าบ่าวไม่ีงานทำ จากคุณ : Dare More - [ 21 เม.ย. 51 11:32:57 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 21 เม.ย. 51 12:06:38 ]

ความคิดเห็นที่ 33 อืม เสียทั้งค่าสินสอด บางครั้งยังโดนพ่อตาแม่ยายด่าอีก ยังงี้พอได้แต่งงานไปแล้ว 4-5 ทุ่มเป็นต้นไปต้องเข้าห้อง.......คืนกำไรให้ตัวเอง อิๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : Up2Koo - [ 21 เม.ย. 51 12:45:37 ]

ความคิดเห็นที่ 34 คุณ น้ำปลาเดือนห้า น่าเห็นใจยิ่งนัก หนังคนละม้วนกับผมเลยครับ สินสอดให้แล้ว คืนให้ทุกบาททุกสตางค์ ขบงขบวนอะไร แม่เค้าไม่เอา แต่เราทำให้เป็นพิธี จัดงานโต๊ะจีน แม่ผู้หญิงบอกไม่ต้องเปลือง แต่เราก็จัด เพราะถือว่าชีวิตนึงครั้งเดียว ซองจัดการเองทั้งหมด ค่าใช้จ่ายทุกอย่างเราจัดการกันเองหมด อ่านของคุณแล้ว ชีวิตมันบัดซบได้ขนาดนี้เลยนะครับเนี่ย จากคุณ : [Zero] - [ 21 เม.ย. 51 12:59:06 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เคยเจอนะ พวกหน้าใหญ่เนี่ย จะแต่งลูกสาวเค้าต้องปิดตำบลเลี้ยง ล้มหมูคงไม่พอ ล้มวัวแถมไปด้วย สินสอดต้องไม่อายใคร เพราะเขยใหญ่เป็นถึงผู้กำกับ พี่สาวคนโตก็ครูมีหน้ามีตาในจังหวัด เขยรองเป็นผู้อำนวยการของรัฐวิสาหกิจ ลูกชายเป็นอัยการ เออ มีแต่คนใหญ่ ๆ โต ๆ ทั้งนั้น ไอ้ผมมันคนกระจอก แนวโน้มต้องทำมาหากินอีกนาน สุดท้ายก็เลิกดีกว่า เสียอารมณ์ ต่อหน้าเราบอกไอ้นี่ขยันเดี๋ยวก็ตั้งตัวได้ ลับหลังบอกมันจน จะเอามันทำไม ป่านนี้เธอยังไม่ได้แต่งเลยครับ สิบกว่าปีแล้วเนี่ย จากคุณ : p1800 the saint - [ 21 เม.ย. 51 13:40:30 A:124.121.149.228 X: TicketID:173976 ]

ความคิดเห็นที่ 36 อ่าน#29แล้วสยองมาก จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน - [ 21 เม.ย. 51 14:28:01 ]

ความคิดเห็นที่ 37 สะใจ คห 35 จากคุณ : nowkung - [ 21 เม.ย. 51 15:02:57 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ของอย่างนี้อยู่ที่ครอบครัวฝ่านหญิงอย่างเดียวเลยครับ - -* เห็นมาเยอะจากเพื่อนๆ พวกที่เจอแฟนที่เป็นคนไทยต่างจังหวัดนี่จะแย่สุดเพราะส่วนใหญ่เหมือนขายลูกสาวกินจริงๆ (ขอโทษที่เเหมือนจะเหมา) ถ้าได้เป็นสาวจีนนี่ส่วนใหญ่บ้านเจ้าสาวเค้าจะคืนสินสอดให้ไปตั้งตัว (แบบนี้มั๊งที่หนุ่มๆชอบหมวยๆ) จากคุณ : David7 - [ 21 เม.ย. 51 15:04:21 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ฉุด จากคุณ : time3957 - [ 21 เม.ย. 51 15:37:55 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เรารักกัน ชอบกันด้วยใจ ของอะไรไม่ต้องเอามาฝาก จากคุณ : fybye - [ 21 เม.ย. 51 15:41:36 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ผมไม่เคยเห็นด้วยกับพิธีการแต่งงานสมัยใหม่ของประเทศไทยเลย มันสิ้นเปลืองมากเกินไปจริงๆ จากคุณ : I Believe inTrue LoVe - [ 21 เม.ย. 51 15:52:58 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ตาม คห.38 เลยครับ...คนไทย ตจว. เป็นแบบผมจริงๆ....หน้าใหญ่ใจป้ำ ไอ้คนลูกเขยแทบจะสิ้นเนื้อประดาตัว ตรงข้ามกับ พี่สาวผม(เป็นเชื้อจีน) เป็น ทันตแพทย์ แต่งงานกับ วิศกรใหญ่ เขาให้ค่าสินสอด 3 ล้าน รถป้ายแดง 1 คัน บ้าน 1 หลัง...พ่อผมคืนให้หมดทุกบาทไม่เอาสักนิด...(T-T น่าจะแบ่งเศษๆมาให้ลูกชายใช้หนี้บ้างนะ ป๊า...จนจะแย่อยู่แล้ว..) คนจีน กับ คนไทย ต่างกันจริงๆ....ผมไม่ได้ดูถูกนะครับ แต่ ส่วนใหญ่เป็นแบบนั้นจริงๆ... จากคุณ : น้ำปลาเดือนห้า - [ 21 เม.ย. 51 16:23:25 ]

ความคิดเห็นที่ 43 เห็นพี่ๆ คุยกันแล้วน้องๆอย่างผมเสียวสันหลังเลย อีกไม่กี่ปีแล้วซะด้วยซิ ดีนะแฟนผม หมวย ใจชื้นขึ้นเยอะ - -' จากคุณ : matheus - [ 21 เม.ย. 51 16:31:39 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ยังไม่มีแฟน ฟังแล้วกลัวที่จะแต่งงานไปเลยนะเนี่ย -_-" จากคุณ : เกียงอุยศิษย์มังกรหลับ - [ 21 เม.ย. 51 17:19:51 ]

ความคิดเห็นที่ 45 -*- ยิ่งอ่านไปอ่านมา  ยิ่งโล่งอกที่เราเป็นผู้หญิงไทย ดีนะตรูไม่ได้เกิดอินเดีย  ไม่งั้นต้องเอาเงินไปขอผู้ชายแน่ จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 21 เม.ย. 51 17:26:24 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ตอนผมแต่ง ทองยังบาทละไม่ถึงห้าพันคับ สินสอดสิบหมื่น ก็แสนนึง ทองสิบบาท ก็ห้าหมื่น ทั้งหมดเนี่ย ช่วยกันหามาสองคนครับ เลยรักกันมาก ตอนนี้ก็ลูกสาวน่าชังน่าหยิกแก้มสามคนแล้วครับ สิบกว่าปีแล้วที่แต่งกันมา ทั้งนี้มันอยู่ที่ใจครับ ถ้าจะแต่งเอาหน้า ไปยืมญาติๆมาโชว์ก็พอได้อยุ่นะ จากคุณ : โลหการ4 - [ 21 เม.ย. 51 20:20:16 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ของผมโดนขู่ว่า เงินสดอย่างเดียว 2 ล้าน ทุกวันนี้กินแกลบอยู่เลย สงสัยต้องไปยืมหัวล้านๆ ของเพื่อนมาซัก 2 คน จากคุณ : ^oio^ - [ 21 เม.ย. 51 20:47:25 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เคยเห็นคนรวยจัดๆ เขาแต่งกันครับ น้องสาวเพื่อนผมเอง เรียกสินสอดเงินสด 24 ล้านบาท ทางผู้ชายก็จัดให้ ส่วนของผมแต่งกันตอนเกิน 30 แล้วทั้งคู่ ทางฝ่ายหญิงเขาก็ไม่เรียกสักบาทครับ เห็นว่ารักกันก็เลยยกให้ แต่ขี้งอนน่าดูเลยครับ ง้อมาเดือนกว่าแล้ว T_T จากคุณ : Forgive Me Na Ja - [ 21 เม.ย. 51 22:03:40 A:58.8.57.194 X: TicketID:173219 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เรื่องสินสอดนี่พูดยาก ถ้าแพงมากก็ไม่ไหว หรือชีวิตแต่งงานจะเริ่มต้นด้วยการเป็นหนี้ ตอนนี้เราใช้หลักเศรษฐศาสตร์ ดีมานด์-ซัพพลายอยู่  ของค้างสต๊อกนานๆ ราคาจะตก อิอิ จากคุณ : Murano - [ 21 เม.ย. 51 22:44:35 ]

ความคิดเห็นที่ 50 -0- อ่านแล้วโล่งใจขึ้นครับ แฟนผมเป็นอาหมวยอยู่เยาวราช ><" หุๆ  แต่กว่าจะไดแต่งอีก10กว่าปี-*- จากคุณ : rikusu - [ 22 เม.ย. 51 02:49:24 ]

ความคิดเห็นที่ 51 อ่านแล้วก็รู้สึกสยิวๆ เหมือนกัน สินสอดนี่พูดไม่ได้คายไม่ออก ตอนที่ผมกับแฟนตกลงจะแต่งงานกัน ผมก็คิดถึงเรื่องสินสอดเหมือนกันครับ ตอนนี้มีธุระกิจได้มาปีกว่าๆ แล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นกำไรเลย เอาไปจ่ายเป็นค่าจ้าง ภาษี ค่าช้จ่าย ค่าเช่า อะไรๆๆ ก็หมดแล้ว ส่วนเงินเก็บผมก็เป็นเงินที่ใช้หมุนเวียนในร้านนี่แหละครับ พอดีว่าเจ้าสาวผมร่างกายไม่ค่อยสบายเป็นโรคประจำตัว ไปหาหมอทีเสียเงินค่าหมอกับค่ายาก็ใช่ย่อยอยู่... ผมเองก็เป็นคนออกให้ตลอด ส่วนบ้านที่พักอยู่ก็เป็นคอนโดของผมกับเขา เราออกเงินซื้อร่วมกัน (แต่หลังๆ มาผมออกซะส่วนใหญ่ -____-' )   ปกติเงินหมุนเวีบนในธุระกิจก็เยอะอยู่แล้วเดือนนึงจ่ายเงินครึ่งล้าน เงินในกระเป๋าตัวเองก็ไม่ค่อยมี ธุระกิจก็กำไรนิดเดียว ตลาดแย่งกันสูง แทบไม่เหลือกำไร ทุกวันนี้ก็ขายกินไปวันๆ ถ้าจะไปขอสาวคงเสียเงินอีกหลายอยู่ แต่ตอนที่ไปหาพ่อตา คุยกับท่านแล้วท่านไม่เอาเงินสักแดงเดียว สินสอดก็ไม่ขอ .. แกบอกว่าดูแลลูกสาวแกดีแล้ว ขอให้อนาคต และปัจจุบันดูแลกันดีแบบนี้ รักกันดีแบบนี้ แล้วพ่อตาก็ไม่จำเป็นต้องเอาสินสอดแล้ว ซึ้งมากๆ ครับ โอ้ยดีจริงๆ พ่อตาเข้าใจเศรษฐกิจและสถานะการ ปล. พ่อตาเป็นเจ้าของโรงเรียนที่นึงใน กทม. ครับ ถ้าจัดงานผมคิดว่าคงหมดหลายบาทเหมือนกัน เพราะคนรู้จักแกเยอะ ----------------------------------------------------- ส่วนตัวแล้วผมก็ไม่ค่อยชอบใจกับการแต่งงานแบบไทยสมัยใหม่นะครับ เหมือนจะขายลูกสาวกิน บางบ้านก็หน้าใหญ่ แต่ไม่ดูสถานะตัวเองเลย จากคุณ : monixe (monixe) - [ 22 เม.ย. 51 08:01:29 ]

ความคิดเห็นที่ 52 เจ็บปวดหน่อยนะ  แค่อยากจะบอกว่า มนุษย์เรา ดูมีหลายอย่างเหมือนกัน แต่เอาเข้าจริง  ไม่เลย  คุณๆทั้งหลายก็รู้อยู่ว่ามีกลุ่มคนที่ มีความเป็นอยู่แบบเรา  เหนือกว่าเรามาก  เหนือกว่าเรามากๆ เหนือกว่าเรา มากๆๆๆ ด้อยกว่าเรา ด้อยกว่าเรามาก  ด้อยกว่าเรามากๆๆ  ฉะนั้น ไอ้เรื่องสินสอดนี่ ค่อนข้างเป็นเรื่องส่วนตัว ของสองครอบครัวนะ  เราถูกกำหนดให้อยู่ประมาณกลุ่มไหน ก็คงทำตามธรรมเนียมกลุ่มนั้น  ไอ้ครั้นจะเถียง ว่าคนเท่ากันหมด มันก็เท่าเฉพาะมีอวัยวะครบๆเท่ากันเท่า  นั้น อย่าทำเป็นมองไม่เห็น ว่ามันมีอยู่จริง  ไม่เชื่อก็ลองไปพลิกข่าวสังคม (กลุ่มหนึ่งดูเถอะ ) ว่าวันๆเขาสามารถทำ  อะไรได้บ้าง  ไม่ต้องอื่นไกล เดินทางไปต่างประเทศแล้วกัน  คนกลุ่มหนึ่งไปธรรมดาๆ ประหยัด ได้ไปก็สนุกแล้ว  คนกลุ่มหนึ่ง เงินพอมี ขอนั่งสบายหน่อยได้ไหม เก้าอี้กว้างกว่าหน่อย  คบกลุ่มหนึ่ง ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง ไม่ต้องการยุ่งกับใคร ก็สามารถ  เลือกเคบินส่วนตัว ดูทีวี ทำงาน คนเดียว  ที่เขียนมา ไม่เกี่ยวกับการแบ่งชนชั้นทางความคิดโดยตรง แต่มันคาบเกี่ยว  กันตรงที่ว่า ในความคิดเขา เขาสามารถทำได้โดยไม่เดือดร้อน  ทีนี้ถ้าคุณคิดจะไปขอลูกสาวบ้านที่เขาเกิดมาก็นั่งเคบินส่วนตัว หรือมี  เครื่องส่วนตัว คุณจะถามไหมว่ากี่เท่าของรายคุณ ที่เหมาะจะป็นค่าสินสอด  ไม่มีข้อกำหนดตายตัวว่าเท่าไหร่ แต่เป็นเรื่องของคุณสองคน สองครอบ  ครัวจริงๆ  บางคนไม่เรียกแม้แต่บาทเดียว แถมจัดการให้อีก บางบ้านก็ตรง  กันข้าม    ถ้ารักเขามาก คุณก็คงรู้ดีว่า ยอมได้ทั้งนั้น  แต่ที่พูดมากัน น่ากลัวจะยังไม่เคยรักใครแบบ อยู่ไม่ได้ถ้าไม่ได้เห็นหน้า  แม่เจ้าประคุณ ของคุณแน่ๆ  มันเปรียบกับเงินไม่ได้เลยครับ  ฐานะความเป็นอยู่ และ ฐานะทางสังคม เป็นตัวกำหนดอยู่มากครับ แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 51 08:11:47 จากคุณ : หนักก็วาง - [ 22 เม.ย. 51 08:09:33 ]

ความคิดเห็นที่ 53 คห.52 ออกความเห็นได้ตรงใจดี.. เรื่องค่าสินสอด มันจะเหมาะสมหรือไม่ มันก็ขึ้นอยู่กับ คนสองคน และครอบครัวสองฝ่ายตกลงกันเอง คุณตกลงที่จะใช้ชีวิตร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน ก็ปรึกษาตกลงกัน มันเอามาวัดไม่ได้หรอก คนเราไม่เหมือนกัน.... บางคู่อาจไม่ต้องมีสินสอด บางคู่ อาจมีร้อยล้านพันล้านแล้วแต่ หน้าตาบริบททางสังคม  แต่ไม่ใช่ไม่มีแล้วก็กู้หนี้ยืมสินมาตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ... จากคุณ : iamnid - [ 22 เม.ย. 51 11:05:39 ]

ความคิดเห็นที่ 54 เอ่อ สาวหมวยครอบครัวจีนไม่เรียกหนักจริงอ่ะครับ ^^ เผื่อไว้ ไม่โดนเรียกหนักๆบ้าง อิอิ พอดีไปรักสาวหมวยเข้าแล้ว ^^ จากคุณ : มิ่งกลิ้ง - [ 22 เม.ย. 51 11:39:04 ]

ความคิดเห็นที่ 55 รุ้แต่ว่าคนกรุงเทพฯ เรียกสินสอดที่ ระดับฐานะปานกลางนะ 1 ล้านบาท ไม่รวมทอง งานจัด เจอมากับตัว ทั้ง 3 เคส มีเพื่อนผม โดนเรียกอย่างนี้ทั้ง 3 คน เลย แต่งแบบชาวบ้าน หรือต่างจังหวัด เรียก 1 แสน นี่ หน้าใหญ่ทั้งบาง กรรม ของ หนุ่มกรุงเทพฯ จากคุณ : พระจันทร์สีฟ้า - [ 23 เม.ย. 51 15:27:11 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ก่อนจะประเมินเงินสินสอด ฝ่ายชายทำตัวให้เป็นคนดี เป็นที่น่าไว้ใจต่อว่าที่แม่ยายครับ ฝ่ายสาวก็พยายามช่วยเหลือฝ่ายชายโดยปรึกษากับฝ่ายชายก่อนว่าไหวแค่ไหน แล้วก็เชียร์ ๆ ว่าคนนี้คนดีให้แม่ยายประทับใจมากกว่าเรื่องเงินหรือหน้าตา ถ้ารักกันจริง มันต้องช่วยกันผ่อนหนักให้เป็นเบา ถ้าฝ่ายหญิง ไม่คิดจะช่วยพูดเลย ฝ่ายชายก็เตรียมใจไว้เลยครับ อนาคตของคุณอาจต้องต่อสู้กับชีวิตอีกนาน ดังนั้น เงินสินสอด มันเป็นแค่ฉากหน้า มันวางหลอกได้ แต่คุณล่ะ รักกันจริงหรือเปล่า ? จากคุณ : ปวดหาย - [ 30 เม.ย. 51 19:20:18 ]