Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    วิทยาศาสตร์กับศาสนา...ภัยเงียบต่อระบบการศึกษาไทยที่หลายคนมองข้าม

    (โปรดอ่านบทความนี้อย่างมีวิจารณญาณและเหตุผล ผู้เขียนได้พยายามเลือกใช้คำที่ไม่เป็นการกล่าวหาหรือใส่อารมณ์จนเกินไปแต่หากสำนวนอ่อนด้อย ล่วงละเมิดความรู้สึกของผู้ใดก็ขออภัยมาไว้ ณ ที่นี่ด้วย)


    ท่านๆเคยกันไหม...โหนรถเมล์อยู่ แดดร้อนเปรี้ยงปร้าง จักแร้คนข้างๆก็ส่งกลิ่นหึ่ง ทันใดก็มีเสียงพูดลอยขึ้นมา


    “น้องๆ คิดว่าชีวิตมาจากไหน ใครสร้างเราขึ้นมา” (ขออนุญาตใช้คำว่าน้องเพื่อไม่ให้ผู้เขียนรู้สึกว่าตัวเองแก่ แหะๆ)


    หรือเราอาจเห็นเด็กๆเล่นเกมการ์ดกันน่าสนใจ พอตามไปดูในเว็บของคนเล่นเกมการ์ดนี้ก็เจอข้อความแปลกๆอย่าง


    “วันอาทิตย์นี้เล่นการ์ดแล้วเข้าโบสถ์หรือยัง”
    “สนใจอยากพบสิ่งมหัศจรรย์ เชิญตามเข้ามาเว็บนี้”


    สิ่งเหล่านี้คือกลยุทธการเผยแพร่ศาสนาในปัจจุบันที่อาศัยสื่อหลากหลายทั้งปากต่อปาก เกมสำหรับเด็ก แผ่นพับ เว็บไซท์และไม่ได้เล็งที่ผู้ใหญ่อย่างเดียว


    "วาระซ่อนเร้น"ของการเผยแพร่ศาสนาไม่ได้จบลงที่วิธีการเท่านั้น ผลลัพธ์ซึ่งคนเหล่านี้คาดหวังยังอยู่ที่การบิดเบือนความคิดพื้นฐานในหัวสมองเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และตรรกะอีกด้วย (บ้านเรามักจะเป็นการสอนเด็กไม่ให้เชื่อในทฤษฏีวิวัฒนาการของดาร์วิน แต่ในอเมริกามีพาลถึงห้ามเชื่อวิชาธรณีวิทยา วิชาฟิสิกส์เลยก็มี)


    ถึงตรงนี้ต้องขอบอกไว้ก่อนว่าตัวคนเขียนไม่ได้คัดค้านการเผยแพร่ศาสนา เพราะประเทศไทยให้เสรีภาพในการนับถือศาสนาและตัวเองก็จบการศึกษาจากโรงเรียนแคทอลิก แต่ที่คนเขียนรู้สึกต่อต้านคือ”วาระซ่อนเร้น” ที่ใช้วิทยาศาสตร์กึ่งไสยศาสตร์มาสร้างความสับสน มันอาจปูทางให้การเปลี่ยนศาสนาทำได้ง่ายแต่ในระยะยาวเราจะเห็นเด็กที่มีความคิดติดอยู่ในกรอบ ไม่สามารถเปิดใจให้กว้างพอจะประสบความสำเร็จในโลกปัจจุบันได้


    คงไม่มีใครชอบหากมีคนมาบอกลูกๆท่านบ้างว่า “อย่าเชื่อทฤษฏีแรงโน้มถ่วงเลยนะ เพราะมีหลายจุดในเมืองไทยที่ถนนดูเอียงลงแต่พอจอดรถแล้วจะไหลขึ้น ทฤษฏีแรงโน้มถ่วงเป็นเรื่องโกหก มารับความจริงว่าปิศาจก๋วยเตี๋ยวยื่นเส้นสปาเก็ตตี้มาดึงวัตถุขึ้นลงกันดีกว่า”


    การก้าวก่ายเรื่องทางโลกด้วยคำสอนทางธรรมเช่นนี้เป็นอันตรายต่ออนาคตของวิชาวิทยาศาสตร์ แค่ตำรากระทรวงศึกษาไทยก็ล้าหลังพออยู่แล้ว หากนักเรียนจะต้องถูกตีกรอบด้วยแนวคิดแคบๆไม่เปิดกว้างต่อการพิสูจน์อีกจะยิ่งย่ำแย่


    คำว่า “หากคำสอนขัดกับหลักฐานและเหตุผล แสดงว่าหลักฐานนั้นผิด” อาจไม่ใช่เรื่องใหญ่ในไทยเหมือนอย่างอเมริกา(ซึ่งล่าสุดมีสารคดีเก๊แป๊กโรงเรื่อง Expelled ออกมากล่าวโทษทฤษฏีวิวัฒนาการอย่างมั่วซั่ว จนคนที่ดูแล้วบอกว่าดีมีแต่อนุรักษ์นิยมฝ่ายขวา) แต่ในโลกที่นับวันความขัดแย้งระหว่างศรัทธากับหลักเหตุผลลุกลามไปถึงเวทีการเมืองเช่นนี้ผู้เขียนเห็นว่าเราควรกำหนดเส้นแบ่งทางโลกและทางธรรมให้ชัดเจน เพื่อโลกที่เทคโนโลยีอยู่ร่วมกับความคิดทางจิตวิญญาณได้อย่างสงบสุข


    ฉะนั้นเราในฐานะของผู้ที่ “รับการเผยแพร่” ไม่ว่าผู้ปกครองหรือเด็กนักเรียนควรสรรหาความรู้ซึ่งจะช่วยแยกข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์เพื่อหักล้างเพื่อให้คนที่เข้าใจผิดไม่เอาไปบอกต่อคนอื่น ถ้าเป็นไปได้ก็พยายามชักจูงอีกฝ่ายให้ยกระดับการถกเถียงไปอยู่ในกรอบของจิตวิญญาณอันเป็นหัวใจแท้จริงของศาสนา ผู้เขียนคิดว่าคนเราหากจะเลือกศรัทธาสิ่งใดสิ่งหนึ่งก็ควรจะเพราะหัวใจ ไม่ใช่เพราะสมองถูกปั่นป่วนด้วยสิ่งที่อ้างตนเป็นวิทยาศาสตร์แต่ไร้หลักฐานพิสูจน์


    ในกรณีที่อีกฝ่ายไม่ต้องการยอมรับและพยายามโน้มน้าวโดยเสนอมุมมองวิทยาศาสตร์แปลกๆ(ซึ่งร้อยทั้งร้อยมักเป็นการโจมตีทฤษฏีวิวัฒนาการและผลักดันความเชื่อพระเจ้าสร้างโลก) ให้กับเรา ผู้เขียนขอแนะนำคำตอบง่ายๆให้กับข้ออ้างที่คล้ายๆกันจนเหมือนถูกโปรแกรมมาดังนี้

    จากคุณ : The Repentant - [ 2 พ.ค. 51 23:12:18 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom