PANTIP.COM : X6673011 นักข่าวเนชั่นทีวีมั่วสุดๆ.. [วิทยาศาสตร์]

ความคิดเห็นที่ 3

ข่าวสารบ้านเมือง และทิศทางของประเทศ อาจมีคนบางกลุ่ม อิจฉาตาร้อน รับไมได้กับบทความนี้ แล้วก็กดไฟแดงได้ 555

นับเป็นลีลาเคลื่อนไหวที่ค่อนข้างคึกคัก เหมือนนักฟุตบอลที่ฟิตสุดๆ สำหรับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กับภารกิจโหมดึง 'ต่างชาติ' เข้ามาลงทุนทางเศรษฐกิจในเมืองไทยในช่วงเวลาที่ผ่านมา ที่ต้องบอกว่า คึกคักมากๆ เพียงไม่ถึงเดือน บนกระแสความเคลือบแคลงของหลายฝ่าย ว่า นี่เป็นเจตนาบริสุทธิ์ที่ต้องการดึงเม็ดเงินจากต่างชาติเข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ หรือมีวาระซ่อนเร้นใดๆ ที่คนไทยจะนอนหลับไม่รู้ นอนคู้ไม่เห็นหรือไม่

โดยเฉพาะการทำตัวเป็นจิ๊กซอว์ ดึงไทยเข้ากับการลงทุนของกองทุนต่างชาติระดับมหึมหา ระดับกองทุนของสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ หรือกองทุนของซาอุดิอาระเบีย ในฐานะ 'โบรกเกอร์' หรือคนกลางที่พยายามแปลงสินทรัพย์ หรือสมบัติในประเทศชาติในเมืองไทยให้เป็นทุน? โดยช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเด็นที่ร้อนสุดคงหนีไม่พ้นเรื่องข่าวการดึงกองทุนซาอุดิอาระเบีย เข้ามาดูกิจการข้าวในจ.สุพรรณบุรี ดึงดูดกระแสโจมตีจากหลายฝ่ายว่า ทักษิณมีแผนจะดึงกองทุนดังกล่าวให้เข้ามาลงทุนซื้อ 'พัฒนา' พื้นที่นาของคนไทยก่อนที่โฆษกบิ๊กแม้วจะแก้ต่างว่า เป็นเรื่องเข้าใจผิด เพราะจริงๆ แล้ว แค่ต้องการจะให้แขกซาอุฯ เข้ามาดูกิจการทำข้าวในเมืองไทย เพื่อดึงดูดการซื้อข้าวจากบิ๊กประเทศโอเปกรายนี้

ล่าสุด ชื่อของทักษิณไปโผล่ที่อินโดนีเซีย กับข่าวคราวเล็กๆ ในอินโดนีเซีย ประะเทศเพื่อนบ้าน ว่า นายดิโน ฟัตติ ดาจัลลัล โฆษกประธานาธิบดีอินโดนีเซีย บอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้สนใจที่จะลงทุนในอินโดนีเซียเพราะเห็นว่าอินโดนีเซียมีการเมืองที่นิ่ง และอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ดี เขารู้สึกประทับใจกับเศรษฐกิจอินโดนีเซีย และว่า เขายังได้มีโอกาสพบปะเป็นการส่วนตัวกับประธานาธิบดีสุสีโล บัมบัง ยุดโฮโยโน ด้วย ซึ่งทั้งสองล้วนมีความสัมพันธ์ที่ดี และยังคงติดต่อไปมาเป็นระยะๆ

หากจะว่าไปแล้ว แผนดังกล่าวถือว่าน่าจับตามองอย่างมาก โดยเฉพาะการเจรจากับประเทศต่างๆ เพื่อต้องการเข้าไปลงทุนในกิจการของแต่ละประเทศ ที่เกิดขึ้นอย่างคึกคักเพียงช่วงไม่ถึงเดือน โดยเมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายน รัฐบาลกัมพูชาได้เปิดแผนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ วางแผนจะพัฒนาเกาะกงเป็นเมืองทันสมัย ซึ่งติดชายแดน 'Modern city' ด้วยการลงทุนกับนักลงทุนรายอื่นๆ ของไทย แต่ไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเงินลงทุนดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม โฆษกระบุว่า แผนลงทุนพัฒนาเกาะกงดังกล่าวจะรวมทั้งศูนย์การเงิน, โรงพยาบาล,โรงเรียน และที่พักอาศัย รวมทั้งจะใช้ท่าเรือสำหรับเรือต่างๆ ที่ได้รับการซ่อมแซมด้วย

ขณะที่นายฮุนเซน ผู้นำกัมพูชาได้แต่ยิ้มแก้มปริ แสดงความยินดีต่อแผนลงทุนดังกล่าวของ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยเขาขอให้ทักษิณร่วมงานดังกล่าวกับสภาพัฒนากัมพูชาด้วย

สำหรับเกาะกงนั้น ได้กลายเป็นจุดสนใจเนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางไปพบสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ทำให้เกิดกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะไปติดต่อขอเช่าเกาะกง เพื่อลงทุนทำเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ รวมถึงกาสิโนด้วย

ขณะที่รายงานระบุว่า เกาะกง เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพในเรื่องของการท่องเที่ยวของกัมพูชา เพราะมีความสวยงามเหมือนเกาะฟูก๊วก ประเทศเวียดนาม และเกาะช้าง จ.ตราด รวมทั้งมีพื้นที่ป่าไม้ที่อยู่ในเทือกเขาพนมกระวานที่ยังอุดมสมบูรณ์ทั้งป่าไม้และสัตว์ป่า โดยยูเนสโกได้ประกาศเป็นพื้นที่อนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า คล้ายกับทุ่งใหญ่นเรศวรของไทย และยังเป็นแหล่งต้นน้ำขนาดใหญ่ มีแม่น้ำหลายสายไหลผ่าน

นอกจากนี้ ในปัจจุบันเกาะกงมีนักลงทุนไทยและชาวออสเตรเลีย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เข้าไปศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าป้อนประเทศกัมพูชา และนำน้ำมายังพื้นที่อิสเทิร์นซีบอร์ดของไทย นอกจากนี้ ตามแผนแล้ว รัฐบาลกัมพูชาได้พยายามผลักดันให้ จ.เกาะกง เป็นแหล่งเศรษฐกิจพิเศษของประเทศ เพื่อดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศมาลงทุน หลังจากถนนสาย 48 สร้างแล้วเสร็จ

ปฎิบัติการรุกดึงกองทุนต่างชาติลงทุนในเมืองไทยและในประเทศอื่นๆ ของทักษิณ ถือว่าดำเนินไปอย่างตรงๆ และไม่อ้อมค้อม โดยเมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา และน.ส.ศันสนีย์ นาคพงษ์ โฆษกส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้นำ สุลต่าน อะห์เหม็ด บิน สุลาเย็ม ประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัทดูไบ เวิลด์ (Dubai World) เข้าพบนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีไทย เพื่อหารือเรื่องความต้องการของกลุ่มฯ ซึ่งมีเจตนารมณ์จะเข้าลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังระบุด้วยว่า นายกฯสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ ก็มีความสนใจจะมาเยือนเมืองไทยโดยตรง!

ก่อนจะที่มีการเปิดเผยออกมาว่า รัฐบาลสมัครให้อนุญาตให้กลุ่มบริษัทดูไบ เวิล์ด ศึกษาความเป็นไปได้ในการโครงการพัฒนาท่าเรือฝั่งทะเลอันดามัน และสะพาน เศรษฐกิจเชื่อมโยงท่าเรือฝั่งอ่าวไทย (แลนด์บริดจ์) ในลักษณะการศึกษาแบบ 'ให้เปล่า'

'ดูไบยังได้แสดงเจตนารมณ์ ที่จะเข้ามาลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยเพิ่มขึ้น เพราะเห็นว่าการพัฒนาของประเทศไทยในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา เมื่อเปรียบเทียบกับหลายประเทศแล้ว ประเทศไทยมีการพัฒนามาตลอด โดยเฉพาะด้านโครงสร้างพื้นฐาน' นายพงศ์เทพ กล่าว และว่า สุลต่าน อะห์เหม็ด บิน สุลาเย็ม แจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบว่า นายกรัฐมนตรีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีความประสงค์จะเดินทางมาเยือนประเทศไทย ซึ่งนายสมัครยินดีต้อนรับ และยังได้ขอบคุณรัฐบาลไทย ที่ให้กลุ่มบริษัทดูไบ เวิลด์ ศึกษาความเป็นไปได้ในโครงการพัฒนาท่าเรือฝั่งทะเลอันดามัน และสะพาน เศรษฐกิจเชื่อมโยงท่าเรือฝั่งอ่าวไทย (แลนด์บริดจ์) ซึ่งเป็นการศึกษาในลักษณะ 'ให้เปล่า'

อย่างไรก็ตาม นายพงษ์เทพได้ปฎิเสธว่าเรื่องนี้มีวาระซ่อนเร้นทางการเมือง โดยชี้แจงว่า ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ได้พยายามชักชวนนักลงทุนให้มาลงทุน โดยเฉพาะการลงทุนระยะยาว ที่จะเป็นประโยชน์กับประเทศไทย ถึงแม้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะไม่มีหน้าที่อะไร แต่ถือเป็นคนไทยคนหนึ่ง ที่อะไรทำเพื่อประเทศชาติได้ก็จะทำ จึงได้ชักชวนนักลงทุนให้มาลงทุนในประเทศไทย เพราะเห็นว่าเป็นประโยชน์กับประเทศไทย

ขณะที่มีกระแสข่าวแว่วมาด้วยว่า โครงการสะพานเชื่อมเศรษฐกิจ หรือ แลนด์บริดจ์ เชื่อมฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทย ได้ให้ผลประโยชน์แก่รัฐบาลสมัครอย่างสูง หลังจากที่ ดูไบ เวิลด์ แห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้เงินสนับสนุนถึง 200 ล้านบาท ศึกษาความเป็นไปได้

แน่นอนที่สุด ท่าทีเหล่านี้ย่อมไม่พ้นที่ดึงดูดให้หลายฝ่ายต้องจับตาการขยับหมากเกมลงทุนทางเศรษฐกิจของทักษิณ ว่าจะไปไกลแค่ไหน และใครจะตกเป็นเป้าหมายแผนลงทุนที่น่าเคลือบแคลงนี้ โดยเฉพาะเมืองไทย กับบทบาทการเป็น 'โบ๊กเกอร์' ของกองทุนต่างชาติของคนชื่อ 'ทักษิณ' ที่พร้อมสร้างเกมหว่านเม็ดเงินลงทุนมายังไทยและประเทศอื่นๆ เพื่อให้ประโยชน์แก่กองทุนต่างชาติในฐานะ 'ทูตล็อบบี้ทางการค้า' รวมทั้งเพื่อประโยชน์ (ทางการเมือง) ส่วนตัว! หรือไม่?

ภาพ : คม ชัด ลึก

จากคุณ : วิญญานพเนจร - [ 4 มิ.ย. 51 11:17:36 A:202.62.105.155 X: TicketID:177078 ]