ความคิดเห็นที่ 1 มีกันทุกคน ไม่มากก็น้อย อยู่ที่การฝึกฝนด้วย มีโอกาสก็อยากไปทำนะ ได้ลองอะไรใหม่ๆ จากคุณ : บ่าวจ่อย - [ 9 มิ.ย. 51 20:36:02 ]

ความคิดเห็นที่ 2 คำนวนดีมั้งคะ จากคุณ : งุนงง - [ 9 มิ.ย. 51 20:36:49 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เพื่อนผมวิศวะหลายคนก็ไปเรียนต่อไฟแนน การงานก็รุ่งดี จากคุณ : Chaos dragon - [ 9 มิ.ย. 51 21:09:31 ]

ความคิดเห็นที่ 4 วิศวกร จะชอบถูกสอนให้มองแบบ องค์รวม  มองแบบ อัลกอริทึม เชื่อมต่อกันเป็น process ครับ ดังนั้นจะมีบางคนที่ จะเปลี่ยนจากการมุมมองมามองพวกตัวเงิน หรือ ธุรกิจ ก็ไม่ใช่เรื่องยากครับ อธิบายง่ายๆคือ มอง องค์รวมเห็นปัญหา แล้วเข้าไปแก้ ตรงจุด ที่สำคัญ  มองแบบ Input Output.. และ Prob.. สำหรับบางคนนะครับ ถ้าถามว่า เรียนบริหารกับการเงินรุ่งหรือเปล่า วิศวกรพวกที่ชอบทาง specialist อาจจะไม่รุ่งทางด้านนี้ แต่ถ้าเป็นพวกชอบรุปแบบ Network ทำด้านนี้ ส่วนตัวคิดเขาว่าสามารถไปทางนี้ได้ดีครับ แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 51 11:17:10 จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า - [ 9 มิ.ย. 51 21:13:04 ]

ความคิดเห็นที่ 5 คือกระผมสงสัยว่าทำไม เราถึงมีสิ่งพวกนี้ บางคนมองปัญหาไม่ออกแต่พวกวิศวะมองออก 1.วิชา ที่ร่ำเรียน 2.บุคลิกนิสัย 3.ของเล่นที่พ่อแม่ให้เล่นแต่เด็ก (เพื่อนผม เล่นตัวต่อเลโก คอมพิวเตอร ชุดก่อสร้าง ต่อวงจรไฟเล่น ตั้งแต่เด็ก) 4.วิชาที่ยาก+ข้อสอบที่ยาก อาจารย์สอนไม่รุ้เรื่อง เลยต้องศึกษาเอง จากคุณ : azimuth89 - [ 9 มิ.ย. 51 21:16:40 ]

ความคิดเห็นที่ 6 มี อง จากคุณ : Mr.Odwa - [ 9 มิ.ย. 51 21:37:25 ]

ความคิดเห็นที่ 7 .........คือ เรื่องการคำนวณและตรรกกะนี่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าวิศวกรนั้นไม่เป็นรองใครครับ      แต่ด้วยสายงานในอาชีพนี้มี 2 ทางเลือก คือ 1.คำนวณความต้องการออกมาเป็นตัวเลข  หรือ  2.ต้องเอาตัวเลขมาวิเคราะห์เพื่อหาทางออกครับ   ดังนั้นการวิเคราะห์จากตัวเลขนั้นอยู่ในสายเลือดเลยก็ว่าได้ครับ    เหมือน สถาปนิกบางคนที่ทำงานในวงการบันเทิงนั้นแหล่ะ เขามีไอเดียดีๆ ที่ขายได้ไงครับ เพราะตอนเรียนเขาถูกสอนมาให้คิดสร้างสรรค์เพื่อให้อาจารย์ เอ้ย!...ลูกค้าพอใจครับ         บางบริษัทที่เคร่งๆ เครียดๆ หน่อย จะทำอะไรก็จะเอาตัวเลขมาพิจารณาก่อนเสมอครับ (น่าเบื่อจริงๆ) จึงจะเริ่มพูดคุยกันในเรื่องนั้นๆ จากคุณ : arm_cc - [ 9 มิ.ย. 51 21:37:45 ]

ความคิดเห็นที่ 8 รู้จักรุ่นพี่คนนึงเหมือนกันนะ ย้ายจากอาจารย์วิศวะไปเป็นอาจารย์เศรษฐศาสตร์ เห็นว่าเจริญรุ่งเรื่องดีเชียวล่ะค่ะ จากคุณ : เพราะฉะนั้นฯ - [ 9 มิ.ย. 51 21:40:30 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เบื่อไหม พวกชอบ ชมตัวเอง จากคุณ : BOSS - [ 9 มิ.ย. 51 21:42:31 A:58.64.61.4 X: TicketID:132694 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สายบริหารส่วนใหญ่จะมาจากระดับ ปวช ปวส ครับ ซึ่งการสอนของทางสายนี้จะเน้นหลักการและทฤษฎีต่างๆเต็มไปหมดเลย... เช่น  Dr  Cr กันตายตัวตลอด รับเงินสด ก็ต้อง เดบิตเงินสด จ่ายเงินสดก็ต้องเครดิตเงินสด เลยทำให้เป็นการท่องจำกันไปซะส่วนใหญ่ นำมาใช้จริงได้ไม่เต็มที่..... แต่กลับกันหากจบวิศวะหรือวิทยาศาสตร์หรือคณิตศาสตร์ ซึ่งมีการสอนแบบสอดแทรกแนวคิด วิธีการและใช้ไหวพริบมากกว่าทางสายอื่นๆ... เลยทำให้เอาความรู้นั้นมาผลิกเล่นได้มากกว่า... อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับบุคคลด้วยแหละครับว่าสามารถนำมาใช้ได้ขนาดไหน และก็ไม่ได้หมายความว่าสายมัธยมจะเก่งกว่าสายอาชีวะนะครับ.... จากคุณ : Cocopok - [ 9 มิ.ย. 51 21:53:52 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ก้อฟังเค้าเล่ามาาา นะครับ กระผมเองไม่เซนส์ หรอกครับ ก้อคงจะเป้นเฉพาะบางคน จากคุณ : azimuth89 - [ 9 มิ.ย. 51 21:58:50 ]

ความคิดเห็นที่ 12 พวกเศรษฐมิติชั้นสูง มันก็คือmathดีๆนี่แหละครับ ผมเห็นวิศวะบางคนต่อโทด้าน econ ไปรุ่งกว่าคนจบสายตรงอีก จากคุณ : [win] - [ 9 มิ.ย. 51 22:09:17 ]

ความคิดเห็นที่ 13 วิศวะเราถึกและทน จากคุณ : Omkoy - [ 9 มิ.ย. 51 22:09:40 ]

ความคิดเห็นที่ 14 มีมหาลัยไหนในไทยเปิดสาขา Financial Engineering รึยังล่ะครับ ที่เมกาฮิตมากตอนนี้ บริษัทดังๆ จองตัวกันตั้งแต่ปีหนึ่ง จากคุณ : praphrut608 - [ 9 มิ.ย. 51 22:23:46 ]

ความคิดเห็นที่ 15 หึๆ จากคุณ : Jump.Jr - [ 9 มิ.ย. 51 22:30:54 ]

ความคิดเห็นที่ 16 หึๆๆๆ ปล.มองไปสมัย 40-50 ปีก่อน ของยิ่งแรงครับ . . . จากคุณ : ไม่มีสมาชิกชื่อนี้ - [ 9 มิ.ย. 51 23:12:09 ]

ความคิดเห็นที่ 17 แหม ก็ขนาดในวงการเค้ายังมีคำว่า  re engineering เลยนี่นะ  รับวิศวะจะเป็นไรไป หุ หุ จากคุณ : Pixzz - [ 9 มิ.ย. 51 23:56:29 ]

ความคิดเห็นที่ 18 dna จากคุณ : มิ้นๆ (mint_la) - [ 10 มิ.ย. 51 00:27:06 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เคยทำงานร่วมกันกับชาววิศวะในระดับบริหารขององค์กรธุรกิจแห่งหนึ่งครับ ยอมรับว่าทักษะในการคิด วิเคราะห์คำนวนโจทย์คณิตศาสตร์ที่ยุ่งยากซับซ้อน เราสู้ชาววิศวะไม่ได้จริงๆ แต่นอกจากนั้น "แม้ท่านเป็นจิ้งจอก และข้าพเจ้าเป็นลูกแกะ แต่คงยากที่ท่านจะกินเราได้ หากเดินเข้ามาในทางของเรา" จำสำนวนมาจากนิยายจีน คุ้นๆ ป่ะ ..อิอิ ปล. เทพชาววิศวะที่เข้ามารุ่งในสายงานไฟแนนซ์ ที่โด่งดังมากคือคุณมนตรี ศรไพศาล ครับ จากคุณ : Piggie MM - [ 10 มิ.ย. 51 00:47:06 ]

ความคิดเห็นที่ 20 พวกสายวิทย์แล้วไปเลือกเรียนทางสายบริหารหรือการเงินวิเคราะห์นี้ ทำได้อย่างสบายๆ เผลอๆจะทำได้ดีกว่าพวกเรียนมาโดยตรงด้วยซ้ำ เพราะสายวิทย์เค้าสอน การวิเคราะห์ปัญหา การคิดที่เป็นระบบ และจินตนาการ ทำให้วิเคราะห์อะไรที่ซับซ้อนได้ดี และเรียนรู้ได้เร็ว เพราะโดยตัวเองก็มีไหวพริบพอสมควรถึงเรียนมาทางสายวิทย์ได้ ถ้าจะปรับตัวเองไปใช้ในอีกด้าน ก็ไม่น่าจะมีปัญหา หากได้รับการ train ที่ดี จากคุณ : !!! - [ 10 มิ.ย. 51 02:48:20 A:58.64.90.117 X: TicketID:172964 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ผมเคยเรียนวิศวะไฟฟ้าพระจอมที่นึงไป2ปี ซิ่วมาบริหารfinance เอกชน ยอมรับเลยว่า คุณภาพเด็กแต่แรกก็ต่างกันมากแล้ว ทั้งด้านความกระตือรือร้นในการเรียน ตรรกะวิธีคิด ทักษะการคำนวนนี่สุดๆ เลยความแตกต่าง อย่าว่าแต่ย้าย จากวิศวะรัฐมาเอกชนเลย แค่ วิศวะ กับวิทยา ที่ ที่ผมเคยเรียน เด็กวิศวะดรอป เคมีไปเรียนพรอ้มเด็กวิทยา กลับได้Aอย่างง่ายดายกันส่วนใหญ่ แต่ก็มีหลายอย่างที่วิศวะไม่รู้ และถ้าไม่หัดเรียนรู้ในอีกด้านจะเปิดใจรับได้ยาก อย่างเรื่องการตลาด เหมือนเป็นศิลป์ มากกว่าศาสตร์ กับเรื่องบัญชี ที่ผมเกลียดมากเลยตอนแรกๆเพราะไม่เข้าใจเรื่องแบบแผน แต่พอรู้แล้วก็เออ มันก็ถูกแล้วนี่ จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน - [ 10 มิ.ย. 51 08:43:44 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ห้องนี้มีแต่วิศวะ ตั้งกระทู้ชมแบบนี้ มีหรือจะปฏิเสธ ..... คนเรามักมี ความลำเอียง เข้าข้างตัวเอง หรือ พวกตัวเอง กันทั้งนั้น.... น่าจะมีคนมาตั้งกระทู้ว่า "เห็นรุ่นพี่สื่อสารฯ เปลี่ยนสายไปทำงานด้านคอมพิวเตอร์กราฟฟิก CG และอนิเมชั่น เค้าบอกว่า เด็กนิเทศมีเซนส์ในการทำงานระบบคอมพิวเตอร์กราฟฟิกดี -*- " ผมก็จะเข้ามาตอบว่า (ในฐานะเด็กสื่อสาร) ใช่ครับ ส่วนใหญ่เด็กสื่อสาร ถ้าเปลี่ยนสายไปแล้วก็ทำงานได้ค่อนข้าง เมพ น่ะครับ ขอบอกว่า......ไม่เกี่ยวว่าจะเรียนสายอะไรมาครับ  แต่มันเผอิญว่า เด็กที่ีเรียน วิศวะ หมอ เภสัช สถาปัตย์ บัญชี มักจะ "เก่ง" กว่าคนปรกติอยู่แล้วครับ คนเก่ง ทำอะไร มันก็ดีไปหมด เพราะ เขาจะรู้จักปรับปรุงการทำงานให้ดีและเหมาะสมที่สุดครับ ต่อให้ไปขายส้มตำ ก็ รุ่ง ครับ... จากคุณ : น้ำปลาเดือนห้า - [ 10 มิ.ย. 51 09:07:41 ]

ความคิดเห็นที่ 23 โรงงานใช้ให้ไปเรียน MBA เพราะ วิศวะรู้แต่เทคโนโลยีอย่างเดียวไม่ได้ต้องรู้เรื่องการบริหาร การเงิน การตลาดขององค์กรด้วย ต้องเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยไง ดูง่ายๆ การเมือง เศรษกิจ ในประเทศ น่ะเป็นยังไง ใช้คนก็ต้องใช้ให้เป็น ใช้ได้ทุกอย่าง ถึงจะคุ้มค่าจ้าง จากคุณ : เอ้ (aeengi) - [ 10 มิ.ย. 51 10:41:58 ]

ความคิดเห็นที่ 24 สภาพสังคม เศรษกิจ ในประเทศเรา ไม่สนับสนุนให้วิศวกรเป็น specialist พอเข้าสู้ระบบโรงงานวิศวกรก็จะถูกปั้นให้เป็น generalist ภายในสองปี แถมอาจารย์บัญชีธรรมศาสตร์มาบอกว่า Engineering+MBA = Perfect Combination คนที่จบวิศกรก็เลยเปลี่ยนสายงานไปเกือบหมด ประเทศเราก็เลยขาดวิศกรที่เป็นนักพัฒนา ก็เลยกลายเป็นผู้ใช้และผู้ซื้อเทคโนโลยี หรือ ไม่ก็เป็นแค่รับจ้างผลิต ทุกคนมีสิทธิเลือกที่จะสร้างความร่ำรวย มั่นคง ให้กับตัวเอง แต่อยากให้ช่วยนึกถึงความมั่นคงของประเทศเราด้วยเพราะอาชีพวิศวกร คือสิ่งที่คุณเลือกเมื่อสี่ปีก่อน เงินภาษีของผม ของพ่อแม่คุณ ก็ด้วย ไม่ผิดที่จะเลือกใหม่ แต่ช่วยนึกถึงความมั่นคงของประเทศด้วย สุดท้ายก็คงย้อนกลับไปที่ย่อหน้าแรกที่ผมพิมพ์ว่าสภาพสังคม เศรษกิจ ในประเทศเรา   ไม่สนับสนุนให้วิศวกรเป็น specialist อาจจะไม่ใช่ทั้งหมด ยังขึ้นอยู่ที่ตัวคุณด้วยว่าเลือกจะทำอะไรต่อไป อ้อ มีคนเคยถามผมว่า จะเรียนต่อ บัญชี บริหาร เศรษศาสตร์ ดีมั้ย ก็ตอบไปว่าดีถ้าชอบแต่ควรทำงานในสายวิศกรรม ไปก่อนแล้วจะไปเรียนตอนอายุสามสิบก็ไม่สาย สารภาพเลยว่าผมอยากเรียนโท เศรษศาสตร์แต่คงเรียนตอนอายุสามสิบขึ้นไปแล้ว ขอบคุณสำหรับคนที่อ่านจนจบแล้วเก็บไปคิด ถ้าอ่านแล้วงงๆ ต้องขอภัยด้วยปกติผมไม่ค่อยได้ตอบกระทู้ยาวๆในลักษณะนี้ แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 51 13:09:34 จากคุณ : mancunian - [ 10 มิ.ย. 51 13:04:37 ]

ความคิดเห็นที่ 25 แม้แต่จะให้คิดว่า จะคอรัปชันได้ยังไง คำตอบในสมองยังพรั่งพรูเลยครับ เทพ กับ มาร เปลี่ยนได้แค่ใจวูบเดียว จากคุณ : อั๋น ทรงวุฒิ - [ 10 มิ.ย. 51 13:12:17 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เห็นด้วยกับ คห.24 วิศวกรบ้านเราโตในสายงานยากครับ ถึงจุดหนึ่งก็ต้องเปลี่ยนสายไปด้านบริหาร ใครยังเป็นวิศวกรอยู่ยันอายุ40กว่า ก็อาจถูกมองว่าไม่ก้าวหน้า เคยเจอคนญี่ปุ่นมาติดตั้งเครื่องจักรที่เมืองไทย เขาบอกว่าเขาทำด้านนี้มาตั้งแต่สมัยหนุ่มๆ(set upเครื่องจักร เขียนโปรแกรมควบคุม) จนอายุ50กว่าแล้วก็ทำด้านนี้มาตลอด เท่าที่เห็นเขาก็เก่งมากมาย จากคุณ : Dead Drunk - [ 10 มิ.ย. 51 13:44:17 ]

ความคิดเห็นที่ 27 สายวิศวกร โตไปแล้วก็ตัน สายบริหาร บินไปได้เรื่อยๆ จากคุณ : ก้นกบ - [ 10 มิ.ย. 51 14:21:57 ]

ความคิดเห็นที่ 28 คห.24 ถ้าคุณมองแบบนี้ก็เหมือนกับความคิดของสังคมไทยส่วนใหญ่ครับ รอวันที่จะมีคนอื่นมาช่วยพัฒนาประเทศ โดยที่ตัวเองได้แต่บ่นว่า คนเก่งๆไปไหนหมด คนที่แย่งที่เรียนของพวกคุณในวัยเด็กๆหายไปไหนหมด เงินภาษีที่คุณจ่ายไปสนับสนุนเด็กเหล่านั้นให้เรียนจบมาไปไหนหมด เคยคิดไหมว่า แม้แต่เกษตรกร หรือชาวนาก็มีส่วนในการพัฒนาประเทศทั้งนั้น การที่คนเราจบมาทำงานนอกสายงาน แต่ยังสร้างรายได้ให้กับครอบครัว เลี้ยงตัวเองได้ พัฒนาประชากรประเทศให้เป็นคนมีคุณภาพ แบบนี้ก็ล้วนเป็นประชากรชั้นดีของประเทศ นำพาประเทศให้พัฒนาได้ครับ หลายต่อหลายคนก็เป็นประชากรชั้นเลว การศึกษาต่ำ ค่าครองชีพต่ำ ติดหวย ติดพนัน ติดยา มีลูกหลานก็เลี้ยงไม่ได้เกิดเป็นปัญหาสังคมวนเวียนอยู่อย่างนี้ต่างหากคือพวกที่ทำให้ประเทศไม่พัฒนาจริงๆ ที่จะหนักจริงๆคือพวกงอมืองอเท้าคิดแต่ว่า ทำไมคนอื่นไม่ช่วยพัฒนาประเทศว้า แบบนี้ผมว่าอยู่ไปก็เปลืองอากาศหายใจครับ ทุกคนมีทางเลืกครับ ขึ้นอยู่กับว่าคุณทำให้ตัวเองมีทางเลือกหรือเปล่า คนที่จบวิศวะมาเลือกทำสายงานอื่นแล้วรุ่ง แสดงว่าเขามีทางเลือกครับ แล้วเลือกในทางที่เหมาะสมกับตัวเอง และเกิดผลประโยชน์สูงสุด ปล. แรงไปรึเปล่าครับ จากคุณ : TamanXZG - [ 10 มิ.ย. 51 14:47:20 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ถ้าคุณมองแบบนี้ก็เหมือนกับความคิดของสังคมไทยส่วนใหญ่ครับ รอวันที่จะมีคนอื่นมาช่วยพัฒนาประเทศ โดยที่ตัวเองได้แต่บ่นว่า คนเก่งๆไปไหนหมด คนที่แย่งที่เรียนของพวกคุณในวัยเด็กๆหายไปไหนหมด เงินภาษีที่คุณจ่ายไปสนับสนุนเด็กเหล่านั้นให้เรียนจบมาไปไหนหมด 1 ผมทำงานออกแบบและพัฒนาในภาคอุตสาหกรรมต้องการคนช่วยทำงานครับ ไม่อยากรวยคนเดียว ^^ 2 ถ้าอยู่วงการเดียวกันหรือคนไทยด้วยผมใช้คำว่า "เรา" ครับ 3 ยังเคยมีความรู้สึกว่าถูกใครแย่งที่เรียนครับ เคยคิดไหมว่า แม้แต่เกษตรกร หรือชาวนาก็มีส่วนในการพัฒนาประเทศทั้งนั้น การที่คนเราจบมาทำงานนอกสายงาน แต่ยังสร้างรายได้ให้กับครอบครัว เลี้ยงตัวเองได้ พัฒนาประชากรประเทศให้เป็นคนมีคุณภาพ แบบนี้ก็ล้วนเป็นประชากรชั้นดีของประเทศ นำพาประเทศให้พัฒนาได้ครับ 1 เรื่องเกษตรกร หรือชาวนา เห็นด้วยครับ 2 เลือกทำงานไม่ตรงสายตอบไปใน คหท. 24 แล้วว่าไม่ผิด 3 บัณฑิตจบใหม่ถ้ารู้ว่าชอบทำอะไรเป็นเรื่องน่ายินดีครับ แต่ถ้ารู้จักเอาความรู้ที่เรียนมาใช้จะดีกว่าครับ หลายต่อหลายคนก็เป็นประชากรชั้นเลว การศึกษาต่ำ ค่าครองชีพต่ำ ติดหวย ติดพนัน ติดยา มีลูกหลานก็เลี้ยงไม่ได้เกิดเป็นปัญหาสังคมวนเวียนอยู่อย่างนี้ต่างหากคือพวกที่ทำให้ประเทศไม่พัฒนาจริงๆ ที่จะหนักจริงๆคือพวกงอมืองอเท้าคิดแต่ว่า ทำไมคนอื่นไม่ช่วยพัฒนาประเทศว้า แบบนี้ผมว่าอยู่ไปก็เปลืองอากาศหายใจครับ ไม่เกี่ยวกับ คหท. 24 ขอผ่าน ทุกคนมีทางเลืกครับ ขึ้นอยู่กับว่าคุณทำให้ตัวเองมีทางเลือกหรือเปล่า คนที่จบวิศวะมาเลือกทำสายงานอื่นแล้วรุ่ง แสดงว่าเขามีทางเลือกครับ แล้วเลือกในทางที่เหมาะสมกับตัวเอง และเกิดผลประโยชน์สูงสุด ถ้าเลือกเรียนวิศวกรรมเพื่อฆ่าเวลาหรือหาคอนเน็คชั่นก็ไม่ผิดครับแต่ผมไม่เห็นด้วย ปล. แรงไปรึเปล่าครับ แนะนำให้คิดเองครับ จากคุณ : mancunian - [ 10 มิ.ย. 51 19:12:06 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 11 มิ.ย. 51 05:41:22 ]

ความคิดเห็นที่ 31 อืมผมเป็นสายบัญชีแฮะ มีเพื่อนที่ซิ่วมาจากวิศวะก็เห็นมันเทพในด้านการวิเคราะห์มากๆ แต่เจอบัญชีั้ัตั้งแต่ขั้นกลางไปก็ เดี้ยงเหมือนกัน อะ เพราะมันไม่ DR Cr ด้วยอะไรตรงๆแล้วมีการ ปันส่วนด้วยหลักการที่น่ารำคาญและวุ่นวายสุดๆ(ผมก็ได้ ซี+มาแล้ว) ปล.ตอนนี้เรียน cost accounting อยู่แล้วรู้สึกว่าจะละเอียดไปถึงไหน เฉลี่ยๆ ถัวๆไปเลยไม่ได้เรอะ 555 (พอดีหลักการมันคือต้องการให้สะท้อนความเป็นจริงที่สุด - -) จากคุณ : GeBaN - [ 11 มิ.ย. 51 22:12:14 ]