ความคิดเห็นที่ 1 เอ่อ.....กระแสประสาทในคนก็เป็นไฟฟ้านะ จากคุณ : หมั่นไส้ - [ 10 มิ.ย. 51 23:49:21 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ระบบประสาทของมนุษย์ก็เป็นไฟฟ้านะครับ กระแสประสาทในสมองก็เป็นไฟฟ้า จากคุณ : ซามาโนสุเกะ - [ 10 มิ.ย. 51 23:53:06 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ก้ มี สัตว์ ชนิด ใหม่ น่ะ   เป็น สัตว์ น้ำ เหมือน กัน คือ กระเบน ไฟฟ้า น่ะ วันนี้ ดู ข่าว ผ่านๆ 1 ใน 10  สุด ยอดการค้นพบ สิงมีชีวิต เลย น่ะ ของไทย ก็ มี กิ้ง กือ สาย พันธุ์ ใหม่  / 1ใน10 เหมือน กัน จำได้ แค่ เนีย อะ โทษ ที จากคุณ : RareRabbit - [ 11 มิ.ย. 51 00:03:39 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ปิกาจูนี่นับไหมคับ? จากคุณ : Kovacevic - [ 11 มิ.ย. 51 00:19:51 ]

ความคิดเห็นที่ 5 แล้วตกลง มันผลิตกระแสไฟฟ้าได้ยังไงครับเนี่ย รอตามผล จากคุณ : Souless - [ 11 มิ.ย. 51 00:42:12 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สิ่งมีชิวิตทุกชนิด ก็ ผลิตไฟฟ้าทั้งนั้นอ่ะ จากคุณ : ชาเขียวเข้มๆ - [ 11 มิ.ย. 51 00:57:37 ]

ความคิดเห็นที่ 7 สาวๆที่พกเครื่องช๊อต จากคุณ : ธีรภัทร์2 - [ 11 มิ.ย. 51 02:43:44 ]

ความคิดเห็นที่ 8 มนุษย์ก็มีกระแสไฟฟ้าแน่ ๆ ค่ะ ไม่รู้เพราะอะไร แต่บางทีเวลาเราแตะโลหะหรือโดนตัวบางคน เกิดไฟฟ้าสถิตย์บ่อยมาก รถบางคัน เปิดประตูลงแล้วโดนไฟฟ้าสถิตย์ประจำก็มี เคยนอน ๆ อยู่ ขยับตัวนิดนึงเกิดเสียงเปรี๊ยะพร้อมแสงวาบแบบว่าน่ากลัวสุด ๆ เชื่อสนิทว่าในตัวคนมีไฟฟ้า ปล.คุณคห.๓ กิ้งกือมังกรสีชมพูค่ะ เห็นจากคลิปรายการร้อยแปดพันเก้าย้อนหลังตะกี้เอง จากคุณ : atihasita - [ 11 มิ.ย. 51 05:03:01 ]

ความคิดเห็นที่ 9  ฮา คุณความคิดเห็นที่ 4 แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 51 06:28:09 จากคุณ : soda.jazz - [ 11 มิ.ย. 51 06:27:28 ]

ความคิดเห็นที่ 10 หิ่งห้อย หละ.. จากคุณ : iamnid - [ 11 มิ.ย. 51 06:33:02 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ทำไมสิ่งมีชีวิตบางชนิดสร้างกระแสไฟฟ้าขึ้นได้ครับ สัตว์ที่มีเส้นประสาทหรือกล้ามเนื้อล้วนสร้างกระแสไฟฟ้าทั้งสิ้น ปลาไหลไฟฟ้าเพียงแต่สร้างแล้วสามารถปล่อยไฟฟ้าออกไปได้ สัตว์ทั่วไปสมองสั่งไปตามเส้นประสาทเป็นไฟฟ้าวิ่งไปกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อหดตัวทำงาน ส่วนปลาไหลไฟฟ้าส่งไฟฟ้าไปตามเส้นประสาท ไปที่เซลคล้ายกล้ามเนื้อแต่มิใช่กล้ามเนื้อเรียกเซลไฟฟ้า electrocytes ไฟฟ้าไปถึงเซลนี้แทนที่จะสั่งให้หดแบบกล้ามเนื้อกลับปล่อยไฟฟ้าออก รูปจาก http://www.bio.davidson.edu/people/midorcas/animalphysiology/websites/2003/Wilson/How.htm จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 11 มิ.ย. 51 08:24:52 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ปลาไหลไฟฟ้า จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 11 มิ.ย. 51 08:27:37 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ปลาไหลไฟฟ้ามีอวัยวะสร้างไฟฟ้า3ส่วนเรียก หลัก-Main ผู้ล่า-Hunters และซาช-Sachs 2อันแรกกระแสแรงใช้ต่อสู้ อันสุดท้ายกระแสอ่อน ใช้นำทางหรือสื่อสาร The need for three electric organs is to fulfill the various roles and applications of its ability to produce electricity. The Main and Hunters' organs are the high voltage producers, used for protection, fright reflexes and stunning prey. The Sachs' organ is capable only of producing low voltage pulses - its purpose is mainly electro communication and navigation. http://www.chm.bris.ac.uk/webprojects2001/riis/electriceel3.htm จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 11 มิ.ย. 51 08:36:59 ]

ความคิดเห็นที่ 14 สมองส่งกระแสไปตามเส้นประสาทถึงเซลไฟฟ้า electrocyte กระตุ้นอเซทติลโคลินแพร่กระจายผ่านช่องเชื่อม synaptic cleft อเซทติลโคลินถูกจับที่เซลไฟฟ้า ทำให้เปิดช่องไออ้อน เกิดการสลายขั้ว depolarization ปล่อยไฟฟ้าออกจาก2แสนเซล Leading up to the discharge, the motorneuron delivers a nerve impulse from the brain, which, when it reaches the electrocyte, causes the activation of acetylcholine. Acetylcholine can diffuse across the synaptic cleft (the gap between the end of the motorneuron and the electrocyte), and into an acetylcholine receptor on the cell membrane causing an ion channel to open. extracellular ions can then enter the cell and the depolarization occurs.  The discharge of electricity out of the cell has to be synchronized with the 200,000 other electrocytes, this is done by a combination of three features in the motorneurons. จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 11 มิ.ย. 51 08:46:00 ]

ความคิดเห็นที่ 15 หลักการปล่อยกระแสไฟฟ้าคือต้องให้พร้อมๆกันทุกเซลกระแสถึงแรง 1 เซลไฟฟ้าใกล้ให้เส้นประสาทยาว 2 เซลไฟฟ้าใกล้ให้เส้นประสาทบาง 3 เส้นประสาทไปเซลไฟฟ้าใกล้ยาวกว่า 1) The neurons which are connected to closer electrocytes take a longer path. 2) The neurons connected to closer electrocytes are thinner, thus slowing down the action potential. 3) The axons have longer branches to nearer electrocytes than the more remote electrocytes. http://www.chm.bris.ac.uk/webprojects2001/riis/electriceels4.htm จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 11 มิ.ย. 51 08:53:35 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เอาที่แรงๆนะ เรียงตามลำดับ กระแสไฟฟ้าที่สามารถปล่อยออกมาได้ พบในน้ำจืด ปลาไหลไฟฟ้า (Electrophorus electricus) เป็นปลาน้ำจืด พบในอเมริกาใต้ เป็นปลาขนาดใหญ่ เมื่อเต็มที่ยาวได้ถึง 2 เมตร สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้สูงถึง 600 โวลต์ ม้ายังเดี้ยงถ้าโดนเต็มๆ ปลาดุกไฟฟ้า (Malapterurus electricus) พบในแอฟริกา สามารถปล่อยกระแสไฟฟ้าได้ถึง 350 โวลต์ ปลาอบา อบา (Gymnarchus niloticus) ขนาดโตเต็มที่ได้ 2 เมตร เช่นกัน และปลาในวงศ์ Gymnotidae พบในอเมริกาใต้ สามารถปล่อยกระแสไฟฟ้าอย่างอ่อนเพื่อการล่าเหยื่อ โดยมากปลาไฟฟ้าที่พบน้ำจืดจะนิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงาม พบในทะเล กระเบนไฟฟ้า (Electric ray) เป็นกระเบนที่มีรูปร่างกลม และมีอวัยวะคู่หนึ่งที่สามารถปล่อยกระแสไฟฟ้าได้ โดยความแรงมีตั้งแต่ระดับต่ำเพียง 8 โวลต์ไปจนถึง 220 โวลต์ ขึ้นอยู่กับสปีชี่ส์ กระแสไฟฟ้านี้ใช้เพื่อทำให้เหยื่อสลบหรือฆ่าเหยื่อ กระเบนชนิดนี้มีอยู่ 4 วงศ์ ประกอบด้วย 69 สปีชี่ส์ แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 51 12:21:50 จากคุณ : mr.wisdom - [ 11 มิ.ย. 51 08:59:33 ]

ความคิดเห็นที่ 17 กระแสไฟฟ้าจากปลาไหลสูง 600 โวลท์ คนตายจากปลาไหลไฟฟ้าน้อยมาก แต่โดยหลายทีอาจหยุดหายใจ these cells will discharge simultaneously, emitting a burst of at least 600 volts Human deaths from electric eels are extremely rare. However, multiple shocks can cause respiratory or heart failure, and people have been known to drown in shallow water after a stunning jolt. http://animals.nationalgeographic.com/animals/fish/electric-eel.html จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 11 มิ.ย. 51 09:00:10 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ต่อๆ กระเบนไฟฟ้าแปซิฟิก (Pacific electric ray) เป็นสปีชี่ส์หนึ่งในจำพวกกระเบนไฟฟ้า อาศัยอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกทางตะวันออก ตั้งแต่บริติชโคลัมเบีย แคนาดา คาบสมุทรแคลิฟอร์เนีย เม็กซิโก และอาจพบได้ในส่วนอื่นๆของมหาสมุทรแปซิฟิก กระเบนชนิดนี้มีความยาวประมาณ 140 เซนติเมตร และหนัก 41 กิโลกรัม ลำตัวรูปร่างกลม มีสีเทา และมีจุดสีดำอยู่บนหลัง ครีบหลังทั้งสองครีบอยู่ใกล้หาง กระเบนชนิดนี้พบได้ในดงสาหร่ายเคลป์และก้นทะเลที่เป็นทราย บางครั้งอาจฝังตัวอยู่ในทราย กินปลากระดูกแข็งเป็นอาหาร โดยเฉพาะจำพวกปลาเฮอร์ริ่งและปลาเบน มันสามารถทำให้เหยื่อสลบโดยปล่อยกระแสไฟฟ้าออกจากอวัยวะพิเศษ ความแรงอาจถึง 50 โวลต์และ 1 กิโลวัตต์ มันสามารถได้ช้ามาก โดยใช้เวลาถึง 4.5-14 ปี กระเบนไฟฟ้ามักถูกใช้เป็นตัวอย่างในการวิจัยทางอณูชีววิทยา เพราะอวัยวะสร้างกระแสไฟฟ้ามีปริมาณโปรตีนบางชนิดอยู่สูงมาก ตัวอย่างเช่น อะซีทิลคอลีนสเตอเรส โอ้... แซ๋บหลาย ^^ จากคุณ : mr.wisdom - [ 11 มิ.ย. 51 09:03:05 ]

ความคิดเห็นที่ 19 แย่ง กัน โพสซะแล้ว เชิญ คุณ เมษก่อนเลย ครับ ^^ จากคุณ : mr.wisdom - [ 11 มิ.ย. 51 09:04:06 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เอามาตัดต่อพันธุกรรมเข้ากับร่างกายมนุษย์ได้มั้ยครับ ช่วยลดค่าไฟได้เยอะเลยวันๆ จากคุณ : phoenixia - [ 11 มิ.ย. 51 09:09:56 ]

ความคิดเห็นที่ 21 งั้นต่ออีกหน่อยล่ะกัน ปลาดุกไฟฟ้า วงศ์ปลาดุกไฟฟ้า (Malapteruridae) วงศ์ปลาหนังน้ำจืดจำพวกหนึ่ง พบเฉพาะในทวีปแอฟริกาตอนเหนือและตะวันออกบริเวณแม่น้ำไนล์ มีทั้งหมด 2 สกุล (Genus) พบทั้งหมด 25 ชนิด (Species) มีลำตัวมีรูปร่างกลมป้อม หัวหนา ตามีขนาดเล็ก มีครีบ 7 ครีบ แต่ไม่มีครีบหลัง (Dorsal Fin) มีเพียงครีบไขมัน (Adipose Fin) ขนาดใหญ่ อยู่ด้านหลังใกล้โคนหาง ครีบอก (Pectoral Fins) 1 คู่ ไม่มีเงี่ยง ครีบท้อง 1 คู่มีขนาดเล็ก ครีบก้น (Anal Fin) อยู่ตรงข้ามกับครีบไขมัน หาง มีขนาดใหญ่เป็นรูปพัด มีหนวด 3 คู่ รอบริมฝีปากมีหนังหนา มีอวัยวะสร้างไฟฟ้า 1 คู่โดยฝังอยู่ใต้ ผิวหนังที่หนาบริเวณลำตัวข้างละอันการปล่อยกระแสไฟฟ้าอยู่ภายใต้การควบคุมของระบบประสาท โดยปกติจะปล่อยกระแสไฟฟ้าเวลาหาอาหารหรือป้องกันตัวเท่านั้น ปลาที่มีขนาดใหญ่สามารถสร้างกระแสไฟฟ้าขนาด 1 แอมแปร์ และแรงคลื่นกว่า 100 โวลท์ได้ ซึ่งกระแสไฟฟ้าขนาดนี้ในน้ำสามารถ ทำอันตรายต่อศัตรู หรือแม้กระทั่งมนุษย์ได้ แต่แม้กระนั้นกระแสไฟฟ้าของปลาดุกไฟฟ้าเมื่อเทียบกับ ปลาไหลไฟฟ้า (Electrophorus electricus) ก็ยังจัดว่ามีกำลังอ่อนกว่ามาก เพราะปลาไหลไฟฟ้าขนาดใหญ่บางตัวสามารถสร้างไฟฟ้าที่มีแรงคลื่นสูงถึง 600 โวลท์ ซึ่ง เป็นอันตรายร้ายแรงต่อสัตว์ทุกชนิด สีตัวของปลาดุกไฟฟฟ้า ด้านหลังเป็นสีน้ำตาลลอมเทา ส่วนด้านท้องมีสีจางกว่า ตามตัว มีปละสีดำกระจายทั่วตัวจะมากหรือน้อยไม่แน่นอน ตามครีบมีสีอ่อน โคนครีบหางมีสีดำจางพาดลงมา โดยเฉพาะในตัวที่มีขนาดเล็ก ปลาดุกไฟฟ้าเป็นปลาที่รู้จักของมนุษย์มาตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณไม่ต่ำ กว่า 6,000 ปี ทั้งนี้โดยมีหลักฐานจากภาพแกะสลักบนแผ่นดินที่พบในปิรามิดของอียิปต์ นิยมใช้เนื้อบริโภคในท้องถิ่น เป็นปลากินเนื้อ มักซุกซ่อนตัวอยู่นิ่ง ๆ ตามวัสดุใต้น้ำ เช่น โพรงไม้ สาหร่าย หาเหยื่อในเวลากลางคืนด้วยการสร้างกระแสไฟฟ้าเพื่อสลบเหยื่อ การขยายพันธุ์เชื่อกันว่าเป็นปลาที่ฟักไข่ในปาก (Mouth-Brooder) ปลาดุกไฟฟ้า ชนิดที่ใหญ่ที่สุดโตเต็มได้ราว 1.22 เมตร คือ ชนิด Malapterurus microstoma ปัจจุบันนิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงาม ซึ่งต้องเลี้ยงเดี่ยว ๆ เพียงตัวเดียวเนื่องจากเป็นปลาที่ก้าวร้าว ซ้ำยังสามารถปล่อยไฟฟ้าใส่ปลาชนิดอื่นได้อีก จากคุณ : mr.wisdom - [ 11 มิ.ย. 51 09:12:47 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เซลไฟฟ้าปล่อยไฟฟ้าพร้อมๆกันเรียกelectric organ discharges (EODs) ยังมีปล่อยไฟฟ้าอ่อนเพื่อนำทางหรือสื่อสาร เช่นที่มืด EOD มี2แบบ จึ๊กเดียว pulse  หรือแบบคลื่น wave คล้ายกระแสสลับ All strongly electric fishes and some weakly electric fishes are pulse-type electric fishes. They discharge short electrical pulses intermittently. Some weakly electric fishes are wave type. They produce wave-like continuous A.C. electricity. http://people.virginia.edu/~mk3u/mk_lab/electric_fish_E.htm จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 11 มิ.ย. 51 09:17:55 ]

ความคิดเห็นที่ 23 สัตว์ที่สร้างกระแสไฟฟ้าได้ จะมีอวัยวะรับสัญญาณไฟฟ้าได้ สร้างไฟฟ้าอ่อนเกิดสนามไฟฟ้ารอบตัว เมื่อวัตถุใดเข้ามาในสนามไฟฟ้า ตัวรับสัญญาณไฟฟ้า Electroreceptors จะตรวจรับรู้ได้เหมือนเรด้าร์ เรียกการระบุตำแหน่งด้วยไฟฟ้า electrolocation Electroreceptors are used to detect a slight change of electric field cause by nearby objects. Electric fishes can thus electrically 'see' objects in an environment where vision is useless (at night, or in murky water). This process is called 'active electrolocation' because the source of electricity that they use for electrolocation is their own electric organ. จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 11 มิ.ย. 51 09:29:10 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ปลาไหลไฟฟ้ามีเซลไฟฟ้า ปล่อยไฟ 150 mV 1pA กำลัง 600W หรือ 600 V 1 A เซลไฟฟ้ามีปั๊มโซเดียม/โปตัสเซียม โวลตาผ่าชำแหละปลาไหลไฟฟ้า จึงลองทำแบตฯจากทองแดง-สังกะสี These animals have stacks of specialized electrocytes (electroplax) each heavily laden with ion transporters capable of providing an intermittent discharge of ~150mV and a ~1 pA, resulting in a total power for the organ of ~600W (~600V and ~1A). The electrocyte membrane contains (at a minimum) Na/K pumps, Na channels, K channels, Cl channels, and Ca channels. Dissection of electric eels led AlessandroVolta to experiments with isolated galvanic cells of copper and zinc to form voltaic piles (Volta 1800) – he is credited with inventing the DC battery based on this work. ปัจจุบันเข้าใจว่าเซลไฟฟ้าพัฒนาจากเซลกล้ามเนื้อ แต่ไม่หดตัว ใช้ปล่อยกระแสไฟฟ้า Current understanding of the electrocyte has shown they are specialized cells derived from muscle cells and consist of a membrane packed with ion channels and ion pumps – they have little other function than to generate charge. http://www.nanoconductor.org/gallery/electricus.html จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) - [ 11 มิ.ย. 51 09:51:30 ]

ความคิดเห็นที่ 25 กินปลาไฟลไฟฟ้าได้ไหมครับ จากคุณ : ฮักเมาน้องหล้า - [ 11 มิ.ย. 51 09:51:46 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ความรู้ทั้งนั้น จากคุณ : G_AOD - [ 11 มิ.ย. 51 09:55:04 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 11 มิ.ย. 51 10:27:35 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ผมโหวต นะ ความรู้เพียบเลย จากคุณ : vn, man - [ 11 มิ.ย. 51 11:15:47 ]

ความคิดเห็นที่ 29 น่าจะเอามาใช้ปรโยช์นในชีวิตประจำวันได้บ้างน่ะครับ คงดี จากคุณ : mouse4006 - [ 11 มิ.ย. 51 12:07:16 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ^ ^ ^ 555+ ปกติ ปลาไหลไฟฟ้า จะเลี้ยงไว้ในตู้ แล้วติดหลอดไฟแสดงกระแสไฟฟ้าหน้าตู้ ครับ แต่เอาใช้เป็นไฟบ้านจริงๆ คงลำบาก เพราะมันปล่อยไฟฟ้าออกมาไม่คงที่   ตัวสุดท้าย พระเอกของเรา ปลาไหลไฟฟ้า เป็นปลาน้ำจืดชนิดหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Electrophorus electricus จัดอยู่ในวงศ์ปลาไหลผี (Gymnotidae) ซึ่งมีเพียง 2 ชนิดเท่านั้นในวงศ์นี้ ในอันดับปลาลิ้นกระดูก (Osteoglossiformes) มีรูปร่างเรียวยาวคล้ายปลาไหล ตามีขนาดเล็ก ลำตัวสีน้ำตาลเขียวเข้ม ใต้ท้องสีเหลือง หัวมีขนาดใหญ่ ปากกว้าง ชอบอยู่ตามบึงน้ำตื้น ๆ หมกโคลนเลน หรือซ่อนตามวัชพืชในน้ำ ชอบน้ำนิ่ง และเก่า มีขนาดโตเต็มที่เกือบ 2 เมตร ที่ใหญ่ที่สุดพบถึง 2.5 เมตร มีความสามารถพิเศษคือ ปล่อยไฟฟ้าได้สูงถึง 650 โวลต์ ในปลาที่โตเต็มที่ และไม่เกิน 100 โวลต์ในปลาที่ยังเล็กอยู่ นับเป็นสัตว์ที่สามารถปล่อยกระแสไฟฟ้าได้สูงที่สุดในโลก เพื่อป้องกันตัวและใช้นำทางหาอาหาร โดยปลาไหลไฟฟ้าจะกินเนื้อจำพวกสัตว์น้ำที่มีขนาดเล็กกว่า โดยการช็อตสัตว์เหล่านี้ให้สลบแล้วจึงเขมือบกิน พบอาศัยเฉพาะในลุ่มน้ำอะเมซอน ในทวีปอเมริกาใต้ นิยมเลี้ยงเป็นปลาตู้ สำหรับผู้ที่นิยมเลี้ยงสัตว์แปลก ๆ และนิยมชอบโชว์ตามพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำต่าง ๆ ทั่วโลก โดยมักมีหลอดไฟแสดงกระแสไฟฟ้าอยู่หน้าตู้ด้วย สำหรับในประเทศไทยยังไม่จัดว่าเป็นสัตว์น้ำต้องห้าม แต่ถูกประกาศว่ามีอันตราย ต้องระมัดระวังตามประกาศของกรมประมง ปลาไหลไฟฟ้า  ชื่อว่า ปลาไหล มันก็มีคนกินอยู่แล้วครับ อร่อยด้วยหรือป่าวไม่แน่ใจ ชาวพื้นเมืองในอเมริกาใต้จับกินกัน  โดยการตีบนผิวน้ำให้มันปล่อยไฟฟ้าออกมาให้หมดก่อน แล้วค่อยจับ  คนเราถ้าจะกินอะไรที่มันไม่มีพิษก็คงจะได้ทุกอย่างเลยมั้งครับ ^^ จากคุณ : mr.wisdom - [ 11 มิ.ย. 51 12:30:00 ]

ความคิดเห็นที่ 31 แถมอีกตัว ^^ ปลาอบา อบา ข้อมูลเบื้องต้น: กินปลาที่เล็กกว่า หรือ เนื้อปลาหั่นฝอย สายตาไม่ค่อยดี หาอาหารด้วยการใช้กระแสไฟฟ้าในตัว(กระแสไฟอ่อนๆ ไม่ต้องกลัวว่าจะช๊อตนะครับ ผมเคยจับเล่นประจำ อิอิ) สามารถอาศัยอยู่ในน้ำที่มีอ๊อกซิเจนต่ำได้ ค่อนข้างอึดมากๆ  ไม่ควรเลี้ยงรวมกับปลาเล็กนะครับ มันจะจับกินหมด จากคุณ : mr.wisdom - [ 11 มิ.ย. 51 12:44:30 ]

ความคิดเห็นที่ 32 กระทู้นี้ชอบๆ จากคุณ : ของเล่นใหม่ - [ 11 มิ.ย. 51 13:16:26 ]

ความคิดเห็นที่ 33 รถพลังปลาไหลไฟฟ้า ยิ่งใส่หลายๆตัว วิ่งเร็วจู๊ด จากคุณ : mouse4006 - [ 11 มิ.ย. 51 14:11:01 ]

ความคิดเห็นที่ 34 กล้ามเนื้อมันโดนไฟฟ้ากระตุ้นบ่อยๆ เนื้อน่าจะนุ่มเนอะ จากคุณ : ก้นกบ - [ 11 มิ.ย. 51 14:37:44 ]

ความคิดเห็นที่ 35 โหวตครับ จากคุณ : สารวัตรซัดโป้ง - [ 11 มิ.ย. 51 20:59:22 ]

ความคิดเห็นที่ 36 หมายเลข 1 ตู้ปลาไหลไฟฟ้า จุ่มด้วยขั้วโลหะ หมายเลข 2 ชุดวงจรบริดจ์ แปลงกระแสไฟ และ ควบคุมแรงดัน หมายเลข 3 แบตเตอรรี่  ส่วนขั้วลบต่อลงกราวด์ (พื้นดิน) -------------------- เลี้ยงไว้หลายๆตัว นำมาต่อขนานกัน ตัวใตตัวหนึ่งสร้างกระแสไฟฟ้าก็ชา์ืร์จลงแบตฯ เก็บไว้ใช้ต่อไป (เป็นไปได้ไหมนี่ ?) จากคุณ : แว่นไร้ขอบ - [ 12 มิ.ย. 51 02:20:42 ]

ความคิดเห็นที่ 37 มีสัตว์ตัวไหนสร้าง shock wave ได้เหมือนกุ้งหรือปูชนิดนึงไม๊ จากคุณ : ตาแป๊ะหวานเย็น - [ 12 มิ.ย. 51 02:46:16 ]

ความคิดเห็นที่ 38 มันรู้ได้ไงว่าต้องปล่อยกระแสไฟฟ้าอ่ะครับ วิวัฒนาการ ทำให้มันปล่อยไฟฟ้าได้เหรอครับ ยิ่งคิดยิ่งงง จากคุณ : CaminoReal - [ 12 มิ.ย. 51 04:32:01 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เข้ามาอ่านอีกรอบ ชอบ จากคุณ : soda.jazz - [ 12 มิ.ย. 51 06:59:32 ]

ความคิดเห็นที่ 40 โอ้เย้ ขอโหวตอ่ะ กระทู้นี้ดี ชอบๆ มีการแย่งกันให้ความรู้ จากคุณ : Cryptomnesia - [ 12 มิ.ย. 51 09:34:41 ]

ความคิดเห็นที่ 41 แล้วเวลาผสมพันธุ์ทำไงครับ ตัวผู้ปล่อยกระแสไฟช๊อตตัวเมียให้สลบแล้วค่อยผสมหรือว่าผสมไปช๊อตไป จากคุณ : lek2you - [ 12 มิ.ย. 51 13:00:33 ]

ความคิดเห็นที่ 42 คห.41 อ้า.....อ่านแล้วหยิวตาม  ซาดิสต์ชัดๆ หุๆๆๆ จากคุณ : mouse4006 - [ 12 มิ.ย. 51 13:56:55 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ถ้าจับมาเลี้ยงซักล้านตัวในบ่อหรือบึงใหญ่ๆ แล้วให้มันผลิตไฟฟ้าให้คนใช้ได้ปะคับ จากคุณ : จับได้โดยละม่อม Return - [ 12 มิ.ย. 51 14:45:11 ]

ความคิดเห็นที่ 44 O_o จากคุณ : greogie-jackie - [ 12 มิ.ย. 51 18:48:08 ]

ความคิดเห็นที่ 45 แบบนี้นี่เอง แล้วทำไมในเรื่อง matrix มันไม่จับไปไหลไฟฟ้าไปทำแบตเตอร์รี่ แทนคนหล่ะเนี่ย จากคุณ : April Slowly - [ 12 มิ.ย. 51 21:18:00 ]

ความคิดเห็นที่ 46 แหล่มไปเลย กระทู้นี้ โหวตครับ จากคุณ : Mr.Nuke - [ 13 มิ.ย. 51 10:41:15 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ความรู้เพียบเลยครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : นกไฟแห่งป่ามายา - [ 13 มิ.ย. 51 10:54:01 ]

ความคิดเห็นที่ 48 แหล่มครับบบ จากคุณ : อาบะเรนเจอร์ - [ 13 มิ.ย. 51 17:02:21 ]

ความคิดเห็นที่ 49 กำลังงง แบบนี้ สเปิมจะมีไฟช็อตในตัวด้วยป่าวเนี่ย เข้าไปใน จิ๊มิ ของปลาตัวเมียแล้วไปช็อตข้างในให้ไข่เปิดแล้วทำการปฏิสนธิ พูดแล้วเสียววาบบบบ จากคุณ : nikku - [ 13 มิ.ย. 51 17:09:35 ]

ความคิดเห็นที่ 50 รู้สึกประเด็นเริ่มเปบี่ยงเบน จาก ปลาไหลไฟฟ้า เป็น เซ็กส์ซาดิสม์ จากคุณ : ปฏิจจสมุปบาท (ปฏิจจสมุปบาท) - [ 13 มิ.ย. 51 21:31:57 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ถามหน่อยครับ ไฟขนาด 600V ทำไม มันไม่ช็อตตัวเองหรอครับ หรือว่ามันทนได้ จากคุณ : 4GetDePass - [ 13 มิ.ย. 51 23:38:48 ]

ความคิดเห็นที่ 52 จากคุณ : Cryptomnesia - [ 14 มิ.ย. 51 16:39:47 ]

ความคิดเห็นที่ 53 5555+ #33 ขอบคุณสำหรับความรู้ -/l\- จากคุณ : KzieSBoO - [ 14 มิ.ย. 51 16:59:47 ]

ความคิดเห็นที่ 54 โหวตนะคะ จากคุณ : หน้าแง๊ว~* - [ 14 มิ.ย. 51 17:41:49 ]

ความคิดเห็นที่ 55 อยากกินข้าวหน้าปลาไหล จากคุณ : ทุ่มเท ทิ่มแทง ทิ้งทวน ทอดทิ้ง - [ 14 มิ.ย. 51 20:56:05 ]

ความคิดเห็นที่ 56 บางที่เจอสาวๆน่ารัก เห็นที่ไร สปาร์ค ทุกที ตกลงผมหรือเธอที่สร้างกระแสไฟอะครับ จากคุณ : เก้งออนไลน์ - [ 15 มิ.ย. 51 00:05:13 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ฮา ชอบ #33 ไอเดียเจ๋งดีครับ เสียดายที่มันเป็นไปไม่ได้ สร้างสรรค์ดี ชอบๆๆ จากคุณ : รองเท้าเปื้อนฝุ่น (dirty shoe) - [ 15 มิ.ย. 51 10:27:40 ]

ความคิดเห็นที่ 58 จากคุณ : TrainnerGoki - [ 15 มิ.ย. 51 20:22:46 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ไอปลาที่ปล่อยไฟฟ้าได้เนี่ย ทำไมตัวมันป้อมๆ ผิวน้ำตาลหม่นๆ คล้ายๆกันเนาะ จากคุณ : BaBaRa-dawn - [ 15 มิ.ย. 51 22:35:57 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ทำไมไฟฟ้าถึงทำให้เรากะตุกแล้วตายช่วยบอกกลไกลการโดนไฟช๊อตหน่อย เพื่อจาได้เอาไปทำมั้ง จากคุณ : perylene19@hotmail.com - [ 16 มิ.ย. 51 08:42:21 A:172.17.20.171 X:202.28.24.167 ]

ความคิดเห็นที่ 61 แหล่ม จากคุณ : อ้ายคนเมือง - [ 17 มิ.ย. 51 01:42:53 ]

ความคิดเห็นที่ 62 อ่า.... หน้าตาไม่น่ากินเลย.... จากคุณ : K-T-O - [ 17 มิ.ย. 51 08:40:56 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ตามมาอ่าน โหวตแล้วจ้า จากคุณ : ผุ๋งผิ๋ง - [ 17 มิ.ย. 51 10:55:27 ]

ความคิดเห็นที่ 64 โอ้...เพื่อนกำลังจะหาปลาเลี้ยงพอดีเลย เอาปลาไหลไฟฟ้าไปให้มันอ่านดีกว่า จะได้ตื่นตาตื่นใจ แถมตื่นเต้น สาระเยอะมากครับ แจ่มเลย แต่ถ้าแค่ปล่อยชาๆ น่าเอาไปรักษาคนที่เส้นประสาทอัมพาตได้นะ ที่เค้านิยมใช้ไฟฟ้าอ่อนๆ รักษากัน อันนี้รักษาแบบธรรมชาติ เอาปลาไหลช๊อต จากคุณ : อาจจะแก่ - [ 17 มิ.ย. 51 11:41:48 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ จากคุณ : ออกญามหาเท่ห์ - [ 17 มิ.ย. 51 20:50:56 ]

ความคิดเห็นที่ 66 OK!!!! จากคุณ : knine2five - [ 18 มิ.ย. 51 09:40:05 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ชอบ....ได้ความรู้ดีจัง . จากคุณ : ช่อเอี้อง - [ 18 มิ.ย. 51 14:24:27 ]

ความคิดเห็นที่ 68 เคยดู สารคดี ตอนเด็กๆ มี ปลาดึกดำบรรพ์ ที่ใต้ทะเลลึก สามารถ ส่องไฟ ได้ เหมือนไฟฉาย แล้วใต้น้ำลึกมี พืช และ สัตว์มีแสง หลายตัวเลย ถ้าผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะครับ จากคุณ : A+ (eayx) - [ 19 มิ.ย. 51 18:45:23 ]

ความคิดเห็นที่ 69 เข้ามาหาความรู้ด้วยคนจ้า จากคุณ : Choco-Mix - [ 20 มิ.ย. 51 16:50:29 ]

ความคิดเห็นที่ 70 อืม....โลกเรามีไฟฟ้าใช้มาแล้ว ไม่ต่ำกว่า 6 พัน ปี กำๆ ลืมเรื่องฟ้าผ่า แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 51 17:11:55 จากคุณ : X~JunioR - [ 20 มิ.ย. 51 17:11:24 ]

ความคิดเห็นที่ 71 หว้า มาตอบไม่ทัน อิอิอิ จากคุณ : danya - [ 23 มิ.ย. 51 06:10:34 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ได้ทั้งความรู้ อ่านแล้วฮาดีด้วย ขอบคุณครับ โหวดให้ จากคุณ : sXcHAO - [ วันรัฐธรรมนูญ 11:28:55 A:125.27.5.74 X: ]